Share

บทที่ 9

Author: จิ้งเยี่ยน
ตงฟางจิ่งมองดูใบสั่งยา สีหน้ากลับมีความประหลาดใจเล็กน้อย

เขากล่าวอย่างไม่มั่นใจ “นี่คือ ลายมือเจ้า?”

เฟิ่งเชียนอวี่พยักหน้า “ถูกต้อง มีปัญหาอะไร?”

ตงฟางจิ่งหัวเราะพรวดออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ “ไม่มีปัญหาอะไร เพียงแค่ประหลาดใจมากเท่านั้น ตัวอักษรนี่ ช่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจริง ๆ”

น่าเกลียดเป็นพิเศษ

ตัวหนังสืออัปลักษณ์เช่นนี้ เกิดมาเขาเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกจริง ๆ ในเวลาเดียวกันในก็ยิ่งมีความสงสัย

เฟิ่งเชียนอวี่นับว่าเป็นลูกอนุภรรยา แต่ก็เกิดในจวนอัครเสนาบดี แม้ว่าจะไม่ได้รับการฝึกฝนเป็นพิเศษตั้งแต่เด็ก ก็ไม่ควรจะเขียนหนังสือเช่นนี้

ไม่มีเค้าโครงใด ๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรูปร่างของตัวอักษร แม้แต่เด็กอายุห้าหกขวบที่เพิ่งเข้าเรียนในสถานศึกษา ก็เขียนได้สวยกว่าเฟิ่งเชียนอวี่

เฟิ่งเชียนอวี่ตะลึงงันไป จากนั้นก็มีเสียงดังตูม หน้าแดงอย่างอดไม่ได้ รู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย

นางเป็นคนยุคสมัยปัจจุบันคนหนึ่ง เขียนพู่กันของคนโบราณเป็นที่ไหนกัน มองเห็นชัดก็พอแล้วไม่ใช่เหรอไง จะมาจับผิดว่าตัวหนังสือสวยหรือไม่สวยทำไม?

ตงฟางจิ่งสุขภาพไม่แข็งแรง จึงมีสมุนไพรติดเรือนอยู่เสมอ ยังมีห้องยาหนึ่งห้องเป็นการเฉพาะ สมุนไพรส่วนใหญ่ในใบสั่งยาไม่นับว่าหายากสักเท่าไหร่ มีอยู่สองชนิดที่หายากหน่อย ในจวนก็มีพอดีเช่นกัน

พ่อบ้านนำสมุนไพรทั้งหมดมาอย่างรวดเร็ว

ภายในห้องหนังสือ เด็กรับใช้เตรียมถังแช่น้ำและน้ำร้อนเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

เฟิ่งเชียนอวี่ลูบคาง ส่ายหน้า “ไม่ได้ การแช่สมุนไพรนี้อย่างน้อยต้องแช่หนึ่งชั่วยาม”

หนึ่งชั่วยามในสมัยโบราณ ก็เท่ากับสองชั่วโมง

“ในช่วงเวลานี้ จะต้องรักษาอุณหภูมิของน้ำให้สมดุล แม้ว่าจะเข้ามาเติมน้ำร้อนเป็นครั้งคราว ก็จะทำให้อุณหภูมิของน้ำขาดความคงที่ ฤทธิ์ยาไม่สามารถออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่”

ตงฟางจิ่งปัดมืออย่างสุขุม ครู่ต่อมา ภายในห้องหนังสือก็มีเงาเดาสี่เงาปรากฏขึ้น เฟิ่งเชียนอวี่ตกใจมาก แต่เมื่อมองดูอย่างชัดเจนแล้ว คนชุดดำทั้งสี่คนกำลังคุกเข่าข้างเดียว เรียงแถวอยู่ตรงหน้า

“พวกเขาสามารถใช้กำลังภายในพัดไฟได้อย่างต่อเนื่อง สองคนพัดไฟ ก่อนหน้าที่จะใช้กำลังภายในจนหมด อีกสองคนก็เข้ามาแทนที่” ตงฟางจิ่งกล่าวอย่างสงบนิ่ง

เฟิ่งเชียนอวี่เบิกตากว้าง กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก พยักหน้า “ดี เป็นวิธีการที่ดี สุดยอด เหอะ ๆ”

โอ้โฮ นี่ก็คือองครักษ์ลับในซีรีส์ใช่ไหม มาอย่างไร้เงาไปอย่างไร้ร่องรอย วรยุทธ์สูงส่ง กำลังภายในแข็งแกร่ง ราวกับเป็นเงา

หัวใจของนางเต้นโครมคราม รู้สึกเร้าใจและตื่นเต้น คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะได้เห็นตัวเป็น ๆ แล้ว ในเวลาเดียวก็แอบคิดอยู่ภายในใจ

ตงฟางจิ่งคนนี้มีแม้กระทั่งองครักษ์ลับ ลักษณะดูเหมือนกับท่านอ๋องทั่วไปที่ไหนกันละ อิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังจะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน จุ ๆ

เฟิ่งเชียนอวี่กะพริบตา สำรวมอาการ จ้องมององครักษ์ลับสองคนที่ยืนอยู่ข้างถังอาบน้ำ ยื่นมือออกมาอย่างรวดเร็ว พลังลับกลุ่มหนึ่งแผ่ซ่านอยู่ภายในห้อง น้ำในถังเริ่มเดือดจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

เฟิ่งเชียนอวี่มองดูด้วยความประหลาดใจ

ถึงแม้ว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูงในสมัยปัจจุบันจะยอดเยี่ยมมาก แต่วรยุทธ์ของยุคโบราณ ก็น่าทึ่งมากเช่นกัน

ตงฟางจิ่งถอดชุดด้านนอกออก ก้าวเข้าไปในถัง

เฟิ่งเชียนอวี่รีบนำสมุนไพรที่กองอยู่ด้านข้าง โยนใส่เข้าไปทีละอย่างตามลำดับ พร้อมกล่าวเตือน

“ท่านอ๋อง ถึงแม้ว่าอุณหภูมิของน้ำนี้จะสูง แต่ก็ไม่ทำลายผิวหนัง อีกเดี๋ยวทันทีที่ยาฤทธิ์ออกฤทธิ์ จะรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย ท่านอดทนสักหน่อยนะ”

ตงฟางจิ่งไม่ได้พูดอะไร ค่อย ๆ หลับตาที่เย็นยะเยือกลง

สิบกว่าปีมานี้ ทุกครั้งที่พิษเหมันต์กำเริบ ความเจ็บปวดเข้ากระดูกนั้นเขาต้องเผชิญมาไม่รู้กี่ครั้งกี่หนแล้ว

ความเจ็บเล็กน้อยแค่นี้จะทำอะไรได้

หวังเพียงแต่ว่าเฟิ่งเชียนอวี่ไม่ได้หลอกลวงเขา หากเป็นตามที่ผู้หญิงคนนี้พูดจริง ว่าวิธีการของนาง สามารถกำจัดพิษนี้ได้

เวลาที่ผ่านไปแต่ละนาที

เป็นดังเช่นเฟิ่งเชียนอวี่กล่าวเอาไว้ หลังจากแช่สมุนไพรไปได้ประมาณสิบกว่านาที ทั่วทั้งร่างกายก็เริ่มรู้สึกเจ็บจี๊ด ๆราวกับถูกเข็มทิ่มแทง และเหมือนว่าจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

แต่ตลอดขั้นตอน ตงฟางจิ่งไม่ขยับเลยสักนิดแม้กระทั่งคิ้ว ราวกับว่าไม่มีความรู้สึกรู้สาอะไรเลย

เฟิ่งเชียนอวี่รู้สึกนับถือ คนแน่จริง ๆ

เวลาหนึ่งชั่วยามผ่านไปเร็วมาก ตงฟางจิ่งกระโดดออกจากในถังพร้อมตัวที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำสมุนไพร

เฟิ่งเชียนอวี่กล่าวถามอย่างอดรนทนไม่ไหว “เป็นอย่างไรบ้าง? รู้สึกอย่างไรบ้าง?”

ตงฟางจิ่งจ้องมองนางด้วยสายตาล้ำลึกแวบหนึ่ง จากนั้นก็เคลื่อนย้ายกำลังภายในผ่านเส้นเลือดดำทั่วทั้งร่างกาย

ตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีมานี้ พิษเหมันต์จำกัดการเคลื่อนย้ายกำลังภายในของเขามาตลอด พลังสิบส่วนสามารถใช้ได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น โดยปกติการเคลื่อนย้ายกำลังภายใน มักจะมาพร้อมกับความติดขัด แล้วก็มีความแสบร้อนตามมา

แต่ตอนนี้...

ตงฟางจิ่งสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน ความรู้สึกติดขัดในอดีต ลดลงไปมากกว่าครึ่ง อีกทั้งยังไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดอีกด้วย

พลังสิบส่วน สามารถใช้ได้หกส่วนแล้ว

ถึงแม้ว่าจะเพิ่มขึ้นมาแค่เพียงขั้นเดียว แต่ผลลัพธ์ชัดเจนมาก ว่าการแช่สมุนไพรนี้มีประโยชน์ มีประโยชน์เป็นอย่างมาก

เฟิ่งเชียนอวี่พูดแล้วว่า นี่เป็นเพียงใบสั่งยาชุดที่หนึ่งเท่านั้น หลังจากนี้ยังมีอีกชุด ถ้าหากแช่จนจบสมบูรณ์ ก็จะต้อง...

ตงฟางจิ่งเม้มปาก มือทั้งสองข้างแอบสั่นเทาเล็กน้อย

ครั้งหนึ่งเขาเคยคิดว่าพิษเหมันต์ของร่างกายหมดหนทางรักษา นอกจากการสกัดเอาไว้ก็ไม่มีหนทางอื่นแล้ว สามารถมีชีวิตรอดไปวัน ๆ เท่านั้น ตอนนี้สวรรค์กลับประทานโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปให้เขา

แม้ว่าจะเป็นตงฟางจิ่ง ก็ยากที่จะจิตใจสงบ

เขาหลับตา แล้วลืมตาขึ้นอีกครั้ง ความแจ่มชัดในดวงตาได้ถูกสะกดเอาไว้หมดแล้ว จ้องมองเฟิ่งเชียนอวี่ ยื่นมือออกไปโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

“ใบสั่งยาที่เหลือ”

เฟิ่งเชียนอวี่เลิกคิ้วทันที ยิ้มอย่างลำพองใจ “ได้ผลใช่หรือไม่ ข้าบอกแล้วว่าข้ามีหนทางแก้ไข ตอนนี้เชื่อแล้วละสิ”

นางจ้องมองมือที่อยู่ตรงหน้า ข้อกระดูกนิ้วมือที่เด่นชัด สีผิวที่ขาวราวกับหยก แม้ว่าบริเวณข้อต่อจะไม่มีรอยย่น จ้องมองอย่างหน้าชื่นตาบาน

เฟิ่งเชียนอวี่พยายามสะกดความอยากจะยื่นมือไปจับ กระแอมเบา ๆ “คำขอของข้ายังเป็นข้อนั้น อยากได้ใบสั่งยานั้นง่ายมาก เอาหนังสือแยกทางมาแลก”

ตงฟางจิ่งจ้องมองนางเงียบ ๆ อยู่ครู่ใหญ่ ค่อย ๆ ชักมือกลับ หยิบเสื้อคลุมด้านนอกออกมา แล้วสวมอย่างไม่รีบร้อน

“ไม่มีทาง”

คำสั้น ๆ เพียงสามคำ แต่กลับแฝงไปด้วยกลิ่นอายของการต่อต้าน

เฟิ่งเชียนอวี่ยืนตะลึง กล่าวอย่างเหลือเชื่อ “เพราะอะไร?”

นางคิดไม่ถึงจริง ๆว่าตงฟางจิ่งจะปฏิเสธ?

เห็นกันอยู่ชัด ๆว่าใบสั่งยานี้ได้ผล? เห็นได้ชัดเจนว่าเขาอยากจะกำจัดพิษเหมันต์ ตอนนี้เป็นโอกาส นางเพียงแค่อยากจะได้หนังสือแยกทางเดียวเท่านั้น

ทำไมถึงปฏิเสธ?

ตงฟางจิ่งกล่าวเสียงเรียบ “เจ้าเอ่ยปากขอเรื่องอื่นได้ แต่เรื่องแยกทางนั้นเป็นไปไม่ได้”

เฟิ่งเชียนอวี่กัดฟัน “ข้ามีข้อเรียกร้องข้อนี้เพียงข้อเดียว”

“เช่นนั้นก็ไม่มีอะไรต้องเจรจากันแล้ว”

นางเบิกตากว้าง ยิ้มด้วยความโมโหทันที “ไม่มีอะไรต้องเจรจาใช่หรือไม่ ได้สิ ท่านอ๋องผู้อวดดี ข้านับถือ หวังว่าตอนที่พิษเหมันต์ของท่านอ๋องกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง ยังจะอวดดีแบบนี้ได้อยู่นะ ฮึ”

เฟิ่งเชียนอวี่หันหลังกลับด้วยความโมโหแล้วเดินจากไป ภาพเบื้องหลังที่ราวกับกำลังมีเพลิงลุกโหม

ตงฟางจิ่งจ้องมองภาพเบื้องหลังของนางที่เดินออกไป ดวงตาที่ล้ำลึกเต็มไปด้วยความเงียบสงัด

เฟิ่งเชียนอวี่กลับมาที่เรือนชิงหลานด้วยสีหน้าโมโห จิบน้ำเย็นสี่ห้าถ้วยในคราวเดียว เพลิงโทสะในทรวงอกยังคงไม่ลดลงไปแม้แต่นิดเดียว

พวกสาวใช้ภายในเรือนมองหน้ากันไปมา

หลิวซูเดินเข้ามาหาอย่างระวัง “พระชายา? ดื่มน้ำเย็นมากไปเกรงว่าจะทำให้ท้องไส้ไม่สบาย บ่าวจะไปเปลี่ยนเป็นน้ำอุ่นให้ท่านดีหรือไม่?”

เฟิ่งเชียนอวี่โบกมืออย่างอารมณ์ไม่ดี “น้ำอุ่นอะไร เอาน้ำเย็นมา”

อะไรนะ?

หลิวซูรู้สึกทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย แต่เมื่อมองดูท่าทางของเฟิ่งเชียนอวี่ ก็ไม่กล้าขัดคำสั่ง

เฟิ่งเชียนอวี่กระดกน้ำเย็นลงไปอีกสองแก้ว ความรู้สึกใจเย็นจากภายในสู่ภายนอก เพลิงโทสะภายในใจถึงได้ลดลงไปเล็กน้อย
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 212

    “ฮือ ฮือ...”ตงฟางหล่างหน้าซีดด้วยความหวาดผวา พร้อมส่ายหน้าอย่างแรง ไม่ใช่นะเสด็จพ่อ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นทว่าฮ่องเต้เทียนหยวนกลับเชื่อไปเจ็ดแปดส่วนแล้วเพราะมือสังหารพูดอย่างมีเหตุมีผล หากตงฟางจิ่งลอบสังหารเขาจริง เหตุผลล่ะ?ตงฟางจิ่งร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เด็ก น้อยมากที่จะออกจากจวนอ๋อง ไม่มีเหตุผลในการลอบปลงพระชนม์แม้แต่น้อย เพราะต่อให้ทำสำเร็จ แล้วเขาจะทำอะไรได้?ทว่ารัชทายาทไม่เหมือนกันหากฮ่องเต้เทียนหยวนตาย รัชทายาทจะเป็นฮ่องเต้ตงเยว่คนต่อไป ถือเป็นผลประโยชน์มหาศาลสำหรับเขา จึงค่อนข้างเข้าใจได้ ฮ่องเต้เทียนหยวนเป็นฮ่องเต้ที่เห็นแก่ตัวและรักอำนาจ คำพูดของมือสังหารแต่ละคำกระแทกเข้าไปในใจเขา ราวกับรุกล้ำขีดจำกัดของเขา ทำให้เขาโกรธจนถึงขีดสุด“ทหาร มาลากตัวมือสังหารผู้นี้ลงไปประหารซะ”“ยังมีรัชทายาท คนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เนรคุณอกตัญญู ช่างน่าโมโหยิ่งนัก มาลากตัวไปรอรับโทษที่คุกหลวง”ฮ่องเต้เทียนหยวนโมโหมาก หลังจากสั่งเสร็จจึงจากไปทันทีเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้ว ตงฟางจิ่งถูกปล่อยออกจากวังอย่างปลอดภัย ส่วนรัชทายาทถูกนำไปคุมขังที่คุกหลวงรัชทายาทคงไม่นึกไม่ฝัน เมื

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 211

    “รัชทายาท...”น้ำเสียงเย็นเยือกของฮ่องเต้เทียนหยวนทำให้ใจของตงฟางหล่างบีบรัด“เสด็จพ่อ ลูกถูกปรักปรำพ่ะย่ะค่ะ ไม่รู้ว่ามือสังหารผู้นี้ได้รับคำสั่งจากใคร ถึงได้ใส่ความลูกเช่นนี้”“ก่อนหน้านี้เขาซัดทอดน้องหกก่อน ตอนนี้ซัดทอดลูก เห็นได้ชัดว่ามีเงื่อนงำ ความภักดีที่ลูกมีต่อเสด็จพ่อ ฟ้าดินเป็นพยานได้ ไม่กล้าลบหลู่พระองค์แม้แต่น้อย”“เสด็จพ่อ นี่เป็นแผนการ ขอจงทรงตรวจสอบด้วยพ่ะย่ะค่ะ”สีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนบรรยายไม่ถูก แต่ไม่ดีแน่นอน สายตาของพระองค์หันมองตงฟางจิ่ง“เจ้าหก เรื่องนี้เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “ลูกไม่มีความเห็น มีเพียงประโยคเดียวเท่านั้น ลูกเป็นผู้บริสุทธิ์พ่ะย่ะค่ะ”ตงฟางหล่างกัดฟันกรอด แล้วถลึงตาใส่เขา เจ้าบริสุทธิ์หรือ? ดังนั้นคนที่มีปัญหาคือเขางั้นหรือ?เขาอดแค่นหัวเราะไม่ได้ “น้องหกพูดอย่างไม่เดือดร้อน ครั้งที่แล้วมือสังหารซัดทอดเจ้า คราวนี้กลับเปลี่ยนคำให้การกะทันหัน ช่างบังเอิญเสียจริง”ตงฟางจิ่งส่ายหน้าเชื่องช้า “มือสังหารชี้แจงสาเหตุแล้วไม่ใช่หรือ”“ท่านสังหารน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา คนเป็นพี่ชายอย่างเขาไม่ยินดีถวายชีวิตให้ท่านอีกแล้ว เรื่

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 210

    “เมื่อครู่เจ้าบอกว่ารัชทายาทสั่งการเจ้าหรือ?”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่กล้าโป้ปด ทุกอย่างเป็นคำสั่งขององค์รัชทายาท”ตงฟางหล่างที่อยู่อีกด้านกำหมัดแน่น มองดูมือสังหารด้วยแววตาอำมหิต แทบอยากจะเข้าไปแทงอีกฝ่ายให้ตายคามือเขากล้าได้อย่างไร...“ฮึ เจ้านึกว่าเราจะเชื่อเจ้าหรือ?”“ครั้งที่แล้วเจ้าซัดทอดอ๋องหก ครั้งนี้ซัดทอดรัชทายาท เจ้ากำลังปั่นหัวเราเหมือนคนโง่หรือ?”มือสังหารรีบกล่าว “กระหม่อมไม่กล้า”“เราว่าเจ้าใจกล้ามาก ในเมื่อเจ้าซัดทอดรัชทายาท เราจะถามเจ้าอีกครั้ง เหตุใดครั้งแรกเจ้าซัดทอดอ๋องหก แล้วตอนนี้ถึงเปลี่ยนคำให้การอีกครั้ง?”“หากเจ้าไม่มีเหตุผล เราจะให้เจ้าได้ลิ้มรสสุดยอดของเครื่องทรมาน” ฮ่องเต้เทียนหยวนทรงพลังดูน่าเกรงขามมือสังหารกัดฟันกรอก แล้วจ้องไปที่รัชทายาท ในดวงตามีความโกรธแค้นที่รุนแรงความโกรธแค้นนั้นเสมือนจริงมากตงฟางหล่างถูกเขาจ้องจนชะงักไป“กระหม่อมเป็นข้ารับใช้ขององค์รัชทายาทมาตลอด ทำงานให้องค์รัชทายาทด้วยความจงรักภักดี”“การลอบปลงพระชนม์ในครั้งนี้ เดิมทีกระหม่อมตั้งใจแน่วแน่ว่าจะตาย เพราะองค์รัชทายาทเคยบอกว่าหากกระหม่อมเกิดเรื่อง จะช่วยดูแลน้องสาวเพียง

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 209

    ถูกต้อง หากไม่มีตราประทับนั่น แค่คำให้การของมือสังหาร คงไม่มีน้ำหนักมากพออ๋องทุกคนล้วนมีตราประทับเฉพาะของทุกคน เพื่อแสดงสถานะของตน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือฝีมือแกะสลักล้วนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งยากจะเลียนแบบทว่าตราประทับนั่นกลับอยู่บนตัวมือสังหาร หนำซ้ำหลังผ่านการพิสูจน์ มันเป็นของจริงนี่จึงเป็นสาเหตุให้ฮ่องเต้เทียนหยวนสงสัยตงฟางจิ่งสีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนไม่สู้ดีนัก เขาหันมองตงฟางจิ่ง “เจ้าหก เจ้าเป็นลูกที่เรารักและเอ็นดูมาโดยตลอด หากเจ้ายอมรับตอนนี้ เราจะลงโทษสถานเบา”“ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าเราไม่ให้โอกาสเจ้า”เมื่อรัชทายาทได้ยิน แววตามีความไม่สบอารมณ์แวบผ่านตงฟางจิ่งสีหน้าเรียบเฉย “ลูกไม่มีความผิดพ่ะย่ะค่ะ”“ดี นำตัวเข้ามาเดี๋ยวนี้” ฮ่องเต้เทียนหยวนเอ่ยเสียงฮึดฮัดในไม่ช้า มือสังหารที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำกรมราชทัณฑ์ถูกคุมตัวเข้ามามือสังหารหมอบกราบอยู่บนพื้น ไม่มีปฏิกิริยาใดทั้งสิ้นฮ่องเต้เทียนหยวนมองเขาเยือกเย็น “เจ้าลองบอกเราอีกครั้งสิ คืนนั้นที่เจ้าลอบสังหารเรา ได้รับคำสั่งจากใครกันแน่?”“ทางที่ดีจงพูดความจริง หากกล้าโป้ปดแม้แต่น้อย เราจะเฉือนเจ้าท

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 208

    “พระชายา ตกลงท่านทำอะไรลงไป?”เฟิ่งเชียนอวี่เท้าคางพร้อมโบกมือ “บอกไปพวกเจ้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี”นางหันมองเว่ยเซิงกับเว่ยชิว “พวกเจ้าสองคนมีวิธีทำให้ฮ่องเต้ไต่สวนคดีของตงฟางจิ่งอีกครั้งหรือไม่?”“จำไว้ ทางที่ดีต้องไต่สวนต่อหน้าเหล่าขุนนาง โดยเฉพาะสามารถไต่สวนในท้องพระโรง สอบสวนมือสังหารคนนั้นต่อหน้าทุกคน”“ไม่ได้นะขอรับพระชายา หากมือสังหารคนนั้นซัดทอดท่านอ๋องอีกครั้ง เช่นนั้นข้อหานี้ จะไม่มีวันรอดไปได้อีกเลย”สีหน้าเว่ยเซิงเคร่งเครียดมากเฟิ่งเชียนอวี่กลอกตามองเขา “เรื่องนี้ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร? วางใจเถอะ หากอยากให้ท่านอ๋องของพวกเจ้าออกมาจากคุกหลวงอย่างปลอดภัย ต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ”“นี่มัน...”เว่ยเซิงเอ่ยอย่างลังเล “พระชายา ท่านมั่นใจหรือ?”“มั่นใจแน่นอน”“งั้น...ก็ดี ข้าน้อยเข้าใจแล้ว” เว่ยเซิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วทำความเคารพคดีลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้เทียนหยวน แม้จะถูกมือสังหารซัดทอด แต่ในทางความผิด ตงฟางจิ่งยังไม่ยอมรับแม้ภายนอกตงฟางจิ่งจะเป็นอ๋องที่อ่อนแอขี้โรค ไม่สนใจเรื่องภายนอก ทว่าหลายปีมานี้ แอบวางแผนอยู่เบื้องหลังไม่น้อยเรื่องลอบปลงพระชนม์ เป็นความผิดที่ใส่ร้

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 207

    บ่าวทางซ้ายมือเข้าใจทันที จึงก้าวไปหนึ่งก้าวแล้วทำให้เหยียนความสลบเขาวางเหยียนควานไว้บนพื้น แล้วหันไปมองอีกคน “พระชายา ท่านเก่งกาจเหลือเกินขอรับ”นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะเข้ามาอย่างง่ายดาย หนำซ้ำยังไม่มีใครขัดขวางที่แท้บ่าวรับใช้ทั้งสองคน คือเฟิ่งเชียนอวี่และเว่ยเซิงส่วนเหลิ่งหานและเว่ยชิว ทั้งสองคนรออยู่ด้านนอก“เจ้าเฝ้าเขาให้ดี ข้าจะไปพบมือสังหารคนนั้น”“ไม่ได้ขอรับพระชายา ให้ข้าน้อยไปเป็นเพื่อนเถอะ ท่านเข้าไปคนเดียวอันตรายมาก”“วางใจเถอะ ข้ารู้จักประมาณตน ไม่ต้องพูดมาก”หลังจากเฟิ่งเชียนอวี่เอากุญแจมาจากมือเหยียนควาน ในไม่ช้าก็หาห้องขังของมือสังหารคนนั้นเจอพื้นที่บริเวณนี้เป็นส่วนที่ลึกมาก ห้องขังรอบด้านล้วนว่างเปล่า มีเพียงหนึ่งห้องที่คุมขังคนเอาไว้ จึงหาได้ง่ายมากนางเปิดประตูห้องขัง แล้วเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้ามือสังหารที่เดิมทีนอนพักสายตาอยู่บนเตียงลืมตาโพลง แล้วระมัดระวังตัวมาก “เจ้าคือใคร? เข้ามาได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่มองสำรวจอีกฝ่ายสักครู่ ใบหน้าดำคล้ำ หน้าตาธรรมดา เป็นคนที่หน้าตากลืนหายเข้าไปในฝูงชนนางเลิกคิ้ว เดินเข้าไปอย่างเชื่องช้า จากนั้นนั่งลงบนเก้าอี

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status