Share

บทที่ 7

last update Последнее обновление: 2025-04-02 07:02:31

“ต้องซาวน้ำล้างเศษดินทิ้งก่อนหุงเจ้าค่ะ” เสียงเล็กๆ ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ในกระแสเสียงปะปนด้วยอารมณ์หวาดหวั่นของผู้เป็นเจ้าของ

เยว่อวิ๋นเลิกคิ้วเล็กน้อย ในใจบางอ้อขึ้นมาทันที ที่แท้เพราะนางยังไม่ได้ล้างข้าวก่อนนี่เอง สีของน้ำจึงมิต่างจากน้ำโคลนเช่นนี้ หญิงสาวหันไปยิ้มให้เจ้าตัวน้อยที่แอบอยู่ด้านหลังพี่ชาย พลางยกหม้อออกไปล้างเมล็ดข้าวตามคำบอก โดยไม่มีท่าทีเหนียมอายต่อการกระทำผิดพลาดของตนเลยแม้แต่น้อย

เสี่ยวอวี้หลบอยู่ด้านหลังพี่ชายฝาแฝด คำพูดที่หลุดออกไปเมื่อครู่ทำให้นางเกิดอาการตื่นตระหนก คิดถึงยามอาหญิงเล็กที่ชอบหยิกตีตนยามไม่พอใจ เด็กหญิงก็ยิ่งหวาดกลัวว่ามารดาคนใหม่อาจไม่ชอบคำพูดที่ตนเองกล่าวออกมา

ทว่ารอยยิ้มบางของเยว่อวิ๋นเมื่อครู่ ทำให้เด็กหญิงงงงันไปพักหนึ่ง ดวงตาคู่เล็กเบิกกว้างในแววตาผุดประกายวาดหวังบางอย่าง “พี่ชาย ท่านแม่คนใหม่… นางดูใจดีมากเลยเจ้าค่ะ”

ผู้เป็นพี่ฟังน้องสาวพูดพร้อมกับดึงชายเสื้อตนแล้วพูดไม่ออก น้องโง่เอ๋ย ผู้อื่นแค่ส่งยิ้มให้เล็กน้อย นางก็มอบป้ายคนดีให้อีกฝ่ายเสียแล้ว ช่าง…

ต้าเป่าแม้จะมีอายุแค่ห้าขวบ ทว่าฉลาดเฉลียวมีความคิดเกินเด็กวัยเดียวกัน ก่อนที่พ่อเฒ่าเซี่ยจะจากไป เขาเคยได้ร่ำเรียนเขียนอ่านกับท่านปู่มาก่อน จึงพอรู้จักคำพูดประโยคในตำรามาอยู่บ้าง เด็กชายรู้สึกว่าเวลานี้เขาสามารถนิยามลักษณะนิสัยน้องสาวฝาแฝดของตนเองได้เพียงประโยคนี้เท่านั้น

นั่นก็คือ คนโง่ใสซื่อไร้เดียงสาที่ถูกขายแล้วยังช่วยคนลงมือนับเงินอีกด้วย!

เสี่ยวอวี้ไม่ทันรู้เลยว่าถูกพี่ชายแปะป้ายคนโง่ใสซื่อให้แล้ว ดวงตาคู่เล็กมองตามด้านหลังของสตรีแปลกหน้าอย่างสนใจใคร่รู้ ก่อนที่ร่างเล็กจะวิ่งปรื๋อออกไปด้านหลังตามอีกฝ่าย

ต้าเป่าสบถเบาๆ ก้าวเท้าตามไปติดๆ ดูสิ เพียงแค่หันหลังน้องสาวโง่ก็ลืมคำเตือนของเขาเสียแล้ว

เสี่ยวอวี้ที่ถูกพี่ชายค่อนขอดไม่ได้รู้ตัวแม้แต่น้อย เด็กหญิงวิ่งมาหยุดด้านหลังมารดาเลี้ยงของตน จากนั้นจึงชะโงกมองภายในหม้อ เห็นว่าสีน้ำใสไร้ตะกอนดินศีรษะเล็กๆ ก็ผงกขึ้นลงอย่างพอใจ

แม้ไม่มีวาจา ทว่าเยว่อวิ๋นกลับเข้าใจความหมายของท่าทางเหล่านั้นได้ นึกไม่ถึงว่าจากแม่ทัพผู้บัญชาการรบ ยามนี้ตนจะตกต่ำจนเด็กน้อยก็ยังดูแคลนไม่เชื่อใจ คิดแล้วนางพลันรู้สึกทั้งฉิวทั้งขันบอกไม่ถูก

“หิวแล้วใช่หรือไม่ รอก่อนนะข้าวต้มยังต้องต้มอีกสักพักถึงจะสุก” มองเห็นดวงตากลมพราวระยับที่จับจ้องไปยังหม้อในมือนาง เยว่อวิ๋นเอ่ยบอกอย่างอดไม่ได้

เสี่ยวอวี้ฟังแล้วดวงตาเบิกกว้าง เด็กหญิงมองซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่าคำพูดเมื่อครู่นั้นกล่าวกับตัวเองจริงๆ

เมื่อครู่ที่บอกให้รอ แสดงว่าอีกฝ่ายคิดจะแบ่งอาหารให้นางด้วยใช่หรือไม่ คิดแล้วดวงหน้าเล็กก็เผยรอยยิ้มสดใสออกมาเต็มสีหน้า

“อื้ม เจ้าค่ะ”

เสียงเล็กๆ รับคำ ท่าทางเชื่อฟังรู้ความในขณะที่เจ้าตัวยังจ้องเขม็งไปยังหม้อ ท่าทางน่าเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก เยว่อวิ๋นใจอ่อนยวบจนอดเอื้อมมือไปลูบศีรษะเล็กไม่ได้

เส้นผมของเด็กน้อยทั้งเหนียวทั้งแข็งกระด้างไม่สบายมือเลยสักนิด เยว่อวิ๋นขมวดคิ้วบางๆ ทว่าไม่เอ่ยปากอะไร นางหันหลังก้าวเข้าครัว หลังจากวางหม้อลงบนเตา ก็เดินไปค้นของบนโต๊ะอีกครั้ง

ในบ้านไม่มีผักสด มีเพียงผักแห้งกับโหลผักดองที่ด้านในมีอยู่ไม่ถึงครึ่ง มือเรียวอุ้มโหลขึ้นมาถือ ก่อนจะฉวยเอาตะกร้าใส่ไข่ที่มีอยู่สิบกว่าใบติดมาด้วย

ผักสดไม่มีไม่เป็นไร ข้าวต้มกับผักดองก็พอเข้ากันอยู่ เพียงแต่ในบ้านมีเด็กน้อยวัยกำลังโตกับคนป่วยอยู่ คนผู้นั้นร่างกายย่ำแย่ทรุดโทรมนัก หากไม่บำรุงด้วยเนื้อหรือไข่ก็คงไม่เพียงพอให้ฟื้นตัวเป็นแน่

เห็นมารดาคนใหม่ยืนนิ่งไม่ขยับ เสี่ยวอวี้เริ่มวุ่นวายใจ แม้จะไม่คุ้นเคยกันมาก่อน ทว่ารอยยิ้มกับฝ่ามือที่ลูบศีรษะก็อบอุ่นเหลือประมาณ อีกทั้งอีกฝ่ายยังเอ่ยปากแล้วว่าจะแบ่งอาหารให้พวกตนด้วย

“ผะ…ผักสดต้องไปเก็บที่แปลงในลานด้านหลังบ้านใหญ่เจ้าค่ะ ทะ…ที่นี่แต่ก่อนเป็นกระท่อมสำหรับเก็บของเท่านั้น”

ใช่แล้ว เดิมทีพวกนางอาศัยอยู่ในบ้านสกุลเซี่ย แต่เป็นเพราะท่านพ่อแต่งมารดาใหม่เข้ามา ท่านย่าจึงจัดเตรียมกระท่อมแห่งนี้ให้พวกนางสามคนพ่อลูกย้ายมาอยู่ที่นี่แทน

เยว่อวิ๋นฟังแล้วพลันเข้าใจในทันที มิน่าเล่าเมื่อวานนางถึงรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง เหตุใดบ้านสกุลเซี่ยที่ใครต่างก็บอกว่าฐานะไม่เลว ถึงได้ดูยากไร้ถึงเพียงนี้ นั่นก็เพราะกระท่อมแห่งนี้ก็เป็นแค่ที่ทิ้งขว้างภาระของพวกเขาเท่านั้น

“ไม่เป็นไร มีผักดองกับไข่ไก่อยู่ พวกเรากินไปก่อนก็แล้วกัน” เยว่อวิ๋นกล่าวด้วยรอยยิ้ม ขณะที่มือก็ล้างไข่ไก่ไปด้วย

ยามนี้ฟ้าเริ่มสางแล้ว อีกสักพักคนบ้านเซี่ยก็คงมา หากไม่รีบกินให้อิ่มไว้ก่อนจะเอาแรงที่ไหนไปรับมือ เยว่อวิ๋นคิดพลางขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะนำไข่ไก่ในมือลงใส่ในหม้อข้าวต้มทันที

ห้า… หก… เจ็ด… แปด…

เสี่ยวอวี้เบิกตากว้าง นับจำนวนไข่ที่จมหายไปในหม้ออย่างตกใจ ไข่ไก่ถือเป็นของล้ำค่ามาก อยู่กับท่านย่านางและพี่ชายยังไม่เคยได้กิน ทว่ามารดาคนใหม่กลับใส่ลงไปถึงแปดฟอง ช่างมือเติบยิ่งนัก

ต้าเป่าที่เพิ่งขยับเข้ามาดูอ้าปากค้างไม่ต่างกัน ไข่ไก่ในบ้านเซี่ยมีไว้สำหรับอาสามกับอาหญิงเล็กเท่านั้น แม้แต่เซี่ยเสี่ยวเกอบุตรชายคนโตของท่านลุงใหญ่บางวันก็ยังไม่มีให้กินด้วยซ้ำ ทว่าสตรีตรงหน้ากลับนำมาต้มในคราวเดียวถึงแปดฟอง

ฟุ่มเฟือย! นี่มันฟุ่มเฟือยเกินไปแล้ว!

เยว่อวิ๋นไหนเลยจะเข้าใจถึงเรื่องราวเหล่านี้ ชีวิตก่อนนางคือท่านหญิงแห่งวังอ๋อง ต่อให้มีชีวิตเป็นเพียงเม็ดหมากในมือบิดา ทว่าด้านอาหารการกินที่เพียงต้องใช้เงินมีหรือจะขาดตกบกพร่อง กระทั่งเข้าสู่กองทัพในยามที่เดินทางไร้เสบียง บนโต๊ะอาหารของนางก็มิเคยขาดแคลนจานเนื้อสักมื้อ

ไม่สิ อย่าว่าแต่จะไม่มีให้กินเลย แต่ละมื้อของนางยังไม่เคยจำเจด้วยซ้ำ หากไม่มีเนื้อหมูป่าก็มักเป็นกวาง ไม่มีไก่ป่าก็เป็นนกหรือปลา และเบื้องหลังความเพียบพร้อมพวกนี้ ทุกอย่างล้วนเป็นความชอบของคนผู้นั้นทั้งสิ้น

เนื่องจากความคิดถูกดึงล่องลอยไปกับอดีต เยว่อวิ๋นจึงไม่ทันสังเกตสีหน้าสองพี่น้อง ทำให้นางพลาดสีหน้าหนักอกหนักใจของเจ้าตัวน้อยทั้งสองไป
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 371

    “น้องรองเจ้าพูดเกินไปแล้ว ที่เหว่ยเอ๋อร์บาดเจ็บเช่นนี้ก็เพราะทำตามคำสั่งของท่านพ่อ เจ้าไม่รู้จริงๆ หรือจงใจคิดบิดเบือนเรื่ิงราวกัน”“นี่… นี่” สวีหย่วนพูดไม่ออก เขาย่อมรู้อยู่แล้วว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะคำสั่งของบิดา แต่จะให้เขากล่าวโทษท่านพ่อมันมันก็ไม่ได้ใช่ไหมเล่า อีกทั้งนี่ยังเป็นครั้งแรกที

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 370

    “ฉงเอ๋อร์มาแล้วหรือ มานั่งก่อนสิ” ถึงจะโตมาเป็นบุรุษหน้าเหม็นเหมือนบิดา แต่อย่างไรก็เป็นบุตรชายตน มู่หรงเซียนย่อมไม่ละเลยเซี่ยฉงอวิ๋น รอจนอีกฝ่ายมานั่งข้างเยว่อวิ๋น ฉิงฮวนที่รู้ใจผู้เป็นนายก็ยกน้ำและของว่างที่เตรียมไว้ออกมามู่หรงเซียนชักชวนให้บุตรชายรับของว่างรองท้อง ก่อนจะหันไปชวนสะใภ้ของตนสนทนาต่

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 369

    การเริ่มต้นทักทาย…ทักทายผู้ใดกันเล่า!หลีจวินขบคิดอยู่นาน หลังจากพบว่าตนเองไม่สามารถเข้าใจคำพูดที่เซี่ยฉงอวิ๋นเอ่ยออกมาเลย เด็กหนุ่มก็ปล่อยวางพลางกล่าวน้ำเสียงอ่อนลง“ช่างเถอะ แค่ท่านไม่เสียเปรียบก็พอแล้ว”ฟังมาถึงตอนนี้มุมของสือจิ่วที่ฟังอยู่เงียบๆ พลันกระตุกถี่รัวอย่างควบคุมไม่อยู่ องครักษ์มองหน้

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 368

    เพียงแต่… สวีจ้าวเหว่ยนั้นไม่รู้เลยว่าต่อให้เป็นตัวเขาไปเอง ก็ยังไม่อาจปกปิดความต้องการของตัวเองต่อหน้าเซี่ยฉงอวิ๋นได้เลย“ข้าบอกแล้วนี่ สองแสนตำลึงถ้วน ขาดแม้แต่อีแปะเดียวก็เลิกพูดกันไปได้เลย” เซี่ยฉงอวิ๋นที่รอคอยตอบกลับด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ในกระแสเสียงเจือแววบังคับเผด็จการอย่างผู้เหนือกว่าอยู่ในที

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 367

    “ท่านคือเถ้าแก่ร้านซินเยว่ เจ้านายของเซี่ยเฉิงจริงหรือ” บุรุษวัยกลางคนถาม ใบหน้าปกปิดไม่มิดถึงความแปลกใจ ไม่คิดว่าเจ้านายกับลูกน้องคู่นี้จะอายุน้อยเพียงนี้ ทำเอาคนคาดไม่ถึงจริงๆ“ข้าคือเซี่ยฉงอวิ๋น ทำไมพวกเจ้าถึงผิดนัดหมายเมื่อวาน ควรให้คำอธิบายเรื่องนี้แก่ข้ามากกว่าหรือไม่” เซี่ยฉงอวิ๋นตอบคำถาม ก่อ

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 366

    แน่นอนว่าความคิดนี้ของเซี่ยฉงอวิ๋น ผู้เป็นภรรยาของเขานั้นไม่ได้รับรู้ด้วยเลยแม้แต่น้อย กว่าที่เยว่อวิ๋นจะลืมตาตื่นจากความอ่อนเพลียและฤทธิ์ยา ก็พบว่าในบ้านว่างเปล่าเหลือเพียงแค่ตนเองกับแม่สามีสองคนเสียแล้ว“หลีจวินไม่ได้ไปสำนักศึกษากับพวกต้าเป่า แต่ถูกคุณชายใหญ่พาออกไปอย่างนั้นหรือ” เยว่อวิ๋นทวนคำของ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status