Share

บทที่ 4

Author: เย่ชิงขวง
หลังจากกลับมาถึงห้อง กู้ชูหน่วนปลดผ้าคลุมหน้าออก เมื่อเห็นใบหน้าขี้เหร่เป็นหลุมเป็นบ่อของตัวเองก็กินข้าวไม่ลง

เพียงเถ้าธุลี

พิษที่นางโดนเรียกว่าเพียงเถ้าธุลี เธอถอนได้ เพียงแค่ต้องใช้ยาหลายชนิด มีสองชนิดที่ค่อนข้างหายาก

กู้ชูหน่วนนึกย้อนในความทรงจำ แต่กลับหาไม่เจอว่าใครเป็นคนวางยานาง

ในความทรงจำ ก่อนอายุได้สิบขวบนางก็หน้าตาน่ารักน่าชัง หลังจากสิบขวบก็ถูกผึ้งต่อยครั้งหนึ่ง ทั้งใบหน้าก็เริ่มเน่าเฟะ จนสุดท้ายก็กลายเป็นผีเดินได้แบบนี้

อ๋อ พิษผึ้ง...

ให้มันได้อย่างนี้สิ

"คุณหนูเจ้าคะ ครั้งนี้เรามีเรื่องกับอี๋เหนียงห้ากับคุณหนูห้าเข้าแล้วจริงๆ หากนางมาหาเรื่องเราอีกจะทำอย่างไรเจ้าคะ? ไม่อย่างนั้น พวกเราไปขอร้องเจ๋ออ๋อง ให้เจ๋ออ๋องช่วยพวกเราดีไหมเจ้าคะ"

"สาวอนุหนึ่งกับลูกสายตรงหนึ่ง เจ้าต้องกลัวขนาดนั้นเชียวหรือ?"

ชิวเอ๋อร์ตกใจ "คุณหนูของบ่าว อี๋เหนียงห้าเป็นถึงคนโปรดของนายท่านเชียวนะเจ้าคะ ฐานะของนางในจวนนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าฮูหยินใหญ่เลย หากนางอยากจะบีบเราให้ตาย ยังง่ายยิ่งกว่าขยี้มดตัวหนึ่งอีกเจ้าค่ะ"

"วางใจเถิด แค่พวกนางสองคนไม่มีทางทำอะไรเราได้หรอก"

"คุณหนูเจ้าคะ หลังจากท่านกลับมาครั้งนี้ ข้ารู้สึกเหมือนว่ามีอะไรเปลี่ยนไป"

"อืม... มีเนื้องอกขึ้นมา หรือว่ามีเนื้อตรงไหนแหว่งไปล่ะ"

ชิวเอ๋อร์ขยับเข้ามาใกล้พลางมานางหัวจรดเท้า "ข้าทาสเองก็บอกไม่ถูก แต่เหมือนว่าคุณหนู...บ้าบิ่นยิ่งขึ้น"

"แบบนี้เรียกว่าบ้าบิ่นแล้วหรือ?"

"แน่นอนสิเจ้าคะ ก่อนหน้านี้แค่คุณหนูเห็นคุณหนูห้ากับอี๋เหนียงห้า ก็กลัวจนแทบไม่กล้าเงยแล้ว แต่ยามนี้คุณหนูถึงขั้นกล้าเถึยงพวกนางด้วยซ้ำ"

"ไปเอาเงินทั้งหมดของข้าออกมา"

"คุณหนู พวกเรามีเงินเสียที่ไหนเจ้าคะ ปิ่นปักผมบนหัวท่าน ใช้เงินเดือนของข้าทาสซื้อมาด้วยซ้ำ ข้าปวดใจนัก"

กู้ชูหน่วนชะงักไป "ข้ามิใช่คุณหนูสายหลักหรอกหรือ? เจ้าอย่าบอกนะว่าข้าไม่มีเงินแม้แต่เหวินเดียว"

"ฮูหยินใหญ่ไม่ให้เงินเราแม้แต่เหวินเดียวมาหลายปีแล้วเจ้าค่ะ แต่ก็ใช่ว่าเราจะไม่เงินเลย"

ให้ตายสิ

นี่มันคุณหนูสามสายตรงแบบไหน ชีวิตน่าสงสารเกินไปหรือเปล่า

ชิวเอ๋อร์ล้วงเงินหนึ่งร้อยเหวินออกมาจากตัวแล้วยื่นให้ตรงหน้ากู้ชูหน่วน เอ่ยปลอบใจ "คุณหนู ข้าทาสยังมีเงินอยู่บ้าง ให้ท่านทั้งหมดเลย หากสิ้นเดือนข้าทาสได้เงินเดือนมาเมื่อใดจะยกให้คุณหนูหมดเช่นกัน"

กู้ชูหน่วนมองรอยยิ้มจริงใจนั้น ในใจก็พลันอุ่นซ่านขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

เจ้าของร่างเดิมใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่ข้างกายนางกลับมีสาวใข้อย่างชิวเอ๋อร์คนเดียวที่ซื่อสัตย์ ไม่รู้ว่านางโชคดีหรือโชคร้าย

"วันหลังหากไม่มีคนอยู่ เจ้าไม่ต้องเรียกตัวเองว่าข้าทาสแล้ว"

ชิวเอ๋อร์ส่ายหน้าอย่างรู้สึกผิด "คุณหนูบอกข้าหลายหนแล้ว ข้าลืมอยู่เรื่อย จากนี้ข้าจะจำขึ้นใจ คุณหนูเจ้าคะ ท่านยังขาดเงินอีกเท่าใด ข้าจะไปยืมคนอื่นมาให้"

"ไม่ต้องหรอก เจ้าเก็บเอาไว้เถอะ"

จากความทรงจำในหัวของเธอ ในเมืองนี้มีคนรู้วิชาการแพทย์น้อยมาก ยาก็แพงแสนแพง แค่ของธรรมดาอย่างยาห้ามเลือดยังต้องใช้เงินหลายตำลึง เงินหนึ่งร้อยเหวินเอามาแคะฟันยังไม่ได้เลย จะพอให้เธอซื้อยารักษาหน้าได้อย่างไร?

ดูท่าแล้วเธอคงต้องหาเงินจากทางอื่น

"คุณหนู ข้าจะไปต้มน้ำให้นะเจ้าคะ"

ชิวเอ๋อร์ยิ้ม หิ้วกาน้ำแล้วเดินจากไป ไม่นานก็กระวีกระวาดวิ่งกลับมา เอ่ยเสียงตื่นเต้นดีใจ "คุณหนู ข้าได้ยินพี่ชุนเฉ่าในครัวบอกว่า เจ๋ออ๋องเสด็จเจ้าค่ะ"

"เจ๋ออ๋องเสด็จหรือ?" กู้ชูหน่วนเลิกคิ้ว นางยังไม่ทันไปหาเขา เขากลับมาหาเองถึงที่

ชิวเอ๋อร์ดีอกดีใจ ค้นหีบรื้อตู้ช่วยนางเลือกเสื้อผ้า "คุณหนู ท่านว่าสวมชุดใดดีเจ้าคะ? ชุดนี้ดีไหม? อืม ไม่ได้ เรียบเกินไป เช่นนั้นชุดนี้ไหมเจ้าคะ สีสดหน่อย"

เมื่อมองเสื้อผ้าในหีบ ชิวเอ๋อร์ก็ปวดใจ

แม้คุณหนูจะเป็นคุณหนูสายตรง แต่เสื้อผ้าของนางนั้น อย่าว่าแต่คุณหนูสายรองเลย ยังเทียบไม่ได้กับสาวใช้ด้วยซ้ำ เลือกไปเลือกมาก็มีแค่ไม่กี่ชุด

เรียวนิ้วขาวของกู้ชูหน่วนเลือกอย่างขอไปที เป็นชุดลายหูลายตาสีสดที่ถูกซุกอยู่ใต้หีบ มุมปากยกขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ "ชุดนี้ละกัน"

ชิวเอ๋อร์ตกใจจนผงะ ราวกับไม่เชื่อสายตาตัวเอง "คุณหนู ท่านเลือกผิดหรือเปล่า นี่มันชุดแสดงละครนะเจ้าคะ"

"เจ้าจะรู้อะไร"

"แต่ว่า..."

ชิวเอ๋อร์อยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็ถูกนางไล่ออกไปแล้ว เมื่อกู้ชูหน่วนเปิดประตูอีกครั้ง นางก็ถึงกับนึกอยากตาย

คุณหนูของนางแม้จะขี้เหร่ไปบ้าง แต่รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ยามสวมชุดแสดงละครในตอนนี้ นอกจากจะมองไม่เห็นรูปร่างแล้ว กลับกันยังดูหลวมโพรก ไม่เหมาะกับกาลเทศะ

เครื่องประดับบนหัวยิ่งแล้วใหญ่ ปักตั้งหนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า ดอกโบตั๋นทั้งหมดห้าดอก

"ชิวเอ๋อร์ ข้าสวยหรือไม่?"

กู้ชูหน่วนขยิบตาให้นาง ยิ้มอย่างมีเลศนัย

ชิวเอ๋อร์ตกใจจนแทบเป็นลมล้มพับไป นางน้ำตารื้น "คุณหนูเจ้าคะ เราอย่าก่อเรื่องเลยเจ้าค่ะ นานทีเจ๋ออ๋องจะเสด็จจวนเราสักหน ครานี้อาจจะมาสู่ขอก็ได้"

"ไปกัน ไปหาว่าที่คู่หมั้นของข้ากัน"

"คุณหนู ท่านเปลี่ยนชุดเถอะเจ้าค่ะ ข้าแต่งตัวให้ท่านใหม่แล้วค่อยออกไปกัน"

"แต่งตัวอะไรอีกเล่า บางทีเจ๋ออ๋องอาจจะชอบแบบนี้ก็ได้ ข้าว่าชุดนี้เหมาะกับข้าดีออก"

เดินวนไปมาบนระเบียงอยู่หลายหน กู้ชูหน่วนถึงได้เห็นเจ๋ออ๋องที่กำลังดื่มชาอยู่ที่ศาลารับลมกลางสวนดอกไม้

เพราะอีกฝ่ายหันหลัง กู้ชูหน่วนจึงไม่รู้ว่าเขาหน้าตาเป็นอย่างไร แต่เพียงเห็นแค่แผ่นหลัง ด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์หรูหรา และมาดองอาจของเจ๋ออ๋อง ดูท่าแล้วหน้าตาคงไม่แย่

ข้างเขายังมีน้องห้า น้องเจ็ดของเธอ และเด็กหนุ่มอีกคนหนึ่ง

เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา สวมชุดยาวสีฟ้า ประดับเข็มขัดหยกที่เอว ในมือถือพัดหยก รอยยิ้มบางแต้มบนใบหน้า ไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน

ชิวเอ๋อร์บ่นอุบอิบ "ทุกครั้งที่เจ๋ออ๋องเสด็จ คุณหนูห้ากับคุณหนูเจ็ดมักจะเกาะแกะเจ๋ออ๋องไม่ห่าง พวกนางอยากเป็นที่โปรดปรานของเจ๋ออ๋อง คุณหนู ประเดี๋ยวข้าแต่งตัวให้ท่านแล้ว ท่านก็ไปเอาใจเจ๋ออ๋องสักหน่อย จะยอมยกเจ๋ออ๋องให้พวกนางไม่ได้"

กู้ชูหน่วนยิ้มลำพองใจ

แต่ก่อนมีแต่คนอื่นที่เอาใจเธอ แต่คนที่เธอต้องเอาใจนั้นคงยังไม่เกิดมั้ง

"เจ๋ออ๋อง ท่านคิดถึงข้าหรือเพคะ ถึงได้เสด็จมาหาข้าที่จวน"

เสียงของกู้ชูหน่วนดังลั่น ประกอบนางในชุดการแสดงหลวมโพรกที่กระโจนเข้าใส่เจ๋ออ๋อง ทุกคนต่างตกใจเพราะการกระทำนั้น

ชิวเอ๋อร์ปิดตา นางไม่กล้าแม้แต่จะมองสีหน้าของเจ๋ออ๋อง

"เจ้าเป็นใคร?"

เจ๋ออ๋องเบี่ยงตัวหลบในทันใด มองหญิงสาวสวมชุดลายพร้อยตรงหน้าด้วยยิ้มบางแฝงความขุ่นเคือง

"ข้าคือคู่หมั้นของท่านอย่างไรเล่า เจ๋ออ๋อง ท่านไม่ได้เสด็จมาที่จวนนานมากแล้ว ข้าจะพาท่านเดินเที่ยวเอง พวกเราจะได้กระชับความสัมพันธ์กันด้วย"

กู้ชูหน่วนเล่นหูเล่นตา นางในชุดตัวโคร่งสีแดงเขียวฉูดฉาด บวกกับดอกโบตั๋นห้าดอกบนหัว ดูแล้วเหมือนนกยูงรำแพนหางอย่างไรอย่างนั้น ไร้รสนิยมเสียไม่มี

"โอ้โห... ฮ่าๆ...เจ๋ออ๋อง ดูท่าแล้วคู่หมั้นของท่านนั้นไม่เหมือนใครจริงๆ"

ชายหนุ่มในชุดสีฟ้า เซียวอวี่เชียนหัวเราะยกใหญ่เสียจนตัวงอ

วันนี้เขาเพิ่งรู้ว่าเหตุใดเจ๋ออ๋องถึงได้อยากถอนหมั้นให้เร็วที่สุด รสนิยมเช่นนี้ ใช่ว่าจะถูกใจคนทั่วไป

กู้ชูหลันและกู้ชูฉิงชะงักไป ผ่านไปครู่หนึ่งกว่าจะได้สติกลับมา

พี่สาวของนางอาการบ้ากำเริบอีกแล้วหรือไร? แต่งตัวแบบนี้ตั้งใจจะให้คนกลัวหรือ
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 566

    ลูกธนูทั้งสิบดอก ล้วนแต่พุ่งเข้ากลางเป้า ทุกคนต่างก็ตะลึงตาค้าง โดยเฉพาะองค์หญิงตังตังและฮ่องเต้เย่ที่สติหลุด ทำอะไรไม่ถูกอยู่พักใหญ่ เอาแต่มองกู้ชูหน่วนสะบัดมือตนเองแล้วพึมพำอะไรบางอย่างคนเดียว "ธนูนี่จะหนักเกินไปหรือเปล่า ทำเอาข้าปวดแขนไปหมด องค์หญิงตังตัง ธนูสิบดอก ดูเหมือนจะเข้าเป้าทุกดอกเลย ด่านแรกข้าชนะแล้วสินะ" องค์หญิงตังตังพลันได้สติทันที "จะได้ใจไปใย ยังเหลือการแข่งอีกสองด่าน" "เช่นนั้นเจ้าก็ตั้งโจทย์มาเลย รีบๆ แข่งให้จบ ข้าจะได้เลือกเครื่องประดับมาไว้ติดตัว" "ข้อที่สอง ยังคงเป็นธนูสิบลูก เพียงแค่เจ้ายิงให้เข้ากลางเป้าอีกครั้ง เจ้าก็จะชนะ แต่ว่า ครั้งนี้บนกระดานจะมีเหรึยญกษาปณ์ทองแดงแขวนเอาไว้ อีกทั้งเหรียญทั้งสิบจะส่ายไปมา หัวลูกศรของเจ้าต้องทะลุเหรียญกษาปณ์ทองแดง สุดท้ายพุ่งเข้ากลางเป้าพอดี" ซี้ดดด... ทั้งงานเดือดระอุ นี่จะยากเกินไปหรือเปล่า องค์หญิงตังตังหาเรื่องกลั่นแกล้งผู้อื่นแบบโจ่งแจ้งชัดเจน และเกินว่าเหตุไปหน่อยกระมัง แม้แต่ไทเฮาและฮ่องเต้เย่ก็ทนดูไม่ได้จนต้องเอ่ยเตือน "องค์หญิง เอาแต่พอดีเถอะ" "นางบอกเองว่าจะแข่งกับข้า ข้าไม่ได้ขอร้อ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 565

    กู้ชูหน่วนเอ่ย "เช่นนั้นหากข้าชนะล่ะ องค์หญิงจะทำเช่นไร" "เช่นนั้นเจ้าต้องการให้ข้าทำอย่างไร" "องค์หญิงเอ่ยเช่นนี้ อย่างไรข้าก็เป็นอาสะใภ้ของเจ้า หรือหากข้าชนะเจ้าแล้ว ต้องให้เจ้าคลานเข่าร้องเสียงเช่นสุนัขเหมือนกันหรือ" ประโยคนี้ กำลังแอบแดกดันว่าองค์หญิงตังตังคิดเล็กคิดน้อย และใจแคบ องค์หญิงตังตังอาจจะไม่รู้ถึงนัยยะแฝงของประโยคที่นางพูด แต่ไทเฮาเข้าใจทุกอย่าง นิ้วที่เห็นข้อต่อชัดเจนกำแน่นจนเสียงดังแกรบโดยไม่รู้ตัว "เอาเช่นนี้แล้วกัน หากเจ้าแพ้ ข้าจะขอของหนึ่งชิ้นจากในตำหนักองค์หญิงของเจ้า ถือเป็นรางวัลชนะเดิมพัน" "เจ้าต้องการสิ่งใดจากข้า" "องค์หญิงตื่นตระหนกขนาดนี้ คงไม่ได้คิดว่าข้าจะเอาชีวิตองค์หญิงกระมัง ข้าไม่ได้ไร้สาระขนาดนั้นหรอก ของที่ข้าต้องการง่ายนิดเดียว เจ้าให้ได้เป็นแน่" องค์หญิงตังตังตั้งใจฟัง นางหลงกลกู้ชูหน่วนมาหลายหนแล้ว หากไม่ระบุของชนะเดิมพันมาให้ชัดเจน นางไม่มีทางรับปากส่งๆ เด็ดขาด ทว่ากลับเห็นกู้ชูหน่วนมองที่ข้อมือและสร้อยคอที่ว่างเปล่าของตนเอง พลางเอ่ยด้วยความหมองหม่น "พวกท่านแต่ละคนล้วนแต่สวมใส่สร้อยแหวนเงินทอง บนตัวข้ากลับว่างเปล่า ไ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 564

    กู้ชูหน่วนคว้ามือที่ฟาดลงมาของนางเอาไว้ เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม "องค์หญิงตังตัง ลงมือทำร้ายผู้ใหญ่ จะถูกฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ เอาได้นะ" "บังอาจ เจ้ากล้าแช่งให้ข้าถูกฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ หรือ" "หากเจ้าไม่ทำร้ายผู้ใหญ่ จะถูกฟ้าผ่าได้อย่างไร สวรรค์คงจะอวยพรเจ้าเสียด้วยซ้ำ" "ตังตัง" ไทเฮาตะโกนเสียงขรึม ฝีปากของกู้ชูหน่วน นางได้เห็นมากับตาตั้งแต่แรกแล้ว ต่อให้คนทุกคนที่นี่รวมกัน ก็ไม่อาจสู้ฝีปากนั่นของนางได้ "ทำความเคารพเสด็จอาของเจ้าเสีย" "เสด็จแม่..." องค์หญิงตังตังอารมณ์พลันหมองหม่นลงไปในพริบตา หากไม่ใช่เพราะกู้ชูหน่วนใช้กลอุบาย นางไม่มีทางเสียเงินมากมายขนาดนั้นประมูลคัมภีร์ซือจิงไร้ประโยชน์มาจากลานประมูลเฟิงเซียงหรอก ที่น่าเจ็บใจที่สุดคือ นางไม่มีเงิน องค์หญิงผู้ยิ่งใหญ่ กลับถูกลานประมูลเฟิงเซียงจับตัว ช่างน่าขายหน้ายิ่งนัก ที่น่าหงุดหงิดยิ่งกว่าคือ หลังจากเกิดเรื่อง นางจะไปหาเรื่องลานประมูลเฟิงเซียง แต่เสด็จแม่และเสด็จพี่ต่างก็บอกให้นางอดนทน บอกว่าลานประมูลเฟิงเซียงมีอิทธิพลนัก ไม่จำเป็นอย่าไปมีเรื่องด้วย "รีบทำความเคารพสิ" ใบหน้าขององค์หญิงตังตังราวกับถูกย้อมด้วย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 563

    "กู้ชูหน่วน เจ้าบังอาจนัก" "ใครใช้ให้ข้าเป็นอาสะใภ้ของท่านล่ะ ใครใช้ให้ข้าเป็นชายาของเทพสงครามล่ะ ข้าถึงได้มีสิทธิ์ที่จะอวดี สามหาวอย่างไรเล่า หากท่านไม่พอใจ ก็ไปหาเย่จิ่งหานได้เลย" หากไม่ใช่เพราะฐานะของนาง ฮ่องเต้เย่อยากจะมอบผ้าขาว ให้นางปลิดชีพตนเองเสียงตรงนั้นให้รู้แล้วรู้รอด ทันใดนั้น เขาก็พลันนึกขึ้นมาได้ "เหมือนข้าจะคิดออกแล้ว เป็นองค์หญิงตังตัง ตอนเด็ก ที่สวมอยู่บนคอขององค์หญิงตังตังก็คือดวงตารูปหัวใจ สีแดงราวกับเลือด ใครหลายคนต่างก็หัวเราะเยาะนาง ต่อมาองค์หญิงตังตังกริ้วหนัก จึงไม่สวมสร้อยเส้นนั้นอีกเลย ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยได้เห็นอีก" "เช่นนั้น ความหมายของท่านคือ ดวงตารูปหัวใจอยู่ที่องค์หญิงตังตังหรือ" "โดยทั่วไปควรจะเป็นเช่นนั้น แต่ด้วยนิสัยขององค์หญิงตังตัง หากนางไม่ชอบสิ่งใด ก็จะโยนทิ้งไปทันที สร้อยเส้นนั้นไม่รู้ว่าถูกนางทิ้งไปหรือยัง" "วันนี้เป็นพิธีปฏิญาณตนเป็นผู้ใหญ่ขององค์หญิงตังตังใช่หรือไม่" "ใช่...ใช่น่ะสิ" "ไป พวกเราไปดูกัน" "เมื่อกี้เจ้าบอกเองไม่ใช่หรือ ขอเพียงแค่ช่วยเจ้าตามหาดวงตารูปหัวใจให้พบ เจ้าจะช่วยขับไล่กองทัพออกไปน่ะ" "ใช่น่ะสิ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 562

    "หรือเย่จิ่งหานต้องการจะเห็นข้าสิ้นแผ่นดินเช่นนั้นรึ เขาเองก็เป็นเสด็จอาแห่งแคว้นเย่" "นั่นสิ เพราะเขาคือเสด็จอาของแคว้นเย่ ฉะนั้นหลังจากที่แคว้นเย่สิ้นแผ่นดินแล้ว เขาก็จะปลุกระดมกองทัพอีกครั้ง ตีแคว้นหวาจนพ่ายแพ้ออกไป ถึงเวลานั้น หากเขาคิดจะนั่งบังลังก์ฮ่องเต้ ก็เป็นเรื่องที่ถูกหลักธรรมนองคลองธรรม ผู้ใดก็ไม่กล้าฝ่าฝืน ส่วนท่าน ก็จะกลายเป็นเด็กถูกทิ้งคนนั้นไป" ฮ่องเต้เย่มีคำพูดมากมายอยากจะตอกนางกลับไป ทว่ากลับคิดเหตุผลที่จะหยุดนางได้ไม่ออก กู้ชูหน่วนพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง "ฉะนั้น ไม่สู้ท่านเลือกที่จะเชื่อข้า ข้ารับประกันว่าจะต้องทำให้เย่จิ่งหานออกมาจัดการแคว้นหวาได้ ทำให้แคว้นเย่ของพวกเรามั่นคงปลอดภัย" "เย่จิ่งหานจะฟังเจ้าหรือ" "แน่นอน เชื่อว่าฝ่าบาทคงเคยได้ยินว่าท่านอ๋องโปรดปรานข้าเพียงใด" "แต่เหตุใดเจ้าต้องช่วยข้าด้วย" เขารู้สึกอยู่ตลอดว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล แต่คิดไปคิดมา ก็คิดไม่ออกว่าเป็นเรื่องใดกันแน่ "ข้ากำลังตั้งท้องของเทพสงครามอยู่ไม่ใช่หรือ หลายวันก่อนข้าฝัน ฝันเห็นว่าเจ้าแม่กวนอิมมาดลบันดาล บอกว่าเทพสงครามฆ่าคนมามากนัก พลังชั่วร้ายหนักหนาเกินไป ลูกจะ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 561

    กู้ชูหน่วนแคะหู พลางบ่นพึมพำอย่างเหลืออด "หนวกหู" "สามหาว ข้าคือฮ่องเต้แห่งแคว้นเย่ ประมุขผู้มีอำนาจสูงสุด เจ้าบังอาจกล้าไม่เคารพข้าเช่นนี้ ใครก็ได้ เข้ามา อ้ะ..." กู้ชูหน่วนสองมือกอดอก ท่าทางสบายๆ ไม่ทุกข์ร้อน "ฮ่องเต้ ข้าขอเตือนท่านว่า ก่อนจะตะโกนเรียกใคร คิดดูให้ดีๆ เสียก่อน ต่อให้ท่านเรียกเหล่าองครักษ์มาทั้งหมด ในฐานะที่ข้าเป็นชายาเอกของเทพสงคราม พวกเขาจะกล้าจัดการข้าหรือ" "เจ้า......" ฮ่องเต้หงุดหงิด นางผู้นี้ จงใจขู่เขาชัดๆ เพราะการตะโกนเสียงดังของเขา ทำให้เหล่าองครักษ์ตื่นตกใจ พากันเข้ามาคุกเข่าตรงหน้า "กระหม่อมถวายบังคมฝ่าบาท ขอพระองค์อายุยืนหมื่นปีหมื่นหมื่นปี ไม่ทราบว่าฝ่าบาททรงตะโกนเรียกกระหม่อมเพราะ..." องครักษ์ผู้เป็นหัวหน้าแอบเหลือบมองกู้ชูหน่วนปราดหนึ่ง มือพลอยกำด้ามดาบโดยไม่รู้ตัว "ข้าเรียกพวกเจ้าเสียเมื่อไหร่ เป็นถึงองครักษ์แห่งราชสำนัก หูพวกเจ้าแต่ละคนเป็นเช่นนี้ แล้วข้าจะวางใจให้พวกเจ้าคุ้มกันความปลอดภัยข้าได้อย่างไร" "พะยะค่ะๆๆ......" "ยังไม่รีบออกไปอีก" "พะยะค่ะ....." กลุ่มองครักษ์หลายคนเข้ามา แล้วออกไป เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นรวดเร็วใ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status