ขณะนั้นเหลียนฮวาที่ยกขนมหวานที่นางทำเองมาส่งให้กับท่านอ๋องพอดี เมื่อเขาอนุญาตหลังจากนางเคาะประตูแล้วนางก็เดินเข้าไปพร้อมกับถาดใส่จากขนมหวานที่นางทำเอง อ๋องหนุ่มจ้องมองขนมหวานในจานที่นางยกมาวางตรงหน้าเขา “ ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันทำขนมหวานนี้มาถวายท่านอ๋องเพคะ มันเหมาะกับน้ำชายามบ่ายยิ่งนัก พระองค์ลองชิมดูสิเพคะ " นางคะยั้นคะยอให้เขาชิมขนมหวานที่นางลงมือทำเองเพื่อเอาใจเขา
อ๋องหนุ่มหยิบขนมหวานที่เหลียนฮวาหลานสาวแม่นมทำขึ้นชิม เขารู้ว่านี่ก็เป็นสตรีอีกนางที่หลงรักเขา และเทียวมาเอาอกเอาใจเขาดังเช่นคุณหนูซ่ง แต่เหลียนฮวานั้นพำนักอยู่ในจวนของเขา จึงทำให้ได้พบปะกับเขามากกว่าสตรีนางอื่น แต่เขาก็ไม่ได้พึงใจนาง แม้จะนึกชอบใบหน้าหวานและรูปร่างที่อวบอิ่มขาวผ่องของนางก็ตาม แต่ก็เป็นตามวิสัยของบุรุษหนุ่มวัยฉกรรภ์ แต่ก็ไม่ได้คิดไปถึงว่าจะรับนางเข้าเรือนหลังของเขา ไม่ว่าในตำแหน่งใดเขาก็ไม่เคยคิดทั้งสิ้น
เขายอมชิมขนมหวานก็เพื่อให้นางยอมออกไปดังเช่นที่เขาทำกับคุณหนูซ่ง เพราะเขาก็รำคาญที่สตรีหลายๆนางพยายามเข้าหาเขาในทุกรูปแบบ บุรุษที่เคร่งขรึมและเอาการเอางานเช่นเขา มิได้ชอบสตรีที่ทอดสะพานให้ชายดังเช่นเหล่าสตรีทั้งหลายที่เพียรมาทอดสะพานให้กับเขา
แต่หากจำเป็นต้องเลือก เขาอาจจะเลือกซ่งม่านอี้เป็นชายาเพราะนางมีฐานะที่เหมาะสมกับเขา และเขาเองก็ไม่ได้รังเกียจนาง คงจะพอรับนางมาเป็นชายาเสียก็เป็นได้ หากวัยของเขามากไปกว่านี้แล้วยังไม่พบสตรีใดที่พึงใจสักคน
เมื่ออ๋องหนุ่มกัดกินขนมหวานของเหลียนฮวาก็พบว่ามันอร่อยมาก เขาจึงได้หยิบกินไปอีกสองสามชิ้น แต่ระหว่างนี้เขาก็ก้มลงอ่านหนังสือตรงหน้าไปด้วย
แต่เมื่ออ่านไปได้เพียงครู่ก็รู้สึกร้อนรุ่มในกาย และอยู่ๆ ก็เกิดกำหนัดอย่างรุนแรง จนอยากจะเสพสมกับสตรียิ่งนัก อยู่ๆมันก็เกิดกำหนัดที่พุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็วจนเกินจะห้ามได้ เจ้าลูกชายตาเดียวของเขาที่ตอนนี้มันผงาดง้ำเกินจะห้ามปราม
ขณะนั้นเหลียนฮวาที่เมื่อเห็นท่านอ๋องทำเป็นไม่สนใจนางดังเช่นเคย นางจึงจะช่วยยกโถน้ำแกงไปวางที่ชั้นวางด้านริมผนัง แล้วก็จะกลับออกไปจากห้องนี้เงียบๆ แต่เมื่อนางหันกลับมาอีกครั้งเพื่อบอกลาเขา
นางก็ตกใจที่ใบหน้าของท่านอ๋องหนุ่มที่เห็นได้ชัดว่าเห่อแดงอย่างผิดปกติ นางสบกับดวงตาคู่คมของอ๋องหนุ่มที่บัดนี้เต็มไปด้วยไฟราคะที่กำลังลุกโพลงเกินจะระงับได้ของเขา แล้วก็ตกใจมาก ท่านอ๋องเป็นอะไรกัน
“ ท่านอ๋องเพคะ ท่านไม่สบายหรือไม่ จะให้หม่อมฉันไปตามพ่อบ้านมาดูอาการท่านดีหรือไม่เพคะ ” นางเอ่ยขึ้นอย่างตกใจเพราะอยู่ๆ ทั้งใบหน้าและลำคอของท่านอ๋องก็กลายเป็นสีแดงอย่างเห็นได้ชัด แถมเหงื่อของเขายังไหลอาบใบหน้าอย่างมากมายอีกด้วย
ส่วนดวงตาคู่คมที่ปกติมักจะมองนางด้วยความเฉยชา ไม่ได้มีความรู้สึกใดๆต่อนางทั้งสิ้น จนเหลียนฮวาชักจะเริ่มท้อใจแล้ว ว่านางคงจะไม่มีวันที่จะได้เป็นอะไรทั้งนั้นในชีวิตของท่านอ๋องหรู่หยาง กลับกลายเป็นว่านางมองเห็นความปรารถนาอย่างมากมายอยู่ในนั้น
อ๋องหนุ่มที่จับจ้องสตรีตรงหน้าอย่างหมายมั่น เขากำลังเกิดกำหนัดอย่างมากมาย มากจนจะต้องได้รับการปลดปล่อยมันในตอนนี้อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้แล้ว
เขาจึงเริ่มถอดอาภรณ์ตัวนอกออกแล้วโยนทิ้งไป แม้จะพยายามตั้งสติเอาไว้และพยายามจะอดทนอย่างถึงที่สุด แต่ตัวเขาเองก็แทบจะทนอาการที่มันเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วต่อไปไม่ได้
จนเมื่อเขาเงยหน้ามองไปอีกครั้งก็เกิดภาพหลอนเห็นเหลียนฮวาเดินเยื้องย่างมาหาเขาช้าๆ ร่างอวบอัดขาวผ่องของนางเปลือยเปล่า นางยกมือลูบไล้ร่างกายของตนเอง
แล้วมองสบตาของเขาอย่างหญิงที่ร่านร้อน เหมือนนางยั่วเมืองไม่มีผิด ถ้าเจ้าเสนอตัวให้ข้าถึงขนาดนี้ ข้าก็จะตอบสนองสิ่งที่เจ้าต้องการ
อ๋องหนุ่มสติขาดผึ่งลงในทันที เขากระโจนเข้าหานางแล้วประกบจูบนางอย่างดูดดื่ม ในภาพหลอนที่ท่านอ๋องหนุ่มหนุ่มมองเห็น เป็นภาพของเหลียนฮวาอ้าปากรับลิ้นสากของท่านอ๋องหนุ่มอย่างเต็มใจ
แต่ในความเป็นจริงแล้วเหลียนฮวาดิ้นรนอย่างมากมายให้พ้นจากอ้อมกอดแข็งปานเหล็กกล้าของท่านอ๋องที่จับนางเอาไว้มั่น และบีบแก้มนางอย่างแรงทำให้จำต้องอ้าปากออกและลิ้นสากที่ร้อนรุ่มของท่านอ๋องหนุ่มก็สอดเข้าไปควานชิมความหวานในปากของนางในทันที
ท่านอ๋องหนุ่มประกบจูบนางอย่างดูดดื่ม ในมโนสำนึกของเขาคิดว่าสตรีใต้ร่างที่เขากดนางลงนอนราบกับพื้นห้องนั้นยั่วยวนเขา เขาจึงจูบนางอย่างดูดดื่มและเหมือนเขาหิวโหยนางอย่างมาก ยิ่งจูบก็ยิ่งติดใจ จนเมื่อจูบเหลียนฮวาสตรีเจ้ามารยาที่ดิ้นรนอยากจะเป็นชายาของเขาจนกระทั่งพอใจแล้ว
เขาจึงได้ผลักร่างที่อ่อนระทวยเนื่องจากถูกเขาจูบอย่างดูดดื่มจนกระทั่งนางเองก็เผลอไผลโอนอ่อนตามบุรุษที่นางเองก็มีใจให้กับเขา และหลงรักเขาตั้งแต่แรกพบหน้าแล้ว
อ๋องหนุ่มดันร่างอวบของเหลียนฮวานอนราบลงกับพื้นพรมหนานุ่มที่ปูบนพื้นในห้องหนังสือนั้น เพราะเขาทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว เจ้าลูกชายของเขามันผงาดง้ำจนเกินจะทน ดิ้นรนอยากจะสอดประสานกันนางเต็มทีแล้ว
ท่านอ๋องหนุ่มสอดลำกายแกร่งของเขาเข้าไปในร่องอวบของหญิงร่านตรงหน้า ที่บัดนี้อาภรณ์หลุดลุ่ยเพราะมือหนาที่ทั้งดึงทั้งทึ้งอาภรณ์ของนางออกอย่างไม่ปราณี จนอาภรณ์ที่ทำจากเนื้อผ้าบางเบาฉีกขาดเป็นทางยาว อ๋องหนุ่มไม่สนใจสิ่งใดทั้งนั้น
เขาคิดไปว่านางทำตัวเอง ดิ้นรนอยากจะเป็นชายาของเขา จนถึงกับวางยาปลุกกำหนัดในขนมหวานที่นางทำมาให้กับเขา สตรีแพศยาร่านชาย อยากจะได้บุรุษจนตัวสั่น ขนาดเขาไม่มีท่าทีชอบพอนางเลย แค่เพียงไม่อยากจะหักหาญน้ำใจนางเวลาที่เทียวมาเอาอกเอาใจเขา เพราะเห็นแก่แม่นมของเขา จึงได้โอภาปราศัยกับนางโดยดี แม้จะนึกรำคาญดวงตาฉ่ำหวานที่นางมักจะมองสบกับเขาในบางครั้ง และทำสะเทิ้นอายหลบตาเขา เหมือนนางแอบมีใจให้กับเขา
อ๋องหนุ่มเองก็พอจะมองออก แต่เขาไม่ได้คิดกับนางเป็นอื่นเลย แค่เพียงเห็นว่าเป็นคนในบ้าน ฐานะดีกว่าสาวใช้นิดหน่อย เพราะเป็นหลานสาวของแม่นมของเขา แต่ก็ไม่ได้ถือว่านางอยู่ในฐานะเดียวกัน
แม้บัดนี้เขาจะเหลือสติเพียงเล็กน้อยที่พยายามจะฝืนตนเอง แต่ยาปลุกกำหนัดนั้นเป็นชนิดร้ายแรงยิ่งนัก มันทำให้เขาขาดสติไปทันที เขาสอดเจ้าลูกชายเข้าไปในร่องอวบของหญิงตรงหน้าแล้วเร่งกระแทกนางอย่างรุนแรงและเพิ่มเป็นเร่าร้อนอย่างรวดเร็ว
เหลียนฮวากรีดร้องเสียงดัง “ โอ้ย !! ท่านอ๋องหยุดเถอะเพคะ ได้โปรด หม่อมฉันเจ็บ เจ็บเหลือเกิน ” นางกรีดร้องและพร่ำอ้อนวอนท่านอ๋องหนุ่มที่ตอนนี้ผสานกายอวบใหญ่แข็งแกร่งของเขากับร่องอวบของหล่อนจนแทบจะกลายเป็นร่างเดียวกันแล้ว
อ๋องหยุ่มยกยิ้มเหยาะหยัน แพศยานัก รนหาที่เอง วางแผนชั่วร้ายเช่นนี้ขึ้นมาเอง แล้วตอนนี้จะมาทำดีดดิ้นไม่ยินยอมขึ้นมา สายไปแล้ว เพราะเจ้าทำตัวเอง จึงได้มาเป็นเช่นนี้ อ๋องหนุ่มคำราม และก็ค่อยๆขยับลำกายอวบใหญ่ที่แข็งขึงเข้าออกในร่องสวาทที่แม้จะมีน้ำรักหล่อเลี้ยงเอาไว้บ้าง แต่มันก็คับแน่นมาก
คับจนเขาเองเจ็บปวดเป็นอย่างมาก แต่ก็ฝืนทนเอาไว้นางไม่เคยชาย แต่ก็ยังกล้าที่จะวางยาปลุกกำหนัดบุรุษเสียได้ คงจะอยากได้เขาเป็นสามีจนตัวสั่น และตอนนี้ข้าจะทำให้เจ้าได้สมใจที่เจ้าต้องการ
“ หม่อมฉันไม่อยากเป็นสตรีของท่านเพคะ แล้วเหตุใดท่านอ๋องไม่ถามหม่อมฉันก่อน ว่าหม่อมฉันสมัครใจอยากจะเป็นสตรีของท่านหรือไม่ ” นางหันไปถามเขาอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่เพิ่งจะได้ยินเข้า“ เจ้าไม่มีสิทธิ์เลือกอีกแล้ว นับจากเจ้าวางยาปลุกกำหนัดเปิ่นหวาง เจ้าก็เป็นเมียของเปิ่นหวางแล้ว และภรรยาย่อมเป็นสิทธิ์ของสามี เจ้าควรยอมรับมันแต่โดยดี มาเถิด ” แล้วเขาก็ยกร่างของเหลียนฮวาให้ยืนขึ้น เพื่อเผชิญหน้ากับเขา นางไม่ยอมเงยหน้าขึ้นสบตากับเขานางยังไม่ยินยอมและยังงุนงงไม่ทันได้ตั้งตัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยกเรือนให้นางพำนักในตำแหน่งสตรีของเขา มิน่าเล่าเรือนหลังนี้จึงดูเกินฐานะของผู้อาศัยเช่นนาง แถมยังมีข้าวของใหม่ๆของสตรีอีกหลายอย่างอีกด้วย“ ฮวาเอ๋อ สบตาข้า ข้าต้องการมองเห็นความรู้สึกของเจ้าว่าคิดเช่นไรกับข้ากันแน่ ” มือหนาที่ร้อนรุ่มของเขา เชยคางมนของเหลียนฮวาเพียงเบาๆ ทำให้นางนั้นจำต้องเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา และยิ่งทำให้เหลียนฮวาเห็นดวงตาคมกริบที่จ้องมองนางด้วยดวงตาที่วาววามเหมือนมีเปลวไฟของความปรารถนาลุกโพลงอยู่ในนั้น“ ฮวาเอ๋อ ไม่ว่าเจ้าจะคิดเช่นไรกับเปิ่นหวาง แต่เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือก
เหลียนฮวาอึ้งงันไป เพราะไม่ใช่ข้าวของเครื่องเรือนในห้องนอนแห่งนี้เพียงเท่านั้น ข้าวของในเรือนหลังนี้ล้วนแต่เป็นเครื่องเรือนชั้นดี มันมีห้องว่างเป็นห้องเล็กทางด้านหลังอีกหนึ่งห้อง มีห้องสุขาอยู่ด้านหลังเรือน ด้านหน้าเป็นห้องโถงกว้างพอสมควรมีระเบียงด้านข้างที่มีอ่างบัวขนาดใหญ่สามอ่าง มีเก้าอี้โยกเอาไว้นั่งเล่นรับลมเย็นๆ ที่ตั้งอยู่ข้างอ่างบัวนั้น เครื่องเรือนในเรือนนี้เหมือนของใหม่ที่ยังไม่ผ่านการใช้งานเลย มีดอกไม้ประดับในเรือนหลังนี้ เหมือนสาวใช้เพิ่งจะมาจัดดอกไม้หลากสีสันใส่แจกันเอาไว้ให้กระนั้นส่วนในห้องนอนใหญ่ที่มีขนาดที่ใหญ่กว่าห้องนอนเดิมของนางที่อยู่ในเรือนของท่านป้ามากเกือบจะเป็นสองเท่า มีเตียงสี่เสาหลังใหญ่ที่มีผ้าม่านโปรงบางสีขาวสลับลูกไม้สีแดงคลุมเอาไว้ทั้งสี่ด้าน ฟูกนอนก็หนานุ่มและมีขนาดใหญ่กว่าฟูกนอนเดิมของนาง มีโต๊ะเครื่องแป้งที่มีเครื่องประทินผิวกระปุกเล็กกระปุกน้อยวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะนั้น มีคันฉ่องบานใหญ่หนึ่งบาน มีเก้าอี้นั่งที่เข้าชุดกัน ส่วนที่หลังฉากกั้นนั้นก็มีตู้เก็บอาภรณ์ที่สลักลวดลายอิงเถาที่มีกิ่งก้านและใบงดงามนัก มีราวไม้สำหรับพาดอาภรณ์และมีถังอา
“ แม่นม หลานสาวของท่านมิได้พักอยู่ที่นี่กับท่านแล้วหรือ หมู่นี้เปิ่นหวางไม่พบหน้านางเลย ” เขาเอ่ยถามแม่นมขณะที่ทำทีนั่งจิบชาเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไร เหมือนกับถามไปอย่างนั้น“ หมู่นี้นางออกไปทำงานที่ร้านเสริมความงามของคุณชายเสิ่นอี้หนานเพคะ ได้ยินว่าคุณชายผู้นั้นจ้างให้นางช่วยดูแลร้านของเขาที่เพิ่งเปิดใหม่ นางมาขออนุญาตออกไปทำงานได้เกือบจะสองสัปดาห์แล้วเพคะ เช้าๆขึ้นมานางก็ออกไปทำงานเอง เพราะมีตรอกเล็กๆที่อยู่ถัดจากกำแพงจวนไปนี่ที่เดินลัดออกไปที่ถนนหน้าตลาดได้เพคะ พอตอนเย็นคุณชายเสิ่นก็มาส่งนางที่หน้าจวนเพคะ ได้ยินว่าเป็นทางผ่านกลับจวนของเขาพอดี จึงได้นางติดรถม้าของเขากลับมาด้วย ” อ๋องหนุ่มรู้สึกขุ่นใจเล็กน้อย แต่ก็ยังรักษาใบหน้าให้เรียบเฉยเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไรเพียงถามไถ่ถึงคนในจวนไปตามปกติทั่วไป“ แม่นม เปิ่นหวางมีเรือนว่างอยู่ด้านหลังเรือนหลักนี้ที่ตอนนี้มันไม่มีคนอยู่ ให้หลานสาวของแม่นมย้ายมาอยู่ดีหรือไม่ จะได้มีที่อยู่ของตนเองเป็นสัดส่วน ” เขาหันไปถามเชิงขอความคิดเห็นของแม่นมเหลียน แม่นมชรานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก็คิดว่าดีเหมือนกัน หลานสาวของนางจะได้มีที่่อยู่ของตนเอง เป็นส
“ เสด็จแม่ว่าอย่างไรนะพะยะค่ะ ” อ๋องหรู่หยางแทบจะตกเก้าอี้ เมื่อได้รับฟังเรื่องราวที่พระมารดาของเขาบอกเล่ากับเขาอย่างเปรมปรีด์ เหมือนพระสนมมีตุ๊กตาตัวใหม่ที่จะจับมันแต่งกายอย่างไร จับวางที่ไหนก็ได้ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน อยู่ๆ ก็จะให้เหลียนฮวาหลานสาวแม่นมเข้าถวายตัวเป็นสตรีของฮ่องเต้ ซึ่งก็คือเสด็จพ่อของเขา มันจะบ้าไปแล้ว นางเป็น เอ่อ…..ของเขาไปแล้ว จะให้ไปถวายตัวให้เสด็จพ่อ ไม่ได้อย่างเด็ดขาด แต่เขาก็ไม่กล้าปริปากบอกกับเสด็จแม่ของเขาไปตรงๆ ในหัวจึงหมุนวนอย่างรวดเร็ว เพราะต้องคิดหาเหตุผลดีๆที่จะไม่ให้สตรีนางนั้นกลายเป็นสตรีของเสด็จพ่อของตัวเอง“ คงไม่เหมาะพะยะค่ะ นางไม่เหมาะกับการเข้าไปอยู่ในวังหลัง ” พระสนมหยู อึ้งไป บุตรชายหมายความว่าอย่างไร แทนที่จะสนับสนุนให้หลานของแม่นมของตัวเองได้ดิบได้ดี แม่นมหวังจะได้พลอยสบายใจไปด้วย “ ทำไมเจ้าถึงคิดว่าไม่เหมาะเล่า แม่ว่าดีนะ นางงดงามถึงปานนั้น ไม่แน่วาสนานางอาจจะได้เป็นถึงพระสนมก็เป็นได้ แล้วนางก็จะสบายไปทั้งชีวิต นางงดงามมากนะ เสด็จพ่อของเจ้าอาจจะโปรดปรานนางก็เป็นได้ รูปร่างของนางก็กำลังดี แม่ว่าบุรุษน่าจะชอบสตรีรูปร่างและ
เหลียนฮวารีบอาบน้ำในถังอาบน้ำใบใหญ่ที่น้ำในอ่างนั้นเย็นชืดแล้ว คงจะมีบ่าวยกมันมาเทให้กับนางแต่มันก็คงจะนานแล้ว เพราะกว่าที่นางจะกลับเข้าห้องมาน้ำในถังไม้ใบใหญ่ก็เริ่มเย็นแล้ว แต่ก็ช่างมันเถอะ อาบน้ำเย็น ๆ เช่นนี้ก็ดีแล้ว สติสัมปชัญญะจะได้ตื่นตัวเต็มที่ และก็จะได้รู้ฐานะของตัวเอง และหัดเจียมตัวบ้าง ไม่ใช่ใฝ่สูงจนทำให้ผู้อื่นหัวเราะเยาะหยันเอาเช่นนี้ได้อีกนางพยายามขัดถูร่างกายที่มีร่องรอยแดงเป็นจ้ำๆ จนแทบจะทั่วร่างกาย เพราะถูกอ๋องผู้นั้นทั้งบีบเค้นและตบตีตามแต่อารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูงของเขา ส่วนปลายยอดถันสีชมพูเข้มที่บัดนี้มันยังรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่ร้อนผ่าวของริมฝีปากหนานั่นที่มันครอบครองผลอิงเถาที่เต่งตึงของนางไม่เว้นวาย รสสัมผัสยามที่ถูกเขาดูดดื่มมันยังติดตรึงอยู่ นางยังรู้สึกได้ถึงริมฝีปากที่ร้อนผ่าวที่ประทับลงมา และยังเหลือร่องรอยให้เห็นได้ชัดเจน เหลียนฮวาพยายามใช้สบู่มันแพะชั้นดีที่มีกลิ่นหอมขัดถูไปจนทั่วร่างกายอวบอัดของนางเพื่อชำระล้างรสสัมผัสเหล่านั้นให้จางหายไปอยู่เกือบจะชั่วยาม เมื่อรู้สึกดีขึ้น ถึงได้ยอมลุกขึ้นจากถังอาบน้ำเพื่อเช็ดร่างกายและสวมอาภรณ์เพื่อจะเตรียมตั
เหลียนฮวาที่นั่งหันหลังให้กับเขาเพราะนางกำลังจะสวมอาภรณ์ที่เพิ่งจะควานหามาได้ มือบางชะงักไปครู่หนึ่งหลังจากได้ยินถ้อยคำที่เสียดแทงใจนั้น “ หม่อมฉันไม่ได้วางยาพระองค์เพคะ ” นางเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเบาๆ ริมฝีปากหนาของอ๋องหนุ่มบิดโค้ง เขาไม่เชื่อวาจาของนางแม้เพียงสักนิด “ หากเจ้าไม่ได้ทำแล้วจะเป็นผู้ใดกัน สตรีแพศยา อยากจะเป็นชายาของข้าจนตัวสั่น คิดว่าข้าดูไม่ออกหรืออย่างไรกัน เจ้ามันใฝ่สูงจนเกินตัว คิดหรือว่าวางแผนชั่วเช่นนี้แล้ว ข้าจะยอมรับเจ้าเป็นชายา ฝันสูงสิ้นดี ที่จริงแล้วข้าจะเอาผิดเจ้าก็ได้ที่บังอาจวางยาปลุกกำหนัดข้าจนเกิดเรื่องบัดสีเช่นนี้ แต่เพราะข้าเห็นแก่แม่นมหรอกนะ เอาละ อย่างไรเสียเจ้าก็ตกเป็นสตรีของข้าไปแล้ว ข้าจะรับเจ้าเป็นหญิงอุ่นเตียงก็คงจะได้ ข้าจะให้เจ้าย้ายเรือนไปอยู่ต่างหากไม่ต้องอยู่ในเรือนแม่นมแล้ว ” อ๋องหนุ่มตัดสินใจเอ่ยขึ้น เพราะเขาได้นางเป็นเมียแล้ว แม้ไม่ได้เป็นความตั้งใจของเขา แต่เขาก็ได้นางแล้ว รับเป็นหญิงอุ่นเตียงก็คงจะได้ แค่รับเลี้ยงดูสตรีอีกคนคงไม่กระไรหรอกริมฝีปากแดงระเรื่อที่ตอนนี้บวมเจ่อเพราะถูกจูบจนนับครั้งไม่ถ้วนมาตลอดบ่ายวันนี้ เม้