ม่านชิงเฉียวลืมตาขึ้นในความมืด ทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ จากความทรงจำของเว่ยเยว่ซินอย่างเงียบงัน
หญิงงามผู้นี้...เกิดมาพร้อมรูปโฉมเหนือสามัญชน หากแต่ชะตากลับอาภัพยิ่งนัก หัวใจของนางแตกสลายเพราะชายคนรักถูกสังหารเพียงเพราะพยายามยับยั้งการแต่งงานทางการเมืองของนาง
ม่านชิงเฉียวทอดถอนใจให้กับโชคชะตาอันน่าเวทนาของอีกฝ่าย ขณะนั้นเอง ประตูห้องถูกเปิดออกอย่างเงียบงัน ร่างสูงของบุรุษผู้หนึ่งก้าวเข้ามา แม้ภายในห้องจะไร้แสงตะเกียง แต่เขาก็มองเห็นว่านางลืมตาตื่นอยู่
ฝีเท้าของเขาชะงักเล็กน้อย ดวงหน้าฉายแววโล่งอก เขายกมือโบกให้สาวใช้ออกไป ก่อนจะก้าวเข้ามาอย่างช้า ๆ แล้วนั่งลงที่ขอบเตียง
"รู้สึกอย่างไรบ้าง...ยังเจ็บตรงไหนหรือเปล่า" น้ำเสียงของเขาอ่อนโยน พร้อมรอยยิ้มอบอุ่นดุจฤดูใบไม้ผลิ
ม่านชิงเฉียวปรายตามองอีกฝ่าย ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าไร้กลิ่นอายสังหารเฉกเช่นในวันก่อน บัดนี้เขาสวมอาภรณ์หรูหราสีคราม มวยผมรวบขึ้นสูง ครอบด้วยกวานหยก ใบหน้าแลดูหล่อเหลาและสง่างามดุจจันทร์ท่ามกลางสายลมอ่อน
นางกะพริบตาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่วเบา "มึนหัวเล็กน้อยเพคะ"
นางมิได้โกหก...นางกำลังมึนหัวจริง ๆ เพราะตะลึงในความหล่อเหลาของอีกฝ่าย
กู้เซียวอวิ้นชะงักไปครู่ เว่ยเยว่ซินไม่เคยเอ่ยถึงความรู้สึกของตนมาก่อน คำพูดที่เขาคุ้นเคยจากปากของนางมีเพียงว่า
"ไม่เป็นไร"
และเพราะครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย...เขาจึงยิ่งแปลกใจ
"ให้หมอหลวงตรวจดูอาการสักหน่อยเถอะ...ใครอยู่ข้างนอก เข้ามาจุดตะเกียง แล้วไปตามหมอหลวงจ้าวด้วย"
สิ้นคำรับสั่ง สาวใช้หลายคนก็เข้ามาราวกับกระแสลมสงบ จัดแจงทุกอย่างอย่างรวดเร็ว แสงตะเกียงถูกจุดจนสว่างไสวไปทั่วห้อง
เว่ยเยว่ซินยังคงนิ่งเงียบ
กู้เซียวอวิ้นเหลือบมองใบหน้าของนาง
ก่อนจะเอ่ยขึ้น "หิวหรือไม่"
เว่ยเยว่ซินส่ายหน้าเบา ๆ "ไม่เพคะ"
โชคดีที่โดยปกตินางก็พูดน้อยอยู่แล้ว เขาจึงมิได้ระแคะระคาย ไม่นาน หมอหลวงจ้าวก็มาถึง กู้เซียวอวิ้นให้ตรวจดูอาการของพระชายาทันที
เว่ยเยว่ซินปรายตามองหมอหลวงนิ่ง ๆ พลางขบคิดในใจ
จ้าวลี่อิง ศิษย์สำนักหมื่นพิษที่เคยลาออกเมื่อหลายปีก่อน เหตุผลในวันนั้น...นางไม่ใส่ใจนัก สำนักหมื่นพิษไม่เคยรั้งใคร
จ้าวลี่อิงจับชีพจรเงียบ ๆ อยู่ครู่ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงมั่นคง "เรียนท่านอ๋อง อาการของพระชายานับว่าปลอดภัยแล้ว ขอเพียงพักฟื้นและบำรุงร่างกายให้ดี ก็จะหายเป็นปกติ"
"ต้องใช้เวลานานแค่ไหน"
"ภายในหนึ่งถึงสองเดือนเพคะ ส่วนโอสถที่ต้องใช้ ข้าจะกลับไปเขียนแจกแจงมาให้ภายหลัง"
ใบหน้าของกู้เซียวอวิ้นผ่อนคลายลงหลายส่วน เขากล่าว
"ขอบคุณท่านหมอจ้าว...ข้าไม่รบกวนท่านแล้ว เด็ก ๆ ส่งท่านหมอหลวงกลับ" ทันใดนั้น บุรุษชราผู้หนึ่งก็เข้ามาพร้อมถุงเงินใบใหญ่ โค้งรับเชิญหมอหลวงออกไป
"ล้วนเป็นหน้าที่ของข้า...ข้าขอตัวเพคะ"
หลังหมอหลวงจ้าวออกไป สาวใช้ก็ถอยตาม
เหลือเพียงกู้เซียวอวิ้นกับเว่ยเยว่ซินสองคนในห้อง เขาเอ่ยในความเงียบ "ข้าต้องขออภัยเจ้า ที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้"
เว่ยเยว่ซินหลับตาลง ท่าทางเหนื่อยล้า
"หม่อมฉันเข้าใจเพคะ...หาได้โทษพระองค์" เห็นสีหน้าของนางยังดูอิดโรย กู้เซียวอวิ้นจึงลุกขึ้นกล่าวเบา ๆ
"พระชายาพักผ่อนเถิด วันหลังข้าจะมาเยี่ยมใหม่"
เขาผงกศีรษะเล็กน้อย ก่อนจะเดินจากไปอย่างเงียบงัน
เว่ยเยว่ซินถอนหายใจอย่างโล่งอกในทันที
นางยังไม่ได้ทบทวนเรื่องราวทั้งหมดให้ชัดเจน ชินอ๋องผู้นี้ฉลาดเฉียบคม หากนางเผลอแม้แต่น้อย...อาจถูกรู้ทัน
ตอนนี้ ถือเป็นโอกาสดีในการพักฟื้น และประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ
...
ค่ำคืนนั้น ม่านชิงเฉียวเริ่มมองเห็นเศษเสี้ยวของบางสิ่งในความทรงจำของเว่ยเยว่ซิน
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่ม่านชิงเฉียวยังเด็กน้อยราวเจ็ดหรือแปดขวบ
นางเคยติดตามบิดาเข้าวังแคว้นต้าเว่ยเพื่อรักษาคนตามราชโองการของฮ่องเต้ขณะรอบิดาในอุทยาน นางได้พบเด็กหญิงงดงามคนหนึ่งในชุดองค์หญิง
งามเกินผู้คน งามประหนึ่งเทพธิดา
ม่านชิงเฉียวผู้หลงใหลในความงาม เดินเข้าไปทักทันที
นางกำนัลที่ติดตามแม้นสงสัย แต่เห็นว่าอีกฝ่ายมีนางกำนัลจากตำหนักฮ่องเต้เคียงข้าง จึงไม่กล้าเอ่ยขัด
"เจ้าชื่ออะไร ข้าชื่อม่านชิงเฉียว"
เด็กหญิงองค์หญิงเงยหน้าขึ้น มองตอบด้วยแววตาใสซื่อ
"ข้า...เว่ยเยว่ซิน"
ม่านชิงเฉียวมองอีกฝ่ายนิ่งครู่ ก่อนขมวดคิ้ว
"เจ้าป่วยหรือ?"
"หมอหลวงบอกว่าเลือดของข้าไม่ดี...คงอยู่ได้อีกไม่นาน"
ม่านชิงเฉียวยิ้ม คล้ายไม่ถือสา
นางคว้าแขนของเว่ยเยว่ซินขึ้นมาจับชีพจร
หลังจากนั้นล้วงขวดโอสถจากในเสื้อออกมายื่นให้
"เอานี่ไปกิน ภายในหนึ่งเดือน โรคที่เจ้าว่า...จะหายเป็นปลิดทิ้ง"
เว่ยเยว่ซินเบิกตากว้าง ไม่อาจเชื่อหูตัวเอง
นางกำนัลข้างกายรีบจะคว้าของออกจากมือองค์หญิง แต่ถูกนางกำนัลข้างกายม่านชิงเฉียวเอ่ยห้ามทันที
"โอสถขวดนั้น แม้เงินหมื่นตำลึงก็หาซื้อไม่ได้! องค์หญิงรีบกล่าวขอบคุณคุณหนูท่านนี้เถิดเพคะ นางคือบุตรสาวของเจ้าสำนักหมื่นพิษ!"
เสียงเงียบลงในทันใด
นางกำนัลของเว่ยเยว่ซินคุกเข่าโดยไม่รีรอ แม้แต่องค์หญิงเว่ยเยว่ซินเอง ก็ยังนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะย่อคารวะ ส่งยิ้มเจิดจ้า
"ขอบคุณท่านมาก"
ม่านชิงเฉียวถึงกับตะลึงในรอยยิ้มงดงามนั้น
นางหลงใหลความงาม...และรอยยิ้มนี้ งามจนนางอดไม่ได้ที่จะมอบโอสถบำรุงอีกขวด
และโอสถนั้น...อาจเป็นต้นเหตุให้องค์หญิงเว่ยเยว่ซินแข็งแรงจนมีชะตาแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างแคว้น
ม่านชิงเฉียวรู้สึกอบอุ่นใจ ที่ความดีเพียงเล็กน้อยของตน อาจเคยเปลี่ยนชะตาคนคนหนึ่ง
หากนี่คือชะตาลิขิต
การได้ครอบครองร่างนี้ ก็เท่ากับได้รับโอกาสชดใช้และสานต่อในเวลาเดียวกัน
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น นางก็ยังอดเสียดายคนงามไม่ได้
...ถึงอีกฝ่ายไม่อยากมีชีวิตอยู่ ส่วนตัวนางยังไม่อยากตาย
และยังมีแค้นต้องสะสาง
นี่คือข้อตกลงที่ลงตัวที่สุดแล้ว
ม่านชิงเฉียวก้าวออกมายืนกลางลานเรือน เงยหน้ามองฟ้า
ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงแน่วแน่
"เว่ยเยว่ซิน...เพื่อตอบแทนร่างอันงดงามนี้ของเจ้า ข้าจะทำตามสัญญาให้ดีที่สุด ให้เจ้าอยู่บนสวรรค์ต้องตะลึงไปเลย"
...และต่อจากนี้ ข้าคือ...เว่ยเยว่ซิน"
ตอนที่ 3 ไม่เรียบเนียน เว่ยเยว่ซินเดินออกมาห้องนอน นางปรายดูเหล่าสาวใช้ที่ยืนอยู่แต่ละจุดพลางครุ่นคิด นางกำนัลที่ติดตามมาองค์หญิงเว่ยเยว่ซินถูกสังหารเสียชีวิตทั้งหมดในเหตุการณ์ครั้งนั้นและคาดว่ากู้เซียวอวิ้นได้เปลี่ยนสาวใช้ในตำหนักนางทั้งหมดเหมือนกัน นางส่งสายตาเรียกสาวใช้ผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ “พระชายามีสิ่งใดให้หม่อมฉันรับใช้หรือเพคะ” เว่ยเยว่ซินยืนกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาพร้อมกล่าว “ข้าต้องการสมุนไพรเหล่านี้...ทั้งส่วนของต้นที่นำไปปลูกและตัวสมุนไพรแห้ง ...เจ้าช่วยเอาไปให้คนที่สามารถจัดการเรื่องนี้ให้ข้าที” สาวใช้รับมาอย่างนอบน้อมกล่าว “เพคะ..” เว่ยเยว่ซินกล่าวต่อ “และจัดหาคนที่แข็งแรงมือไม้คล่องแคล่วมาสักสามสี่คนมาช่วยข้าทำแปลงสมุนไพรด้วย...ได้เรื่องอย่างไรรีบมาแจ้งข้า...ไปได้” “เพคะ...หม่อมฉันจะรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้” จากนั้นนางก็หันไปเรียกคนสาวใช้คนอื่น ๆ “พวกเจ้าตามข้ามา...ไปดูพื้นที่สักหน่อยตรงที่สามารถทำแปลงสมุนไพรได้” ห้องอักษรกู้เซียวอวิ้นกำลังอ่านเอกสารรายงานเกี่ยวกับกองทัพ ได้ย
ตอนที่ 4 เพราะงดงาม นอกจากม่านชิงเฉียว ก็ไม่มีผู้ใดรู้ส่วนผสมของโอสถหยดโลหิตมังกร แม้กระทั่งเจ้าสำนักหมื่นพิษก็ยังหาคำตอบนี้ไม่ได้ เขาพยายามคาดเดาจากข้อมูลสมุนไพรที่บุตรสาวใช้แต่ก็ไม่สามารถสรุปได้ เจ้าสำนักหมื่นพิษคงไม่รู้ว่า เป็นเพราะคาดเดาผิดตั้งแต่แรกว่าจะต้องมีสมุนไพรล้ำค่าและหายาก ทว่าความจริงแล้ว ส่วนผสมของโอสถหยดโลหิตมังกรคือสมุนไพรธรรมดาที่สามารถหาซื้อได้ในร้านขายยาทั่วไป มูลค่าของพวกมันใช้เงินซื้อมาไม่ถึงตำลึงด้วยซ้ำ เว่ยเยว่ซินปรายตามองส่วนผสมที่จัดเตรียมไว้คลี่ยิ้มอย่างพึงพอใจ จากนั้นก็เริ่มปรุงโอสถอีกครั้งและตอนนี้ก็ไม่มีใครสนใจนางเหมือนครั้งแรกที่เริ่มลงมือ พวกเขาต่างคุ้นชินว่านางกำลังปรุงขี้ผึ้งทาผิวอีกแล้วตะวันคล้อยต่ำ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ เว่ยเยว่ซินยิ้มจนตาหยี กลิ่นนี้ถูกต้องแล้ว!! นางหยิบตลับงดงามใบหนึ่งแล้วใส่โอสถที่พึ่งตกผลึกเสร็จใส่ลงไป คราวนี้ก็เหลือแค่ส่งมอบจ้าวลี่อิงยังคงมาตรวจชีพจรให้เว่ยเยว่ซิน ในขณะที่นางกำลังจับชีพจร เว่ยเยว่ซินก็เอ่ยขึ้น “เรียนถามท่านหมอ ช่วงที่ข้
ตอนที่ 5 สร้างชื่อเสียง เฉิงหยวนค่อย ๆ หยดยาลงบนเลือดสีดำม่วง เขาจับจ้องมองสีเลือดที่ค่อย ๆ เปลี่ยนสีมีสีแดงแจมขึ้นมาบ้าง ชายหนุ่มถอนหายใจโล่งอกอย่างแรง แม้จะถอนพิษไม่ได้แต่นับว่ายังดีเฉิงหยวนยุ่งอยู่กับการปรุงโอสถระงับพิษของกู้เซียวอวิ้น หลายวันแล้ว วันนี้คงได้มีเวลาผ่อนคลายบ้าง ขณะกำลังเอนกาย สายตาเหลือบไปเห็นตลับยาที่วางทิ้งเอาไว้ ขบคิดอยู่ครู่หนึ่งก็จำได้ว่าเป็นยาแก้พิษที่มู่เยี่ยนนำมา ชายหนุ่มไม่ได้ใส่ใจเอนกายกำลังจะหลับตาลงสายลมอ่อนพัดโชยกลิ่นหนึ่งเข้ามาแตะจมูก เขาพลันลืมตาเบิกกว้างขึ้น กระโดดลุกขึ้นแล้วเดินไปคว้าตลับยานั้นขึ้นมาดูดวงตาบอกว่าชายหนุ่มตกตะลึงสุดขีด รีบเอาเข็มมาทิ่มเม็ดยาจากนั้นก็รีบทดสอบบางอย่าง เขาจับจ้องมองปฏิกิริยาในถ้วยยาจนเหงื่อหยดเต็มใบหน้าเลือดค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงฉาด อย่างที่ควรเป็น“ไม่น่าเชื่อ...นี่คือยาตัวนั้นจริง ๆ หรือนี่” เฉิงหยวนคว้าตลับตาแล้ววิ่งออกไป องค์รักษ์หน้าห้องมองหมอเทวดาที่มีท่าทีลุกลนด้วยแววตาฉงนห้องอักษร “มู่เยี่ยน ๆ” เสียงตะโกนเรียกอย่างไร้มารยาทในจวนอ๋องดังขึ้นกู้เซียวอวิ้นเงยนหน้าขึ้นมา เอ่ย “นั่นเสีย
ตอนที่ 6 กล่าวส่งเดช กู้เซียวอวิ้นเดินนำหน้าเฉิงหยวนมายังเรือนของเว่ยเยว่ซิน สาวใช้ที่เฝ้าอยู่บริเวณหน้าประตู ชำเลืองมองมาเห็นชายหนุ่มก็รีบเดินมาย่อคารวะ “คารวะท่านอ๋อง” “พระชายาไม่อยู่ในเรือนหรือ?” “เรียนท่านอ๋อง พระชายาอยู่ในเรือนสมุนไพรเพคะ” ได้ยินเช่นนั้น กู้เซียวอวิ้นก็หันกายเดินไปอีกทาง เมื่อเดินเข้าไปใกล้ได้ยินเสียงหัวเราะพูดคุยของหญิงสาวกลุ่มใหญ่คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อย พอไปถึงภาพตรงหน้าชวนให้ตกตะลึงอยู่บ้าง กัวผิงเห็นชิงอ๋องก็ตกใจรีบเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย “คารวะท่านอ๋อง” บ่าวรับใช้พอได้ยินคำนั้นก็ต่างหยุดชะงักทั้งการกระทำและวาจา พวกนางต่างรีบพากันหมอบต่ำไม่กล้าเงยหน้า เกิดความเงียบสงัดขึ้นในทันที เว่ยเยว่ซินเห็นกู้เซียวอวิ้นแววตาก็มีประกายยินดีอย่างไม่ปกติ นางลุกขึ้นทำความเคารพอีกฝ่าย ใบหน้าประดับรอยยิ้มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งอ่อนหวาน “ท่านอ๋องมาเยี่ยมเยือนถึงเรือน ไม่ทราบว่ามีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ” ชายหนุ่มพยักหน้ารับการคำนับอีกฝ่ายแล้วเบี่ยงกายเล็กน้อย พร้อมแนะนำ “
หญิงสาวอรชรผู้หนึ่งกระโจนลงจากหน้าผาท่ามกลางเสียงกระบี่แว่วแผ่วเป็นการหลบหนีจากการตามล่าที่ไม่มีทางรอดหัวหน้าคนชุดดำตะโกนลั่น “ตามลงไป! ตายก็ต้องเห็นศพ!”แต่ยังไม่ทันเคลื่อนไหว ก็มีเงาคนกระซิบเร่งข้างหู“หัวหน้า! มีกำลังคนจำนวนมากกำลังมาทางนี้!”สีหน้าของหัวหน้าคนชุดดำเปลี่ยนไปทันทีเขาตัดสินใจรวดเร็ว “ล่าถอย!”แม้จะรอดจากการตามล่าแต่บาดแผลทั้งภายนอกและภายในก็สาหัสเกินเยียวยาม่านชิงเฉียว หญิงสาวผู้นั้น...สิ้นลมหายใจกลางเงาไม้และเสียงสายลมขณะที่วิญญาณหลุดออกจากร่างนางนั่งเหม่ออยู่กลางความว่างเปล่าไม่มีความเจ็บ ไม่มีเสียงรอบข้างราวกับถูกแขวนลอยอยู่เหนือทุกสิ่งทันใดนั้น...เสียงกระบี่ดังแว่วขึ้นจากด้านบนหน้าผาพร้อมเสียงของสตรีผู้หนึ่งดังกึกก้อง “ข้ายอมตาย!!”ร่างของหญิงงามในชุดสูงศักดิ์พุ่งตกลงมากระแทกสายน้ำเป็นฟองวงกว้าง ไม่นาน...มีหญิงอีกคนกระโจนตามลงมาเสียงร้องเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยความสิ้นหวัง นางคือบ่าวรับใช้คนสนิทม่านชิงเฉียวลุกขึ้น มองเหตุการณ์เบื้องล่างด้วยความสนใจดวงตาสะท้อนภาพสตรีผู้หนึ่งยอมแตกละเอียดดั่งหยกแต่ไม่ยอมเป็นกระเบื้องที่สมบูรณ์ภายในใจของม่านชิงเฉียวเ
ตอนที่ 6 กล่าวส่งเดช กู้เซียวอวิ้นเดินนำหน้าเฉิงหยวนมายังเรือนของเว่ยเยว่ซิน สาวใช้ที่เฝ้าอยู่บริเวณหน้าประตู ชำเลืองมองมาเห็นชายหนุ่มก็รีบเดินมาย่อคารวะ “คารวะท่านอ๋อง” “พระชายาไม่อยู่ในเรือนหรือ?” “เรียนท่านอ๋อง พระชายาอยู่ในเรือนสมุนไพรเพคะ” ได้ยินเช่นนั้น กู้เซียวอวิ้นก็หันกายเดินไปอีกทาง เมื่อเดินเข้าไปใกล้ได้ยินเสียงหัวเราะพูดคุยของหญิงสาวกลุ่มใหญ่คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อย พอไปถึงภาพตรงหน้าชวนให้ตกตะลึงอยู่บ้าง กัวผิงเห็นชิงอ๋องก็ตกใจรีบเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย “คารวะท่านอ๋อง” บ่าวรับใช้พอได้ยินคำนั้นก็ต่างหยุดชะงักทั้งการกระทำและวาจา พวกนางต่างรีบพากันหมอบต่ำไม่กล้าเงยหน้า เกิดความเงียบสงัดขึ้นในทันที เว่ยเยว่ซินเห็นกู้เซียวอวิ้นแววตาก็มีประกายยินดีอย่างไม่ปกติ นางลุกขึ้นทำความเคารพอีกฝ่าย ใบหน้าประดับรอยยิ้มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งอ่อนหวาน “ท่านอ๋องมาเยี่ยมเยือนถึงเรือน ไม่ทราบว่ามีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ” ชายหนุ่มพยักหน้ารับการคำนับอีกฝ่ายแล้วเบี่ยงกายเล็กน้อย พร้อมแนะนำ “
ตอนที่ 5 สร้างชื่อเสียง เฉิงหยวนค่อย ๆ หยดยาลงบนเลือดสีดำม่วง เขาจับจ้องมองสีเลือดที่ค่อย ๆ เปลี่ยนสีมีสีแดงแจมขึ้นมาบ้าง ชายหนุ่มถอนหายใจโล่งอกอย่างแรง แม้จะถอนพิษไม่ได้แต่นับว่ายังดีเฉิงหยวนยุ่งอยู่กับการปรุงโอสถระงับพิษของกู้เซียวอวิ้น หลายวันแล้ว วันนี้คงได้มีเวลาผ่อนคลายบ้าง ขณะกำลังเอนกาย สายตาเหลือบไปเห็นตลับยาที่วางทิ้งเอาไว้ ขบคิดอยู่ครู่หนึ่งก็จำได้ว่าเป็นยาแก้พิษที่มู่เยี่ยนนำมา ชายหนุ่มไม่ได้ใส่ใจเอนกายกำลังจะหลับตาลงสายลมอ่อนพัดโชยกลิ่นหนึ่งเข้ามาแตะจมูก เขาพลันลืมตาเบิกกว้างขึ้น กระโดดลุกขึ้นแล้วเดินไปคว้าตลับยานั้นขึ้นมาดูดวงตาบอกว่าชายหนุ่มตกตะลึงสุดขีด รีบเอาเข็มมาทิ่มเม็ดยาจากนั้นก็รีบทดสอบบางอย่าง เขาจับจ้องมองปฏิกิริยาในถ้วยยาจนเหงื่อหยดเต็มใบหน้าเลือดค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงฉาด อย่างที่ควรเป็น“ไม่น่าเชื่อ...นี่คือยาตัวนั้นจริง ๆ หรือนี่” เฉิงหยวนคว้าตลับตาแล้ววิ่งออกไป องค์รักษ์หน้าห้องมองหมอเทวดาที่มีท่าทีลุกลนด้วยแววตาฉงนห้องอักษร “มู่เยี่ยน ๆ” เสียงตะโกนเรียกอย่างไร้มารยาทในจวนอ๋องดังขึ้นกู้เซียวอวิ้นเงยนหน้าขึ้นมา เอ่ย “นั่นเสีย
ตอนที่ 4 เพราะงดงาม นอกจากม่านชิงเฉียว ก็ไม่มีผู้ใดรู้ส่วนผสมของโอสถหยดโลหิตมังกร แม้กระทั่งเจ้าสำนักหมื่นพิษก็ยังหาคำตอบนี้ไม่ได้ เขาพยายามคาดเดาจากข้อมูลสมุนไพรที่บุตรสาวใช้แต่ก็ไม่สามารถสรุปได้ เจ้าสำนักหมื่นพิษคงไม่รู้ว่า เป็นเพราะคาดเดาผิดตั้งแต่แรกว่าจะต้องมีสมุนไพรล้ำค่าและหายาก ทว่าความจริงแล้ว ส่วนผสมของโอสถหยดโลหิตมังกรคือสมุนไพรธรรมดาที่สามารถหาซื้อได้ในร้านขายยาทั่วไป มูลค่าของพวกมันใช้เงินซื้อมาไม่ถึงตำลึงด้วยซ้ำ เว่ยเยว่ซินปรายตามองส่วนผสมที่จัดเตรียมไว้คลี่ยิ้มอย่างพึงพอใจ จากนั้นก็เริ่มปรุงโอสถอีกครั้งและตอนนี้ก็ไม่มีใครสนใจนางเหมือนครั้งแรกที่เริ่มลงมือ พวกเขาต่างคุ้นชินว่านางกำลังปรุงขี้ผึ้งทาผิวอีกแล้วตะวันคล้อยต่ำ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ เว่ยเยว่ซินยิ้มจนตาหยี กลิ่นนี้ถูกต้องแล้ว!! นางหยิบตลับงดงามใบหนึ่งแล้วใส่โอสถที่พึ่งตกผลึกเสร็จใส่ลงไป คราวนี้ก็เหลือแค่ส่งมอบจ้าวลี่อิงยังคงมาตรวจชีพจรให้เว่ยเยว่ซิน ในขณะที่นางกำลังจับชีพจร เว่ยเยว่ซินก็เอ่ยขึ้น “เรียนถามท่านหมอ ช่วงที่ข้
ตอนที่ 3 ไม่เรียบเนียน เว่ยเยว่ซินเดินออกมาห้องนอน นางปรายดูเหล่าสาวใช้ที่ยืนอยู่แต่ละจุดพลางครุ่นคิด นางกำนัลที่ติดตามมาองค์หญิงเว่ยเยว่ซินถูกสังหารเสียชีวิตทั้งหมดในเหตุการณ์ครั้งนั้นและคาดว่ากู้เซียวอวิ้นได้เปลี่ยนสาวใช้ในตำหนักนางทั้งหมดเหมือนกัน นางส่งสายตาเรียกสาวใช้ผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ “พระชายามีสิ่งใดให้หม่อมฉันรับใช้หรือเพคะ” เว่ยเยว่ซินยืนกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาพร้อมกล่าว “ข้าต้องการสมุนไพรเหล่านี้...ทั้งส่วนของต้นที่นำไปปลูกและตัวสมุนไพรแห้ง ...เจ้าช่วยเอาไปให้คนที่สามารถจัดการเรื่องนี้ให้ข้าที” สาวใช้รับมาอย่างนอบน้อมกล่าว “เพคะ..” เว่ยเยว่ซินกล่าวต่อ “และจัดหาคนที่แข็งแรงมือไม้คล่องแคล่วมาสักสามสี่คนมาช่วยข้าทำแปลงสมุนไพรด้วย...ได้เรื่องอย่างไรรีบมาแจ้งข้า...ไปได้” “เพคะ...หม่อมฉันจะรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้” จากนั้นนางก็หันไปเรียกคนสาวใช้คนอื่น ๆ “พวกเจ้าตามข้ามา...ไปดูพื้นที่สักหน่อยตรงที่สามารถทำแปลงสมุนไพรได้” ห้องอักษรกู้เซียวอวิ้นกำลังอ่านเอกสารรายงานเกี่ยวกับกองทัพ ได้ย
ตอนที่ 2 ชะตาลิขิตม่านชิงเฉียวลืมตาขึ้นในความมืด ทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ จากความทรงจำของเว่ยเยว่ซินอย่างเงียบงันหญิงงามผู้นี้...เกิดมาพร้อมรูปโฉมเหนือสามัญชน หากแต่ชะตากลับอาภัพยิ่งนัก หัวใจของนางแตกสลายเพราะชายคนรักถูกสังหารเพียงเพราะพยายามยับยั้งการแต่งงานทางการเมืองของนางม่านชิงเฉียวทอดถอนใจให้กับโชคชะตาอันน่าเวทนาของอีกฝ่าย ขณะนั้นเอง ประตูห้องถูกเปิดออกอย่างเงียบงัน ร่างสูงของบุรุษผู้หนึ่งก้าวเข้ามา แม้ภายในห้องจะไร้แสงตะเกียง แต่เขาก็มองเห็นว่านางลืมตาตื่นอยู่ฝีเท้าของเขาชะงักเล็กน้อย ดวงหน้าฉายแววโล่งอก เขายกมือโบกให้สาวใช้ออกไป ก่อนจะก้าวเข้ามาอย่างช้า ๆ แล้วนั่งลงที่ขอบเตียง"รู้สึกอย่างไรบ้าง...ยังเจ็บตรงไหนหรือเปล่า" น้ำเสียงของเขาอ่อนโยน พร้อมรอยยิ้มอบอุ่นดุจฤดูใบไม้ผลิม่านชิงเฉียวปรายตามองอีกฝ่าย ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าไร้กลิ่นอายสังหารเฉกเช่นในวันก่อน บัดนี้เขาสวมอาภรณ์หรูหราสีคราม มวยผมรวบขึ้นสูง ครอบด้วยกวานหยก ใบหน้าแลดูหล่อเหลาและสง่างามดุจจันทร์ท่ามกลางสายลมอ่อนนางกะพริบตาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่วเบา "มึนหัวเล็กน้อยเพคะ"นางมิได้โกหก...นางกำลังมึนหัวจริง ๆ เพราะ
หญิงสาวอรชรผู้หนึ่งกระโจนลงจากหน้าผาท่ามกลางเสียงกระบี่แว่วแผ่วเป็นการหลบหนีจากการตามล่าที่ไม่มีทางรอดหัวหน้าคนชุดดำตะโกนลั่น “ตามลงไป! ตายก็ต้องเห็นศพ!”แต่ยังไม่ทันเคลื่อนไหว ก็มีเงาคนกระซิบเร่งข้างหู“หัวหน้า! มีกำลังคนจำนวนมากกำลังมาทางนี้!”สีหน้าของหัวหน้าคนชุดดำเปลี่ยนไปทันทีเขาตัดสินใจรวดเร็ว “ล่าถอย!”แม้จะรอดจากการตามล่าแต่บาดแผลทั้งภายนอกและภายในก็สาหัสเกินเยียวยาม่านชิงเฉียว หญิงสาวผู้นั้น...สิ้นลมหายใจกลางเงาไม้และเสียงสายลมขณะที่วิญญาณหลุดออกจากร่างนางนั่งเหม่ออยู่กลางความว่างเปล่าไม่มีความเจ็บ ไม่มีเสียงรอบข้างราวกับถูกแขวนลอยอยู่เหนือทุกสิ่งทันใดนั้น...เสียงกระบี่ดังแว่วขึ้นจากด้านบนหน้าผาพร้อมเสียงของสตรีผู้หนึ่งดังกึกก้อง “ข้ายอมตาย!!”ร่างของหญิงงามในชุดสูงศักดิ์พุ่งตกลงมากระแทกสายน้ำเป็นฟองวงกว้าง ไม่นาน...มีหญิงอีกคนกระโจนตามลงมาเสียงร้องเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยความสิ้นหวัง นางคือบ่าวรับใช้คนสนิทม่านชิงเฉียวลุกขึ้น มองเหตุการณ์เบื้องล่างด้วยความสนใจดวงตาสะท้อนภาพสตรีผู้หนึ่งยอมแตกละเอียดดั่งหยกแต่ไม่ยอมเป็นกระเบื้องที่สมบูรณ์ภายในใจของม่านชิงเฉียวเ