เย่จิ่งหานพูดทิ้งท้าย โดยไม่สนใจว่านายท่านหลันจะตอบตกลงหรือไม่"ข้าจะพาว่าที่พระชายาของข้ากลับ นายท่านหลันคิดจะขัดขวางรึ?"กู้ชูหน่วนเดินไปข้างกายเย่จิ่งหาน กะพริบตากลมโตอันสดใส และเสริมว่า "ท่านอ๋องของข้าพูดถูกแล้ว จะพาข้า เยี่ยเฟิง และฮองเฮาแห่งแคว้นฉู่กลับ นายท่านหลันคงไม่ขัดขวางใช่หรือไม่?"ชิงเฟิงกับเจี้ยงเสวี่ยหมดคำพูดนายท่านหลันไม่ได้คนโง่ หากมิใช่ความแค้นที่ฝังรากลึก เขาจะไปฆ่าฮองเฮาแห่งแคว้นฉู่ทำไม?ต้องรู้ว่าฮ่องเต้แคว้นฉู่ทรงโปรดฮองเฮาองค์นี้มาก เพื่อนางแล้ว ฮ่องเต้ทำได้ทุกอย่างส่วนเยี่ยเฟิงเขาเป็นบ่าวรับใช้ของนายท่านหลัน การกลับเผ่าหมอพร้อมกับเขาก็สมเหตุสมผลแล้ว หากนายหญิงต้องการพาเยี่ยเฟิงไป ก็ต้องแตกหักกับนายท่านหลันและเผ่าหมอแม้พวกเขาจะไม่กลัวเผ่าหมอ แต่ก็ไม่อยากมีเรื่องแต่ว่าที่พระชายาของพวกเขาช่างยั่วโมโหได้เก่งเหลือเกินชิงเฟิงกับเจี้ยงเสวี่ยคิดว่า นายท่านของพวกเขาคงต้องคัดค้านแน่ๆ แต่ที่ไหนได้ มุมปากของท่านอ๋องกลับยกขึ้นและเผยรอยยิ้มบางๆ อีกด้วยนี่... นี่มันอะไรกันเนี่ย?"นายท่านหลัน ในมือของท่านมีบ่าวรับใช้จำนวนมาก เขาเป็นเพียงหนึ่งในนั้น นายท่านหล
คุยไม่ถูกคอ ครึ่งคำก็มากเกินผู้พิทักษ์ทั้งสามของนายท่านหลันก้าวออกมาข้างหน้า กำปั้นทั้งสองข้างกำแน่นจนกระดูกดังกร็อบแกร็บ บ่งบอกเจตนาที่จะต่อสู้อย่างชัดเจนนายท่านหลันเผชิญหน้ากับเย่จิ่งหานฝูกวงก้าวไปข้างหน้า ต้องการต่อกรกับผู้พิทักษ์ทั้งสามกู้ชูหน่วนดึงฝูกวงกลับ และตะคอกว่า "ชิงเฟิงเจี้ยงเสวี่ยยังอยู่ที่นี่ ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า อย่าคิดทำตัวโดดเด่นกว่าพวกเขา"ชิงเฟิงกับเจี้ยงเสวี่ยขมวดคิ้วพร้อมกันคุณหนูสามกู้หมายความว่าอย่างไร?เห็นพวกเขาเป็นแรงงานให้เปล่า?คนที่นายท่านหลันต้องการคือตัวนางต่างหากฝูกวงงงงัน "นายหญิง ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่ ข้าคนเดียวก็รับมือกับสามคนได้""ในการต่อสู้ครั้งที่แล้วเจ้าไม่ได้รับบาดเจ็บรึ? ยืนอยู่เฉยๆ ห้ามขยับไปไหน"เมื่อเห็นสายตาที่กู้ชูหน่วนส่งมา ฝูกวงก็เข้าใจในสิ่งที่นางต้องการ เขากุมหน้าอกของตัวเองทันที ขมวดคิ้วและเอ่ยว่า "โอ๊ย หน้าอกของข้าเจ็บมาก พลังภายในร่างกายก็ไม่สามารถดึงขึ้นได้"ทุกคนหมดคำพูดการแสดงนี้ เห็นพวกเขาเป็นคนโง่หรืออย่างไร?กู้ชูหน่วนตะโกนเสียงดัง "ท่านอ๋อง เมื่อครู่นายท่านหลันบอกว่าขาของท่านใช้การไม่ได้ ขาที่สามก็ทั้ง
นายท่านหลันเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "เจ้าแน่ใจหรือ?""แน่ใจ" เซวี่ยซากวาดสายตามองกู้ชูหน่วน น้ำเสียงของเขาหนักแน่นเขาไม่รู้ว่าทำไมนายท่านของเขาถึงดีกับกู้ชูหน่วนมากนัก ถึงกับส่งเขามาเตือนนายท่านหลันด้วยตัวเอง เพื่อไม่ให้นายท่านหลันทำร้ายนางแม้แต่ปลายเล็บนายท่านหลันไม่พอใจ มองกู้ชูหน่วนอย่างโกรธเคือง จากนั้นก็มองไปยังเยี่ยเฟิงที่ดูเย็นชาและผอมแห้งอย่างคลุมเครือ แล้วยิ้มเยาะเอ่ย"เสี่ยวเฟิงเอ๋อร์โตแล้ว ปีกกล้าขาแข็ง แม้แต่คำสั่งของข้าก็ยังกล้าขัดขืน"เยี่ยเฟิงรู้สึกเย็นเยือกไปทั่วตัว เขาไม่กล้ามองนายท่านหลัน ทำได้เพียงก้มศีรษะลงนายท่านหลันโน้มตัวเข้าใกล้เยี่ยเฟิงด้วยรอยยิ้มที่เหมือนไม่ยิ้ม "เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าในไม่ช้าเจ้าจะกลับไปยังเขาหมายวิญญาณอย่างเชื่อฟัง ขอร้องให้ข้าเก็บเจ้าไว้"ร่างกายของเยี่ยเฟิงสั่นอย่างรุนแรง สีหน้าของเขาซีดขาวไม่รอให้เขาได้ตอบโต้ นายท่านหลันและผู้พิทักษ์ทั้งสี่ก็จากไป ทิ้งไว้เพียงความวุ่นวายและผู้คนที่ไม่เชื่อสายตาเยี่ยเฟิงสติหลุดเป็นเวลานาน ในหัวของเขานึกถึงคำพูดของนายท่านหลันอยู่ตลอดเวลาไม่ช้าเขาจะกลับไปยังเขาหมายวิญญาณอย่างเชื่อฟัง ขอร้องให้เ
ฮองเฮาฉู่รู้สึกว่าขอบตาของนางแดงขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ นางมีน้ำตารื้นที่หางตา แต่ก็ยังคงฝืนยิ้มออกมา "หากเจ้าไม่รังเกียจ ก็ถือว่าข้าเป็นแม่ของเจ้าได้ เมื่อใดที่เจ้าเหนื่อยล้า หรืออ่อนแอ สามารถมาหาข้าได้ทุกเมื่อ"ร่างกายของเยี่ยเฟิงแข็งทื่อเขาพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะกลั้นน้ำตาของตัวเองเอาไว้"ขอบคุณฮูหยินที่เมตตา แต่เยี่ยเฟิงไม่มีวาสนาที่จะได้รับสิ่งนี้"เขาเป็นคนสกปรกและอัปมงคล ใครที่อยู่กับเขา มักไม่มีจุดจบที่ดีการที่นางพูดเช่นนี้กับเขาได้ เขาก็มีความสุขและพอใจมากแล้วเมื่อได้ยินเช่นนั้น ฮองเฮาฉู่ก็รู้สึกหวิวๆ ในใจ นางรู้สึกเอ็นดูเยี่ยเฟิงอย่างบอกไม่ถูก แม้ว่าเยี่ยเฟิงจะขมวดคิ้ว นางก็ยังรู้สึกเจ็บปวดราวกับมีเข็มทิ่มแทงหัวใจโดยเฉพาะเมื่อเห็นเขาพยายามอย่างหนักที่จะอดทน......ความสงสัยในใจของนางก็ผุดขึ้นมาอีกครั้งฮองเฮาฉู่ถามขึ้นอีกครั้งว่า "เจ้าอายุสิบเก้าปีจริงๆ หรือ? เจ้าบอกว่าเจ้าเป็นเด็กกำพร้า เช่นนั้นเจ้าจำผิดไปหรือไม่ หรือว่ามีใครบอกเจ้าผิด?""แม่เฒ่าของข้าไม่โกหกข้าหรอก""แล้วเจ้าเกิดเดือนอะไร? เกิดในฤดูใบไม้ร่วงหรือไม่?""ไม่ใช่ ข้าเกิดในฤดูใบไม้ผลิ"กู้ชูหน่
สำหรับกู้ชูหน่วน ทุกครั้งที่ได้พบกัน เขาแทบอยากจะบีบคอนางให้ตายแต่ทุกครั้ง เขาก็ใจอ่อนในที่สุด เย่จิ่งหานก็ตวาด "จับตัวกู้ชูหน่วนมาให้ได้ หากทำไม่ได้ พวกเจ้าก็ไม่ต้องกลับมา""ขอรับ"เย่จิ่งหานเหลือบมองฮองเฮาฉู่ที่ดูเสียใจมาก ก่อนจะจากไปด้วยความโกรธฮองเฮาฉู่เนื้อตัวสั่นพลางเอ่ยว่า "ใครก็ได้ ใครก็ได้เข้ามาที""ฮูหยิน......""สืบมา สืบมาให้หมด ข้าอยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับชาติกำเนิดของเยี่ยเฟิงทั้งหมด ห้ามตกหล่นแม้แต่ข้อมูลเดียว""พ่ะย่ะค่ะ""ออกเดินทางไปเสี่ยวเหอชุนเร็ว""พ่ะย่ะค่ะ......"วัดไป๋อวิ๋นเป็นวัดใหญ่ที่สุดในเมืองชิงหงเมื่อครู่ยังคงมีผู้คนจำนวนมากรวมตัวกัน แต่ในชั่วพริบตา พวกเขาก็หายตัวไปจนหมดสิ้นบนถนนสายหลักที่มุ่งหน้าไปยังเสี่ยวเหอชุน มีรถม้าสองคันแล่นไปด้วยความเร็วโดยมียอดฝีมือขี่ม้าเร็วหลายสิบนายอยู่รอบนอกพวกเขาเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ ดวงตาคมกริบ และม้าที่ขี่ก็เป็นม้าเหงื่อโลหิตทั้งหมด ดูไม่ธรรมดาเลยสักตัวรถม้าคันแรกมีกู้ชูหน่วนและเย่จิ่งหานนั่งอยู่ ส่วนรถม้าคันที่สองมีเยี่ยเฟิงนั่งอยู่ส่วนรถม้าคันที่สองมีเยี่ยเฟิงนั่งอยู่เยี่ยเฟิงกระวนกระวายใจ แทบอ
ดวงตาของเย่จิ่งหานที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยเหลือบมองนางอย่างเย็นชา และในดวงตาที่ลุ่มลึกราวกับบึงน้ำเย็นนั้น ปรากฏเปลวเพลิงแห่งความโกรธแค้นกำลังก่อตัวทุกคนไม่สงสัยเลยว่า หากมีใครจุดประกายเปลวไฟนั้นเล็กน้อยจะลุกลามกลายเป็นไฟป่าที่ไม่อาจควบคุมได้"รู้หรือไม่ว่าเจ้าพูดอะไรออกมา?" เสียงทุ้มต่ำนั้นแฝงไปด้วยคำเตือนกู้ชูหน่วนยิ้ม และเปลี่ยนท่าทีอย่างกะทันหัน นางเข้าไปกอดขาของเย่จิ่งหานอย่างไม่ทันตั้งตัว พร้อมกับเผยรอยยิ้มอันออดอ้อนของสาวน้อยบนใบหน้า"รู้สิ ไม่ได้เจอกันนาน คิดถึงท่านมาก"คำพูดง่ายๆ เพียงประโยคเดียว ราวกับน้ำเย็นที่ดับไฟโกรธของเย่จิ่งหานลงไปได้มาก"ท่านอ๋อง อย่าโกรธเลย ขมวดคิ้วบ่อยๆ จะแก่เร็วนะ""ปล่อยมือ" เย่จิ่งหานตะคอก"ไม่ปล่อย ไม่ปล่อย" กู้ชูหน่วนเอ่ยพร้อมกับกอดขาแน่นขึ้นไปอีก และยังเอาแก้มแนบไปกับขาของเขาด้วย"……""ปกติเจ้าทำเช่นนี้กับผู้ชายคนอื่นด้วยหรือ""ไม่เคย ข้าทำเช่นนี้กับท่านคนเดียว""เหอ...... อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้าไปทำอะไรมาบ้างนะ" เย่จิ่งหานไม่ได้สะบัดนางออกไป แม้ว่าเขาจะยังโกรธอยู่ แต่สีหน้าของเขาก็ไม่ได้มืดมัวและน่ากลัวเหมือนเมื่อครู่"ข้าทำ
กู้ชูหน่วนโต้แย้งอย่างเที่ยงธรรมและหนักแน่น "จะเป็นไปได้อย่างไร เยี่ยเฟิงมีภูมิหลังที่น่าสงสารมาก ใครๆ ที่ได้เห็นก็คงรู้สึกสะเทือนใจ ข้าแค่ถือว่าเขาเป็นเพื่อนเท่านั้น""จริงหรือ? แล้วเซียวอวี่เชียนล่ะ?""นั่นสหายของข้า""อี้เฉินเฟยล่ะ?""นั่นพี่น้องของข้า""ซือม่อเฟยล่ะ?""นั่นน้องชายของข้า""ซ่างกวานฉู่ล่ะ""นั่นคือ......อาจารย์ของข้า"กู้ชูหน่วนอยากจะพูดว่าสหาย แต่ครุ่นคิดดูแล้วรู้สึกว่าไม่เหมาะสม จึงเปลี่ยนเป็นอาจารย์ไม่พูดถึงซ่างกวานฉู่ก็คงจะดี พูดถึงซ่างกวานฉู่แล้ว กู้ชูหน่วนก็คิดถึงความงามของเขาขึ้นมา"หึ......คบคนโน้นคนนี้ไปทั่ว"เย่จิ่งหานหัวเราะเยาะอย่างเย็นชาไม่นับก็ไม่รู้ หากลองนับดู ผู้ชายหล่อๆ รอบตัวนางนั้นมีเป็นกอง และยังมีอีกหลายคนที่เขาไม่ได้พูดถึง เช่นพวกฝูกวง"ท่านอ๋อง ท่านถามในสิ่งที่ท่านควรถามหมดแล้ว ควรรีบส่งคนไปที่เสี่ยวเหอชุนหรือไม่? หากไปช้า เกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นมาจะทำอย่างไร?""ไม่ไป""ไม่ไปจริงๆ หรือ?"กู้ชูหน่วนรวบแขนเสื้อขึ้น หว่างคิ้วของนางเต็มไปด้วยความโกรธเพื่อที่จะให้เขาเพิ่มคนไปที่เสี่ยวเหอชุน นางพูดคุยกับเขาอยู่ที่นี่นานมาก น้ำลายข
ร่างของมนุษย์นอนตายเกลื่อนพื้น กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น เลือดสดไหลซึมออกจากร่างของพวกเขาอย่างช้าๆ รวมตัวกันเป็นสายน้ำไหลผ่านเท้าของพวกเขาหมู่บ้านถูกเผาทำลาย มองไปทางไหนก็ไม่พบกระท่อมที่สมบูรณ์สักหลัง อีกาหลายตัวเกาะอยู่บนกระเบื้อง ส่งเสียงร้องกากๆ ดังลั่นกู้ชูหน่วนเจ็บปวดมากศพเหล่านั้นมีเจ้าของร้านขายบะหมี่ มีผู้ใหญ่บ้าน และคนอื่นๆ ที่นางคุ้นเคยรวมอยู่ด้วย ทุกคนถูกฟันด้วยมีดนับสิบครั้ง เลือดไหลหมดตัวจนตาย แม้แต่คนชราอายุแปดสิบปีและทารกในอ้อมอกก็ไม่เว้นนี่เป็นโศกนาฏกรรมของมนุษย์มือของกู้ชูหน่วนกำแน่นจนได้ยินเสียงกระดูกดังกร๊อบแกร๊บใบหน้าของเยี่ยเฟิงซีดขาวจนไม่มีเลือด เขาแทบไม่อยากมองร่างเหล่านั้น ทุกคนที่นี่ปฏิบัติต่อเขาเหมือนญาติสนิทเขาวิ่งโซเซ กลับไปที่บ้านของตัวเอง พึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ"แม่เฒ่า......แม่เฒ่า......"ฝ่ามือของกู้ชูหน่วนสั่นเทา ตะโกนเสียงดัง "เซียวอวี่เชียน เซียวอวี่เชียน อยู่ที่ไหน......หากยังไม่ตายก็ส่งเสียงออกมา"กู้ชูหน่วนมองหาร่างของเซียวอวี่เชียนในกองศพ พร้อมกับตะโกนเสียงดัง ขณะนี้ นางไม่เหลือความเย่อหยิ่งในอดีตแล้ว และมีแต่ความกลัว
“เจ้าจงไปตายเสียเถิด” ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเยี่ยเฟิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาดึงดาบออกมาอย่างแรง เลือดสีแดงสดของนายท่านหลันพุ่งทะลักไปทั่ว สาดกระเซ็นมาบนใบหน้าขาวซีดของเยี่ยเฟิง ทำให้สายตาของเขาเลือนลาง ทว่าวินานี้ เยี่ยเฟิงกลับเห็นชัดแจ้งกว่าผู้ใด ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นคู่นั้นสะท้อนสีหน้าตกตะลึงของนายท่านหลัน “เจ้ากล้าฆ่าข้าเลยรึ...เจ้าคือผู้ที่ฆ่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต เหตุใดถึงกล้าฆ่าข้าได้ เฮือก...” สิ่งที่ตอบแทนนายท่านหลันกลับมาคือการแทงด้วยกระบี่เข้าไปอีกครั้งอย่างไร้เยื่อใยจากเยี่ยเฟิง นายท่านหลันถูกแทงติดกันสองครั้ง ร่างกายเจ็บปวดราวกับใจจะขาด แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพียงแค่จ้องมองเยี่ยเฟิงด้วยความโกรธแค้น จากความรู้สึกเหลือเชื่อในตอนแรก กลายเป็นปวดร้าว ไปจนถึงโกรธเกลียด เยี่ยเฟิงแสยะหัวเราะเบาๆ “ข้าคือผู้ที่เจ้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต ? เลี้ยงดูงั้นรึ เหอะ...เลี้ยงดูที่เจ้าหมายถึงคือทรมานข้าทุกวันทุกเวลา หน้าหนาวปล่อยให้ข้านอนเปลือยกาย หิวโหยอยู่บนพื้นหิมะ หน้าร้อนแขวนข้าไว้ใต้แสงอาทิตย์ไม่ให้กินดื่มเป็นเวลาหลายวัน ทั้งยังลงโทษอย่างหน
นายท่านหลันที่เดิมก็กระสับกระส่ายจนทำอะไรไม่ถูก เพราะการเข้ามามีส่วนร่วมของกู้ชูหน่วน ทำให้มีบาดแผลเพิ่มขึ้นอีกหลายแผล "ฟึบ..." อาวุธลับของกู้ชูหน่วนเชื่องช้า ทว่าพุ่งออกมากลางอากาศแล้วความเร็วกับเพิ่มกะทันหัน พริบตาเดียวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว อาวุธพุ่งเข้าที่หน้าอกของนายท่านหลัน ฝังลึกในร่างกาย เขาอยากจะตอบโต้ ทว่ากลับถูกต้อนจนจนมุม ไม่มีช่องว่างให้โจมตีกลับได้เลยแม้แต่น้อย ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย นายท่านหลันรู้สึกสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม หวังแค่ว่านายท่านหมู่ตานและคนอื่นๆ จะรีบมาถึงโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาคงต้องจบลงตรงนี้แล้ว กู้ชูหน่วนและอี้เฉินเฟยยิ่งร้อนรน ลำพังเพียงแค่เขาคนใดคนหนึ่งต่างก็ไม่อาจสังหารนายท่านหลันได้ ยามนี้วิทยายุทธของกู้ชูหน่วนแข็งแกร่งไม่พอ อี้เฉินเฟยทั้งเจ็บสาหัสและป่วยหนัก เว้นเสียแต่พวกเขาร่วมมือกัน แต่บาดแผลของอี้เฉินเฟยรุนแรงเกินไป อาจต้านทานไม่ไหวได้ทุกเมื่อ หากเขาทนไม่ไหว เช่นนั้นสถานการณ์การต่อสู้ครั้งนี้จะพลิกผันทันที เสียงขลุ่ยเปลี่ยนไป ราวกับกลองรบคำราม กึกก้องหนักแน่น ดาบที่พุ่งใส่นายท่านหล
ใบหูของกู้ชูหน่วนพลันกระดิก นางรับรู้ได้ถึงไอสังหารของนายท่านหลันแล้ว เพียงแต่ความเร็วของนางยังไม่เปลี่ยน ยังคงรวบรวมกำลังภายในทั้งหมดกระแทกใส่นายท่านเถาฮวา สองนายท่านแห่งกองธงร่วมมือกันโจมตี นางถูกหนีบอยู่ตรงกลาง ไม่มีหนทางจะชนะได้เลย หากเป็นเช่นนี้ ไม่สู้จัดการไปทีละคน สังหารนายท่านเถาฮวาก่อน ค่อยหันไปจัดการนายท่านหลัน ขณะเดียวกัน นางเองก็เชื่อ เชื่อว่าอี้เฉินเฟยไม่มีทางปล่อยให้นางตายอย่างทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของนายท่านหลัน "เฮือก..." นายท่านเถาฮวาไม่มีที่ให้หลบได้อีก ถูกพลังจากฝ่ามือของกู้ชูหน่วนโจมตี ร่างกายราวกับว่าวที่สายขาด กระเด็ดกลับไป สุดท้ายชนเข้ากับหินก้อนโตอย่างแรง เลือดอาบหินก้อนนั้นจนชุ่ม ความเร็วของกู้ชูหน่วนยังไม่เปลี่ยน ถีบลูกเตะออกไปทำให้นายท่านเถาฮวาพลัดตกหน้าผาร่วงไปยังทะเลโลหิตด้านล่าง ความแข็งแกร่งของนางอยู่เพียงแค่ขั้นหนึ่งชั้นกลาง แต่พละกำลังที่นางระเบิดออกมากลับแกร่งกว่าขั้นสอง นายท่านเถาฮวาผู้น่าสงสารจึงต้องตายไปเพราะกู้ชูหน่วนที่วิทยายุทธด้อยกว่าเขามาก ขณะเดียวกัน กระบวนท่าไม้ตายของนายท่านหลันก็พุ่งเข้ามาถึง อี้เฉินเฟยยกมือขวาขึ้นมา
"ในเมื่อเจ้าพูดยากขนาดนี้ เช่นนั้นก็คงต้องทำลายแก้วมังกรทิ้งเสีย ถึงอย่างไรหากต้องตาย มีแก้วมังกรฝังไปด้วยกันก็ไม่เลว" กู้ชูหน่วนพูดพลางเล็งอาวุธลับไปที่ดอกกุหลาบอีกครั้ง นายท่านหลันหน้าถอดสีอย่างรุนแรง นางผู้นี้ไม่เคยทำอย่างที่คนปกติเขาทำกันเลย หากนางยิงแก้วมังกรบนดอกกุหลาบร่วงลงทะเลโลหิตจริง เช่นนั้นก็จะกลายเป็นความสูญเสียที่ไม่อาจย้อนกลับคืนมาได้อีก แม้อี้เฉินเฟยจะรู้ว่ากู้ชูหน่วนไม่มีทางทำให้แก้วมังกรร่วงหล่นทะเลโลหิตไปจริงๆ แต่เห็นแล้วก็ยังรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอยู่ดี "ผลไม้สีแดงเพลิงของที่นี่มีฤทธิ์ในการรักษาอาการบาดเจ็บ เพียงแค่กินเข้าไปไม่กี่ลูก ก็จะสามารถฟื้นฟูได้ ซึ่งก็คือผลไม้ในมือเจ้าเมื่อครู่นั่นแหละ" "เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าผลไม้นี่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้" "กู้ชูหน่วน ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าถามให้มากนัก" เขาจะบอกกู้ชูหน่วนได้อย่างไรว่า เขาไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เพราะความหิว จึงเด็ดผลไม้มากิน คิดไม่ถึงว่าวิทยายุทธจะได้รับการฟื้นฟูกลับมาแบบงงๆ กู้ชูหน่วนคลี่ยิ้มมีเลศนัยให้เขา เช็ดผลไม้ในมือ ก่อนจะยื่นให้อี้เฉินเฟยพลางจ้องมองนายท่านหลันด้วยท่าทีระวังตั
ไม่ไกลออกไป มีเสียงอาวุธกระทบดังขึ้นมาไม่หยุด หลังจากนั้นก็มีเสียงหินแตกกระจายและระเบิดในที่สุด กู้ชูหน่วนถือผลไม้สีแดงเพลิงที่เพิ่งเด็ดออกมาจากต้นเอาไว้ในมือ พลางฟังเสียงความเคลื่อนไหวอย่างละเอียด "มีเสียงกางและหุบพัด ทั้งยังมีเสียงอาวุธลับกลีบดอกไม้อีกบางส่วน น่าหลันหลิงรั่วกำลังต่อสู้กับนายท่านหมู่ตานเผ่าหมอ น่าแปลก คนเผ่าหมอบาดเจ็บหนักไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงได้มีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ น่าหลันหลิงรั่วอาจจะสู้พวกเขาไม่ได้" กู้ชูหน่วนพึมพำคนเดียว นางอยากไปดูด้วยตัวเอง ทว่าอี้เฉินเฟยยังอาการสาหัสขนาดนั้น หากฝืนประครองเขาไป มีแต่จะทำให้อาการเขาแย่กว่าเดิม แต่น่าหลันหลิงรั่วหากไม่ใช่เพราะช่วยนาง ก็คงไม่ต้องตกลงมายังที่แห่งนี้ แม้อี้เฉินเฟยจะบาดเจ็บสาหัสทั้งยังป่วยหนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะฟังอะไรไม่ออกเลย สามารถใช้พลังกระแทกหินก้อนโตให้แตกได้เป็นก้อนๆ ต่อให้พละกำลังยังไม่ฟื้นฟูกลับมาทั้งหมด แต่เกรงว่าจะกลับมาถึงเจ็ดแปดส่วนแล้ว นายท่านหมู่ตานและนายท่านเถาฮวาล้อมโจมตีน่าหลันหลิงรั่ว กลัวแต่ว่าน่าหลันหลิงรั่วจะสู้พวกเขาไม่ไหว อี้เฉินเฟยเอ่ยอย่างเบาแรง "คนที่เจ้
กู้ชูหน่วนฟังด้วยความมึนงง ในเมื่อเกิดมาสูงศักดิ์ เหตุใดถึงได้ถูกปฏิบัติด้วยเช่นนั้น "เป็นหน้าที่แบบใดกันแน่" "หน้าที่ที่หนักมาก หนักอึ้งเสียจนหายใจไม่ออก" "เช่นนั้นตอนนี้นางอยู่ที่ใด" "ข้าก็ไม่รู้ว่านางไปอยู่ที่ใดแล้ว แต่ข้าเชื่อ ว่าอีกไม่นานนางจะกลับมา แค่กแค่ก..." ไม่รู้เพราะพูดมากเกินไปหรือไม่ อี้เฉินเฟยไอออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง พลังชีวิตในร่างหายไปอย่างรวดเร็ว กู้ชูหน่วนเริ่มร้อนใจ คำถามมากมายที่กระจุกอยู่ภายในใจไม่อาจถามได้อีกต่อไป ทำได้เพียงแค่เอ่ยออกไป "ท่านอย่าเพิ่งพูดเลย พักผ่อนเถอะ" "อาหน่วน...หากวันใดที่ข้าไม่อยู่แล้ว เจ้าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างดี" "ท่านพูดเหลวไหลอะไร ท่านดูสิ ข้าพบแก้วมังกรเขียวแล้ว พวกท่านหาพบสี่ลูกแล้วไม่ใช่หรือ บวกกับลูกนี้ก็เป็นห้า ขอแค่หาเพิ่มอีกสองลูก อาการป่วยของท่านก็จะรักษาหายแล้ว" กู้ชูหน่วนหยิบแก้วมังกรขนาดเท่าไข่นกพิราบออกมา ดวงตาใสเป็นประกายฉายแววยิ้ม ดวงตาของอี้เฉินเฟยกำลังยิ้ม ทว่าในใจกลับขมขื่น แก้วมังกรลูกเดียว ต้องใช้ความพยายามของคนตั้งกี่รุ่น ถึงจะเจอเบาะแส หาง่ายเช่นนั้นเสียเมื่อไหร่ แก้วมังกรลู
ก้นหลุมดำ ลมพัดจนพวกเขาวิงเวียนศีรษะ กลิ้งตุปัดตุเป๋ สุดท้ายก็ถูกทุ่มลงไปบนพื้นอย่างแรง กู้ชูหน่วนเกือบจะเป็นลมสลบไป โชคดีที่พื้นอ่อนนุ่ม ไม่เช่นนั้นนางคงต้องตายไปแล้ว ทันใดนั้น นางรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ทันทีที่ลืมตาขึ้นมากลับพบว่าไม่ได้อยู่บนพื้นที่อ่อนนุ่ม แต่ล้มลงบนร่างของชายหนุ่มผมขาวชุดขาวคนหนึ่ง กู้ชูหน่วนรู้สึกบีบคั้นหัวใจ รีบประครองเขาขึ้นมา "พี่ใหญ่อี้เฟย ท่านตื่นขึ้นมาสิ..." กู้ชูหน่วนเอื้อมมือออกไป กลับสัมผัสโดนของเหนียวข้นบางอย่าง เมื่อจ้องมองดูดีๆ จะเป็นอะไรไปได้อีกนอกจากเลือด มุมปากของอี้เฉินเฟยมีเลือดซึม บนร่างโดนหินมีคมบาดจนเป็นแผลทั้งตัว ชุดสีขาวดุจหิมะถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด พื้นที่มืดดำ ใบหน้าของเขาซีดขาว ไร้ซึ่งเลือดฝาด เพียงแต่บนใบหน้าที่อ่อนโยนยังคงคลี่ยิ้มปลอบโยน เอ่ยอย่างอ่อนแรง "เจ้าไม่เป็นไรก็พอ" กู้ชูหน่วนขอบตาแดงก่ำในชั่วพริบตา "ท่านมันโง่เสียจริง เหตุใดถึงดีกับข้าขนาดนี้ ข้ามีอะไรควรค่าให้ท่านช่วยเหลือด้วยชีวิตเช่นนี้" "เพราะ...เจ้าคือน้องสาวของข้า..." "ท่านเจ็บหนักมาก อย่าเพิ่งพูดเลย ข้าจะช่วยท่านรักษาอาการบาดเจ็บ" "ไม่...ไม่
มือของกู้ชูหน่วนกำอาวุธลับไว้แน่น มือข้างหนึ่งรวบรวมกำลังภายในทั้งร่างให้ขึ้นไปถึงขั้นสูงสุด พร้อมจะรับท่าไม้ตายของพวกเขาทุกเมื่อ น่าหลันหลิงรั่วเองก็ยืนอยู่ข้างกายกู้ชูหน่วนในทันที พร้อมจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับนาง แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ท่าไม้ตายเหล่านั้นยังไม่ทันมาถึงตัวนาง ก็ถูกใครบางคนสลายไปเสียก่อน มีคนอีกกลุ่มอยู่ในสระโลหิต คนกลุ่มนั้นมีผ้าคลุมสีขาว แขนเสื้อปักตัวอักษร "อวี้" คนเหล่านี้มีทั้งวัยชราและหนุ่มสาว พละกำลังกำลังแข็งแกร่ง เผ่าเทียนเฝินและเผ่าหมอร่วมมือกันก็ยังไม่อาจทำให้พวกเขาเสียเปรียบได้ "เผ่าอวี้...หายสาบสูญไปหลายพันปี ในที่สุดพวกเจ้าก็โผล่มาแล้ว" คนเผ่าเทียนเฝินต่างก็ตกตะลึง จ้องมองไปที่พวกเขาอย่างไม่ประสงค์ดี บรรยากาศมาคุขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันมานาน ต่างก็เกิดอาการฉุนเฉียวกันอย่างแรง "ทุกชีวิตที่สูญเสียไปเป็นพันปี วันนี้ถึงเวลาสะสางกันแล้ว" ผู้เฒ่าผมขาวคนหนึ่งของเผ่าอวี้กัดฟันกรอด เค้นออกมาหนึ่งประโยค ดวงตาของเขาแดงก่ำ อยากจะฆ่าคนเผ่าเทียนเฝินให้เกลี้ยงเสียเดี๋ยวนั้น กู้ชูหน่วนหันไปทางน่าหลันหลิงรั่ว "เผ่าอ
ผู้อาวุโสระดับสูงแข็งแกร่งนัก ผู้อาวุโสฮวาต้านไว้ไม่อยู่ ถูกโต้กลับจนเจ็บหนัก ทันทีที่พัดสีดำของน่าหลันหลิงรั่วพลิกกลับ อาวุธลับนับสิบออกมาพร้อมกัน ทว่าถูกผู้อาวุโสระดับสูงของเผ่าเทียนเฝินต้านไว้จนกระเด็นออกไปหมด แม้แต่อาวุธลับของกู้ชูหน่วนก็กระเด็นออกไปพร้อมกัน “ฟิ้ว...” ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสระดับสูงเคลื่อนไหวเช่นไร แต่เขาไปถึงด้านบนเสาดอกบัวเรียบร้อยแล้ว เขาผลึกกำลังภายในไว้ในมือ สลายพลังคุ้มกันรอบเสาดอกบัว น่าหลันหลิงรั่วเห็นเช่นนั้น พัดในมือราวกับมีจิตวิญญาณ คนและพัดประสานเป็นหนึ่งเดียว พุ่งเข้าไปด้วยความรวดเร็ว "ปัง ปัง ปัง......" เพียงพริบตาเดียว ทั้งสองคนต่อสู้กันไปหลายกระบวนท่า ท่วงท่าของพวกเขาเร็วเกินไป ทำให้กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าพวกเขาใช้กระบวนท่าอะไรบ้าง เห็นเพียงแค่ผู้อาวุโสระดับสูงกดน่าหลันหลิงรัวเสียอยู่หมัดอย่างรางๆ "ปัง......" หลังจากที่กระแทกฝ่ามือเข้าด้วยกัน ทั้งสองคนแยกออกจากกัน น่าหลันหลิงรั่วเจ็บหนัก เลือดไหลออกทางมุมปาก เขาเลียเลือดที่มุมปากด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ คิดจะบุกเข้าไปอีกครั้ง ทว่ากู้ชูหน่วนขวางเขาเอาไว้ "ตาแก่วิทยายุทธแข็งแกร่งมาก ขืนฝืนบุ