Home / ระบบ / ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย / ตอน ช่วยพระเอกแต่ได้หมูเป็นของแถม(1)

Share

ตอน ช่วยพระเอกแต่ได้หมูเป็นของแถม(1)

ซูเหยาคิดไปเรื่อยเปื่อยพร้อมกับที่เธอก็เอามีดยาวที่จับไว้ในมือกวาดไปที่พงหญ้ารก เพื่อเป็นการไล่สัตว์ร้ายมีพิษก่อนที่เธอจะเดินต่อไป

ก็เธอนะเป็นนางร้ายนะ ดังนั้นถ้าจะหวังให้โชคช่วยแบบนางเอกนะเหรอไม่มีทางหรอก ดังนั้นจะต้องทำเองจากสองมือเพียงอย่างเดียว

เมื่อเธอก้าวเดินไปตามสัญลักษณ์ที่มู่หานทำไว้ ในที่สุดเธอก็เหมือนได้ยินเสียงคนพูดคุยกันอยู่ไม่ห่างจากเธอมากนัก ซึ่งเธอคิดว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะต้องเป็นพวกของมู่หานอย่างแน่นอน

“โอ้ย ช่วยฉันด้วยมีใครอยู่แถวนี้หรือเปล่าคะ” ซูเหยาแสร้งทำหกล้มนั่งกุมขอเท้าของตนด้วยท่าทางที่แสดงความเจ็บปวดน้ำตาคลอเบ้าอย่างน่าสงสาร

‘รางวัลนักแสดงต้องมาแล้วล่ะ แสดงได้เนียนขนาดนี้’ เธอคิดขึ้นในใจ และที่ซูเหยาต้องร้องเรียกคนเหล่านั้นให้ออกมาตรงนี้ ก็เพราะว่าตามนิยายที่ได้บรรยายเอาไว้ว่าหลังจากที่   มู่หานได้ตกลงไปในหลุมดักสัตว์เก่า และเพื่อนช่วยเขาขึ้นมาได้แล้ว ก็จะมีหมูป่าที่ไม่มองอะไรเลยพุ่งตกลงไปในหลุมกับดักยังไงล่ะ

เธอเดาเอาว่าช่วงเวลาและสถานที่อาจจะเป็นที่นี่ เพราะตอนนี้เธอไม่ได้ยินเสียงว่าพวกเขาจะเดินไปไหนกันต่อ     เอาเป็นว่าเธอเดามาจากนิยายล้วนๆ

 เพราะความตั้งใจเดิมของเธอคือการมาช่วยพระเอกของเรื่อง แต่ถ้าได้หมูป่ากลับไปด้วยก็ถือว่าเป็นผลพลอยได้ก็แล้วกัน

ซูเหยายังคงก้มหน้าร้องไห้ ทำเป็นเจ็บปวดแล้วตะโกนต่อไป เพื่อให้พวกเขาได้ออกมาช่วยเธอโดยเร็ว

“เสียงใครมาร้องเรียกให้ช่วยอยู่แถวนี้กัน” หนึ่งในกลุ่มคนของมู่หานพูดขึ้นด้วยความสงสัย

“ผมว่าเสียงมันช่างคุ้นหูมากเลยนะ เหมือนจะเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน” ชายคนที่มู่หานจะต้องเป็นคนช่วยพูดขึ้น

“ผมว่าเสียงนี้เหมือนกับซูเหยาภรรยาของผม ถ้าอย่างนั้นผมขอออกไปดูก่อนนะครับ” มู่หานบอกกับทุกคนที่อยู่ด้วยกันในตอนนี้ พร้อมกับที่เขาก็เดินแยกตัวออกมา

“พวกเราจะไปด้วย เผื่อว่ามีอะไรที่สามารถช่วยได้ก็จะได้ช่วยๆ กันไป” เสียงคนที่มาด้วยกันพูดออกมาด้วยความเป็นห่วง

ดังนั้นตอนนี้พวกเขาทั้งหมดก็ได้พากันเดินห่างออกมาจากหลุมมรณะนั้นเรียบร้อย ตามแผนที่ซูเหยาได้คิดไว้ไม่มีผิด ที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าการคาดเดาของตนนั้นถูกต้อง

“ซูเหยาคุณเป็นอะไรไป แล้วคุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วลูก ๆอยู่กับใคร” มู่หานถามซูเหยาออกมาเป็นชุดเนื่องจากเขาเป็นห่วงลูกๆ มาก

“มู่หานนายก็ใจเย็นหน่อยไม่ได้หรือยังไง นายไม่เห็นเหรอว่าเมียตัวเองบาดเจ็บ” เพื่อนของมู่หานพูดขึ้นพร้อมกับชี้ไปทางข้อเท้าของซูเหยาที่เธอแกล้งเอามือบีบนวดน้ำตาคลอ

“อู๊ดๆ” ตุ๊บ! ในระหว่างที่พวกคนด้านนอกต่างกำลังพูดคุยกันและมู่หานดูอาการของซูเหยาอยู่ พวกเขาต่างก็พากันได้ยินเสียงหมูป่าร้อง พร้อมกับเสียงดังเหมือนกับว่ามันตกลงจากที่สูงอย่างไรอย่างนั้น

“ทุกคนคิดว่ามันจะใช่ไหม” คนที่มู่หานจะต้องช่วยเหลือถามออกมาอย่างไม่ค่อยแน่ใจนัก

ทุกคนก็ได้แต่พยักหน้าตอบรับอย่างพร้อมเพียง พร้อมกับที่พวกเขาสามคนก็ได้ค่อยๆ เดินย่องๆ ไปยังที่จุดเดิมที่ได้เดินออกมาก่อนหน้านี้

“คุณก็เดินไปกับพวกเขาด้วยสิคะ เผื่อเป็นหมูป่าเราจะได้มีส่วนแบ่งด้วย อีกอย่างเด็กๆ ก็จะได้มีเนื้อกินด้วย” ซูเหยารีบไล่พระเอกของเรื่องออกไปทันที

เธอคิดว่าพระเอกในเรื่องนี้สมกับที่นักเขียนได้บรรยายอวยเอาไว้เสียเหลือเกิน เพราะเขาหน้าตาดีมาก หน้าหวานคล้ายกับผู้หญิงในบางมุม แต่ก็ยังคงมีความดุดันแบบผู้ชาย

คิ้วเข้ม ตาเรียวยาวดุ ปากหยักหนาได้รูปน่าสัมผัส (เอ๊ะ ไม่ใช่สิหลงประเด็นนะเหยา ห้ามหลงรักเขาเด็ดขาดเผื่อเขาเจอนางเอกขึ้นมา เดี๋ยวเธอจะช้ำเข้าใจไหม)

มู่หานเมื่อได้ยินสิ่งที่ซูเหยาพูดเขาก็ไม่ได้แย้งอะไร แต่ว่าเขาค่อนข้างที่จะแปลกใจที่วันนี้ภรรยาของตนได้เกิดห่วงลูกๆของเขาออกมา ทั้งๆ ที่ยามปกติแม้จะเอ่ยถึงสักคำเธอก็ไม่เคยพูดถึง

แถมซ้ำบางครั้งยังเอาแต่ด่าทอและตีลูกเขา ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้เขาได้ยินมาจากแม่ของเขาทั้งสิ้น และอีกเรื่องที่เขาแปลกใจก็คือวันนี้ซูเหยาได้เดินเข้าป่า

“ถ้าอย่างนั้นคุณก็นั่งรอผมอยู่ตรงนี้นะ ผมจะไปดูให้แน่ใจก่อน ถ้าใช่หมูจริงๆ เราคงจะได้มีเนื้อไว้กินกันบ้าง” มู่หานได้กล่าวย้ำกับภรรยาที่เขายังไม่เคยได้ร่วมหลับนอนด้วยกันเลยสักครั้ง

“ได้คุณรีบไปเถอะ” ซูเหยาได้กล่าวเร่งสามีในนามของร่างนี้อีกครั้ง

มู่หานเมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ต้องการให้ตนอยู่ด้วยจริงๆ เขาจึงได้รีบวิ่งกลับไปยังทางที่เขาเพิ่งจะเดินจากมายังไม่นานนักทันที

ซูเหยาเมื่อเธอมั่นใจอย่างแน่นอนแล้วว่าคนพวกนั้นได้พากันไปดูหมูเซ่อตกหลุมกันหมดแล้ว เธอก็ได้ลุกยืนขึ้นโดยไม่แกล้งทำเป็นบาดเจ็บอีกต่อไป

เธอค่อยๆ เดินออกมาจากจุดที่แกล้งล้มเมื่อสักครู่ เพื่อที่จะได้หาสิ่งมีค่าที่อยู่ในดิน และความโชคดีก็ได้เข้ามาสู่เธออีกครั้ง ‘โอ้ซูเหยาเธอช่างโชคดีเสียจริง’

ซูเหยาได้เดินมาเจอกับเห็ดหลินจือแดง ที่พากันแข่งกันออกดอกหรือยังไงไม่ทราบได้ มีทั้งดอกเล็กดอกใหญ่ให้เธอเห็นละลานตา

‘มาเก็บฉันซิ ฉันเต็มใจไปกับเธอ’ ซูเหยาเหมือนรู้สึกได้ยินเสียงเห็ดหลินจือแดงพูดกับเธออย่างนี้ และดวงตาของ        ซูเหยาก็เปล่งประกายระยิบระยับอย่างยินดี

‘เงินจ๋า เงินจ๋า ฉันกำลังจะมีเธอไว้ในครอบครองแล้วจ้ะ’      ซูเหยาร้องขึ้นอยู่ในใจด้วยความยินดี

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Nattery
มีตอนสลับกัน
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอนพิเศษที่หก สามหนุ่มหล่อแห่งเมืองหลวงผู้แตกต่าง

    หนุ่มน้อยคนเล็กของครอบครัวเทียนที่ตอนนี้ได้ก้าวเท้าเข้าสู่การเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยปีหนึ่ง คณะบริหารธุรกิจตามที่ตัวเองต้องการ เช่นเดียวกับชายหนุ่มผู้เป็นลูกชายคนโตของซูหลงที่ต้องการจะเป็นพ่อครัวอันดับหนึ่งตามรอยเท้าของคนเป็นพ่ออีกหนึ่งก็คือบุตรชายคนโตของครอบครัวเจียงสามที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่สมาชิกครอบครัวนี้ก็มีเพียงเจียงเจ๋อที่มีครอบครัว ซึ่งตอนนี้เจียงฮวนได้มีน้องสาวน้องชายมาเพิ่มอีกอย่างละหนึ่งทั้งสามคนมีบุคลิกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงแต่ก็ยังคงสนิทกัน เนื่องจากทั้งสามมีอายุไล่เลี่ยกันเกิดก่อนหลังห่างกันไม่มากทำให้ได้อยู่ปีเดียวกันเทียนหยุนนั้นเป็นเหมืนเมฆตามชื่อล่องลอยอย่างอิสระ แต่ในเรื่องความรับผิดชอบเขามีเต็มร้อยเนื่องจากได้รับการฝึกฝนมาจากผู้เป็นแม่และพ่อในการทำงานซูตงที่แม้จะมีบุคลิกหนาวเหน็บตามชื่อแต่เมื่อไหร่ที่ได้ทำอาหารหรือขนมชายหนุ่มผมยาวผู้นี้จะมีความอ่อนโยนดุจสายน้ำคนสุดท้ายเจียงฮวนชายหนุ่มผู้มีความนิ่งมาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเขาก็มักจะทำตัวนิ่งอยู่เสมอต้นเสมอปลาย แต่เมื่อไหร่ก็ตามที

  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอนพิเศษที่ห้า สองพี่น้องผู้โดดเดี่ยว2

    ชายหนุ่มที่โดนหญิงสาวคนนี้กอดขาของตนเขาก็ตกใจ แต่เมื่อเห็นอาการอันสั่นเทาของหญิงสาวฮุ่ยหมิ่นก็รู้สึกเห็นใจผู้หญิงคนนี้ไม่น้อย ทำให้เขาก้มตัวลงไปจับไหล่บางของหญิงสาวด้วยมือทั้งสองข้าง“สหายตอนนี้คุณปลอดภัยแล้ว” เสียงอันอ่อนโยนของชายหนุ่มปลอบหญิงสาวที่ยังไม่ยอมลืมตาด้วยความเห็นใจเมื่อหญิงสาวผมสั้นได้ยินเสียงอันทุ้มนุ่มที่อยู่เหนือศีรษะของตนหญิงสาวก็ตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ พร้อมกับลืมตามองสิ่งที่ตัวเองกอดอยู่ก็เห็นเป็นกางเกงสีเขียวของทหารฉินเซียวซานเมื่อเห็นแบบนี้หล่อนจึงได้ผละตัวออกทันทีก่อนที่ตัวเองเกือบจะนั่งลงไปกับพื้นหิมะโชคดีที่ว่าชายหนุ่มจับไหล่ของเธอเอาไว้ ทำให้หล่อนไม่นั่งจ้ำเบ้าลงไปบนพื้นอันเย็นเฉียบ“สหายระวัง” ฮุ่ยหมิ่นกล่าวออกมาเสียงดังด้วยความตกใจที่หญิงคนนี้อยู่ ๆ ก็ผละออกจากเขากะทันหันหญิงสาวผมสั้นเมื่อได้ยินเสียงของคนพูดหล่อนจึงได้แหงนหน้าของตนมองขึ้นไปด้านบน ทำให้ดวงตากลมโตของเธอสบกับดวงตาเรียวคมดุของคนเบื้องหน้าที่กำลังมองเธออยู่เช่นกันในช่วงเวลาที่คนทั้งสองกำลังสบตากั

  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอนพิเศษที่ห้า สองพี่น้องผู้โดดเดี่ยว1

    หิมะตกหนักท่ามกลางฤดูหนาวอันโหดร้ายของปีที่ภัยพิบัติได้มาเยือนในเขตภาคเหนือของประเทศทำให้ทหารต้องเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อันห่างไกลการเดินทางไปช่วยเหลือประชาชนในครั้งนี้มู่ซือกับฮุ่ยหมิ่นที่ได้เลื่อนตำแหน่งไปด้วยกันเป็นทีมแรก ท่ามกลางหิมะกองสูงพวกเขาจะต้องเดินฝ่าเพื่อไปยังหมู่บ้านเบื้องหน้าที่มีคนติดต่อมาว่าได้ถูกหิมะถล่มหลังคา ทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บกันเป็นจำนวนมากและยังมีอีกหลายชีวิตที่ติดอยู่ภายใต้ซากหลังคาที่ถล่มทำให้หน่วยงานของพวกเขาจำเป็นต้องให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน แต่การเดินทางฝ่าหิมะไม่ใช่เรื่องง่ายในระหว่างที่ทหารในกลุ่มของสองพี่น้องกำลังเดินทางพวกเขาก็ได้ยินเสียงของสุนัขป่าเห่ากรรโชกเสียงดังเหมือนข่มขู่อะไรบางอย่างด้านหน้าห่างจากพวกเขาไม่มากนัก ทำให้คนในกลุ่มพากันเร่งฝีเท้าของพวกตนให้เร็วขึ้น ท่ามกลางฝูงหมาป่าหกตัวที่ล้อมหญิงสาวสองคน หนึ่งในนั้นเป็นคนที่สองพี่น้องย่อมจะต้องรู้จักเป็นอย่างดี“เจินเจินพวกเราจะทำยังไงกันดีจะไปตามคนมาช่วยดันจะมากลายเป็นอาหารหมาป่าเข้าเสียได้” เสียงหญิงสาวผมสั้นท่าทางทะมัดทะแมงกล่าวกับเพื

  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอนพิเศษที่สี่ กลิ่นคาวเลือดก่อเกิดรัก 2

    ภายนอกถ้ำที่โจรทั้งหกนั่งรอบกองไฟที่พวกมันก่อ บัดนี้ได้มีทหารกลุ่มหนึ่งกำลังโอบล้อมพวกมันตามที่เทียนเฉินได้คาดการณ์เอาไว้“ผู้กองหานพวกเราจะรอถึงเมื่อไหร่ครับ” มู่ซือถามกับครูฝึกของตนด้วยความร้อนใจ เนื่องจากเป็นห่วงน้องชายที่อาสาเป็นตัวประกัน“เกือบได้เวลาแล้วนายก็ใจเย็นลงสักหน่อยเถอะ นายต้องเชื่อใจเทียนเฉินสิ” คนที่เป็นทั้งครูฝึกและกำลังจะเป็นน้องเขยของคนตรงหน้ากล่าว“ผมทราบครับแต่นั่นน้องชายผมนะครับ หากผมใจร้อนป่านนี้ผมบุกเข้าไปแล้ว” คนเป็นว่าที่พี่เมียแย้งพวกเขาซุ่มดูพวกมันมาจะครึ่งคืนแล้วไม่เห็นวี่แววว่าโจรร้ายพวกนี้จะหลับสักที หานจ้านจึงได้นึกถึงสมุนไพรที่มีฤทธิ์ทำให้คนสลบออกมา“มู่ซือนายเอาเจ้านี่ไปเผาให้ควันไปทางพวกมันนะรับรองพวกมันหลับแน่ ไม่หลับก็อาจจะสะลึมสะลือใช้ระวังหน่อยก็แล้วกันผลงานน้องสาวนายเลยนะ” คนเป็นหัวหน้ากลุ่มกล่าวออกมาด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจมู่ซือแม้อยากจะพูดอะไรแต่เวลานี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมดังนั้นเขาจึงได้นำสหายร่วมรบไปกับตนอีกสองคนเพื่อไปทำตามคำสั่ง

  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอนพิเศษที่สี่ กลิ่นคาวเลือดก่อเกิดรัก 1

    ยามเย็นย่ำท่ามกลางป่าใหญ่ที่ปราศจากเสียงร้องของสัตว์ เทียนเฉินผู้ที่ได้ปลอมตัวเป็นหนึ่งในตัวประกันที่ถูกผู้ร้ายค้าอาวุธเถื่อนจับตัวมาพร้อมกับกลุ่มคนอีกสี่คนหนึ่งในนั้นมีหญิงสาวใบหน้ากลมดวงตาเรียวเล็กอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย เทียนเฉินคิดว่าเด็กคนนี้บางทีน่าจะเป็นเด็กวัยมัธยมที่ถูกเจ้าชั่วพวกนี้จับมา“ลูกพี่อีกนานไหมกว่านายใหญ่จะมา” เสียงของหนึ่งในพ่อค้าอาวุธดังขึ้นขัดความคิดของเจ้าหน้าที่หนุ่มที่ตอนนี้แต่งตัวเหมือนคนทำงานในหน่วยงานวิจัยขององค์กรบางอย่างที่คนร้ายพวกนี้ต้องการตัว“นายก็รอหน่อยเถอะอีกไม่นานเจ้านายก็น่าจะมาแล้ว ว่าแต่ทำไมตัวประกันของเราถึงมีเด็กมาด้วยวะ” ชายหน้าบากที่ถูกเรียกว่าลูกพี่ถามกับลูกน้องที่มีอาวุธปืนอยู่ในมือหลังจากที่มองไปยังหญิงสาวร่างเล็กใบหน้ากลม“ก็ฉันเห็นว่าหล่อนอยู่กับเจ้าหน้าที่พวกนี้ก็เลยจับมาทั้งหมด แต่พี่ว่าหล่อนยังเป็นนักเรียนอยู่เหรอ หรือว่าจะปล่อยหล่อนไปเด็กขนาดนี้คงจะบอกตำรวจหรือทหารอะไรได้ไม่มากหรอก” คนพูดเป็นชายที่มีลูกสาวอยู่ในวัยมัธยมถามความเห็นกับลูกพี่ใหญ่“แกจะบ้าเหรอห

  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอนพิเศษที่สาม แม่คุณจะรับฉันได้จริง ๆ เหรอ 2

    มิเชลรู้สึกว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นความฝันที่ไม่ใช่ความจริงหากเป็นความฝันหญิงสาวก็ไม่คิดอยากจะลืมตาตื่นชายหนุ่มที่ฉุดหญิงสาววิ่งมาไกลแล้วจึงได้รู้สึกเบาใจว่าไม่น่าจะมีคนตามพวกเขามาทัน เขาจึงได้ปล่อยข้อมือของหญิงสาวคนนี้ลง“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” หลังจากที่เขาปล่อยมือของตนแล้วชายหนุ่มก็มองหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้แม้จะยังสวมแว่นตาอยู่แต่ด้วยการที่พวกเขาวิ่งกันมาไกลก็ยังพอเห็นใบหน้าอันแดงเรื่อจากแสงไฟทำให้ใบหน้านั้นดูน่ารักเทียนเฟยรู้สึกตกใจความคิดของตัวเองอยู่ไม่น้อยนี่เขาชมคนอื่นนอกจากน้องสาวของตน ทางด้านหญิงสาวที่กำลังรู้สึกเขินอายได้มองเห็นอาการเลิ่กลั่กของชายหนุ่มมาดนิ่งหล่อนก็หลุดยิ้มออกมาก่อนที่จะตอบชายที่อยู่ในความทรงจำออกไป“ฉันไม่เป็นไรค่ะแค่รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย” หญิงสาวรู้สึกเหนื่อยหอบตามที่ตนพูดไปจริง ๆ“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วครับ คุณพักอยู่ที่ไหนให้ผมไปส่งเถอะผู้หญิงเดินคนเดียวยามค่ำคืนน่าเป็นห่วง” เทียนเฟยกล่าวตามที่ตัวเองรู้สึก“คือฉันพักอยู่ที่...มันจะสะดวกสำหรับพี่หรือเปล่าคะ” หล่อนแทนตัว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status