Home / แฟนตาซี / ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย / ตอนที่ 16 : ความโกงต่อเนื่องที่มาพร้อมกับการเกิดใหม่ครั้งที่ 2  ตอนจบ

Share

ตอนที่ 16 : ความโกงต่อเนื่องที่มาพร้อมกับการเกิดใหม่ครั้งที่ 2  ตอนจบ

last update Last Updated: 2025-04-09 12:06:18

แปล๊บๆๆๆ!!!!!!!

〝จ๊ากกกกกก!!!!!!!!!!〞

            หลังจากที่กรได้หลั่งน้ำตาออกมาเพราะความรู้สึกหลายๆอย่างที่สั่งสมมานาน จากทั้งแรงกดดันและความเครียดทั้งหลายที่สะสมมามากเสียจนทะลุปรอทได้จบลง จู่ๆกรก็สัมผัสได้ถึงกระแสไฟฟ้าแรงสูงไหลผ่านไปทั่วร่างตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างกระทันหันจนถึงกับล้มลงไปนอนกับพื้นในท่าหงายท้องมองดูดาวเลยทีเดียว ทั้งยังเกิดควันสีดำคลุ้งออกมาจากร่างจนทั่วเลยทีเดียว รวมทั้งผมยาวๆของตัวกรเองก็ยังตั้งฟูเป็นผมทรงแอ็ฟโฟร่ฟูฟ่องอย่างหนาเพราะกระแสไฟฟ้าที่ว่าไปพร้อมๆกันจนดูน่าขบขันไม่ใช่น้อย นั่นเลยทำให้ตัวของกรชาไปหมดแล้วก็ล้มลงไปกองกับพื้นตามระเบียบ

อึ๊ก!  อะไรกันเนี่ย....  หลังจากที่ต้องรับภาระทางจิตใจที่มากเสียยิ่งกว่ามากจนล้นออกมาแล้ว ยังต้องมาเจอเรื่องแบบนี้อีกงั้นเหรอ!?  นี่มันจะเกินไปแล้วนะเฮ้ย!!!

ยะ...อย่าบอกนะว่านี่เป็นผลข้างเคียงของสกิล  หรือไม่ก็เป็นบทลงโทษของคนที่ใช้โปรแกรมโกง———

เดี๋ยวๆๆๆ....ฉันไม่ได้ใช้โปรแกรมโกงหรือชีตทูล(Cheat Tool) หรืออะไรเทือกๆนั้นซักกะนิดเดียว...ถ้าจะโทษก็ไปโทษไอ้คนที่จัดสกิลมาให้ฉันซะสิ....แต่เดี๋ยวดิ  แล้วคนที่จัดมันเป็นใครหว่า!?

แล้วนี่ฉันกำลังบ่นให้ใครฟังอยู่กันละเนี่ย!!!

กริ๊ง!!!

〝!!!!!!!!!!〞

          ในขณะที่กรกำลังคิดหาสาเหตุของเรื่องบ้าๆที่เกิดขึ้นกับตัวเองอย่างกะทันหันตามปกติอยู่นั่น จนเวลาผ่านไปพอสมควรพอรู้สึกตัวอีกทีก็ขยับตัวได้อีกครั้งแล้ว จากนั้นเสียงกระดิ่งที่คุ้นหูก็ดังขึ้นมาในหัวของกรอีกครั้งแทบจะในทันที  แล้วหน้าต่างเล็กๆที่คุ้นเคยซึ่งเป็นหน้าต่างย่อยแสดงรายละเอียดสกิลก็ถูกแสดงขึ้นมาในระดับสายตาของกรทั้งที่ตัวกรกำลังนอนหงายท้องอยู่อย่างนั้น 

Ogre Arm(ต้นฉบับ)

《 คำอธิบาย : เป็นสกิลจากการได้รับฉายา〘แขนยักษาแห่งการทำลายล้าง〙สามารถเพิ่มสเตตัสทั้งหมดได้ 50 เท่า ตามแต่พลังเวทย์ที่จ่ายเข้าไปในวงเวทย์ซึ่งสลักอยู่บนแขนขวา และจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เมื่อเวลาผ่านไปทุกๆ 30 วินาที *ตัวอย่างเช่น จ่ายพลังเวทย์ลงไป 1,000  จุด ก็จะทำให้สเตตัสทั้งหมดเพิ่มขึ้น 50,000 จุด และหากเวลาผ่านไปตั้งแต่เริ่มใช้ 90 วินาที ก็จะทำให้สเตตัสทั้งหมดเพิ่มขึ้น 200,000 จุดนั่นเอง  **สกิลนี้จะคงอยู่ตลอดจนกระทั่งผู้ใช้ปลดการใช้งานลงด้วยตัวเองหรือการตอบสนองแบบอัตโนวัติภายใต้อำนาจจิตใจ  ***หากใช้สกิลนี้ไปแล้วครั้งหนึ่งร่างกายจะอยู่ในสถานะขยับตัวไม่ได้ 10 วินาทีและต้องรออีก 6 ชั่วโมงเพื่อใช้งานในครั้งต่อไป 》

หะ.....ห่ะห๊ะ!!!   เอาหล่ะสิ....มีสกิลที่โกงซะยิ่งกว่าโกงโผล่ออกมาอีกแล้ว

....ฮึก  เปล่านะ ฉันไม่ได้ร้องไห้ซักหน่อย

          และแน่นอนว่าผลลัพธ์ของคำอธิบายนั่น  ก็ทำให้กรต้องหนักใจอย่างหนักเช่นเคย จนน้ำตาที่หมดไปแล้วในครั้งก่อน แทบจะไหลออกมาอีกเป็นครั้งที่ 2 เพราะความรู้สึกที่หนักอึ้งกว่าเดิมถาโถมเข้ามาพร้อมกันมากมายเลยทีเดียว

แล้วถ้างั้น จะให้ฉันทำไงกับมันกันเล่า  ห๊ะ!!!!

จะบ้าเรอะ!!!!  มีที่ไหนกัน เพิ่มสเตตัสทั้งหมดได้ 50 เท่าเนี่ย นี่มันจะมากเกินไปแล้ว!!!

แถมยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกครึ่งวินาทีอีก  งั้นเมื่อกี้ที่ฉันจ่ายพลังเวทย์ลงไปเฉลี่ยแล้วก็ประมาณ 8 หมื่น ส่วนเวลาที่ผ่านไปตั้งแต่เริ่มใช้ก็ประมาณ 3-4  นาทีได้….

....นี่แสดงว่าสเตตัสของฉันตอนที่ใช้สกิลเมื่อกี้นี้ก็คือ  เอิ่ม... 8 คูณ 5 คูณ 3 คูณ 2.......... 24 ล้านจุดงั้นเหรอ!!!!! 

โกง!!!  โกงเกินไปแล้ว!!!  นี่มันมากกว่าสเตตัสของเคลเบรอสตั้ง 2 เท่าเลยนะเฮ้ย...ตัวฉันนี่มันจะโกงไปถึงไหนกันเนี่ย!!!  หะ...ให้ตายสิ  เริ่มกลัวตัวเองขึ้นมาอีกแล้วแฮะ

ตะ...แต่ว่า  เห็นบอกว่ามีคูลดาวน์ 6 ชั่วโมงด้วยสิ  เพราะงั้นก็เลยใช้ต่อเนื่องไม่ได้  แถมหลังใช้ก็ขยับตัวไม่ได้อีกตั้ง 10 วิเลยแหน่ะ...อีแบบนี้ถ้าเกิดยังจัดการศัตรูไม่ได้ด้วยสกิลนี้ในการโจมตีสุดท้าย ตัวเราก็จะกลายเป็นกระสอบทรายไปเลยหน่ะสิ!!!

โอ้ว!!! งั้นเหรอ  สกิลโกงโคตรนี่ก็มีความเสี่ยงอยู่สินะ  แบบนี้คงต้องเก็บไว้เป็นไม้ตายก้นหีบแล้วหล่ะ  แบบนี้ก็ค่อยพอรับได้หน่อย...

....ฟู่!!!  ทั้งที่สกิลมีข้อจำกัดผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดแท้ๆ  แต่เราดันดีใจกับมันซะงั้น  ไอ้เรานี่ก็แปลกดี...ไม่สิ  คิดว่าเราก็ปกตินั่นแหล่ะ...มั้งนะ  ก็แค่สกิลมันเกินธรรมดามากเกินจนทำใจยอมรับไม่ได้ต่างหาก

〝เห้อ!!!〞

          แล้วกรก็ถอนหายใจออกมาอย่างหนักราวกับจะรีบปัดเป่าความอัดอั้นที่อยู่ในใจให้มลายหายไปเพื่อปรับจิตใจและความคิดให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้งหลังจากที่เจอความกดดันอย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกับที่กรกำลังพูดบ่นกับตัวเองพร้อมกับหัวเราะแห้งอย่างไร้อารมณ์อยู่นั่นเอง ก็มีเสียงของบุคคล?ปริศนาดังขึ้นมาแทรกความคิดของกร

〝ฮะ.. ฮ่ะ!!! ให้ตายสิ! ตัวเรานี่มันโกงซะจริง....  เอาซะจนตัวเองยังกลัวเลยนะเนี่ย.......  〞

แกร็กๆ!!

〖อะไรกันเจ้าหนู! การแข็งแกร่งขึ้นก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่รึ....  จะยินดีกับมันมากกว่านี้ก็ได้หล่ะมั้ง!!!〗

〝หนวกหูน่า เจ้าหมา! อย่างแกจะมาเข้าใจความทุกข์ของฉันที่ต้องคอยรับแรงกดดันจากตัวเองได้ยังไ———〞

.

.

.

〝หา!!!!!!!〞

          แล้วพอกรตอบกลับเสียงปริศนาที่ฟังดูเหมือนเพิ่งเคยได้ยินเมื่อไม่นานมานี้นั่นไปอย่างไม่ใส่ใจจึงไม่ได้รู้เลยแม้แต่น้อยเลยว่าเป็นต้นเสียงนั้นมาจากใครแต่ก็ยังตอบกลับในทันทีราวกับคุ้นเคยกับคู่สนทนาที่ว่าอยู่ก่อนแล้ว  แต่พอดึงสติขึ้นมาได้ก็รู้ในทันทีว่าเสียงนั้นเป็นของใคร  จึงได้ตะโกนออกมาจนลั่นเพราะความตกใจนั่นเอง...

〝คะ...เคลเบรอสงั้นเหรอ!?〞

〖หืม! ก็ใช่หน่ะสิ.... มีอะไรงั้นรึเจ้าหนู!?〗

〝ยะ...ยังจะมาถามว่ามีอะไรอีก! แกหน่ะไม่ใช่ว่าตายไปแล้ว!? ….มะ  ไม่สิ...ที่ฉันอยากจะถามหน่ะ คือตอนนี้แกอยู่ที่ไหนต่างหากหล่ะ!!!!!!!〞

          ใช่แล้ว  คนที่พูดขัดจังหวะความคิดของกรอยู่นี้ก็คือเคลเบรอสนั่นเอง  แต่ถึงแม้กรจะได้ยินเสียงของมันแต่ก็ไม่ได้ตั้งท่าเตรียมพร้อมสู้แต่อย่างใด  นั่นเพราะเขามั่นใจ 100% ว่าเคลเบรอสตายไปแล้วแน่ๆ ไม่เช่นนั้นไอเทมดรอปทั้งหลายจะออกมาได้ยังไง  พอคิดแบบนั้นได้ก็เลยใช้ตาเหยี่ยวกับสุดยอดการประมวลผลหาที่อยู่ของมันอย่างรวดเร็ว ...แต่ก็ยังไม่เจอ  แล้วพอกรคิดดูอีกที เพราะหากว่าเคลเบรอสซึ่งเป็นบอสมอนสเตอร์ปรากฏขึ้นมาอีก『หน้าต่างตั้งค่า』ต้องร้องเตือนตนอีกแน่อยู่แล้ว  นั่นเลยทำให้ตัวเขาสับสนมากไปกันใหญ่

แกร็กๆ!!

〝ยะ...อยู่นั่นงั้นเหรอ!?〞

ตึก!  ตึก!  ตึก!  ตึก!  ตึก!  ตึก!

          แล้วพอกรได้ยินเสียงที่คล้ายกับโลหะเสียดสีกันเล็กน้อยอีกครั้ง ซึ่งหากนึกย้อนไปก่อนหน้าก่อนที่เคลเบรอสจะเริ่มทักกรก็ได้ยินเสียงแบบเดียวกัน มาจากกลุ่มสมบัติที่กองเป็นพะเนินซึ่งเป็นไอเทมดรอปของเคลเบรอสนั่น นั่นเลยทำให้กรที่พอมีประสบการณ์จากอนิเมะและเกมจากโลกเดิมพอคาดเดาได้บ้างแล้วว่าสภาพของเคลเบรอสในตอนนี้นั้นจะเป็นอย่างไร จึงได้รีบวิ่งเข้าไปยังกองสมบัตินั่นอย่างรวดเร็ว แล้วก็ทำการใช้มือทั้งสองข้างทั้งขุดและปัดเหรียญทอง และไอเทมต่างๆที่ขวางทางอยู่อย่างรีบร้อนในขณะเดียวกัน

〝เห้ยเคลเบรอส!  อยู่ตรงไหนกันแน่ฟ่ะ!!!〞

〖ข้าอยู่ตรงนี้เจ้าหนู!  จะแทงตาอยู่แล้วเนี่ย!!!〗

〝!!!!!!!!!!〞

          แล้วพอกรควานหาตามเสียงของเคลเบรอสที่กำลังบอกตำแหน่งของตัวเองอยู่  จนกระทั่งพบแหล่งกำเนิดเสียงเข้าจนได้ ก็ทำให้เขาตกใจกับภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้ามากจนถึงกับจ้องมันเขม็งเลยทีเดียว

วิ้ง!  วิ้ง!  วิ้ง!  วิ้ง!  วิ้ง!  วิ้ง!

          สิ่งที่กรกำลังจับจ้องอย่างไม่วางตาอยู่นี้ก็คือ ดาบสองคมสีดำสนิทไม่ว่าจะเป็นใบดาบหรือด้ามดาบความยาวทั้งหมดประมาณ 80  เซนติเมตร กำลังถูกวางอยู่บนกองสมบัติในแนวขนานกับพื้น  ตรงโคนดาบซึ่งเป็นที่กั้นระหว่างใบดาบและด้ามดาบ ถูกประดับด้วยรูปสลักโลหะมันวาวเป็นรูปศีรษะของเคลเบรอสหัวหนึ่งและมีสีดำสนิทเช่นเดียวกับตัวดาบ ลวดลายบนใบดาบแบบยุโรปเองก็มีความวิจิตรงดงามและซับซ้อนราวกับภาพวาดแนวแอฟแตค แต่ก็สมมาตรกันทั้งซ้ายขวาหากแบ่งครึ่งดาบเป็นสองซีก ส่วนด้ามดาบแม้จะไม่มีการตกแต่งเป็นพิเศษ แต่ลวดลายดั้งเดิมเองก็ดูดีอยู่แล้ว นั่นเลยทำให้โดยรวมแล้ว ดาบสีดำทมิฬเล่มนี้คือผลงานระดับสุดยอดอย่างไม่ต้องสงสัย

〝กะ...โกหกน่า!!!〞

แกร็กๆ!!

〖จะตกใจอะไรกันเจ้าหนู!!!〗

〝ยังจะมาถามอีก ไอ้เจ้าหมานี่!  ละ…แล้วทำไมแกถึงกลายเป็นดาบไปได้หล่ะเนี่ย!〞

〖หืม! ข้าไม่ได้บอกหรอกเหรอ...ว่าหากผ่านบททดสอบได้ และข้ายอมรับความแข็งแกร่งของเจ้า เจ้าก็จะกลายเป็นนายของข้าหน่ะ... 〗

〝ไม่ได้บอกซักนิดเลยเฟ้ย!!! 〞

〖อ้าว...งั้นหรอกเหรอ! ห๊ะห่ะห่ะ....สงสัยจะเป็นเพราะการต่อสู้ของเรามันดุเดือดมากกระมั้ง เลยทำให้ข้าลืมบอกไปซะสนิทหน่ะ〗

〝คะ....คนอย่างแกนี่มัน !!! 〞

          แล้วหลังจากที่กรเกิดความสงสัยในตัวเคลเบรอส ก็เลยรัวคำถามใส่เป็นชุด แต่เคลเบรอสที่ตอบออกมาแบบทีเล่นทีจริงทั้งที่กรถามอย่างจริงจัง บวกกับสีหน้าและการเคลื่อนไหวของใบหน้าที่อยู่บนโคนดาบซึ่งตอนนี้เป็นโลหะทั้งหมดก็ถูกแสดงออกมาราวกับกำลังพูดกับเคลเบรอสในตอนที่เป็นบอสมอนสเตอร์ยังไงอย่างงั้น นั่นเลยทำให้เขาหงุดหงิดเล็กน้อย แต่กรก็ปรับอารมณ์ตัวเองใหม่ เพื่อให้กลับมาสุขุมอีกครั้งในทันที แล้วจากนั้นก็ถามคำถามเคลเบรอสต่อไปเรื่อยๆ

〝ระ..เรื่องนั้นช่างมันก่อน! แต่ไม่เห็นสัมผัสได้เลยซักนิดว่าแกเป็นมอนสเตอร์...  แล้วแกในตอนนี้จะอยู่ในสถานะอะไรกันหล่ะ.....〞

〖ถ้านั่นหมายถึงว่าข้าเป็นศัตรูรึเปล่าละก็...ข้าก็บอกไปแล้วนะ ว่าเจ้าในตอนนี้เป็นนายของข้า ....ส่วนถ้าถามว่าตอนนี้ข้าเป็นมอนสเตอร์รึเปล่า แค่ใช้สกิลตรวจสอบดูก็รู้แล้วไม่ใช่รึ!?〗

          พอกรถามออกไปแบบนั้น เคลเบรอสก็ตอบกลับมาเป็นเชิงเชิญชวนให้กรตรวจสอบตัวเอง ที่เคลเบรอสทำแบบนั้นเอง นั่นก็เพื่อทุ่นเวลาอธิบายกับเพื่อให้กรพิสูจน์ด้วยตัวเองเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือก็ด้วย กรเองก็ไม่คิดว่าเคลเบรอสโกหก แต่ก็ยังไม่เชื่อเต็มร้อย ก็เลยรีบใช้สกิล『ตรวจสอบขั้นสูง』กับเคลเบรอสที่ตอนนี้เป็นดาบไปแล้วในทันที แล้วผลลัพธ์ที่เกินคาดก็ปรากฏขึ้นมาตรงหน้ากรอีกครั้ง.....

เคลเบรอสซอร์ด』【SSS

《 คำอธิบาย : ดาบสีดำทมิฬอันน่าเกรงขามซึ่งเป็นที่สิงสถิตของจิตวิญญาณเคลเบรอส โดยเงื่อนไขการได้รับก็คือ การผ่านบททดสอบและการยอมรับจากเคลเบรอสซึ่งเป็นบอสมอนสเตอร์เท่านั้น ทำให้ผู้ที่ครอบครองได้รับพลังมหาศาล  *ความสามารถและความทนทานของดาบเล่มนี้จะเติบโตตามความสามารถของผู้ใช้ ทั้งยังสามารถใช้สกิลของเคลเบรอสได้ทั้งหมด ความรุนแรงขึ้นอยู่กับพลังเวทย์และเลเวลของผู้ใช้ **เนื่องจากดาบเล่มนี้มีจิตวิญญานของตัวเอง จึงจัดเป็นอินเทเลเจนท์ซอร์ด ซึ่งมีความคิดและสติปัญญาเป็นของตัวเองและมีอิสระในการกระทำโดยไม่ขึ้นกับคำสั่งของผู้ใช้  》

〝อึก!!〞

เดี๋ยวก่อนสิ...จะบอกว่าไอ้ดาบเนี่ยเป็นไอเทมดรอปงั้นเหรอ  อย่าบอกนะว่าเป็นเพราะ『หน้าต่างตั้งค่าอัตราการดรอปไอเทม』นั่นหน่ะ...  แต่เคลเบรอสก็บอกเองนี่นาว่าจะกลายเป็นดาบในตอนที่ตัวเองยอมรับคู่ต่อสู้..... ว้าก!!!  งงไปหมดแล้วโว้ยยย!!!!!!!!

ตะ.....แต่คิดเรื่องนั้นไปก็ไม่มีข้อพิสูจน์ที่แน่ชัดซะด้วยสิ เพราะงั้นคิดไปก็คงเหนื่อยเปล่าละมั้งเนี่ย.....

แล้วไอ้ที่กลายเป็นดาบเนี่ยก็น่าตกใจพอแล้วนะ....แต่ว่าที่น่าตกใจกว่าคือ ระดับความหายากของมันกับความสามารถของมันต่างหากหล่ะ....

ในตอนที่ฉันสร้าง『เอ็กซ์คาลิเบอร์』กับ『ดูแรนดัล』จากพื้นห้องโถง  เจ้าหมานี่ยังบอกเลยว่า ระดับ 【SSS】เป็นไอเทมระดับสูงสุดๆ

เหลือเชื่อ...เหลือเชื่อเกินไปแล้ว!!!!  นี่แค่สกิลยังไม่พอ  แต่ยังได้อาวุธระดับตำนานมาอีกงั้นเหรอ  นี่เราจะโกงไปถึงไหนกันเนี่ย....

แล้วยังมีความสามารถที่โคตรโกงติดมาด้วยอีก....เติบโตตามผู้ใช้งั้นเหรอ  จริงๆมันก็ฟังดูดีอะน่ะ....ถ้าไม่ติดว่าคนใช้เป็นฉันหล่ะก็  อีแบบนี้ก็หมายความว่าสเตตัสของดาบนี่ก็เป็นแสนเหมือนกันสินะ ....งั้นมันก็เป็นดาบที่โกงไม่แพ้คนใช้อย่างฉันเลยหน่ะสิ…

...แต่ที่น่าตกใจกว่าก็คือ มันดันสามารถใช้สกิลของเคลเบรอสได้ด้วยนั่นแหล่ะที่โกงยิ่งกว่า  ทั้ง『ตัดสายลม』ที่ติดตามเป้าหมายได้  『กรดเดือดหลอมละลาย』ที่รุนแรงถึงขนาดย่อยพื้นห้องโถงที่แข็งโคตรๆนั่นได้ก็ด้วย  แล้วยังมี『เพลิงทมิฬ』ที่ร้อนโคตรๆ แถมยังสามารถทำให้เป้าหมายติดสถานะผิดปกติอะไรก็ได้ตามใจอีก...

...ก็ใช่สิ ฉันโดนมากับตัวเองนี่หว่า ทำไมจะไม่รู้ว่าไอ้สกิลพวกนี้มันน่ากลัวขนาดไหน  ละ....แล้วไอ้สกิลบ้าๆพวกนั้นก็จะมาอยู่ในมือฉันอีกแล้วงั้นเหรอ!!!

〖จะตกใจมากเกินไปแล้วมั้งเจ้าหนู!?〗

〝หนะ..หนวกหูน่า เจ้าหมาบ้า! ขอเวลาให้ฉันได้พักบ้างเหอะ!!!〞

〖จะเศร้าไปทำไมกันเจ้าหนู  ทั้งที่ได้พลังอันมหาศาลมาไว้ในมือแท้ๆ.....〗

〝ฮึก!  ขอร้องหล่ะ  อย่าตอกย้ำกันเลยนะ... ขอร้อง....〞

          พอเคลเบรอสถามออกไปแบบนั้น  น้ำตาของกรก็ปริ่มขึ้นมาเล็กน้อยอีกครั้งหลังจากตอบกลับเคลเบรอสด้วยสีหน้าที่อ้างว้างเสียเหลือเกิน  แล้วพอเคลเบรอสถามออกมาอีกครั้ง กรก็น้ำตาไหลพรากออกมาในทันที แล้วก็ตอบเคลเบรอสด้วยเสียงสะอึกสะอื้นราวกับเด็กน้อย ทั้งยังพูดคำว่า〝ขอร้อง〞ขึ้นมาถึงสองครั้งในประโยคเดียวอีกต่างหาก....

〖น่าแปลกใจจริงๆ...ข้าไม่เคยเห็นคนที่ได้รับพลังอำนาจมาแล้วมานั่งกอดเข่าร้องไห้เช่นเจ้ามาก่อนเลย....เจ้าหนู  แกนี่แปลกคนชะมัดเลย...〗

〝ฮึก!  กะ...ก็มัน  กะ...กดดันนี่หว่า ฮึก! แล้วจะให้ฉัน ทำยังไงเล่า...〞

〖โอ๋ๆ  ไม่ร้องนะเจ้าหนู ....มีอะไรก็ค่อยๆคุยกันได้น่า...〗

          แล้วกรก็ยังร้องไห้ออกมาเบาๆไม่หยุด  เคลเบรอสก็เลยปลอบกรแทบจะทันที หากมองทั้งคู่ในตอนนี้แล้วหล่ะก็ มันเหมือนกับจะเห็นภาพของพ่อแม่ที่กำลังให้กำลังใจลูกโดยการลูบหัวในขณะที่ปลอบโยนไปด้วยทับซ้อนอยู่ยังไงอย่างงั้นเลย  สาเหตุหนึ่งก็เป็นเพราะตัวเขาต้องเผชิญหน้ากับศัตรูสุดโหดในดันเจี้ยนเพียงลำพังมาตลอด นั่นเลยทำให้ตัวเขาต้องรับแรงกดดันแบบนั้นอยู่คนเดียว เพราะเหลือตัวคนเดียวกรจึงต้องทำจิตใจของตัวเองให้แข็งแกร่งมากพอที่จะรับสภาพทุกอย่างรอบตัวได้ด้วยตัวเองให้ได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถเอาตัวรอดในดันเจี้ยนนี้ได้ แต่ถึงจะทำทุกอย่างที่ว่ามาได้  กรก็ยังไม่สามารถเอาชนะความกลัวและแรงกดดันต่อความแข็งแกร่งของตัวเองได้อยู่ดี

          แล้วพอกรมาเจอกับศัตรูสุดแกร่งอย่างเคลเบรอสเข้า  ทั้งกรและเคลเบรอสที่ทุ่มเททั้งจิตวิญญาณเข้าปะทะกันอย่างเปิดเผย ทั้งสองที่เอาทุกสิ่งที่ตนมีเข้าห้ำหั่นกันและเดิมพันด้วยชีวิตอย่างซื่อตรง เลยทำให้ใจจริงของทั้งคู่ส่งไปถึงอีกฝ่ายจนหมด เหมือนกับคำพูดที่ว่า 〝นักสู้ที่แท้จริง  แค่แลกหมัดกันก็สามารถสื่อใจถึงกันได้โดยที่ไม่ต้องใช้คำพูด〞นั่นแหล่ะ นั่นเลยทำให้ทั้งคู่รู้สึกเคารพอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก ราวกับการต่อสู้นั่นทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า『มิตรภาพของลูกผู้ชาย』ขึ้นมาต่อทั้งสองฝ่ายยังไงอย่างงั้นเลย  กรก็เลยแทบจะปลดปล่อยอารมณ์ทั้งหมดที่สั่งสมมาตลอดออกมาต่อหน้าเคลเบรอส อย่างไม่มีอาการอายเลยซักนิด นั่นเลยเป็นตัวพิสูจน์ว่าทั้งคู่ไว้ใจกันมากพอสมควรแม้จะเพิ่งปะทะกันอย่างดุเดือดมาก็ตาม  แล้วพอกรปลดปล่อยความรู้สึกออกมาเป็นสายธารซักพักหนึ่ง เขาก็ตั้งสติใหม่อีกครั้ง ด้วยการตบหน้าตัวเองแรงๆด้วยมือทั้งสองข้างแล้วเริ่มการตรวจสอบต่อในทันที

.

.

.

〝เห้อ! เอาหล่ะ  แค่นี้ก็พอแล้วมั้ง....โทษทีนะเจ้าหมา  ดันให้แกเห็นด้านที่อ่อนแอของฉันซะได้ !〞

〖ห่ะห่ะห๊ะ!  อย่าใส่ใจเลยน่าเจ้าหนู  กลับกันข้าตกใจมากกว่าที่เจ้าทนรับภาระจากการลงดันเจี้ยนเพียงลำพังมาได้นานขนาดนี้เนี่ย  ....นี่ก็แสดงให้เห็นว่าเจ้าก็ยังปกติดีอยู่.....ข้าคิดว่างั้นนะ〗

〝ประโยคหลังนี่ไม่ต้องพูดก็ได้เฟ้ย!!! อะ....เอาเถอะ  เสียเวลามามากพอแล้ว! งั้นฉันจะเริ่มการตรวจสอบไอเทมให้ว่องเลยก็แล้วกัน.... แกมีอะไรแนะนำฉันรึเปล่าหล่ะเจ้าหมา...〞

〖หืม...ข้าเพิ่งเป็นคนที่ทำให้เจ้าปางตายมาหยกๆเลยนะเจ้าหนู...เจ้านี่ก็แปลกดีนี่  เชื่อใจข้าง่ายไปแล้วมั้ง....〗

〝อะไรกัน....เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปสิ ฉันไม่ใช่คนที่จะมาคิดเรื่องเล็กน้อยพรรค์นั้นหรอกนะ…. 〞

〖งั้นเหรอ  แต่เอาเถอะ....แบบนี้ก็ดีแล้ว  ข้าเองก็ไม่อยากเสียแรงอธิบายให้มากความซะด้วย  เจ้าเข้าใจง่ายๆก็ดีแล้วหล่ะนะ.....〗

〖หึ...ห่ะห่ะห๊ะ!〗

〝หึ...ห่ะห่ะห๊ะ!〞

          แล้วทั้งคู่ก็ยิ้มให้กันอย่างร่าเริงจนเห็นฟันแทบจะทุกซี่และหัวเราะให้กันเบาๆราวกับเด็กๆที่เพิ่งคืนดีกัน อันเป็นสัญญาณทางอ้อมว่าทั้งคู่ได้ร่วมมือกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นเอง  แล้วจากนั้นกรก็ทำการตรวจสอบดรอปไอเทมรวมถึงเงินทั้งหมดที่ดรอปออกมาตามคำแนะนำของเคลเบรอสไปเรื่อยๆ....

          ....จากคำบอกเล่าคร่าวๆของเคลเบรอส  ดูเหมือนว่าไอเทมในโลกนี้ทั้งหมดจะถูกแบ่งระดับความหายากตั้งแต่น้อยไปหามากเป็น E, D, C, B, A, S, SS, SSS แน่นอนว่ายิ่งระดับความหายากสูงโอกาสดรอปก็ยิ่งต่ำ แต่ความสามารถพิเศษและสเตตัสที่ได้รับก็จะมากตามไปด้วย ในระดับ E ถึง C  นั้นคือไอเทมระดับพื้นฐานซึ่งคนทั่วไปใช้กัน ส่วนตั้งแต่ระดับ B ขึ้นไปนั้นก็นับเป็นของชั้นเยี่ยม 

          หากถึงระดับ S ก็ยิ่งเป็นไอเทมที่หายากมากขึ้นไปอีก ส่วนในระดับ SS และ SSS  นั้นได้ชื่อว่าเป็นไอเทมที่หายาก ซึ่งปรากฏในเรื่องเล่าปรัมปราหรือเทพนิยายเท่านั้น ทั้งยังมีเพียงชิ้นเดียวในโลกอีกต่างหากแน่นอนว่า『เคลเบรอสซอร์ด』ที่เป็นระดับ SSS เองก็เช่นเดียวกัน  แล้วเคลเบรอสยังบอกอีกว่า ระดับ SSS ที่ถูกเผ่าพันธุ์มนุษย์ค้นพบแล้วมีเพียง 5 ชิ้นเท่านั้นเอง

          แล้วหลังจากที่กรใช้เวลาตรวจสอบไอเทมทั้งหมดร่วม 1 ชั่วโมงเศษ กรก็ได้ผลลัพธ์ที่น่าเหลือเชื่อมากมาย  โดยไอเทมทั้งหมดรวมถึงอาวุธ ชุดเกราะและวัสดุต่างๆ ที่ดรอปออกมานั้นมีอยู่มากมายก็จริง แต่ที่มีความสามารถและความหายากโดดเด่น และกรคิดจะนำมาใช้งานจริงในตอนนี้นั้นมีแค่ 2 ชิ้น ดังนี้....

ดาร์คเนสเซ็ทโค้ท』【SSS

《 คำอธิบาย : ชุดเซ็ทเสื้อคลุมที่มีตั้งแต่เสื้อซับในไปจนถึงรองเท้าบูท  ซึ่งเมื่อสวมทั้งหมดแล้วจะเพิ่มความต้านทานทางกายภาพและเวทย์มนต์ รวมถึงสเตตัสทั้งหมดขึ้นอีก 50% จากสเตตัสในปัจจุบัน แล้วยังเพิ่มความเสียหายจากการใช้เวทย์มนต์ของผู้สวมใส่ได้อีก 50% เช่นกัน  》

ดูอัลไดเมนชั่นริง』【SS

《 คำอธิบาย : ชุดเซ็ทแหวนทั้ง 2 วง ซึ่งหากใส่ครบทั้งสองวงจะทำให้เกิดผลดังนี้  *สามารถเปิดมิติเฉพาะของตัวเองขึ้นมาได้ โดยพื้นที่นั้นไร้ขีดจำกัด ซึ่งสามารถใช้เป็นคลังเก็บไอเทมทุกอย่างได้เช่นกัน ทั้งยังสามารถคงสภาพไอเทมทั้งหมดให้อยู่ในสภาพเดิมได้เหมือนกับก่อนที่จะนำเข้ามิติได้ **หากใส่เพียงข้างเดียวจะต้องร่ายเวทย์ในการใช้งาน  แต่หากใส่ทั้งสองข้างจะสามารถเรียกไอเทมในมิติเฉพาะออกมาได้ในทันทีดังใจนึก 》

          เนื่องจากผ่านการต่อสู้อันดุเดือดมาตลอดเลยทำให้ชุดเกราะเบาที่ได้รับมาจากกองอัศวินในตอนแรกของกรนั้นเละเทะจนไม่มีชิ้นดี  แม้ในการปะทะกับกลุ่มมอนสเตอร์ที่กรจุติครั้งแรกนั้นจะมีเพียงชุดเกราะส่วนแขนและส่วนขาเท่านั้นที่ถูกทำลาย สาเหตุหนึ่งก็เป็นเพราะเกราะเบาที่ว่ามันไม่ครอบคลุมบริเวณหน้าอกไปจนถึงหน้าท้องก็ด้วย  แล้วพอผ่านการปะทะกับเคลเบรอสเข้าไปอีก ความทนทานของเกราะเบาจึงหมดลงแล้วแหลกสลายไปในที่สุด  นั่นเลยทำให้กรต้องหาชุดเกราะใหม่  แต่สเตตัสด้านป้องกันของกรก็มากอยู่แล้ว

          ในตอนแรกกรนั้นคิดจะสวมใส่เกราะโลหะที่ถึงจะมีระดับความหายากอยู่ที่ระดับ【S】และเพิ่มสเตตัสเป็นค่าตัวเลขที่แน่นอน ซึ่งจะเพิ่มสเตตัสอยู่ที่ประมาณ 10,000 จุด รวมถึงเพราะใส่แล้วสบายใจและคิดว่ามันมีความทนทานมากกว่าก็ด้วย แต่ก็ถูกเคลเบรอสท้วงติง  นั่นเพราะสเตตัสของกรในตอนนี้นั้นสูงจนอยู่ในระดับที่ไม่จะเป็นต้องพึ่งพาพวกชุดเกราะที่มีการเพิ่มสเตตัสเป็นเลขที่คงที่ กลับกันหากใส่ชุดระดับสูงที่เพิ่มพลังขึ้นโดยคำนวณเป็นร้อยละจะมีประสิทธิภาพกว่า รวมถึงร่างกายอันแข็งแกร่งของกรในตอนนี้ไม่จะเป็นต้องพึ่งเกราะโลหะเลยด้วยซ้ำ นั่นเลยทำให้กรเปลี่ยนใจตามในทันทีเพราะความเห็นที่สมเหตุสมผลของเคลเบรอส

          แล้วหากลองดูเครื่องประดับที่เหลือแล้วละก็  แม้จะเป็นไอเทมระดับ【A】หรือใกล้เคียงก็ตาม แต่กรก็ยังไม่คิดจะสวมใส่มันในตอนนี้  นั่นเพราะเคลเบรอสบอกว่า  หากใส่ไอเทมที่มีความสามารถตรงข้ามกัน จะทำให้ผลพิเศษต่อต้านกันเองจนแสดงผลได้ไม่เต็มที่  กรจึงใส่ไอเทมที่คิดว่าจำเป็นไปก่อน แล้วจึงจะปรับแก้เครื่องแต่งกายให้มีประสิทธิภาพที่สุดอีกครั้ง

          แล้วจากนั้นกรก็ลองดูหนังสือเล่มที่หนากว่า 100 หน้านั่นทั้งหมด  แล้วก็พบว่ามันเป็น『หนังสือสกิล』นั่นเอง  แล้วกรก็ไม่รอช้าที่จะเรียนรู้มันทั้งหมด  แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไรมาก นั่นเพราะทั้งหมดมันเป็นสกิลติดตัวที่มีผลคล้ายกับที่กรมีอยู่ก่อนแล้ว ซ้ำยังมีผลน้อยกว่าที่เป็นอยู่เสียอีก แต่ในหนังสือสกิลที่ว่าก็ยังมีสกิล 『ตัดสายลม』『กรดเดือดหลอมละลาย』และ『เพลิงทมิฬ』อยู่เช่นกัน  แต่พอกรคิดจะเรียนรู้สกิลพวกนี้  เคลเบรอสก็แสดงอาการงอนราวกับเด็กออกมา นั่นเพราะหากกรใช้『เคลเบรอสซอร์ด』ก็จะมีผลออกมาคล้ายกัน เคลเบรอสจึงไม่อยากรู้สึกเหมือนถูกทิ้งไปก้าวนึง  แม้ตอนแรกกรจะคิดว่าไม่เห็นต้องทำแบบนั้นก็ตาม แต่พอเคลเบรอสบอกว่าหากใช้สกิลพวกนั้นจากตัวดาบเคลเบรอสแล้ว จะให้ผลที่รุนแรงกว่าที่กรใช้เองเพราะมีพลังเวทย์ของเคลแบรอสอยู่ด้วย ก็เลยทำให้กรยอมทำตามที่เคลเบรอสบอก

          ส่วนไอเทมที่เหลือทั้งหมด  ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกวัสดุไว้ทำอาวุธและเครื่องป้องกันต่างๆ จากที่เคลเบรอสแนะนำ ดูเหมือนว่าหากไม่มีสกิลและความชำนาญเฉพาะด้าน ก็จะไม่สามารถสร้างของดีๆขึ้นมาได้ กลับกันของที่ดรอปจากดันเจี้ยนยังจะมีผลพิเศษและเพิ่มสเตตัสได้มากกว่าเสียอีก แต่กรก็คิดว่าบางทีตนอาจจะทำแบบนั้นได้เพราะมี『ตั้งค่าอาชีพ』อยู่  แต่กรก็ยังไม่มีโอกาสเหมาะๆบอกเรื่องนี้กับเคลเบรอส  ส่วนเหรียญเงินและเหรียญทอง เพชรนิลจินดาและของมีค่าอื่นๆอีกมากมายซึ่งเป็นของที่มีค่ามากมายมหาศาลนั้น รวมถึงไอเทมทั้งหมดที่กรยังไม่ได้ใช้งานทั้งหมดก็ได้ถูกกรเก็บลงไปใน『ดูอัลไดเมนชั่นริง』เรียบร้อย  แล้วพอการตรวจสอบจบลง  กรจึงเริ่มเตรียมตัวในการเดินทางลงไปยังชั้นที่ 26 ในทันที

 .

.

 

〖โอ้ว!....ใส่โค้ทแล้วเหมาะดีนี่นาเจ้าหนู!〗

〝เหอะ....โดนตัวผู้เหมือนกันชมแล้วมันรู้สึกแปลกๆชะมัดเลยฟ่ะ เจ้าหมา....〞

          หลังจากที่กรถอดชุดเกราะทั้งหมดออก จึงเปลี่ยนเสื้อปกติเป็นเสื้อยืดเนื้อผ้าสีแดงสดมีคุณสมบัติต้านทานเวทย์มนต์ แล้วสวมทับด้วย『ดาร์คเนสเซ็ทโค้ท』ซึ่งมีลักษณะเป็นโค้ทหางยาวจนถึงน่อง  ส่วนด้านหน้านั้นไม่มีซิบ แต่ถูกกลัดไว้ด้วยเชือกแบบเบาๆ แต่ก็ไม่ง่ายนักที่จะทำให้หลุด  การดีไซน์เองก็มีความสวยงามคล้ายๆกับดาบเคลเบรอสเช่นกัน  รวมกับชุดที่มีสีดำทมิฬตลอดทั้งเนื้อผ้า ซึ่งสีเข้ากับผมของกรที่เป็นคนเอเชียพอดี ตัดกับเสื้อสีแดงที่สวมอยู่ภายในนั่นเลยทำให้พอใส่แล้วมันเข้ากันแบบสุดๆ

〝ทางลงเนี่ย ทางนี้สินะ....〞

แกร็กๆ!!

〖โอ้ว...ใช่แล้วหล่ะ เจ้าหนู!  แค่เดินลงบันไดนั่นไปเดี๋ยวก็จะไปโผล่ที่ชั้น 26 เองแหล่ะ〗

〝อา...ถ้างั้นละก็  เริ่มออกเดินทางกันได้แล้วหล่ะ.....〞

          แล้วไม่รอช้า กรก็นำเคลเบรอสที่ตอนนี้เป็นดาบเข้าฝักแล้วสะพายไว้ที่หลังโดยให้ด้ามดาบโผล่ออกมาทางด้านไหล่ขวา  แต่พอกรถามคำถามกับเคลเบรอสไป มันก็โผล่ขึ้นมาจากฝักเล็กน้อยทั้งอย่างงั้นด้วยตัวเอง เพื่อให้ส่วนที่เป็นใบหน้าโผล่ออกมา แล้วก็ตอบกลับกรไปแทบจะทันทีด้วยน้ำเสียงที่ดูร่าเริง แล้วในระหว่างทางลงไปชั้นที่ 26 กรก็พูดคุยกันเล็กน้อยกับเคลเบรอส

〝เห้ย เจ้าหมา!  แกเพิ่งจะจากที่อยู่ของแกมาไม่ใช่เหรอ  ไม่รู้สึกเหงาซักนิดรึไงกัน!!!〞

〖โห้! ยังเร็วไปแสนปีนะเจ้าหนู ถ้าจะมาห่วงข้าคนนี้  แต่ก็เอาเถอะ...  ข้าเองก็เบื่อกับที่พรรค์นั้นแล้วหล่ะนะ...การได้ติดตามเจ้าไปเนี่ยคงจะสนุกไม่ใช่น้อย...เพราะงั้นก็อย่าทำให้ข้าผิดหวังซะหล่ะ..〗

〝อย่าคาดหวังกับฉันมากจะดีกว่านะ...〞

〖อย่าดูแคลนตัวเองไปเลยเจ้าหนู  เจ้าหน่ะเป็นเพียงไม่กี่คนเลยนะที่ทำให้ข้าสนุกได้ถึงขนาดนั้นหน่ะ....เพราะงั้นก็... ขอฝากตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งทั้งในฐานะข้ารับใช้และในฐานะ『เพื่อนพ้อง』ก็แล้วกันหล่ะ เจ้าหนู!!!〗

〝....................〞

พวกพ้อง.....งั้นเหรอ.......

〖หืม!?....เป็นอะไรไปเจ้าหนู  รึว่ารู้สึกไม่ค่อยดีกับคำพูดของข้า!?〗

          แล้วพอเคลเบรอสฝากตัวกับกรอีกครั้ง  ทั้งยังบอกกับกรอีกว่าตัวเองเป็นพวกพ้อง ก็เลยทำให้กรนึกถึงความหมายของมันวนเวียนอยู่ในหัวครู่หนึ่ง แล้วพอเคลเบรอสสังเกตเห็นกรเงียบไปพักใหญ่ก็เลยถามออกมาด้วยความเป็นห่วง  แต่รูปประโยคกลับคล้ายกับจะประชดประชันกรเล็กน้อย แต่กรที่กำลังคิดเรื่องอื่นอยู่ก็ไม่ได้คิดมากแต่อย่างใด

〝เปล่าหรอก......ก็แค่  .....ตั้งแต่เกิดมา ฉันมีคนที่สามารถเรียกแบบนั้นได้อย่างเต็มปากแค่ 6 คนเท่านั้นเอง….〞

〖...................〗

          กรที่ตอบเคลเบรอสออกไปแบบนั้นเบาๆด้วยเสียงที่หนักแน่น แต่กลับก้มหน้าลงต่ำจนเหมือนกับกำลังเศร้าใจ  ทั้งยังแผ่บรรยากาศน่าสลดออกมาเล็กน้อยโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ นั่นเลยทำให้เคลเบรอสครุ่นคิดเรื่องของกรขึ้นมาเล็กน้อย  และแม้ก่อนหน้านี้กรจะบอกว่าไม่ได้คิดมากเรื่องนั้นเพราะตัวเขาต้องการมีชีวิตอยู่ด้วยตัวคนเดียวเพื่อตัวเขาคนเดียวก็ตาม แต่เพราะเคลเบรอสสังเกตเห็นว่า ในประโยคที่กรพูดออกมานั้น มันมีคำว่า〝แค่〞อยู่  เพราะนั่นมันหมายความว่า กรไม่ได้ต้องการแค่นี้นั่นเอง แม้ตัวกรจะไม่รู้สึกตัวแม้แต่น้อย แต่เคลเบรอสที่สังเกตเห็นจุดนั้น จึงได้คิดว่ากรก็เป็นแค่เด็กขี้เหงาที่พยายามทำตัวแข็งแกร่งเพื่อมีชีวิตรอดในนรกสุดโหดที่เรียกว่าดันเจี้ยนแห่งนี้ ก็สัญญากับตัวเองอยู่ในใจว่าจะเป็นเพื่อนพ้องกับเด็กคนนี้และจะปกป้องเขาอย่างสุดชีวิตให้ได้ 

〖งั้นเหรอ...เจ้าเองก็คงลำบากมาเยอะสินะ〗

          เคลเบรอสพูดแบบนั้นออกไปเป็นเชิงปลอบใจกรเล็กน้อย แต่กรก็ไม่ได้ตอบกลับเคลเบรอสแต่อย่างใด แล้วกรก็ยังคงมุ่งหน้าลงไปยังชั้นที่ 26 ต่อไป โดยที่ระหว่าทางหลังจากนั้นทั้งคู่ไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีกเลย แล้วหลังจากนั้นไม่นานกรก็ลงมาจนถึงปากทางเข้าชั้นที่ 26 ในที่สุด.....

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 17 :  ความปรารถนาของเคลเบรอสและการต่อสู้ในชั้นที่ 26

    〝สะ....สุดยอด! นี่มันสวยกว่าที่คิดไว้ซะอีกนะเนี่ย!〞 หลังจากที่กรใช้เวลาพอสมควรในการลงบันไดมายังชั้นที่ 26 ตามคำแนะนำของเคลเบรอส ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของกรที่ยืนอยู่ตรงปากทางออกก็คือ บริเวณทางเดินที่ถูกเชื่อมต่อไปยังบริเวณที่คล้ายกับถ้ำใต้ดินซึ่งมีส่วนประกอบทั้งหมดเป็นหินสีน้ำตาลเข้ม ผิวขรุขระตลอดแนวไปจนสุดสายตาดังที่เห็นได้บ่อยๆในสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในภูเขา แต่ที่น่าอัศจรรย์ใจก็คือ บริเวณพื้นผิวของถ้ำทั้งหมดนั้นมีจุดสีฟ้าเล็กๆเป็นจำนวนมากเกาะอยู่ทั่วบริเวณถ้ำเสียไปทั่วบริเวณที่กรมองไปถึง และแม้จะไม่มีแสงอาทิตย์ลอดเข้ามาในพื้นที่ปิดตายนี้แต่อย่างใด แต่จุดเล็กๆทั้งหลายนั้นกลับยังสะท้อนแสงและกระพริบไปมาเป็นจังหวะอย่างสวยงาม และด้วยความที่เพดานของถ้ำนั้นสูงกว่าพื้นดิน 5 เมตร นั่นเลยทำให้จุดสีฟ้าจำนวนมหาศาลที่กำลังส่องประกายระยิบระยับบนเพดานถ้ำเหล่านี้คล้ายกับท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ปราศจากการบดบังของก้อนเมฆจนเห็นดวงดาวส่องประกายเต็มท้องฟ้าอย่างงดงามหาใดเปรียบยังไงอย่างงั้นเลย กรเองที่กำลังคิดแบบนั้นอยู่เช่นกันเพราะถูกความงดงามนั่นตราตรึงและดึงดูดสายตาเสียจนเบนหน้าหนี

    Last Updated : 2025-04-09
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 18 : การฝึกฝนเป็นการพัฒนาตัวเองที่ดีที่สุด

    ———1 สัปดาห์ต่อมา.....แคร็กๆๆๆๆ!ตึก!——— ตึก!——— ตึก!——— ท่ามกลางจุดสีน้ำเงินส่องประกายสวยงามซึ่งประดับอยู่บนเพดานถ้ำนับล้านจุดจนคล้ายกับหมู่ดาวมากมายบนกาแล็คซี่ทางช้างเผือกยามค่ำคืน กลับได้ยินเสียงรบกวนโสตประสาทที่ไม่เข้ากับพื้นที่และบรรยากาศอันแสนงดงามนี้ดังขึ้นเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันเองก็มีเสียงฝีเท้าเดินเข้าไปใกล้เสียงที่ว่านั้นอย่างช้าๆและเป็นจังหวะด้วยเสียงที่เบาบางราวกับตีนแมวยังไงอย่างงั้นชึบ!———แกร็ก!แคร็กๆๆๆๆๆ!!!!!!! ในจังหวะเดียวกันก็เกิดเสียงคล้ายกับโลหะสองชิ้นเสียดสีกันและเสียงที่คล้ายกับอะไรซักอย่างลงล็อกกันได้พอดีนั่น เลยดูเหมือนจะสร้างความสนใจให้กับแหล่งกำเนิดเสียงที่ไม่น่าอภิรมณ์ในตอนแรกนั่นไม่น้อย เสียงที่น่ารำคาญนั่นดังขึ้นเรื่อยๆ และเข้ามาใกล้เสียงของฝีเท้าในตอนแรกที่กำลังเดินเข้าไปหาแทนอย่างรวดเร็วราวกับกำลังหิวกระหายต่ออะไรซักอย่าง แต่ทว่า....เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! ก๊าซซซซซ!!!!!!!!!! ในเวลาเพียงเสี้ยววินาทีที่เสียงโลหะลงล็อกกันในตอนแรกได้จบลง ก็เกิดเสียงดังที่คล้ายกับมีคนจุดป

    Last Updated : 2025-04-09
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 19 : ความสิ้นหวังของเพื่อนสนิทและความหวังของผู้ประกาศ

    ———ย้อนกลับไปเล็กน้อย ณ แคมป์พักผ่อนของเหล่านักเรียนผู้กล้าทั้งหลาย…〝นี่ๆ ทางนั้นล่าอะไรไปบ้างล่ะ!〞〝ฮะฮ่ะ!!!...ไม่อยากจะโม้ พวกเราล่า『หมีเนตรเพลิงป่า』ได้ตั้ง 10 ตัวเลยนะ!!!〞〝อะไรกัน...ทางฉันจัดการได้ตั้ง 15 ตัวยังไม่โม้เลยนะเฟ้ย!〞〝โกหกน่า! สุดยอดไปเลยนี่หว่า〞 ณ บริเวณพื้นที่โล่งกว้างห่างจากตัวป่าประมาณ 100 เมตร พื้นที่ทั้งหมดถูกปกคลุมด้วยต้นหญ้าเล็กๆ คล้ายกับสนามฟุตบอลไปทั่วทั้งบริเวณที่มองเห็นได้แม้จะอยู่ห่างจากตัวป่ามาขนาดนี้ก็ตาม ได้มีกลุ่มคนจำนวนมาก สวมชุดเกราะเบาและถืออาวุธนานาประเภท ทั้งไม้เท้า ดาบหรือแม้แต่หอกเองก็ด้วย ดูจากใบหน้าและน้ำเสียงแล้ว พวกเขาเหล่านั้นยังเป็นเพียงเด็กหนุ่มและเด็กสาวอายุ 15-17 เท่านั้นเอง กำลังพูดคุยเป็นเชิงโอ้อวดกันด้วยเสียงดังเซ็งแซ่ ถึงสิ่งที่ตัวเองได้ไปล่ามากับเหล่าพวกพ้องในปาร์ตี้ก่อนหน้า แล้วหากสังเกตบริเวณโดยรอบดีๆ จะมีเต็นท์ขนาดใหญ่ประมาณ 1 ห้องแถวถูกคลุมด้วยผ้าสีน้ำตาลอยู่ 3 หลังในพื้นที่ดังกล่าวอยู่ด้วย แล้วยังมีซุ้มทรงสูงที่ประกอบขึ้นจากไม้และมุงหลังคาง่ายๆด้วยฟาง อยู่อีก 2 หลังติดกัน แล้วตรงเคาท์เตอร์ด้านหน้ายังมีหม

    Last Updated : 2025-04-09
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 20 : สาวน้อยที่พบกันโดยบังเอิญในดันเจี้ยนไม่มีทางน่ารักแบบนี้หรอก

    ท่ามกลางความเงียบสงบของดันเจี้ยนอันแสนมืดมิด ที่มีสภาพพื้นที่โดยรอบเป็นถ้ำปิดตายไร้ซึ่งความอบอุ่นจากแสงอาทิตย์ แต่ก็ยังคงมองเห็นพื้นที่ใกล้เคียงได้อยู่ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะเพดานของถ้ำที่ว่า มีจุดสีฟ้าเข้มและอ่อนตัดกันไปมา จุดสีเหล่านั้นเรียงรายกันไปทั่วอยู่บนนั้นอย่างไร้รูปแบบ แต่ก็ยังคงความงดงามจนยากจะละสายตาได้ กำลังส่องประกายไปทั่วจนคล้ายกับท้องฟ้าจำลองยังไงอย่างงั้นตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! แล้วท่ามกลางความสงัดที่ว่า กลับมีเสียงฝีเท้าของเด็กหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นเป็นจังหวะอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เด็กหนุ่มคนนี้ก็ไม่ได้วิ่งแต่อย่างใด แต่ระยะห่างระหว่างก้าวหนึ่งครั้งที่ได้ยินนั้นกลับกระชั้นชิดเสียเหลือเกิน ราวกับเขาคนนี้กำลังเดินหนีไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อหลบเลี่ยงอะไรบางอย่างอยู่ยังไงอย่างงั้น บนใบหน้าของเด็กหนุ่มนั้นไม่ได้มีความหวาดกลัวเลยซักนิดเดียว จะมีก็แต่สีหน้าลำบากใจกับเหงื่อไหลลงมาจากใบหน้าเพียงสองสามหยดเท่านั้น เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่ตามเขามาไม่ใช่สิ่งที่เป็นอันตรายต่อชีวิตของเขาตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก!

    Last Updated : 2025-04-09
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 21 : เด็กสาวและการต่อสู้ร่วมกันครั้งแรก

    〝——สรุปแล้วก็คือ ...ไม่มีทางออกดันเจี้ยนได้ นอกจากจะใช้เวทย์มิติ ประเภทเซฟพิกัดเท่านั้นสินะ〞〝อื้ม… ใช่แล้วหล่ะ!〞〝แล้วเวทย์มิติที่ว่าเนี่ย หายากรึเปล่า?〞〝อืม..... อย่าว่าแต่เวทย์มิติเลย ปกติแล้ว มนุษย์ที่มีคุณสมบัติในการเป็นจอมเวทย์หน่ะ หายากสุดๆไปเลยด้วยซ้ำ ถึงจะไม่น้อยขนาดนั้นก็เถอะ แต่ใน 1,000 คน ก็มีแค่ประมาณ 150 คนเท่านั้นแหล่ะ เพราะงั้นเวทย์มิติก็เลยหายากกว่านั้นซะอีก.... แต่เพราะงั้นก็เลยมีคนทดลองลงตราเวทย์จุดเซฟที่ว่า ลงไปในหินเวทย์มนต์ ผลก็คือ ทำให้เกิดไอเทมเวทย์มนต์ชนิดใหม่ที่สามารถใช้แทนเวทย์มิติได้ ชื่อของมันก็คือ 『ศิลาเวทย์เคลื่อนย้าย』 แล้วนอกจากจะใช้วาร์ปเข้า-ออกดันเจี้ยนในชั้นต่างๆ ได้ตามใจแล้ว ถ้าเป็นคณะเดินทางที่มีใบอนุญาตก็จะสามารถใช้เดินทางข้ามเมืองได้ด้วยนะ....〞.. หลังจากที่กรยอมรับ『มีอา』เด็กสาวที่เขาช่วยเหลือไว้ได้ด้วยความบังเอิญในครั้งก่อน ให้เดินทางไปด้วยกันได้ โดยแลกกับข้อมูลของมอนสเตอร์และดันเจี้ยนแห่งนี้ ก็ผ่านมาได้ประมาณ 1 ชั่วโมงแล้ว ตลอดการเดินทางที่ผ่านมา กรได้ถามข้อมูลจากมีอามาโดยตลอด แต่ถึงแบบนั้นเธอก็ไม่ได้แสดงท่า

    Last Updated : 2025-04-10
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 22 :  พันธะ(ของเด็กสาว) และ สัญญา(ของเด็กหนุ่ม)

    〝ทาส... งั้นเหรอ?〞เดี๋ยวก่อนสิเฮ้ย!!ถ้าฉันเข้าใจไม่ผิดหล่ะก็....ความเข้าใจของฉันตามที่เรียนมาในวิชาประวัติศาสตร์... ความหมายของคำๆนี้ก็คงประมาณว่า เป็นพวกคนที่ถูกผู้เป็นนายกดขี่ ข่มเหงอย่างไร้ความเป็นธรรม.... ถูกใช้งานอย่างหนักโดยไม่ให้พักผ่อน แบบเดียวกับสัตว์แรงงาน ทั้งยังไม่ได้รับผลตอบแทน แล้วยังถูกเลือกปฏิบัติราวกับไม่ใช่มนุษย์ เป็นเพียงแค่สิ่งของเพื่อใช้งานจนตายเท่านั้น....ที่โลกนี้ ก็มีของแบบนี้ด้วยงั้นเหรอ?...แต่จะว่าไปแล้ว ตั้งแต่มาที่โลกนี้ เราก็อยู่แต่ในที่ปลอดภัยกับในปราสาทมาตลอดเลยนี่นา ยกเว้นในดันเจี้ยนบ้าๆนี่หล่ะนะ...แถวเขตชายแดนหรือห่างจากตัวเมืองหลวงก็คงจะมีสินะ ไอ้พวกประมาณว่า พวกเขตสลัม... การค้ามนุษย์หรือการค้าของเถื่อน...แต่เอาเถอะ... ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนหรือที่โลกไหน ก็ต้องมีเรื่องแบบนั้นอยู่แล้ว... ก็ความต้องการของมนุษย์มันไม่มีที่สิ้นสุดนี่นา ความสงบสุขไม่มีทางอยู่คู่กับกิเลสของมนุษย์... ไม่สิ...กับสิ่งมีชีวิตที่มีจิตใจอยู่แล้ว...〝ฮึก...〞〝........〞 หลังจากที่กรรู้ความจริงของ『ตราทาส』จากปากของเคลเบรอส ทำให้เขาครุ่นคิดเล็กน้อย แต่เพราะเสี

    Last Updated : 2025-04-10
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 23 : ความก้าวหน้าของความสัมพันธ์

    ——— 1 สัปดาห์ต่อมา ณ ดันเจี้ยนชั้นที่ 49…เจี้ยกๆๆๆ!!!!!!! ท่ามกลางดันเจี้ยนใต้ดินดินอันแสนมืดมิด ไร้ซึ่งแสงสว่างหรือความอบอุ่นจากแสงอาทิตย์สภาพแวดล้อมโดยทั่วไป มีลักษณะคล้ายถ้ำใต้ดิน มีผิวขรุขระสีน้ำตาลตลอดแนว แต่ที่แตกต่างก็คือ บนเพดานมีจุดแสงมากมายนับไม่ถ้วนกำลังส่องประกายอยู่เป็นจำนวนมาก จนคล้ายกับทางช้างเผือกที่ถูกสลักเสลาอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืนยังไงอย่างงั้น กลับมีเสียงร้องแหลมๆเสียจนระคายหูดังขึ้นมาขัดจังหวะความสงัดของสถานที่อันแสนงดงามนี้ จนไม่ว่าใครก็ต้องคิดว่า เสียงนี้มันช่างขัดกับบรรยากาศซะจริง แน่นอน〝มีอา... จัดการตัวซ้ายก่อน〞〝รับทราบ〞 และในขณะเดียวกัน ก็มีเสียงของเด็กหนุ่มกระซิบแบบนั้นออกมาด้วยเสียงเรียบๆคล้ายกับจะออกคำสั่งกับใครบางคน แล้วเด็กสาวที่มีชื่อว่า มีอา ที่อยู่ข้างๆเด็กหนุ่มก็เป็นคนรับคำสั่งนั้นเอง ก็ตอบสนองคำพูดนั้นของเด็กหนุ่มในทันทีด้วยการถีบพื้นไปข้างหน้า เพื่อไปยังจุดกำเนิดเสียงที่คล้ายกับเสียงคำรามของสัตว์ร้ายนั่น… ....และไม่ต้องสงสัยเลยว่าทั้งคู่เป็นใคร เด็กหนุ่มคนที่ออกคำสั่งเมื่อครู่ก็คือกรนั่นเอง ส่วนเด็กผู้หญิงที่

    Last Updated : 2025-04-10
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 24 : การต่อสู้ของสองคน〖เพียงลำพัง〗

    〝กร.... นะ...นั่นคือ... บอส... งั้นเหรอ?〞 หลังจากที่กรและมีอาเดินลงมาจนถึงชั้นที่ 50 แล้ว สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าของพวกเขาก็คือ บอสมอนสเตอร์รูปแบบมังกรห้าหัว สีดำสนิท กรงเล็บที่อยู่ตรงเท้าทั้ง 4 ก็ยาวกว่า 10 เมตรแลดูแหลมคมเป็นอย่างมาก แม้จะไร้ซึ่งปีกไว้โบยบินแต่ขนาดนั้นกลับสูงใหญ่มากกว่า 10 เมตรทั้งที่ยังไม่โผล่พ้นน้ำออกมาทั้งหมด ต่อหน้าความจริงที่ยากจะเชื่อและน่าหวาดหวั่นตรงหน้า มีอาจึงทำได้แค่ถามกรออกมาด้วยเสียงสั่นๆทั้งที่เธอก็รู้คำตอบอยู่แล้ว〝ถูกต้อง... เตรียมพร้อมซะ! ห้ามประมาทเด็ดขาด... แม้เสี้ยวของเสี้ยววินาทีก็ห้ามผ่อนคลายสภาวะต่อสู้เป็นอันขาด... เข้าใจไหม!〞〝อึ้ก! เข้าใจแล้ว!!!〞 แล้วกรก็ตอบคำถามของเธอในทันที และออกคำสั่งแก่มีอาในทันใดเพื่อให้เธอรีบตั้งรับและห้ามประมาทด้วยเสียงเรียบๆที่แสนเย็นชามากที่สุด แววตาก็ดูดุดันแต่ตาดำกลับมืดสนิทไร้ซึ่งแสงสว่างหรือประกายใดๆ มีอาเองก็เคยเห็นกรอยู่ในสภาวะ『ตัดความรู้สึก』ในตอนสู้มาแล้ว แต่ความเยือกเย็นและแรงกดดันจากตัวกรในตอนนี้แตกต่างกันมาก หากเปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คงเหมือนกับปริมาณน้ำ ที่อยู่ในหนึ่งแก้วก

    Last Updated : 2025-04-10

Latest chapter

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 215 : สาวน้อยธรรมดา?เองก็อยากสร้างคุณค่าของตัวเองเหมือนกัน (Rachel and Rita have a Date)

    ช่วงเที่ยงเป็นเวลาพักผ่อนของใครหลายคน แต่ไม่ใช่สำหรับคนที่มีนัดสำคัญในช่วงบ่าย นี่เป็นช่วงเวลาอันเหมาะสมในการเตรียมตัวสำหรับสองสาว... สำหรับเรเชลกับริต้า พวกเธอกำลังลองชุดสำหรับเดทในช่วงบ่ายกับแฟนหนุ่มสุดที่รักของพวกเธอ สำหรับเรเชล เรื่องชุดไม่ค่อยเป็นปัญหาเพราะเลือกไว้นานมาก และมีชุดตัวเก่งในแบบที่เรียบร้อยเหมาะสมกับตัวเองอยู่แล้ว ปัญหาคือชุดของน้องสาวอย่างริต้านี่แหละที่ทำให้พี่สาวคนนี้เป็นกังวลจนต้องกุมขมับ ถึงจะเป็นเสื้อยืดที่ใส่แล้วรัดรูปโชว์สะดือ และกางเกงยีนส์ขาสั้นเหมือนกับทุกทีก็เถอะ“...พี่ว่าชุดแบบนี้มันเปิดไปหน่อยนะ”“สงสัย... คุณกรน่าจะชอบ... แบบนี้ไม่ใช่เหรอ?” ริต้ามองกลับมาด้วยสายตาออดอ้อนอย่างบริสุทธิ์ใจ ในหัวเธอคงคิดอยู่แค่สามเรื่องเท่านั้นอันได้แก่ กร ครอบครัว แล้วก็กร ซึ่งอันที่จริงแนวคิดตรงนั้นก็ไม่ต่างจากเรเชลเท่าไรนัก ริต้ามองกวาดจากหัวจรดเท้า มองชุดเดรสแบบเปิดไหล่ของเรเชลแต่เป็นกระโปรงแบบคลุมเข่า เรียบร้อยเหมือนกับที่เรเชลใส่เป็นปกติ ความใคร่รู้ของริต้าจึงเกิดขึ้นในจังหวะนั

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 214 : สาวน้อยธรรมดา?เองก็อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเหมือนกัน (Lilith and Karen have a Date)

    หลังจากเดทกับไมน์และรีเบคก้าจบลงพวกเราก็กลับบ้านเป็นเดทที่ดีอีกครั้งสำหรับสาว ๆ ที่ยังไม่ค่อยได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวกับเรานักเพราะถ้าว่ากันตามตรง เหล่าภรรยาของฉันหลายคนเพิ่งจะได้คบกันในช่วงที่กำลังลุยดันเจี้ยน ‘หมื่นเทวาใต้รัตนากร’ ของอาร์เคมีดีสหมายถึงเจนนี่ ไมน์ รีเบคก้า ซิลเวีย ยูมิน่า ฟลอร่า แล้วก็เฮเลน่ากับคอร์ดิเรีย ทั้งแปดคนนั่นแหละพวกเธอไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปเดทกันเท่าไหร่ก็เลยยังเก้ ๆ กัง ๆ อยู่บ้างแต่ข้อดีก็คือไม่ว่าจะพาไปเดทที่ไหนพวกเธอก็ยังไม่คุ้นชินเลยมีโอกาสเรียนรู้กันและกันอีกมากหืม? แล้วความทรงจำเรื่องเดทจากเมื่อชาติก่อน ๆ ของพวกเธอที่เคยมีกับเรานี่ไม่นับเหรอ?ก็ไม่เชิงหรอกนะ... ความทรงจำเมื่อชาติก่อนมันก็เหมือนกับความทรงจำในวัยเด็กนั่นแหละ เรื่องเกิดตั้งนานแล้วใครจะไปจำรายละเอียดได้ล่ะจริงไหม?ก็จริงแหละที่ถ้าทำอะไรสักอย่างให้นึกถึง ความทรงจำพวกนั้นก็จะถูกกระตุ้นทำให้นึกออกแต่ฉันคุยกับทุกคนหลายรอบแล้วว่าอดีตก็คืออดีต จะไม่ให้มันกลายมาเป็นอุปสรรคในการเรียนรู้กันและกันของพวกเราหรอกก็ด้วยเหตุนั้นแหละ ทั้งแปดคนเลยยังไม่ค่อยชินกับการไปเดทแบบทั่วไป ก็เลยพาไปเดทที่ต่าง ๆ

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 213 : สาวน้อยอ่อนประสบการณ์เองก็มีเรื่องที่อยากลองเหมือนกัน (Mine and Rebecca have a Date)

    เวลาผ่านไปจนเกินเที่ยง ฉันเลยติดต่อบอกให้ทุกคนกินข้าวรอกันไปก่อนส่วนฉัน ฟลอร่าแล้วก็ยูมิน่าไปหาอะไรกินที่ร้านอาหารใกล้ ๆนับว่าเป็นการยืดเวลาเดทได้ดี สองสาวดีใจใหญ่ที่ได้ใช้เวลาด้วยกันมากขึ้น น่ารักจริง ๆ เลยน้าทั้งสองคนจากนั้นช่วงบ่ายไปถึงเย็นก็จะเป็นคิวของไมน์กับรีเบคก้า ฉันก็เลยต้องกลับบ้านไปเตรียมตัวใหม่เพราะทั้งสองคนก็รออยู่ที่บ้านเหมือนกันแหล่ะนะแถมแฟนของฉันแต่ละคนก็ชอบบรรยากาศการเดทแตกต่างกันด้วยทั้งสไตล์การแต่งตัว น้ำหอม สถานที่ เวลา หรือความใกล้ชิดในที่สาธารณะเพราะทุกคนโตมาต่างกันเลยมีความต้องการคนละแบบ ก็ปกตินั่นแหล่ะแต่ไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิดเพราะฉันรู้สิ่งที่ทุกคนชอบดีอยู่แล้ว จำได้ขึ้นใจด้วยว่าไปแล้วพอพูดถึงความใกล้ชิด ไมน์กับรีเบคก้านี่ก็ออกจะเหนียมอายกว่าทุกคนหน่อยถ้าเป็นสาว ๆ ส่วนใหญ่จะเดินกอดแขนฉันกลางธารกำนัลได้สบายแต่ไมน์กับรีเบคก้าจะยังไม่ค่อยกล้าทำอย่างนั้นเท่าไหร่ ก็เป็นในทำนองเดียวกับรินนั่นแหล่ะอลิซนั้นยังพอว่าเพราะโตมาแบบรับวัฒนธรรมต่างชาติมาใช้เต็ม ๆก็ขนาดพุ่งเข้ามากอดฉันที่เป็นเพื่อนสนิทยังกับเพื่อนเพศเดียวกันได้สบาย ๆ นั่นแหล่ะ (ถึงเธอจะไม่ได้ทำแบบ

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 212 : สาวน้อยผู้ร่าเริงเองก็มีเรื่องที่คิดมากเหมือนกัน (Flora and Umina have a Date)

    หลังจากการเที่ยวสวนสนุกของฉัน เจนนี่และเฮเลน่าจบลงด้วยความหวานชื่น พวกเราก็กลับบ้านด้วยความรู้สึกเต็มอิ่มขากลับก็มีการซื้อของที่ระลึกอย่างสร้อยคอให้พวกเธอและแน่นอน นอกเหนือจากนั้นพวกเราก็ซื้อเค้กกลับไปฝากทุกคนด้วยถึงจะมีเดทกับแฟนสาว แต่ก็ต้องไม่ลืมครอบครัวที่รออยู่บ้านด้วยโดยเฉพาะลูกสาวสุดที่รักอย่างแมรี่ นี่แหล่ะหน้าที่เสาหลักของบ้านล่ะ อื้ม ๆ!เท่านี้วันแห่งการพักผ่อนก็จบไปอีกวันด้วยความสงบสุข...ถึงก่อนนอนจะมีเรื่องจริงจังให้คิดนิดหน่อยก็เถอะนั่นเพราะระหว่างวันได้มีข้อมูลเกี่ยวกับกำหนดการคร่าว ๆ ของการประกาศความสำเร็จที่พวกเราทุกคนปราบอาร์เคมีดีสส่งเข้ามาน่ะสิก็มาจากพวกเสือ คัทยูชา แอดรูวส์แล้วก็พี่มารีนั่นแหล่ะดูเหมือนอีก 6 วันนับจากนี้จะมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกถึงความสำเร็จของพวกเราพร้อมกับพิธีมอบรางวัลจากกษัตริย์ของอาณาจักรที่เป็นพันธมิตรก็... ฟังดูเป็นพิธีที่น่ารำคาญ แต่มันก็ขาดเสียมิได้หรอกแถมการทำแบบนั้นยังเป็นการตรวจสอบความร่วมมือจากอาณาจักรต่าง ๆ ให้ร่วมมือกันในการรับมือกับจอมมารในอนาคตด้วยแต่... ปัญหาก็คือพวกเราในตอนนี้ยังไม่มีเส้นสายในการติดต่อกับเผ่าปีศาจนี่แหล่ะ

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 211 : สาวมากประสบการณ์เองก็มีเรื่องที่ต้องเรียนรู้อีกมากเหมือนกัน (Jenny and Helena have a Date)

    ในห้องน้ำส่วนที่เป็นห้องแต่งตัวบ้านครอบครัวของกรก่อนหรือหลังเข้าไปใช้ห้องอาบน้ำรวมของบ้าน ซึ่งโดยปกติแล้วจะไม่มีใครใช้งานเป็นเวลานาน มันจึงเป็นเรื่องแปลกทีเดียวที่จะมีคนเพิ่งอาบน้ำในเวลาเที่ยงเศษแบบนี้ โดยเฉพาะบ้านของกรที่ต้องตื่นมากินข้าวเช้า รวมถึงอาบและแช่น้ำรวมกันทั้งบ้านเป็นกิจวัตร“แบบนี้ดีไหมนะ? หรือแบบนี้ดี?” นั่นถึงเป็นเรื่องแปลกเมื่อมีหญิงสาวกำลังจัดทรงผมด้วยสีหน้าสายตาจริงจังในเวลาเที่ยงเศษแบบนี้ คน ๆ นั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากสาวผู้มีสไตล์มากที่สุดและมีเสน่ห์ของสาวผู้ใหญ่เหลือล้นอย่างเจนนี่หนึ่งเดียวคนนี้เอง โดยปกติแล้วเธอเองก็ค่อนข้างดูแลตัวเองตลอดเวลา เรียกว่าแม้จะอยู่บ้านก็ยังแต่งหน้าแต่งตาบาง ๆ ให้ดูเป๊ะอยู่เสมอ อย่างน้อย ๆ นั่นก็เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แฟนหนุ่มอย่างกรรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจ แต่ครั้งนี้ต่างออกไปเพราะเธอค่อนข้างจัดเต็มมากทีเดียว ถึงแบบนั้นก็ไม่มากเกินไปกว่าระดับที่ทำให้ดูผิดธรรมชาติ“เป็นยังไงบ้างคะเจนนี่” ในจังหวะนั้นก็มีคนเดินเข้ามาในห้องพอดิบพอดี เธอเป็นสาวหูแมวผู้เงียบขรึมดูไร้อารมณ์ที่สุ

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 210 : สาวมั่นเองก็มีเวลาที่อยากจะอ้อนเหมือนกัน (Silvia and Fiona have a Date)

    ยามเช้าอันสดใสมาพร้อมเสียงสัตว์อรุณสวัสดิ์เป็นกิจวัตรอันสร้างความสดชื่นรับวันใหม่ได้ทุกครา ไม่มีเสียงปลุกอะไรไพเราะไปกว่านี้ กับบรรยากาศสดชื่นและน่าเย้ายวนชวนให้ตื่นเช้าเช่นนี้ คงไม่มีใครหาญกล้านอนต่อได้นอกเสียจากคนที่ทำงานจนเหนื่อยล้าหรือกำลังอยู่ในช่วงขี้เกียจสันหลังยาว เว้นเสียแต่ว่าเธอคนนั้นไม่ได้หลับเสียตั้งแต่แรก ข้อยกเว้นดังกล่าวคือฟีโอน่าที่กำลังนั่งเขียนเอกสารในห้องส่วนตัวของเธอ ในบ้านส่วนตัวที่อยู่อาศัยร่วมกันกับครอบครัวของเธอตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนเช้าตรู่นี้ อันที่จริงต่อให้เธอทำงานค้างไว้ก็คงไม่มีใครว่าเธอได้ เพราะในอาณาจักรที่เธอปกครองตอนนี้ไม่มีใครใหญ่ยิ่งไปกว่าเธออีกแล้ว ต่อให้ประกาศกับเหล่าขุนนางไปแล้วว่าจะวางมือ แต่สถานะของอดีตราชินีและหนึ่งในสมาชิกปาร์ตี้ผู้กอบกู้โลกคงไม่มีใครกล้าหือแน่นอนต่อให้ลงจากตำแหน่งไปแล้ว สิ่งที่ผลักดันฟีโอน่าให้ทำงานจึงเป็นแรงขับเคลื่อนส่วนตัวอย่างความรับผิดชอบล้วน ๆ จะว่าต้องการเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเหล่าขุนนางก็คงได้ แต่อันที่จริง... สาเหตุหลักมันเป็นเพราะเธ

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 209 : สาว ๆ ก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน (Cordiria has a Date)

    “ทนไม่ไหวแล้ว!!!” เสียงโหวกเหวกโวยวายเป็นสิ่งแรกของยามเช้าอันสดใสของพวกกร ความเหนื่อยล้าจากศึกกลางคืนทำให้ทุกคนยังงัวเงีย แต่ก็ตื่นเต็มตากันหมดเพราะเสียงตะโกนของตัวป่วนประจำบ้านอย่างอลิซ ด้วยความที่ทุกคนนอนบนฟูกปูพื้นทำให้ทุกคนนอนเกลื่อนกลาด และเพราะผ่านศึกอันหนักหน่วงกันมา ทั้งสาว ๆ และกรเลยมีแค่ผ้าห่มคนละผืนทับตัวเปล่า ๆ เหมือนเด็กแรกเกิด แต่สภาพแบบนั้นไม่ได้ทำให้อลิซร่าเริงน้อยลงเลย“ได้ยินป่าว! ฉันบอกว่า ‘ทน-ไม่-ไหว-แล้ว’ อ่ะ!” เธอทำแก้มป่องทุบพื้นหลายต่อหลายที ถึงไม่รู้ว่ากำลังหงุดหงิดเรื่องอะไรก็เถอะ“มีเรื่องอะไรแต่เช้าเนี่ย?” กรที่หนุนหมอนอยู่ถึงชันตัวขึ้น เขาต้องค่อย ๆ ใช้แขนสองข้างประคองให้มีอากับรินลงหนุนหมอนแทนจากที่นอนซบไหล่เขามาตลอดคืน อาจเพราะแบบนั้นด้วยมีอากับรินเลยทำหน้ามุ่ย แต่พอได้กรลูบหัวไปคนละสองทีพวกเธอก็ยิ้มพริ้มกันเพลินจนต้องหลับต่อ“หรือว่าอยากกอดเหรอ? งั้นมามะ” กรอ้าแขนเชื้อเชิญด้วยใบหน้าระรื่น เพราะเขาเองก็อยากจะกอดอลิซเหมือนกัน“ไม่ใช่ย่ะ! ไม่สิ... ถึงจริง ๆ จะอยากกอดก็เถอะ แต่ที่จะพูดมันไม่ใช่เรื่

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 208 : หลังออกกำลังย่อมต้องการการพักผ่อน

    ————วันรุ่งขึ้นหลังจบศึก, ณ มหาดันเจี้ยนโบราณเด็กหนุ่มผู้โดดเดี่ยว ภายในมหาดันเจี้ยนโบราณของฟรังซ์ ออลเดลผู้เป็นเจ้าของนั้น มีดันเจี้ยนชั้นหนึ่งที่เป็นส่วนอยู่อาศัย หากนับตามลำดับคงเป็นชั้นที่ 101 ว่าไปแล้ว มันก็คือดันเจี้ยนชั้นเดียวกับที่กรและมีอาได้เข้ามาพักหลังจากที่เคลียร์ดันเจี้ยนแห่งนี้สำเร็จแล้วนั่นเอง คฤหาสน์ของฟรังซ์นั้นมีห้องอยู่จำนวนมากทั้งที่กำลังใช้งานอยู่และที่เป็นห้องว่างพร้อมให้ปรับเปลี่ยนเป็นรูปแบบต่าง ๆ ตามต้องการ ในบรรดาห้องว่างทั้งหลายเหล่านั้นคือห้องชั้นใต้ดินของอาคารหลักอันมืดมิด ได้ถูกดัดแปลงเป็นห้องกรงแบบง่าย ๆ คำว่าง่าย ๆ ที่ว่านั้น คือการใส่ลูกกรงเหล็กหน้าห้องแทนประตู พื้นที่เป็นดินไม่ได้รับการตกแต่งหรือทำความสะอาดเพื่อไว้ใช้ลงโทษ นอกเหนือจากนั้นคือกุญแจมือและเท้าที่ล่ามติดโซ่ผู้กระทำผิดเอาไว้ในฐานะนักโทษอยู่กลางห้องไม่ให้ขยับไปไหนได้ และคนที่ถูกล่าม ไม่สิ... ล่ามตัวเองอยู่นั้น ก็ไม่ได้เป็นใครอื่นนอกจากอาร์เคมีดีส ตัวอาร์เคมีดีสนั้นแม้จะถูกล่ามโซ่ในสภาพอนาถาแต่กิริยาของเขากลับยังนิ่งสงบ ทั้

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 207 : ประกายแสงสีรุ้ง

    ————ก่อนหน้านี้เล็กน้อย“แล้ว... จะเอายังไงต่อดีล่ะเนี่ย” หลังออกมาจากมหาดันเจี้ยน ‘หมื่นเทวาใต้รัตนากร’ จนมาอยู่บนชายหาดของเกาะที่อยู่ใกล้ที่สุด เมอร์ลินก็เอ่ยถามขึ้นมาเป็นคนแรก เพราะอาเธนที่เป็นคนใช้ไอเทมทำให้ทุกคนออกมาได้รวมถึงมหาปราชญ์คนอื่น ๆ นั้นไม่ได้มาด้วย เนื่องจากจำเป็นต้องทำลายแกนพลังงานของดันเจี้ยนเพื่อลดอัตราการดูดซับเท่าที่จะทำได้แม้แกนกลางของดันเจี้ยนจะกลายเป็นลาสบอสพร้อมกับอาร์เคมีดีสไปแล้วก็ตาม และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร แต่มันก็เหมือนถูกทิ้งไว้กลางทาง คำถามของเมอร์ลิน จึงไม่ใช่อะไรนอกจากการยืนยันสิ่งที่กรจะทำหลังจากนี้ ทั้งด้วยความอยากรู้อยากเห็นและกังวล แต่ว่าก่อนหน้านั้น...“เดี๋ยวก่อนสิ! นี่จะไม่สนใจไอ้เจ้ายักษ์นั่นหน่อยเหรอเนี้ยว!?”“นะ นั่นสิคะ! นั่นน่าจะเป็นเรื่องที่ควรกังวลมากกว่านะคะ!” ในขณะที่ฟลอร่ากับซาช่าต่างก็ชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้าจนเหมือนคนสติแตก ซึ่งถ้าบนนั้นมีแค่เมฆสีครามเหมือนปกติก็จะดี แต่เพราะไม่ใช่ พวกเธอถึงกลัวจนขนลุกกันขนาดนั้น เพราะที่อยู่บนนั้น คือมอนสเตอร์ขนาดยักษ์ที่มีร่างกายท่อนบนเป็นมนุษย์ท่อนล่า

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status