กู้ชูหน่วนกะพริบตาอย่างไร้เดียงสา "เป็นพวกเจ้าเองที่พาข้าวิ่งมาตลอดทาง และมองข้าเป็นหญิงผู้อ่อนแอที่ไม่มีทางสู้ แล้วข้าจะไม่ตอบสนองความต้องการแบบผู้ชายเป็นใหญ่ของพวกเจ้าได้อย่างไร""…"เซียวอวี่เชียนโกรธจนตัวสั่นเด็กหนุ่มก็สีหน้าไม่สู้ดีมีดาบจำนวนมากขนาดนี้ หมายความว่าพวกเขาโดนฟันอย่างเปล่าประโยน์เมื่อเห็นว่ามีคนกลุ่มใหม่ล้อมพวกเขาเข้ามา กู้ชูหน่วนก็หรี่ตาลง มุมปากยกขึ้นยิ้มเยาะ "ตัวเอกมาแล้ว"ในขณะที่เซียวอวี่เชียนและเด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้น ทั้งคู่ก็แข็งทื่อดวงตาเย็นชาของเด็กหนุ่มหรี่ลงทันที หายใจหนักขึ้น ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อยกู้ชูหน่วนมองออกเขากำลังกลัว กลัวคนกลุ่มนี้เซียวอวี่เชียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักอึ้ง "หน้ากากกะโหลก พวกเจ้าเป็นคนของสิบสองกองธงแห่งเผ่าหมอใช่หรือไม่?เผ่าหมอ?เหอะ โลกยุทธภพมีเผ่าหมอด้วยหรือ?กู้ชูหน่วนพิจารณาอีกฝ่ายอย่างละเอียดแต่กลับพบว่าอีกฝ่ายมีเพียงสามสิบหกคนเท่านั้น แต่ละคนถือธงบุปผา และสวมเสื้อคลุมสีดำ ใบหน้าปิดด้วยหน้ากากกะโหลกศีรษะหัวหน้าคือชายหนุ่มวัยยังน้อย ผู้ซึ่งไม่ได้สวมหน้ากาก ใบหน้าดูหล่อเหลา แต่แววตากลับเผยความโหดเหี้ยมเป็นระยะ
ก่อนที่เด็กหนุ่มจะตอบ กู้ชูหน่วนก็ลูบคางพลางเอ่ยอย่างใจเย็นว่า “ด้วยความสามารถของเจ้า เจ้าคงคิดว่าการตัดแขนขา ควักตา และตัดหูของข้าคงง่ายดายราวกับบี้มดตัวหนึ่งใช่หรือไม่? ถ้าเช่นนั้น ทำไมเจ้าถึงต้องลำบากเขาด้วย?”“หรือว่าเขามีเรื่องบาดหมางกับเจ้า เจ้าเลยเกลียดเขา? จุ จุ จุ ดูท่าทางของเขาสิ ช่างน่าสงสารเสียจริงๆ ข้าว่าคงไม่กล้าเป็นศัตรูกับเจ้าหรอก ให้ข้าเดานะ เจ้าคงอิจฉาเขามากกว่า อิจฉาที่เขามีหน้าตาหล่อเหลากว่าเจ้า หรืออาจอิจฉาที่เขาได้ดิบได้ดีในเผ่าหมอมากกว่าเจ้า เลยคิดแผนทรมานเขา”ทุกครั้งที่กู้ชูหน่วนพูดสีหน้าของเจียงซวี่ก็ยิ่งแย่ลงไปเรื่อยๆ แววตาที่โหดเหี้ยมก็ยิ่งรุนแรงขึ้น“ดูเหมือนข้าจะเดาถูกนะ” กู้ชูหน่วนมองเด็กหนุ่มราวกับสงสารเขา“ลองดูตัวเองสิ ติดตามนายอะไรเนี่ย กลับตัวกลับใจเถิด เจ้าปกป้องข้าจนโดนแทงมาขนาดนี้ ข้าจะดูแลเจ้าอย่างดี”เด็กหนุ่มไม่แม้แต่จะมองกู้ชูหน่วน แค่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆเจียงซวี่หัวเราะลั่นทันที “เดาถูกแล้วจะอย่างไร ข้าแค่ต้องการเห็นเขาทรมาน เขาใจดีนักมิใช่หรือ ข้าอยากจะดูว่า เพื่อให้มีรอดชีวิต เขาจะยอมฆ่าเจ้าหรือไม่”“ข้าขอเดาเพิ่มนะ คงเป็นครั้งแรกที่เจ้
เจียงซวี่มองลงมาที่นางด้วยสายตาเหยียดหยามกู้ชูหน่วนล้วงหากระดิ่งภินวิญญาณในอกพลางเอ่ยด้วยท่าทางเฉยเมยว่า "พวกเจ้าต้องการกระดิ่งภินวิญญาณนี้ใช่หรือไม่ ข้าให้พวกเจ้าก็ได้ ไม่เห็นมีประโยชน์กับข้าอยู่แล้ว"เอ่ยจบ นางก็เหวี่ยงกระดิ่งภินวิญญาณไปข้างหน้าทันที"ฟึบ ฟึบ ฟึบ..."เผ่าหมอต่างแย่งชิงกระดิ่งภินวิญญาณ ขณะเดียวกัน กู้ชูหน่วนก็หรี่ตาลงและเหวี่ยงเข็มเงินนับสิบเล่มไปยังเหล่ากองธงของฝ่ายตรงข้ามที่ล้อมพวกนางไว้ จากนั้นก็เหวี่ยงเซียวอวี่เชียนออกไปด้วยมือเดียว"ไป""ยัยขี้เหร่ ข้าไม่ไป""หยุดพล่ามได้แล้ว กลับไปเรียกคนมาช่วยเร็ว""ปัง..."กล่องไม้ดำตกลงพื้นเสียงดังสนั่น ทำให้เหล่ากองธงที่อยู่ใกล้ได้รับบาดเจ็บหลายคนเจียงซวี่ก็ถูกควันโขมงไปด้วยเขาตะคอกด้วยความโกรธ “สาวน้อย! กล้าหลอกข้า!”“อุ๊ย! ขอโทษด้วย โมโหไปหน่อย เผลอโยนของผิดไป”“จับตัวนางไว้! ข้าจะฉีกนางเป็นชิ้นๆ!”ไม่รอให้เจียงซวี่พูดจบ เหล่ากองธงก็ปิดล้อมกู้ชูหน่วนไว้แล้ว พวกเขารีบโบกธงที่มีลวดลายของดอกกล้วยไม้ใส่กู้ชูหน่วนธงของพวกเขาไม่ได้ทำจากผ้า แต่เป็นใบมีดบางๆ ราวกับฟันอันแหลมคม เมื่อถูกฟาดด้วยธงนี้ ย่อมต้องตายคาท
ชายชราคำรามเดือดดาล ส่งกำลังภายในผ่านฝ่ามือพุ่งไปยังกู้ชูหน่วนฝ่ามือนั่นมีกำลังภายในอยู่แปดส่วน ดูท่าแล้วคงไม่คิดเอาชีวิตกู้ชูหน่วนเซียวอวี่เชียนเจ็บหนักอาการร่อแร่ เอาตัวเองแทบไม่รอดกู้ชูหน่วนเองก็ถูกสมุนอื่นล้อมไว้จนไร้ทางหนี หมายจะหลบหลีกฝ่ามือนั้นช่างยากนักแต่หากจะโต้กลับ ตัวเองก็ไม่มีกำลังภายในแล้ว คนที่เจ็บย่อมต้องเป็นนางคนหนุ่มก้าวถอยหลัง หมายจะยื่นมือเข้าไปช่วยทันใดนั้นเอง ฝ่ามือทีทรงพลังยิ่งกว่าก็พุ่งเข้ามาจากไกลลิบ"ปึ้ก..."สองฝ่ามือปะทะกัน พื้นดินสะท้านทรุดเป็นหลุมกว้างร่างของทุนคนต่างโงนเงน แทบยืนไม่อยู่ขณะเดียวกันเงาคนหลายสิบก็กระโดดตามลงมา กันยอดฝีมือเผ่าหมอที่ล้อมกู้ชูหน่วนชายชราตกใจไม่น้อย "สำนักซิวหลัว"เจียงซวี่เองก็ตกใจไม่แพ้กันสำนักซิวหลัวคือหนึ่งในสำนักลับสุดยอดแห่งยุทธภพ แต่ไหนแต่ไรมามิเคยเปิดเผยใบหน้าให้เห็นง่ายๆ และไม่ลงรอยกับเผ่าหมอ แต่ยามนี้กลับปรากฏตัวขึ้น ทั้งยังช่วยเหลือกู้ชูหน่วนอีก หรือว่าพวกก็ต้องการกระดิ่งภินวิญญาณเหมือนกัน?เด็กหนุ่มถอนหายใจอย่างโล่งอกไม่ว่าสำนักซิวหลัวจะมีเป้าหมายอะไร อย่างน้อยก็ช่วยชีวิตกู้ชูหน่วนเอาไว้กู
เจียงซวี่เอ่ยเสียงขุ่น "ประมุขชิง ท่านให้ท้ายลูกน้องเพียงนี้เลยหรือ?"ประมุขชิงควงขลุ่ยอย่างเพลิดเพลิน ภายในแววตาเอื่อยเฉื่อยนั้นแฝงไปด้วยความเย็นชาที่ยาจะสังเกตเห็น น้ำเสียงของเขาไพเราะรื่นหู เหมือนดังเสียงน้ำพุ ทว่าถ้อยคำที่เอ่ยออกมากลับทำเอาเจียงซวี่โมโหจนแทบกระอักเลือด"ลูกน้องข้าตรงไปตรงมา ไม่ปลิ้นปล้อนเหมือนใครบางคน ใช้อำนาจรังแกคน เจ้าตำหนักเจียงเห็นว่าเขาควรแก้ไขหรือไม่?""สะ... สำนักซิวหลัวของพวกเจ้ามิอาจล่วงเดิน เผ่าหมอของพวกข้าก็มิอาจล่วงเกินเช่นกัน ต่อให้ต้องตายกันไปข้างหน้า พวกเจ้าก็ไม่มีทางไ้ด้อะไรกลับไป""ด้วยฝีมือเจ้าน่ะหรือ? หากอยากตายก็รีบตายไปเถิด ของบางอย่างต้องเอาคืนทั้งต้นทั้งดอก""หมายความว่าอย่างไร?""พูดอย่างไรก็หมายความเช่นนั้น"ไม่รอให้เจียงซวี่ตั้งสติ เหรินหู่ก็เควี้ยงค้อนเหล็กหนักหนึ่งร้อยชั่งออกไปเป็นการทักทายหากสองคนข้างกายเจียงซวี่หูหาไม่ไวพอ ตั้งรับได้ทันท่วงที เกรงว่าเจียงซวี่คนถูกค้อนเหล็กทุบตายไปแล้วทั่งสองฝั่งตะลุมบอนกันบรรดาเผ่าหมอที่เดิมแสนน่าเกรงขาม ไม่อาจประมาณฝีมือมือได้ เมื่อพบกับคนจากสำนักซิวหลัวกลับถูกซัดจนหมอบเหรินหู่และฝูกวง
หญิงนางนี้ บ้าไปแล้วเหรินหู่วิ่งโทกเทกเข้ามา ฉีกยิ้มเอ่ย "ค้อนเหล็กของข้านี้ ช่างเหล็กชื่อดังใช้เหล็กดำตีขึ้นมา เจ้าชอบหรือไ่ม่ หากเจ้าชอบ ข้าก็จะยกให้เจ้า"กู้ชูหน่วนรังเกียจเหลือหลาย "ทั้งหนักทั้งเทอะทะ เจ้าเก็บไว้เองเถิด"เมื่อนึกถึงภาพที่เหรินหู่ฟาดคนเผ่าหมอตายเป็นเบือเมื่อครู่นี้ เซียวอวี่เชียนก็ชักกลัวขึ้นมา ร่างแข็งเกร็งอย่างห้ามไม่อยู่ กลัวว่าเหรินหู่จะค้อนทุบนางตายเอาในพริบตาแต่ที่คาดไม่ถึงก็คือ นอกจากเหรินหู่จะไม่โกรธแล้ว ยังยิ้มแก้เก้อพลางเอ่ยอีก "นั่นสิ เจ้าเป็นหญิงจะถือค้อนเหล็กเช่นนี้ก็ไม่งามจริงๆ เช่นนั้นข้าให้คนทำค้อนเหล็กน้อยให้เจ้าไหม"เฮ้ย...นี่มันเกิดอะไรขึ้น?สำนักซิวหลัวคุยกันง่ายๆ เช่นนี้เลยหรือ?กู้ชูหน่วนเมินเหรินหู่เสียดื้อๆ เดินมาหยุดอยู่หน้าฝูกวง"เจ้าชื่ออะไรรึ?""ฝูกวง ฝูที่แปลว่าสะท้อน กวงที่แปลว่าแสงสว่าง" ทั้งยังเป็นชื่อที่เจ้าสำนักของพวกเขาตั้งให้ ผ่านมาหลายปี แค่คนในสำนักยังคงอิจฉาที่เจ้าสำนักตั้งชื่อให้เขาจนถึงทุกวันนี้"ฝูกวง เป็นชื่อที่ไพเราะนัก แสงสว่างที่สาดส่องโลก"ฝูกวงตัวสั่น ขอบตาแดงก่ำอย่างห้ามไม่อยู่แสงสว่างที่สาดส่องโลก...
เหรินหู่วิ่งตามเข้ามา เอ่ยเสียงตื่นเต้น "คุณหนูสาม ท่านว่าข้าเป็นองครักษ์ลับของท่านได้หรือไม่? ฝีมือข้าก็ไม่แพ้ฝูกวง แค่ค้อนเดียวก็ฝาดคนตายได้เป็นเจ็ดแปดคนเชียวนะ"กู้ชูหน่วนกวาดตามองร่างบึกบึนของเขา มุมปากพลันกระตุก "เจ้าอ้วนเกินไป ข้าเลี้ยงไม่ไหวหรอก""ท่านไม่ต้องเลี้ยงข้า ข้าเลี้ยงตัวเองได้""พอได้แล้ว เจ้าคิดว่าที่สำนักว่างมากหรือไร" ประมุขชิงเอ่ยเสียงเย็น"แต่ว่า... แต่ว่า...""กลับมาได้แล้ว"เหรินหู่ไม่พอใจนัก แต่ไม่กล้าขัดขืน ทำได้เพียงมองฝูกวงที่ใบหน้ายิ้มแย้มด้วยสายตาอิจฉา"คุณหนูสาม แล้วพบกันใหม่""เดี๋ยวก่อน เหตุใดพวกเจ้าถึงช่วยข้า"ประมุขชิงยิ้มละมุนดุจลมวสันต์ คนไม่รู้คงนึกว่าเขาเป็นบัณฑิตคงแก่เรียนอ่อนปวกเปียก"อาจเป็นเพราะมีวาสนาต่อกันกระมัง สำนักซิวหลัวนั้นให้ความสำคัญกับคำว่าวาสนานัก"กู้ชูหน่วนอยากจะถามต่อ ทว่าบรรดาคนจากสำนักซิวหลัวกลับหายไปในพริบตาพวกเขามาเร็วไปเร็ว เร็วเสียจนมองไม่ทันด้วยซ้ำว่าไปทางไหนในตรอกที่เมื่อครู่คนแน่นไปหมด ยามนี้เหลือเพียงนาง เซียวอวี่เชียน และฝูกวง แม้แต่ชายหนุ่มพวกนั้นหายไปตอนไหน พวกนางเองก็ไม่รู้ลมหนาวพัดผ่าน กลิ่นคาวเลือ
"ข้าไม่เป็นไร แค่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้พักผ่อน กลางคืนนอนสักหน่อยก็หายแล้วขอรับ""เจ้านี่นะ ยังหนุ่มยังแน่น ทำงานเยอะปานนี้ สักวันจะเหนื่อยตายเอา เอาล่ะๆ ข้านวดแป้งเอง อย่างไรวันนี้ลูกค้าก็ไม่มาก เจ้ากลับไปพักผ่อนเถิด ข้าให้ค่าแรงเท่าเดิม"เจ้าของร้านแย่งงานเขาทำ แต่เยี่ยเฟิงปฏิเสธ "เวลานี้ถึงข้ากลับไปนอนก็นอนไม่หลับ สู้อยู่ช่วยงานดีกว่า""เจ้าเด็กคนนี้ ทำให้เขาปวดใจเก่งจริงๆ ว่าแต่อาการป่วยย่าเจ้าดีขึ้นบ้างหรือไม่? ข้าได้ยินมาว่ามีหมอพเนจรมาเยือนทางทิศเหนือของเมือง ฝีมือดีนัก หากย่าเจ้ายังอาการไม่ดีขึ้น บางทีลองให้หมอคนใหม่รักษาดูอาจจะหายก็ได้ "มือของเยี่ยเฟิงชะงักลง แววตาเฉยชาพลันเป็นประกาย "หมอพเนจรทางเหนือของเมืองหรือขอรับ?""ใช่แล้ว ได้ยินมาว่ารักษาคนพิการมาหลายคนแล้ว เพื่อนบ้านข้าไปหาหมอมาไม่รู้กี่คน หูหนวกรักษาไม่หาย แต่พอหมอคนนั้นรักษา กินยาไม่กี่ชุด ยาออกฤทธิ์ก็หายทันที เจ้าว่าวิเศษหรือไม่?""ไม่รู้ว่าหมอท่านนั้น... ค่ารักษาแพงหรือไม่?" ยามเยี่ยเฟิงเอ่ยถาม ท่าท่างระแวดระวัง ทั้งยังดูประหม่า"ไม่แพง ไม่แพงเลย เพื่อนบ้านข้าจ่ายแค่หนึ่งร้อยอีแปะ""หนึ่งร้อยอีแปะ... ไม่แพงจริง
“เจ้าจงไปตายเสียเถิด” ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเยี่ยเฟิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาดึงดาบออกมาอย่างแรง เลือดสีแดงสดของนายท่านหลันพุ่งทะลักไปทั่ว สาดกระเซ็นมาบนใบหน้าขาวซีดของเยี่ยเฟิง ทำให้สายตาของเขาเลือนลาง ทว่าวินานี้ เยี่ยเฟิงกลับเห็นชัดแจ้งกว่าผู้ใด ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นคู่นั้นสะท้อนสีหน้าตกตะลึงของนายท่านหลัน “เจ้ากล้าฆ่าข้าเลยรึ...เจ้าคือผู้ที่ฆ่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต เหตุใดถึงกล้าฆ่าข้าได้ เฮือก...” สิ่งที่ตอบแทนนายท่านหลันกลับมาคือการแทงด้วยกระบี่เข้าไปอีกครั้งอย่างไร้เยื่อใยจากเยี่ยเฟิง นายท่านหลันถูกแทงติดกันสองครั้ง ร่างกายเจ็บปวดราวกับใจจะขาด แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพียงแค่จ้องมองเยี่ยเฟิงด้วยความโกรธแค้น จากความรู้สึกเหลือเชื่อในตอนแรก กลายเป็นปวดร้าว ไปจนถึงโกรธเกลียด เยี่ยเฟิงแสยะหัวเราะเบาๆ “ข้าคือผู้ที่เจ้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต ? เลี้ยงดูงั้นรึ เหอะ...เลี้ยงดูที่เจ้าหมายถึงคือทรมานข้าทุกวันทุกเวลา หน้าหนาวปล่อยให้ข้านอนเปลือยกาย หิวโหยอยู่บนพื้นหิมะ หน้าร้อนแขวนข้าไว้ใต้แสงอาทิตย์ไม่ให้กินดื่มเป็นเวลาหลายวัน ทั้งยังลงโทษอย่างหน
นายท่านหลันที่เดิมก็กระสับกระส่ายจนทำอะไรไม่ถูก เพราะการเข้ามามีส่วนร่วมของกู้ชูหน่วน ทำให้มีบาดแผลเพิ่มขึ้นอีกหลายแผล "ฟึบ..." อาวุธลับของกู้ชูหน่วนเชื่องช้า ทว่าพุ่งออกมากลางอากาศแล้วความเร็วกับเพิ่มกะทันหัน พริบตาเดียวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว อาวุธพุ่งเข้าที่หน้าอกของนายท่านหลัน ฝังลึกในร่างกาย เขาอยากจะตอบโต้ ทว่ากลับถูกต้อนจนจนมุม ไม่มีช่องว่างให้โจมตีกลับได้เลยแม้แต่น้อย ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย นายท่านหลันรู้สึกสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม หวังแค่ว่านายท่านหมู่ตานและคนอื่นๆ จะรีบมาถึงโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาคงต้องจบลงตรงนี้แล้ว กู้ชูหน่วนและอี้เฉินเฟยยิ่งร้อนรน ลำพังเพียงแค่เขาคนใดคนหนึ่งต่างก็ไม่อาจสังหารนายท่านหลันได้ ยามนี้วิทยายุทธของกู้ชูหน่วนแข็งแกร่งไม่พอ อี้เฉินเฟยทั้งเจ็บสาหัสและป่วยหนัก เว้นเสียแต่พวกเขาร่วมมือกัน แต่บาดแผลของอี้เฉินเฟยรุนแรงเกินไป อาจต้านทานไม่ไหวได้ทุกเมื่อ หากเขาทนไม่ไหว เช่นนั้นสถานการณ์การต่อสู้ครั้งนี้จะพลิกผันทันที เสียงขลุ่ยเปลี่ยนไป ราวกับกลองรบคำราม กึกก้องหนักแน่น ดาบที่พุ่งใส่นายท่านหล
ใบหูของกู้ชูหน่วนพลันกระดิก นางรับรู้ได้ถึงไอสังหารของนายท่านหลันแล้ว เพียงแต่ความเร็วของนางยังไม่เปลี่ยน ยังคงรวบรวมกำลังภายในทั้งหมดกระแทกใส่นายท่านเถาฮวา สองนายท่านแห่งกองธงร่วมมือกันโจมตี นางถูกหนีบอยู่ตรงกลาง ไม่มีหนทางจะชนะได้เลย หากเป็นเช่นนี้ ไม่สู้จัดการไปทีละคน สังหารนายท่านเถาฮวาก่อน ค่อยหันไปจัดการนายท่านหลัน ขณะเดียวกัน นางเองก็เชื่อ เชื่อว่าอี้เฉินเฟยไม่มีทางปล่อยให้นางตายอย่างทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของนายท่านหลัน "เฮือก..." นายท่านเถาฮวาไม่มีที่ให้หลบได้อีก ถูกพลังจากฝ่ามือของกู้ชูหน่วนโจมตี ร่างกายราวกับว่าวที่สายขาด กระเด็ดกลับไป สุดท้ายชนเข้ากับหินก้อนโตอย่างแรง เลือดอาบหินก้อนนั้นจนชุ่ม ความเร็วของกู้ชูหน่วนยังไม่เปลี่ยน ถีบลูกเตะออกไปทำให้นายท่านเถาฮวาพลัดตกหน้าผาร่วงไปยังทะเลโลหิตด้านล่าง ความแข็งแกร่งของนางอยู่เพียงแค่ขั้นหนึ่งชั้นกลาง แต่พละกำลังที่นางระเบิดออกมากลับแกร่งกว่าขั้นสอง นายท่านเถาฮวาผู้น่าสงสารจึงต้องตายไปเพราะกู้ชูหน่วนที่วิทยายุทธด้อยกว่าเขามาก ขณะเดียวกัน กระบวนท่าไม้ตายของนายท่านหลันก็พุ่งเข้ามาถึง อี้เฉินเฟยยกมือขวาขึ้นมา
"ในเมื่อเจ้าพูดยากขนาดนี้ เช่นนั้นก็คงต้องทำลายแก้วมังกรทิ้งเสีย ถึงอย่างไรหากต้องตาย มีแก้วมังกรฝังไปด้วยกันก็ไม่เลว" กู้ชูหน่วนพูดพลางเล็งอาวุธลับไปที่ดอกกุหลาบอีกครั้ง นายท่านหลันหน้าถอดสีอย่างรุนแรง นางผู้นี้ไม่เคยทำอย่างที่คนปกติเขาทำกันเลย หากนางยิงแก้วมังกรบนดอกกุหลาบร่วงลงทะเลโลหิตจริง เช่นนั้นก็จะกลายเป็นความสูญเสียที่ไม่อาจย้อนกลับคืนมาได้อีก แม้อี้เฉินเฟยจะรู้ว่ากู้ชูหน่วนไม่มีทางทำให้แก้วมังกรร่วงหล่นทะเลโลหิตไปจริงๆ แต่เห็นแล้วก็ยังรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอยู่ดี "ผลไม้สีแดงเพลิงของที่นี่มีฤทธิ์ในการรักษาอาการบาดเจ็บ เพียงแค่กินเข้าไปไม่กี่ลูก ก็จะสามารถฟื้นฟูได้ ซึ่งก็คือผลไม้ในมือเจ้าเมื่อครู่นั่นแหละ" "เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าผลไม้นี่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้" "กู้ชูหน่วน ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าถามให้มากนัก" เขาจะบอกกู้ชูหน่วนได้อย่างไรว่า เขาไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เพราะความหิว จึงเด็ดผลไม้มากิน คิดไม่ถึงว่าวิทยายุทธจะได้รับการฟื้นฟูกลับมาแบบงงๆ กู้ชูหน่วนคลี่ยิ้มมีเลศนัยให้เขา เช็ดผลไม้ในมือ ก่อนจะยื่นให้อี้เฉินเฟยพลางจ้องมองนายท่านหลันด้วยท่าทีระวังตั
ไม่ไกลออกไป มีเสียงอาวุธกระทบดังขึ้นมาไม่หยุด หลังจากนั้นก็มีเสียงหินแตกกระจายและระเบิดในที่สุด กู้ชูหน่วนถือผลไม้สีแดงเพลิงที่เพิ่งเด็ดออกมาจากต้นเอาไว้ในมือ พลางฟังเสียงความเคลื่อนไหวอย่างละเอียด "มีเสียงกางและหุบพัด ทั้งยังมีเสียงอาวุธลับกลีบดอกไม้อีกบางส่วน น่าหลันหลิงรั่วกำลังต่อสู้กับนายท่านหมู่ตานเผ่าหมอ น่าแปลก คนเผ่าหมอบาดเจ็บหนักไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงได้มีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ น่าหลันหลิงรั่วอาจจะสู้พวกเขาไม่ได้" กู้ชูหน่วนพึมพำคนเดียว นางอยากไปดูด้วยตัวเอง ทว่าอี้เฉินเฟยยังอาการสาหัสขนาดนั้น หากฝืนประครองเขาไป มีแต่จะทำให้อาการเขาแย่กว่าเดิม แต่น่าหลันหลิงรั่วหากไม่ใช่เพราะช่วยนาง ก็คงไม่ต้องตกลงมายังที่แห่งนี้ แม้อี้เฉินเฟยจะบาดเจ็บสาหัสทั้งยังป่วยหนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะฟังอะไรไม่ออกเลย สามารถใช้พลังกระแทกหินก้อนโตให้แตกได้เป็นก้อนๆ ต่อให้พละกำลังยังไม่ฟื้นฟูกลับมาทั้งหมด แต่เกรงว่าจะกลับมาถึงเจ็ดแปดส่วนแล้ว นายท่านหมู่ตานและนายท่านเถาฮวาล้อมโจมตีน่าหลันหลิงรั่ว กลัวแต่ว่าน่าหลันหลิงรั่วจะสู้พวกเขาไม่ไหว อี้เฉินเฟยเอ่ยอย่างเบาแรง "คนที่เจ้
กู้ชูหน่วนฟังด้วยความมึนงง ในเมื่อเกิดมาสูงศักดิ์ เหตุใดถึงได้ถูกปฏิบัติด้วยเช่นนั้น "เป็นหน้าที่แบบใดกันแน่" "หน้าที่ที่หนักมาก หนักอึ้งเสียจนหายใจไม่ออก" "เช่นนั้นตอนนี้นางอยู่ที่ใด" "ข้าก็ไม่รู้ว่านางไปอยู่ที่ใดแล้ว แต่ข้าเชื่อ ว่าอีกไม่นานนางจะกลับมา แค่กแค่ก..." ไม่รู้เพราะพูดมากเกินไปหรือไม่ อี้เฉินเฟยไอออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง พลังชีวิตในร่างหายไปอย่างรวดเร็ว กู้ชูหน่วนเริ่มร้อนใจ คำถามมากมายที่กระจุกอยู่ภายในใจไม่อาจถามได้อีกต่อไป ทำได้เพียงแค่เอ่ยออกไป "ท่านอย่าเพิ่งพูดเลย พักผ่อนเถอะ" "อาหน่วน...หากวันใดที่ข้าไม่อยู่แล้ว เจ้าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างดี" "ท่านพูดเหลวไหลอะไร ท่านดูสิ ข้าพบแก้วมังกรเขียวแล้ว พวกท่านหาพบสี่ลูกแล้วไม่ใช่หรือ บวกกับลูกนี้ก็เป็นห้า ขอแค่หาเพิ่มอีกสองลูก อาการป่วยของท่านก็จะรักษาหายแล้ว" กู้ชูหน่วนหยิบแก้วมังกรขนาดเท่าไข่นกพิราบออกมา ดวงตาใสเป็นประกายฉายแววยิ้ม ดวงตาของอี้เฉินเฟยกำลังยิ้ม ทว่าในใจกลับขมขื่น แก้วมังกรลูกเดียว ต้องใช้ความพยายามของคนตั้งกี่รุ่น ถึงจะเจอเบาะแส หาง่ายเช่นนั้นเสียเมื่อไหร่ แก้วมังกรลู
ก้นหลุมดำ ลมพัดจนพวกเขาวิงเวียนศีรษะ กลิ้งตุปัดตุเป๋ สุดท้ายก็ถูกทุ่มลงไปบนพื้นอย่างแรง กู้ชูหน่วนเกือบจะเป็นลมสลบไป โชคดีที่พื้นอ่อนนุ่ม ไม่เช่นนั้นนางคงต้องตายไปแล้ว ทันใดนั้น นางรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ทันทีที่ลืมตาขึ้นมากลับพบว่าไม่ได้อยู่บนพื้นที่อ่อนนุ่ม แต่ล้มลงบนร่างของชายหนุ่มผมขาวชุดขาวคนหนึ่ง กู้ชูหน่วนรู้สึกบีบคั้นหัวใจ รีบประครองเขาขึ้นมา "พี่ใหญ่อี้เฟย ท่านตื่นขึ้นมาสิ..." กู้ชูหน่วนเอื้อมมือออกไป กลับสัมผัสโดนของเหนียวข้นบางอย่าง เมื่อจ้องมองดูดีๆ จะเป็นอะไรไปได้อีกนอกจากเลือด มุมปากของอี้เฉินเฟยมีเลือดซึม บนร่างโดนหินมีคมบาดจนเป็นแผลทั้งตัว ชุดสีขาวดุจหิมะถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด พื้นที่มืดดำ ใบหน้าของเขาซีดขาว ไร้ซึ่งเลือดฝาด เพียงแต่บนใบหน้าที่อ่อนโยนยังคงคลี่ยิ้มปลอบโยน เอ่ยอย่างอ่อนแรง "เจ้าไม่เป็นไรก็พอ" กู้ชูหน่วนขอบตาแดงก่ำในชั่วพริบตา "ท่านมันโง่เสียจริง เหตุใดถึงดีกับข้าขนาดนี้ ข้ามีอะไรควรค่าให้ท่านช่วยเหลือด้วยชีวิตเช่นนี้" "เพราะ...เจ้าคือน้องสาวของข้า..." "ท่านเจ็บหนักมาก อย่าเพิ่งพูดเลย ข้าจะช่วยท่านรักษาอาการบาดเจ็บ" "ไม่...ไม่
มือของกู้ชูหน่วนกำอาวุธลับไว้แน่น มือข้างหนึ่งรวบรวมกำลังภายในทั้งร่างให้ขึ้นไปถึงขั้นสูงสุด พร้อมจะรับท่าไม้ตายของพวกเขาทุกเมื่อ น่าหลันหลิงรั่วเองก็ยืนอยู่ข้างกายกู้ชูหน่วนในทันที พร้อมจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับนาง แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ท่าไม้ตายเหล่านั้นยังไม่ทันมาถึงตัวนาง ก็ถูกใครบางคนสลายไปเสียก่อน มีคนอีกกลุ่มอยู่ในสระโลหิต คนกลุ่มนั้นมีผ้าคลุมสีขาว แขนเสื้อปักตัวอักษร "อวี้" คนเหล่านี้มีทั้งวัยชราและหนุ่มสาว พละกำลังกำลังแข็งแกร่ง เผ่าเทียนเฝินและเผ่าหมอร่วมมือกันก็ยังไม่อาจทำให้พวกเขาเสียเปรียบได้ "เผ่าอวี้...หายสาบสูญไปหลายพันปี ในที่สุดพวกเจ้าก็โผล่มาแล้ว" คนเผ่าเทียนเฝินต่างก็ตกตะลึง จ้องมองไปที่พวกเขาอย่างไม่ประสงค์ดี บรรยากาศมาคุขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันมานาน ต่างก็เกิดอาการฉุนเฉียวกันอย่างแรง "ทุกชีวิตที่สูญเสียไปเป็นพันปี วันนี้ถึงเวลาสะสางกันแล้ว" ผู้เฒ่าผมขาวคนหนึ่งของเผ่าอวี้กัดฟันกรอด เค้นออกมาหนึ่งประโยค ดวงตาของเขาแดงก่ำ อยากจะฆ่าคนเผ่าเทียนเฝินให้เกลี้ยงเสียเดี๋ยวนั้น กู้ชูหน่วนหันไปทางน่าหลันหลิงรั่ว "เผ่าอ
ผู้อาวุโสระดับสูงแข็งแกร่งนัก ผู้อาวุโสฮวาต้านไว้ไม่อยู่ ถูกโต้กลับจนเจ็บหนัก ทันทีที่พัดสีดำของน่าหลันหลิงรั่วพลิกกลับ อาวุธลับนับสิบออกมาพร้อมกัน ทว่าถูกผู้อาวุโสระดับสูงของเผ่าเทียนเฝินต้านไว้จนกระเด็นออกไปหมด แม้แต่อาวุธลับของกู้ชูหน่วนก็กระเด็นออกไปพร้อมกัน “ฟิ้ว...” ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสระดับสูงเคลื่อนไหวเช่นไร แต่เขาไปถึงด้านบนเสาดอกบัวเรียบร้อยแล้ว เขาผลึกกำลังภายในไว้ในมือ สลายพลังคุ้มกันรอบเสาดอกบัว น่าหลันหลิงรั่วเห็นเช่นนั้น พัดในมือราวกับมีจิตวิญญาณ คนและพัดประสานเป็นหนึ่งเดียว พุ่งเข้าไปด้วยความรวดเร็ว "ปัง ปัง ปัง......" เพียงพริบตาเดียว ทั้งสองคนต่อสู้กันไปหลายกระบวนท่า ท่วงท่าของพวกเขาเร็วเกินไป ทำให้กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าพวกเขาใช้กระบวนท่าอะไรบ้าง เห็นเพียงแค่ผู้อาวุโสระดับสูงกดน่าหลันหลิงรัวเสียอยู่หมัดอย่างรางๆ "ปัง......" หลังจากที่กระแทกฝ่ามือเข้าด้วยกัน ทั้งสองคนแยกออกจากกัน น่าหลันหลิงรั่วเจ็บหนัก เลือดไหลออกทางมุมปาก เขาเลียเลือดที่มุมปากด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ คิดจะบุกเข้าไปอีกครั้ง ทว่ากู้ชูหน่วนขวางเขาเอาไว้ "ตาแก่วิทยายุทธแข็งแกร่งมาก ขืนฝืนบุ