Share

บทที่ 5

Author: เย่ชิงขวง
หากเป็นแต่ก่อน พวกนางคงตวาดลั่นไปแล้ว แต่เพราะวันนี้เจ๋ออ๋องอยู่ด้วย พวกนางคงอยากจะฆ่ากู้ชูหน่วนให้ตายไปเสีย

กู้ชูหลันจงใจตำหนิเสียงเบา "ท่านพี่ เหตุใดท่านถึงได้แต่งตัวเช่นนี้อีกแล้ว ต่อหน้าเจ๋ออ๋อง ท่านจะทำอะไรตามใจเช่นนี้ไม่ได้ เจ๋ออ๋อง ท่านพี่เป็นเช่นนี้อยู่บ่อยๆ ขอท่านอย่าได้ถือโทษเลยนะเพคะ"

กู้ชูหน่วนกลอกตา

อีกแล้วอะไรเล่า?

เสียบริสุทธิ์แล้ว แต่นางยังมีหน้ามาเกาะแกะเจ๋ออ๋องอีก ไม่รู้ว่าไปเอาความมั่นใจมาจากไหน

"น้องสาว เจ้าก็พูดเสีย เพราะรู้ว่าเจ๋ออ๋องจะเสด็จ ข้าถึงได้ตั้งใจแต่งตัว พวกเจ้าดูชุดข้าสิ สวยหรือไม่"

สวย?

ทุกคนอยากจะสำรอก

"เจ๋ออ๋อง พวกเราก็ถึงวัยเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว เมื่อไหร่ท่านถึงจะมาสู่ขอข้าอย่างเป็นทางการที่บ้านสักที"

กู้ชูหน่วนกระแซะเข้าไปใกล้เจ๋ออ๋อง จงใจแสร้งล้มเซ ผ้าคลุมบนใบหน้าปลิวไปตามลม เผยใบหน้าแสนอัปลักษณ์อันน่าเกลียดน่ากลัวให้เจ๋ออ๋องได้เห็นเต็มตา

เจ๋ออ๋องตกใจจนถอยกรูไปหลายก้าว หัวใจเต้นถี่รัว

นั่นมันใบหน้าอัปลักษณ์แบบใดกัน บนหน้าเป็นหลุมเป็นบ่อ ไม่ว่าจะแนวตั้งแนวขวางก็มีแต่ตุ่มหนองเล็กใหญ่เต็มไปหมด ไร้ซึ่งพื้นที่ว่าง

และที่น่าขยะแขยงที่สุดก็คือ นางฉาบแป้งหนาเตอะและชาดสีสดบนตุ่มหนอง เหมือนผีไม่มีผิด

เมื่อเห็นใบหน้านั้น เจ๋ออ๋องเกือบอ้วกออกมา บนใบหน้าหล่อเหลาที่สำรวมมาตลอดมีแต่ความรังเกียจ

"กู้ชูหน่วน ข้าขอบอกเจ้าเลยว่า หากข้าจะสู่ขอผู้ใดนั้นคงไม่ใช่เจ้า ข้าจะไปขอราชโอการจากฮ่องเต้ ให้การหมั้นหมายของเราสองเป็นโมฆะ จากนี้ไปเจ้าอย่าได้รังควานข้าอีก"

"การหมั้นหมายของเราฮ่องเต้พระองค์ก่อนเป็นผู้พระราชทาน เกรงว่าฮ่องเต้จะไม่มีอำนาจยกเลิกการหมั้นหมายนี้ เจ๋ออ๋อง ข้าว่าเราสองคนก็ปล่อยไปเลยตามเลยเถอะ จะได้มิต้องลำบากตัวเอง"

แต่ไหนแต่ไรนางนั้นไม่สู้คน ยามพบเขายังไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้า ทว่ายามนี้กลับพูดจาเย่อหยิ่ง เจ๋ออ๋องโมโหจนสั่นไปทั้งตัว

นางหญิงอัปลักษณ์นี่ นางคิดจะกัดเรื่องการหมั้นหมายครั้งนี้ไม่ปล่อยเลยหรือ?

"เจ้ารอรับราชโองการยกเลิกการหมั้นได้เลย"

เจ๋ออ๋องหน้าดำคล้ำเครียด สะบัดแขนเสื้อเดินจากไป ปล่อยให้คนที่เหลืออ้าปากตาค้าง

กู้ชูฉิงรีบตามติด เอ่ยฉอเลาะ "เจ๋ออ๋องเพคะ ข้าเองก็คิดว่าท่านพี่ไม่คู่ควรกับท่าน ข้าเห็นด้วยหากท่านจะยกเลิกการหมั้นหมาย"

กู้ชูหลันเสแสร้งยิ้มเอ่ย "ท่านพี่ แม้เจ๋ออ๋องจะไม่แต่งงานกับท่าน ท่านอย่าได้เศร้าใจไปเลย ด้วยอำนาจของตระกูลเรา ต่อให้ท่านจะขี้เหร่ไปสักหน่อย แต่ก็ยังมีคนมากมายอยากสู่ขอท่าน"

กู้ชูหน่วนนั่งลงบนตั่ง หยิบองุ่นบนโต๊ะขึ้นมา ก่อนจะกินอย่างเอร็ดอร่อย ปากก็เอ่ยประโยคหนึ่งออกมาอย่างไม่แยแส

"ใช่แล้ว ต่อให้เจ๋ออ๋องจะไม่แต่งงานกับข้า เขาก็คงไม่แต่งงานกับเจ้าเช่นกัน และแน่นอนว่าตระกูลขุนนางสูงศักดิ์เหล่านั้นก็ยิ่งไม่มีทางมาสู่ขอลูกสาวสายรองที่เสียบริสุทธิ์แล้วมาเป็นภรรยาเช่นกัน "

"เจ้า..."

กู้ชูหลันโกรธจนหน้าดำหน้าแดง

ท่านพ่อย้ำแล้วว่าให้ปิดเรื่องที่นางเสียบริสุทธิ์แล้วเป็นความลับ แต่นางกลับพูดออกมาต่อหน้าท่านชายเซียว จากนี้ไปนางจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

กู้ชูหน่วนเพิ่งรู้ตัว ตะเบ็งเสียงดัง "โอ๊ะ ข้าเกือบลืมไปแล้ว ท่านพ่อบอกว่าห้ามพูดเรื่องที่เจ้าเริงรมกับบ่าวรับใช้ ไม่เช่นนั้นวันหน้าเจ้าจะขายไม่ออก วางใจเถิด ข้าไม่พูดแน่นอน เรื่องที่เจ้าเริงรมกับบ่าวหลายคนในคราเดียวก็ยิ่งไม่มีทางพูดแน่"

เซียวอวี่เชียนเอ่ยเสียงตกตะลึง "ว่าอย่างไรนะ เริงรมกับบ่าวหลายคนในคราวเดียว? จริงรึ? โลดโผนเกินไปแล้ว"

กู้ชูหลันโกรธจนสั่นไปทั้งตัว นางไม่กล้าแต่แม้จะมองสีหน้าตกตะลึงแกมเหน็บแนมของเซียวอวี่เชียน

"กู้ชูหน่วน แค้นระหว่างเรา สักวันหนึ่งข้าจะคิดบัญชีทบตันทบดอก คอยดูเถอะ"

"วางใจเถิด ข้าจำได้อยู่แล้ว เจ้าเองก็อย่าลืมว่าตัวเองเสียบริสุทธิ์แล้ว อย่าได้คิดตะเกียกตะกายชุบตัวเป็นหงส์ มิเช่นนั้นวันหน้าจะไม่เหลือแม้แต่ชีวิต"

กู้ชูหลันกระทืบเท้า เดินตึงตังออกไป

มุมปากของเซียวอวี่เชียนยกขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ หัวเราะพลางเอ่ยกระทบกระเทียบ "หญิงอย่างเจ้าหน้าตาไม่เท่าไร แต่ฝีปากใช้ได้นี่"

กู้ชูหน่วนคร้านแม้แต่จะปรายตามองเขา สนใจก็แต่ขนมแกล้มน้ำชา

เซียวอวี่เชียนคิดว่านางอับอายที่ถูกถอนหมั้นต่อหน้าคนอื่น แถมแม่เด็กนี่ยังหน้าตาอัปลักษณ์ คนถูกคนหัวเราะเยาะเป็นนิจ

น้ำเสียงของเขาอ่อนลง เอ่ยปลอบ "อันที่จริงแล้วเจ้าไม่ต้องเศร้าไปหรอก บนแผ่นดินนี้ยังมีชายอื่นนอกจากเจ๋ออ๋อง ผู้ชายดีๆ มีถมไป อย่างเช่นข้า"

กู้ชูหน่วนเลิกคิ้ว "เจ้าจะสู่ขอข้ารึ"

"เฮือก..."

เซียวอวี่เชียนแทบจะสำลักน้ำลายตัวเอง "ข้ามิได้หมายความเช่นนั้น ข้าหมายถึงบนแผ่นนี้ยังมีชายหนุ่มอีกมากมาย เจ้าไม่จำเป็นต้องปักใจเพียงแค่ข้าหรือเจ๋ออ๋อง"

กู้ชูหน่วนโอบบ่าเขา ใช้ใบหน้าขี้เหร่ของตัวเองลอยไปลอยมาตรงหน้าเขา "พ่อหนุ่ม ยิ่งมองข้าก็ยิ่งถูกใจเจ้า เช่นนั้นพวกเราสองคนมาแต่งงานกันให้เสียสิ้นเรื่อง"

เซียวอวี่เชียนตกใจจนทรุดลง ล้มลุกคุกคลานกนีจากจวนอัครเสนาบดี ปากยังคงร้องตะโกนอย่างหวาดกลัว "คุณหนูสามงามทั้งกายและใจ อ่อนหวานกตัญญู แต่ข้านั้นเป็นแค่ท่านชายที่รักสนุกไปวันๆ มองอย่างไรพวกเราก็ไม่เหมาะสมกัน ท่านหาคนอื่นเถิด"

"ฮ่าๆ..."

กู้ชูหน่วนอารมณ์ดียิ่งนัก หยิบขนมแล้วโยนขึ้น ก่อนจะใช้ปากของตัวเองรับไว้ กินไปพลางผิวปากไปพลาง

ชิวเอ๋อร์เลือดขึ้นหน้า "คุณหนู ท่านชอบเจ๋ออ๋องมากมิใช่หรือเจ้าคะ เหตุใดถึงได้แกล้งเขาจนตกใจหนีเตลิดไป? หากเจ๋ออ๋องถอนหมั้นเข้าจริงจะทำเช่นไร?"

"รสนิยมคนเราเปลี่ยนกันได้ ส่วนข้านั้นเปลี่ยนรสนิยมแล้ว"

"คุณหนู ท่านไม่เสียใจเลยหรือ?"

"เจ้าดูท่าทางข้าเหมือนเสียใจไหมเล่า?"

กู้ชูหน่วนขยิบตาให้นาง ส่วนมือก็หยิบจานขนมแล้วเดินกลับห้องของตัวเอง

"คุณหนู หรือว่าท่านถูกใจท่านชายเซียว? ไม่ได้เด็ดขาดนะเจ้าคะ ถึงท่านชายเซียวจะเป็นลูกชายคนสุดท้องของแม่ทัพเฒ่าเซียว หน้าหล่อเหลา แต่เขาเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ นักรักที่เลื่องชื่อไปทั้งเมืองหลวง จะบู๊หรือบุ๋นก็ไม่ได้เรื่อง เรียกได้ว่ามีดีแค่หน้าตา"

"เจ้าเกลียดชังเขาไม่เบาเลยนะ"

"เขาท่องราตรีเกี้ยวพาราสี เปลี่ยนหญิงข้างกายไม่ซ้ำหน้า แต่ไม่ยอมสู่ขอใคร ทำหญิงสาวมากมายเสียใจ คุณหนูอย่าได้โดนเขาหลอกเชียวนะเจ้าคะ"

"เจ้าจะรู้อะไร"

ข่าวลือไม่เคยเป็นความจริง อย่างน้อยเท่าที่เธอดู เจ้าหนุ่มแซ่เซียวนั้นดีกว่าเจ๋ออ๋องหลายขุม

นึกถึงคำปลอบใจของเซียวอวี่เชียนเมื่อครู่ บวกกับแววตาเห็นอกเห็นใจของเขา กู้ชูหน่วนก็หัวเราะเบาๆ

นอกจากชิวเอ๋อร์แล้ว เซียวอวี่เชียนคือคนแรกที่มองเธอด้วยสายตาไร้ความรังเกียจ

ระหว่างทาง เหล่าสาวใช้พากันซุบซิบนินทา

"พวกเจ้าว่าไหมว่า คุณหนูสามบ้ากว่าเดิมอีกหลังจากกลับมา ถึงขั้นแต่งตัวเป็นนกยูงลายพร้อย ทำเอาเจ๋ออ๋องเตลิดหนีไป"

"นั่นสิ ถึงจะบอกว่าเจ๋ออ๋องไม่เคยชอบคุณหนูสาม แต่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนเป็นผู้กำหนดการหมั้นหมาย ต่อให้เจ๋ออ๋องจะไม่เต็มใจ ก็คงต้องกัดฟันแต่งกับนาง ได้ยินมาว่าคราวนี้เจ๋ออ๋องมาเพื่อสู่ขอนั่นแหละ"

"ถุยๆ ชีวิตนี้ของคุณหนูสามป่นปี้แล้วละ เจ๋ออ๋องไม่สู่ขอนาง แล้ววันหน้าใครจะมาสู่ขอนาง"

ในที่สุดราชโองการถอนหมั้นที่กู้ชูหน่วนรอคอยก็มาถึง

คนส่วนใหญ่ในจวนอัครเสนาบดีต่างมองนางอย่างเห็นอกเห็นใจ มีเพียงนางที่ดีใจสุขล้น

ทว่าไม่นาน ราชโองการอีกฉบับจากวังหลวงก็มาถึง

"คุณหนูแห่งจวนอัครเสนาบดีอ่อนหวานเพรียบพร้อม งามทั้งกายใจ จึงได้พระราชทานให้สมรสกับหานอ๋อง จัดพิธีสมรสต้นเดือนหน้า"

เฮือก ยามได้ยินข่าวนี้ คนทั้งจวนอัครเสนาบดีต่างตกตะลึง

สวี่จี่หาน...หานอ๋อง?

หานอ๋องมิใช่ท่านอ๋องเทพสงครามผู้นั้นหรือ
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 566

    ลูกธนูทั้งสิบดอก ล้วนแต่พุ่งเข้ากลางเป้า ทุกคนต่างก็ตะลึงตาค้าง โดยเฉพาะองค์หญิงตังตังและฮ่องเต้เย่ที่สติหลุด ทำอะไรไม่ถูกอยู่พักใหญ่ เอาแต่มองกู้ชูหน่วนสะบัดมือตนเองแล้วพึมพำอะไรบางอย่างคนเดียว "ธนูนี่จะหนักเกินไปหรือเปล่า ทำเอาข้าปวดแขนไปหมด องค์หญิงตังตัง ธนูสิบดอก ดูเหมือนจะเข้าเป้าทุกดอกเลย ด่านแรกข้าชนะแล้วสินะ" องค์หญิงตังตังพลันได้สติทันที "จะได้ใจไปใย ยังเหลือการแข่งอีกสองด่าน" "เช่นนั้นเจ้าก็ตั้งโจทย์มาเลย รีบๆ แข่งให้จบ ข้าจะได้เลือกเครื่องประดับมาไว้ติดตัว" "ข้อที่สอง ยังคงเป็นธนูสิบลูก เพียงแค่เจ้ายิงให้เข้ากลางเป้าอีกครั้ง เจ้าก็จะชนะ แต่ว่า ครั้งนี้บนกระดานจะมีเหรึยญกษาปณ์ทองแดงแขวนเอาไว้ อีกทั้งเหรียญทั้งสิบจะส่ายไปมา หัวลูกศรของเจ้าต้องทะลุเหรียญกษาปณ์ทองแดง สุดท้ายพุ่งเข้ากลางเป้าพอดี" ซี้ดดด... ทั้งงานเดือดระอุ นี่จะยากเกินไปหรือเปล่า องค์หญิงตังตังหาเรื่องกลั่นแกล้งผู้อื่นแบบโจ่งแจ้งชัดเจน และเกินว่าเหตุไปหน่อยกระมัง แม้แต่ไทเฮาและฮ่องเต้เย่ก็ทนดูไม่ได้จนต้องเอ่ยเตือน "องค์หญิง เอาแต่พอดีเถอะ" "นางบอกเองว่าจะแข่งกับข้า ข้าไม่ได้ขอร้อ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 565

    กู้ชูหน่วนเอ่ย "เช่นนั้นหากข้าชนะล่ะ องค์หญิงจะทำเช่นไร" "เช่นนั้นเจ้าต้องการให้ข้าทำอย่างไร" "องค์หญิงเอ่ยเช่นนี้ อย่างไรข้าก็เป็นอาสะใภ้ของเจ้า หรือหากข้าชนะเจ้าแล้ว ต้องให้เจ้าคลานเข่าร้องเสียงเช่นสุนัขเหมือนกันหรือ" ประโยคนี้ กำลังแอบแดกดันว่าองค์หญิงตังตังคิดเล็กคิดน้อย และใจแคบ องค์หญิงตังตังอาจจะไม่รู้ถึงนัยยะแฝงของประโยคที่นางพูด แต่ไทเฮาเข้าใจทุกอย่าง นิ้วที่เห็นข้อต่อชัดเจนกำแน่นจนเสียงดังแกรบโดยไม่รู้ตัว "เอาเช่นนี้แล้วกัน หากเจ้าแพ้ ข้าจะขอของหนึ่งชิ้นจากในตำหนักองค์หญิงของเจ้า ถือเป็นรางวัลชนะเดิมพัน" "เจ้าต้องการสิ่งใดจากข้า" "องค์หญิงตื่นตระหนกขนาดนี้ คงไม่ได้คิดว่าข้าจะเอาชีวิตองค์หญิงกระมัง ข้าไม่ได้ไร้สาระขนาดนั้นหรอก ของที่ข้าต้องการง่ายนิดเดียว เจ้าให้ได้เป็นแน่" องค์หญิงตังตังตั้งใจฟัง นางหลงกลกู้ชูหน่วนมาหลายหนแล้ว หากไม่ระบุของชนะเดิมพันมาให้ชัดเจน นางไม่มีทางรับปากส่งๆ เด็ดขาด ทว่ากลับเห็นกู้ชูหน่วนมองที่ข้อมือและสร้อยคอที่ว่างเปล่าของตนเอง พลางเอ่ยด้วยความหมองหม่น "พวกท่านแต่ละคนล้วนแต่สวมใส่สร้อยแหวนเงินทอง บนตัวข้ากลับว่างเปล่า ไ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 564

    กู้ชูหน่วนคว้ามือที่ฟาดลงมาของนางเอาไว้ เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม "องค์หญิงตังตัง ลงมือทำร้ายผู้ใหญ่ จะถูกฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ เอาได้นะ" "บังอาจ เจ้ากล้าแช่งให้ข้าถูกฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ หรือ" "หากเจ้าไม่ทำร้ายผู้ใหญ่ จะถูกฟ้าผ่าได้อย่างไร สวรรค์คงจะอวยพรเจ้าเสียด้วยซ้ำ" "ตังตัง" ไทเฮาตะโกนเสียงขรึม ฝีปากของกู้ชูหน่วน นางได้เห็นมากับตาตั้งแต่แรกแล้ว ต่อให้คนทุกคนที่นี่รวมกัน ก็ไม่อาจสู้ฝีปากนั่นของนางได้ "ทำความเคารพเสด็จอาของเจ้าเสีย" "เสด็จแม่..." องค์หญิงตังตังอารมณ์พลันหมองหม่นลงไปในพริบตา หากไม่ใช่เพราะกู้ชูหน่วนใช้กลอุบาย นางไม่มีทางเสียเงินมากมายขนาดนั้นประมูลคัมภีร์ซือจิงไร้ประโยชน์มาจากลานประมูลเฟิงเซียงหรอก ที่น่าเจ็บใจที่สุดคือ นางไม่มีเงิน องค์หญิงผู้ยิ่งใหญ่ กลับถูกลานประมูลเฟิงเซียงจับตัว ช่างน่าขายหน้ายิ่งนัก ที่น่าหงุดหงิดยิ่งกว่าคือ หลังจากเกิดเรื่อง นางจะไปหาเรื่องลานประมูลเฟิงเซียง แต่เสด็จแม่และเสด็จพี่ต่างก็บอกให้นางอดนทน บอกว่าลานประมูลเฟิงเซียงมีอิทธิพลนัก ไม่จำเป็นอย่าไปมีเรื่องด้วย "รีบทำความเคารพสิ" ใบหน้าขององค์หญิงตังตังราวกับถูกย้อมด้วย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 563

    "กู้ชูหน่วน เจ้าบังอาจนัก" "ใครใช้ให้ข้าเป็นอาสะใภ้ของท่านล่ะ ใครใช้ให้ข้าเป็นชายาของเทพสงครามล่ะ ข้าถึงได้มีสิทธิ์ที่จะอวดี สามหาวอย่างไรเล่า หากท่านไม่พอใจ ก็ไปหาเย่จิ่งหานได้เลย" หากไม่ใช่เพราะฐานะของนาง ฮ่องเต้เย่อยากจะมอบผ้าขาว ให้นางปลิดชีพตนเองเสียงตรงนั้นให้รู้แล้วรู้รอด ทันใดนั้น เขาก็พลันนึกขึ้นมาได้ "เหมือนข้าจะคิดออกแล้ว เป็นองค์หญิงตังตัง ตอนเด็ก ที่สวมอยู่บนคอขององค์หญิงตังตังก็คือดวงตารูปหัวใจ สีแดงราวกับเลือด ใครหลายคนต่างก็หัวเราะเยาะนาง ต่อมาองค์หญิงตังตังกริ้วหนัก จึงไม่สวมสร้อยเส้นนั้นอีกเลย ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยได้เห็นอีก" "เช่นนั้น ความหมายของท่านคือ ดวงตารูปหัวใจอยู่ที่องค์หญิงตังตังหรือ" "โดยทั่วไปควรจะเป็นเช่นนั้น แต่ด้วยนิสัยขององค์หญิงตังตัง หากนางไม่ชอบสิ่งใด ก็จะโยนทิ้งไปทันที สร้อยเส้นนั้นไม่รู้ว่าถูกนางทิ้งไปหรือยัง" "วันนี้เป็นพิธีปฏิญาณตนเป็นผู้ใหญ่ขององค์หญิงตังตังใช่หรือไม่" "ใช่...ใช่น่ะสิ" "ไป พวกเราไปดูกัน" "เมื่อกี้เจ้าบอกเองไม่ใช่หรือ ขอเพียงแค่ช่วยเจ้าตามหาดวงตารูปหัวใจให้พบ เจ้าจะช่วยขับไล่กองทัพออกไปน่ะ" "ใช่น่ะสิ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 562

    "หรือเย่จิ่งหานต้องการจะเห็นข้าสิ้นแผ่นดินเช่นนั้นรึ เขาเองก็เป็นเสด็จอาแห่งแคว้นเย่" "นั่นสิ เพราะเขาคือเสด็จอาของแคว้นเย่ ฉะนั้นหลังจากที่แคว้นเย่สิ้นแผ่นดินแล้ว เขาก็จะปลุกระดมกองทัพอีกครั้ง ตีแคว้นหวาจนพ่ายแพ้ออกไป ถึงเวลานั้น หากเขาคิดจะนั่งบังลังก์ฮ่องเต้ ก็เป็นเรื่องที่ถูกหลักธรรมนองคลองธรรม ผู้ใดก็ไม่กล้าฝ่าฝืน ส่วนท่าน ก็จะกลายเป็นเด็กถูกทิ้งคนนั้นไป" ฮ่องเต้เย่มีคำพูดมากมายอยากจะตอกนางกลับไป ทว่ากลับคิดเหตุผลที่จะหยุดนางได้ไม่ออก กู้ชูหน่วนพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง "ฉะนั้น ไม่สู้ท่านเลือกที่จะเชื่อข้า ข้ารับประกันว่าจะต้องทำให้เย่จิ่งหานออกมาจัดการแคว้นหวาได้ ทำให้แคว้นเย่ของพวกเรามั่นคงปลอดภัย" "เย่จิ่งหานจะฟังเจ้าหรือ" "แน่นอน เชื่อว่าฝ่าบาทคงเคยได้ยินว่าท่านอ๋องโปรดปรานข้าเพียงใด" "แต่เหตุใดเจ้าต้องช่วยข้าด้วย" เขารู้สึกอยู่ตลอดว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล แต่คิดไปคิดมา ก็คิดไม่ออกว่าเป็นเรื่องใดกันแน่ "ข้ากำลังตั้งท้องของเทพสงครามอยู่ไม่ใช่หรือ หลายวันก่อนข้าฝัน ฝันเห็นว่าเจ้าแม่กวนอิมมาดลบันดาล บอกว่าเทพสงครามฆ่าคนมามากนัก พลังชั่วร้ายหนักหนาเกินไป ลูกจะ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 561

    กู้ชูหน่วนแคะหู พลางบ่นพึมพำอย่างเหลืออด "หนวกหู" "สามหาว ข้าคือฮ่องเต้แห่งแคว้นเย่ ประมุขผู้มีอำนาจสูงสุด เจ้าบังอาจกล้าไม่เคารพข้าเช่นนี้ ใครก็ได้ เข้ามา อ้ะ..." กู้ชูหน่วนสองมือกอดอก ท่าทางสบายๆ ไม่ทุกข์ร้อน "ฮ่องเต้ ข้าขอเตือนท่านว่า ก่อนจะตะโกนเรียกใคร คิดดูให้ดีๆ เสียก่อน ต่อให้ท่านเรียกเหล่าองครักษ์มาทั้งหมด ในฐานะที่ข้าเป็นชายาเอกของเทพสงคราม พวกเขาจะกล้าจัดการข้าหรือ" "เจ้า......" ฮ่องเต้หงุดหงิด นางผู้นี้ จงใจขู่เขาชัดๆ เพราะการตะโกนเสียงดังของเขา ทำให้เหล่าองครักษ์ตื่นตกใจ พากันเข้ามาคุกเข่าตรงหน้า "กระหม่อมถวายบังคมฝ่าบาท ขอพระองค์อายุยืนหมื่นปีหมื่นหมื่นปี ไม่ทราบว่าฝ่าบาททรงตะโกนเรียกกระหม่อมเพราะ..." องครักษ์ผู้เป็นหัวหน้าแอบเหลือบมองกู้ชูหน่วนปราดหนึ่ง มือพลอยกำด้ามดาบโดยไม่รู้ตัว "ข้าเรียกพวกเจ้าเสียเมื่อไหร่ เป็นถึงองครักษ์แห่งราชสำนัก หูพวกเจ้าแต่ละคนเป็นเช่นนี้ แล้วข้าจะวางใจให้พวกเจ้าคุ้มกันความปลอดภัยข้าได้อย่างไร" "พะยะค่ะๆๆ......" "ยังไม่รีบออกไปอีก" "พะยะค่ะ....." กลุ่มองครักษ์หลายคนเข้ามา แล้วออกไป เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นรวดเร็วใ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status