LOGIN“ฉันขอขายในราคาสองแสนสองหมื่นหยวนได้ไหมคะ หรือว่าคุณมีเงินไม่พอ”
“อ่า… ตกลงครับ เพียงแต่รบกวนพวกคุณรอผมที่ร้านสักพักนะครับ ผมต้องไปถอนเงินจากธนาคารเพื่อนำมาซื้อเห็ดของคุณก่อน” เจ้าของร้านตัดสินใจยอมรับข้อตกลง ในเมื่อเขามีเห็ดดอกนี้แล้ว กำไรที่จะได้รับหลังจากนี้ก็นับว่ามากพอให้เขาอยู่ได้อย่างสบายไปอีกหลายปี
“ตกลงค่ะ พวกเราจะรอคุณที่นี่ อ้อ! คุณต้องการพิษงูหรือเปล่าคะ ครั้งนี้เราได้งูมามากกว่าหนึ่งร้อยตัว ระหว่างที่รอจะได้รีดพิษออกมาไว้ให้ก่อน” ซูเมี่ยวจินไม่อยากรออยู่เฉย ๆ เธอนึกเรื่องพิษงูขึ้นมาได้พอดี
“โอ้! ขอบคุณมากครับ ถ้าอย่างนั้นพวกคุณรอสักครู่ ผมจะไปเอาตลับรีดพิษมาให้”
เจ้าของร้านรีบเดินเข้าไปด้านใน โชคดีที่ครั้งก่อนเขาซื้อตลับมาเพิ่ม ไม่อย่างนั้นพิษงูมากมายขนาดนี้ เขาคงเสียไปเปล่า ๆ แล้ว
ฉางเล่ยรับถุงตลับรีดพิษมาถือไว้ จากนั้นเจ้าของร้านก็ขอตัวออกไปโดยกลับด้านป้ายหน้าร้านว่าปิด เพื่อไม่ให้มีลูกค้าเข้าไปรบกวนสองสามีภรรยา
หนึ่งชั่วโมงต่อมา เจ้าของร้านแบกกระเป๋าที่เต็มได้ด้วยเงินจำนวนสองแสนสองหมื่นหยวนเข้ามาในร้าน เขานึกถึงคำถามของผู้จัดการธนาคารที่ตกใจเมื่อเขาบอกว่าต้องการถอนเงินจำนวนมากออกมาก็นึกขำ ตอนนี้เงินในบัญชีของเขาเหลือเพียงไม่กี่ร้อยหยวน ครั้งนี้เขากล้าลงทุนด้วยเงินทั้งหมด แน่นอนว่ากำไรที่เขาจะได้รับย่อมคุ้มค่ากับการลงทุน
“นี่เป็นเงินทั้งหมดสองแสนสองหมื่นหยวนครับ” เถ้าแก่ส่งกระเป๋าเงินให้กับฉางเล่ย
“ขอบคุณค่ะ/ครับ” ซูเมี่ยวจินกับฉางเล่ยขอบคุณเจ้าของร้านพร้อมกัน
“งูของพวกคุณมีกี่ตัวครับ” เจ้าของร้านมองงูจำนวนมากในตะกร้าที่วางอยู่
“ทั้งหมด 113 ตัวครับ” ฉางเล่ยบอกเจ้าของร้านหลังจากรับกระเป๋ามาวางเอาไว้ข้างตะกร้าเห็ดหลินจือที่เหลืออีก 12 ดอก
“อืม… ผมขอคิดเงินให้สักครู่นะครับ” เจ้าของร้านเดินกลับไปหลังโต๊ะคิดเงิน เขาเก็บเห็ดหลินจือแดงที่สองสามีภรรยาวางเอาไว้ให้หนึ่งดอกใส่กล่องไม้อย่างดีเอาไว้แล้วจึงนำเครื่องคิดเลขมาคิดราคางูพิษทั้งหมด
“ภรรยา เงินมากขนาดนี้เราจะเอาไปฝากธนาคารก่อนหรือเปล่าครับ” ฉางเล่ยกระซิบถามซูเมี่ยวจิน
“ไม่ต้องค่ะ ฉันจะเก็บเอาไว้ซื้อของเข้าร้านและนำไปพนันหินทีหลัง ถ้าเงินเหลือหลังจากการพนันหิน เราค่อยเอากลับมาฝากธนาคารก็ยังไม่สาย” ซูเมี่ยวจินบอก
“ตกลงครับ เกิดมาผมก็เพิ่งจะเคยเห็นเงินมากขนาดนี้ ถ้าพ่อกับแม่รู้คงตกใจจนแทบเป็นลมแน่เลยครับ” ฉางเล่ยเอ่ยอย่างตื่นเต้น
“เรื่องนี้อย่าให้พวกท่านรู้เลยดีกว่าค่ะ ฉันไม่อยากให้พวกท่านกังวล”
“ได้ครับ ผมจะไม่บอกใคร” ฉางเล่ยพยักหน้ารับคำภรรยา
“พวกคุณมาทางนี้สักครู่ครับ ผมคิดเงินค่างูพิษทั้งหมดให้แล้ว ครั้งนี้พวกคุณไม่ได้แยกดีงูออกมาให้ผม ผมเลยขอคิดค่างูทั้งตัวโดยรับซื้อตัวละ 20 หยวน ส่วนพิษงูก็ซื้อราคาเดิม คือตลับละ 10 หยวน รวมทั้งหมดเป็นเงิน 3,390 หยวนครับ”
“ตกลงค่ะ ขอบคุณเถ้าแก่ที่รับซื้อของจากเรานะคะ” ซูเมี่ยวจินกล่าว
“พวกคุณรอสักครู่นะครับ ผมจะไปเอาเงินออกมาให้” เจ้าของร้านเดินกลับเข้าไปหลังร้านเพื่อเปิดเซฟและนำเงินออกมาอีกครั้ง
ครั้งนี้ซูเมี่ยวจินเป็นคนรับเงินเอง เธอบอกลาเจ้าของร้านและออกไปพร้อมตะกร้าเห็ดหลินจือแดงที่เหลือ เจ้าของร้านมองตามหลังสองสามีภรรยาพร้อมรอยยิ้ม พรุ่งนี้เขาคงต้องปิดร้านอีกหลายวันเพื่อนำเห็ดไปประมูลที่เมืองหลวง โชคดีที่เขารู้จักคนในตระกูลอ้ายอยู่บ้าง ถึงแม้ครั้งก่อนเขาจะต้องขายเห็ดหลินจือแดงไปในราคาเพียงสามเท่าจากที่รับซื้อมา แต่มันก็นับว่าคุ้มค่าแล้ว
ทั้งสองกลับถึงบ้านในเวลาไม่นาน พ่อแม่ตอนนี้กำลังติดพันกับลูกค้าที่มาร้านช่วงเที่ยงวัน พวกเขาจึงไม่ได้ออกไปทักทายลูกชายกับลูกสะใภ้ แต่พวกเขาได้ยินเสียงรถที่เข้ามาจอดด้านหลังบ้านแล้วก็สบายใจว่าลูก ๆ กลับมาอย่างปลอดภัย
ซูเมี่ยวจินกับฉางเล่ยกินอาหารที่หลิวเอ้อหลิงวางเอาไว้บนโต๊ะเสร็จก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง ฉางเล่ยไปช่วยพ่อดูร้านค้า ส่วนซูเมี่ยวจินนำกระเป๋าเงินและตะกร้าเห็ดหลินจือกลับเข้าห้องไปซ่อนไว้ใต้เตียงนอน จากนั้นเธอจึงนำสมุดบัญชีมาลงรายรับที่เพิ่งได้มาเอาไว้อย่างละเอียด เมื่อลงเสร็จแล้ว ซูเมี่ยวจินคิดว่าการเก็บเห็ดหลินจือแดงจะต้องหากล่องมาใส่ให้ดีกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเห็ดอาจเสียหายได้
มื้อเย็นวันนั้น ซูเมี่ยวจินบอกพ่อแม่สามีว่าจะไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามาเก็บไว้ในโกดังให้พวกท่าน
“ทำไมลูกต้องซื้อมาเก็บไว้ก่อนล่ะ” หลิวเอ้อหลิงถามอย่างงง ๆ
“หนูกับฉางเล่ยมีธุระต้องไปต่างจังหวัดกันหลายวันค่ะ พวกเราเลยกลัวว่าของในร้านจะไม่พอขาย พรุ่งนี้เลยอยากไปซื้อของมาเก็บเอาไว้ให้ก่อน”
“อ่า… เป็นอย่างนี้นี่เอง ในเมื่อพวกลูกวางแผนกันไว้แล้ว แม่กับพ่อก็ไม่ว่าอะไร”
คืนนั้นซูเมี่ยวจินนำเงินเก็บในกระเป๋ามานับดู เธอพบว่ามีเงินสดอยู่เกือบเจ็ดพันหยวน รวมกับเงิน 3,390 หยวน ก็เพียงพอให้เธอซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามาไว้ในโกดังให้พ่อแม่สามีแล้ว ส่วนเงินในกระเป๋าใบใหญ่ยังคงถูกเก็บไว้เป็นอย่างดี ซูเมี่ยวจินจดรายการของที่ต้องซื้อในวันพรุ่งนี้ รวมทั้งกล่องไม้สำหรับเก็บสมุนไพรอย่างดีที่จะลืมไม่ได้
กว่าที่ซูเมี่ยวจินจะได้เข้านอนก็เกือบห้าทุ่มแล้ว ฉางเล่ยตอนนี้นอนหลับไปก่อนหน้าเธอไม่นานนัก เขาบอกเธอก่อนนอนว่าพรุ่งนี้จะขับรถให้เธอนั่งจึงรีบนอนพักผ่อนให้เพียงพอเสียก่อน ซูเมี่ยวจินมองสามีตัวโตอย่างเอ็นดู เขาทั้งที่รู้ดีว่าร่างกายของเธอตอนนี้แข็งแรงกว่าเขาเสียอีก แต่เขาก็ยังคงดูแลเธอเป็นอย่างดีเหมือนกับว่าเธอเป็นหญิงสาวธรรมดา ๆ
สายวันต่อมา หลังจากซูเมี่ยวจินกับฉางเล่ยช่วยพ่อแม่ดูแลร้านจนไม่มีลูกค้าแล้ว พวกเขาก็พากันขึ้นรถออกจากบ้านไปยังเมืองมณฑลเพื่อซื้อของ
ซูเมี่ยวจินกับฉางเล่ยไปถึงร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าตอนสิบโมงครึ่ง เธอเดินเข้าไปสั่งซื้อวิทยุ 50 เครื่อง และพัดลม 40 เครื่องอย่างรวดเร็ว
“โอ้! ทำไมวันนี้ถึงได้ซื้อเยอะมากขนาดนี้ล่ะคะคุณผู้หญิง” เจ้าของร้านถามอย่างสงสัย
“ฉันกับสามีจำเป็นต้องไปธุระที่ต่างเมืองหลายวัน เลยกลัวว่าของที่ร้านจะไม่พอขายน่ะค่ะ” ซูเมี่ยวจินตอบอย่างตรงไปตรงมา
“พวกคุณรอสักครู่นะคะ ฉันจะให้พนักงานนำสินค้าใส่กล่องแล้วเอาไปส่งที่รถให้ค่ะ”
“ขอบคุณเจ้าของร้านมากค่ะ ไม่ทราบราคาทั้งหมดเท่าไหร่คะ” ซูเมี่ยวจินถาม
“ทั้งหมดฉันลดให้เหลือราคา 2,600 หยวนค่ะ ฉันคิดราคาวิทยุแค่เครื่องละ 20 หยวน ส่วนพัดลมฉันคิดให้ที่เครื่องละ 40 หยวนค่ะ” เจ้าของร้านบอก
“นี่เงิน 2,600 หยวนค่ะ” ซูเมี่ยวจินนับเงินในกระเป๋าส่งให้เจ้าของร้าน
“ขอบคุณมากค่ะคุณผู้หญิง” เจ้าของรับเงินมานับอีกครั้งก่อนจะใส่ลงในลิ้นชักโต๊ะ
ซูเมี่ยวจินพยักหน้ารับคำ จากนั้นเธอหันไปกระซิบบอกฉางเล่ยให้รอคนของร้านแล้วเอาสินค้าไปเรียงไว้บนหลังรถ ส่วนเธอจะไปซื้อนาฬิกาที่ร้านอีกด้านหนึ่งแล้วจะไปหาเขาที่รถ
ฉางเล่ยพยักหน้ารับคำภรรยา เขาคิดว่าเธอคงอยากรีบซื้อของและรีบกลับบ้านจึงไม่ได้คิดมากอะไร
ซูเมี่ยวจินพอถึงร้านขายนาฬิกาเจ้าประจำก็ไม่รอช้า เธอบอกความต้องการให้กับเจ้าของร้านทราบทันที
“คุณผู้หญิงรอสักครู่นะครับ ผมจะให้พนักงานขายเลือกนาฬิกาตามที่คุณต้องการ”
“ได้ค่ะ ขอบคุณเถ้าแก่มากนะคะ ไม่ทราบราคานาฬิกาทั้งหมดเท่าไหร่คะ”
“คุณซื้อนาฬิกามากขนาดนี้ ผมคิดราคาเรือนละ 20 หยวนก็พอครับ”
“นี่เงิน 2,000 หยวนค่ะ รบกวนเถ้าแก่บอกพนักงานใส่กล่องและเอาไปส่งที่รถให้ฉันด้วยนะคะ ฉันจะนำทางไปเอง” ซูเมี่ยวจินรู้ดีว่านาฬิกามากขนาดนี้เธอคงไม่สามารถเอาไปได้หมดในครั้งเดียว
“ไม่มีปัญหาครับ รอสักครู่นะครับ” เจ้าของร้านตะโกนบอกพนักงานทันที
ซูเมี่ยวจินยืนรออยู่ 20 นาที พนักงานของร้านก็เข็นรถเข็นที่เต็มไปด้วยกล่องนาฬิกาออกมาหน้าร้าน“ฉันขอตัวก่อนนะคะเถ้าแก่” ซูเมี่ยวจินบอกลา“โอกาสหน้ามาใหม่นะครับ เอาของไปส่งคุณผู้หญิงดี ๆ นะ” เจ้าของร้านบอกพนักงานที่กำลังเข็นรถตามหลังซูเมี่ยวจินไป“ทราบแล้วครับเจ้านาย” พนักงานร้องบอกอย่างอารมณ์ดี วันนี้ร้านค้าของเจ้านายเขาขายสินค้าออกมากในครั้งเดียว พนักงานในร้านจะต้องได้รับเงินพิเศษเหมือนกับทุกครั้งเป็นแน่ซูเมี่ยวจินไปถึงรถก็เห็นฉางเล่ยกำลังดูพนักงานร้านเครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังจัดเรียงสินค้าขึ้นรถใกล้เสร็จพอดี เธอรีบเดินเข้าไปยืนข้างเขาและเอ่ยขึ้น“รอพวกเขาขนของเสร็จ เราไปกินมื้อเที่ยงกันก่อนนะคะ จากนั้นค่อยเดินหาร้านขายเครื่องมือล่าสัตว์กัน” ซูเมี่ยวจินรู้ดีว่ายุคสมัยนี้การขอใบอนุญาตพกปืนนั้นยากลำบากนัก เธอไม่คิดที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางการจึงไม่อยากหาซื้อปืนเถื่อนมาใช้
“ฉันขอขายในราคาสองแสนสองหมื่นหยวนได้ไหมคะ หรือว่าคุณมีเงินไม่พอ”“อ่า… ตกลงครับ เพียงแต่รบกวนพวกคุณรอผมที่ร้านสักพักนะครับ ผมต้องไปถอนเงินจากธนาคารเพื่อนำมาซื้อเห็ดของคุณก่อน” เจ้าของร้านตัดสินใจยอมรับข้อตกลง ในเมื่อเขามีเห็ดดอกนี้แล้ว กำไรที่จะได้รับหลังจากนี้ก็นับว่ามากพอให้เขาอยู่ได้อย่างสบายไปอีกหลายปี“ตกลงค่ะ พวกเราจะรอคุณที่นี่ อ้อ! คุณต้องการพิษงูหรือเปล่าคะ ครั้งนี้เราได้งูมามากกว่าหนึ่งร้อยตัว ระหว่างที่รอจะได้รีดพิษออกมาไว้ให้ก่อน” ซูเมี่ยวจินไม่อยากรออยู่เฉย ๆ เธอนึกเรื่องพิษงูขึ้นมาได้พอดี“โอ้! ขอบคุณมากครับ ถ้าอย่างนั้นพวกคุณรอสักครู่ ผมจะไปเอาตลับรีดพิษมาให้”เจ้าของร้านรีบเดินเข้าไปด้านใน โชคดีที่ครั้งก่อนเขาซื้อตลับมาเพิ่ม ไม่อย่างนั้นพิษงูมากมายขนาดนี้ เขาคงเสียไปเปล่า ๆ แล้วฉางเล่ยรับถุงตลับรีดพิษมาถือไว้ จากนั้นเจ้าของร้านก็ขอตัวออกไปโดยกลับด้านป้ายห
ฉางเล่ยกับซูเมี่ยวจินไปถึงบ้านเก่าในเวลาเพียงสิบนาที ตอนนี้บ้านอื่นยังไม่มีใครตื่นขึ้นมาเลย ทำให้พวกเขารีบนำรถเข้าไปจอดในบ้านและสะพายตะกร้าเดินขึ้นเขาไปในทันที โดยมีฉางเล่ยคอยส่องไฟฉายให้กับซูเมี่ยวจินที่เดินข้างกันครึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งสองที่เร่งรีบขึ้นเขาก็ไปถึงทางเข้าป่างูพิษ ตอนนี้ฟ้ายังไม่สว่าง ฉางเล่ยจึงบอกให้ภรรยาอย่าเดินห่างจากเขา เพราะกลัวว่างูพิษจะพุ่งเข้ามาทำร้ายเธออย่างไม่คาดคิด“ฉันรู้แล้วค่ะ คุณก็ระวังตัวด้วย ฉันมีหน้าไม้อยู่ คุณอย่ากังวลเลย” ซูเมี่ยวจินเองก็เป็นห่วงฉางเล่ยที่มือหนึ่งถือไฟฉาย อีกมือถือมีดเพื่อเอาไว้จัดการเหล่างูพิษในป่า“ตกลงครับ ผมจะระวัง” ฉางเล่ยรับคำภรรยาและค่อย ๆ เดินเข้าไปอย่างไม่เร่งรีบ เขารู้ดีว่าป่านี้อันตรายมากแค่ไหนซูเมี่ยวจินกับฉางเล่ยฆ่างูไปจำนวนมากไม่ต่างจากครั้งแรกที่มา ยิ่งตอนที่ฟ้ายังไม่สว่างด้วยแล้ว เหล่างูพิษกลับมีจำนวนมากกว่าเดิมอีกเท่าตัว ยังดีที่ทั้งสองคนมีสัญชาตญาณในการต่อสู้
ฉางเล่ยพาซูเมี่ยวจินกลับมาถึงร้านในเวลาไม่นาน พ่อกับแม่ที่อยู่หน้าร้านได้ยินเสียงรถลูก ๆ มาถึงก็พากันเดินไปหาที่หลังร้าน ดีที่ตอนนี้ไม่มีลูกค้า พวกเขาจึงเข้าไปสอบถามเรื่องการสอบใบขับขี่พร้อมรอยยิ้ม“ไปสอบมาเป็นยังไงกันบ้างลูก” หลิวเอ้อหลิงถาม“พวกเราได้ใบขับขี่มาแล้วค่ะแม่ พ่อกับแม่กินข้าวเที่ยงหรือยังคะ” ซูเมี่ยวจินตอบ“กินแล้วจ๊ะ พวกลูกกินข้าวกันเถอะ พ่อกับแม่จะไปเฝ้าหน้าร้านต่อ”“ใช่ ๆ รีบกินข้าวก่อนเถอะลูก เหนื่อยกันมาทั้งเช้าแล้ว” ฉางชิงหยูกล่าวเสริม“ได้ค่ะ/ครับ” ซูเมี่ยวจินกับฉางเล่ยรับคำพร้อมกันฉางชิงหยูชวนภรรยากลับไปดูแลหน้าร้านต่อ ส่วนฉางเล่ยก็ตักอาหารใส่จานให้ซูเมี่ยวจินเหมือนกับทุกวัน“สามี ฉันอยากไปเมืองชายแดนเพื่อพนันหินค่ะ” ซูเมี่ยวจินที่รำคาญการรบเร้าของระบบเอ่ยบอกฉางเล่ย
“สวัสดีค่ะ รบกวนสอบถามเรื่องขั้นตอนการทำใบขับขี่หน่อยค่ะ” ซูเมี่ยวจินเดินเข้าไปสอบถามประชาสัมพันธ์ที่นั่งอยู่ด้านหน้า“คุณไปติดต่อเจ้าหน้าที่ช่องหนึ่งได้เลยค่ะ อย่าลืมนำบัตรประจำตัวส่งให้เจ้าหน้าที่ด้วยนะคะ เขาจะได้เตรียมเอกสารการสอบให้พวกคุณ” เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์บอก“ขอบคุณมากค่ะ” ซูเมี่ยวจินที่ยังไม่ปล่อยมือสามี เธอพาเขาไปยังช่องหนึ่งที่มีป้ายเขียนเอาไว้แล้วนำบัตรประจำตัวของเธอกับฉางเล่ยส่งให้เจ้าหน้าที่“พวกคุณมาจากหน่วยงานไหนครับ” เจ้าหน้าที่ดูบัตรประจำตัวแล้วสอบถามเพื่อใส่ข้อมูลลงในเอกสารการทำใบขับขี่“พวกเราไม่ได้ทำงานในหน่วยงานค่ะ แต่เปิดร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าตรงข้ามโรงงานจึงต้องใช้รถยนต์ในการไปซื้อสินค้ากลับมาขายที่ร้านค่ะ” ซูเมี่ยวจินบอกตามตรง“อ้อ! ถ้าอย่างนั้นพวกคุณรอกันสักครู่นะครับ ระหว่างที่ผมกำลังลงทะเบียนให้ พวกคุณไปอ่านป้ายด้านโน้นได้เลยนะครับ
ฉางเล่ยกับซูเมี่ยวจินช่วยกันยกของลงจากท้ายรถยนต์เข้าไปในร้าน พวกเขายังต้องติดชื่อเจ้าของสินค้าแต่ละอย่างเพื่อไม่ให้สับสนเวลาที่ลูกค้ามารับของและจ่ายเงินส่วนที่เหลือด้วย ทั้งสองจึงเร่งขนของลงให้หมดซูเมี่ยวจินส่งถุงนาฬิกาให้แม่สามีนำไปวางบนชั้นวางเพิ่ม เธอบอกราคาต้นทุนให้หลิวเอ้อหลิงแล้วและราคาขายยังคงขายที่ราคา 60 หยวนเท่าเดิม“ขอบใจมากนะลูก แม่จะรีบเอาใส่ตู้ไว้แล้วจะไปช่วยเตรียมของให้ลูกค้ากับลูกนะ”“ไม่เป็นไรค่ะแม่ แม่ดูร้านเถอะค่ะ อีกสักครู่เด็ก ๆ คงเลิกเรียนแล้ว หนูมีฉางเล่ยคอยช่วยอยู่ค่ะ” ซูเมี่ยวจินบอกแม่สามี“ตกลงจ๊ะ แม่จะไปดูหน้าร้านก็แล้วกัน” หลิวเอ้อหลิงบอกลูกสะใภ้แล้วเดินไปที่ตู้ขายนาฬิกาด้านหน้าร้านซูเมี่ยวจินพยักหน้ารับคำแม่สามี เธอกับฉางเล่ยวางของที่เหลือจากลูกค้าสั่งบนชั้นวางอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงพากันมานั่งแยกของและเขียนชื่อลูกค้าติดไว้กับถุงใส่สินค้าที่จะมอบให้ลูกค้าแต่ละ






