공유

บทที่ 10

last update 최신 업데이트: 2025-07-12 03:49:20

คืนนั้น เสี่ยวหนานกลับถึงบ้านพร้อมรอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์ประดับใบหน้า มือเรียวส่งรูปถ่ายสองสามใบให้สามีของเธอ ดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อเห็นภาพเหล่านั้น ก่อนจะเค้นเอาความจริงจากปากของภรรยา

"หนานหนาน! ทำไมน้องถึงเอาตัวเองเสี่ยงแบบนี้!" สือซานตวาดเสียงกร้าว

"พี่จะร้อนใจทำไม ฉันก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย เนี่ยเห็นไหม? กลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย" เธอยิ้มตาหยีอย่างไม่สะทกสะท้าน

"แล้วแอบไปดูคนมีอะไรกันมันใช่เรื่องไหมเล่า!?"

"ไม่ดูก็ไม่รู้สิว่าวางแผนได้ดีแค่ไหน~ อีกอย่าง...เราจะเอารูปพวกนี้ไปขู่มันไงคะ จะได้เลิกตามตื๊อฉันซะที!"

สือซานยกมือกุมขมับ ท่ามกลางเสียงหัวเราะของเมียสุดแสบที่เอาชนะพวกคนเลวด้วยไหวพริบและกล้องโพลารอยด์

"กล้ามากนะหนานหนาน... กล้าถ่ายรูปคนกำลังมีอะไรกัน... แล้วยังเอามาให้ผัวดูด้วยท่าทางภูมิใจแบบนี้?"

เสียงของเขาทุ้มต่ำ ลึก และราบเรียบราวผิวน้ำก่อนพายุใหญ่จะมาเยือน เสี่ยวหนานได้แต่กลืนน้ำลายเงียบ ๆ พยายามจะยิ้มกลบเกลื่อน แต่ยิ่งดูเหมือนเด็กน้อยทำผิดแล้วพยายามแก้ตัว

"ก็..ก็พวกนั้นคิดจะทำร้ายฉันก่อน พี่จะมาดุฉันไม่ได้นะ"

สือซานหัวเราะในลำคอ เสียงแหบพร่าราวกับลมหายใจแห่งไฟเผาไหม้ เขาก้าวมาหยุดตรงหน้าเธอ มือหนาเอื้อมขึ้นแตะปลายคางภรรยาแล้วเชยเบา ๆ ให้สบตาเขา

"รู้เรื่องแล้วให้จื่ออันมาบอกพี่ก็ได้ แต่สุดท้ายก็เลือกจะเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง งั้นคืนนี้ก็ต้องโดนลงโทษไปแล้วกัน"

เสียงเขาไม่ได้ดัง แต่แผ่วพร่าจนเสี่ยวหนานขนลุกซู่

ริมฝีปากของเขาประทับลงมาอย่างแนบแน่น ร้อนแรงราวกับจะละลายทุกสติที่หล่อนพอจะเหลืออยู่ มือใหญ่โอบแนบแผ่นหลัง ดันร่างบางให้แนบชิดติดกันจนไม่เหลือช่องว่างให้แม้แต่ลมหายใจ

"อื้อ… พี่สือซาน… เดี๋ยวก่อน…"

"ไม่มีเดี๋ยว เล่นกับไฟ... ก็ควรได้รู้ว่าความร้อนแผดเผามันเป็นยังไง"

เขาอุ้มเธอขึ้นอย่างง่ายดายราวกับตัวเธอไร้น้ำหนัก พาไปวางกลางเตียงเตาเมื่อร่างของเขาทาบทับลงมา กลิ่นกายที่คุ้นเคยทำให้อารมณ์ของทั้งคู่พลุ่งพล่าน

เสื้อผ้าถูกปลดเปลื้องออกช้า ๆ ทีละชิ้น สายตาสือซานจับจ้องที่เสี่ยวหนานราวกับต้องการให้เธอจดจำบทลงโทษครั้งนี้ให้ขึ้นใจ

"พี่สือซาน..."

"พี่จะไม่ตีเธอหรอก แต่ถ้าคราวหน้าอยากดู...ก็มาดูของพี่ ไม่ใช่ของคนอื่น...มันเสียสายตา!"

เสี่ยวหนานหน้าแดงซ่านอย่างไม่มีที่ซ่อน ร่างกายเธอเหมือนถูกวางลงบนเตาเหล็กที่เร่าร้อน ความแข็งแกร่งของเขาทาบทับลงมาแนบแน่น ลมหายใจร้อนผ่าวกระซิบถี่ชิดซอกคอ ทุกจังหวะที่เขาเคลื่อนไหวคือการครอบครอง ช้าแต่เน้นหนัก สมแล้วที่เรียกว่าบทลงโทษ

เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังในห้องที่ไร้แสงไฟ มีเพียงแสงจันทร์ลอดผ่านผ้าม่านปลิวพริ้ว เสี่ยวหนานไม่ได้หนี ไม่ได้ร้อง ไม่ได้ต่อต้านแม้แต่นิด... เธอยอมจำนนให้กับทุกสัมผัส ทุกแรงกระแทกที่เร้าเร่งขึ้นเรื่อย ๆ เขาครอบครองเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับจะฝังคำว่า "ภรรยาของสือซาน" ไว้ในกายของเธอ

เวลาผ่านไปนานเท่าใดไม่มีใครนับได้... จนเมื่อเสียงลมหายใจถี่รัวค่อย ๆ แผ่วลง เหลือเพียงสัมผัสนิ่งแนบแน่นของสองร่างที่กอดกันไว้แนบสนิท สือซานเอื้อมมือมาปัดปอยผมเปียกชื้นเหงื่อของเธอขึ้น ลูบไล้เบา ๆ แล้วกระซิบเสียงต่ำข้างขมับ

"อย่าซุกซนอีกนะเมียจ๋า... ผัวของเธอจะไม่ใจดีแบบนี้อีก"

เสี่ยวหนานกลั้นยิ้ม แต่ใบหน้าแดงเป็นลูกตำลึงทั้งแถบ เธอพยักหน้าเบา ๆ ซุกหน้าลงในอกแกร่งที่ยังร้อนระอุ...

เช้าวันต่อมา

เช้ามืดวันต่อมา เสี่ยวหนานรู้สึกตัวตื่นจากนิทราด้วยความปวดเมื่อยตามร่างกาย ผิวแก้มยังแดงซ่านจากรอยสัมผัสของค่ำคืนที่เร่าร้อน ริมฝีปากมีรอยช้ำบาง ๆ ที่เกิดจากคนข้างกาย

ผู้ชายสุขุมนุ่มลึกที่เวลาเอ่ยปากพูดกับใครดูสงบนิ่ง พูดถึงอะไรก็ได้ทั้งนั้น...ยกเว้นเมียของเขา เธอเป็นเกล็ดย้อน ไม่ใช่แค่ห้ามลูบ แต่ห้ามมอง ห้ามคิด ห้ามแม้แต่เข้าใกล้

"พี่สือซาน...พาฉันไปที่บ้านร้างหลังนั้นหน่อยได้ไหม?"

เธอพูดขึ้นขณะที่ยังนั่งซบอยู่ในผ้าห่มบนเตียง ร่างบางยังสั่นเล็กน้อยจากความหนาวเย็นในยามเช้า

"ทำไมต้องไปที่นั่น?..." ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย

เธอเงยหน้าขึ้น สีหน้าแน่วแน่แต่เปี่ยมด้วยความอ่อนล้า

"ฉันจะจัดการทุกอย่างให้มันจบลงวันนี้...เรื่องหานเจา กับไป๋ลี่เหยา"

สือซานมองภรรยาเงียบ ๆ อยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาดำสนิทของเขากะพริบช้า ๆ เหมือนกำลังกลั่นกรองคำพูด ท้ายที่สุด เขาก็พยักหน้าช้า ๆ

"ตกลง"

เสี่ยวหนานรีบไปอาบน้ำแต่งตัว เธอหยิบภาพถ่ายใส่กระเป๋า จากนั้นก็ออกเดินทางไปที่บ้านร้างหลังนั้นเช้ามืด

เมื่อไปถึงท้องฟ้าก็สว่างขึ้นจนสามารถมองเห็นสิ่งรอบตัวได้ชัดเจน กลิ่นคาวสกปรกที่คละคลุ้งในอากาศแทบทำให้คนมีสติอาเจียนออกมา เสี่ยวหนานยกมือปิดจมูก ในขณะที่สือซานยืนนิ่ง ใบหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึก แต่ดวงตาคมลึกคู่นั้นกำลังไล่สำรวจทุกมุมอย่างเงียบงัน

เสียงประตูไม้ที่ถูกผลักเปิดดัง เอี๊ยด! แหลม หานเจากับไป๋ลี่เหยาแทบกระโดดลุกขึ้นจากฟูกเน่า ๆ ที่พวกเขาใช้เป็นสนามซ้อมมาตลอดคืน ทั้งสองอยู่ในสภาพยับเยิน ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ดวงตาแดงช้ำเพราะไม่ได้นอนเต็มตา

"เสี่ยวหนาน! เธอมาได้ยังไง..." หานเจาอุทานออกมาอย่างตกใจ

เสี่ยวหนานไม่ตอบ เธอหยิบภาพถ่ายขึ้นมาชูหลายแผ่นแววตาเด็ดเดี่ยวไร้ความกลัว

"ดูสิ..นี่อะไร? ไป๋ลี่เหยา ถ้าเธอยังไม่เลิกวุ่นวายกับฉันกับพี่สือซาน ฉันจะเอารูปพวกนี้ไปแปะทั่วหมู่บ้านให้คนดู ส่วนแกหานเจา เงิน 600 หยวนที่ฉันเสียไปกับแก วันนี้แกต้องคืนมาทั้งหมด ไม่อย่างนั้นฉันจะส่งรูปพวกนี้ไปให้ว่าที่ภรรยา พ่อตากับแม่ยายของแก!"

ภาพในมือของเธอเป็นภาพที่หานเจาและไป๋ลี่เหยานัวเนียกันในสภาพเปลือยเปล่าภายในบ้านร้างแห่งนี้ ใบหน้าของทั้งคู่ชัดเจนยิ่งกว่าภาพจากกล้องวงจรปิด พอทั้งคู่ได้เห็นก็หน้าซีดเผือดทันที

"อย่านะเสี่ยวหนาน ฉัน...ฉันขอโทษ มันเป็นความผิดของไป๋ลี่เหยา! นังนั่นมันวางแผนทั้งหมด เพราะหล่อนอยากได้โจวสือซานเป็นผัว!"

"ไอ้เลว! ไอ้หานเจา! แกมันคนชั่ว! อย่ามาโยนความผิดให้ฉัน แกเองก็อยากข่มขืนนังเสี่ยวหนานไม่ใช่เหรอ! แกพูดเองว่าจะทำให้มันเชื่องเหมือนหมา!"

ไป๋ลี่เหยากรีดเสียงโต้กลับ ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ แววตาเต็มไปด้วยพิษร้าย

เพียงชั่วอึดใจ เสียงหมัดก็ฟาดใส่ใบหน้าหานเจาดัง ปั่ก! หน้าของเขาหันไปอีกด้านด้วยแรงหมัดของสือซาน เขาเดินเข้ามาโดยไม่พูดไม่จา ร่างสูงสง่าทาบทับเงาเหนือหานเจาราวกับพญามัจจุราช

"กล้าดียังไง...คิดจะทำร้ายเมียฉัน?"

เขากัดฟันกรอด เสียงของเขาไม่ได้ตะโกน แต่กลับดังก้องเข้าไปถึงกระดูกสันหลังของทุกคนในห้อง

สือซานต่อยซ้ำอีกหมัด สองหมัด จนหานเจอล้มลงนอนครางครืด ๆ เสี่ยวหนานไม่ได้ห้ามอะไรเลย นัยน์ตาของเธอสงบนิ่ง...ราวกับนี่คือสิ่งที่ควรเกิดขึ้นตั้งแต่แรก

"วันนี้แกต้องคืนเงินให้ฉัน แล้วกลับไปบอกแม่แก กับน้องสาวแกด้วย ถ้ายังไม่หยุดยุ่งวุ่นวายกับฉัน ฉันจะให้คนทั่วทั้งมหาวิทยาลัยเห็นรูปพวกนี้"

เธอพูดเสียงเรียบ แต่แววตากลับคมดั่งมีด หานเจานั่งตัวสั่นงันงก ก่อนจะรีบควักธนบัตรในกระเป๋าออกมานับแล้วนับอีก

"นี่...นี่เอาไปเลย เอาไปเถอะ ขอร้องล่ะ เสี่ยวหนาน อย่าเอารูปพวกนั้นไปเผยแพร่...อย่าทำลายอนาคตของฉันเลยนะ"

เสี่ยวหนานรับเงินทั้งหมดมานับ เธอรู้ดีว่าจุดจบของหานเจาเป็นยังไง ต่อให้เธอไม่ทำอะไรสุดท้ายเขาก็จะถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัยเพราะถูกจับได้ว่าโกงคะแนนสอบ

"ได้ ฉันให้สัญญา...ตราบใดที่แกกับครอบครัวไม่มาวุ่นวายกับฉันอีก รูปพวกนี้ฉันก็จะทำลายมันทิ้งทั้งหมด"

เธอหันไปทางไป๋ลี่เหยา ซึ่งยืนกำกระโปรงแน่นร่างทั้งร่างสั่นเทาและคอยหลบหน้าสือซานด้วยความอับอาย

"ส่วนเธอ...ถ้ายังคิดเล่นสกปรกอีกครั้ง อย่าหวังว่าเสี่ยวหนานคนนี้จะเห็นแก่ความเป็นผู้หญิงเหมือนกัน"

พูดจบ สองสามีภรรยาก็หันหลังเดินออกมา โดยไม่ชายตามองร่างสองคนนั้นอีกเลย เสียงกรีดร้องของไป๋ลี่เหยา กับคำด่าสาปแช่งของหานเจาดังลอยตามลมมาแผ่วเบา สือซานเอื้อมมือมาโอบไหล่ภรรยาไว้แน่น แล้วพูดเสียงต่ำข้างหูเธอว่า

"ต่อจากนี้ ทุกคนที่จะแตะต้องเธอได้...ต้องผ่านพี่ก่อน"

เสี่ยวหนานซบหน้ากับอกเขา ดวงตาร้อนผ่าว น้ำตาไหลลงข้างแก้มเงียบ ๆ ความเจ็บที่เคยฝังอยู่ในหัวใจกำลังถูกลบเลือน...โดยผู้ชายที่ร่างนี้เคยคิดว่าเขาเย็นชาที่สุด

ยามเช้าของหมู่บ้านชาวประมงยังคงงดงามด้วยเสียงคลื่นกระทบฝั่งเบา ๆ และกลิ่นน้ำเค็มที่ลอยมากับสายลม สือซานพาภรรยาแวะที่บ้านซู

ในมือของเธอคือธนบัตรหลายใบมูลค่าหกร้อยหยวนที่เธอเพิ่งได้คืนมาจากหานเจา เงินที่เมื่อก่อนเธอเคยยื่นให้เขาด้วยหัวใจ แต่บัดนี้มันคือสิ่งเดียวที่เธอยอมให้เขาเอาชนะไม่ได้ เธอหันมาบอกสามีผู้ยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยรอยยิ้มบาง

"ฉันอยากเอาเงินก้อนนี้ไปคืนพ่อกับแม่ เงินพวกนี้มาจากน้ำพักน้ำแรงของพวกท่านทั้งนั้น"

โจวสือซานพยักหน้าไม่พูดพร่ำ เขาจับมือเธอแน่น แล้วเดินเคียงข้างเข้าไปบ้านซู แม้จะเงียบแต่ท่าทีของเขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่า พร้อมจะยืนอยู่ข้างเธอในทุกเรื่องเสมอ

ประตูไม้เก่าถูกผลักเปิดออกด้วยเสียงเอี๊ยดเบา ๆ กลิ่นอาหารเช้าลอยมาแตะจมูก พร้อมเสียงแหลม ๆ ที่คุ้นเคย

"จะมาทำไมอีก อย่าบอกนะว่าจะมาขอเงิน"

ซูอี้หลัน พี่สะใภ้คนโตโพล่งออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง ใบหน้าเปื้อนแป้งยังมีแววไม่ต้อนรับน้องสามีคนนี้แม้แต่น้อย ถึงเมื่อวานจะเอาของมาให้ แต่วันนี้มามือเปล่า เธอต้องมีแผนอะไรแน่ ๆ

เสี่ยวหนานไม่ตอบโต้ เธอเพียงยิ้มบาง ๆ แล้วเดินเข้าไปกลางบ้านเพื่อไปหาพ่อแม่

"หนูเอาเงินมาคืนค่ะ พ่อ แม่ แล้วก็พี่ใหญ่ด้วย เงินก้อนนี้หนูได้คืนมาจากหานเจา ขอโทษนะคะที่เมื่อก่อนลูกสาวคนนี้ไม่รู้ความ เห็นผิดเป็นถูก"

สีหน้าของพ่อซูแม่ซูเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

"หกร้อยหยวน...เสี่ยวหนาน ลูกไปเอาคืนมาจากมันได้ยังไง?" พ่อของเธอถามเสียงแหบพร่า

แม่ของเธอรีบตรงเข้ามาจับมือ ลูบแขนลูกสาวด้วยแววตาระคนระหว่างความเป็นห่วงและไม่อยากเชื่อ

"คนเห็นแก่ตัวแบบนั้นทำไมถึงยอมคืนเงินก้อนนี้มา มันไม่ได้ทำร้ายลูกใช่ไหม?"

เสี่ยวหนานหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะส่ายหน้า

"คนแบบนั้นทำอะไรหนูไม่ได้หรอกแม่ หนูก็แค่กุมความลับของมันเอาไว้ ความลับที่มันยอมให้ใครรู้ไม่ได้ พ่อกับแม่รับคืนไปเถอะนะคะ...หนูสบายดีจริง ๆ"

สองตายายมองหน้ากันเงียบ ๆ แววตาของพ่อซูฉายแววลังเล ก่อนเขาจะยื่นมือออกมารับเงินอย่างช้า ๆ

"เห็นเจ้าใหญ่บอกว่าลูกจะเปิดร้านขายกับข้าว ถ้าเงินไม่พอ...ก็มาเอาที่พ่อได้นะลูก ไม่ต้องกังวลอะไรเลย พวกเรายังเป็นพ่อแม่ของลูกเสมอ เงินค่าสินสอดที่บ้านโจวให้มาก็ยังเหลือครบ พ่อเก็บไว้ให้ลูกยามจำเป็น"

โจวสือซานที่ยืนอยู่เงียบ ๆ ก็พูดขึ้นในเวลานั้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและอบอุ่น

"พ่อตาไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมมีเงินพอให้เสี่ยวหนานใช้จ่ายในการเปิดร้าน เย็นนี้พวกเราว่าจะออกเรืออีกแล้ว ถ้าพี่จื่อเหิงกับจื่ออันอยากออกเรือด้วยก็ไปด้วยกันได้นะครับ"

คำพูดของเขาเหมือนสายฝนที่ตกลงมาบนผืนดินแห้งแล้ง ดวงตาของซูจื่อเหิงสว่างวาบ เขาโพล่งออกมาทันที

"จริงเหรอสือซาน พวกเราไปด้วยได้ใช่ไหม? พวกเรากำลังกังวลเรื่องนี้อยู่พอดี ได้ข่าวว่าเรือที่เราทำอยู่กำลังจะขาย..."

สือซานพยักหน้า เขาได้ยินเรื่องนี้มาก่อนแล้วถึงได้พูดเรื่องนี้ขึ้นมา ต่อให้เขาจะถูกบ้านไป๋กดราคา แต่เงินที่มีอยู่ก็เพียงพอที่จะจ่ายค่าแรงคนงานได้

"ได้สิครับ เอาเป็นว่าเย็นนี้พี่ก็ไปรวมตัวกับพวกเราที่ท่าเรือประมงนะครับ ผมเตรียมของไว้หมดแล้ว พรุ่งนี้เช้าเสี่ยวหนานเปิดร้านวันแรก จะได้ช่วยกันขนของสดไปส่งแต่เช้ามืดด้วย"

"ได้ ๆ ขอบใจมากนะสือซาน"

จื่อเหิงจับไหล่น้องเขยด้วยความตื้นตัน ส่วนจื่ออันที่ยืนเงียบอยู่ข้างหลังเงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาหวัง

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ซูเสี่ยวหนานสะใภ้ไต้ก๋ง ยุค80   บทที่ 95

    ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน หน่วนหน่วน หยวนเปา หยวนเป่ย ต่างก็วิ่งตรงไปยังห้องนอนของตัวเองอย่างกระตือรือร้น ไม่นานนัก พวกเขาก็ปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมกับข้าวของพะรุงพะรัง ทั้งตุ๊กตาตัวโปรด ของเล่นชิ้นโปรด สมุดวาดรูป สมุดเขียน และดินสอสีสารพัดสีสัน แต่ละคนขนออกมาจากห้องของตัวเอง แล้วนำมากองรวมกันที่ห้อ

  • ซูเสี่ยวหนานสะใภ้ไต้ก๋ง ยุค80   บทที่ 94

    หน่วนหน่วน เห็นอุปกรณ์ไฟฟ้าในห้อง ก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ เธอจึงเดินเข้ามาใกล้ ๆ แล้วเตือนสองพ่อลูกด้วยความเป็นห่วง "คุณลุงคะ น้องอิงลั่ว ถ้าจะใช้กระทะไฟฟ้าหรือกาน้ำร้อน ห้ามใช้ช้อนที่ทำจากสเตนเลสหรือเหล็กลงไปสัมผัสโดยตรงเด็ดขาดนะคะ ให้ใช้กระบวยที่มีด้ามจับแบบนี้แทน ไม่อย่างนั้นไฟจะดูดเอาได้ ไฟดูดน

  • ซูเสี่ยวหนานสะใภ้ไต้ก๋ง ยุค80   บทที่ 93

    เธอเริ่มแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นและเป็นกันเองเซ่าเวินเงยหน้าขึ้นมองเสี่ยวหนานด้วยความเกรงใจ เขาวางตะเกียบลงแล้วตอบด้วยน้ำเสียงที่ยังคงสั่นเครือ "ผม...ผมชื่อเซ่าเวินครับ นี่ลูกสาวของผม เซ่าอิงลั่ว พวกเราเป็นคนกว่างโจวครับ" เขาถอนหายใจยาว ก่อนจะเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาให้เสี่ยวหนานฟังด้วยความเจ็บ

  • ซูเสี่ยวหนานสะใภ้ไต้ก๋ง ยุค80   บทที่ 92

    ในระหว่างนั้น เสี่ยวเปากับอันเจ๋อ ก็ช่วยกันยกถาดอาหารที่แม่ตักให้มาวางไว้ที่โต๊ะ อาหารร้อน ๆ กลิ่นหอมฟุ้งเต็มโต๊ะไปหมด ส่วน เสี่ยวเป่ย ก็รีบไปหยิบน้ำอัดลมที่เพิ่งซื้อมาพร้อมกับนมอีก 4 กล่อง รวมถึงขนมปังที่แม่เตรียมไว้ให้เป็นขนมของพวกเขา เสี่ยวเป่ยก็แบ่งส่วนหนึ่งมาวางไว้ให้ด้วยพอหน่วนหน่วนพาสองพ่อลู

  • ซูเสี่ยวหนานสะใภ้ไต้ก๋ง ยุค80   บทที่ 91

    ห้าปีต่อมาห้าปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันคือปี ค.ศ. 1988 ซูจื่ออัน เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชิงหัวมาได้สักพักใหญ่แล้ว ด้วยความรู้และความสามารถที่ร่ำเรียนมา เขาได้เข้ามาช่วยงานในโรงงานของพี่สาวอย่างเต็มตัว โรงงานแห่งใหม่ ของ ซูเสี่ยวหนาน กำลังเริ่มก่อสร้างบนที่ดินที่เธอซื้อสะสมไว้ ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่

  • ซูเสี่ยวหนานสะใภ้ไต้ก๋ง ยุค80   บทที่ 90

    สายตาของพนักงานสาวมองผ่านเพียงแค่วูบเดียว ก็ทำให้กิริยาของพนักงานเปลี่ยนไปในทันใด เธอกะพริบตาถี่ รีบยกมือขึ้นประสานพร้อมโค้งตัวเล็กน้อย"เชิญคุณลูกค้าทางนี้เลยนะคะ ห้องพิเศษของเราพร้อมแล้วค่ะ!"พนักงานผายมืออย่างนอบน้อม แล้วเดินนำแขกกลุ่มใหญ่ผ่านโถงกลางร้านเข้าไปยังห้องส่วนตัวที่จัดไว้โดยเฉพาะสำหรับ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status