มีอะไรให้ขอเยอะแยะ ทำไมเด็กนี่ถึงชอบขออะไรสุ่มเสี่ยงอยู่เรื่อยเลยวะ?
ถามว่าให้ไหม…จะเหลือเหรอ!
หมับ…
เมธากรจัดให้ตามคำขอของสาวน้อยร้อนรัก มือหนาจับมั่นที่ต้นคอเธอก่อนรั้งเข้าไปฉกฉวยริมฝีปากอิ่มในเวลาเพียงเสี้ยววินาที จนคนที่เป็นฝ่ายอยากได้อยากโดนตั้งตัวไม่ทัน
“อื้อ” ดวงตาที่กลมโตอยู่แล้วเบิกกว้างมากขึ้นเมื่อเขาจูบเธออย่างเร่าร้อน และรุนแรงมากกว่าตอนนั่งจูบนั่งล้วงกันในผับหลายเท่า
เรียวลิ้นเขาเสาะแสวงหาดื่มกินความหวานจากปากสาวน้อยอย่างต้องการจะเก็บเกี่ยวความเย้ายวนใจนี้ให้ได้มากที่สุด เช่นเดียวกับเธอ เมื่อได้สติก็จูบตอบเขาอย่างเร่าร้อนไม่แพ้กัน ทั้งกลิ่นกายและลมหายใจอุ่นที่เป่ารดใบหน้าของขวัญเมษามันทำให้คนอ่อนประสบการณ์อย่างเธอเตลิดไปไกลถึงไหนต่อไหน ยิ่งเมื่อคนตรงหน้าดูดเม้มริมฝีปากล่างเธออย่างแรง ก่อนจะวกไปดูดดึงที่ริมฝีปากบน และหวนกลับมาตวัดเรียวลิ้นเล็กของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้น
บอกตามตรงว่าขวัญเมษาเพิ่งเข้าใจคำว่า ‘น้ำเดิน’ ก็คราวนี้
เดี๋ยว! ยังฟินอยู่ อย่าพึ่งหยุด
ทว่าจู่ๆ คนจูบเก่งก็ค่อยๆ ถอนริมฝีปากออก นัยน์ตาเขายังเต็มไปด้วยไฟปรารถนาที่ขวัญเมษาเองก็ดูออกว่าอารมณ์เขากำลังขึ้นอย่างเต็มที่ไม่ต่างกัน
“พอใจหรือยังเด็กขี้อ่อย” ชายหนุ่มโยกศีรษะคนตัวเล็กด้วยความเอ็นดู แม้จะอยากให้เธอได้ ‘ดูเอ็น’ เขามากแค่ไหน แต่ต้องหยุด เขาไม่อยากทำอะไรที่ตัวเองจะต้องเสียใจหรือทำร้ายเธอในภายหลัง เธอยังเด็ก ส่วนเขาก็ไม่ชอบความสัมพันธ์ข้ามคืนแบบนี้
“คะ?” ขวัญเมษากะพริบตาถี่รัว แล้วคิดได้ว่าก็เธอเป็นคนขอจูบครั้งสุดท้ายจากเขาเองนี่นา ตอนนี้เขาก็ทำให้แล้ว จากนี้เธอก็ควรจะลงจากรถโดยไม่ต้องหาเรื่องโยกโย้ไปมา
หยุดเถอะเมษ์ ถ้าเขาจะเอาก็คงเอาไปนานแล้ว!
แม้นหญิงสาววัยน่าขยี้ที่รู้ตัวดีว่าตัวเอง ‘น่าเอา’ มากแค่ไหนจะยังคงงุนงงอยู่ว่าทำไมเขาถึงไม่ยอมเอาเธอ แต่เรื่องในคืนนี้มันก็จบเพียงแค่นี้แล้ว
“ยังไงก็ดีใจที่เราได้เจอกันนะคะพี่หมอก พี่ทำให้เมษ์มีความสุขมากๆ ในรอบปีนี้เลยค่ะ” เธอเอ่ยทิ้งท้ายเสียงหวาน ก่อนจะยินยอมลงจากรถเขาแต่โดยดี
บ้า บ้า ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!
เมื่อคืนนี้ขวัญเมษานอนไม่หลับเอาแต่พลิกตัวไปมา ไม่ว่าจะพลิกซ้าย พลิกขวา ในหัวสมองก็เอาแต่คิดถึงหน้าแดดดี้สุดหล่อกร้าวใจคนนั้น
ทั้งคำพูด น้ำเสียง สายตาที่มีอำนาจทำลายล้างสูง ที่สำคัญคือรสจูบของเขา…แม้มันจะเป็นการจูบกับผู้ชายครั้งแรก แต่ขวัญเมษาก็พอจะเดาได้ว่าผู้ชายคนนี้จัดว่าเป็นคนจูบเก่งมากคนหนึ่ง มาก ๆๆ ถึงมากที่สุด
จูบยังทำเสียวสะท้านซ่านทรวงได้ขนาดนี้ ถ้าทำมากกว่านี้เธอไม่ตัวเหลวหรือหลอมละลายไปเลยเหรอ! เอาเป็นว่าเธอขอตั้งฉายาให้เขาว่า พี่หมอกคนจูบสูบวิญญาณก็แล้วกัน
“หยุดๆ เลิกคิดได้แล้วยัยเมษ์” ขวัญเมษาพยายามดึงวิญญาณให้กลับเข้าร่าง
ใช่! เธอต้องเลิกคิดทะลึ่งกับผู้ชายได้แล้ว แต่ก็นะเกิดมาตั้ง 23 ปี แฟนคนแรกก็ยังไม่มี ประสบการณ์ใกล้ชิดผู้ชายก็อย่าฝัน พอเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ในวัยที่เป็นสาวสะพรั่งเต็มตัว มันก็อดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงริมฝีปากคู่นั้นยามที่มันแตะลงมาที่ต้นคอเธอ หรือแม้แต่มือเรียวหนายามที่สัมผัสผิวกายเธออย่างแผ่วเบา น้ำเสียงอ่อนทุ้มมีเสน่ห์ยามที่เรียกชื่อเธอด้วยความหอบกระเส่า
มันคงจะเซ็กซี่ไม่น้อยเลย…
“กรี๊ดดดดดด นี่แกจะหลงรักผู้ชายที่เจอคืนเดียวจนอยากนอนกับเขาไม่ได้นะเมษ์” หญิงสาวเด้งตัวขึ้นนั่งเรียกสติตัวเอง แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรไอ้ความคิดถึงที่มีต่อพี่หมอกของเธอมันก็ไม่หายไปไหนเลย
“ฮือ” แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าหากเขาชอบเธอสักนิดเขาคงไม่ปฏิเสธกันแบบนั้น แต่อีกใจก็แย้งขึ้นมาว่าถ้าเขาไม่สนใจเธอเลยก็คงไม่เลี้ยงเหล้าแถมยังจูบเธออย่างดูดดื่มแบบนั้นแน่ๆ
คนอย่างเขาย่อมต้องเจอผู้หญิงสวยถูกใจมามากมาย แต่กับเธอ…กว่าจะเจอคนที่รูปร่างหน้าตาตรงสเปกมันง่ายซะที่ไหนกัน เพราะฉะนั้นขวัญเมษาคิดดีแล้วว่า…
เอาวะ! หมดยุคเหนียมอาย หากอยากได้ก็ต้องลุย
นั่นจึงเป็นเหตุผลให้เธอตัดสินใจควบมอเตอร์ไซค์คันโปรดมุ่งหน้าไปยังผับที่เมื่อคืนเธอได้เจอกับเขา ทั้งที่คืนนี้ไม่มีคิวต้องขึ้นร้องเพลง เพราะเธอต้องเตรียมตัวเดินทางไปเกาะเสม็ดวันพรุ่งนี้ หากแต่หัวใจมันสั่งให้เธอมา ด้วยความหวังที่ว่าจะเจอชายหนุ่มอีกครั้ง
วันนี้นักร้องสาวสวมชุดหนังสีดำ แต่งหน้าจางๆ ขัดกับลุควันที่เธอขึ้นร้องเพลงราวกับคนละคน แต่ถึงอย่างนั้นทันทีที่เธอย่างก้าวเข้ามาด้านในสายตาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ก็ไม่วายหันมากระจุกอยู่ที่เธอ
ขวัญเมษาสบตาทุกคนอย่างตรงไปตรงมาไม่หลบซ่อน ใช่ว่าจะอ่อย ใช่ว่าจะให้ท่า แต่เธอกำลังตามหาเขาคนนั้นต่างหาก!
“จริงด้วย เขาบอกว่าไม่ได้มาบ่อยๆ นี่นา” เธอถอนหายใจออกมาเมื่อมองหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอพี่หมอกคนจูบเก่ง ขวัญเมษาเลยตัดสินใจเดินไปหาการ์ดหน้าร้าน มั่นใจว่าพวกเขาจะต้องจำลูกค้าคนสำคัญของเจ้าของผับได้เป็นอย่างดี
“เอ่อพี่คะ หนูเมษ์นะ นักร้องนำที่นี่”
“อ้อ น้องเมษ์พี่จำได้ แต่วันนี้ไม่มีคิวเราไม่ใช่เหรอ”
“แหม จำแม่นจังเลยนะคะ งั้นหนูมาถามพี่ถูกต้องแล้ว” ขวัญเมษาผลิยิ้มอย่างมีความหวัง การ์ดที่ภาคย์เลือกมาความจำดีใช้ได้เลย
“แล้วมีอะไรให้พี่ช่วยเหรอ”
“คือว่าหนูมาหาพี่คนหนึ่งค่ะ ไม่แน่ใจว่าเขามาไหม ชื่อพี่หมอก เป็นเพื่อนกับพี่ภาคย์ เขาเป็นเจ้าของผับอยู่ที่ไหนสักแห่ง เมื่อคืนนี้เขาก็มานะคะ คืนนี้พี่เห็นเขาหรือเปล่า”
“อืม…ถ้าบอกว่าเพื่อนคุณภาคย์พี่คิดว่าไม่มีคนชื่อนี้นะ หมอกงั้นเหรอ…” คุ้นๆ ว่าไม่มีแฮะ มีแต่ ‘หมอเมธ’ สงสัยเธอคงจะโดนพวกสวมรอยมาหลอกหวังเอาชื่อเสียงภาคย์ไปทำให้เธอสมยอมเป็นแน่
“ไม่มีครับ พี่ว่าน้องเมษ์โดนหลอกแล้วล่ะ เดี๋ยวนี้พวกผู้ชายมันมุกเยอะ เรายิ่งสวยๆ อยู่ มีแต่คนจ้อง ต้องระวังตัวนะ”
เอ่อ…หนูนี่แหละที่จ้องจะเอาเขา ไม่ใช่เขาจ้องจะเอาหนู
“ไม่นะคะ เมษ์ยังเห็นว่า…ช่างเถอะค่ะ แต่คืนนี้พี่ภาคย์เข้ามาไหมคะ” ขอถอนคำพูด แปลว่าการ์ดของภาคย์ไม่ได้ความจำดีอะไรมากมาย ทั้งที่เมื่อคืนเธอเห็นเต็มสองตาว่าภาคย์เข้าไปคุยกับพ่อหนุ่มทรงแดดดี้ของเธอถึงโต๊ะ แถมยังยื่นกล่องถุงยางอนามัยให้ด้วย แล้วกล่องถุงยางอนามัยนั่นก็ยังอยู่ที่เธอ
แบบนี้จะเอาอะไรมาไม่รู้จักกัน แต่เหนื่อยจะเถียงขวัญเมษาขอคุยกับภาคย์โดยตรงเลยคงจะได้เรื่องกว่า!
“คืนนี้คุณภาคย์ไม่เข้านะ น่าจะไปธุระที่ญี่ปุ่นกลับอีกทีก็อาทิตย์หน้าเลย”
หา…นานโคตร! ถึงตอนนั้นเธอคงลืมพี่หมอกไปได้แล้ว นั่นหมายความว่าโชคชะตาของเธอกับเขามันดลให้เรามาเจอกันแค่นี้สินะ…แค่เพื่อให้ได้จูบไม่กี่ครั้งแต่จดจำตลอดไป
ขวัญเมษาพยักหน้ายกมือไหว้ขอบคุณการ์ดด้วยสีหน้าเศร้า คงต้องทำใจจริงๆ แล้วว่าคืนนี้เธอคงไม่ได้เจอชายหนุ่มในดวงใจแน่ๆ
แต่เอาเถอะ! ไม่แน่ว่าพอกลับจากเกาะเสม็ดแล้วอาจมีสักคืนที่เขามาเที่ยวที่ผับภาคย์อีก จากตอนแรกที่คิดว่าถ้าได้งานประจำทำเมื่อไหร่จะเบางานร้องเพลงลง กลายเป็นว่าขวัญเมษาไม่กล้าเบาแล้ว เพราะอยากเจอพี่หมอก
เห้อ…เป็นเอามากจริงๆ นะเรา!
รอยสักแบบนี้เธอจำได้ดี มันไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน และเธอก็ชอบมันมาก ลวดลายมันยังคงติดตาเธอมาถึงตอนนี้“เอ่อ รอยสักของพี่ลายนี้ สวยจังเลยนะคะ” หญิงสาวเริ่มตะกุกตะกักเมื่อพบว่าเธอเคยเห็นรอยสักลวดลายแบบนี้มาก่อน“อืม พี่ออกแบบคิดค้นขึ้นมาเอง มีที่เดียวในโลก หนูไม่มีทางไปเจอมันบนตัวของผู้ชายคนไหนอีกอย่างแน่นอน” ภาคย์อมยิ้ม เขาอ่านประกายสายตาของเธอออก ต้องมนตร์ดูตกใจ เหมือนกำลังนึกบางอย่างขึ้นมาได้“ใช่…ใช่คนเดียวกันแน่ๆ” ทั้งดวงตาและใบหน้าที่เธอเคยประทับใจ ทั้งน้ำเสียงนุ่มๆ ทั้งความรู้สึกคุ้นเคยตอนเจอกันต้องมนตร์อยากจะเขกหัวตัวเองหนัก ๆ อีกรอบก็แล้วใครมันจะไปคาดคิดกันละว่าจะเป็นเขาคนนั้น ตอนที่เจอกันครั้งแรกเขาเป็นพระ ส่วนครั้งต่อมาเขาดันไปปรากฏตัวบนเวทีในบาร์โฮส“หลวงพี่ แล้วทำไมหลวงพี่ถึง…”“พี่ไม่ได้เป็นพระแล้ว เรียกพี่ภาคย์ก็พอ”เธอจ้องหน้าเขาแล้วยิ้มกว้าง รู้สึกดีใจเหลือเกินที่ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นพระเหมือนกับตอนนั้น ความอบอุ่นวาบหวามแผ่ซ่านขึ้นมาอย่างประหลาด“หลวงพี่เคยบอกหนูว่า…คนเราพอมีรักก็ย่อมมีทุกข์ แต่ว่าตอนนี้หนูมีความรักอีกแล้ว…. หนูควรจะทำตามหัวใจของตัวเองใช่ไหมคะ หลว
“ใจเย็นก่อนหนู” ภาคย์เอ่ยพลางอมยิ้ม เมื่อคนตัวเล็กเข้ามานั่งข้าง ๆ ในรถแล้วสวมกอดเขาในทันที….ใครจะไปใจเย็นไหว คิดถึงจะแย่แล้วเนี่ย ต้องมนตร์เพียงแค่คิดแต่ไม่ได้พูด เธอยื่นสองมือไปโอบประคองสองข้างแก้มของเขาในท่วงท่ามันเขี้ยว ก่อนจะขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ ๆ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนว่า “จูบหนูหน่อย จูบหนูหน่อยนะคะ…นะคะ”ต้องมนตร์นอนไม่หลับมาตั้งสามคืนเพราะเขา และเขาก็ต้องรับผิดชอบ“อื้อ” คนจูบเก่งรีบจัดให้โดยไม่อิดออด ทั้งขยับดูดเน้นย้ำ ๆ ทั้งสอดใส่ปลายลิ้นเข้าไปปั่นป่วนในโพรงปากเธออย่างซุกซน“หนูคิดถึงพี่มาก ๆ เลย” หญิงสาวรีบสารภาพ“แล้วพี่ล่ะ คิดถึงหนูบ้างไหมคะ” เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังเงียบอยู่ต้องมนตร์ก็ยิงคำถามต่อไปใส่ทันที“คืนนี้ให้พี่ดูแลหนูอีกนะ” สำหรับต้องมนตร์แล้วทั้งน้ำเสียงออดอ้อนและสายตาที่ดูโหยหาเธอนั้นใช้แทนคำตอบได้เป็นอย่างดี “ไปบ้านพี่ไหม….”“ไปค่ะ…ถ้า….” แววตาของเธอมีความลังเลปะปนอยู่ในนั้น “ถ้าอะไร”“ถ้าพี่ยังโสด…”ภาคย์คลี่ยิ้มลุ่มลึกก่อนจะออกรถ ในขณะที่หญิงสาวก็คิดว่าความลึกลับที่ซุกซ่อนอยู่ในความเปิดเผยจริงใจของเขานี่แหละคือเสน่ห์เฉพาะตัวของชายหนุ่ม “หนูชอบพี่ สองสามวั
ตัดภาพไปที่ต้องมนตร์ เธอโมโหตัวเองจริงๆ เธอบอกหมายเลขห้องให้เขาไปอย่างละเอียด แต่ดันไม่ขอเบอร์ติดต่อของเขาหรือแลกไลน์กันเนี่ยนะ! จะบ้าตาย!เอาน่า…. ถึงยังไงก็ต้องทำใจ มันก็แค่การอ๊อฟหนุ่มโฮสมาเดทแค่ชั่วคราว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่คิดค่าตัวแล้วก็ออกเงินเลี้ยงเธอทุกอย่างก็ตามเถอะ!พรุ่งนี้พอตื่นเช้ามาทุกอย่างก็กลับสู่โลกของความเป็นจริงแล้ว หากวันหลังเกิดเหงาขึ้นมาก็ค่อยไปเที่ยวที่บาร์โฮสแห่งนั้นอีกครั้งก็ได้คิดแล้วเธอก็อาบน้ำนอน กอดหมอนข้างฝันหวานถึงรสจูบอันหวานซึ้งของเขาอย่างพร่ำเพ้อ…งือ….ถ้ามีเขาคอยนอนกอดทั้งคืนก็คงจะดีหลังจากสองคืนที่เธอคิดถึงเขาแทบบ้าผ่านพ้นไป ต้องมนตร์ก็พบว่าตัวเองมายืนอยู่ตรงหน้าบาร์โฮสแห่งนี้อีกครั้ง และครั้งนี้เธอก็มาคนเดียวหัวใจดวงน้อยเรียกร้องให้หญิงสาวก้าวเท้าเข้าไปข้างใน และถึงแม้ว่าจะมีหนุ่มหล่อเดินผ่านตาไปมา ทว่าหญิงสาวก็ไม่ว่อกแว่ก เพราะคนที่เธอต้องการมาพบในคืนนี้นั้นคือเขาแค่คนเดียว“วันนี้จะรับกี่ดื่มดีครับ” เสียงทุ้มนุ่มของพีอาร์หนุ่มลอยมาเข้าหูหญิงสาวทันทีที่เธอหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟา ทว่าแววตาของเธอกลับล่องลอยเหม่อมองไปบนเวทีพี่เขาไม่อยู่ที่นั่น ไม่มีแม้แ
บนที่นั่งที่ดีที่สุดในโรงภาพยนตร์วีไอพี หนังรอบดึกเริ่มฉาย และหลายคู่รักก็เริ่มพลอดรักกันอย่างสวีทหวานชื่น บางคู่ก็เริ่มลูบหัวกันอย่างรักใคร่เอ็นดู บางคู่ก็เริ่มล้วงควักกอดจูบกันนัวเนียต้องมนตร์เองก็เริ่มเอนกายซบหนุ่มโฮสต์รุ่นใหญ่ที่ตัวเองอ๊อฟมา หญิงสาวเลือกดูหนังรักโรแมนติกที่มีฉากเลิฟซีนค่อนข้างเยอะ และวินาทีนี้….สำหรับต้องมนตร์แล้ว พระเอกฮอลลีวูดรุ่นใหญ่ขวัญใจสาว ๆ ทั่วโลกที่กำลังยิ้มกว้างอยู่บนจอก็ไม่น่าดึงดูดใจเท่ากับเจ้าของบ่าอุ่นที่นั่งอยู่ข้าง ๆ“ชอบรุ่นใหญ่เหรอเราน่ะ” ภาคย์เหลือบมองคนตัวเล็กที่ยิ้มพริ้มซบบ่าเขาอยู่ เธอดื่มไวน์จนพวงแก้มกลายเป็นสีชมพูระเรื่อ แถมยังหาวยาว ๆ เพราะง่วงนอน พอมองไปมองมาภาพที่เธอเคยนอนหมดเรี่ยวหมดแรงอยู่ในศาลาวัดก็ย้อนกลับเข้ามาในหัวจนเขาต้องกลั้นขำ“จะรุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ อายุก็เป็นเพียงตัวเลขทั้งนั้นแหละค่ะ” ต้องมนตร์เอ่ยพร้อมกับช้อนสายตาหวานเยิ้มขึ้นมองเขา“ไหนบอกจะดูหนัง แล้วทำไมถึงเอาแต่จ้องหน้าพี่” ภาคย์ดูหนังไม่รู้เรื่อง เพราะหน้าหล่อ ๆ โดนสาวสวยที่ควงมาจ้องเอา ๆ“เอ่อ….” ต้องมนตร์ที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังตกหลุมรัก พยายามดึงตัวเองให้หลุดออกมาจา
“พอ ๆ พอได้แล้ว รีบไปกันเถอะ” ภาคย์ตัดสินใจดับบุหรี่ ส่วนต้องมนตร์ก็ควงแขนเขาเดินไปยังรถยนต์คันเล็กๆ ของเธอ และพอไปถึงภาคย์ก็ดึงกุญแจรถจากมือเธอมาไว้ในมือตัวเองทันที“เดี๋ยวพี่ขับให้เอง หนูกินเหล้าไปตั้งขนาดนั้น นั่งฟังเพลงในรถเฉย ๆ ก็พอ จะเริ่มจากชอปปิง กินข้าวแล้วก็ดูหนังรอบดึกใช่ไหม”“ค่ะ” ต้องมนตร์อมยิ้มพร้อมพยักหน้าหงึกหงัก พอภาคย์เปิดประตูรถให้เธอก็รีบเข้าไปนั่งพร้อมรัดเข็มขัดนิรภัยอย่างรวดเร็ว หลังจากขยับเลื่อนเบาะตรงที่นั่งคนขับให้พอดีตัวแล้ว ภาคย์ก็ออกรถอย่างช้าๆ ไม่ลืมดึงมือเธอมากุมไว้ในแบบที่หนุ่มโฮสเขาชอบทำกันต้องมนตร์รู้สึกอบอุ่นหัวใจจนหน้าแดง พอนึกแล้วก็อยากจะรวยมากๆ เพราะหากซื้อตัวเขามาเป็นเพื่อนเที่ยวได้ทุกคืนแบบนี้ก็คงจะดภาคย์ขับรถไปยังห้างหรูที่มีทำเลตั้งอยู่ใกล้บาร์โฮสของเขามากที่สุด เพราะจะได้ชอปปิง กินข้าวและดูหนังเสร็จสรรพจบครบในที่เดียวต้องมนตร์ควงแขนภาคย์เดินเล่นในห้าง และอาการเมาไม่สร่างก็ทำให้หญิงสาวอารมณ์ดีและกล้าหาญชาญชัยในการเต๊าะผู้ชาย พอเห็นเงาสะท้อนจากบานกระจกหญิงสาวก็นึกขำ ผู้ชายที่เธอออฟมาดูไม่เหมือนหนุ่มโฮสเลยสักนิด เขาดูรวย ดูเหมือนกับป๋า ที่ควงเ
“เอา!!! คืนนี้ฉันจะออฟด้วย แกก็ไปหาผู้ชายของแก ส่วนฉันก็ไปหาผู้ชายของฉัน พอได้ผู้ชายแล้วก็แยกย้ายเลยละกัน” ต้องมนตร์หันไปกระซิบเพื่อน ในขณะที่สายตายังคงวนเวียนอยู่ที่หนุ่มใหญ่บนเวทีนี่เธอก็เข้าใจผิดมาตลอดว่างานนี้เขาจำกัดอายุ ไม่นึกเลยว่าเขาจะรับทุกรุ่น แล้วเธอก็ดันชอบรุ่นใหญ่เนี่ยนะ…“ถูกใจคนไหนก็รีบเลยนะแก ก่อนที่จะโดนแย่ง” เพื่อนรีบเอียงคอมากระซิบบอก“เอา…เอาคนนี้แหละ” ต้องมนตร์ยิ้มเขิน ชูมือขึ้นทำเป็นปืนแล้วเล็งไปทางเขา จากนั้นก็ยกแก้วเหล้าขึ้นซดอย่างครึกครื้น“ไหน…ไหนแกเล็งคนไหนเอาไว้”“ก็คนนั้นไง คนแก่ ๆ นั่นน่ะ” ดูเหมือนว่าคนที่อยู่บนเวทีนั้นจะยังไม่รู้ตัว ว่ามีสาวน้อยน่ารักหมายตาอยากได้เขามาเอาอกเอาใจตัวเองในคืนนี้ภาคย์ที่ตอนแรกกะจะมาตรวจงาน ตอนนี้กลับแฝงตัวเป็นหนุ่มโฮสรุ่นใหญ่ที่เต้นอย่างสนุกสนานอยู่บนเวที พอมาเห็นบรรยากาศแล้วก็พอใจ เดี๋ยวพอลงจากเวทีแล้วกะว่าจะไปนั่งจิบไวน์ชิลล์ ๆ ที่ผับอีกแห่งต่อ….แต่ทว่า พอลงจากเวทีก็มีสาวตัวเล็ก ๆ หน้าตาน่ารักมายืนดักทางเอาไว้ในทันที“คืนนี้หนูออฟพี่นะคะ”ภาคย์ตกใจ ใบหน้าคมคายชะงักงันไปชั่วครู่ วินาทีแรกก็ตกใจด้วยไม่นึกว่าจะมีสาวน้อยมาสน