ログインระหว่างที่คุยกันอยู่นั้นเสียงรถยนต์ก็ดังขึ้นหน้าบ้านจากนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาด้านใน เมลินญาน์ที่นั่งก้มหน้านวดให้คุณยายอยู่ก็เงยหน้าขึ้นแล้วก็ต้องตกใจเพราะผู้ชายเพราะคนที่เดินเข้ามาก็คือผู้ชายที่ขับรถเกือบจะชนเธอเมื่อหลายวันก่อน
“อ้าวคุณ....”
“นี่เธอ....”
“มาได้สักทีนะ มานั่งก่อนสิเดี๋ยวยายจะแนะนำให้รู้จักกัน เคยเจอกันแล้วใช่ไหม”
“ค่ะคุณยาย เขาเป็นใครเหรอคะ”
“เขาชื่ออัลเฟรดเป็นหลานของยาย”
“สวัสดีค่ะคุณอัลเฟรดหนูชื่อเมลินค่ะเป็นผู้ช่วยของคุณยาย” หญิงสาวแนะนำตัวด้วยรอยยิ้มสดใส
“อือ สวัสดี”
“หนูเคยได้ยินคุณยายพูดถึงหลานชายแต่ไม่รู้ว่าเขาเป็นลูกครึ่ง” หญิงสาวสำรวจเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วก็อมยิ้มเพราะหลานชายของคุณยายราตรีทั้งหล่อทั้งหุ่นดีกว่าที่เธอคิดไว้
“หลานของยายเป็นลูกครึ่งเยอรมันจ้ะ”
“อ๋อ....”
“คุณยายครับวันนี้คุณยายไม่สบายเป็นอะไรมากหรือเปล่า”
“ยายไม่เป็นอะไรหรอกมากหรอก ก็แค่อ่อนเพลียตามประสาคนแก่ แล้วใครโทรบอกล่ะหมออำนาจหรือเปล่า”
“น้าประนอมครับ”
“อ้อ อย่างนี้นี่เอง” คุณยายโล่งใจเพราะเธอยังไม่อยากให้หมออำนาจบอก เธออยากจะวางแผนให้รอบคอบอีกนิดก่อนจะบอกเรื่องนี้และพูดถึงเรื่องแต่งงาน ถ้าพูดเรื่องนี้เร็วไปก็กลัวว่าอัลเฟรโด้จะจับได้เสียก่อน
“หมอบอกว่ายังไงบ้างครับ”
“ก็ตามที่ยายบอกไปนั่นแหละลูก ยายแค่อ่อนเพลีย มันเป็นโรคคนแก่นอนพักสักหน่อยก็หาย”
“แน่นะครับคุณยาย”
“แน่สิยายจะโกหกไปทำไมล่ะ ไหนๆ ก็มาแล้วเย็นนี้ก็อยู่กินข้าวกับยายนะ”
“ได้ครับคุณยาย”
“ยายขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะนั่งคุยกันไปก่อน หนูเมลินก็ขึ้นมานั่งบนข้างบนได้แล้วลูก”
“คุณยายจะให้หนูพาไปเข้าห้องน้ำไหมคะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ”
เมื่อคุณยายออกไปแล้วในห้องรับแขกก็เหลือแค่อัลเฟรโด้กับเมลินญาน์
“ฉันขอโทษเรื่องวันนั้นด้วยนะ อันที่จริงฉันน่าจะขอโทษเธอตั้งแต่วันนั้น ยังไงวันนี้ฉันถือโอกาสขอโทษเธอเลยด้วยก็แล้วกันนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะหนูเองต่างหากที่เดินไม่ดูทาง”
“ถ้าเป็นคนอื่นคงเรียกค่าเสียหายไปแล้วนะ วันนั้นเจ็บมากไหม”
“หนูมีแค่แผลถลอกค่ะ ตอนนี้ก็หายแล้ว” หญิฃสาวยกข้อศอกให้กับชายหนุ่มดูซึ่งตอนนี้ยังมีสะเก็ดแผลอยู่เล็กน้อย
“บ้านเธออยู่ห่างจากที่นี่มากไหม”
“ไม่มากหรอกค่ะ บ้านหนูอยู่ซอยถัดไปนี่เอง”
“แล้วปกติเวลาไปไหนมาไหนเธอทำยังไงล่ะ”
“หนูขี่มอเตอร์ไซค์ค่ะ แต่พอดีมอเตอร์ไซค์มันสตาร์ทไม่ติดหนูเลยเอาไปไว้ที่อู่ซ่อมอีกไม่กี่วันก็เสร็จแล้ว”
“แล้วเวลาไปเก็บเงินไปยังไง”
“น้าเดชไปส่งค่ะ แต่ถ้ารถหนูซ่อมเสร็จหนูคิดว่าจะขี่รถไปเองดีกว่า”
“ถ้าเป็นตลาดที่อยู่หน้าซอยก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้าอีกสองตลาดฉันว่าเธอไปกับน้าเดชนั่นแหละดีแล้ว ถึงเงินจะไม่เยอะแต่มันก็อันตราย”
“ค่ะ”
“เธอขับรถยนต์ไม่เป็นเหรอ”
“ไม่ค่ะ”
“หาเวลาไปเรียนสิ จะได้ขับรถไปเอง”
“หนูจะเอารถที่ไหนมาขับล่ะคะ”
“ก็รถคันเล็กที่จอดอยู่ในโรงรถไงล่ะ รถคันนั้นผู้ช่วยคนก่อนของยายเขาก็ใช้อยู่ ค่าเรียนมาเบิกกับฉันก็ได้นะ” อัลเฟรโด้เสนอเพราะอยากให้ผู้ช่วยคนใหม่ของคุณยายทำงานกับท่านนานๆ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครทำงานได้นานเลย
“หนูคิดว่ามันไม่จำเป็นเลยที่จะใช้รถยนต์ค่ะ”
“แต่ฉันว่ามันปลอดภัยกว่านะ อีกอย่างน้าเดชก็อาจต้องขับรถไปทำธุระอย่างอื่นหรือพาคุณยายออกไปข้างนอกบ้าง”
“หนูลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย เอาไว้หนูจะหาเวลาไปเรียนนะคะ”
อัลเฟรโด้นั่งคุยกับเมลินญาน์จนถึงเวลาทานอาหารคุณยายก็มาตามและพากันไปยังห้องครัว
หลังทานอาหารเสร็จเมลินญาน์ก็ประคองของคุณยายมานั่งหน้าทีวีจากนั้นก็กระซิบถามคุณยายระหว่างที่เอาอัลเฟรโด้เข้าห้องน้ำ
“คุณยายคะทำไมคุณยายบอกคุณอัลเฟรดไปแบบนั้นล่ะคะ”
“หนูหมายถึงเรื่องอะไร”
“ก็เรื่องที่คุณยายไม่สบายไงคะ”
“อัลเฟรดเขางานยุ่งยายไม่อยากให้เขาต้องเป็นห่วงนะ”
“แล้วยาที่หมอบอกจะส่งมาให้ล่ะคะ เมื่อไหร่จะมา”
“น่าจะเป็นพรุ่งนี้จ้ะ”
“แล้วคืนนี้ยายจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม” หญิงสาวรู้สึกเป็นห่วงคุณยายราตรีมาก
“เดี๋ยวคืนนี้ยายจะให้ปัทเข้าไปนอนกับยายด้วย อะไรจะได้ช่วยเหลือกัน”
“ดีเหมือนกันค่ะ นี่ก็ดึกแล้วหนูขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวยายให้คนขับรถไปส่งนะเดินกลับเวลานี้มันอันตราย”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณยาย ซอยบ้านคุณยายก็มีแสงไฟส่องสว่างตลอดหนูอยากเดินกลับจะได้เป็นการออกกำลังกายด้วย”
“ถ้ามันเป็นช่วงกลางวันยายจะไม่ว่าอะไรเลยแต่นี่มันค่ำแล้วถึงมันจะมีไฟส่งสว่างตลอดทางแต่มันก็ยังอันตรายสำหรับผู้หญิงอยู่ดี ให้คนขับรถไปส่งเถอะนะ”
“ก็ได้ค่ะ”
คุณยายคุณยายราตรีกำลังจะเรียกให้ปัทมาไปบอกคนขับรถแต่เมื่อหลานชายเธอออกมาจากห้องน้ำท่านก็ยิ้ม
“อัลเฟรดจะกลับเลยหรือเปล่าลูก”
“ครับคุณยาย ผมขอโทษด้วยนะครับที่คืนนี้นอนค้างกับคุณยายไม่ได้ แต่ถ้าคุณยายมีอะไรโทรหาผมได้ตลอด ปัทอย่าลืมนะคืนนี้ไปนอนกับคุณยายในห้องด้วย ถ้าคุณยายไม่สบายหรือเป็นอะไรรีบโทรหาฉันและตามรถพยาบาลทันที”
“ค่ะคุณอัลเฟรด ปัทจะดูแลคุณยายอย่างดี”
“ถ้างั้นยายฝากหลานไปส่งหมูเมลินที่บ้านด้วยได้ไหม บ้านเธออยู่ซอยถัดไปนี่เอง”
“ได้ครับ ผมไปก่อนนะครับคุณยายดูแลตัวเองด้วยนะครับ”
“หนูไปก่อนนะคะคุณยาย สวัสดีค่ะ” เมลินญาน์ยกมือไว้คุณยายก่อนจะรีบเดินตามอัลเฟรโด้ไปที่รถ
“คุณอัลเฟรดคะ เดี๋ยวคุณจอดรถส่งหนูที่หน้าปากซอยถัดไปนะคะหนูเดินเข้าไปเองได้ซอยนั้นมันแคบค่ะ” หญิงสาวบอกกับอัลเฟรโด้ด้วยความเกรงใจ
“แคบแต่รถยนต์เข้าได้ใช่ไหมล่ะ”
“ใช่ค่ะ แต่หนูก็ไม่อยากรบกวนคุณให้เสียเวลา”
“ฉันรับปากกับคุณยายว่าจะไปส่งเธอ ก็ให้ฉันไปส่งเธอเถอะถ้าคุณยายมารู้ที่หลังว่าฉันส่งเธอไม่ถึงบ้านท่านจะไม่สบายใจเอานะ”
“งั้นก็ได้ค่ะ”
แล้วอัลเฟรโด้ก็ขับรถเอาไปตามทางที่หญิงสาวบอกก่อนจะจอดรถลงหน้าบ้านหลังเล็กที่เวลานี้ด้านในมืดสนิท
“บ้านเธอมืดมากเลยนะอยู่บ้านคนเดียวเหรอ”
“หนูอยู่บ้านคนเดียวค่ะ”
“ให้ฉันเดินเข้าไปส่งข้างในไหม”
“คุณคะนี่บ้านของหนูนะคะ หนูอยู่มาตั้งแต่เกิดค่ะไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกค่ะ เดี๋ยวหนูใช้ไฟฉายจากโทรศัพท์ส่องก็ได้คุณกลับไปเถอะค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่มาส่ง” หญิงสาวยกมือไหว้ก่อนจะลงจากรถและเดินเข้ามาในบ้านโดยใช้โทรศัพท์แทนไฟฉายเพื่อส่องนำทาง อัลเฟรโด้รอจนเห็นไฟจากในบ้านสว่างขึ้นก็ขับรถกลับ
การได้คุยกับเมลินญาน์วันนี้ก็ทำให้เขาเบาใจได้ว่าเธอจะเป็นผู้ช่วยที่ดีของคุณยายได้
“ถ้ามันเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ คุณอัลเฟรดก็รีบพูดมาเลยค่ะก่อนที่สมองจะไม่รับรู้อะไรเพราะความง่วง” หญิงสาวพูดแล้วแกล้งหาวทั้งที่ตอนนี้ยังไม่ได้ง่วงเลยสักนิด เธอก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าอัลเฟรโด้จะคุยเรื่องอะไรกับเธออัลเฟรโด้ขยับเข้ามาใกล้ๆ จับมือของเธอไว้เขามองหน้าเธอก่อนจะพูดความรู้สึกของตัวเองออกมา“ก่อนอื่นฉันต้องขอโทษที่เข้าใจผิด ไม่เชื่อใจเธอคิดว่าเธอเป็นคนกล่อมคุณยายให้บังคับฉันแต่งงาน”“เรื่องนี้หนูไม่โกรธคุณแล้ว หนูเข้าใจว่าเป็นใครก็ต้องคิดแบบนั้นเพราะหนูเพิ่งเจอกับคุณยายไม่นานท่านก็บังคับให้คุณแต่งงานกับหนู มีแค่นี้ใช่ไหมที่คุณจะพูด”“ไม่ใช่มันมีอีกเรื่องหนึ่ง”“อะไรคะ”“ที่ผ่านมาฉันยอมรับนะว่าฉันมีความสุขมากที่ได้อยู่กับเธอ รู้สึกดีที่ตื่นมาทุกเช้ามีเธอนอนอยู่ข้างๆ และได้นอนกอดกันทุกคืน ฉันรู้ว่าเธอรักฉันและฉันคิดว่าสิ่งที่ฉันทำมันก็เป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่าฉันรู้สึกยังไงกับเธอ”“แล้วคุณรู้สึกยังไงเหรอคะ” หญิงสาวถามออกไปด้วยใจเต้นแรงเธอไม่รู้หรอกว่าตอนนี้อัลเฟรโด้กำลังจะพูดอะไรแต่ในใจก็แอบหวังว่าเธอได้ยินเขาพูดคำว่ารักซึ่งมันสำคัญกับเธอมาก ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันเธอบอกรักเข
“พรุ่งนี้ฉันจะบอกทนายให้จัดการเรื่องหย่า” จู่ๆ อัลเฟรโด้ก็พูดขึ้นระหว่างที่ออกมานั่งดื่มกับณัฐกฤษณ์เพื่อนสนิท“จะไม่ง้ออีกหน่อยเหรอ”“ฉันคิดว่าง้อไปมันก็คงไม่มีประโยชน์อะไรหรอก เมลินเธอคงตัดใจจากฉันได้แล้วจริงๆ นั่นแหละ”“เฮ้ย!...แต่นี่เพิ่งผ่านมาไม่กี่เดือนเองนะ อดทนหน่อยสิ เด็กวัยรุ่นก็อย่างนี้เอาใจยาก”“นายพูดอย่างกับเคยมีแฟนเป็นเด็ก”“ถึงแฟนฉันกับฉันอายุจะไม่ห่างกันมาก แต่ฉันก็พอเข้าใจนะว่าผู้หญิงอารมณ์อ่อนไหว โดยเฉพาะเด็กอย่างเมียของนายนะ นายลองคิดดูสิเธออายุแค่ 18 แล้วต้องมาแต่งงาน ชีวิตกำลังลงตัวและมีความสุขจู่ๆ นายก็ไปพูดจาแบบนั้นกับเธอ”“ก็ตอนนั้นฉันยังไม่รู้ความจริงนี่”“คนโตอย่างเราอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา ที่ต้องทะเลาะกันบ้างแต่นายอย่าลืมนึกถึงความแตกต่างในเรื่องของอายุด้วยนะ อีกอย่างเมลินเธอก็ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเลย แล้วมาโดนนายพูดจาแบบนั้นใส่เป็นใครก็ต้องเสียใจน้อยใจได้ นายเคยบอกฉันไม่ใช่เหรอว่าเมลินรักนายมาก พอโดนคนที่ตัวเองรักต่อว่าก็เลยยิ่งคิดมากและน้อยใจมันเป็นเรื่องธรรมดา”“ใช่เมลินรักฉันมาก เธอบอกรักฉันในทุกวันที่อยู่ด้วยกันนายรู้มั้ยฉันมีความสุขแค่ไหนเวลาไ
วันนี้เมลินญาน์เลิกเรียนเร็วกว่าปกติหญิงสาวจึงนัดทานข้าวกับศศิภาจากนั้นก็พากันเดินไปซื้อของก่อนจะขับรถมาส่งเธอที่บ้านระหว่างทางศศิภาก็ถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง“แกตัดสินใจดีแล้วหรอเมลิน แกรักเขามากนะแล้วจะหย่ากับเขาทำไม”“ฉันยอมรับว่าฉันรักเขามาก แต่ก็ไม่รู้จะอยู่กันไปทำไม เขาไม่เชื่อใจฉัน เขาคิดว่าฉันเป็นคนวางแผนให้ได้แต่งงานกับเขานะ”“แต่ตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าแกไม่ได้แบบ เขาก็ขอโทษแกแล้วแกยังต้องการอะไรอีก”“ไม่รู้สิ ฉันอาจจะต้องการความรักจากเขามั้ง”“แกเคยถามไหมว่าเขารักแกหรือเปล่า”“ไม่เห็นจำเป็นต้องถามเลยขิงฉันบอกรักเขาไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแต่ไม่เคยได้ยินกับเขาพูดมันเลย แม้คุณยายจะบอกว่าให้ดูที่การกระทำทำแต่ฉันก็อยากจะได้ยินมันสักครั้ง เขาพูดแต่ว่าเขาโทษอยากให้ฉันกลับไปอยู่ด้วยแค่นั้นเอง”“ถ้าเขาบอกว่ารักแกแล้วแกจะกลับไปคืนดีกับเขาเหรอ”“อือ”“ฉันไม่เข้าใจแกเลยนะเมลิน แกหย่ากับเขาแล้วแกก็ต้องมานั่งเสียใจแบบนี้มันคุ้มกันเหรอ”“ฉันไม่รู้ว่าคุ้มไหม แต่ฉันอยากอยู่กับคนที่รักฉัน แต่ฉันให้เวลาให้โอกาสเขาแล้วนะ ฉันรู้ว่าที่ฉันทำมันงี่เง่าไม่มีเหตุผล แค่คำว่ารักแค่คำเดียวแต่ฉันคิดว่าฉันอยากไ
จากวันที่เมลินญาน์ย้ายกลับไปอยู่บ้านถึงตอนนี้ก็เกือบจะสองเดือนแล้วอัลเฟรโด้ยังคงพยายามตามง้อ แต่หญิงสาวก็ไม่ยอมใจอ่อน ตอนนี้เธอเปลี่ยนกุญแจรั้วบ้านเปลี่ยนรหัสผ่านทุกอย่างทำให้อัลเฟรโด้ไม่สามารถเข้าไปหาเธอที่บ้านได้อย่างเคยแต่ถ้าวันไหนเขาเลิกงานเร็วก็มักจะขับรถวนมาดูว่าหญิงสาวถึงบ้านหรือยังและจอดรถที่หน้ารั้วจนกระทั่งเห็นว่าว่าเธอปิดไฟเข้านอนจึงขับรถกลับมาที่คอนโดมิเนียม เขาใช้รถของตนเองบ้างรถของบริษัทบ้างหรือบางครั้งก็ใช้รถของผู้ช่วยทำให้เมลินญาน์ไม่ทันสังเกตเห็นแต่วันนี้หญิงสาวไปซื้อของที่ตลาดสด แล้วเจอคุณน้าหนึ่งที่บ้านอยู่ถัดจากบ้านของเธอไปอีกสามหลังเข้ามาชวนคุย“เมลิน หนูสังเกตไหมว่าช่วงนี้แถวบริเวณหน้าบ้านหนูมักจะมีรถยนต์มาจอดอยู่บ่อยๆ”“หนูไม่ได้สังเกตเลยค่ะน้า เขามาจอดรอใครหรือเปล่า”“น้าเองก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ หนูลองสังเกตดูหน่อยนะไม่รู้เป็นพวกโจรเป็นขโมยหรือเปล่า หนูอยู่บ้านคนเดียวด้วยมันอันตราย ถ้าเห็นท่าไม่ดียังไงก็โทรเรียกตำรวจให้มาช่วยดูก็ดีนะ”“ขอบคุณนะคะน้า หนูจะไปย้อนดูกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าบ้านดูค่ะ อยากจะรู้เหมือนกันว่าใครที่มาจอดรถรออยู่แบบนั้น”เมลินญาน์พูดคุยก
เพราะตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมาอัลเฟรโด้ทานอาหารไม่ตรงเวลาและมักจะดื่มเหล้าอยู่ตลอด วันนี้ชายหนุ่มก็เลยรู้สึกปวดท้องหลังเลิกงานเขาเลยแวะที่โรงพยาบาลเพื่อให้คุณหมอตรวจอาการหลังจากตรวจและรับยาแล้วอัลเฟรโด้ยาก็เดินมาที่ลานจอดรถและได้เจอกับหมออำนาจที่กำลังจะกลับบ้านพอดี“สวัสดีครับหมออำนาจ”“สวัสดีครับคุณอัลเฟรดไม่สบายเหรอครับ” คุณหมอถามเพราะเห็นถุงยาในมือของเขา“ปวดท้องนิดหน่อยครับคุณหมอก็เลยแวะมาตรวจ คุณหมอละ ครับสบายดีไหม” อัลเฟรโด้เจอกับคุณหมอครั้งสุดท้ายก็ในงานศพของคุณยายราตรีซึ่งมันผ่านมาสองเดือนแล้ว“ผมสบายดีครับ”“คุณหมอพอจะมีเวลาสักนิดไหมครับ” อัลเฟรโด้ถามอย่างเกรงใจ“คุณอัลเฟรดมีอะไรหรือเปล่าผม”“อยากจะถามอะไรหมอหน่อย”“ได้สิครับ เรานั่งคุยตรงมาหินอ่อนตรงนั้นก็ได้”“ครับ” แล้วอัลเฟรโด้ก็เดินตามคุณหมออำนาจมายังม้าหินอ่อนที่อยู่ใกล้กับลานจอดรถ“คุณอัลเฟรดมีอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ”“ผมอยากจะถามว่าทุกครั้งที่คุณยายมาตรวจกับคุณหมอ คุณยายให้คนอื่นเข้ามาในห้องด้วยหรือเปล่าครับ”“ไม่นะครับ คุณยายมักจะเข้ามาคนเดียวส่วนเมลินภรรยาของคุณก็รออยู่ข้างนอก มีอะไรหรือเปล่า”“ผมขอถามคุณหมอทุ
บทรักดำเนินต่อไปในห้องทำงานอีกพักใหญ่ก่อนที่อัลเฟรโด้จะอุ้มเมลินญาน์กลับมายังห้องนอน คืนนี้ทั้งสองต่างโรมรันพันตูกันอยู่บนเตียงอยู่นานก่อนที่หญิงสาวจะหมดแรงอยู่บนเตียงกว้างอัลเฟรโด้เอาผ้าเช็ดตัวชุบน้ำมาเช็ดคราบเหงื่อออกก่อนจะนอนกอดโดยไม่ได้มีคำพูดอะไรเมลินญาน์ซุกตัวเข้าหาอ้อมกอดอันอบอุ่นของเขาแล้วหลับตานิ่ง เธออยากจะเก็บความรู้สึกคืนนี้ไว้เป็นคนสุดท้ายและพรุ่งนี้เธอกับเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรกันอีกอัลเฟรโด้เองก็กอดกระชับเธอไว้แน่นเขากำลังสับสนว่าจากนี้จะเอายังไงต่อจะใช้ชีวิตกับเธอไปเรื่อยๆ หรือจะหย่าอย่างที่เธอพูด เขายังคงตัดสินใจไม่ได้ชายหนุ่มนอนใช้ความคิดจนกระทั่งเผลอหลับแล้วตื่นมาอีกครั้งในตอนเช้าเขารู้สึกใจหายเมื่อเช้านี้มันต่างจากทุกเช้าที่ผ่านมาเมื่อข้างกายของเขาไม่มีเมลินญาน์นอนอยู่ข้างๆอัลเฟรโด้รีบลุกขึ้นนุ่งผ้าเช็ดตัวแล้วเดินมายังห้องครัวเขาเห็นแค่ความว่างเปล่า ชายหนุ่มมองนาฬิกาเห็นว่ามันสายมากแล้วและคิดว่าวันนี้ที่เธอไม่ทำอาหารเช้าให้อาจจะเป็นเพราะเธอรีบไปเรียนและถ้าหากเย็นนี้เธอกลับมาที่คอนโดเขาจะลองเปิดใจคุยกับเธออีกครั้งอยากจะฟังเหตุผลจากเธออีกครั้งโดยไม่ใช้อารมณ์ตลอด







