Share

บทที่ 7

“ต้องซาวน้ำล้างเศษดินทิ้งก่อนหุงเจ้าค่ะ” เสียงเล็กๆ ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ในกระแสเสียงปะปนด้วยอารมณ์หวาดหวั่นของผู้เป็นเจ้าของ

เยว่อวิ๋นเลิกคิ้วเล็กน้อย ในใจบางอ้อขึ้นมาทันที ที่แท้เพราะนางยังไม่ได้ล้างข้าวก่อนนี่เอง สีของน้ำจึงมิต่างจากน้ำโคลนเช่นนี้ หญิงสาวหันไปยิ้มให้เจ้าตัวน้อยที่แอบอยู่ด้านหลังพี่ชาย พลางยกหม้อออกไปล้างเมล็ดข้าวตามคำบอก โดยไม่มีท่าทีเหนียมอายต่อการกระทำผิดพลาดของตนเลยแม้แต่น้อย

เสี่ยวอวี้หลบอยู่ด้านหลังพี่ชายฝาแฝด คำพูดที่หลุดออกไปเมื่อครู่ทำให้นางเกิดอาการตื่นตระหนก คิดถึงยามอาหญิงเล็กที่ชอบหยิกตีตนยามไม่พอใจ เด็กหญิงก็ยิ่งหวาดกลัวว่ามารดาคนใหม่อาจไม่ชอบคำพูดที่ตนเองกล่าวออกมา

ทว่ารอยยิ้มบางของเยว่อวิ๋นเมื่อครู่ ทำให้เด็กหญิงงงงันไปพักหนึ่ง ดวงตาคู่เล็กเบิกกว้างในแววตาผุดประกายวาดหวังบางอย่าง “พี่ชาย ท่านแม่คนใหม่… นางดูใจดีมากเลยเจ้าค่ะ”

ผู้เป็นพี่ฟังน้องสาวพูดพร้อมกับดึงชายเสื้อตนแล้วพูดไม่ออก น้องโง่เอ๋ย ผู้อื่นแค่ส่งยิ้มให้เล็กน้อย นางก็มอบป้ายคนดีให้อีกฝ่ายเสียแล้ว ช่าง…

ต้าเป่าแม้จะมีอายุแค่ห้าขวบ ทว่าฉลาดเฉลียวมีความคิดเกินเด็กวัยเดียวกัน ก่อนที่พ่อเฒ่าเซี่ยจะจากไป เขาเคยได้ร่ำเรียนเขียนอ่านกับท่านปู่มาก่อน จึงพอรู้จักคำพูดประโยคในตำรามาอยู่บ้าง เด็กชายรู้สึกว่าเวลานี้เขาสามารถนิยามลักษณะนิสัยน้องสาวฝาแฝดของตนเองได้เพียงประโยคนี้เท่านั้น

นั่นก็คือ คนโง่ใสซื่อไร้เดียงสาที่ถูกขายแล้วยังช่วยคนลงมือนับเงินอีกด้วย!

เสี่ยวอวี้ไม่ทันรู้เลยว่าถูกพี่ชายแปะป้ายคนโง่ใสซื่อให้แล้ว ดวงตาคู่เล็กมองตามด้านหลังของสตรีแปลกหน้าอย่างสนใจใคร่รู้ ก่อนที่ร่างเล็กจะวิ่งปรื๋อออกไปด้านหลังตามอีกฝ่าย

ต้าเป่าสบถเบาๆ ก้าวเท้าตามไปติดๆ ดูสิ เพียงแค่หันหลังน้องสาวโง่ก็ลืมคำเตือนของเขาเสียแล้ว

เสี่ยวอวี้ที่ถูกพี่ชายค่อนขอดไม่ได้รู้ตัวแม้แต่น้อย เด็กหญิงวิ่งมาหยุดด้านหลังมารดาเลี้ยงของตน จากนั้นจึงชะโงกมองภายในหม้อ เห็นว่าสีน้ำใสไร้ตะกอนดินศีรษะเล็กๆ ก็ผงกขึ้นลงอย่างพอใจ

แม้ไม่มีวาจา ทว่าเยว่อวิ๋นกลับเข้าใจความหมายของท่าทางเหล่านั้นได้ นึกไม่ถึงว่าจากแม่ทัพผู้บัญชาการรบ ยามนี้ตนจะตกต่ำจนเด็กน้อยก็ยังดูแคลนไม่เชื่อใจ คิดแล้วนางพลันรู้สึกทั้งฉิวทั้งขันบอกไม่ถูก

“หิวแล้วใช่หรือไม่ รอก่อนนะข้าวต้มยังต้องต้มอีกสักพักถึงจะสุก” มองเห็นดวงตากลมพราวระยับที่จับจ้องไปยังหม้อในมือนาง เยว่อวิ๋นเอ่ยบอกอย่างอดไม่ได้

เสี่ยวอวี้ฟังแล้วดวงตาเบิกกว้าง เด็กหญิงมองซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่าคำพูดเมื่อครู่นั้นกล่าวกับตัวเองจริงๆ

เมื่อครู่ที่บอกให้รอ แสดงว่าอีกฝ่ายคิดจะแบ่งอาหารให้นางด้วยใช่หรือไม่ คิดแล้วดวงหน้าเล็กก็เผยรอยยิ้มสดใสออกมาเต็มสีหน้า

“อื้ม เจ้าค่ะ”

เสียงเล็กๆ รับคำ ท่าทางเชื่อฟังรู้ความในขณะที่เจ้าตัวยังจ้องเขม็งไปยังหม้อ ท่าทางน่าเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก เยว่อวิ๋นใจอ่อนยวบจนอดเอื้อมมือไปลูบศีรษะเล็กไม่ได้

เส้นผมของเด็กน้อยทั้งเหนียวทั้งแข็งกระด้างไม่สบายมือเลยสักนิด เยว่อวิ๋นขมวดคิ้วบางๆ ทว่าไม่เอ่ยปากอะไร นางหันหลังก้าวเข้าครัว หลังจากวางหม้อลงบนเตา ก็เดินไปค้นของบนโต๊ะอีกครั้ง

ในบ้านไม่มีผักสด มีเพียงผักแห้งกับโหลผักดองที่ด้านในมีอยู่ไม่ถึงครึ่ง มือเรียวอุ้มโหลขึ้นมาถือ ก่อนจะฉวยเอาตะกร้าใส่ไข่ที่มีอยู่สิบกว่าใบติดมาด้วย

ผักสดไม่มีไม่เป็นไร ข้าวต้มกับผักดองก็พอเข้ากันอยู่ เพียงแต่ในบ้านมีเด็กน้อยวัยกำลังโตกับคนป่วยอยู่ คนผู้นั้นร่างกายย่ำแย่ทรุดโทรมนัก หากไม่บำรุงด้วยเนื้อหรือไข่ก็คงไม่เพียงพอให้ฟื้นตัวเป็นแน่

เห็นมารดาคนใหม่ยืนนิ่งไม่ขยับ เสี่ยวอวี้เริ่มวุ่นวายใจ แม้จะไม่คุ้นเคยกันมาก่อน ทว่ารอยยิ้มกับฝ่ามือที่ลูบศีรษะก็อบอุ่นเหลือประมาณ อีกทั้งอีกฝ่ายยังเอ่ยปากแล้วว่าจะแบ่งอาหารให้พวกตนด้วย

“ผะ…ผักสดต้องไปเก็บที่แปลงในลานด้านหลังบ้านใหญ่เจ้าค่ะ ทะ…ที่นี่แต่ก่อนเป็นกระท่อมสำหรับเก็บของเท่านั้น”

ใช่แล้ว เดิมทีพวกนางอาศัยอยู่ในบ้านสกุลเซี่ย แต่เป็นเพราะท่านพ่อแต่งมารดาใหม่เข้ามา ท่านย่าจึงจัดเตรียมกระท่อมแห่งนี้ให้พวกนางสามคนพ่อลูกย้ายมาอยู่ที่นี่แทน

เยว่อวิ๋นฟังแล้วพลันเข้าใจในทันที มิน่าเล่าเมื่อวานนางถึงรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง เหตุใดบ้านสกุลเซี่ยที่ใครต่างก็บอกว่าฐานะไม่เลว ถึงได้ดูยากไร้ถึงเพียงนี้ นั่นก็เพราะกระท่อมแห่งนี้ก็เป็นแค่ที่ทิ้งขว้างภาระของพวกเขาเท่านั้น

“ไม่เป็นไร มีผักดองกับไข่ไก่อยู่ พวกเรากินไปก่อนก็แล้วกัน” เยว่อวิ๋นกล่าวด้วยรอยยิ้ม ขณะที่มือก็ล้างไข่ไก่ไปด้วย

ยามนี้ฟ้าเริ่มสางแล้ว อีกสักพักคนบ้านเซี่ยก็คงมา หากไม่รีบกินให้อิ่มไว้ก่อนจะเอาแรงที่ไหนไปรับมือ เยว่อวิ๋นคิดพลางขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะนำไข่ไก่ในมือลงใส่ในหม้อข้าวต้มทันที

ห้า… หก… เจ็ด… แปด…

เสี่ยวอวี้เบิกตากว้าง นับจำนวนไข่ที่จมหายไปในหม้ออย่างตกใจ ไข่ไก่ถือเป็นของล้ำค่ามาก อยู่กับท่านย่านางและพี่ชายยังไม่เคยได้กิน ทว่ามารดาคนใหม่กลับใส่ลงไปถึงแปดฟอง ช่างมือเติบยิ่งนัก

ต้าเป่าที่เพิ่งขยับเข้ามาดูอ้าปากค้างไม่ต่างกัน ไข่ไก่ในบ้านเซี่ยมีไว้สำหรับอาสามกับอาหญิงเล็กเท่านั้น แม้แต่เซี่ยเสี่ยวเกอบุตรชายคนโตของท่านลุงใหญ่บางวันก็ยังไม่มีให้กินด้วยซ้ำ ทว่าสตรีตรงหน้ากลับนำมาต้มในคราวเดียวถึงแปดฟอง

ฟุ่มเฟือย! นี่มันฟุ่มเฟือยเกินไปแล้ว!

เยว่อวิ๋นไหนเลยจะเข้าใจถึงเรื่องราวเหล่านี้ ชีวิตก่อนนางคือท่านหญิงแห่งวังอ๋อง ต่อให้มีชีวิตเป็นเพียงเม็ดหมากในมือบิดา ทว่าด้านอาหารการกินที่เพียงต้องใช้เงินมีหรือจะขาดตกบกพร่อง กระทั่งเข้าสู่กองทัพในยามที่เดินทางไร้เสบียง บนโต๊ะอาหารของนางก็มิเคยขาดแคลนจานเนื้อสักมื้อ

ไม่สิ อย่าว่าแต่จะไม่มีให้กินเลย แต่ละมื้อของนางยังไม่เคยจำเจด้วยซ้ำ หากไม่มีเนื้อหมูป่าก็มักเป็นกวาง ไม่มีไก่ป่าก็เป็นนกหรือปลา และเบื้องหลังความเพียบพร้อมพวกนี้ ทุกอย่างล้วนเป็นความชอบของคนผู้นั้นทั้งสิ้น

เนื่องจากความคิดถูกดึงล่องลอยไปกับอดีต เยว่อวิ๋นจึงไม่ทันสังเกตสีหน้าสองพี่น้อง ทำให้นางพลาดสีหน้าหนักอกหนักใจของเจ้าตัวน้อยทั้งสองไป
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 8

    “เด็กน้อย เจ้าดูไฟเป็นหรือไม่” หญิงสาวถามเบาๆเสี่ยวอวี้ประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนจะพยักใบหน้ารัวๆ ประดุจไก่จิกข้าวสาร“เป็นเจ้าค่ะ ตั้งแต่เสี่ยวอวี้สี่ขวบก็มีหน้าที่คอยจุดไฟให้ท่านป้าใหญ่อยู่แล้ว” เด็กหญิงบอกน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว ขณะทรุดลงนั่งยองๆ หน้าเตาไฟเยว่อวิ๋นหรี่นัยน์ตามองร่างเล็กตรงหน้าอย่างพินิจ

    Last Updated : 2025-04-02
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 9

    ในความคิดของเยว่อวิ๋น เด็กน้อยอายุไม่กี่ขวบเหล่านี้ หากถูกเลี้ยงดูดีๆ มีใครบ้างที่ไม่ขาวอวบนุ่มนิ่มดังเช่นซาลาเปาทว่าน่าเสียดายนัก ลูกเลี้ยงของนางทั้งสองคนกลับเป็นได้แค่หัวไชเท้าน้อยเปื้อนโคลน พวกเขาไม่เพียงมีร่างกายที่ผ่ายผอมแคระแกร็น ทั้งยังเต็มไปด้วยริ้วรอยบาดแผลฟกช้ำตามเนื้อตัวชนิดไม่มีที่ว่าง

    Last Updated : 2025-04-02
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 10

    เยว่อวิ๋นนั้นไม่รู้ตัวเลยว่าเจ้าหัวไชเท้าน้อยที่นางกำลังคิดเลี้ยงดูนั้น กำลังวางแผนที่จะเลี้ยงดูนางในอนาคตเช่นกันเนื่องจากฟ้าด้านนอกยังสว่างไม่มากนัก ภายในห้องมีเพียงเแสงสว่างสลัวๆ เมื่อรวมกับกลิ่นอับชื้นอากาศจึงไม่น่าพิสมัยนัก เยว่อวิ๋นพลันขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะถือชามข้าวต้มเดินเข้าในห้องคนบนเตียงยั

    Last Updated : 2025-04-03
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 11

    รอยยิ้มกลบเกลื่อนของเยว่อวิ๋นไม่นับว่าแนบเนียน แต่ตัวเซี่ยฉงอวิ๋นเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน ทั้งคู่จึงไม่ทันมองออกถึงความในใจที่ต่างคนก็ต่างซ่อนเก็บไว้“นี่มันอะไรกัน ทำไมข้าวสารกับไข่ถึงได้เหลือแค่นี้!”เสียงร้องตะโกนดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ เยว่อวิ๋นราวกับได้ย้อนไปวันแรกที่นางฟื้นมาในร่างนี้แล้วมียายแ

    Last Updated : 2025-04-04
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 12

    นี่ใช่นางเด็กบ้านเยว่ที่ตนเคยเจอจริงน่ะหรือแม่เฒ่าเซี่ยเบิกตากว้างมองคนตรงหน้า อีกฝ่ายไม่เหมือนเดิมเลยแม้แต่น้อย คำพูดที่ฉาดฉานแสดงออกถึงความมั่นใจ การกระทำท่าทางทุกอย่างล้วนสง่างาม แฝงด้วยไปกลิ่นอายข่มขวัญกดดันผู้คน แม้แต่ฮูหยินนายอำเภอที่นางเคยได้เห็นไกลๆ ก็ยังไม่อาจเทียบได้“เจ้าต้องการอะไร” แม่

    Last Updated : 2025-04-04
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 13

    เยว่อวิ๋นมองตามหลังแม่สามีที่เดินจากไปจนลับตา จึงไม่พลาดสีหน้าท่าทางทั้งหมดของอีกฝ่าย ทว่านางไม่คิดแยแสแต่อย่างใด คนอย่างแม่เฒ่าเซี่ยยิ่งอ่อนข้อให้ก็มีแต่จะยิ่งได้ใจเท่านั้นร่างบางหันหลังเดินกลับมุ่งหน้าไปยังห้องนอนที่สามพ่อลูกอยู่ หากรอพวกเขาจนปรึกษากันเสร็จ เงินนี่คงถูกเรียกร้องขอคืนเป็นแน่ เพราะ

    Last Updated : 2025-04-04
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 14

    เยว่อวิ๋นไม่ล่วงรู้ถึงความสงสัยของเซี่ยฉงอวิ๋นเลยแม้แต่น้อยและแน่นอนว่าถึงรู้นางก็ไม่ใส่ใจอยู่ดี ชีวิตก่อนนางเป็นแม่ทัพนำทหารออกรบ พอจบศึกก็เป็นหมอรักษาผู้ใต้บังคับบัญชา ได้เห็นร่างกายบุรุษมานับไม่ถ้วน สูงต่ำดำขาวแบบใดก็ล้วนมีทั้งสิ้นผู้เป็นหมอต้องมีใจเมตตา รักษาคนไม่แบ่งแยกชายหญิง ยิ่งไม่ต้องพูดถ

    Last Updated : 2025-04-04
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 15

    ถึงจะคิดว่าอีกฝ่ายจะดูแปลกๆ แต่ในใจหมอจางก็มีความรู้สึกดีให้เยว่อวิ๋นมากว่าพวกแม่เฒ่าเซี่ยมากนัก เขากวาดสายตามองเซี่ยฉงอวิ๋นที่อยู่บนเตียง แล้วพยักหน้าพึงพอใจ แม้เสื้อผ้าจะดูเก่าซีดใบหน้ามีหนวดเครารุงรัง ทว่าเนื้อตัวสะอาดสะอ้านไม่มีกลิ่นเหม็น สภาพดูดีกว่าครั้งก่อนที่ได้เห็นนับว่าไม่เลวเลย“ตกลง ไม่ต

    Last Updated : 2025-04-04

Latest chapter

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 142

    เรื่องอะไรนางต้องลำบากลำบนเป็นหนี้เพื่อซื้อผู้หญิงให้สามีตัวเองด้วย!“เยว่ซื่อเจ้าอย่าได้ทำเกินไปนักนะ คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงมาเจ้ากี้เจ้าการเรื่องครอบครัวข้า แค่สามีข้ารู้จักสวีเหยาเจ้าก็คิดจะยัดเยียดคนเข้ามาแล้วรึ เจ้านี่มันไร้เหตุผลสิ้นดี”“เจ้าเองก็รู้นี่ ว่าเรื่องแบบนี้มันไร้เหตุผล แล้วทีเจ้าลา

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 141

    เซี่ยเหล่าซานมีหรือจะไม่รู้นิสัยลูกสะใภ้ตัวเอง นางสงสารสวีเหยาจริงเสียที่ไหนกัน ก็แค่อยากสร้างความลำบากใจให้ผู้อื่นเท่านั้นแหละ“สะใภ้รองเจ้าว่างมากนักหรือไง ถ้าไม่มีอะไรทำก็กลับเข้าบ้านไปเสีย อย่ามาอยู่ตรงนี้ให้คนเขาระอาเลย” อยู่ต่อหน้าเยว่อวิ๋นเซี่ยเหล่าซานไม่สะดวกจะสั่งสอนลูกสะใภ้ จึงได้แต่ถลึงตา

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 140

    พอรู้ว่าคนไปแล้วนางเจียงจึงขมวดคิ้ว บ่นสามีที่ไม่รู้ความเบาๆ “ดูเจ้าสิ อายุปูนนี้แล้วยังคิดไม่ได้ เยว่ซื่อมอบของตอบแทนที่เจ้าช่วยเหลือ เจ้าก็ไม่คิดอะไรแบมือรับอย่างเดียวหรือ”ผู้ใหญ่บ้านฟังแล้วหน้าแดง รู้สึกว่าตนบกพร่องมารยาทไปจริงๆ เจียงซื่อเห็นเขาคิดได้ก็ไม่พูดต่อ นางเพียงส่งผักที่กอดไว้ให้อีกฝ่าย

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 139

    อีกด้าน เยว่อวิ๋นจัดการแบ่งใบชาที่ซื้อมาใส่ห่อพร้อมขนมกุ้ยฮวาที่ซื้อมาอีกหนึ่งกล่อง เตรียมของเสร็จนางก็กำชับต้าเป่ากับเสี่ยวอวี้ให้คอยดูคนป่วยสองคนด้านใน จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังบ้านผู้ใหญ่บ้านบ้านของผู้ใหญ่อยู่ห่างจากบ้านของเยว่อวิ๋นพอประมานใช้เวลาเดินเกือบๆ หนึ่งเค่อ เยว่อวิ๋นเดินไปตามทางอย่างไม่ร

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 138

    พอเยว่อวิ๋นจากไปในห้องก็พลันเงียบงันชั่วขณะ เซี่ยฉงอวิ๋นที่เมื่อครู่ต่อล้อต่อเถียงก็เอาแต่จ้องมองใบหน้าหลีจวินไม่กล่าววาจา เห็นอย่างนั้นหลีจวินก็ใจแป้วขึ้นมาทันที“เจ้ามองข้าแบบนั้นทำไม ขะ... ข้าเป็นลูกค้าบ้านเจ้านะ” หลายวันมานี้เขาถูกคนตรงหน้ากลั่นแกล้งจนหัวหมุนขยาดไปหมดแล้ว“แล้วอย่างไร เจ้ายังไม่

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 137

    เรื่องราวของสวีเหยาถูกโจษจันไปทั่วหมู่บ้าน หญิงสาวยังไม่แต่งงานคนหนึ่ง กลับวิ่งไปหาบุรุษที่มีภรรยาอยู่แล้วเพื่อขอเป็นอนุ นี่ช่างเป็นเรื่องตลกร้ายที่น่าอับอายอย่างแท้จริงพริบตาที่เรื่องนี้แพร่ออกไป ไม่เพียงครอบครัวสวีที่กลายเป็นตัวตลก แต่บ้านจ้าวเองก็หนีไม่พ้นเช่นกันป้าจ้าวที่เคยเดินเชิดหน้านินทาคน

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 136

    ทว่าสวีเหยากลับไม่ได้ทำอะไรเยว่อวิ๋นอย่างที่ทุกคนคาดเดา นางเพียงพุ่งไปคุกเข่าเบื้องหน้าเยว่อวิ๋น ก่อนจะก้มลงโขกศีรษะให้ฝ่ายหลังสุดแรง“เยว่อวิ๋น ขอร้องเจ้าแล้ว ยอมให้ข้าเป็นอนุของพี่ชายอวิ๋นเถอะ ขอแค่เจ้ายอมรับปาก ข้าสาบานจะปรนนิบัติรับใช้เจ้ากับพี่ชายอวิ๋นจนชีวิตหาไม่”สวีเหยาพร่ำขอร้องไปพลางโขกศีร

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 135

    อีกด้าน เยว่อวิ๋นกำลังฝังเข็มให้เซี่ยฉงอวิ๋นอยู่เช่นกัน ทว่าฝั่งนี้กลับดูสบายกว่าทางหลีจวินอย่างเห็นได้ชัด“หลีจวินนี่เด็กจริงๆ เขาแกล้งเอะอะใส่หมอจางทุกครั้งแบบนี้สนุกนักหรือไง” เยว่อวิ๋นฟังเสียงร้องโหยหวน พลางขมวดคิ้วบ่นเบาๆถึงอย่างไรหมอจางก็เป็นลูกศิษย์นาง เจ้าหนุ่มนั่นไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโสเอา

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 134

    ได้ยินอีกฝ่ายสาธยายความผิดของฟางฮัวทีละข้อชัดถ้อยชัดคำ เยว่อวิ๋นได้แต่นิ่งเงียบพูดไม่ออก นี่เขาพิการออกไปไหนไม่ได้จริงหรือส่วนฟางฮัวผู้นี้คงรังเกียจว่าชีวิตตนสงบสุขเกินไปสินะ ถึงได้พยายามรนหาที่ซะเหลือเกินเซี่ยฉงอวิ๋นเห็นภรรยาไม่คิดจะพูดแทนฟางฮัวอีกก็พอใจอย่างมาก เขาเอื้อมมือดึงคนเข้ามากอดขณะเอ่ยเ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status