ログインเมลินญาน์มาทำงานที่บ้านคุณยายได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว งานที่ทำก็เริ่มเข้าที่ หญิงสาวไปเก็บเงินที่ตลอดทั้งสามแห่งจากนั้นก็กลับมาทำบัญชีที่ห้องทำงาน
ในระหว่างที่ทำงานนั้นคุณยายราตรีก็จะให้เธอนั่งทำงานตามลำพังและท่านจะเข้ามาชวนคุยบ้างเป็นครั้งคราวหรือบางครั้งเมลินญาน์ก็จะออกมาชวนท่านคุย
หญิงสาวรู้สึกว่าคุณยายราตรีเป็นผู้ใหญ่ใจดีและเธอก็รู้สึกนับถือท่านเหมือนกับเป็นคุณยายแท้ๆ เนื่องจากตอนนี้หญิงสาวไม่มีญาติที่ไหนเลย
บ่ายวันนี้หลังจากทานอาหารกลางวันแล้วเมลินญาน์ก็กลับเข้ามาทำงานในห้องเหมือนกับทุกวัน หญิงสาวกำลังมีสมาธิกับตัวเลขตรงหน้าเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ
“เข้ามาได้เลยค่ะ”
“เมลิน ยุ่งอยู่ไหม”
“ไม่ค่ะพี่ปัท มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ออกไปดูคุณท่านหน่อยสิ เหมือนท่านจะไม่สบายเลย”
หญิงสาวรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งออกมาจากห้องทำงานก็เห็นคุณยายกำลังนั่งดมยาดมและน้าประนอมกำลังพัดให้ท่านอยู่
“คุณยายเป็นอะไรคะ” เมลินญาน์ถามด้วยความร้อนใจ
“ยายเวียนหัวนิดหน่อยจ้ะ”
“หนูว่าไปหาหมอดีกว่านะคะคุณยาย”
“น้าก็ชวนแล้วแต่คุณยายท่านไปยอมไป หนูเมลินช่วยน้าหน่อยนะ” น้าประนอมรีบฟ้อง
“คุณยายคะ ทำไมถึงไม่อยากไปโรงพยาบาลล่ะคะ”
“ก็ยายไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อยแค่เวียนหัวแล้วก็มีใจสั่นอีกนิดหน่อย”
“หนูว่าไม่หน่อยแล้วนะคะ ไปหาหมอเถอะค่ะ นะคะเดี๋ยวหนูจะไปกับคุณยายด้วย น้าประนอมคะบอกน้าเดชเตรียมรถเลยค่ะ”
น้าประนอมวิ่งไปบอกสามีส่วนเมลินญาน์และปัทมาก็ช่วยกันประคองคุณยายไปที่รถ
ระยะทางจากบ้านมาที่โรงพยาบาลใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีรถของคุณยายราตรีก็มาถึง
“คุณยายคะให้หนูเข้าไปด้วยเพื่อนมั้ยคะ” เมลินญาน์ถามเมื่อพยาบาลหน้าห้องตรวจเรียกชื่อคุณยายราตรี
“ไม่เป็นไรจ้ะ ยายเข้าไปคนเดียวได้ ถ้ามีอะไรยายจะให้พยาบาลออกมาตามนะ”
“ได้ค่ะคุณยาย”
พยาบาลหน้าห้องตรวจประคองคุณยายเข้าไปด้านในห้องตรวจส่วนเมลินญาน์นั้นนั่งรออยู่หน้า เธอค่อนข้างเป็นกังวลเพราะไม่รู้เลยว่าคุณยายจะเป็นอะไรมากหรือเปล่า
“สวัสดีครับคุณยาย” คุณหมออำนาจทักทายอย่างเป็นกันเองเขาเป็นแพทย์ประจำตัวของคุณยายราตรีมานานหลายปีซึ่งรับช่วงต่อมาจากบิดาที่ท่านเกษียณไปแล้ว
“คุณยายไม่สบายตรงไหนครับ ทำไมไม่โทรให้ผมไปตรวจที่บ้านจะลำบากมาเองทำไมล่ะครับ”
“ยายก็อยากจะออกมาสูดอากาศนอกบ้านบ้างสิหมอ”
“คุณยายครับที่โรงพยาบาลอากาศไม่น่าสูดหรอกนะครับ ว่าแต่วันนี้คุณยายเป็นอะไรมาครับ”
“ยายไม่เป็นอะไรหรอกจะหมอ”
“แต่พยาบาลลงในประวัติว่าคุณยายเวียนหัว แล้วก็ใจเต้นแรงนะครับ นอกจากที่บอกพยาบาลแล้วมีอาการอย่างอื่นอีกไหมครับ”
“ถ้ายายไม่บอกแบบนั้นแล้วเขาจะให้ยายเข้ามาตรวจกับหมอไหมล่ะคะ”
“คุณยายหมายความว่ายังไงครับ”
“ยายอยากจะให้หมอช่วยอะไรยายสักหน่อย”
“อะไรครับคุณยายหรือว่ายายอยากตรวจสุขภาพชุดใหญ่เดี๋ยวผมจะดูให้นะครับว่าคุณยายต้องตรวจอะไรบ้าง แต่คุณยายเพิ่งตรวจสุขภาพไปไม่กี่เดือนเองนะครับ สุขภาพร่างกายก็แข็งแรงดีทุกอย่างแข็งแรงกว่าคนอายุเท่ากันตั้งเยอะ” คุณหมอดูประวัติของคุณยายจากหน้าจอแล้วก็ถามด้วยความสงสัย
“ไม่ต้องตรวจให้เสียเวลาหรอกค่ะหมอ ตอนนี้ยายป่วยเป็นโรคหัวใจ”
“อะไรนะครับ คุณยายไปตรวจที่ไหนมา ผมขอฟังเสียงหัวใจหน่อยนะครับ”
หมออำนาจมีท่าทางตกใจเขารีบจับหูฟังขึ้นมาจากนั้นก็ฟังเสียงหัวใจของคุณยายอย่างละเอียด
“คุณยายครับเท่าที่ผมฟังดูไม่มีอะไรผิดปกติเลยแต่เพื่อความมั่นใจเดี๋ยวผมจะส่งคุณยายไปทำตรวจเพิ่มนะครับ” คุณหมออยากจะตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนจะวินิจฉัย
“ไม่ต้องวุ่นวายขนาดนั้นหรอกยายไม่ได้เป็นอะไร”
“แต่เมื่อกี้คุณยายบอกผมว่าเป็นโรคหัวใจ”
“ยายก็แค่อยากเป็นโรคหัวใจค่ะคุณหมอ”
“คุณยายกำลังเล่นอะไรอยู่ครับนี่”
คุณหมอก็แค่ช่วยไปบอกหลานชายของยาย ว่ายายเป็นโรคกำลังเป็นโรคหัวใจและอาการไม่ดีเท่าไหร่ เพื่อให้เขาทำตามที่ยายต้องการ ถ้าเขาขัดใจอาการของยายจะกำเริบและเกิดหัวใจวายตายได้”
“คุณยายจะทำแบบนั้นไปทำไม”
“ยาก็แค่อยากให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงที่ยายหาให้” คุณยายบอกความจริงกับคุณหมอเพราะอยากจะให้เขาช่วย
“ผมขอโทษนะครับคุณยาย ผมคงช่วยคุณยายไม่ได้ มันผิดจรรยาบรรณครับคุณยาย ผมว่าคุณยายลองคุยกับหลานชายดีก่อนไหมเผื่อเขาจะทำตามที่คุณยายบอก”
“ยายผิดหวังมานะที่หมอปฏิเสธแบบนี้ ยายนึกว่าที่ผ่านเราเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกันเสียอีก แต่ไม่คิดเลยว่าเรื่องแค่นี้หมอก็ช่วยยายไม่ได้”
“คุณยายครับ”
คุณยายราตรีทำหน้าผิดหวังและนั่นก็ทำให้คุณหมอเองก็รู้สึกหนักใจ
“คุณยายกำลังบังคับผมอยู่นะครับ”
“มีตรงไหนบ้างที่ยายบังคับ ยายก็แค่ขอร้อง ช่วยยายหน่อยได้ไหมคะ”
“แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะครับคุณยายและคนเป็นโรคหัวใจมันต้องมียานะ”
“หมอก็จัดยาบำรุงแล้วก็เขียนหน้าซองให้ยายว่าเป็นยาโรคหัวใจสิ เรื่องแค่นี้ยายคิดว่าคนเก่งอย่างหมอทำได้อยู่แล้ว ยายเชื่อใจหมอ”
“เอาอย่างนั้นก็ได้ เรื่องยาเดี๋ยวผมจะเอาไปส่งที่บ้านครับ แล้วจะผมโทรบอกคุณอัลเฟรโด้เลยไหม”
“ถ้าจะให้โทรตอนไหนยายจะโทรมาบอกหมอนะ ขอบคุณหมอมากที่ช่วยยาย”
เมื่อคุยกับคุณหมอแล้วคุณยายราตรีก็ปรับสีหน้าให้เรียบเฉยก่อนจะเดินออกมาด้านนอกซึ่งตอนนี้เมลินญาน์เดินกระวนกระวายใจอยู่
“หมอว่ายังไงบ้างคะคุณยาย”
“เดี๋ยวเรากลับไปคุยกันที่บ้านนะ”
“คุณยายคะแล้วไม่มียาเหรอคะ”
“เดี๋ยวคุณหมอจะเอายาไปส่งให้ที่บ้านเองนะ เพราะยาที่ยายใช้ที่โรงพยาบาลนี้ไม่มีมันเป็นยาชนิดพิเศษ”
“คุณยายไม่เป็นอะไรมากใช่ไหมคะ”
“ไม่หรอกจ้ะเรากลับบ้านกันก่อนนะ”
กว่าเมลินญาน์และคุณยายราตรีจะถึงบ้านก็เกือบจะเป็นเวลาเย็นแล้ว
“คุณยายท่าทางเหนื่อยมากๆ เลยนั่งพักก่อนนะคะ” หญิงสาวพาคุณยายมานั่งที่ห้องรับแขกจากนั้นเดินเข้าไปในครัวหยิบน้ำส้มกับองุ่นที่อยู่ในตู้เย็นเอามาให้คุณยาย
“ขอบใจนะเย็นนี้อยู่ทานข้าวกับยายได้ไหม”
“ได้ค่ะ” เพราะเห็นว่าคุณยายไม่ค่อยสบายเมลินญาน์เลยอยากอยู่ทานข้าวกับท่านแล้วค่อยกลับบ้านตอนหัวค่ำก็ได้
ยังไม่ถึงเวลาอาหารเย็นคุณยายราตรีนอนดูทีวีห้องรับแขกส่วนเมลินญาน์ก็นั่งอยู่บนพื้นพรมคอยนวดให้คุณยายด้วยความเป็นห่วง
“ถ้ามันเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ คุณอัลเฟรดก็รีบพูดมาเลยค่ะก่อนที่สมองจะไม่รับรู้อะไรเพราะความง่วง” หญิงสาวพูดแล้วแกล้งหาวทั้งที่ตอนนี้ยังไม่ได้ง่วงเลยสักนิด เธอก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าอัลเฟรโด้จะคุยเรื่องอะไรกับเธออัลเฟรโด้ขยับเข้ามาใกล้ๆ จับมือของเธอไว้เขามองหน้าเธอก่อนจะพูดความรู้สึกของตัวเองออกมา“ก่อนอื่นฉันต้องขอโทษที่เข้าใจผิด ไม่เชื่อใจเธอคิดว่าเธอเป็นคนกล่อมคุณยายให้บังคับฉันแต่งงาน”“เรื่องนี้หนูไม่โกรธคุณแล้ว หนูเข้าใจว่าเป็นใครก็ต้องคิดแบบนั้นเพราะหนูเพิ่งเจอกับคุณยายไม่นานท่านก็บังคับให้คุณแต่งงานกับหนู มีแค่นี้ใช่ไหมที่คุณจะพูด”“ไม่ใช่มันมีอีกเรื่องหนึ่ง”“อะไรคะ”“ที่ผ่านมาฉันยอมรับนะว่าฉันมีความสุขมากที่ได้อยู่กับเธอ รู้สึกดีที่ตื่นมาทุกเช้ามีเธอนอนอยู่ข้างๆ และได้นอนกอดกันทุกคืน ฉันรู้ว่าเธอรักฉันและฉันคิดว่าสิ่งที่ฉันทำมันก็เป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่าฉันรู้สึกยังไงกับเธอ”“แล้วคุณรู้สึกยังไงเหรอคะ” หญิงสาวถามออกไปด้วยใจเต้นแรงเธอไม่รู้หรอกว่าตอนนี้อัลเฟรโด้กำลังจะพูดอะไรแต่ในใจก็แอบหวังว่าเธอได้ยินเขาพูดคำว่ารักซึ่งมันสำคัญกับเธอมาก ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันเธอบอกรักเข
“พรุ่งนี้ฉันจะบอกทนายให้จัดการเรื่องหย่า” จู่ๆ อัลเฟรโด้ก็พูดขึ้นระหว่างที่ออกมานั่งดื่มกับณัฐกฤษณ์เพื่อนสนิท“จะไม่ง้ออีกหน่อยเหรอ”“ฉันคิดว่าง้อไปมันก็คงไม่มีประโยชน์อะไรหรอก เมลินเธอคงตัดใจจากฉันได้แล้วจริงๆ นั่นแหละ”“เฮ้ย!...แต่นี่เพิ่งผ่านมาไม่กี่เดือนเองนะ อดทนหน่อยสิ เด็กวัยรุ่นก็อย่างนี้เอาใจยาก”“นายพูดอย่างกับเคยมีแฟนเป็นเด็ก”“ถึงแฟนฉันกับฉันอายุจะไม่ห่างกันมาก แต่ฉันก็พอเข้าใจนะว่าผู้หญิงอารมณ์อ่อนไหว โดยเฉพาะเด็กอย่างเมียของนายนะ นายลองคิดดูสิเธออายุแค่ 18 แล้วต้องมาแต่งงาน ชีวิตกำลังลงตัวและมีความสุขจู่ๆ นายก็ไปพูดจาแบบนั้นกับเธอ”“ก็ตอนนั้นฉันยังไม่รู้ความจริงนี่”“คนโตอย่างเราอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา ที่ต้องทะเลาะกันบ้างแต่นายอย่าลืมนึกถึงความแตกต่างในเรื่องของอายุด้วยนะ อีกอย่างเมลินเธอก็ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเลย แล้วมาโดนนายพูดจาแบบนั้นใส่เป็นใครก็ต้องเสียใจน้อยใจได้ นายเคยบอกฉันไม่ใช่เหรอว่าเมลินรักนายมาก พอโดนคนที่ตัวเองรักต่อว่าก็เลยยิ่งคิดมากและน้อยใจมันเป็นเรื่องธรรมดา”“ใช่เมลินรักฉันมาก เธอบอกรักฉันในทุกวันที่อยู่ด้วยกันนายรู้มั้ยฉันมีความสุขแค่ไหนเวลาไ
วันนี้เมลินญาน์เลิกเรียนเร็วกว่าปกติหญิงสาวจึงนัดทานข้าวกับศศิภาจากนั้นก็พากันเดินไปซื้อของก่อนจะขับรถมาส่งเธอที่บ้านระหว่างทางศศิภาก็ถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง“แกตัดสินใจดีแล้วหรอเมลิน แกรักเขามากนะแล้วจะหย่ากับเขาทำไม”“ฉันยอมรับว่าฉันรักเขามาก แต่ก็ไม่รู้จะอยู่กันไปทำไม เขาไม่เชื่อใจฉัน เขาคิดว่าฉันเป็นคนวางแผนให้ได้แต่งงานกับเขานะ”“แต่ตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าแกไม่ได้แบบ เขาก็ขอโทษแกแล้วแกยังต้องการอะไรอีก”“ไม่รู้สิ ฉันอาจจะต้องการความรักจากเขามั้ง”“แกเคยถามไหมว่าเขารักแกหรือเปล่า”“ไม่เห็นจำเป็นต้องถามเลยขิงฉันบอกรักเขาไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแต่ไม่เคยได้ยินกับเขาพูดมันเลย แม้คุณยายจะบอกว่าให้ดูที่การกระทำทำแต่ฉันก็อยากจะได้ยินมันสักครั้ง เขาพูดแต่ว่าเขาโทษอยากให้ฉันกลับไปอยู่ด้วยแค่นั้นเอง”“ถ้าเขาบอกว่ารักแกแล้วแกจะกลับไปคืนดีกับเขาเหรอ”“อือ”“ฉันไม่เข้าใจแกเลยนะเมลิน แกหย่ากับเขาแล้วแกก็ต้องมานั่งเสียใจแบบนี้มันคุ้มกันเหรอ”“ฉันไม่รู้ว่าคุ้มไหม แต่ฉันอยากอยู่กับคนที่รักฉัน แต่ฉันให้เวลาให้โอกาสเขาแล้วนะ ฉันรู้ว่าที่ฉันทำมันงี่เง่าไม่มีเหตุผล แค่คำว่ารักแค่คำเดียวแต่ฉันคิดว่าฉันอยากไ
จากวันที่เมลินญาน์ย้ายกลับไปอยู่บ้านถึงตอนนี้ก็เกือบจะสองเดือนแล้วอัลเฟรโด้ยังคงพยายามตามง้อ แต่หญิงสาวก็ไม่ยอมใจอ่อน ตอนนี้เธอเปลี่ยนกุญแจรั้วบ้านเปลี่ยนรหัสผ่านทุกอย่างทำให้อัลเฟรโด้ไม่สามารถเข้าไปหาเธอที่บ้านได้อย่างเคยแต่ถ้าวันไหนเขาเลิกงานเร็วก็มักจะขับรถวนมาดูว่าหญิงสาวถึงบ้านหรือยังและจอดรถที่หน้ารั้วจนกระทั่งเห็นว่าว่าเธอปิดไฟเข้านอนจึงขับรถกลับมาที่คอนโดมิเนียม เขาใช้รถของตนเองบ้างรถของบริษัทบ้างหรือบางครั้งก็ใช้รถของผู้ช่วยทำให้เมลินญาน์ไม่ทันสังเกตเห็นแต่วันนี้หญิงสาวไปซื้อของที่ตลาดสด แล้วเจอคุณน้าหนึ่งที่บ้านอยู่ถัดจากบ้านของเธอไปอีกสามหลังเข้ามาชวนคุย“เมลิน หนูสังเกตไหมว่าช่วงนี้แถวบริเวณหน้าบ้านหนูมักจะมีรถยนต์มาจอดอยู่บ่อยๆ”“หนูไม่ได้สังเกตเลยค่ะน้า เขามาจอดรอใครหรือเปล่า”“น้าเองก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ หนูลองสังเกตดูหน่อยนะไม่รู้เป็นพวกโจรเป็นขโมยหรือเปล่า หนูอยู่บ้านคนเดียวด้วยมันอันตราย ถ้าเห็นท่าไม่ดียังไงก็โทรเรียกตำรวจให้มาช่วยดูก็ดีนะ”“ขอบคุณนะคะน้า หนูจะไปย้อนดูกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าบ้านดูค่ะ อยากจะรู้เหมือนกันว่าใครที่มาจอดรถรออยู่แบบนั้น”เมลินญาน์พูดคุยก
เพราะตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมาอัลเฟรโด้ทานอาหารไม่ตรงเวลาและมักจะดื่มเหล้าอยู่ตลอด วันนี้ชายหนุ่มก็เลยรู้สึกปวดท้องหลังเลิกงานเขาเลยแวะที่โรงพยาบาลเพื่อให้คุณหมอตรวจอาการหลังจากตรวจและรับยาแล้วอัลเฟรโด้ยาก็เดินมาที่ลานจอดรถและได้เจอกับหมออำนาจที่กำลังจะกลับบ้านพอดี“สวัสดีครับหมออำนาจ”“สวัสดีครับคุณอัลเฟรดไม่สบายเหรอครับ” คุณหมอถามเพราะเห็นถุงยาในมือของเขา“ปวดท้องนิดหน่อยครับคุณหมอก็เลยแวะมาตรวจ คุณหมอละ ครับสบายดีไหม” อัลเฟรโด้เจอกับคุณหมอครั้งสุดท้ายก็ในงานศพของคุณยายราตรีซึ่งมันผ่านมาสองเดือนแล้ว“ผมสบายดีครับ”“คุณหมอพอจะมีเวลาสักนิดไหมครับ” อัลเฟรโด้ถามอย่างเกรงใจ“คุณอัลเฟรดมีอะไรหรือเปล่าผม”“อยากจะถามอะไรหมอหน่อย”“ได้สิครับ เรานั่งคุยตรงมาหินอ่อนตรงนั้นก็ได้”“ครับ” แล้วอัลเฟรโด้ก็เดินตามคุณหมออำนาจมายังม้าหินอ่อนที่อยู่ใกล้กับลานจอดรถ“คุณอัลเฟรดมีอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ”“ผมอยากจะถามว่าทุกครั้งที่คุณยายมาตรวจกับคุณหมอ คุณยายให้คนอื่นเข้ามาในห้องด้วยหรือเปล่าครับ”“ไม่นะครับ คุณยายมักจะเข้ามาคนเดียวส่วนเมลินภรรยาของคุณก็รออยู่ข้างนอก มีอะไรหรือเปล่า”“ผมขอถามคุณหมอทุ
บทรักดำเนินต่อไปในห้องทำงานอีกพักใหญ่ก่อนที่อัลเฟรโด้จะอุ้มเมลินญาน์กลับมายังห้องนอน คืนนี้ทั้งสองต่างโรมรันพันตูกันอยู่บนเตียงอยู่นานก่อนที่หญิงสาวจะหมดแรงอยู่บนเตียงกว้างอัลเฟรโด้เอาผ้าเช็ดตัวชุบน้ำมาเช็ดคราบเหงื่อออกก่อนจะนอนกอดโดยไม่ได้มีคำพูดอะไรเมลินญาน์ซุกตัวเข้าหาอ้อมกอดอันอบอุ่นของเขาแล้วหลับตานิ่ง เธออยากจะเก็บความรู้สึกคืนนี้ไว้เป็นคนสุดท้ายและพรุ่งนี้เธอกับเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรกันอีกอัลเฟรโด้เองก็กอดกระชับเธอไว้แน่นเขากำลังสับสนว่าจากนี้จะเอายังไงต่อจะใช้ชีวิตกับเธอไปเรื่อยๆ หรือจะหย่าอย่างที่เธอพูด เขายังคงตัดสินใจไม่ได้ชายหนุ่มนอนใช้ความคิดจนกระทั่งเผลอหลับแล้วตื่นมาอีกครั้งในตอนเช้าเขารู้สึกใจหายเมื่อเช้านี้มันต่างจากทุกเช้าที่ผ่านมาเมื่อข้างกายของเขาไม่มีเมลินญาน์นอนอยู่ข้างๆอัลเฟรโด้รีบลุกขึ้นนุ่งผ้าเช็ดตัวแล้วเดินมายังห้องครัวเขาเห็นแค่ความว่างเปล่า ชายหนุ่มมองนาฬิกาเห็นว่ามันสายมากแล้วและคิดว่าวันนี้ที่เธอไม่ทำอาหารเช้าให้อาจจะเป็นเพราะเธอรีบไปเรียนและถ้าหากเย็นนี้เธอกลับมาที่คอนโดเขาจะลองเปิดใจคุยกับเธออีกครั้งอยากจะฟังเหตุผลจากเธออีกครั้งโดยไม่ใช้อารมณ์ตลอด







