Home / โรแมนติก / ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ / 6. ห้องแต่งตัว หัวใจเต้นระริก

Share

6. ห้องแต่งตัว หัวใจเต้นระริก

last update Last Updated: 2025-09-09 22:42:02

6

ห้องแต่งตัว หัวใจเต้นระริก

“โอ๊ย! เหนื่อยจังโว๊ย” ฉันสบถออกมา หลังกลับมาถึงคอนโดก็แทบสลบคาโซฟา มันทั้งเหนื่อยล้าไปทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะอินไปกับบทที่ได้รับมากไปหน่อย

‘วันนี้เก่งมากครับ’

จู่ ๆ คำพูดที่พี่แทนพูดกับฉัน ก็วนเวียนอยู่ในหัวไม่หยุด จากใบหน้าบึ้งตึง เผลอยิ้มออกมาไม่รู้ตัวจนหยิบหมอนที่อยู่ใกล้มือมาปิดหน้าตัวเอง

“กรี้ด...เขาชมฉันด้วย ฉันชอบเขาจัง พี่เกย์สุดหล่อขา...” หัวใจฉันมันเต้นตุบตับ ยิ่งกว่าเข้าซีนกับพระเอกในละครที่เคยแสดงด้วยกันซะอีก

เอาเถอะ ฉันก็แค่หลงรักเขาข้างเดียว ยังไงซะ...เขาก็คงไม่หันมามองฉันหรอก แต่ถึงจะปลอบใจตัวเองขนาดนั้น หัวใจก็ไม่หยุดเต้นสักที

‘เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!’ ฉันตบหน้าตัวเองเบา ๆ เพื่อเรียกสติตัวเอง ก่อนจะลุกเดินไปอาบน้ำเพื่อเข้านอน

(วันรุ่งขึ้น)

วันนี้คิวถ่ายฉันมีซีนเดียวเท่านั้น ก็ตามที่บอกแม้ฉันจะเล่นเป็นบทนำร่วมแต่บทแม่วัยสาวของฉัน มันไม่ได้เด่นมากขนาดนั้น ซึ่งนั่นเป็นเรื่องดีค่ะ

ฉากในวันนี้ของฉันคือ รุ้งคุณแม่ยังสาว ต้องปกป้องลูกชายของตัวเองจากความจน และการโดนกดขี่จากคนรอบข้าง เสื้อผ้าที่ได้สวมใส่ก็เป็นผ้าฝ้ายสีซีด ต้องทำตัวให้ดูโทรมที่สุดเท่าที่จะโทรมได้

เห็นแบบนี้ ช่างแต่งหน้าเหนื่อยกับการแต่งให้ฉันมากนะ เพราะใบหน้าของฉันมันงดงามเกินไป กว่าจะแต่งให้ดูโทรมได้ พวกเขาก็ร้องโอดครวญว่ามันเป็นงานใหญ่งานยาก ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ พอดีเกิดมาสวยอ่ะค่ะ

“แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก” เสียงหอบหายใจรัวระรินจากการถ่ายซีนวิ่งหนีเจ้าหนี้เสร็จ ก็เล่นทำเอาเหงื่อซึมเต็มตัว เสื้อผ้าเปียกแนบไปกับผิว ทำเอาฉันต้องรีบตรงกลับมายังห้องแต่งตัวของสถานที่ถ่ายทำ ซึ่งเป็นห้องเล็ก ๆ ที่มีผ้าม่านกั้นคร่าว ๆ เท่านั้นเอง เฮ้อ...ถ่ายนอกสถานที่ก็งี้แหละ

“เชี่ย! ซิปบ้านี่ ทำไมไม่ยอมเลื่อนลงอ่ะ” ฉันสบถกับตัวเองพลางสะบัดตัวเล็กน้อย หวังให้ซิปมันเลื่อนลงบ้าง แต่ไม่ทันได้ลองอีกรอบ เสียงทุ้มนุ่มคุ้นหูก็ดังขึ้นจากด้านหลัง

“ให้พี่ช่วยไหมครับ” ฉันสะดุ้งเฮือกหันขวับไปมองทันที

“พี่แทน! เข้ามาได้ยังไงคะ” เขายืนอยู่หน้าประตูห้องแต่งตัว ยกมือขึ้นเป็นเชิงขอโทษ

“ขอโทษครับ พี่เคาะประตูแล้วนะ แต่ดูเหมือนมิ้นจะไม่ได้ยินเสียงพี่รึเปล่า” ฉันเม้มปากแน่น รีบหันหลังกลับกลบเกลื่อนใบหน้าที่เริ่มแดงก่ำขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

ไม่ดิ...การที่เขายังยืนอยู่ตรงนี้ มันทำให้ร่างกายฉันประหม่าแปลก ๆ แต่เขาดูไม่เขินอายอะไรเลย สมแล้วที่เขาเป็น...เอ่อ...แบบนั้น

“ซิปติดเหรอครับ”

“ค่ะ มิ้นพยายามดึงซิปด้านหลัง มันไม่ยอมลงเลย”

“ให้พี่ช่วยไหมครับ” เขาพูดออกมาด้วยเสียงเรียบราวกับไม่คิดอะไร แต่ฉันคิดนะสิ

“คะ? เอ่อ...มันจะรบกวนพี่ไปรึเปล่า”

“ไม่หรอกครับ มะ...เดี๋ยวพี่ช่วยรูดให้” เขาก้าวเข้ามาใกล้ฉันทีละก้าว ฉันรับรู้ได้ถึงลมหายใจของเขาที่ห่างเพียงนิด มืออุ่น ๆ ของเขาแตะเบา ๆ ที่ด้านหลัง ฉันเกร็งในทันที ที่นิ้วของเขาสัมผัสกับผิวกายที่เปลือยเปล่าบางส่วนเพราะชุดหลุดจากไหล่ของฉัน

“ขอโทษครับ” เขาเอ่ยขอโทษเพราะเห็นว่ามือตัวเองโดนผิวฉันแหง ๆ โห...สุภาพบุรุษ

“ไม่เป็นไรค่ะ พี่แทนรีบรูดเลยก็ได้” โอ๊ย! ฉันตื่นเต้นจนพูดอะไรออกไปเนี่ย! รีบรูดอะไรกัน ทำเอาพี่แทนที่อยู่ด้านหลังหัวเราะเบา ๆ

“ใจเย็นครับ...ซิปมันค่อนข้างแน่น เดี๋ยวค่อย ๆ ดึงดีกว่า” ฉันรู้สึกได้ถึงแรงนิ้วของเขาเลื่อนช้า ๆ ไปตามแนวซิป ฉันแม่มปากแน่น รู้สึกเหมือนขาดอากาศหายใจ แถมหัวใจก็เต้นแรงกลัวว่าเขาจะได้ยินเข้า พอซิปเลื่อนลงได้ ฉันก็ถอนหายใจยาวด้วยความโล่ง แต่ก็ยังไม่กล้าหันกลับไปมองหน้าเขา

“เรียบร้อยครับ” เขาพูดเสียงเรียบนิ่ง แล้วถอยออกไปหนึ่งก้าว

“ขอบคุณมากค่ะพี่แทน” ฉันพูดพลางคว้าเสื้อมาคลุมทันที พอหันกลับไป ก็เห็นเขายืนกอดอกยกยิ้มมุมปากเล็ก ๆ อย่างที่เขาชอบทำ

“พี่แทนขา ถึงมิ้นจะรู้ว่าพี่เป็นเกย์ คงไม่ชอบมิ้นหรอก แต่พี่เดินมาช่วยมิ้นรูดซิปหน้าตาเฉยแบบนี้ ช่วยแสดงออกว่าเขินให้กันหน่อยไม่ได้รึไงคะ ทำเอาความมั่นใจในความสวยของมิ้นหายไปหมด” ฉันพูดแหย่เขาเพื่อกลบเกลื่อนอาการเขินของตัวเอง พี่แทนเลิกคิ้วยิ้มกว้างนิดหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้เอ่ยตอบอะไรกลับมา

“หรือจริง ๆ แล้วพี่เคยช่วยผู้หญิงแต่งตัวบ่อย ๆ ใช่ไหมคะ” เขาหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า

“เปล่าครับพี่ไม่เคยช่วยผู้หญิงคนไหนหรอก หนูเป็นคนแรกที่พี่ทำให้”

“จริงปะเนี่ย ฮ่า...” ฉันหัวเราะออกมา พลางหันไปมองกระจกเห็นใบหน้าตัวเองแดงแจ๋อย่างเห็นได้ชัด เขาเดินเข้ามาหาฉันอีกครั้ง เอื้อมหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กที่วางไว้บนโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วเช็ดเหงื่อข้างแก้มให้ฉันเบา ๆ ด้วยท่าทีสบาย ๆ แต่ฉันสิ...หัวใจแทบหยุดเต้นไปเลยนะเว้ย

มือของพี่แทน ทั้งใหญ่ทั้งนุ่ม สัมผัสนั้นทำให้ใจฉันแทบละลายตรงหน้า

“หนูตัวร้อนนะ อย่าลืมดื่มน้ำเยอะ ๆ ล่ะ”

“ค่ะ ขอบคุณมากค่ะพี่” เขาไม่รู้ตัวรึไงที่ใบหน้าฉันร้อนแบบนี้เพราะเขาเนี่ย

ฉันรับผ้าขนหนูจากมือเขา ปลายนิ้วเราสัมผัสกันเพียงเสี้ยววิ แต่มันกลับทำให้ฉันรู้สึกเหมือนโดนชอร์ตไฟฟ้าแสนโวลต์

ฉันเผลอจ้องมองนัยน์ตาของเขา แล้วจู่ ๆ ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างที่ฉันอ่านเขาไม่ออก ไม่ได้...ฉันต้องละสายตาจากเขา ก่อนที่จะหลงเขาไปมากกว่านี้ ท่องไว้ในใจ

‘เขาเป็นเกย์ เขาเป็นเกย์ เขาเป็นเกย์’

พี่แทนยิ้มให้อีกครั้ง ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องไป จนประตูปิดลง ฉันทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้ รู้สึกเหมือนเพิ่งรอดจากการเผชิญอารมณ์ที่ควบคุมแทบไม่อยู่

“อะไรกัน พลังทำลายรุนแรงเวอร์ เกือบตายแนะ” ฉันกุมหัวใจตัวเองที่มันยังเต้นตึกตักไม่หยุด จิตใจเริ่มล่องลอยไปไกล แต่สุดท้ายมือถือที่อยู่ในมือก็สั่น เพราะได้รับข้อความ นั่นจึงทำให้ฉันหลุดจากภวังค์เพ้อฝันนั้นได้

Tan : วันนี้ให้พี่ไปส่งหนูนะครับ

ข้อความจากพี่แทนส่งมาให้ฉัน ในขณะที่พี่กรีนเดินเข้ามาพอดี

“เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเหรอมิ้น ขอโทษทีที่มาช้าพี่วุ่นกับคนในกอง มีแต่คนคุยเรื่องคิวของมิ้นเยอะไปหมด”

“เอ๊ะ แต่คิวถ่ายมิ้นเรื่องนี้มันหมดแล้วไม่ใช่เหรอคะ”

“เขาเพิ่มบทมาให้นะสิ แถมยังเป็นฉากจูบด้วยนะ”

“ว่าไงนะพี่กรีน! ใครยัดฉากจูบนั่นให้ฉันกันคะ” ฉันตบโต๊ะดังลั่น สีหน้าแสดงออกถึงความไม่พอใจ

“คุณแทนนะสิ”

“พี่แทน?” สิ้นคำของพี่กรีน ฉันถึงกับหน้าเหวอด้วยความไม่เข้าใจ พี่แทนเนี่ยนะยัดบทจูบให้ฉัน

“ใช่ ผู้ช่วยเขาเพิ่งยื่นบทให้พี่สด ๆ ร้อน ๆ  เลยนะ” พี่มิ้นยื่นบทนั้นมาให้ฉัน

เมื่อฉันเปิดอ่านดู บทส่วนที่เพิ่มเข้ามา ก็ยิ่งทำให้ฉันเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ มันมีปากจูบจริง ๆ แถมยังแซ่บจนลืมโลกด้วย ทำเอาฉันมือไม้อ่อนวางบทไว้บทโต๊ะเครื่องแป้งด้วยใจที่ล่องลอยเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ

“มิ้น...มิ้น”

“คะ?” พี่กรีนเรียกฉันที่อยู่ในอาการเหม่อ

“กลับไปพักก่อนไหม ปะพี่ไปส่ง” ฉันพยักหน้าเล็กน้อย แต่ในขณะนั้นฉันก็นึกถึงข้อความของพี่ที่บอกจะไปส่งฉัน

“พี่กรีน วันนี้มิ้นขอกลับเองดีกว่าค่ะ”

“แต่มิ้นไม่ได้เอารถมานะ” พี่กรีนเลิกคิ้วมองฉัน

“เดี๋ยวมิ้นเรียกรถจากแอปได้ค่ะ พี่กรีนไม่ต้องเป็นห่วง มิ้นแค่มีที่อยากไปนิดหน่อย”

“แน่ใจนะ...ว่าไม่ให้พี่ไปส่ง อย่าเครียดมากล่ะ ถ้าบทนี้มิ้นไม่โอเค พี่จะกลับไปคุยกับทางคนเขียนบทให้”

“ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวมิ้นขอไปอ่านทำความเข้าใจอีกหน่อย ถ้ามันไม่โอเคไม่ต้องให้ถึงมือพี่กรีนจัดการให้หรอกค่ะ”

“โอเค...มีอะไรอยากให้พี่ช่วยก็โทรหาพี่ล่ะ”

“ค่ะ” พี่กรีนเดินออกจากห้องไป ฉันหันไปจ้องมองตัวเองในกระจกอีกครั้ง

“พี่แทนเนี่ยนะ ใส่ฉากจูบมาให้ฉัน เขาต้องการอะไรกันแน่” ฉันหยิบมือถือขึ้นมา ก่อนจะตอบข้อความพี่แทนไป

Mint : ได้ค่ะ หนูมีเรื่องจะคุยกับพี่แทนพอดี เจอกันที่รถพี่นะคะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   7. จะ...จูบกับเกย์

    7จะ...จูบกับเกย์ฉันเดินออกมายืนรอที่ลานจอดรถด้วยท่าทีนิ่งขรึม กอดอกทอดสายตามองรถคันหรู ที่เคยเห็นมาเพียงครั้งหนึ่งเคลื่อนมาจอดตรงหน้าฉัน แต่ฉันยังคงยื่นนิ่งทื่อ เพราะสมองยังคิดถึงบทฉากใหม่ที่ถูกยัดเข้ามาอยู่“ขึ้นมาสิครับ” พี่แทนเลื่อนกระจกรถลง ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มนุ่มนวล หึ...คนที่ยัดฉากจูบมาให้ฉันดื้อ ๆ ยังมีหน้ายิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกฉันสะบัดตัวแสดงความไม่พอใจเล็กน้อย ก่อนจะขึ้นรถของเขารถคันหรูเคลื่อนตัวอย่างนุ่มนวลบนถนนยามค่ำคืน แสงไฟข้างทาง สาดส่องลอดผ่านกระจกมากระทบใบหน้าเขาถึงฉันจะโมโหพี่แทนอยู่ แต่พอมองหน้าที่ดูเย็น ๆ นิ่ง ๆ ของเขาก็ต้องยอมรับว่าทำให้ใจสงบ หล่อราวกับฉันเอื้อมไม่ถึง ว่าแล้วก็ได้แต่อิจฉาผู้ชายชะมัด จนอยากเกิดใหม่เป็นผู้ชายไปจีบเขาบ้าง แต่ก็คงได้แต่ฝันพี่แทนยังคงขับรถด้วยท่าทีนิ่งสงบ ไม่พูดอะไรออกมา ส่วนฉันก็เอาแต่มองหน้าต่างฝั่งตัวเอง ทั้งที่ใจสับสนวุ่นวายไปหมด“มิ้น...” เสียงพี่แทนทำลายความเงียบอย่างอ่อนโยน“ว่าไงคะ” ฉันตอบกลับแต่ไม่มองหน้าเขา จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกอยากทำให้พี่แทนรู้ว่า ฉันหงุดหงิดที่เขายัดบทให้ฉันไปจูบกับผู้ชาย (คนอื่น)“โมโหอะไร

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   6. ห้องแต่งตัว หัวใจเต้นระริก

    6ห้องแต่งตัว หัวใจเต้นระริก“โอ๊ย! เหนื่อยจังโว๊ย” ฉันสบถออกมา หลังกลับมาถึงคอนโดก็แทบสลบคาโซฟา มันทั้งเหนื่อยล้าไปทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะอินไปกับบทที่ได้รับมากไปหน่อย‘วันนี้เก่งมากครับ’ จู่ ๆ คำพูดที่พี่แทนพูดกับฉัน ก็วนเวียนอยู่ในหัวไม่หยุด จากใบหน้าบึ้งตึง เผลอยิ้มออกมาไม่รู้ตัวจนหยิบหมอนที่อยู่ใกล้มือมาปิดหน้าตัวเอง“กรี้ด...เขาชมฉันด้วย ฉันชอบเขาจัง พี่เกย์สุดหล่อขา...” หัวใจฉันมันเต้นตุบตับ ยิ่งกว่าเข้าซีนกับพระเอกในละครที่เคยแสดงด้วยกันซะอีกเอาเถอะ ฉันก็แค่หลงรักเขาข้างเดียว ยังไงซะ...เขาก็คงไม่หันมามองฉันหรอก แต่ถึงจะปลอบใจตัวเองขนาดนั้น หัวใจก็ไม่หยุดเต้นสักที‘เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!’ ฉันตบหน้าตัวเองเบา ๆ เพื่อเรียกสติตัวเอง ก่อนจะลุกเดินไปอาบน้ำเพื่อเข้านอน(วันรุ่งขึ้น)วันนี้คิวถ่ายฉันมีซีนเดียวเท่านั้น ก็ตามที่บอกแม้ฉันจะเล่นเป็นบทนำร่วมแต่บทแม่วัยสาวของฉัน มันไม่ได้เด่นมากขนาดนั้น ซึ่งนั่นเป็นเรื่องดีค่ะฉากในวันนี้ของฉันคือ รุ้งคุณแม่ยังสาว ต้องปกป้องลูกชายของตัวเองจากความจน และการโดนกดขี่จากคนรอบข้าง เสื้อผ้าที่ได้สวมใส่ก็เป็นผ้าฝ้ายสีซีด ต้องทำตัวให้ดูโทรมที่สุดเท่าที่

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   5 เข้ากองวันแรก

    5 เข้ากองวันแรกวันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นวันแรกของการถ่ายทำมาถึง แต่แทนที่ฉันจะได้สวมบทแม่ยังสาวและร้องห่มร้องไห้ในฉากแสนสะเทือนใจ กลับกลายเป็นว่าต้องมานั่ง รอ...รอ...และก็รอ เฮ้อ...สาเหตุไม่ใช่ใครที่ไหน ดีนี่ ดาราผู้รับบทช่วงวัยรุ่น ซึ่งเป็นช่วงวัยที่มีบทมากที่สุด มาสายกว่าชั่วโมง สีหน้าเธอดูเหนื่อยล้า และซีดเผือดเหมือนยังไม่ได้นอนผู้จัดการของเธอก็เอาแต่พ่นคำหยาบออกมา แม้แต่ฉันที่ได้ยินยังรำคาญหู โวยวายเรื่องสคริปต์ เรื่องฉาก เรื่องตารางถ่ายทำที่แน่นเกินไป ฉันที่นั่งฟังเงียบ ๆ พานนึกในใจว่าไม่ใช่ที่ดีนี่ไม่พร้อมหรอก น่าจะเป็นผู้จัดการของเธอต่างหากที่ไม่พร้อมจะทำหน้าที่นี้ฉันยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้เพื่อรอคิวถ่าย แต่...ดีนี่แสดงได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก ผ่านไปเทคแล้วเทคเล่าเกือบยี่สิบรอบ ผู้กำกับเริ่มถอนหายใจแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทีมไฟ ทีมกล้องเริ่มเบือนสายตาจากจอมอนิเตอร์ หันมามองหน้ากันแทนและคิวของฉันก็ถูกเลื่อนออกไปเรื่อย ๆ แต่ที่น่าหนักใจกว่า คือดีนี่เริ่มร้องไห้หนัก เธอนั่งขดตัวอยู่มุมห้องจนไม่ม

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   4. บทบาทนักแสดง

    4บทบาทนักแสดงพี่แทนยังคงส่งข้อความหาฉันไม่หยุดเพื่อถามความคืบหน้าว่าฉันจะรับเล่นบท ‘แม่วัยสาว’ รึเปล่าเล่นทั้งโทร ทั้งส่งข้อความ ด้วยน้ำเสียงหล่อละมุน ปนลูกอ้อนแบบนี้ ถึงใจฉันจะแข็งเป็นหิน แต่น้ำหยดลงหินทุกวันมันก็...แถมวันนี้พี่แทนยังสั่งให้พี่กรีนผู้จัดการส่วนตัวของฉัน มาหาฉันถึงห้องเพื่อรอฟังคำตอบ นี่เขากะจะมัดมือชกฉันชัด ๆ“มิ้น รับเล่นบทนี้เถอะ ถือว่าพี่ขอร้องพี่ไม่อยากโดนไล่ออกนะ” พี่กรีนยกมือไหว้ฉันทำเอาฉันตกใจ จนต้องรีบจับมือเขาไว้ให้เขานั่งลง“เดี๋ยวสิพี่กรีน พวกเขากดดันพี่ขนาดนั้นเลยเหรอคะ” ฉันเบิกตาโพลงมอง“ก็ไม่ได้พูดหรอก แต่พี่รู้สึกว่าทางคุณแทนเขาตั้งใจสร้างเรื่องนี้มากจริง ๆ ทุกคนก็คาดหวังว่ามิ้นจะรับเล่น ตอนนี้เหมือนสายตาพวกเขาจ้องมาที่พี่หมดเลยนะสิ พวกเบื้องหลังก็ทักมาไม่หยุดหย่อน ขอร้องนะน้องมิ้น งานอื่น ๆ พี่ไม่เคยจะบังคับ ตามใจมิ้นมาตลอด แต่เรื่องนี้พี่ขอเถอะนะ รับบทนี้นะ” น้ำเสียงที่สั่นเครือของพี่กรีนทำให้ฉันยิ่งรู้สึกว่าการไม่รับบทนี้ส่งผลกระทบให้ใครต่อหลายคนเกินไป“พี่กรีน พี่ไปดื่มน้ำเย็นให้หายร้อนก่อนดีไหม เดี๋ยวมิ้นขออ่านบทที่พี่แทนให้มาก่อน” พี่กรีนเงยห

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   3. ซีนเดียว...ล้านวิว

    3ซีนเดียว...ล้านวิวหลังจากฉันถ่ายทำบทแม่นางเอกละครเรื่องนั้นจบไป ฉันก็มีเวลาพักผ่อนนั่งไถโซเชียลเสียที ว่าผลตอบรับละครเป็นไงบ้างหลังออกอากาศไปห้าตอน เพราะยังไงซะบทฉันก็มีแค่ช่วงต้น ๆ กับตอนท้ายเท่านั้นแหละตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเป็นนักแสดงตัวประกอบ เคยอยู่วงการบันเทิงมานานพอจะรู้ว่า ‘ซีนแม่ร้องไห้’ ยังไงมันก็ไม่ใช่ไฮไลต์หรอก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับความรันทดของนางเอกกับพระเอก แต่...#ละครคุณแม่ปังมาก#แม่นางเอกเล่นดีเกิน#แท้จริงมิ้นคือนางเอก#ขอซีนแม่นางเอกเพิ่มได้ไหม#ร้องไห้ตามแม่เลยอ่ะT_T“อะไรกันเนี่ย!” ฉันพึมพำกับตัวเองขณะเลื่อนหน้าโซเชียลบนมือถือ เทรนด์แท็กอันดับ หนึ่งถึงห้าของประเทศ ณ เวลานี้ เป็นบทแม่ที่ฉันแสดงทั้งหมด แถมหลายคนยังตัดคลิปฉากฉันร้องไห้เต็มหน้าฟีดในนั้นมีคลิปหนึ่งที่ถูกรีทวีตเกือบเก้าหมื่นครั้ง เป็นคลิปตัดฉากฉันในบทแม่วิภา กำลังร้องไห้บอกลาลูกสาว ก่อนจะเดินหันหลังกลับไปพร้อมเสียงสะอื้นเงียบ ๆคลิปยาวไม่ถึงนาที ฉันจำได้ว่าใช้เวลาถ่ายจริง ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ‘Rrrrr’เสียงมือถือฉันดังขึ้นและพบว่า พี่กรีนผู้จัดการส่วนตัวของฉันโทรมา(นี่...มิ้นเห็นแท็กใน

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   2. เพราะบทนำ...มันเหนื่อยเกินไป

    2เพราะบทนำ...มันเหนื่อยเกินไป(หลังจากเลิกกอง)ฉันได้นำขนมที่เตรียมไว้แจกจ่ายให้กับทีมงานทุกคนเพราะไม่ใช่แค่นักแสดงที่เหนื่อยกับการทำงาน แต่ทีมงานทุกคนที่อยู่เบื้องหลังก็เหนื่อยไม่ต่างกัน แถมพอเลิกกองพวกเขาก็ยังไม่เลิกงานอีกสิ่งที่ฉันทำได้นั้นคือตั้งใจในสายอาชีพ ยิ่งฉันแสดงได้ดีเท่าไหร่ งานของพวกเขาก็จะเดินเร็วมากขึ้น (นักแสดงคนอื่นก็ต้องให้ความร่วมมือด้วยนะ)ในขณะที่ฉันกำลังจะโทรหาผู้จัดการส่วนตัว เสียงเปิดประตูห้องแต่งตัวก็ดังขึ้น“จะกลับเลยไหม เดี๋ยวพี่ไปส่งหนูเอง” ฉันหันหน้าไปทางเสียงนั้น‘พี่แทนเหรอ?’ พี่แทนที่นิ่ง เงียบ สุภาพเกินมนุษย์ปกติ แถมพูดเพราะเหมือนหลุดจากพระเอกในละคร ‘โอ๊ย! แบบนี้ยิ่งใช่เลย! เกย์ในอุดมคติ’“เอ่อ...เกรงใจค่ะพี่ เดี๋ยวพี่กรีนก็ไปส่งอยู่แล้ว” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงเบาอย่างสงบเสงี่ยมเช่นกัน ยังไงซะเขาก็เป็นถึงผู้อำนวยการ อีกทั้งยังเป็นคนเขียนบทอีกไม่ใช่แค่นั้น ไม่นานมานี้ฉันก็เพิ่งได้รู้มาว่า ต้นสังกัดของฉันก็กลายเป็นบริษัทในเครือของบริษัทครอบครัวเขาไปแล้ว“หื้ม...คุณกรีนเหรอ เขากลับไปแล้วนะ เมื่อกี้พี่เห็นเขาโดนเรียกตัวด่วนจากบริษัทนะครับ”“ว่าไงนะ! แล้ว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status