ท่านหมอมาตรวจอาการสตรีทั้งสองนางแล้วก็จัดยาเอาไว้ให้แล้วก็ขอตัวกลับไป โดยมีพ่อบ้านซื่อให้คนตามไปส่งเขาถึงที่จวน เมื่อท่านอ๋องยืนดูสาวใช้ของเมิ่งลี่หลินได้ให้ยานางดื่มเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เขาก็ตัดสินจะพานางกลับไปที่จวนพร้อมกับยาที่ท่านหมอจัดเอาไว้ นางกับเขายังไม่ได้เป็นอะไรกัน นางไม่ควรจะนอนค้างคืนในตำหนักของเขา แม้นางจะป่วย แต่ก็พอจะเดินทางกลับจวนของพี่ชายของนางได้อยู่
อ๋องหนุ่มจึงได้ตัดสินใจอุ้มเมิ่งลี่หลินที่ตอนแรกนางเหมือนไม่ยินยอมกลับไป อ้างว่านางรู้สึกปวดศีรษะแต่เมื่อท่านหมอยืนยันว่านางกับเหลียนฮวามิได้เป็นอะไรมาก แค่เพียงเหลียนฮวามีแผลฟกช้ำที่ขาของนางฟาดกับสะพานในขณะที่นางกำลังร่วงหล่นลงมาเพียงเท่านั้น ส่วนเมิ่งลี่หลินมิได้มีบาดแผลใด แค่เพียงอาการสำลักน้ำ
“ เปิ่นหวางคิดว่าเจ้าควรกลับไปนอนพักผ่อนที่จวนของเจ้าจะดีกว่า กินยาที่ท่านหมอจัดให้แล้วก็นอนพักยาวๆ ให้หายดีแล้ว แล้วเปิ่นหวางจะไปเยี่ยมเจ้าที่จวนของพี่ชายเจ้าจะเหมาะสมกว่า ”
แล้วเขาก็ช้อนอุ้มตัวของเมิ่งลี่หลินอย่่างไม่ได้สนใจความไม่พอใจของนาง แล้วก็อุ้มพางนางไปขึ้นรถม้าของเขาแล้วก็พานางกลับไปยังจวน โดยให้สาวใช้ของนางเข้ามาในรถม้ากับเขาด้วย และให้รถม้าของนางตามหลังรถม้าของเขากลับไป
ขณะที่อยู่ในรถม้า เมิ่งลี่หลินก็เอ่ยขึ้นว่า “ ท่านอ๋องเพคะ ท่านต้องจัดการเรื่องของสตรีนางนั้นให้หม่อมฉันด้วยนะเพคะ นางผลักหม่อมฉันให้หล่นลงไปในน้ำ แต่ว่านางมีฐานะอะไรในจวนหรือเพคะ หม่อมฉันดูว่านางมิน่าจะใช่สาวใช้ธรรมดา ” ท่านอ๋องหนุ่มอึ้งไปครู่หนึ่ง
“ เปิ่นหวางจะสอบถามก่อนว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น นางไม่ใช่สาวใช้หรอก นางคืออนุของเปิ่นหวาง ” อ๋องหนุ่มตัดสินใจบอกความจริงกับเมิ่งลี่หลินไปตามตรง ในเมื่อนางจะแต่งงานเข้าจวนของเขามา ก็ต้องยอมรับให้ได้ว่านางไม่ใช่สตรีนางเดียวในตำหนักของเขา เขามีภรรยาแล้ว แม้จะเป็นเพียงภรรยาน้อย แต่นางก็คือภรรยาเช่นกัน แถมยังเป็นมาก่อนเขาแต่งงานอีกด้วย " เมิ่งลี่หลินอึ้งงันไป
“ ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันกับท่านอ๋องยังไม่ได้แต่งงานกัน แต่ท่านกลับมีอนุที่เลี้ยงดูเอาไว้ก่อนแล้ว เราให้เงินนางไปก้อนหนึ่งแล้วให้นางไปตั้งตัวจะดีหรือไม่เพคะ นางยังสาวและยังงดงาม คงจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ไม่ยาก
” เมิ่งลี่หลินไม่ต้องการให้มีสตรีอื่นใดอยู่ในเรือนหลังของว่าที่สามีทั้งนั้น และยิ่งสตรีที่งดงามปานนั้น นางคิดว่าอนุนางนั้นงดงามยิ่งกว่านางและอายุน้อยกว่านางอีกด้วย เพราะนางอ่อนกว่าท่านอ๋องไปสามปี แต่สตรีนางนั้นคงจะอ่อนกว่าท่านอ๋องหลายปียิ่งไปกว่านางเสียอีก
“ ไม่ได้ ” อ๋องหนุ่มเอ่ยขึ้น เขาไม่มีทางยอมปล่อยเหลียนฮวาไป นางเป็นเมียของเขา เป็นมาก่อนเมิ่งลี่หลินด้วยซ้ำ “ หากจะแต่งงานกับเปิ่นหวาง เจ้าก็ต้องรับให้ได้ว่าเปิ่นหวางมีเมียมาก่อนที่จะแต่งงานกับเจ้า หรือไม่ก็ไม่ต้องแต่งงานกัน ”
เขาเอ่ยขึ้นทันที เพราะเกิดโมโหที่นางเหมือนจะกล้ามาเจ้ากี้เจ้าการในเรื่องของเขาจนเกินไป ทั้งๆที่นางยังไม่ได้แต่งเข้าตำหนักเขาเลยด้วยซ้ำ ทำเอาเมิ่งลี่หลินที่ไม่พอใจนักที่ถูกปฏิเสธแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีกแม้แต่คำเดียว
ส่วนเหลียนฮวานั้นเมื่อสาวใช้ช่วยกันผลัดอาภรณ์และเช็ดร่างกายให้นางแล้ว ก็นอนพักจนท่านหมอมาตรวจอาการและดื่มยาต้มที่สาวใช้ไปต้มมาให้กับนางแล้ว ก็เอนกายนอนหลับไป จนเมื่อตื่นมาแล้ว นางก็เอนกายพิงพนักหัวเตียง แล้วภาพที่ท่านอ๋องหรู่หยางที่ปากบอกว่าเป็นสามีของนาง และพึงใจในตัวของนางมากเพียงใด แต่เมื่อยามคับขันถึงชีวิตขนาดนี้
เขาก็ยังเลือกที่จะช่วยสตรีนางนั้นก่อนนาง เหมือนดังเช่นวันงานเลี้ยงที่เขาเดินไปหาสตรีนางนั้นโดยไม่สนใจจะบอกกล่าวสิ่งใดกับนางแม้แต่คำเดียว แล้วก็พากันหายไปทั้งคืน แต่เหลียนฮวาก็ไม่เคยเอ่ยปากถามเขาแม้แต่น้อยว่าเขาหายไปกับสตรีนางนั้นไปที่ใดกัน และหายไปด้วยกันทั้งคืนจริงหรือไม่ หรือว่าเขากลับเข้าจวนมาแล้ว แต่กลับไปนอนที่เรือนของเขาโดยไม่มาหานางที่เรือนของนางเลย และหลังจากวันนั้นนางก็พยายามที่จะหลีกเลี่ยงที่จะพบหน้าเขา
ทำให้หลังจากค่ำคืนนั้นเหลียนฮวากับท่านอ๋องหรู่หยางก็ยังไม่ได้พบหน้ากัน และเมื่อในวันนี้นางพบหน้าเขาเป็นครั้งแรกก็เห็นเขากำลังว่ายน้ำไปช่วยสตรีนางนั้น สตรีที่เขาเลือกแล้ว สตรีที่คงจะเป็นภรรยาในอนาคตของเขา
ช่างน่าสมเพชเหลือเกิน เหลียนฮวายกริมฝีปากบิดโค้งขึ้นอย่างเยาะหยันตนเอง เหลียนฮวาเอ๋ย เจ้าควรต้องเลิกโง่งมเสียที การโง่งมรักชายที่เขาไม่เคยรักตัวเอง รักเขาจนมอบทั้งใจและกายให้เขา แต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของมัน มันควรถึงเวลาเสียทีที่จะเลิกทำตัวบ้าบอหลงรักชายที่ไม่เคยมีตนเองในสายตาสักที
และเมื่อท่านอ๋องหนุ่มกลับมาจากจวนของเจ้ากรมยุติธรรมพี่ชายของว่าที่คู่หมั้น เขาก็มุ่งตรงไปที่เรือนของแม่นมเหลียนทันที แต่ชุ่ยหลันสาวใช้คนสนิทของแม่นมเหลียนก็บอกว่า
“ ฮวาเอ๋อหลับอยู่เพคะ นางดื่มยาที่ท่านหมอจัดให้แล้วก็หลับไป ” อ๋องหนุ่่มจึงคิดว่าควรจะปล่อยให้นางนอนพักเสียก่อนแล้วเขาค่อยมาหานางใหม่
“ ฮวาเอ๋อ ดีขึ้นหรือยัง รู้สึกไม่สบายที่ใดหรือไม่ ” แม่นมเหลียนท่านป้าของฮวาเอ๋อเดินเข้ามาเยี่ยมนางในวันรุ่งขึ้น ฮวาเอ๋อที่นั่งพิงพนักหัวเตียงเหม่อลอยอยู่หันมาจ้องมองท่านป้าของนาง แล้วก็ตัดสินใจพูดสิ่งที่นางคิดเอาไว้ทันที
“ ท่านป้าเจ้าค่ะ ฮวาเอ๋ออยากจะไปจากท่านอ๋อง ท่านป้ามีหนทางใดที่จะช่วยได้ไหมเจ้าค่ะ ข้าเจ็บปวดเกินไป อีกไม่นานท่านอ๋องก็คงจะแต่งงานกับคุณหนูเมิ่งผู้นั้นแล้ว ข้าไม่อยากจะอยู่ในจวนเดียวกับพวกเขา อยากจะไปจากที่นี่ ข้าจะกลับไปอยู่ที่บ้านของท่านพ่อจะดีหรือไม่เจ้าค่ะ ”
นางตัดสินใจบอกกับป้าของนางไปตามตรง นางไม่อยากจะอยู่ในสภาพเช่นนี้แล้ว สภาพของหญิงไร้ค่าที่เมื่อยามบุรุษต้องการเขาก็มาหานาง มานอนกับนาง แต่เมื่อเขาพบสตรีที่เขาเห็นว่าคู่ควรเหมาะสมก้บเขา ก็ทอดทิ้งนางไปอย่างไม่ไยดี เหลียนฮวาคิดว่านางควรจะพอเสียที ไม่อยากจะทนทรมานใจอยู่ที่นี่อีกแล้ว
แม่นมเหลียนจ้องมองหลานสาวอย่างเห็นใจ แต่เดิมก็ไม่ได้คิดอยากจะให้หลานสาวต้องมาอยู่เป็นเมียน้อยของผู้อื่นที่สามีไม่ยกย่องออกหน้าออกตาแถมยังทำเหมือนหลบๆซ่อน ดังเช่นหลานสาวของนางไม่มีค่า ทั้งๆที่เหลียนฮวาก็งดงามปานนี้ จะหาบุรุษที่ยกย่องนางจริงๆ ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมาทำตัวต่ำต้อยด้อยค่าเช่นนี้เลย
“ ป้าจะช่วยเจ้าเอง เจ้าไปเข้าวังไปอยู่กับพระสนมหยูก็แล้วกัน ท่านอ๋องคงจะไม่เข้าไปยุ่งกับเจ้าอีก ป้าจะให้อิงเอ๋อไปอยู่เป็นเพื่อน ส่วนท่านอ๋องป้าจะรับมือกับเขาเอง " แม่นมเหลียนบอกกับหลานสาว เพราะตัวแม่นมเองก็พอจะเห็นเหตุการณ์ในจวนนี้อยู่บ้าง และไม่อยากจะให้หลานสาวต้องมามีสภาพเช่นนี้
และอีกไม่นานท่านอ๋องจะต้องแต่งงานกับสตรีนางนั้นแล้วรับนางมาเป็นพระชายา อย่าว่าแต่เหลียนฮวาอาจจะอยู่ที่นี่อย่างไร้ความสุขไปกว่าเดิม แม้แต่ตัวของแม่นมเองก็ไม่แน่ว่าจะอาศัยอยู่ที่นี่ได้อีก นางคิดว่ากลับเข้าไปอยู่ในวังหลวงกับพระสนมหยู หรือไม่ก็อาจจะพาเหลียนฮวาไปอยู่ด้วยกันที่บ้านเดิมของบิดาของเหลียนฮวาก็เป็นได้
ท่านหมอมาตรวจอาการสตรีทั้งสองนางแล้วก็จัดยาเอาไว้ให้แล้วก็ขอตัวกลับไป โดยมีพ่อบ้านซื่อให้คนตามไปส่งเขาถึงที่จวน เมื่อท่านอ๋องยืนดูสาวใช้ของเมิ่งลี่หลินได้ให้ยานางดื่มเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็ตัดสินจะพานางกลับไปที่จวนพร้อมกับยาที่ท่านหมอจัดเอาไว้ นางกับเขายังไม่ได้เป็นอะไรกัน นางไม่ควรจะนอนค้างคืนในตำหนักของเขา แม้นางจะป่วย แต่ก็พอจะเดินทางกลับจวนของพี่ชายของนางได้อยู่อ๋องหนุ่มจึงได้ตัดสินใจอุ้มเมิ่งลี่หลินที่ตอนแรกนางเหมือนไม่ยินยอมกลับไป อ้างว่านางรู้สึกปวดศีรษะแต่เมื่อท่านหมอยืนยันว่านางกับเหลียนฮวามิได้เป็นอะไรมาก แค่เพียงเหลียนฮวามีแผลฟกช้ำที่ขาของนางฟาดกับสะพานในขณะที่นางกำลังร่วงหล่นลงมาเพียงเท่านั้น ส่วนเมิ่งลี่หลินมิได้มีบาดแผลใด แค่เพียงอาการสำลักน้ำ“ เปิ่นหวางคิดว่าเจ้าควรกลับไปนอนพักผ่อนที่จวนของเจ้าจะดีกว่า กินยาที่ท่านหมอจัดให้แล้วก็นอนพักยาวๆ ให้หายดีแล้ว แล้วเปิ่นหวางจะไปเยี่ยมเจ้าที่จวนของพี่ชายเจ้าจะเหมาะสมกว่า ”แล้วเขาก็ช้อนอุ้มตัวของเมิ่งลี่หลินอย่่างไม่ได้สนใจความไม่พอใจของนาง แล้วก็อุ้มพางนางไปขึ้นรถม้าของเขาแล้วก็พานางกลับไปยังจวน โดยให้สาวใช้ของนางเข้า
ท่านอ๋องหรู่หยางเมื่อเห็นเมิ่งลี่หลินและเหลียนฮวาต่างก็พยายามตะเกียกตะกายอยู่กลางลำธารกันทั้งคู่ เขาก็โดดพุ่งลงไปในน้ำทันทีแล้วรีบว่ายตรงไปที่สตรีทั้งสอง แต่เขาไปถึงตัวของเมิ่งลี่หลินก่อน ส่วนนางเมื่อเห็นเขาก็รีบร้องเรียกและสำลักน้ำไปทันที อ๋องหนุ่มจึงได้รีบว่ายเข้าไปหานางแล้วรีบพาตัวนางขึ้นจากน้ำไปก่อน ส่วนเหลียนฮวาเขาคิดว่าองครักษ์ของเขาที่โดดน้ำตามหลังมาก็คงจะเข้าไปช่วยนางได้ทันและก็เป็นเช่นนั้น องครักษ์หลีกังที่เขาเองแอบมีใจให้กับเหลียนฮวาตั้งแต่ที่ได้พบหน้านางเมื่อเข้ามาอยู่ในจวนนี้ใหม่แล้วและพยายามหักห้ามใจไม่ให้คิดเกินเลยกับนาง ยิ่งนางกลับกลายมาเป็นสตรีของท่านอ๋องเขาจึงยิ่งพยายามหักใจไม่ให้คิดกับนางมากไปกว่านายหญิงคนหนึ่ง และยิ่งสงสารและเห็นใจที่ท่านอ๋องมีสตรีอื่นอีกนาง และก็กลับกลายเป็นความรักที่มิอาจจะเปิดเผยได้ เขาร้อนอกร้อนใจมาก ที่เห็นนางตะเกียกตะกายอยู่กลางลำธาร เขารีบว่ายน้ำตรงไปหาเหลียนฮวาอย่างรวดเร็ว แล้วรีบคว้าตัวของนางเอาไว้ แล้วก็ลากเข้าฝั่งอีกด้านหนึ่งไปทันทีเมื่อเหลียนฮวาถูกองครักษ์หลีกังพาตัวขึ้นริมฝั่งน้ำไปอย่างทุลักทุเลแล้ว นางนั่งลงที่ริมฝั
สามวันต่อมา คุณหนูเมิ่งมาเยี่ยมเยียนท่านอ๋องหรู่หยางที่จวนของเขา แต่พ่อบ้านซื่อที่ออกมาต้อนรับกล่าวว่า“ ท่านคงจะเป็นคุณหนูเมิ่งใช่หรือไม่ ตอนนี้ท่านอ๋องไม่อยู่ขอรับ แต่ท่านอ๋องสั่งเอาไว้แล้ว หากคุณหนูเมิ่งมาพบให้เชิญไปรอในเรือนหลักก่อน ท่านอ๋องเข้าวังหลวงคงจะกลับมาในอีกไม่นานนี้แล้ว หรือไม่คุณหนูจะไปนั่งเล่นที่ศาลากลางบึงบัวก็ได้ขอรับ ข้าจะให้สาวใช้นำน้ำชากับขนมไปรับรอง ” พ่อบ้านซื่อแนะนำ ส่วนเมิ่งลี่หลินรับคำพร้อมกับยิ้มให้เขาอย่างอ่อนหวาน “ ข้าจะไปนั่งเล่นที่ศาลาดีกว่า ลมคงจะเย็นสบายดีกว่าในเรือน ” แล้วนางกับสาวใช้ก็เดินกันไปตามเส้นทางที่พ่อบ้านชี้มือบอก ส่วนพ่อบ้านซื่อก็แยกไปสั่งการให้สาวใช้นำน้ำชาและขนมหวานไปรับรองว่าที่พระชายาที่อีกไม่นานก็คงจะแต่งงานกับท่านอ๋องแล้ว ส่วนเมิ่งลี่หลินเมื่อนั่งเล่นอยู่ในศาลาไดัครู่หนึ่ง นางก็เห็นสตรีนางหนึ่งที่แต่งกายหรูหราด้วยอาภรณ์ราคาแพงกำลังเดินเล่นอยู่ที่ในสวนท่ามกลางดอกไม้หลากสีสันที่ขึ้นไปพุ่มเบ่งบานอยู่เต็มไปหมด สตรีนางนั้นมองไปแล้วแม้แต่สตรีด้วยกันเองยังรู้สึกว่านางงดงามบาดตายิ่งนัก ความระแวงพลันเกิดขึ้นในใจของเมิ่งลี่หลินทันท
ท่านอ๋องหนุ่มไม่ได้สนใจในตัวเหลียนฮวาอีกแล้ว เขาเอาแต่จับจ้องสตรีที่เขาพบนางเข้าโดยไม่คาดคิด นางคือคุณหนูเมิ่งลี่ลหลิน คนรักเก่าของท่านอ๋องเมื่อครั้งเขายังรุ่นหนุ่ม นางกับเขาห่างเหินกันไปโดยที่ไม่ได้เลิกรากัน เพียงแต่ในตอนนั้นต่่างก็ยังอายุน้อยท่านอ๋องกับนางเคยรักกันมาก แต่นางจำต้องย้ายตามพี่ชายของนางไปที่เมืองฉางโจว เพราะพี่ชายของนางไปรับตำแหน่งเจ้าเมืองของที่นั่น แต่บัดนี้เขาย้ายกลับมารับตำแหน่งเจ้ากรมยุติธรรมแล้ว จึงย้ายครอบครัวกลับมาพำนักยังจวนของเขาที่ในเมืองหลวงตามเดิมท่านอ๋องหรู่หยางและสตรีนางนั้นต่่างจับจ้องมองกันเหมือนกับโลกนี้มีเพียงพวกเขาสองคนเพียงเท่านั้น และแล้วท่านอ๋องก็ออกเดินตรงไปหาสตรีนางนั้นที่เขาและนางต่างกำลังจับจ้องกันอย่างไม่คลาดสายตา เขาไม่ได้บอกอะไรกับเหลียนฮวาสักคำ เขาเดินไปสนทนากับสตรีนางนั้นแล้วก็พากันเดินเข้าไปในสวนดอกไม้แล้วก็หายไปเลย ส่วนเหลียนฮวาได้แต่จ้องมองทั้งสองที่พากันเดินลับหายไปจนลับตาโดยที่ตนเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรได้ ในอกของนางปวดแปลบยิ่งนัก ที่เห็นสามีในความลับเดินไปสนทนากับสตรีอื่นแล้วพากันเดินหายไป แถมเมื่อเขาได้พบสตรีนางนั้
“ ป้ารู้เรื่องของเจ้ากับท่านอ๋องแล้ว เมื่อคืนพวกเจ้าอยู่ในห้องนอนด้วยกันบ่าวไพร่มันนินทากันให้สนุกปาก เสียงดังออกไปนอกเรือน ป้าไปถามท่านอ๋องเมื่อเช้าก่อนที่ท่านจะออกไปราชการที่วังหลวงแล้วท่านอ๋องยอมรับกับป้าว่าเขารับเจ้าเป็นอนุ และได้เสียกับเจ้าก่อนหน้านี้แล้ว จึงยอมให้เจ้าแต่งงานกับผู้ใดไม่ได้อีก เหลียนฮวาเกิดอะไรขึ้นไหนกันแน่ " แม่นมเหลียนที่เพิ่งรู้เรื่องที่ท่านอ๋องมอบเรือนหลังนี้ที่หรูหราเกินฐานะคนอาศัยให้เหลียนฮวาก็เพราะนางเป็นสตรีของท่านอ๋อง เหลียนฮวาใบหน้าร้อนผ่าว “ หลายวันก่อนข้าทำขนมแล้วนำไปให้ท่านอ๋องชิม แต่ท่านอ๋องเมื่อชิมขนมของข้าแล้ว เขาดูเหมือนมีอาการผิดปกติ เขาเข้าใจว่าข้าวางยาปลุกกำหนัดเขา แต่ข้าไม่ได้ทำนะเจ้าคะ และก็อย่างที่ท่านป้าทราบเจ้าค่ะ ข้าตกเป็นของท่านอ๋องในบ่ายวันนั้นและเมื่อคืนเขาก็…..มาที่เรือนนี้เจ้าค่ะ ”ป้าของเหลียนฮวาถอนใจ แม้นางจะเป็นแม่นมของท่านอ๋อง แต่นางก็รู้ดีว่าท่านอ๋องผู้นี้ถือตัวนัก การที่จะยอมรับแต่งงานกับเหลียนฮวารับนางเป็นชายานั้นไม่มีทางเป็นไปได้ และแม่นมก็เสียดายความงดงามของเหลียนฮวา อยากให้นางมีโอกาสที่ดีกว่าเป็นอนุในเรือนหลังของ
เมื่อกระแทกนางจนกระทั่งเสร็จสมไปอีกครั้งพร้อมๆกันแล้ว มือหนากดสะโพกอวบของนางลงแนบกับฟูกหนานั้น แล้วยกก้นงอนงามของนางขึ้นเล็กน้อย แล้วสอดลำกายใหญ่ของเขาเข้าไปอีกครั้งจนมิดลำกายนั้น แล้วขย่มนางอย่างรุนแรงอีกครั้ง เขานอนคร่อมร่างล่ำสันบนร่างอวบอัดของนางจากทางด้านหลัง แขนแกร่งทั้งสองข้างก็ยันฟูกนอนเอาไว้เพื่อรับน้ำหนักของตนเองไม่ให้กดลงไปที่คนด้านล่างมากนัก แล้วโยกบั้นเอวขย่มร่างอวบของนางจากทางด้านหลังอย่างเร่าร้อน ทั้งสองต่างโยกขยับเข้าหากันอย่างรุนแรง ด้วยจังหวะรักเดียวกับ ส่วนปากก็ร้องครวญครางอย่างสุขสม เจ้าของจวนควงบั้นเอวกระแทกนางอย่างรุนแรง แล้วก็เหมือนสะโพกหนาของเขามีชีวิตของตัวมันเอง มันขย่มนางอย่างเร่าร้อน เขาสุขสมอย่างที่ไม่เคยมาก่อน เจ้าของจวนหนุ่มร้องครวญครางในลำคอหนาจนแสบไปหมด เมื่อต่างโยกเข้าหากันด้วยจังหวะที่ดุเดือดและเร่าร้อนจนเสร็จสมไปอีกครั้งแล้ว ร่างล่ำสันที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามก็จับสตรีใต้ร่างพลิกไปมาหลายท่วงท่าตามแต่ใจของตนเอง จนกระทั่งลงมานอนกระแทกร่างอวบของนางบนพื้นด้านล่างอย่างอย่างเมามัน เมื่อเสร็จสมเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ได้ จนรอบกายของทั้ง