Главная / โรแมนติก / ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ / 9. ความเมาเป็นเหตุ...สังเกตได้

Share

9. ความเมาเป็นเหตุ...สังเกตได้

last update Последнее обновление: 2025-09-14 10:00:29

ความเมาเป็นเหตุ...สังเกตได้

‘Rrrrrr’

เสียงมือถือดังขึ้นตอนเกือบตีสอง ขณะที่ฉันกำลังเฝ้าพระอินทร์อยู่แท้ ๆ แต่คนปลายสายก็ไม่หยุดโทรเข้ามาสักทีทำให้ฉันต้องตื่นมารับมันทั้งที่ตายังปิดอยู่ด้วยซ้ำ

“ฮัลโหล! โทรมาทำไมดึก ๆ ดื่น ๆ เนี่ย คนนอนอยู่เว้ย!” ฉันตวาดด้วยความหงุดหงิด

“มิ้นครับ...อยู่ไหน”

“พี่แทน?” เสียงของเขาแหบพร่า แฝงเจือความเมาอย่างชัดเจน

“ครับ...” เขาตอบสั้น ๆ แล้วขาดช่วงไป

“อยู่คอนโดค่ะ พี่โอเคไหมทำไมเสียงเป็นแบบนี้”

“ไม่โอเค...ครับ...พี่อยู่...แถว ๆ คอนโด...เก่า ขับรถ...ไม่ได้”

“พี่อยู่คนเดียวเหรอ” ใจฉันกระตุกวูบ อดเป็นห่วงไม่ได้

“อืม...” เสียงเขาขาดช่วงไป แล้วเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงพึมพำฟังยากมากกว่าเดิม “มารับหน่อยได้ไหม ไม่อยากโทรหาใครอื่นนอกจากหนู”

“พี่บอกชื่อร้านมาเดี๋ยวมิ้นไปรับค่ะ” ในขณะที่พูด ฉันก็หาเสื้อคลุมตัวหนาปิดชุดนอนซีทรู คว้ากุญแจรถเดินลงจากคอนโดทันที

“ร้าน...เวก...อัป...ครับ”

“รออยู่ตรงนั้นนะคะ” ฉันวางสายทันทีก่อนจะขับรถออกไปยังร้านเวกอัป

(ยี่สิบนาทีผ่านไป)

ฉันเห็นพี่แทนนั่งอยู่โต๊ะหน้าร้าน โดยที่มีพนักงานชายของร้านยืนอยู่ข้าง ๆ ฉันเลิกคิ้วมองเล็กน้อย ก่อนจะสังเกตมองเขาอย่างถี่ถ้วน เสื้อเชิ๊ตสีเข้มของเขาหลุดลุ่ยเล็กน้อย กระดุมเม็ดบนหลุดออกเผยให้เห็นช่วงอกมีเหงื่อเกาะ ผมของเขายุ่งเหยิงนิด ๆ และใบหน้าก็แดงจัดด้วยฤทธิ์เหล้า ทำไมสภาพหนุ่มสุขุมถึงได้เละเทะขนาดนี้หรือว่า...เขากับพนักงานชายคนนั้นจะ...

“ไม่ได้ ๆ ฉันจะมาคิดอะไรแบบนี้ตอนนี้ไม่ได้ ต้องรีบช่วยพี่แทนก่อน”

ฉันเดินไปที่พวกเขา เมื่อพนักงานชายเห็นฉัน เขาก็ยิ้มก่อนจะปลีกตัวกลับเข้าไปในร้าน

“พี่แทน” ฉันรีบเข้าไปหาเขานั่งยอง ๆ ใกล้ ๆ เขาเงยหน้าขึ้นมองฉันช้า ๆ

“มิ้น...” เขายิ้มบาง ๆ ก่อนจะยืนขึ้นโอนเอนมาซบไหล่ฉัน “มาแล้วเหรอครับ”

“ค่ะ มาแล้ว กลับกันค่ะ เดี๋ยวหนูขับรถให้” ฉันประคองพี่แทนให้ลุกขึ้น ด้วยความทุลักทุเลเพราะตัวเขาทั้งใหญ่ ทั้งสูงกว่าฉันมาก

(บนรถ)

ฉันพยุงเขาไปนั่งในรถ ก่อนจะเดินอ้อมไปนั่งฝั่งคนขับ ฉันมองเขาที่ตอนนี้เอนหลังพิงเบาะขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะหลับตาลงไป

ฉันขับรถไปตามทางช้า ๆ ปรายตามองพี่แทนเป็นระยะ แสงไฟจากถนนลอดผ่านปะทะใบหน้า เผยให้เห็นใบหน้าที่หลับตาพริ้ม ริมฝีปากนิ่งสนิท ตอนนี้เขาดูเหมือนคนละคนกับที่ฉันเคยเห็น แต่จะว่าไปแบบนี้เขาก็ดูน่ารักนุ่มนิ่มดีนะ

เมื่อพาพี่แทนมาถึงคอนโดของเขา ฉันก็รีบพาเขาไปนั่งลงบนโซฟาทันที เขาขยับตัวยุกยิกจู่ ๆ ก็ถอดเสื้อเชิ้ตออกไปอย่างลวก ๆ เหลือเพียงเสื้อยืดสีขาวบางที่แนบชิดกับแผ่นอกของเขา

“พี่ขอโทษนะ ที่ทำให้มิ้นต้องลำบาก” เสียงเขาเบาจนแทบไม่ได้ยิน

“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว” ฉันเดินไปหยิบผ้าขนหนูที่พับอยู่ในตะกร้าเล็ก ๆ หน้าห้องน้ำ ก่อนจะชุบน้ำหมาด ๆ เดินไปเช็ดหน้าผากกับซอกคอให้เขาเบา ๆ

เขานั่งนิ่งยอมให้ฉันดูแลโดยไม่พูดอะไร ริมฝีปากเขาขยับเล็กน้อยเหมือนกำลังพึมพำอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็เงียบไป

“พี่ดื่มเยอะขนาดนี้ทำไมคะ” ฉันเอ่ยถาม พลางจัดหมอนให้เขา พาเขาไปที่เตียง เขาเงยหน้ามองฉัน นัยน์ตาแดงก่ำและเจือด้วยความล้า “บางที...พี่ก็อยากหยุดคิดอะไนสักพัก”

“เรื่องอะไรเหรอคะ”

“เรื่องที่ไม่ควรรู้สึก...กับคนที่เขาไม่รู้สึกอะไรกับเรา” เขาหัวเราะเบา ๆ แล้วเบือนหน้าหนี ฉันนิ่งอึ้งกับคำพูดนั้น

‘เขาที่พี่แทนเอ่ย หมายถึงใครกัน?’

 ฉันอยากจะกอดปลอบเขาจัง อยากอยู่ตรงนั้นบ้างแต่เพราะฉันเป็นผู้หญิงเขาคงไม่หันมามองฉันแน่ ๆ  แต่ฉันก็อยากอยู่ข้าง ๆ เขาในวันที่เขามีสภาพแบบนี้อยู่ดี

บรรยากาศในห้องเงียบสงบ มีเพียงเสียงลมหายใจของเราสองคนที่ได้ยินชัด ฉันนั่งลงข้าง ๆ เขาและเผลอเอื้อมมือไปจับมือเขาไว้

“ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องอะไร ถ้าพี่อึดอัด พี่ก็พักได้นะคะ มิ้นจะอยู่ข้าง ๆ เป็นเพื่อนให้เอง สบายใจได้” ฉันยกมือตบอกตัวเองเบาๆ  จนทำให้พี่แทนหันกลับมามองฉันอีกครั้ง คราวนี้นัยน์ตาเขาสั่นไหวอย่างเปิดเผย

“มิ้น...รู้ตัวไหมว่า อยู่ใกล้ๆ แบบนี้มันอันตรายนะ”

“อันตรายแค่ไหน มิ้นก็รับไหวค่ะพี่แทน” ฉันพูดด้วยรอยยิ้มให้เขา จากนั้นเขาก็โน้มใบหน้าเข้ามาแตะผิวแก้มฉัน ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะทาบลงมาอย่างนุ่มนวล และฉันก็ไม่ได้ผลักเขาออกไปเลย

ฉันหลับตาลง ปล่อยไปตามอารมณ์และหัวใจ ทุกสัมผัสของเขาอ่อนโยน แต่เต็มไปด้วยแรงปรารถนา ฉันไม่รู้หรอกว่าเขารู้ตัวรึเปล่าว่าตัวเองกำลังทำอะไร แต่ที่แน่ ๆ ฉันน่ะรู้ตัวดีว่าทำอะไรอยู่

ไฟในห้องนอนมืดสลัว มีเพียงแสงไฟจากโคมข้างเตียงเท่านั้น กับเสียงลมหายใจของเขาที่ใกล้จนปลายจมูกแทบจะชนกันอยู่แล้ว

ลมหายใจรดกรุ่นผสมกลิ่นเหล้าเจือกลิ่นน้ำหอมของเขา มันเป็นกลิ่นแบบที่ฉันชอบมากด้วย พานทำให้รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบตอนนี้มีเพียงสองเรา ยิ่งเมื่อริมฝีปากเขาทาบลงมาอีกครั้ง จิตใจและร่างกายฉันยิ่งเตลิดไปไกล

“อื้อ...” ฉันครางในลำคอ เมื่อพีแทนดันร่างฉันลงบนเตียง นิ้วมือของเขาสอดประสานกับนิ้วมือฉันแล้วกดลงเบา ๆ ก่อนริมฝีปากเขาจะเคลื่อนจากปากฉันไปยังแก้ม ใบหู และซอกคอ

การเล้าโลมของเขาทำเอาลมหายใจฉันขาดช่วง

‘นี่มันไม่ใช่การแสดงใช่ไหม’

 ฉันบอกกับตัวเอง แต่..เขาก็ยังเป็นพี่แทนที่ฉันเข้าใจว่าเป็นเกย์มาตลอดนี่นา...แล้วทำไมเขาถึง

“พะ...พี่แทน” ฉันพึมพำเบา ๆ ออกมาด้วยเสียงสั่นสะท้านทรวง

เขาไม่พูดอะไรเลย เขาเพียงแต่เงยหน้าขึ้นมามองฉันในเงาสลัว ใบหน้าที่เคยเคร่งขรึม บัดนี้ดูอ่อนลงในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ดวงตากรุ้มกริ่มแต่กลับร้อนแรงที่แค่จ้องก็แทบเหมือนหลอมละลาย

มือของเขาลูบไล้ไปตามแนวแขนฉันอย่างช้า ๆ ราวกับถามความสมัครใจ แล้วเมื่อฉันไม่ได้ผลักไสหรือปฏิเสธอะไร เขาก็โน้มตัวลงมาอีกครั้ง

เสียงหัวใจฉันดังก้องอยู่ในอก ขณะที่เขาเริ่มปลดปลายเชือกผ้าคลุมของฉันออก มือเขาสั่นนิด ๆ ทำเอาฉันคิดในใจ

‘คนที่ดูแพรวพราวอย่างพี่แทนก็ประหม่าเป็นด้วยเหรอ หรือว่าฉันเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขามีอะไรด้วยรึเปล่านะ’

ฉันหลับตา ปล่อยให้ความร้อนจากร่างกายเราแผ่ซ่านเข้าหากัน เพราะทุกอย่างตอนนี้มีเพียงเสียงลมหายใจ การสัมผัสกัน และเสียงผ้าปูเตียงที่ยับยู่ยี่ไปตามจังหวะ

เขาไม่รีบร้อน เคลื่อนไหวอ่อนโยนทุกสัมผัสราวกับกำลังทะนุถนอมร่างกายฉัน แต่อารมณ์ที่ส่งผ่านมากลับเอ่อล้นเกินกว่าจะกักไว้ได้

“มิ้น...” เขาเงยหน้าขึ้นมองฉัน พลางกระซิบเรียกชื่อฉันด้วยเสียแหบพร่า

“คะ...” ฉันเอื้อนเอ่ยด้วยเสียงที่ไม่ต่างกัน

“ถ้าพี่ขอมากกว่านี้จะได้รึเปล่าครับ?” ฉันนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยตอบ

“พี่มีสิ่งนั่นรึเปล่าคะ”

“มีครับ” เขาพยักหน้าก่อนจะยกยิ้มมุมปากเล็ก ๆ

“งั้น...ก็มาสนุกกันเถอะค่ะ” ฉันไม่พูดเปล่า ยกมือโอบคอเขาไว้ ก่อนจะดึงใบหน้าเขาลงมาเพื่อจูบโหมแรงอีกครั้ง

ในระหว่างที่ร่างกายเราแนบชิดไปทุกส่วน เขาก็กระซิบชื่อฉันซ้ำไปซ้ำมา เรากำลังไหลไปในห้วงอารมณ์ที่ไม่อาจห้ามได้อีกต่อไป ต่างคนต่างโถมแรงปรารถนาไม่ยั้ง

“อ่ะ...อ่ะ...อ่ะ” เสียงร้องครางของฉันดังกึกก้องเมื่อตัวตนของเขากระหน่ำเข้ามาในตัวฉันไม่หยุด ใบหน้าฉันมุดหมอนใบนุ่มด้วยความอาย แต่สุดท้ายมันก็ปิดไม่มิดอยู่ดี จึงปล่อยให้ตัวเองหลุดเข้าไปในกามารมณ์

“หนูไม่ไหวแล้วพี่แทน”

“อื้อ...รักนะครับ อึ่ก...” ร่างฉันกระตุกแรงสองมือกำผ้าปูเตียงจนยับยู่ยี่ในขณะที่คนด้านบน ตบบั้นท้ายฉันไปหนึ่งครั้ง ก่อนจะกระหน่ำเฮือกท้ายสุดจนมิดลำ ก่อนจะล้มตัวลงทับฉันทั้งแบบนั้น

ความร้อนจากร่างกายเขาทำเอาฉันร้อนวูบวาบราวกับคนเป็นไข้สูง

เขาค่อย ๆ ถอยออกไป มือหนาประคองใบหน้าฉันไว้ในตอนท้าย ริมฝีปากแตะหน้าผากฉันแผ่วเบา

“อย่าเพิ่งคิดอะไรนะครับ...แค่อยู่ตรงนี้กับพี่ก็พอแล้ว” พูดจบสองมือของเขาก็โอบกอดร่างเปลือยของฉัน ก่อนที่เขาจะรั้งเอาร่างฉันเข้าไปแนบแผงอกแกร่งนั้น ความอบอุ่นและความสบายใจห่อหุ้มไปทั่วร่างและนั่นก็ทำให้ฉันพล้อยหลับไปอย่างไม่รู้ตัว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   10. ความอึดอัดและสับสน

    10ความอึดอัดและสับสนแสงแดดลอดผ้าม่านเข้ามาในห้อง ความอุ่นของมันทำให้ฉันค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ ความรู้สึกแรกหลังตื่นคือหัวหนักอึ้ง ราวกับดื่มเหล้าเมาหนักไปด้วย ทั้งที่คนเมาเมื่อคืนคือพี่แทนแท้ ๆเอาจริงนะ ร่างกายว่าปวดร้าวหนักหน่วงแล้ว แต่ที่ยิ่งกว่าคือ หนักอกหนักใจ มากกว่า‘เรื่องเมื่อคืนมัน เกิดขึ้นจริงใช่ไหมเนี่ย’ภาพในค่ำคืนที่ผ่านมาถาโถม เสียงกระซิบชื่อฉัน สัมผัสของมือที่จับไปทั่วร่างทุกซอกทุกมุม ยังคงวนเวียนในหัว ฉันจำได้หมด ตั้งแต่เสียง ภาพ และความรู้สึกอันเร่าร้อนแต่ถึงจะจำได้ทุกอณูขนาดนั้น ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี“เขาเป็นเกย์ไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมเขาถึงมีอารมณ์กับฉันได้” ฉันพึมพำออกมาเบา ๆ “หรือว่ามันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบของเขากัน”ฉันยังหาบทสรุปไม่ได้ เขาเห็นฉันในสถานะอะไรในคืนที่ผ่านมา น้องสาวที่รู้จัก น้องในวงการ หรือคนที่เขาสามารถกอดได้ในคืนเหงาแบบนี้?‘ยิ่งคิดยิ่งปวดหัวจัง’ฉันค่อย ๆ ลุกจากเตียงอย่างระมัดระวัง ไม่อยากให้พี่แทนรู้สึกตัว ฉันนั่งมองไปรอบ ๆ เสื้อผ้าที่กระจัดกระจายเกลื่อนบนพื้น ซึ่งเป็นหลักฐานที่สำคัญที่สุดในคืนที่ผ่านมา แถมยังมีชิ้นยางบาง ๆ อุปกรณ์ป้องกั

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   9. ความเมาเป็นเหตุ...สังเกตได้

    ความเมาเป็นเหตุ...สังเกตได้‘Rrrrrr’เสียงมือถือดังขึ้นตอนเกือบตีสอง ขณะที่ฉันกำลังเฝ้าพระอินทร์อยู่แท้ ๆ แต่คนปลายสายก็ไม่หยุดโทรเข้ามาสักทีทำให้ฉันต้องตื่นมารับมันทั้งที่ตายังปิดอยู่ด้วยซ้ำ“ฮัลโหล! โทรมาทำไมดึก ๆ ดื่น ๆ เนี่ย คนนอนอยู่เว้ย!” ฉันตวาดด้วยความหงุดหงิด“มิ้นครับ...อยู่ไหน”“พี่แทน?” เสียงของเขาแหบพร่า แฝงเจือความเมาอย่างชัดเจน“ครับ...” เขาตอบสั้น ๆ แล้วขาดช่วงไป“อยู่คอนโดค่ะ พี่โอเคไหมทำไมเสียงเป็นแบบนี้”“ไม่โอเค...ครับ...พี่อยู่...แถว ๆ คอนโด...เก่า ขับรถ...ไม่ได้”“พี่อยู่คนเดียวเหรอ” ใจฉันกระตุกวูบ อดเป็นห่วงไม่ได้“อืม...” เสียงเขาขาดช่วงไป แล้วเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงพึมพำฟังยากมากกว่าเดิม “มารับหน่อยได้ไหม ไม่อยากโทรหาใครอื่นนอกจากหนู”“พี่บอกชื่อร้านมาเดี๋ยวมิ้นไปรับค่ะ” ในขณะที่พูด

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   8. บทที่เปลี่ยนไป

    8บทที่เปลี่ยนไป‘ปัง!’ พอประตูห้องคอนโดปิดลง ฉันก็ทรุดตัวลงพิงประตูแล้วถอนหายใจยาว นี่มือยังสั่นอยู่เลยนะ หน้าก็ร้อนราวกับไฟลวก ไม่รู้ว่าเป็นไข้หรือเพ้อเกินขนาดกันแน่“พี่แทนจูบฉัน แล้วฉันก็จูบเขากลับไป โอ๊ย!” ฉันร้องลั่นห้อง วิ่งไปกระโจนลงเตียงนอน หยิบหมอนข้างมากอดแน่นแล้วกลิ้งไปมาอย่างบ้าคลั่งบนเตียง ร่างกายปั่นป่วนไปหมด“บ้าเอ้ย บ้าจริง บ้าที่สุด!” ฉันทั้งกลิ้ง ตีหมอนข้าง ถีบผ้าห่มจนยับ สภาพเรียกว่าเละก็ทำไงได้ จูบนั่นมันไม่ใช่จูบธรรมดาเลย มันมีเอฟเฟคต่อใจฉันแรงมาก มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ฉัน‘แทบหยุดหายใจ’แล้วฉันก็ดันเผลอหลับตาพริ้มแบบเต็มใจ ไม่สิรุกเขาด้วยซ้ำ ถ้านี่คือฉากบทนั้นต่อหน้ากล้อง ใครเห็นก็คงคิดว่าฉันตกหลุมรักพระเอกในฉากจริง ๆ แล้วล่ะ“ไม่ใช่โว้ย! เขาเป็นเกย์ เขาไม่ได้คิดอะไรกับจูบนั้นซะหน่อย” ฉันร้องบอกตัวเองเสียงดังอีกครั้ง เพื่อเตือนสติตัวเอง แล้วดึงผ้าห่มคลุมโป่งไปทั้งตัว หัวใจไม่ยอมฟัง มันยังคงเต้นแรงอยู่ในอกแต่...ตอนนี้ ฉันต้องพยายามคิดไว้ว่ามันคือซ้อมบท การแสดง มันเป็นเพียงแค่...‘งาน’ฉันกอดหมอนข้างแน่นขึ้นอีก กลิ้งไปมาอีกครั้งแล้วสมองก็ผุดคำหนึ่งขึ้นมา ‘เขาเป็

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   7. จะ...จูบกับเกย์

    7จะ...จูบกับเกย์ฉันเดินออกมายืนรอที่ลานจอดรถด้วยท่าทีนิ่งขรึม กอดอกทอดสายตามองรถคันหรู ที่เคยเห็นมาเพียงครั้งหนึ่งเคลื่อนมาจอดตรงหน้าฉัน แต่ฉันยังคงยื่นนิ่งทื่อ เพราะสมองยังคิดถึงบทฉากใหม่ที่ถูกยัดเข้ามาอยู่“ขึ้นมาสิครับ” พี่แทนเลื่อนกระจกรถลง ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มนุ่มนวล หึ...คนที่ยัดฉากจูบมาให้ฉันดื้อ ๆ ยังมีหน้ายิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกฉันสะบัดตัวแสดงความไม่พอใจเล็กน้อย ก่อนจะขึ้นรถของเขารถคันหรูเคลื่อนตัวอย่างนุ่มนวลบนถนนยามค่ำคืน แสงไฟข้างทาง สาดส่องลอดผ่านกระจกมากระทบใบหน้าเขาถึงฉันจะโมโหพี่แทนอยู่ แต่พอมองหน้าที่ดูเย็น ๆ นิ่ง ๆ ของเขาก็ต้องยอมรับว่าทำให้ใจสงบ หล่อราวกับฉันเอื้อมไม่ถึง ว่าแล้วก็ได้แต่อิจฉาผู้ชายชะมัด จนอยากเกิดใหม่เป็นผู้ชายไปจีบเขาบ้าง แต่ก็คงได้แต่ฝันพี่แทนยังคงขับรถด้วยท่าทีนิ่งสงบ ไม่พูดอะไรออกมา ส่วนฉันก็เอาแต่มองหน้าต่างฝั่งตัวเอง ทั้งที่ใจสับสนวุ่นวายไปหมด“มิ้น...” เสียงพี่แทนทำลายความเงียบอย่างอ่อนโยน“ว่าไงคะ” ฉันตอบกลับแต่ไม่มองหน้าเขา จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกอยากทำให้พี่แทนรู้ว่า ฉันหงุดหงิดที่เขายัดบทให้ฉันไปจูบกับผู้ชาย (คนอื่น)“โมโหอะไร

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   6. ห้องแต่งตัว หัวใจเต้นระริก

    6ห้องแต่งตัว หัวใจเต้นระริก“โอ๊ย! เหนื่อยจังโว๊ย” ฉันสบถออกมา หลังกลับมาถึงคอนโดก็แทบสลบคาโซฟา มันทั้งเหนื่อยล้าไปทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะอินไปกับบทที่ได้รับมากไปหน่อย‘วันนี้เก่งมากครับ’ จู่ ๆ คำพูดที่พี่แทนพูดกับฉัน ก็วนเวียนอยู่ในหัวไม่หยุด จากใบหน้าบึ้งตึง เผลอยิ้มออกมาไม่รู้ตัวจนหยิบหมอนที่อยู่ใกล้มือมาปิดหน้าตัวเอง“กรี้ด...เขาชมฉันด้วย ฉันชอบเขาจัง พี่เกย์สุดหล่อขา...” หัวใจฉันมันเต้นตุบตับ ยิ่งกว่าเข้าซีนกับพระเอกในละครที่เคยแสดงด้วยกันซะอีกเอาเถอะ ฉันก็แค่หลงรักเขาข้างเดียว ยังไงซะ...เขาก็คงไม่หันมามองฉันหรอก แต่ถึงจะปลอบใจตัวเองขนาดนั้น หัวใจก็ไม่หยุดเต้นสักที‘เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!’ ฉันตบหน้าตัวเองเบา ๆ เพื่อเรียกสติตัวเอง ก่อนจะลุกเดินไปอาบน้ำเพื่อเข้านอน(วันรุ่งขึ้น)วันนี้คิวถ่ายฉันมีซีนเดียวเท่านั้น ก็ตามที่บอกแม้ฉันจะเล่นเป็นบทนำร่วมแต่บทแม่วัยสาวของฉัน มันไม่ได้เด่นมากขนาดนั้น ซึ่งนั่นเป็นเรื่องดีค่ะฉากในวันนี้ของฉันคือ รุ้งคุณแม่ยังสาว ต้องปกป้องลูกชายของตัวเองจากความจน และการโดนกดขี่จากคนรอบข้าง เสื้อผ้าที่ได้สวมใส่ก็เป็นผ้าฝ้ายสีซีด ต้องทำตัวให้ดูโทรมที่สุดเท่าที่

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   5 เข้ากองวันแรก

    5 เข้ากองวันแรกวันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นวันแรกของการถ่ายทำมาถึง แต่แทนที่ฉันจะได้สวมบทแม่ยังสาวและร้องห่มร้องไห้ในฉากแสนสะเทือนใจ กลับกลายเป็นว่าต้องมานั่ง รอ...รอ...และก็รอ เฮ้อ...สาเหตุไม่ใช่ใครที่ไหน ดีนี่ ดาราผู้รับบทช่วงวัยรุ่น ซึ่งเป็นช่วงวัยที่มีบทมากที่สุด มาสายกว่าชั่วโมง สีหน้าเธอดูเหนื่อยล้า และซีดเผือดเหมือนยังไม่ได้นอนผู้จัดการของเธอก็เอาแต่พ่นคำหยาบออกมา แม้แต่ฉันที่ได้ยินยังรำคาญหู โวยวายเรื่องสคริปต์ เรื่องฉาก เรื่องตารางถ่ายทำที่แน่นเกินไป ฉันที่นั่งฟังเงียบ ๆ พานนึกในใจว่าไม่ใช่ที่ดีนี่ไม่พร้อมหรอก น่าจะเป็นผู้จัดการของเธอต่างหากที่ไม่พร้อมจะทำหน้าที่นี้ฉันยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้เพื่อรอคิวถ่าย แต่...ดีนี่แสดงได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก ผ่านไปเทคแล้วเทคเล่าเกือบยี่สิบรอบ ผู้กำกับเริ่มถอนหายใจแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทีมไฟ ทีมกล้องเริ่มเบือนสายตาจากจอมอนิเตอร์ หันมามองหน้ากันแทนและคิวของฉันก็ถูกเลื่อนออกไปเรื่อย ๆ แต่ที่น่าหนักใจกว่า คือดีนี่เริ่มร้องไห้หนัก เธอนั่งขดตัวอยู่มุมห้องจนไม่ม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status