Share

ดวงดี

Author: 橙花
last update Last Updated: 2025-10-28 12:00:10

ซูเมี่ยวจินชี้บอกหินที่เธอต้องการให้สามีหยิบให้ หินในกองนี้ราคาไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันหยวน เธอจึงให้เขาหยิบมาเพียงสามก้อน เพราะกลัวว่าเงินที่นำมาจะไม่พอ

“ภรรยา พอแล้วเหรอครับ” ฉางเล่ยที่หยิบหินใส่รถเข็นถามขึ้น

“พอก่อนดีกว่าค่ะ ให้ร้านคิดเงินแล้วผ่าหินดูกันเถอะ” ซูเมี่ยวจินทั้งที่รู้ว่าหินก้อนใหญ่ทั้งสามนั้นเป็นหยกคุณภาพดีทั้งหมดบอกสามี

“ตกลงครับ พี่ชาย ช่วยคิดเงินแล้วเอาหินไปผ่าให้ด้วยครับ” ฉางเล่ยหันไปบอกพนักงานที่ยืนรออยู่ห่างออกไปนิดหน่อย

“เชิญมาคิดเงินกับผมทางนี้เลยครับ” พนักงานผายมือเชิญพวกเขาไปยังโต๊ะคิดเงินที่อยู่ไม่ไกลนัก

ซูเมี่ยวจินกับฉางเล่ยที่เข็นรถอยู่ตามไปติด ๆ ดีที่ร้านนี้ไม่มีคนเข้ามาอีก พวกเขาจึงไม่ต้องรอคิวให้เสียเวลา

“หินก้อนเล็กทั้งหมดห้าก้อน ราคา 800 หยวนครับ ส่วนก้อนใหญ่สามก้อนนั้นราคา 4,000 หยวนครับ” พนักงานคิดเงินตามขนาดของหิน

“นี่เงิน 4,800 หยวนค่ะ ไม่ทราบว่าต้องเสียค่าผ่าหินหรือเปล่าคะ”

“ไม่ต้องครับ นี่เป็นบริการฟรีของทางร้าน หากลูกค้าเปิดได้หยกก็ยังสามารถขายคืนให้กับร้านได้ด้วยนะครับ ร้านเรารับซื้อตามราคาตลาด” พนักงานอธิบาย

“ขอบคุณมากค่ะ ถ้าอย่างนั้นรบกวนคุณพาพวกเราไปผ่าหินดูสักหน่อย”

“เชิญทางนี้ครับ” พนักงานนำทางพวกเขาเข้าไปยังหลังร้านที่มีพนักงานและเครื่องผ่าหินตั้งอยู่ด้านหลังหลายเครื่อง

ซูเมี่ยวจินเดินเคียงข้างฉางเล่ยที่กำลังเข็นรถเข็นตามพนักงานไป เธออยากรู้มากว่าหินที่เปิดมาจะทำกำไรให้กับเธอมากแค่ไหน เพราะซูเมี่ยวจินไม่รู้ราคาหยกในยุคนี้เลยแม้แต่น้อย เธอจำเป็นจะต้องให้ร้านค้าตรวจสอบราคาให้เสียก่อน จึงจะรู้ว่าคราวหน้าเธอควรเลือกหินหยกแบบไหนถึงจะได้กำไรมากที่สุด

“ลุงลู่ รบกวนผ่าหินให้ลูกค้าด้วยครับ” พนักงานบอก

“อืม… เข็นรถมาจอดตรงนี้ครับ” ลุงลู่ คนผ่าหินเก่าแก่ของร้านกวักมือเรียกฉางเล่ย

“ฝากด้วยนะครับคุณลุง” ฉางเล่ยจอดรถเข็นไว้ข้างเก้าอี้ของเขาแล้วถอยออกไป

“หวังว่าพวกคุณจะโชคดีนะครับ ผมจะผ่าให้ดีที่สุด” ลุงลู่ยิ้มรับคำชายหนุ่มร่างใหญ่ที่เป็นลูกค้าคนแรกของวันนี้

ซูเมี่ยวจินกับฉางเล่ยพยักหน้ารับคำลุงลู่ ฉางเล่ยที่ไม่รู้ว่าภายในหินที่ภรรยาเขาเลือกมาจะมีหยกหรือไม่คอยลุ้นอยู่ตลอดเวลาที่ลุงลู่กำลังผ่าหินเลยทีเดียว

เสียงเครื่องผ่าดังไปทั่วบริเวณ แต่ละคนต่างลุ้นว่าหินก้อนแรกจะมีหยกหรือเปล่า มีเพียงซูเมี่ยวจินที่ไม่ได้ลุ้นอะไร เพราะเธอรู้ดีว่าหินนั้นมีหยกอยู่ แค่ไม่รู้ว่ามันจะขายได้เงินสักเท่าไหร่กันแน่

“โอ้! โชคดีจริง ๆ มีหยกอยู่ด้วย นี่เป็นหยกแก้วเนื้อดีเลยนะครับ” ลุงลู่อุทานเสียงดัง

“ไม่น่าเชื่อ! พวกคุณดวงดีจริง ๆ ครับ ทั้งที่เป็นครั้งแรกในการซื้อหินแท้ ๆ” พนักงานหันไปชมลูกค้าของตัวเอง เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าหินราคาไม่กี่ร้อยหยวนกลับทำให้ลูกค้าของเขาได้กำไรเป็นหมื่นหยวนเลยทีเดียว

“ไม่ทราบว่าหยกชนิดนี้และขนาดเท่านี้จะขายได้ราคาเท่าไหร่คะ” ซูเมี่ยวจินเอ่ยขึ้น

“อ่า… ถ้าขนาดเท่านี้และเนื้อดีแบบนี้ อย่างต่ำ ๆ ก็สักหนึ่งหมื่นห้าพันหยวนครับ”

“ราคาดีขนาดนี้เลยเหรอครับ” ฉางเล่ยอดจะถามขึ้นมาไม่ได้

“แน่นอนว่าดีสิครับ หยกแก้วสีนี้แถมยังเนื้อดีขนาดนี้ไม่ใช่จะหาได้ง่าย ๆ ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าต้องการขายคืนให้ร้านหรือเปล่าครับ” พนักงานถามอย่างตื่นเต้น

“รอดูหินก้อนอื่นกันก่อนดีกว่าค่ะ แล้วฉันจะตัดสินใจอีกทีว่าจะขายไหม” ซูเมี่ยวจินที่เลือกหินหยกมาหลายแบบ พอรู้ว่าหยกแบบนี้ราคาดีก็ยิ่งอยากรู้ว่าหยกแบบอื่นที่เธอเลือกมานั้นจะมีราคาสูงสักแค่ไหนกัน

“ตกลงครับ ลุงลู่ รบกวนด้วยนะครับ” พนักงานหันไปหาลุงลู่อีกครั้ง

“ไม่มีปัญหา ขอให้ได้หยกดี ๆ อีกนะครับ” ลุงลู่กล่าวอวยพรเช่นกัน

ซูเมี่ยวจินกับฉางเล่ยพยักหน้ารับคำลุงลู่และรอให้เขาผ่าหินก้อนต่อไป ลุงลู่ค่อย ๆ ผ่าหินอย่างระมัดระวังมากกว่าเดิม เขากลัวว่าถ้าผ่าไม่ดีแล้วหยกที่ออกมาจะเสียหายมากเกินไปจนเสียราคา

ครั้งนี้ลุงลู่อุทานขึ้นอีกครั้ง แต่ไม่ดังเท่าครั้งแรก เพราะหยกชิ้นนี้มีคุณภาพปานกลางเท่านั้น แต่ก็นับว่ามีราคาหลักพันหยวนเลยทีเดียว ลุงลู่นำหินดิบก้อนต่อไปมาผ่าเปิดดูทันที เขาอยากรู้นักว่าลูกค้าสองคนนี้จะดวงดีขนาดไหนกันแน่

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป หินทั้งหมดถูกผ่าออกมาและมีหยกอยู่ทุกก้อน ยิ่งกับหินก้อนใหญ่ทั้งสามด้วยแล้ว ทำให้พนักงานขายและลุงลู่ถึงกับเบิกตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อ เพราะหินทั้งสามก้อนนั้นเป็นหยกแก้วและหยกน้ำแข็ง ราคาตามขนาดหยกจะต้องมากกว่าหนึ่งแสนหยวนแน่

“เอ่อ… ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงสนใจจะขายหยกทั้งหมดคืนให้ทางร้านหรือไม่ครับ”

พนักงานขายกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เขาไม่คิดว่ามือใหม่สองคนนี้จะสามารถเลือกหินดิบราคาไม่กี่พันหยวนให้กลายเป็นหินหยกราคาหลายแสนหยวนได้จริง ๆ แต่หน้าที่ของเขาคือนำหินหยกเหล่านี้ไปขายต่อให้เจ้าของร้านอัญมณี เขาจึงต้องการซื้อหินหยกทั้งหมดกลับมาเพื่อทำกำไรต่อ

“สามี เราขายหมดเลยหรือจะเก็บไว้สักก้อนดีคะ” ซูเมี่ยวจินไม่รู้ว่าถ้าเก็บหยกที่ดีที่สุดเอาไว้สักก้อนสองก้อน ในภายภาคหน้าราคาของมันจะเพิ่มสูงขึ้นหรือไม่

“ผมว่าเก็บเอาไว้สักหน่อยก็ดีนะครับ เผื่อว่าคุณอยากเอาไปทำเครื่องประดับ”

“ถ้าอย่างนั้นหยกน้ำแข็งกับหยกแก้วฉันเก็บไว้อย่างละก้อนก็แล้วกันค่ะ ที่เหลือขายคืนให้ร้านนะคะ” ซูเมี่ยวจินตัดสินใจ

“ตกลงครับ รบกวนพี่ชายคิดเงินค่าหยกให้พวกเราด้วยนะครับ ไม่ทราบว่าเรายืมรถเข็นหลังจากรับเงินแล้วสักพักได้ไหมครับ ผมจะขนหินหยกที่เหลือไปไว้ที่รถ” ฉางเล่ยหันไปบอกพนักงานขาย

“ไม่มีปัญหาครับ ส่วนเรื่องราคารับซื้อ ผมจะไปเรียกผู้จัดการมาประเมินให้นะครับ”

ซูเมี่ยวจินกับฉางเล่ยพยักหน้ารับคำ พวกเขาดูเวลาแล้วเห็นว่าตอนนี้บ่ายโมงกว่าแล้ว คงเพราะพวกเขาเพิ่งกินข้าวไปจึงไม่รู้สึกหิว

ไม่นานนักผู้จัดการร่างท้วมก็วิ่งออกมาเพื่อดูหยกที่พนักงานเพิ่งบอก เขาอยากซื้อหยกทั้งหมดจากลูกค้ารายนี้ ต้องรู้ว่าหยกแก้วและหยกน้ำแข็งนั้นสามารถขายต่อได้ในราคาสูงเสียดฟ้าเลยทีเดียว หากว่าเขาได้มาขายเพิ่ม ร้านก็จะมีกำไรมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว ยิ่งพอเขาเห็นหยกเนื้อดีตรงหน้าทั้งหมด ผู้จัดการถึงกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะกล่าวแนะนำตัวอย่างนอบน้อม

“สวัสดีครับ ผมผู้จัดการเถา ได้ยินว่าพวกคุณอยากขายคืนหยก หากว่าไม่รังเกียจ ผมอยากจะขอซื้อหยกทั้งหมดเลยได้หรือไม่ครับ รับรองว่าราคาผมให้อย่างยุติธรรม”

“เอ่อ… ภรรยา เอายังไงดีครับ หรือเราจะเก็บไว้แค่หยกน้ำแข็งก้อนใหญ่ดี” ฉางเล่ยเห็นท่าทางของผู้จัดการที่แววตาเป็นประกายอย่างอยากได้ก็อึกอักถามภรรยา

“ถ้าคุณอยากเก็บไว้แค่ก้อนเดียวก็ได้ค่ะ ยังไงวันนี้เราก็แค่มาเดินเที่ยวเล่นกันเท่านั้น”

“ผู้จัดการเถาครับ เราขอเก็บหยกน้ำแข็งไว้ก้อนเดียวครับ ที่เหลือเราจะขายให้คุณ”

ฉางเล่ยหยิบหยกน้ำแข็งที่ผ่าออกเป็นสองส่วนมาไว้ในอ้อมแขนอย่างหวง ๆ เขาเห็นเนื้อหยกน้ำแข็งนี้สวยมาก เลยอยากให้ภรรยาเอาไปทำเครื่องประดับ

“อ่า… ขอบพระคุณมากครับคุณลูกค้า ผมจะรีบคิดเงินให้นะครับ” ผู้จัดการเถาพอรู้ว่าจะได้หยกแก้วเพิ่มอีกก้อนก็รีบค้อมกายคำนับฉางเล่ยกับซูเมี่ยวจินปะหลก ๆ

ผู้จัดการเถาหยิบเครื่องคิดเลขออกมาแล้วเริ่มคิดเงินจากหยกชิ้นเล็กทั้งห้าก้อนก่อน เนื่องจากหยกทั้งหมดมีทั้งหยกแก้วและหยกเนื้อดีปานกลางอยู่ เขาจึงคิดราคารวมให้ที่ห้าหมื่นหยวน อย่างไรเสียการนำหยกพวกนี้ออกประมูลจะได้กำไรสูงกว่านี้อีกหลายเท่านัก ส่วนหยกแก้วก้อนใหญ่ทั้งสองก้อนนั้น เมื่อคิดตามน้ำหนักแล้วปรากฏว่าร้านของเขาจะต้องจ่ายให้สองสามีภรรยาคู่นี้มากถึง 4.5 แสนหยวน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ซูเมี่ยวจิน   ถูกจับตา

    “หยกของคุณทั้งหมดผมรับซื้อในราคาห้าแสนหยวน ไม่ทราบพวกคุณคิดยังไงครับ”ผู้จัดการเถาปาดเหงื่อที่ไหลซึมออกมา เขาไม่รู้ว่าลูกค้าทั้งสองจะทราบไหมว่าหยกแก้วทั้งสองก้อนใหญ่นั้นหากนำไปประมูลแล้วมูลค่าของมันจะสูงเสียดฟ้าเลยทีเดียวเชียวนะซูเมี่ยวจินคิดอยู่ครู่หนึ่ง เนื่องจากเธอไม่ทราบราคาในการประมูลหยกล้ำค่าแต่แรก เมื่อหันไปมองสามีที่ตอนนี้อ้าปากค้างไปเสียแล้ว ซูเมี่ยวจินจึงได้แต่ต้องพยักหน้ารับคำผู้จัดการเถาว่าเธอรับราคานี้ได้“รบกวนพวกคุณรอที่นี่สักครู่นะครับ ผมจะไปจัดการนำเงินเข้าไว้ในบัตรให้คุณ”“ตกลงค่ะ” ซูเมี่ยวจินกล่าวด้วยใบหน้านิ่งเรียบเหมือนปกติ เธอไม่ได้สนใจว่าร้านจะจ่ายเงินให้พวกเธอยังไงแต่แรก เมื่อได้ยินว่าผู้จัดการสามารถนำเงินเข้าบัตรกดเงินได้ก็ทำให้เธอโล่งใจไม่น้อย นับว่าเมืองเถิงซงนี้ก้าวหน้ามากกว่าเมืองเจิ้งไห่ที่สามารถนำเงินโอนเข้าในบัตรกดเงินได้ฉางเล่ยหลังจากตกตะลึงอยู่พักใหญ่ เมื

  • ซูเมี่ยวจิน   ดวงดี

    ซูเมี่ยวจินชี้บอกหินที่เธอต้องการให้สามีหยิบให้ หินในกองนี้ราคาไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันหยวน เธอจึงให้เขาหยิบมาเพียงสามก้อน เพราะกลัวว่าเงินที่นำมาจะไม่พอ“ภรรยา พอแล้วเหรอครับ” ฉางเล่ยที่หยิบหินใส่รถเข็นถามขึ้น“พอก่อนดีกว่าค่ะ ให้ร้านคิดเงินแล้วผ่าหินดูกันเถอะ” ซูเมี่ยวจินทั้งที่รู้ว่าหินก้อนใหญ่ทั้งสามนั้นเป็นหยกคุณภาพดีทั้งหมดบอกสามี“ตกลงครับ พี่ชาย ช่วยคิดเงินแล้วเอาหินไปผ่าให้ด้วยครับ” ฉางเล่ยหันไปบอกพนักงานที่ยืนรออยู่ห่างออกไปนิดหน่อย“เชิญมาคิดเงินกับผมทางนี้เลยครับ” พนักงานผายมือเชิญพวกเขาไปยังโต๊ะคิดเงินที่อยู่ไม่ไกลนักซูเมี่ยวจินกับฉางเล่ยที่เข็นรถอยู่ตามไปติด ๆ ดีที่ร้านนี้ไม่มีคนเข้ามาอีก พวกเขาจึงไม่ต้องรอคิวให้เสียเวลา“หินก้อนเล็กทั้งหมดห้าก้อน ราคา 800 หยวนครับ ส่วนก้อนใหญ่สามก้อนนั้นราคา 4,000 หยวนครับ” พนักงานคิดเงินตามขนาดข

  • ซูเมี่ยวจิน   ตลาดพนันหิน

    “ไม่รู้ว่าป่านนี้พวกคุณโจวจะเป็นยังไงบ้างนะครับ” ฉางเล่ยพูดระหว่างที่กำลังกินอาหารที่สั่งไปก่อนหน้านี้ พวกเขาตื่นสายจนไม่ได้ออกมาส่งทหารพวกนั้น“พวกเขาคงกลับไปทำหน้าที่แล้วล่ะค่ะ คุณไม่ต้องกังวลไปหรอก”“ผมเห็นพวกเขาแล้วก็อยากเป็นทหารอย่างพวกเขาบ้าง สวัสดิการทหารดีมากจริง ๆ ผมจะได้ปกป้องคุณกับครอบครัวได้ด้วย” ฉางเล่ยเอ่ย“แต่ฉันไม่อยากให้คุณลำบากนะคะ เราไม่มีเส้นสาย ถ้าคุณสมัครเป็นทหาร กว่าตำแหน่งของคุณจะก้าวหน้าก็คงอีกหลายสิบปีเลยล่ะ” ซูเมี่ยวจินส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย เธอไม่คิดว่าอาชีพทหารจะเหมาะกับสามีเธอ แล้วเธอก็ไม่อยากให้เขาต้องไปเสี่ยงอันตรายในหน้าที่การงานแบบนี้“คุณคิดอย่างนั้นเหรอครับ” ฉางเล่ยเอ่ยอย่างเสียดายที่ภรรยาไม่อยากให้เขาเป็นทหาร“หรือคุณอยากทิ้งฉันกับครอบครัวไปล่ะคะ” ซูเมี่ยวจินตัดสินใจพูดเรื่องสำคัญ หากเขาสมัครทหารก็จะต้องไปพักอยู่ที่ค

  • ซูเมี่ยวจิน   แยกย้าย

    “ถ้าอย่างนั้นฉันจะวนรถหาโรงแรมสักแห่งนะคะ” ซูเมี่ยวจินบอก“ขอบคุณมากครับ” ทั้งสามที่อยู่หลังรถรีบเอ่ยขึ้นพร้อมกัน เขาไม่คิดว่าผู้หญิงเย็นชาคนนี้ที่จริงก็ไม่ได้ใจร้ายใจดำอะไร ไม่แปลกใจที่สามีเธออย่างฉางเล่ยจะภูมิใจที่มีซูเมี่ยวจินเป็นภรรยา เพราะหลายครั้งที่คุยกัน ฉางเล่ยมักจะอวยความเก่งกาจของภรรยาเขาให้ทั้งสามฟังอย่างไม่อายเลยสักนิดซูเมี่ยวจินขับรถวนหาโรงแรมไม่นานก็พบกับโรงแรมเอกชนแห่งหนึ่ง เธอไม่รอช้าที่จะจอดรถด้านหน้าแล้วให้สามีไปสอบถามเรื่องการเปิดห้องพักสักหลายวันทันที ซูเมี่ยวจินคิดว่าจะอยู่ที่โรงแรมนี้จนกว่าการพนันหินเสร็จสิ้นลง ด้านโจวอู่หมิงกับลูกน้องก็สะพายกระเป๋าลงไปพร้อมฉางเล่ยด้วยเช่นกันฉางเล่ยไปสอบถามไม่นานก็เดินกลับมาที่รถแล้วบอกรายละเอียดกับซูเมี่ยวจินเรื่องห้องพักของโรงแรมแห่งนี้“ภรรยาครับ ราคาห้องพักธรรมดาคืนละ 30 หยวน ห้องพิเศษคืนละ 50 หยวน คุณจะให้ผมจองห้องพักแบบไหนดีครับ แล้วเราจะพักกันสักกี่วัน”

  • ซูเมี่ยวจิน   10 ชั่วโมง

    ระหว่างเดินทาง ฉางเล่ยหันไปคุยกับทหารที่อยู่หลังรถจนรู้จักชื่อเสียงเรียงนามกันทั้งหมด ซูเมี่ยวจินปกติไม่ชอบคุยกับคนแปลกหน้า เธอจึงฟังสิ่งที่สามีคุยกับพวกเขาเท่านั้น“พวกคุณย้ายที่ประจำการกันหรอกเหรอครับ แล้วทำไมถึงได้ถูกดักทำร้ายล่ะครับ”“คนพวกนั้นน่าจะเป็นโจรที่ประจำอยู่เส้นทางนี้น่ะครับ พวกเราก็ไม่คิดว่าจะถูกปล้นทั้งที่ยังสวมเครื่องแบบอยู่” ฟู่จือหยางตอบ“น่ากลัวมากเลยนะครับ ดีที่ผมกับภรรยาไม่ได้พบพวกมันก่อน ไม่อย่างนั้นคงลำบากกว่าพวกคุณมากแน่” ฉางเล่ยพูดคุยอย่างเป็นกันเอง“สามี ข้างหน้าน่าจะเป็นเมืองเหยียนซานแล้ว เราจะได้แวะหาอะไรกินกันก่อน”“ครับ คุณขับหาร้านอาหารก่อนเลย ตอนนี้ยังไม่สายมากนัก โชคดีที่เรามาถึงเร็ว”“ตกลงค่ะ” ซูเมี่ยวจินรับคำแล้วสอดส่ายสายตามองหาร้านอาหารในเมืองไม่ถึง 15 นาที ซูเม

  • ซูเมี่ยวจิน   เพื่อนร่วมทาง

    โจวอู่หมิงหันไปพยักหน้าให้ลูกน้องทั้งสองคนออกไปจากที่ซ่อนเพื่อดูว่าผู้หญิงที่มาช่วยพวกเขาไว้นั้นหน้าตาเป็นยังไง“คุณช่วยพวกเราได้ยังไงครับ” โจวอู่หมิงที่เดินออกมาถามหญิงสาวร่างสูงโปร่งแต่สายตาของเธอช่างเย็นชาเสียเหลือเกิน“ใช่ ๆ ทำไมพวกเราไม่ได้ยินเสียงการต่อสู้เลยล่ะครับ” ฟู่จือหยางรีบถามต่อ“พวกคุณมีรถกันหรือเปล่า?” ซูเมี่ยวจินไม่สนใจตอบกลับคนแปลกหน้า เรื่องการต่อสู้ของเธอ เธอไม่อยากให้พวกเขารู้มากนัก“รถพวกเราถูกยิงพังหมดแล้วครับ แต่สัมภาระยังอยู่ในรถห่างจากตรงนี้ประมาณห้ากิโลเมตรครับ” ซ่งเซียวตอบ“ถ้าอย่างนั้นไปพักที่รถฉันก่อน ตามมา” น้ำเสียงเย็นชาของซูเมี่ยวจิน ทำให้ทั้งสามไม่กล้าถามเรื่องก่อนหน้านี้อีกระหว่างเดินออกจากป่า ทั้งสามคนมองเห็นศพคนร้ายนอนคว่ำหน้าอยู่คนหนึ่ง ที่ด้านหลังมีรูเจาะทะลุเข้าไปตรงตำแหน่งหัวใจ พวกเขาเพิ่งเห็นว่าใน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status