Share

บทที่ 10

Author: จิ้งเยี่ยน
เฟิ่งเชียนอวี่สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ทีหนึ่ง อารมณ์ไม่ค่อย นางไม่เชื่อว่า ไอ้ผู้ชายชาติชั่วนั่นจะไม่มาขอร้องตน

อีกสองสามวันข้างหน้า เฟิ่งเชียนอวี่เข้าสู่โหมดสงครามเย็นเพียงฝ่ายเดียว แต่เห็นได้ชัดเจนมาก ว่าคนที่รู้สึกทรมานก็คือนาง เวลาผ่านไปอีกสองวัน ในที่สุดนางก็อดทนไม่ไหวแล้ว

หลายวันมานี้ เฟิ่งเชียนอวี่ทำได้เพียงอยู่ในเรือนของจวนอ๋องทุกวัน ไม่สามารถแม้แต่ออกจากเรือน ชีวิตแบบนี้เรียกได้ว่าทนผ่านไปไม่ได้

ดังนั้น นางจึงเป็นฝ่ายมาหาตงฟางจิ่งอีกครั้ง

“มีธุระอันใดอีก?”

ภายในห้องหนังสือ ตงฟางจิ่งยังคงอ่านหนังสือจิบชาอย่างผ่อนคลาย สุขุมเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง ในทางกลับกันเป็นเฟิ่งเชียนอวี่ที่ฉุนเฉียวเป็นพิเศษ ราวกับว่าคนที่ถูกพิษเหมันต์คือนาง

เฟิ่งเชียนอวี่จ้องมองเขาอย่างเย็นชา ทันใดนั้นก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ท่านอ๋อง ที่ท่านไม่ยอมเขียนหนังสือหย่า คงจะไม่ใช่เพราะว่าชอบข้าเข้าแล้วหรอกกระมัง”

ตงฟางจิ่งหยุดชะงักทันที ไม่เหลือบมองแม้แต่หางตา กล่าวช้า ๆ “ไม่เจอหน้ากันไม่กี่วัน หนังหน้าของพระชายาหนาขึ้นมากกว่าเดิมนะ” น้ำเสียงที่เรียบเฉยแฝงไปด้วยความเยาะหยัน

ถ้าอย่างนั้นนายก็เขียนสิ!

เฟิ่งเชียนอวี่ตะโกนด่าในใจ นางจ้องเขาด้วยสีหน้ามืดมน

“ไม่หย่าก็ได้ แต่ยังไงก็ยังคงคำเดิม ใบสั่งยาของข้ามีมูลค่า จะให้เปล่า ๆไม่ได้”

“ใบสั่งยาทั้งหมดห้าแผ่น แผ่นแรกถือว่าเป็นการทดลอง ให้ท่านโดยไม่คิดเงิน ที่เหลืออีกสี่แผ่น แลกกับข้อเรียกร้องสี่ข้อ แต่เมื่อข้าเอ่ยปากขอ ท่านอ๋องจะต้องรับปาก”

สายตาของตงฟางจิ่งถึงได้หยุดมองที่นาง เผยอริมฝีปากบาง “ได้”

เมื่อเฟิ่งเชียนอวี่เห็นเขาตอบตกลง เพลิงโทสะภายในใจถึงได้ลดลงไปอีกนิด หยิบกระดาษสี่แผ่นออกมาจากด้านในแขนเสื้อพร้อมโยนไปให้อย่างอารมณ์ไม่ดี

ตงฟางจิ่งหยิบขึ้นมา อ่านทุกแผ่นอย่างละเอียดมาก

สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ ถึงแม้ว่าใบสั่งแต่ละแผ่นจะแตกต่างกัน แต่สมุนไพรทั้งหมด ส่วนมากพบเห็นได้ทั่วไป ต่อให้มีสมุนไพรที่หายากอยู่ไม่กี่อย่าง ขอเพียงแค่ยอมจ่ายเงิน ก็สามารถหาซื้อได้

“ใช้การอย่างไร?” เขาหันไปมองเฟิ่งเชียนอวี่

เฟิ่งเชียนอวี่เบะปาก “ข้าเขียนหมายเลขลงบนใบสั่งยาแล้ว ก็ดำเนินการตามหมายเลข แช่อาทิตย์ละหนึ่งครั้ง แช่หมดก็พอแล้ว”

นางพูดจบก็ตบโต๊ะ “ข้อเรียกร้องข้อแรกของข้า ต่อไปห้ามควบคุมการออกจากจวนของข้า”

ตงฟางจิ่งเลิกคิ้ว “ได้”

เฟิ่งเชียนอวี่บรรลุเป้าหมายของตนแล้วก็ออกไป

ทันทีที่นางกลับไปถึงเรือนชิงหลาน ก็สั่งให้หลิวซูกับอิ้งเสวี่ยสองคนทำงาน

“ไปหาเสื้อผ้าผู้ชายมาสักสองสามชุด อีกเดี๋ยวพวกเจ้าสองจนออกไปนอกจวนเดินเที่ยวตลาดด้วยกันกับข้า”

หลิวซูกับอิ้งเสวี่ยประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง

“พระชายา แต่ทางด้านท่านอ๋อง...”

นางโบกมือ “ทางด้านตงฟางจิ่งไม่ใช่ปัญหา อย่างไรเสียตอนนี้ข้าสามารถออกจากจวนได้อย่างอิสระแล้ว”

เฟิ่งเชียนอวี่เลือกชุดคลุมสีขาวมาชุดหนึ่ง หลิวซูช่วยแต่งตัวให้นาง มือทั้งสองข้างของอิ้งเสวี่ยทำผมทำมวยผู้ชายให้นางอย่างชำนาญ กวานหยกอันหนึ่ง พัดพับอันหนึ่ง คุณชายตระกูลสูงศักดิ์ที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้นมาสด ๆ ร้อน ๆ

นางยืนอยู่ด้านหน้ากระจกสัมฤทธิ์ พยักหน้าอย่างพึงพอใจ

ถึงแม้ว่าหลิวซูกับอิ้งเสวี่ยจะไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดพระชายาของตนออกนอกจวนไปเที่ยวตลาด จะต้องแต่งตัวเป็นผู้ชาย แต่พวกนางทำได้แค่ปฏิบัติตามคำสั่งเท่านั้น

ในไม่ช้า สาวใช้ทั้งสองคนก็แปลงโฉมเป็นเด็กรับใช้เช่นกัน

ทันทีที่ทั้งสามคนกำลังจะออกจากเรือน ชุ่ยเตี๋ยก็เดินเข้ามาจากด้านนอกสวน เมื่อเห็นการแต่งกายของเฟิ่งเชียนอวี่ก็ตกตะลึงทันที “พระชายา นี่ท่านทำอะไร?”

เฟิ่งเชียนอวี่เหลือบมองนางแวบหนึ่ง กล่าวเสียงเรียบเฉย “ไม่ใช่ธุระกงการของเจ้า ไปทำงานของเจ้าเถอะ”

ชุ่ยเตี๋ยไฉนเลยจะเชื่อฟัง นางรีบหลุบตาลงกล่าว “พระชายา ท่านกำลังจะออกจากจวนหรือ พาชุ่ยเตี๋ยไปด้วยเถอะเจ้าค่ะ”

นางถูกจัดให้มาปรนนิบัติอยู่ข้างกายของเฟิ่งเชียนอวี่ จุดประสงค์เพื่ออะไร ชุ่ยเตี๋ยรู้อยู่แก่ใจยิ่ง

วันนี้คุณหนูสามแต่งกายเป็นผู้ชายออกจากเรือน แล้วก็ไม่รู้ว่าจะไปทำอะไร นางจำเป็นต้องตามไปด้วยถึงจะถูก

เฟิ่งเชียนอวี่ขมวดคิ้ว “ไม่จำเป็น”

ชุ่ยเตี๋ยรีบกล่าว “พระชายา อย่างไรเสียก็ให้บ่าวตามไปด้วยเถอะเจ้าค่ะ บ่าวตามออกจากจวนอัครเสนาบดีพร้อมกันกับท่าน มีบ่าวอยู่ จะต้องดูแลความปลอดภัยของพระชายาได้แน่”

เฟิ่งเชียนอวี่จ้องมองนางอย่างเย็นชา “ชุ่ยเตี๋ย เจ้าเอาแต่พล่ามว่าบ่าวอย่างงั้นอย่างงี้ แต่ข้าว่าเจ้าทำตัวไม่เหมือนกับบ่าวเลยสักนิด คิดไม่ถึงว่าจะเจ้ากี้เจ้าการเรื่องของข้าด้วย?”

“บ่าวไม่กล้า”

“ข้าว่าเจ้าอาจหาญมาก เป็นแค่สาวใช้ตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง โต้เถียงข้าผู้เป็นเจ้านายครั้งแล้วครั้งเล่า แสดงถึงความไม่เคารพ ในเมื่ออวดดีขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้นก็ลดขั้นไปเป็นสาวใช้ขั้นสอง ฝึกจนหัวอ่อนเมื่อไหร่แล้วค่อยว่ากัน”

ชุ่ยเตี๋ยตกใจ รีบเงยหน้าขึ้น พูดหลุดปากออกไป “คุณหนูสาม ท่านทำเช่นนี้ไม่ได้”

เฟิ่งเชียนอวี่สีหน้าเย็นชาทันที “บังอาจ”

“คุณหนูสามอะไร ข้าเป็นพระชายาอ๋องหก หลิวซู ตบปากนาง”

“เจ้าค่ะ”

หลิวซูก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ ยกมือขึ้นแล้วตบหน้าสองฉาดอย่างรุนแรง

“ใครก็ได้ ชุ่ยเตี๋ยหมิ่นเบื้องสูงครั้งแล้วครั้งเล่า ลดขั้นเป็นสาวใช้ขั้นสามทันที ต่อไปให้เป็นคนใช้ที่เรือนด้านหลัง ไม่อนุญาตให้นางเข้าใกล้เรือนด้านหน้าแม้แต่ก้าวเดียว” เฟิ่งเชียนอวี่กล่าวออกคำสั่งทันที

เรือนทุกหลังล้วนมีเรือนด้านหลัง โดยทั่วไปจะเป็นสถานที่จัดเก็บสิ่งของจุกจิก

หญิงรับใช้เฒ่าสองคนตอบรับ สาวเท้ายาวไปข้างหน้า ซ้ายคนขวาคนพยายามลากตัวชุ่ยเตี๋ยออกไป

เฟิ่งเชียนอวี่ฉวยโอกาสนำชุ่ยเตี๋ยผู้เป็นสายลับของจวนอัครเสนาบดีสลัดออกไป อารมณ์ก็ดีขึ้นมาไม่น้อยทันที พาสาวใช้ทั้งสองคนออกจากจวน

เมืองหลวงมีอาณาเขตกว้างขวาง ทั้งยังอยู่ภายใต้การปกครองของโอรสสวรรค์ ย่อมเป็นสถานที่ที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดของแคว้นตงเยว่

เฟิ่งเชียนอวี่เดินเล่นไปบนถนนด้วยความสนใจเป็นอย่างมาก เห็นอะไรก็ต้องเข้าไปลูบเข้าไปจับอย่างสงสัย ที่นี่คือหน้าตาดั้งเดิมที่สุดของเมืองเก่า

ทันทีที่นางเหลือบตาไปมอง ก็จ้องเอาไว้แล้ว

ก็เห็นหน้าร้านของร้านค้าขนาดใหญ่ที่อยู่ทางด้านซ้ายมือ ดูไม่สะดุดตา แต่ด้านนอกประตูมีป้ายผ้าสีขาวแขวนอยู่ เขียนคำว่าบ่อนเอาไว้ตัวโต ๆ

นี่คือบ่อนการพนันในสมัยโบราณงั้นหรือ?

เฟิ่งเชียนอวี่ดวงตาเปล่งประกายทันที สาวเท้าเดินเข้าไปทางบ่อนการพนันทันที ผลปรากฏว่า ทันทีที่นางเหยียบขั้นบันได ก็พบว่าตนขยับไม่ได้อีก

นางค่อย ๆก้มหน้าลงไป ก็เห็นด้านล่างแขนทั้งสองข้างของตนเอง ถูกมือสีขาวนุ่มคู่หนึ่ง จับเอาไว้แน่นหนาอย่างละข้าง

เฟิ่งเชียนอวี่เลิกคิ้ว “หลิวซู อิ้งเสวี่ย เจ้าสองคนทำอะไรน่ะ?”

สีหน้าของสาวใช้ทั้งสองคนตกใจมาก ใบหน้าเล็กตึงเครียด

“พระชายา ท่านเข้าไปไม่ได้”

“ใช่เจ้าค่ะพระชายา ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่ผู้หญิงควรจะมา หากท่านอ๋องทราบเข้าจะต้องบันดาลโทสะแน่”

เฟิ่งเชียนอวี่มองบน ตงฟางจิ่งจะทำไม ยุ่งอะไรกับนางด้วย

“ข้าก็แค่อยากจะเข้าไปดู ดูจบก็ออกมา พอใจหรือไม่”

สาวใช้ทั้งสองคนส่ายหน้าอย่างเร็ว

“ไม่ได้เจ้าค่ะพระชายา บ่อนการพนันปะปนทั้งคนดีคนเลว ด้านในทั้งหมดล้วนเป็นผู้ชาย ท่านจะเข้าไปได้อย่างไรเจ้าคะ”

“ถูกต้อง ท่านเป็นสตรีผู้มีฐานะสูงศักดิ์ จะเข้าไปในสถานที่ที่เต็มไปด้วยอบายมุขเช่นนี้ได้อย่างไร”

พวกนางตกใจจนแทบแย่จริง ๆ ไม่คิดอย่างเด็ดขาดเลยว่าพระชายาของตนจะใจกล้าขนาดนี้ ผู้หญิงทั่วไป อย่าว่าแต่เข้าไป เลยไม่แม้แต่จะกล้ามองสถานที่แบบนี้ด้วยซ้ำ

เฟิ่งเชียนอวี่จนปัญญาเป็นอย่างยิ่ง ก็แค่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งไม่ใช่หรือไง อย่าทำหน้าตาตกใจขนาดนี้ได้ไหม

“ตอนนี้ไม่มีพระชายา มีเพียงคุณชาย ตอนนี้พวกเราแต่งกายเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิง มีอะไรต้องกลัว”

สาวใช้ทั้งสองคนยังคงส่ายหน้า บีบให้ตายยังไงก็ไม่มีทางยอมให้นางเข้าไป

เฟิ่งเชียนอวี่ถอนหายใจ “เอาละ ๆ ข้าไม่เข้าไป”

พวกนางถึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก

ผลปรากฏว่า ทันทีที่คลายมือออก เฟิ่งเชียนอวี่ก็ใส่เกียร์หมา วิ่งปรู๊ดเข้าไปเองคนเดียว

หลิวซูกับอิ้งเสวี่ยตกใจหน้าถอดสี ทั้งสองคนสบตากันแวบหนึ่ง รีบวิ่งตามเข้าไปข้างในติด ๆ โดยที่ไม่สนใจอีกแล้ว
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Ammara Sinthooboon
กำลังสนุกค่ะ
goodnovel comment avatar
ปลายฟ้า ผ่องแผ้ว
ทำไงจะเลือกตอนที่อ่านได้
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 212

    “ฮือ ฮือ...”ตงฟางหล่างหน้าซีดด้วยความหวาดผวา พร้อมส่ายหน้าอย่างแรง ไม่ใช่นะเสด็จพ่อ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นทว่าฮ่องเต้เทียนหยวนกลับเชื่อไปเจ็ดแปดส่วนแล้วเพราะมือสังหารพูดอย่างมีเหตุมีผล หากตงฟางจิ่งลอบสังหารเขาจริง เหตุผลล่ะ?ตงฟางจิ่งร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เด็ก น้อยมากที่จะออกจากจวนอ๋อง ไม่มีเหตุผลในการลอบปลงพระชนม์แม้แต่น้อย เพราะต่อให้ทำสำเร็จ แล้วเขาจะทำอะไรได้?ทว่ารัชทายาทไม่เหมือนกันหากฮ่องเต้เทียนหยวนตาย รัชทายาทจะเป็นฮ่องเต้ตงเยว่คนต่อไป ถือเป็นผลประโยชน์มหาศาลสำหรับเขา จึงค่อนข้างเข้าใจได้ ฮ่องเต้เทียนหยวนเป็นฮ่องเต้ที่เห็นแก่ตัวและรักอำนาจ คำพูดของมือสังหารแต่ละคำกระแทกเข้าไปในใจเขา ราวกับรุกล้ำขีดจำกัดของเขา ทำให้เขาโกรธจนถึงขีดสุด“ทหาร มาลากตัวมือสังหารผู้นี้ลงไปประหารซะ”“ยังมีรัชทายาท คนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เนรคุณอกตัญญู ช่างน่าโมโหยิ่งนัก มาลากตัวไปรอรับโทษที่คุกหลวง”ฮ่องเต้เทียนหยวนโมโหมาก หลังจากสั่งเสร็จจึงจากไปทันทีเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้ว ตงฟางจิ่งถูกปล่อยออกจากวังอย่างปลอดภัย ส่วนรัชทายาทถูกนำไปคุมขังที่คุกหลวงรัชทายาทคงไม่นึกไม่ฝัน เมื

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 211

    “รัชทายาท...”น้ำเสียงเย็นเยือกของฮ่องเต้เทียนหยวนทำให้ใจของตงฟางหล่างบีบรัด“เสด็จพ่อ ลูกถูกปรักปรำพ่ะย่ะค่ะ ไม่รู้ว่ามือสังหารผู้นี้ได้รับคำสั่งจากใคร ถึงได้ใส่ความลูกเช่นนี้”“ก่อนหน้านี้เขาซัดทอดน้องหกก่อน ตอนนี้ซัดทอดลูก เห็นได้ชัดว่ามีเงื่อนงำ ความภักดีที่ลูกมีต่อเสด็จพ่อ ฟ้าดินเป็นพยานได้ ไม่กล้าลบหลู่พระองค์แม้แต่น้อย”“เสด็จพ่อ นี่เป็นแผนการ ขอจงทรงตรวจสอบด้วยพ่ะย่ะค่ะ”สีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนบรรยายไม่ถูก แต่ไม่ดีแน่นอน สายตาของพระองค์หันมองตงฟางจิ่ง“เจ้าหก เรื่องนี้เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “ลูกไม่มีความเห็น มีเพียงประโยคเดียวเท่านั้น ลูกเป็นผู้บริสุทธิ์พ่ะย่ะค่ะ”ตงฟางหล่างกัดฟันกรอด แล้วถลึงตาใส่เขา เจ้าบริสุทธิ์หรือ? ดังนั้นคนที่มีปัญหาคือเขางั้นหรือ?เขาอดแค่นหัวเราะไม่ได้ “น้องหกพูดอย่างไม่เดือดร้อน ครั้งที่แล้วมือสังหารซัดทอดเจ้า คราวนี้กลับเปลี่ยนคำให้การกะทันหัน ช่างบังเอิญเสียจริง”ตงฟางจิ่งส่ายหน้าเชื่องช้า “มือสังหารชี้แจงสาเหตุแล้วไม่ใช่หรือ”“ท่านสังหารน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา คนเป็นพี่ชายอย่างเขาไม่ยินดีถวายชีวิตให้ท่านอีกแล้ว เรื่

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 210

    “เมื่อครู่เจ้าบอกว่ารัชทายาทสั่งการเจ้าหรือ?”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่กล้าโป้ปด ทุกอย่างเป็นคำสั่งขององค์รัชทายาท”ตงฟางหล่างที่อยู่อีกด้านกำหมัดแน่น มองดูมือสังหารด้วยแววตาอำมหิต แทบอยากจะเข้าไปแทงอีกฝ่ายให้ตายคามือเขากล้าได้อย่างไร...“ฮึ เจ้านึกว่าเราจะเชื่อเจ้าหรือ?”“ครั้งที่แล้วเจ้าซัดทอดอ๋องหก ครั้งนี้ซัดทอดรัชทายาท เจ้ากำลังปั่นหัวเราเหมือนคนโง่หรือ?”มือสังหารรีบกล่าว “กระหม่อมไม่กล้า”“เราว่าเจ้าใจกล้ามาก ในเมื่อเจ้าซัดทอดรัชทายาท เราจะถามเจ้าอีกครั้ง เหตุใดครั้งแรกเจ้าซัดทอดอ๋องหก แล้วตอนนี้ถึงเปลี่ยนคำให้การอีกครั้ง?”“หากเจ้าไม่มีเหตุผล เราจะให้เจ้าได้ลิ้มรสสุดยอดของเครื่องทรมาน” ฮ่องเต้เทียนหยวนทรงพลังดูน่าเกรงขามมือสังหารกัดฟันกรอก แล้วจ้องไปที่รัชทายาท ในดวงตามีความโกรธแค้นที่รุนแรงความโกรธแค้นนั้นเสมือนจริงมากตงฟางหล่างถูกเขาจ้องจนชะงักไป“กระหม่อมเป็นข้ารับใช้ขององค์รัชทายาทมาตลอด ทำงานให้องค์รัชทายาทด้วยความจงรักภักดี”“การลอบปลงพระชนม์ในครั้งนี้ เดิมทีกระหม่อมตั้งใจแน่วแน่ว่าจะตาย เพราะองค์รัชทายาทเคยบอกว่าหากกระหม่อมเกิดเรื่อง จะช่วยดูแลน้องสาวเพียง

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 209

    ถูกต้อง หากไม่มีตราประทับนั่น แค่คำให้การของมือสังหาร คงไม่มีน้ำหนักมากพออ๋องทุกคนล้วนมีตราประทับเฉพาะของทุกคน เพื่อแสดงสถานะของตน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือฝีมือแกะสลักล้วนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งยากจะเลียนแบบทว่าตราประทับนั่นกลับอยู่บนตัวมือสังหาร หนำซ้ำหลังผ่านการพิสูจน์ มันเป็นของจริงนี่จึงเป็นสาเหตุให้ฮ่องเต้เทียนหยวนสงสัยตงฟางจิ่งสีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนไม่สู้ดีนัก เขาหันมองตงฟางจิ่ง “เจ้าหก เจ้าเป็นลูกที่เรารักและเอ็นดูมาโดยตลอด หากเจ้ายอมรับตอนนี้ เราจะลงโทษสถานเบา”“ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าเราไม่ให้โอกาสเจ้า”เมื่อรัชทายาทได้ยิน แววตามีความไม่สบอารมณ์แวบผ่านตงฟางจิ่งสีหน้าเรียบเฉย “ลูกไม่มีความผิดพ่ะย่ะค่ะ”“ดี นำตัวเข้ามาเดี๋ยวนี้” ฮ่องเต้เทียนหยวนเอ่ยเสียงฮึดฮัดในไม่ช้า มือสังหารที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำกรมราชทัณฑ์ถูกคุมตัวเข้ามามือสังหารหมอบกราบอยู่บนพื้น ไม่มีปฏิกิริยาใดทั้งสิ้นฮ่องเต้เทียนหยวนมองเขาเยือกเย็น “เจ้าลองบอกเราอีกครั้งสิ คืนนั้นที่เจ้าลอบสังหารเรา ได้รับคำสั่งจากใครกันแน่?”“ทางที่ดีจงพูดความจริง หากกล้าโป้ปดแม้แต่น้อย เราจะเฉือนเจ้าท

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 208

    “พระชายา ตกลงท่านทำอะไรลงไป?”เฟิ่งเชียนอวี่เท้าคางพร้อมโบกมือ “บอกไปพวกเจ้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี”นางหันมองเว่ยเซิงกับเว่ยชิว “พวกเจ้าสองคนมีวิธีทำให้ฮ่องเต้ไต่สวนคดีของตงฟางจิ่งอีกครั้งหรือไม่?”“จำไว้ ทางที่ดีต้องไต่สวนต่อหน้าเหล่าขุนนาง โดยเฉพาะสามารถไต่สวนในท้องพระโรง สอบสวนมือสังหารคนนั้นต่อหน้าทุกคน”“ไม่ได้นะขอรับพระชายา หากมือสังหารคนนั้นซัดทอดท่านอ๋องอีกครั้ง เช่นนั้นข้อหานี้ จะไม่มีวันรอดไปได้อีกเลย”สีหน้าเว่ยเซิงเคร่งเครียดมากเฟิ่งเชียนอวี่กลอกตามองเขา “เรื่องนี้ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร? วางใจเถอะ หากอยากให้ท่านอ๋องของพวกเจ้าออกมาจากคุกหลวงอย่างปลอดภัย ต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ”“นี่มัน...”เว่ยเซิงเอ่ยอย่างลังเล “พระชายา ท่านมั่นใจหรือ?”“มั่นใจแน่นอน”“งั้น...ก็ดี ข้าน้อยเข้าใจแล้ว” เว่ยเซิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วทำความเคารพคดีลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้เทียนหยวน แม้จะถูกมือสังหารซัดทอด แต่ในทางความผิด ตงฟางจิ่งยังไม่ยอมรับแม้ภายนอกตงฟางจิ่งจะเป็นอ๋องที่อ่อนแอขี้โรค ไม่สนใจเรื่องภายนอก ทว่าหลายปีมานี้ แอบวางแผนอยู่เบื้องหลังไม่น้อยเรื่องลอบปลงพระชนม์ เป็นความผิดที่ใส่ร้

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 207

    บ่าวทางซ้ายมือเข้าใจทันที จึงก้าวไปหนึ่งก้าวแล้วทำให้เหยียนความสลบเขาวางเหยียนควานไว้บนพื้น แล้วหันไปมองอีกคน “พระชายา ท่านเก่งกาจเหลือเกินขอรับ”นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะเข้ามาอย่างง่ายดาย หนำซ้ำยังไม่มีใครขัดขวางที่แท้บ่าวรับใช้ทั้งสองคน คือเฟิ่งเชียนอวี่และเว่ยเซิงส่วนเหลิ่งหานและเว่ยชิว ทั้งสองคนรออยู่ด้านนอก“เจ้าเฝ้าเขาให้ดี ข้าจะไปพบมือสังหารคนนั้น”“ไม่ได้ขอรับพระชายา ให้ข้าน้อยไปเป็นเพื่อนเถอะ ท่านเข้าไปคนเดียวอันตรายมาก”“วางใจเถอะ ข้ารู้จักประมาณตน ไม่ต้องพูดมาก”หลังจากเฟิ่งเชียนอวี่เอากุญแจมาจากมือเหยียนควาน ในไม่ช้าก็หาห้องขังของมือสังหารคนนั้นเจอพื้นที่บริเวณนี้เป็นส่วนที่ลึกมาก ห้องขังรอบด้านล้วนว่างเปล่า มีเพียงหนึ่งห้องที่คุมขังคนเอาไว้ จึงหาได้ง่ายมากนางเปิดประตูห้องขัง แล้วเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้ามือสังหารที่เดิมทีนอนพักสายตาอยู่บนเตียงลืมตาโพลง แล้วระมัดระวังตัวมาก “เจ้าคือใคร? เข้ามาได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่มองสำรวจอีกฝ่ายสักครู่ ใบหน้าดำคล้ำ หน้าตาธรรมดา เป็นคนที่หน้าตากลืนหายเข้าไปในฝูงชนนางเลิกคิ้ว เดินเข้าไปอย่างเชื่องช้า จากนั้นนั่งลงบนเก้าอี

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status