บทที่ 3
@วันต่อมา รถแท็กซี่ขับแล่นเข้ามาจอดหน้าโรงแรมหรู สถานที่ที่เจ๊หงส์นัดให้เกรซมาทำงานในคืนนี้ หลังจากยื่นเงินให้คนขับ เธอก็รีบย่างลงจากรถ หันซ้ายหันขวามองหาเจ๊หงส์ ที่บอกว่ามารออยู่ก่อนแล้ว “เกรซ ทางนี้!” เสียงที่คุ้นหูดังมาจากด้านในโรงแรม เมื่อหันไปมองก็พบว่าเป็นเจ๊หงส์ เดินมาพร้อมถุงดระดาษหนึ่งใบ สีหน้าก็ยิ้มร่า “เอานี่ รีบไปเปลี่ยนชุด จะได้เริ่มงาน” มือใหญ่ยื่นถุงกระดาษให้ ฉันเลยรีบรับมาแบบงึกงัก คิดว่าคงเป็นชุดที่ใส่ทำงาน จะได้เหมือนกับคนอื่นๆ “แล้วหนูต้องเปลี่ยนชุดตรงไหนเหรอคะ” เกรซถามโดยไม่ได้เปิดดูชุดในถุงก่อนว่าเป็นชุดแบบไหน “ทางนั้นเลย รีบหน่อยนะ ลูกค้ามารอนานแล้ว” นิ้วเรียวชี้ไปด้านขวามือ ซึ่งเป็นทางเดินแคบๆ ไปห้องน้ำ คนตัวเล็กก็รีบสาวเท้าจ้ำอ้าว ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำเงียบๆ ทันทีที่เปิดถุง หยิบชุดขึ้นมาดู ดวงตาคู่สวยถึงกับนิ่งงัน “นี่ คือชุดที่ต้องใส่ทำงานเหรอ?” ฉันแอบกังวลกับชุดเดรสสีแดงสั้นเสมอขาอ่อน แถมยังเป็นแบบเกาะอกไร้สาย หากสวมคงเผยส่วนเว้าส่วนโค้ง ของร่างกายแบบชัดเจน “เกรซเสร็จรึยัง?” ปังๆๆๆ เจ๊หงส์เห็นว่าเกรซแต่งตัวนาน จึงเคาะประตูเร่งเร้า ทำให้เกรซสะดุ้งตกใจเล็กน้อย เกรซลังเลที่จะใส่ แต่สุดท้ายก็รีบสวมชุดเข้ากับร่างกาย ทำให้เรือนร่างเต็มสาวสะพรั่ง ดูสวยเย้ายวนอย่างมาก ขอบอกอวบโผล่พ้นเนินบลาออกมาครึ่งเต้า ดูเซ็กซี่เกินกว่าอายุสิบแปดปี “เสร็จแล้วค่ะ” มือเล็กๆ พยายามดึงขอบชุดให้ยาวลงมาอีกนิด จะได้ปิดขาอ่อน เด็กสาวไม่คุ้นชินกับการแต่งตัวแบบนี้เลย จึงรู้สึกติดขัดไม่น้อย ก่อนจะรีบเดินออกมาจากห้องน้ำ “งานของเจ๊คืองานอะไรเหรอคะ ทำไมต้องแต่งตัวแบบนี้ด้วยล่ะ” ฉันอดสงสัยไม่ได้ เลยต้องเอ่ยปากถามเจ๊หงส์แบบตรงๆ แต่เมื่อได้ยิน สีหน้าของเจ๊หงส์ก็ดูงึกงักที่จะตอบ ยิ่งทำให้ฉันอยากรู้ว่ามันคืองานอะไรกันแน่ “เกรซ เจ๊ถามย้ำไปแล้วนะ ว่าอยากทำจริงๆ ไหม เธอจะมาเปลี่ยนใจหน้างานไม่ได้นะ” เจ๊หงส์ไม่ยอมตอบที่เกรซถาม แต่เลือกที่จะหาคำมาบีบบังคับไม่ให้เกรซเปลี่ยนใจ นั่นยิ่งทำให้เกรซอยากรู้ ว่ามันเป็นงานแบบไหน และเธอเริ่มกังวลใจกับงานที่จะทำในอีกไม่นาน “เจ๊ตอบเกรซมาก่อนค่ะ งานของเจ๊มันคืองานอะไร” ฉันยังถามย้ำ ไม่งั้นฉันไม่ยอมขึ้นไปทำแน่ หากไม่ได้คำตอบ “จะงานอะไรละ ก็งานขายบริการน่ะสิ อย่าบอกนะว่าแค่นี้ก็ดูไม่ออก” คำตอบของเจ๊หงส์เหมือนน้ำเย็นสาดรดลงมาบนหน้า เบ้าตาที่เคยมีรอยยิ้ม ตอนนี้กลับสั่นเครือ ในใจรู้สึกกลัวขึ้นมาซะอย่างงั้น ชะงักกับคำตอบที่ได้ยิน “เจ๊ว่าไงนะคะ ขายบริการ?” กลีบปากอวบอิ่มสั่นเครือ มือเล็กๆ ทิ้งแนบลำตัวอย่างอ่อนแรง “เกรซไม่ทำค่ะ เกรซขอตัวกลับนะคะ” เพราะคำสอนที่ยายเคยย้ำให้รักศักดิ์ศรี มันทำให้ฉันตัดสินใจปฏิเสธเจ๊หงส์โดยพลัน และรีบหันตัวจะเดินออกไป “เกรซ เดี๋ยวววว” มือใหญ่จับแขนเล็กรั้งไว้ หากคืนนี้เกรซปฏิเสธไม่ทำงาน เจ๊หงส์จะต้องรับผลที่ตามมาอย่างหนักแน่นอน เพราะงั้นจึงไม่มีทางเลือก จำต้องยื่นข้อเสนอสุดท้าย “สองแสน เจ๊ให้สองแสน แลกกับการทำงานคืนนี้แค่คืนเดียว เจ๊รู้นะว่าเกรซต้องการเงินก้อนโตไปรักษายาย คิดซะว่าทำเพื่อยายสิ” เจ๊หงส์เอ่ยเล้าโลม เพราะจำได้ว่าตอนนั่งคุยกันดันเหลือบสายตาไปเห็นตัวเลขในใบเสร็จที่เกรซถือ จึงใช้สิ่งนี้มาปลุกเร้าให้เกรซยอมตกลง “เกรซ เงินสองแสนสมัยนี้หายากจะตาย นี่เจ๊ให้เกรซทำงานแค่คืนเดียว ได้ตั้งสองแสนเชียวนะ งานก็ง่าย เงินก็ดี แบบนี้ไม่มีที่ไหนอีกแล้ว ลองคิดดูสิ ในยุคที่เศรษฐกิจแย่ๆ แบบนี้ ต่อให้เกรซไปทำงานอื่นทั้งปี ก็ยังไม่ได้เงินเท่านี้เลยนะ เกรซจะปฏิเสธงานนี้จริงๆ เหรอ?” “เเค่คืนเดียวใช่ไหมคะ” มือเล็กๆ กำแน่น น้ำเสียงสั่นเครือขณะเอ่ยถาม “ใช่จ้ะ แค่คืนเดียว แลกกับเงินสองแสน” เมื่อได้ยินการยืนยันจำนวนเงินที่ตรงกับสิ่งที่ต้องการ ศักดิ์ศรีที่เคยค้ำคอก็เริ่มสั่นคลอนเหมือนกำแพงที่ถูกกระแทกซ้ำๆ ทว่าแววตาเต็มไปด้วยความกังวลและความลังเล กำลังชั่งน้ำหนักระหว่างความภูมิใจกับความจำเป็น “คืนเดียว เจ๊รับปาก แค่ยอมนอนกับคนที่เจ๊หามาแค่คืนเดียว เจ๊จะให้เงินสองแสนกับเรา” เมื่อคิดถึงตัวเลขในใบเสร็จ ความกล้าเล็กๆ จึงเริ่มผุดขึ้นในใจ อย่างน้อยมันก็คือทางเลือกเดียวในตอนนี้ ยอมเสียร่างกายแค่คืนเดียว คงไม่เป็นไรหรอก ฉันได้แต่คิดปลอบใจตัวเอง เพราะที่เจ๊พูดก็จริง งานสมัยนี้หายาก ต่อให้มีงานอื่นทำ ฉันก็คงต้องทำงานทั้งปีถึงจะเก็บเงินได้สองแสน ถึงงานนี้จะเหยียบย่ำศักดิ์ศรี แต่ฉันก็ไม่มีทางเลือก เพื่อยาย ฉันต้องทำ แม้จะฝืนใจก็ตาม เพราะยายคือผู้มีพระคุณของฉัน ถ้าไม่มียาย ก็ไม่มีฉันในวันนี้ “ตกลงค่ะ หนูจะทำ” ฉันเอ่ยเสียงเบา เจ๊หงส์ได้ยินก็ดูดีใจขึ้นมา รีบล้วงหยิบบางอย่างในกระเป๋ายื่นให้ฉันอย่างรีบร้อน “เอานี่ เลขห้อง รีบเลยนะ ท่านรออยู่” มือใหญ่ผลักฉันไปด้านหน้า ฉันเลยรีบถือกระดาษแผ่นเล็ก เดินออกมาที่หน้าลิฟต์ กดหมายเลขตามที่เขียนอยู่ในกระดาษแผ่นนั้น ในใจตอนนี้ เต้นระทมจนแทบกระเด็นออกจากอก ไม่คิดเลยว่าวันนึงต้องมาทำอะไรแบบนี้ เอาเถอะ แค่ครั้งเดียว ท่องเอาไว้ เกรซ แค่ครั้งเดียว!บทที่ 4ติ่ง!เสียงประตูลิฟต์เปิดออก ทุกก้าวที่เดินรู้สึกได้ถึงความหนักอึ้งจนแทบย่างขาไม่ออก จมูกสวยถอนหายใจบางๆ ระหว่างเคลื่อนร่างเข้าไปในลิฟต์ กดหมายเลข ชั้น 76โรงแรมแห่งนี้ดูหรูหราอย่างมาก แขกที่มาพักก็คงจะกระเป๋าหนักไม่เบา ความคิดยังไม่ทันคลาย ประตูลิฟต์ก็เปิดออก ตรงทางเดิน ซึ่งถูกปูด้วยพรมสีแดง ติดไฟคริสตัลสลัวตลอดแนว สองฝากฝั่งมีกระถางดอกไม้หรูหราวางประดับ เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นดังแว่วอยู่ในอากาศ ก่อนจะหยุดอยู่หน้าประตูห้อง เบอร์ 609 มือเล็กหยิบกระดาษขึ้นมาดูอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจหากผ่านประตูนี้ไป ความบริสุทธิ์ที่สงวนมาทั้งชีวิตก็คงจบสิ้นแล้ว ฉันได้แต่คิดเสียดาย ทว่าตอนนี้ ฉันเลือกเดินมาไกลเกินกว่าจะถอยหลังกลับ ขอโทษนะจ๊ะยายก๊อก ก๊อก ก๊อกเมื่อสลัดความคิดในหัวลงได้ ก็ไม่รอช้าที่จะยกมือขึ้นเคาะประตูสามครั้งและยืนรอไม่ถึงห้าวินาที ก็มีคนมาเปิดประตู“มาแล้วเหรอ รีบเข้ามาเลย” ทันทีที่ประตูเปิดออกเกรซกลับต้องตกใจกับความรีบร้อนของผู้ชายในชุดสูทสีดำ เขากระชากมือเธอเข้ามาในห้องก่อนจะรีบล็อกประตู“ไม่คิดว่าคนที่ไอ้ดินหามา จะเป็นเด็กผู้หญิงอายุน้อยขนาดนี้”แมกซ์ ชายวัยสามสิบปี ค
บทที่ 3@วันต่อมารถแท็กซี่ขับแล่นเข้ามาจอดหน้าโรงแรมหรู สถานที่ที่เจ๊หงส์นัดให้เกรซมาทำงานในคืนนี้ หลังจากยื่นเงินให้คนขับ เธอก็รีบย่างลงจากรถ หันซ้ายหันขวามองหาเจ๊หงส์ ที่บอกว่ามารออยู่ก่อนแล้ว“เกรซ ทางนี้!” เสียงที่คุ้นหูดังมาจากด้านในโรงแรม เมื่อหันไปมองก็พบว่าเป็นเจ๊หงส์ เดินมาพร้อมถุงดระดาษหนึ่งใบ สีหน้าก็ยิ้มร่า“เอานี่ รีบไปเปลี่ยนชุด จะได้เริ่มงาน” มือใหญ่ยื่นถุงกระดาษให้ ฉันเลยรีบรับมาแบบงึกงัก คิดว่าคงเป็นชุดที่ใส่ทำงาน จะได้เหมือนกับคนอื่นๆ“แล้วหนูต้องเปลี่ยนชุดตรงไหนเหรอคะ” เกรซถามโดยไม่ได้เปิดดูชุดในถุงก่อนว่าเป็นชุดแบบไหน“ทางนั้นเลย รีบหน่อยนะ ลูกค้ามารอนานแล้ว”นิ้วเรียวชี้ไปด้านขวามือ ซึ่งเป็นทางเดินแคบๆ ไปห้องน้ำ คนตัวเล็กก็รีบสาวเท้าจ้ำอ้าว ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำเงียบๆ ทันทีที่เปิดถุง หยิบชุดขึ้นมาดู ดวงตาคู่สวยถึงกับนิ่งงัน“นี่ คือชุดที่ต้องใส่ทำงานเหรอ?” ฉันแอบกังวลกับชุดเดรสสีแดงสั้นเสมอขาอ่อน แถมยังเป็นแบบเกาะอกไร้สาย หากสวมคงเผยส่วนเว้าส่วนโค้ง ของร่างกายแบบชัดเจน“เกรซเสร็จรึยัง?”ปังๆๆๆ เจ๊หงส์เห็นว่าเกรซแต่งตัวนาน จึงเคาะประตูเร่งเร้า ทำให้เกรซสะดุ้
บทที่ 2ในค่ำคืนที่เงียบเหงา เกรซนั่งเฝ้าอยู่ข้างๆ เตียงของยายจ๋าไม่ห่าง เพราะอยากให้ยายตื่นขึ้นมาแล้วเห็นหน้าเธอ จะได้ดีใจ ทว่าเพราะความง่วงและอ่อนล้า เด็กสาวได้ฟุบหลับอย่างลืมตัวจนกระทั่งรุ่งเช้าแสงแดดสีเหลืองสาดส่องเข้ามากระทบเปลือกตาคู่สวย ปลุกให้เด็กสาวค่อยๆ ลืมตาตื่นด้วยสีหน้างัวเงีย มือเล็กๆ ยกขึ้นปาดดวงตาให้มองอะไรชัดขึ้น จนเห็นว่ายายจ๋าฟื้นแล้ว “ยายตื่นแล้วเหรอคะ ทำไมยายไม่เรียกหนูละ” ฉันเอ่ยถามเมื่อเห็นยายมองฉัน ด้วยใบหน้ายิ้มอ่อนๆ “ยายอยากให้เกรซพักผ่อน เมื่อคืนคงเฝ้ายายจนดึกเลยใช่ไหม” ยายจ๋าเอ่ยถามก่อนจะจับมือเล็กๆ ของเกรซด้วยมือเหี่ยวย่น“ดึกนิดหน่อยค่ะ แต่ไม่เป็นไร แค่ยายฟื้นเป็นปกติ หนูก็ดีใจมากแล้ว หมอบอกว่ายายต้องพักที่โรงพยาบาลสักระยะ ระหว่างนี้หนูจะดูแลยายเอง”หลังจากได้ยินที่เกรซบอก สีหน้าของยายจ๋าก็ดูเป็นกังวลเล็กน้อย ยายจ๋าถอนหายใจเบาๆ เพราะไม่อยากนอนโรงพยาบาลนาน“ยายอยากกลับบ้าน ค่ารักษาคงจะแพงน่าดูเลยนะ” ยายจ๋ากังวลเรื่องค่ารักษา เพราะไม่อยากให้หลานสาวต้องมาแบกรับภาระเหล่านี้ สู้ไม่รักษาดีกว่า แต่เกรซกลับยิ้มกว้าง พร้อมกับจับมือยายด้วยสีหน้าสดใสไร้กังวล“แพ
บทที่ 1ดวงตาคู่สวยก้มลงมองเนื้อหาในกระดาษด้วยความทุกข์ใจแล่นพล่านอยู่ในหัว อีกไม่กี่เดือนเธอก็จะเรียนจบแล้ว หากไม่ได้จ่ายค่าเทอมภายในเดือนนี้ คงจะโดนไล่ออกแน่ ที่เรียนมาทั้งหมดก็เท่ากับว่าสูญเปล่าแล้วจริงๆ“ไม่ได้ ยังไงฉันก็ต้องหาเงินค่าเทอมมาจ่าย ยายจะต้องสบาย ถ้าฉันเรียนจบมีงานดีๆ ทำ”ความหวังที่มีทำให้เกรซฮึดสู้ เธอรีบเก็บกระดาษใส่กระเป๋า ก่อนจะลุกขึ้นหยิบผ้าขนหนูเข้าไปอาบน้ำ »—⚝—«ภายในห้องครัวโรงทำขนม ตอนนี้ขนมหลายอย่างถูกจัดวางในจาน รูปทรงหลากหลาย มีทั้งขนมทองหยิบทองหยอด ขนมชั้น ขนมเปียกปูน ขนมห่อ ข้าวต้มมัด สังขยาฝักทอง มันเชื่อม กล้วยบวชชี ขนมต้ม หม้อแกงและอีกสามสี่อย่าง ดูน่าทานและสวยงามอย่างมากมือเหี่ยวย่นยกขึ้นปาดเหงื่อด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนจะเดินไปนั่งลงบนแคร่ไม้ หยิบน้ำในขันขึ้นมาดื่มดับกระหาย ขอบขันยังไม่ทันจะถึงกลีบปาก มือที่ยกขันก็สั่นอ่อนแรงขึ้นมากระทันหัน ดวงตาพร่ามัว และวูบหมดสติไป“ยาย!!!” เกรซเดินออกมาเห็น ก็ร้องขึ้นด้วยความตกใจ รีบวิ่งเข้าไปพยุงยายจ๋า แล้วเขย่าเรียกอยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังเงียบสนิท ดวงตาคู่สวยเริ่มน้ำตาคลอเบ้า เพราะกลัวว่ายายจะเป็นอะไรไป “ยาย
บทนำจอมพล X เกรซยายจ๋า ผู้มีพระคุณของเกรซล้มป่วย ภาระทั้งหมดในบ้าน เกรซจึงเป็นผู้ดูแล ไหนจะค่าเทอม ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเงินกู้ และค่ารักษาพยาบาลของยาย จำนวนสองแสนบาท ทำให้เกรซต้องคิดหาเงินมาจ่าย จนได้เจอกับเจ๊หงส์โดยบังเอิญ และจำได้ว่าเจ๊หงส์เคยให้นามบัตรชวนเธอไปทำงานด้วย ยังไม่ทันจะได้ถามว่างานอะไร เกรซก็รีบเอ่ยปากตกลง แต่เมื่อไปถึงหน้างานจริง เกรซกลับต้องสงสัย และถามจนได้รู้ว่า มันคืองานขายบริการทางเพศ เกรซจึงรีบปฏิเสธทันที แต่เจ๊หงส์ก็ยังเซ้าซี้และเอาเรื่องเงินมาเล้าโลม บอกยอมแค่คืนเดียวจะให้เงินสองแสน ด้วยความใจอ่อนและอยากได้เงิน เกรซจึงยอมตกลง และจุดนี้คือสิ่งที่เปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอด »———⚝———«(ชีวิตของเด็กกำพร้า)ช่วงเวลาเย็น แดดอุ่นส่องลอดผ่านต้นไม้ใหญ่ หน้าประตูบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้เงียบสงบ แต่รอบๆ กลับเต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้ที่บานสะพรั่ง ปลูกตกแต่งสวยงามเพื่อเอาไว้ขาย ต้นไม้หลากชนิดถูกจัดวางอย่างตั้งใจราวกับเจ้าของบ้านดูแลมันทุกวัน ใกล้รั้วมีแปลงผักเล็กๆ และไม้เลื้อยเก่าๆ ที่แตกใบออกดอกห้อยระย้าไหวเบาๆ ตามแรงลม กลิ่นหอมจางๆ ลอยมากับอากาศ เหมือนบ้านนี้มีชีวิตของมันเอ