เข้าสู่ระบบ“ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้นก็ได้ พี่เองก็ยังไม่ง่วงอะไร”
“ขนมไหมคะพี่ตรัย” พราวมุกบริการชายหนุ่มเต็มที่ ซาบซึ้งที่เขามาอยู่เป็นเพื่อน
“พี่ไม่ชอบกินของหวานครับ นี่ก็ดึกแล้ว กินขนมแล้วหนักท้อง”
“กลัวอ้วนเหรอคะ” เธอหัวเราะเสียงน่ารัก
“เปล่าครับ ถ้าพราวอยากกินก็ตามสบายนะ”
“พราวก็ไม่กินเหมือนกันค่ะ โกโก้แก้วนี้ก็รู้สึกผิดแล้วค่ะ ตอนนี้กำลังลดน้ำหนักอยู่”
“ความจริงพราวไม่ได้อ้วนมากนะครับ พี่ว่าขนาดนี้ก็โอเคแล้ว มีน้ำมีนวลดี ผอมมากกว่านี้กอดทีเจอแต่กระดูก” เขาพูดแล้วหัวเราะเบาๆ อย่างอารมณ์ดี
“ผู้หญิงเค้าไม่อยากให้ตัวเองอ้วนกันหรอกนะคะ”
“ออกกำลังเป็นประจำสิครับ มันจะได้กระชับ แล้วกินอาหารให้ครบหมู่ พี่ว่าแค่นี้ก็โอเคแล้วนะ ถ้าผอมแล้วป่วยหรืออ้วนแล้วป่วยก็ไม่ไหวนะ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และก็ออกกำลังกาย พี่ว่าดีที่สุด” เขาแนะอย่างมีเหตุมีผล
“พราวออกกำลังกายอยู่นะคะ แต่บางทีก็ขี้เกียจ ว้าย!!! พี่ตรัยเสียงหมาหอนอีกแล้ว” พูดกันอยู่ดีๆ พราวมุกก็ผวา เผลอกระโดด แทบขึ้นไปนั่งเกยอยู่บนตักของตรัย ชายหนุ่มยิ้มเอ็นดู ไม่ได้ว่าอะไร แต่โอบกอดเอวคอดองเธอเอาไว้ นานๆ เขาจะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับเธอแบบนี้เสียที
“รู้ไหม... เค้าว่าหมามันหอนเพราะมันเห็นผีนะครับ” เขายังพูดต่อ ถ้าเธอกลัวแล้วอยู่บนตักของเขาแบบนี้นานๆ ก็ดีสิ
“พี่ตรัย ไม่เอาไม่พูด พราวยิ่ง กลัวๆ อยู่” พราวมุกซุกหน้าเข้าหาอกกว้างของตรัยด้วยความลืมตัว จำได้ว่าเวลาตัวเองเป็นแบบนี้ มักจะซุกเข้าหาอกพี่ชาย จนลืมไปว่าคนที่เธอกอดอยู่ไม่ใช่พี่ชายตัวเอง ตรัยยิ้มกว้างอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แผนการของเขาได้ผลดีเกินคาด
“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ” เธอทำท่าจะปีนลงจากตักเขาเมื่อได้สติ แต่โดนกอดเอาไว้แน่นขึ้น นึกอายที่เผลอกระโดดขึ้นมานั่งบนตักของเขา เพราะเผลอคิดว่าเขาเป็นพี่ชายของเธอไปเสียได้
“ถ้ากลัวก็กอดพี่ได้นะ ไม่ต้องเกรงใจ ไม่ต้องรีบไปไหนหรอกครับ พี่ยินดีให้กอด อยู่กันแบบนี้ก็อุ่นดี” กายหอมของเธอ ผิวนุ่มของเธอ ทำให้เขาอยากกอดแบบนี้ไปนานๆ ไม่อยากปล่อยให้เธอผละไปได้ง่ายๆ
“เอ่อ... ปล่อยพราวเถอะค่ะ พราวไม่ค่อยกลัวแล้วค่ะ” เธอพูดอย่างอายๆ ก้มหน้างุด หัวใจเต้นแรงไปหมด ไหนบอกตัวเองว่าไม่ได้คิดอะไรกับตรัยยังไงเล่า แล้วทำไมพอโดนเขากอดแบบนี้ถึงได้หัวใจเต้นแรงนักนะ
...หรือเป็นเพราะว่าเธอไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายคนไหนมาก่อนเนื่องจากพี่ชายหวง เธอจึงได้รู้สึกใจเต้นแรงแบบนี้ ขณะอยู่ในอ้อมแขนของตรัย
ตรัยยอมปล่อยร่างน้อยแต่โดยดี นึกเสียดายอยู่ลึกๆ แต่เขายังมีโอกาสใกล้ชิดเธออีกมาก พราวมุกเลื่อนตัวเองไปนั่งที่โซฟาอีกด้าน เธอตาสว่างจนหายง่วงเป็นปลิดทิ้งพอได้พูดคุยกับตรัย และดื่มโกโก้ร้อนด้วยกัน แต่พอนั่งคุยกันไปสักพัก เธอก็เริ่มตาปรือ กลับมาง่วงอีกรอบ เพราะวันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน รู้สึกอยากคลานขึ้นเตียงและหลับเต็มที
ตรัยนั่งกอดอกมองร่างน้อยของคนที่พยายามถ่างตาบอกเขาว่าไม่ง่วงแล้วอมยิ้ม ร่างสูงค่อยๆ ตวัดอุ้มร่างคนที่หลับปุ๋ยไปแล้วขึ้นสู่อ้อมแขน ก่อนจะพาขึ้นไปนอนบนห้องนอนของเธอเอง
เขาค่อยๆ วางร่างเธอลงบนเตียง แล้วห่มผ้าให้อย่างอ่อนโยน ริมฝีปากหนาประทับจุมพิตลงบนหน้าผากนูนเกลี้ยง นั่งมองเธอด้วยสายตาอ่อนโยนแสนรักใคร่
มือหนาลูบไล้เรือนผมสลวยของเธอเบาๆ เขามีความสุขที่ได้นั่งมอง เจ้าหญิงน้อยๆ ของตัวเองนอนหลับฝันหวานแบบนี้ อยากนั่งมองเธออยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน มันเป็นความสุขเล็กๆ
แค่ได้มอง แค่เห็นหน้า แค่เห็นรอยยิ้ม ได้ยินเสียงพูด เขาไม่ได้ต้องการอะไรมาก ขอแค่นี้จริงๆ เขาเป็นสุขกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต เมื่อมีพราวมุกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งอยู่เสมอๆ ไม่ว่าเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
“พี่ต้องทำยังไงนะ ถึงจะได้เธอมาครอบครองทั้งตัวและหัวใจ” ตรัยพูดเบาๆ คล้ายรำพึงกับตัวเอง เขามองใบหน้าจิ้มลิ้มที่หลับปุ๋ยไปอย่างมีความสุข ก่อนจะผละออกมาที่ระเบียงบ้านของหญิงสาว แล้วกดโทรศัพท์หาลูกน้องคนสนิท ที่ยังทำหน้าที่ไม่ขาดตกบกพร่อง
“พอได้แล้ว จะหอนจนถึงเช้าหรือไง” เสียงของตรัยทำให้ศักดิ์สิทธิ์ถอนใจเฮือกอย่างโล่งอก ที่ไม่ต้องทนยืนให้ยุงกัดทำเสียงหมาหอนอยู่ตรงนี้อีกแล้ว
“ครับๆ คุณตรัย ผมก็จะไปแล้วครับ ยุงเยอะจริงๆ” ลูกน้องคนสนิทของตรัยตอบกลับพร้อมกับตบยุงไปด้วย ช่วยลุ้นอยู่ตั้งนาน ในที่สุดเจ้านายก็ได้เข้าบ้านสาวน้อยที่แอบรักอยู่กันสองต่อสองสักที
ตรัยกดวางสายก่อนจะเดินกลับมาในห้องนอนของพราวมุกอีกครั้ง เขาเดินสำรวจบ้านของเธอ คุ้นเคยกันดีเหมือนเป็นบ้านของตัวเองเพราะเข้าออกบ้านหลังนี้ตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งเธอกับเขาสูญเสียพ่อแม่ไปในเวลาไล่เลี่ยกัน เขาเองก็มีน้องสาว แต่ก็อยากมีเพื่อนเล่นเป็นเด็กผู้ชายอย่างพายัพ ตอนเด็กๆ คิดว่า... ดีที่มีสองพี่น้องข้างบ้านคอยเล่นด้วย
ชายหนุ่มมองภาพถ่ายของเพื่อนรักกับน้องสาว น่าแปลกที่เขากับพายัพไม่เคยทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นแตกหัก ทั้งๆ ที่ชอบหยอกล้อกันแรงๆ แต่กลับรักกันมาก ใครรังแกพายัพ เขาไม่ยอม ใครรังแกเขา พายัพเอาตาย เรียกว่าเพื่อนตายเลยก็ว่าได้
ส่วนเพื่อนๆ ในกลุ่มก็สนิทกันตามสมควร แต่สำหรับพายัพเป็นมากกว่าเพื่อนทั่วไป เรียกว่าเป็นครอบครัว พี่น้องและหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตที่ช่วยเติมเต็มให้กันและกัน เหมือนสีขาวกับสีดำ มืดกับสว่าง ไฟกับน้ำ อาจเพราะเขาใจเย็นได้เสมอ แต่พายัพกลับร้อนเป็นไฟ ใครเตือนไม่ฟัง
น้องสาวของเขาได้ทุนไปศึกษาต่อต่างประเทศ เนื่องจากตุลยากรเป็นเด็กเรียนเก่งจึงสอบชิงทุนได้ เธอแทบไม่ขอเงินเขาเลย แต่ไปเรียนที่โน้นก็หางานทำเอง เขาไม่เคยทิ้งน้อง คอยส่งเสียน้องตลอด โดยการโอนเงินเข้าบัญชีทุกเดือน ถึงเธอไม่ค่อยได้แตะต้องเงินก้อนนั้น แต่นั่นก็ถือว่าเป็นเงินรองรังเอาไว้ให้น้องเมื่อเรียนจบ หากตุลยากรอยากจะทำอะไร อาจจะต้องใช้เงินก้อนนั้นก็เป็นได้
ตรัยทอดสายตามองใบหน้าจิ้มลิ้มของพราวมุก เค้าบอกว่าคนเราเกิดมารู้จักกันไม่ใช่ความบังเอิญ แต่เป็นแรงกรรม ทำไมคนที่อยู่ไกลกันข้ามโลกยังสามารถมาพบเจอกันได้ มารักกันได้ เขาเองก็เชื่อแบบนั้น และเชื่อว่าที่เขารักพราวมุกมาตลอดเพราะเธอเกิดมาคู่กับเขา เธอเกิดมาเพื่อเขา และพราวมุกเองก็ไม่เคยมีแฟน ทั้งๆ ที่มีผู้ชายมากมายหมั่นแวะเวียนมาขายขนมจีบ จะเป็นเพราะว่าพี่ชายหวงนักหวงหนาก็ไม่น่าจะใช่ เพราะเอาเข้าจริงๆ ถ้าพราวมุกรักใคร พายัพเองก็คงไม่ขัดความสุขของน้อง
ตรัยทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาตัวยาวในห้องของหญิงสาว เขาตะแคงหน้านอนมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่นอนตะแคงกลับมาเช่นกัน เขาหนุนศีรษะกับแขน มองคนน่ารักนอนหลับแล้วริมฝีปากโค้งขึ้น รอยยิ้มพิมพ์ใจที่ส่งไปให้เธอ แม้เธอจะไม่เห็น แต่เขาอยากจะยิ้มให้คนที่รัก
“ผู้หญิงอะไร ขนาดนอนหลับยังน่ารัก” เขาพึมพำเบาๆ จำไม่ได้ว่านอนหลับไปตั้งแต่ตอนไหน แต่พอลืมตาตื่นอีกครั้ง เขาหันมองร่างบนเตียงทันที เธอยังหลับอยู่อย่างแสนสบาย ร่างสูงจึงลุกขึ้นบิดตัวไปมา ก่อนจะเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา ลงไปจัดการกับอาหารเช้าในห้องครัว
แม้การนอนโซฟาจะทำให้เขาไม่สบายตัวนัก แต่หัวใจของเขากลับสดชื่นอย่างประหลาด อาจเพราะได้นอนห้องเดียวกับหญิงสาวที่หมายปองมานานแสนนาน
ตรัยรู้ดีว่าพราวมุกชอบอะไรบ้าง ทุกสิ่งที่เธอชอบเขาจดบันทึกเอาไว้ในสมองของตัวเอง เธอชอบรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ขนม ช็อกโกแลต เขาเลือกทำสลัดผักผลไม้ ซุปข้าวโพด เพราะจะได้กินคล่องคอ และน้ำส้มคั้นแสนอร่อยเป็นการตบท้ายไม่นานอาหารกลิ่นหอมกรุ่นก็ลอยตลบอบอวลไปทั่วห้องครัวกว้าง เขาจัดจานเรียบร้อยก็เดินขึ้นไปบนห้องนอนของหญิงสาวอีกครั้ง เธอยังนอนหลับปุ๋ยอย่างมีความสุข จนเขาต้องอมยิ้มมุมปาก ตรัยยืนมองคนขี้เซาอยู่แบบนั้น คล้ายจะเก็บภาพน่ารักๆ ของเธอบันทึกเอาไว้ในสมอง“พราวครับ พราว... พราวครับ” ยืนมองจนอิ่มแล้วจึงค่อยๆ ปลุกคนขี้เซาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล“อือ... พี่พาย พราวจะนอน ขออีกสิบนาทีนะคะ เดี๋ยวจะรีบตื่น” พราวมุกพลิกตัวไปอีกด้าน ซุกหน้ากับหมอนอย่างคนขี้เซาตรัยหัวเราะขำ ก่อนจะเดินไปอีกด้าน มองหน้าคนที่เอาแต่ซุกหมอน เธอคงโดนพี่ชายปลุกบ่อยๆ ตั้งแต่สมัยไปโรงเรียนจนเข้ามหาลัย นึกถึงความผูกพันของสองพี่น้องแล้วอมยิ้มอีกรอบ เขาสะกิดเธอใหม่“ตื่นได้แล้วครับพราว ไม่ตื่นพี่จับกินเป็นอาหารเช้านะ” ตรัยพูดติดตลก เขายื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มนวลฟอดใหญ่อย่างหักห้ามใจไม่ไหว“อื้อ... พี่พายแอบ
“ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้นก็ได้ พี่เองก็ยังไม่ง่วงอะไร”“ขนมไหมคะพี่ตรัย” พราวมุกบริการชายหนุ่มเต็มที่ ซาบซึ้งที่เขามาอยู่เป็นเพื่อน“พี่ไม่ชอบกินของหวานครับ นี่ก็ดึกแล้ว กินขนมแล้วหนักท้อง”“กลัวอ้วนเหรอคะ” เธอหัวเราะเสียงน่ารัก“เปล่าครับ ถ้าพราวอยากกินก็ตามสบายนะ”“พราวก็ไม่กินเหมือนกันค่ะ โกโก้แก้วนี้ก็รู้สึกผิดแล้วค่ะ ตอนนี้กำลังลดน้ำหนักอยู่”“ความจริงพราวไม่ได้อ้วนมากนะครับ พี่ว่าขนาดนี้ก็โอเคแล้ว มีน้ำมีนวลดี ผอมมากกว่านี้กอดทีเจอแต่กระดูก” เขาพูดแล้วหัวเราะเบาๆ อย่างอารมณ์ดี“ผู้หญิงเค้าไม่อยากให้ตัวเองอ้วนกันหรอกนะคะ”“ออกกำลังเป็นประจำสิครับ มันจะได้กระชับ แล้วกินอาหารให้ครบหมู่ พี่ว่าแค่นี้ก็โอเคแล้วนะ ถ้าผอมแล้วป่วยหรืออ้วนแล้วป่วยก็ไม่ไหวนะ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และก็ออกกำลังกาย พี่ว่าดีที่สุด” เขาแนะอย่างมีเหตุมีผล“พราวออกกำลังกายอยู่นะคะ แต่บางทีก็ขี้เกียจ ว้าย!!! พี่ตรัยเสียงหมาหอนอีกแล้ว” พูดกันอยู่ดีๆ พราวมุกก็ผวา เผลอกระโดด แทบขึ้นไปนั่งเกยอยู่บนตักของตรัย ชายหนุ่มยิ้มเอ็นดู ไม่ได้ว่าอะไร แต่โอบกอดเอวคอดองเธอเอาไว้ นานๆ เขาจะได้มีโอกาสใกล้ชิดกั
และเป็นจริงตามที่เคยคิดไว้ เขารอวันนี้มานาน แต่การรอก็ได้รับผลตอบรับอันแสนหวาน เขารักจริงและต้องทำให้เธอเป็นของเขาให้ได้ ทั้งตัวและหัวใจ“พี่ตรัยสั่งอาหารที่พราวชอบทั้งนั้นเลย” พราวมุกยิ้มขอบคุณเมื่อเห็นเขาสั่งอาหารหลายอย่าง ล้วนแล้วเป็นอาหารที่เธอชอบแทบทั้งสิ้น“พี่ใส่ใจ เลยจำได้ว่าพราวชอบกินอะไร” เขามองตาแล้วยิ้ม พราวมุกรู้สึกแปลกๆ เมื่อสบตาของตรัย เขาไม่เคยมองเธอแบบนี้มาก่อน สองครั้งแล้วนะที่เธอรู้สึกใจสั่น หรือเธอจะคิดมากไปเอง พอกะพริบตา แววตาวาวหวานคู่นั้นก็หายไป เหลือแค่แววตาอบอุ่นอ่อนโยน“กินเยอะๆ นะครับ พี่ว่าพราวผอมไปนะครับ” เขามองสำรวจร่างกายของเธออย่างเงียบเชียบก่อนเอ่ยบอกอย่างห่วงใย“ไม่อยากอ้วนค่ะ พราวกินเยอะไม่ได้น้ำหนักขึ้นทุกทีเลย” เธอเป็นห่วงเรื่องรูปร่างเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ นั่นแหละ“สำหรับพี่ ถ้าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่พี่รัก ถึงจะอ้วนขนาดไหนพี่ก็รัก” เขาหยอดคำหวาน คนฟังถึงกับหน้าแดง คล้ายเขาบอกเป็นนัยว่าเธออ้วนแค่ไหน เขาก็รัก“พี่ตรัย...” พราวมุกครางเมื่อสบตากับตรัย ทำไมหัวใจของเธอมันถึงรู้สึกจั๊กจี้แบบนี้นะ“พราวนอนคนเดียวได้จริงๆ นะครับ” ตรัยเอ่ยถามน้องสาวเพื่อนที่
จริงๆ คือเรื่องเศรษฐกิจเป็นหลักถึงมีผลกระทบบ้างแต่ไม่มาก ตรัยไม่อยากโกหกกุเรื่องขึ้นมาหรือปั้นน้ำเป็นตัวด้วยเรื่องที่ไม่เป็นความจริงสักนิด เพราะสุดท้ายแล้วเขาต้องแสดงความจริงใจกับพราวมุกตั้งแต่แรก ไม่ใช่โกหกเป็นไฟให้เธอจับได้ทีหลัง เขาไม่อยากแก้ตัวหรืออธิบายในสิ่งที่ตัวเองทำผิดเต็มๆ“พราวสัญญาค่ะพี่ตรัย พี่ตรัยบอกพราวมาเลยค่ะว่าจะให้พราวช่วยทำอะไร” เธอรีบพูดอย่างกระตือรือร้น“ระหว่างนี้ถ้าพราวจะมาช่วยทำงานที่นี่ก่อน ก็ดีนะครับ” ตรัยพูดอย่างมีความหวัง ความหวังเล็กๆ ที่จะได้ใกล้ชิดกับพราวมุกในแบบฉบับของคนรักไม่ใช่พี่น้องเหมือนที่แล้วๆ มา“ได้ค่ะ ให้พราวช่วยอะไรบอกมาได้เลยนะคะ ถึงพราวจะเพิ่งเรียนจบ แต่พราวก็จะตั้งใจทำงานค่ะ” พราวมุกยิ้มให้ตรัยอย่างน่ารัก สีหน้าของเธอบ่งบอกถึงความมุ่งมั่นอย่างแท้จริงพี่ชายบอกให้เธอพักผ่อนค่อยหางานที่ชอบทำ เขาไม่เคยบังคับเธอเลย ให้เลือกเรียนเอาตามแต่ที่สนใจจริงๆ อยากจะทำงานด้านไหนก็ไม่เคยขัด มีแต่จะสนับสนุน ถ้ารู้ว่าเขามีปัญหา เธอจะรีบมาทำงาน แทนที่จะนอนอยู่กับบ้านอย่างที่เป็นอยู่ ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกผิด“มาช่วยเรื่องเอกสารหรือเรื่องอะไรไปก่อน เหมือนตอนที่พร
ซีรีส์ 5 หนุ่มเล่ม 1“ถ้าเพื่อนพี่สนใจเราจริงๆ เราจะรับไว้พิจารณารึเปล่าล่ะ” พายัพเอ่ยถามน้องสาวที่อยู่ในชุดนักศึกษาด้วยท่าทีจริงจัง ไร้ท่าทีล้อเล่นแม้แต่น้อย“เพื่อนคนไหนคะพี่พาย” พราวมุกยิ้มหวานให้พี่ชายขณะเอ่ยถาม เพื่อนๆ ของพี่ชาย ต่างก็มีผู้หญิงล้อมหน้าล้อมหลัง อีกอย่างเธอก็ไม่ได้คิดกับใครเกินเลยไปถึงขั้นคนรัก เธอรักและนับถือพี่ชายเช่นไร ก็นับถือเพื่อนของพี่ชายเช่นนั้น พายัพพี่ชายของเธอเองออกจะหวงๆ ไม่ชอบให้เพื่อนมาเกาะแกะเธอด้วย หลายครั้งที่เอ่ยเตือนเพื่อนตัวเอง แถมยังด่าเพื่อนเจ็บๆ แสบๆ จนเธอหัวเราะท้องแข็งตั้งหลายครั้ง แล้วรอบนี้มาแปลก กลับมาถามเธอแบบนี้“เจ้าตรัยมันสนใจเราน่ะ เห็นบอกว่าชอบเรา” พายัพบอกน้องสาวตรงๆ ไม่อ้อมค้อม ในบรรดาเพื่อนเขาทั้งหมด ตรัยดูจะไม่สนใจผู้หญิงคนไหน หรือเจ้าชู้ประตูดิน“ยี้... ไม่เอาหรอกค่ะ พวกเพื่อนๆ ของพี่พายมีผู้หญิงเยอะแยะ ฝากบอกพี่ตรัยด้วยนะคะว่าพราวนับถือพี่ตรัยเหมือนพี่ชาย ปล่อยให้พราวมีอนาคตที่ดีเถอะค่ะ คิกๆ” พราวมุกพูดขำๆ กับพี่ชาย จริงๆ เธอเองก็รู้ว่าตรัยแตกต่างจากคนอื่น แต่เธอนับถือตรัยเหมือนพี่ชายคนหนึ่งเท่านั้น ไม่เคยคิดเกินเลยเป็นอื่น







