กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ต่อให้เศร้าแค่ไหนแต่ชีวิตก็ต้องไปต่อ…ขวัญเมษากลับห้องมาเก็บกระเป๋าเตรียมเดินทางในวันพรุ่งนี้ เธอหยิบชุดเดรสสายเดี่ยวสีชมพูอ่อนความยาวเหนือเข่าเก็บเข้ากระเป๋า พร้อมด้วยรองเท้าส้นสูงสีเข้ากันกับชุด บอกตามตรงว่างานแต่งงานครั้งนี้เป็นงานที่ขวัญเมษาตื่นเต้นมากที่สุด แม้เธอจะเคยรับงานร้องเพลงในงานแต่งหลายต่อหลายครั้งก็ตาม แต่อย่างที่บอกว่างานนี้คืองานของเพื่อนในคณะเธอ
มันจะไม่น่าตื่นเต้นและตื้นตันใจได้อย่างไรกัน ในเมื่อเธอดันอยู่ในช่วงเวลาที่บ่าวสาวได้จีบกันไปจนถึงขั้นขอกันแต่งงาน
เจ้าบ่าวเป็นหมอส่วนเจ้าสาวเพื่อนของเธอเป็นพยาบาล ใครต่อใครคงคิดว่าทั้งคู่คงเจอกันที่โรงพยาบาลแน่ๆ แต่เปล่าเลย ทั้งสองคนเจอกันที่เกาะเสม็ด แล้วก็พบรักกันในรีสอร์ตที่จัดงาน มากกว่านั้นทั้งคู่ดันเจอกันในวันที่ต่างคนต่างเมาหัวทิ่มและมีวันไนท์สแตนด์กัน!
จากวันไนท์สแตนด์ในวันนั้น…สู่ความสัมพันธ์ที่พร้อมจะจับมือก้าวไปด้วยกันในวันนี้
กรี๊ดดดดด! โรแมนติกเป็นบ้า แค่นั่งคิดก็ยิ้มตามแล้ว แต่พอย้อนกลับมาว่าทำไมตัวเองไม่โชคดีแบบเพื่อนสาวบ้างนะ แค่นั้นรอยยิ้มของเธอก็พลันหุบลงทันที
อยากมีรักแท้ในคืนหลอกลวงกับใครเขาบ้างจัง…
ว่าแล้วก็ปิดไฟนอน หยุดความคิดเพ้อเจ้อเตรียมพร้อมเดินทางไปเกาะเสม็ดที่คงไม่มีวาสนาได้ ‘เสร็จ’ กับใครดีกว่า!
@ เกาะเสม็ด
บรรยากาศงานแต่งคู่รัก ‘คุณหมอ-พยาบาล’ ถูกจัดแบบเรียบง่ายริมหาดทรายชายทะเล แม้จะเชิญแขกไม่มากนัก ทว่าแค่มองด้วยตาเปล่าก็รู้ได้ว่าบ่าวสาวลงทุนกับงานเลี้ยงฉลองคืนนี้เป็นอย่างมาก บนความเรียบง่ายเต็มไปด้วยความเรียบหรู ทั้งการตกแต่งหรือแม้แต่ธีมงานที่ใช้สีโทนเย็น ฝั่งผู้ชายใส่สีครีม ส่วนฝั่งผู้หญิงใส่สีชมพู ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เต็มไปด้วยความสดชื่นสบายตา ยิ่งได้กลิ่นน้ำทะเล และได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่งเบาๆ ยิ่งให้ความรู้สึกอบอุ่นมากขึ้นเป็นเท่าตัว
โอ๊ย! มันดีชะมัด โรแมนติกที่สุด
ปกติแล้วอาจารย์หมออย่างเมธากรไม่ใช่คนที่ชอบไปร่วมงานแต่งงานของใคร เพราะทุกครั้งมันก็จะมีคำถามที่เข้าตัวเขาตลอดว่า ‘เมื่อไหร่จะถึงคิวคุณหมอเสียที’ เขาเบื่อกับการคิดค้นคำตอบมาตอบคำถามนี้
แต่กับครั้งนี้ไม่มาไม่ได้ เพราะไอ้หมอเจ้าบ่าวดันเป็นรุ่นน้องที่เขาสนิทพอดี
ทันทีที่ร่างสูงของหมอหนุ่มใหญ่เดินเข้าไปในงาน สายตาของสาวเล็กสาวใหญ่ต่างจับจ้องเขาแทบจะกลืนกิน มันกลายเป็นเรื่องชาชินสำหรับเมธากรไปแล้ว นายแพทย์ที่อายุเข้าเลขสี่แต่ไร้ซึ่งภรรยาควงออกงาน แถมยังมีใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพปั้นอย่างเขา ย่อมเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้หญิงจะไม่สนใจ
ยอมรับว่าหลงตัวเอง แต่ก็มั่นหน้าว่ามีดีให้หลงแน่นอน!
“อาจารย์หมอเชิญทางนี้ครับ”
“ยินดีด้วยนะครับทั้งสองคน” เมธากรกล่าวแสดงความยินดีกับบ่าวสาว ก่อนจะนั่งประจำโต๊ะที่ถูกจัดเอาไว้ให้กับกลุ่มหมอ พยาบาล เขานั่งดื่มกินและพูดคุยกับทุกคนอย่างสนุกสนานเป็นกันเองพร้อมกับนั่งฟังบ่าวสาวกล่าวขอบคุณแขกตามรูปแบบงานแต่งทั่วๆ ไป
และตอนนี้ช่วงเวลาที่เขาชื่นชอบที่สุดก็มาถึงเสียที นั่นก็คือช่วง After party เห็นเพื่อนเจ้าบ่าวมันโม้ตั้งแต่ก่อนมาว่านักร้องคนนี้ไม่ได้เสียงดีเพียงอย่างเดียว แต่ยังขาวสวยหมวยอึ๋มและน่ารักเอามากๆ
คำพูดของไอ้หมอเพื่อนเจ้าบ่าวมันคุ้นๆ เหมือนเคยได้ยินใครบางคนพูดกับเขาแบบนี้เด๊ะๆ!
ทว่าเมธากรก็ได้คำตอบในเวลาต่อมา เมื่อเห็นนักร้องที่ถูกพูดถึงเดินขึ้นเวที เธอแต่งกายด้วยชุดเดรสสีหวาน ผมสีชมพูถูกมัดรวบขึ้นเป็นหางม้าสูง ๆ เผยให้เห็นลำคอระหง บนใบหน้าแต่งแต้มเครื่องสำอางบางเบาไม่ฉูดฉาด ไม่หนาเตอะ ดูเรียบหรูน่ารักเปรี้ยวอมหวาน ต่างจากลุคนักร้องเพลงยุค 90 คนที่เขาเจอเมื่อสองคืนก่อนอย่างสิ้นเชิง
แต่ถึงจะแก่แต่ความจำเขายังเป็นเลิศ ที่สำคัญใครมันจะไปลืมผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่หน้าอกหน้าใจไม่เล็กเหมือนตัว แถมยังทำให้เขาเฝ้าเพ้อคิดถึงจูบอันแสนหวานของเธอมาสองวันสองคืนเต็ม!
ขวัญเมษา เธอมาโผล่ที่นี่ได้ยังไง ?
รอยสักแบบนี้เธอจำได้ดี มันไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน และเธอก็ชอบมันมาก ลวดลายมันยังคงติดตาเธอมาถึงตอนนี้“เอ่อ รอยสักของพี่ลายนี้ สวยจังเลยนะคะ” หญิงสาวเริ่มตะกุกตะกักเมื่อพบว่าเธอเคยเห็นรอยสักลวดลายแบบนี้มาก่อน“อืม พี่ออกแบบคิดค้นขึ้นมาเอง มีที่เดียวในโลก หนูไม่มีทางไปเจอมันบนตัวของผู้ชายคนไหนอีกอย่างแน่นอน” ภาคย์อมยิ้ม เขาอ่านประกายสายตาของเธอออก ต้องมนตร์ดูตกใจ เหมือนกำลังนึกบางอย่างขึ้นมาได้“ใช่…ใช่คนเดียวกันแน่ๆ” ทั้งดวงตาและใบหน้าที่เธอเคยประทับใจ ทั้งน้ำเสียงนุ่มๆ ทั้งความรู้สึกคุ้นเคยตอนเจอกันต้องมนตร์อยากจะเขกหัวตัวเองหนัก ๆ อีกรอบก็แล้วใครมันจะไปคาดคิดกันละว่าจะเป็นเขาคนนั้น ตอนที่เจอกันครั้งแรกเขาเป็นพระ ส่วนครั้งต่อมาเขาดันไปปรากฏตัวบนเวทีในบาร์โฮส“หลวงพี่ แล้วทำไมหลวงพี่ถึง…”“พี่ไม่ได้เป็นพระแล้ว เรียกพี่ภาคย์ก็พอ”เธอจ้องหน้าเขาแล้วยิ้มกว้าง รู้สึกดีใจเหลือเกินที่ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นพระเหมือนกับตอนนั้น ความอบอุ่นวาบหวามแผ่ซ่านขึ้นมาอย่างประหลาด“หลวงพี่เคยบอกหนูว่า…คนเราพอมีรักก็ย่อมมีทุกข์ แต่ว่าตอนนี้หนูมีความรักอีกแล้ว…. หนูควรจะทำตามหัวใจของตัวเองใช่ไหมคะ หลว
“ใจเย็นก่อนหนู” ภาคย์เอ่ยพลางอมยิ้ม เมื่อคนตัวเล็กเข้ามานั่งข้าง ๆ ในรถแล้วสวมกอดเขาในทันที….ใครจะไปใจเย็นไหว คิดถึงจะแย่แล้วเนี่ย ต้องมนตร์เพียงแค่คิดแต่ไม่ได้พูด เธอยื่นสองมือไปโอบประคองสองข้างแก้มของเขาในท่วงท่ามันเขี้ยว ก่อนจะขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ ๆ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนว่า “จูบหนูหน่อย จูบหนูหน่อยนะคะ…นะคะ”ต้องมนตร์นอนไม่หลับมาตั้งสามคืนเพราะเขา และเขาก็ต้องรับผิดชอบ“อื้อ” คนจูบเก่งรีบจัดให้โดยไม่อิดออด ทั้งขยับดูดเน้นย้ำ ๆ ทั้งสอดใส่ปลายลิ้นเข้าไปปั่นป่วนในโพรงปากเธออย่างซุกซน“หนูคิดถึงพี่มาก ๆ เลย” หญิงสาวรีบสารภาพ“แล้วพี่ล่ะ คิดถึงหนูบ้างไหมคะ” เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังเงียบอยู่ต้องมนตร์ก็ยิงคำถามต่อไปใส่ทันที“คืนนี้ให้พี่ดูแลหนูอีกนะ” สำหรับต้องมนตร์แล้วทั้งน้ำเสียงออดอ้อนและสายตาที่ดูโหยหาเธอนั้นใช้แทนคำตอบได้เป็นอย่างดี “ไปบ้านพี่ไหม….”“ไปค่ะ…ถ้า….” แววตาของเธอมีความลังเลปะปนอยู่ในนั้น “ถ้าอะไร”“ถ้าพี่ยังโสด…”ภาคย์คลี่ยิ้มลุ่มลึกก่อนจะออกรถ ในขณะที่หญิงสาวก็คิดว่าความลึกลับที่ซุกซ่อนอยู่ในความเปิดเผยจริงใจของเขานี่แหละคือเสน่ห์เฉพาะตัวของชายหนุ่ม “หนูชอบพี่ สองสามวั
ตัดภาพไปที่ต้องมนตร์ เธอโมโหตัวเองจริงๆ เธอบอกหมายเลขห้องให้เขาไปอย่างละเอียด แต่ดันไม่ขอเบอร์ติดต่อของเขาหรือแลกไลน์กันเนี่ยนะ! จะบ้าตาย!เอาน่า…. ถึงยังไงก็ต้องทำใจ มันก็แค่การอ๊อฟหนุ่มโฮสมาเดทแค่ชั่วคราว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่คิดค่าตัวแล้วก็ออกเงินเลี้ยงเธอทุกอย่างก็ตามเถอะ!พรุ่งนี้พอตื่นเช้ามาทุกอย่างก็กลับสู่โลกของความเป็นจริงแล้ว หากวันหลังเกิดเหงาขึ้นมาก็ค่อยไปเที่ยวที่บาร์โฮสแห่งนั้นอีกครั้งก็ได้คิดแล้วเธอก็อาบน้ำนอน กอดหมอนข้างฝันหวานถึงรสจูบอันหวานซึ้งของเขาอย่างพร่ำเพ้อ…งือ….ถ้ามีเขาคอยนอนกอดทั้งคืนก็คงจะดีหลังจากสองคืนที่เธอคิดถึงเขาแทบบ้าผ่านพ้นไป ต้องมนตร์ก็พบว่าตัวเองมายืนอยู่ตรงหน้าบาร์โฮสแห่งนี้อีกครั้ง และครั้งนี้เธอก็มาคนเดียวหัวใจดวงน้อยเรียกร้องให้หญิงสาวก้าวเท้าเข้าไปข้างใน และถึงแม้ว่าจะมีหนุ่มหล่อเดินผ่านตาไปมา ทว่าหญิงสาวก็ไม่ว่อกแว่ก เพราะคนที่เธอต้องการมาพบในคืนนี้นั้นคือเขาแค่คนเดียว“วันนี้จะรับกี่ดื่มดีครับ” เสียงทุ้มนุ่มของพีอาร์หนุ่มลอยมาเข้าหูหญิงสาวทันทีที่เธอหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟา ทว่าแววตาของเธอกลับล่องลอยเหม่อมองไปบนเวทีพี่เขาไม่อยู่ที่นั่น ไม่มีแม้แ
บนที่นั่งที่ดีที่สุดในโรงภาพยนตร์วีไอพี หนังรอบดึกเริ่มฉาย และหลายคู่รักก็เริ่มพลอดรักกันอย่างสวีทหวานชื่น บางคู่ก็เริ่มลูบหัวกันอย่างรักใคร่เอ็นดู บางคู่ก็เริ่มล้วงควักกอดจูบกันนัวเนียต้องมนตร์เองก็เริ่มเอนกายซบหนุ่มโฮสต์รุ่นใหญ่ที่ตัวเองอ๊อฟมา หญิงสาวเลือกดูหนังรักโรแมนติกที่มีฉากเลิฟซีนค่อนข้างเยอะ และวินาทีนี้….สำหรับต้องมนตร์แล้ว พระเอกฮอลลีวูดรุ่นใหญ่ขวัญใจสาว ๆ ทั่วโลกที่กำลังยิ้มกว้างอยู่บนจอก็ไม่น่าดึงดูดใจเท่ากับเจ้าของบ่าอุ่นที่นั่งอยู่ข้าง ๆ“ชอบรุ่นใหญ่เหรอเราน่ะ” ภาคย์เหลือบมองคนตัวเล็กที่ยิ้มพริ้มซบบ่าเขาอยู่ เธอดื่มไวน์จนพวงแก้มกลายเป็นสีชมพูระเรื่อ แถมยังหาวยาว ๆ เพราะง่วงนอน พอมองไปมองมาภาพที่เธอเคยนอนหมดเรี่ยวหมดแรงอยู่ในศาลาวัดก็ย้อนกลับเข้ามาในหัวจนเขาต้องกลั้นขำ“จะรุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ อายุก็เป็นเพียงตัวเลขทั้งนั้นแหละค่ะ” ต้องมนตร์เอ่ยพร้อมกับช้อนสายตาหวานเยิ้มขึ้นมองเขา“ไหนบอกจะดูหนัง แล้วทำไมถึงเอาแต่จ้องหน้าพี่” ภาคย์ดูหนังไม่รู้เรื่อง เพราะหน้าหล่อ ๆ โดนสาวสวยที่ควงมาจ้องเอา ๆ“เอ่อ….” ต้องมนตร์ที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังตกหลุมรัก พยายามดึงตัวเองให้หลุดออกมาจา
“พอ ๆ พอได้แล้ว รีบไปกันเถอะ” ภาคย์ตัดสินใจดับบุหรี่ ส่วนต้องมนตร์ก็ควงแขนเขาเดินไปยังรถยนต์คันเล็กๆ ของเธอ และพอไปถึงภาคย์ก็ดึงกุญแจรถจากมือเธอมาไว้ในมือตัวเองทันที“เดี๋ยวพี่ขับให้เอง หนูกินเหล้าไปตั้งขนาดนั้น นั่งฟังเพลงในรถเฉย ๆ ก็พอ จะเริ่มจากชอปปิง กินข้าวแล้วก็ดูหนังรอบดึกใช่ไหม”“ค่ะ” ต้องมนตร์อมยิ้มพร้อมพยักหน้าหงึกหงัก พอภาคย์เปิดประตูรถให้เธอก็รีบเข้าไปนั่งพร้อมรัดเข็มขัดนิรภัยอย่างรวดเร็ว หลังจากขยับเลื่อนเบาะตรงที่นั่งคนขับให้พอดีตัวแล้ว ภาคย์ก็ออกรถอย่างช้าๆ ไม่ลืมดึงมือเธอมากุมไว้ในแบบที่หนุ่มโฮสเขาชอบทำกันต้องมนตร์รู้สึกอบอุ่นหัวใจจนหน้าแดง พอนึกแล้วก็อยากจะรวยมากๆ เพราะหากซื้อตัวเขามาเป็นเพื่อนเที่ยวได้ทุกคืนแบบนี้ก็คงจะดภาคย์ขับรถไปยังห้างหรูที่มีทำเลตั้งอยู่ใกล้บาร์โฮสของเขามากที่สุด เพราะจะได้ชอปปิง กินข้าวและดูหนังเสร็จสรรพจบครบในที่เดียวต้องมนตร์ควงแขนภาคย์เดินเล่นในห้าง และอาการเมาไม่สร่างก็ทำให้หญิงสาวอารมณ์ดีและกล้าหาญชาญชัยในการเต๊าะผู้ชาย พอเห็นเงาสะท้อนจากบานกระจกหญิงสาวก็นึกขำ ผู้ชายที่เธอออฟมาดูไม่เหมือนหนุ่มโฮสเลยสักนิด เขาดูรวย ดูเหมือนกับป๋า ที่ควงเ
“เอา!!! คืนนี้ฉันจะออฟด้วย แกก็ไปหาผู้ชายของแก ส่วนฉันก็ไปหาผู้ชายของฉัน พอได้ผู้ชายแล้วก็แยกย้ายเลยละกัน” ต้องมนตร์หันไปกระซิบเพื่อน ในขณะที่สายตายังคงวนเวียนอยู่ที่หนุ่มใหญ่บนเวทีนี่เธอก็เข้าใจผิดมาตลอดว่างานนี้เขาจำกัดอายุ ไม่นึกเลยว่าเขาจะรับทุกรุ่น แล้วเธอก็ดันชอบรุ่นใหญ่เนี่ยนะ…“ถูกใจคนไหนก็รีบเลยนะแก ก่อนที่จะโดนแย่ง” เพื่อนรีบเอียงคอมากระซิบบอก“เอา…เอาคนนี้แหละ” ต้องมนตร์ยิ้มเขิน ชูมือขึ้นทำเป็นปืนแล้วเล็งไปทางเขา จากนั้นก็ยกแก้วเหล้าขึ้นซดอย่างครึกครื้น“ไหน…ไหนแกเล็งคนไหนเอาไว้”“ก็คนนั้นไง คนแก่ ๆ นั่นน่ะ” ดูเหมือนว่าคนที่อยู่บนเวทีนั้นจะยังไม่รู้ตัว ว่ามีสาวน้อยน่ารักหมายตาอยากได้เขามาเอาอกเอาใจตัวเองในคืนนี้ภาคย์ที่ตอนแรกกะจะมาตรวจงาน ตอนนี้กลับแฝงตัวเป็นหนุ่มโฮสรุ่นใหญ่ที่เต้นอย่างสนุกสนานอยู่บนเวที พอมาเห็นบรรยากาศแล้วก็พอใจ เดี๋ยวพอลงจากเวทีแล้วกะว่าจะไปนั่งจิบไวน์ชิลล์ ๆ ที่ผับอีกแห่งต่อ….แต่ทว่า พอลงจากเวทีก็มีสาวตัวเล็ก ๆ หน้าตาน่ารักมายืนดักทางเอาไว้ในทันที“คืนนี้หนูออฟพี่นะคะ”ภาคย์ตกใจ ใบหน้าคมคายชะงักงันไปชั่วครู่ วินาทีแรกก็ตกใจด้วยไม่นึกว่าจะมีสาวน้อยมาสน