Share

บทที่ 4

สภาพอากาศช่วงเดือนกรกฎาคมมักจะร้อนเหมือนถูกแผดเผา แต่สภาพอากาศบนภูเขาปลอดโปร่งถึงเพียงนี้

จี้เสี่ยวชุ่ยมองโกฐขี้แมวกองใหญ่ตรงหน้าแล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตาเข้ากับดวงตาของโจวเฉิงเจี๋ยเข้าพอดี ทั้งสองคนยิ้มให้แก่กัน จากนั้นก็หัวเราะออกมาเสียงดัง

โจวเฉิงจวินที่เพิ่งล่าสัตว์กลับมาเห็นภาพนี้เข้า ทั้งสองคนราวกับเพิ่งขึ้นมาจากบึงโคลน บนชุดมีดินเปื้อนอยู่เต็มไปหมด ด้านหน้ามีพวกสมุนไพรอยู่หนึ่งกอง? แต่ทว่า...

ในดวงตาของโจวเฉิงจวินมีแววประหลาดใจ เสี่ยวชุ่ยบอกไว้ว่าจะมาหาสมุนไพร หรือเจ้าพวกนี้ก็คือสมุนไพรงั้นหรือ? หากเป็นเช่นนั้นละก็ เขาจำได้ว่าบริเวณไม่ไกลจากตรงนี้ก็มีสมุนไพรประเภทนี้อยู่มากเช่นกัน!

“พี่ใหญ่ ท่านกลับมาแล้ว ท่านดูสิ เจ้าพวกนี้ล้วนแต่เป็นสมุนไพรที่ข้ากับพี่สะใภ้ใหญ่ขุดขึ้นมา...” โจวเฉิงเจี๋ยยังเป็นแค่เด็กหนุ่มที่มีความเป็นผู้ใหญ่เพียงครึ่ง พอเห็นโจวเฉิงจวินแล้วก็แทบอยากจะรีบเอาผลงานออกมาอวด

“เฉิงเจี๋ยเก่งมาก” ใบหน้าของโจวเฉิงจวินมีรอยยิ้มเบิกบานใจ เขาเอ่ยชมอย่างไม่ตระหนี่เลยแม้แต่น้อย

โจวเฉิงเจี๋ยถูกเขาชมจนเขิน แล้วจึงชี้ไปที่จี้เสี่ยวชุ่ย “เปล่าเสียหน่อย นี่เป็นความชอบของพี่สะใภ้ใหญ่ทั้งหมด ถ้าไม่มีพี่สะใภ้ใหญ่ ข้าก็ไม่รู้ว่าเจ้าพวกนี้คือสมุนไพร”

“ขอบใจเจ้า เสี่ยวชุ่ย”

จี้เสี่ยวชุ่ยไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดใบหน้าของนางจึงร้อนขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ได้ นางโบกไม้โบกมือ “ไม่ต้อง ๆ ข้าก็แค่ทำเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตที่ดีขึ้นก็เท่านั้น อีกอย่างข้ายังไม่รู้ว่าโกฐขี้แมวเหล่านี้จะมีราคาหรือไม่”

จี้เสี่ยวชุ่ยพูดแล้วก็สังเกตได้ว่าในมือของโจวเฉิงจวินมีสัตว์ที่ถูกล่าอยู่

นี่เพิ่งจะชั่วยามกว่า ๆ โจวเฉิงจวินก็ยิงกระต่ายได้มาสองตัวแล้ว และยังมีไก่ป่าอีกสามตัว กระต่ายถูกยิงตายไปแล้ว แต่ไก่ป่ายังไม่ตาย และไม่มีบาดแผลภายนอกที่ชัดเจน จี้เสี่ยวชุ่ยจึงรู้ว่าน่าจะเป็นกับดักที่พวกเขาทำเอาไว้ก่อนหน้านี้ จึงทำให้ดักไก่ป่าแบบนี้มาได้หลายตัว

เยี่ยมไปเลย เย็นนี้มีเนื้อให้กิน จี้เสี่ยวชุ่ยมองไก่ป่าจนน้ำลายจะไหลออกมาแล้ว ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เธอเพิ่งจะข้ามภพมาเท่านั้นเอง แต่กลับรู้สึกราวกับไม่ได้กินเนื้อสัตว์มาหลายปี ตอนนี้แค่เห็นเนื้อ ดวงตาของเธอก็เป็นประกายแวววาวแล้ว

“พี่สะใภ้ สัตว์ที่ล่ามาได้พวกนี้พี่ใหญ่ต้องเอาไปแลกเป็นเงินทั้งหมด...”

สายตาของจี้เสี่ยวชุ่ยอาจจะมีพลังทำลายล้างมากเกินไปหน่อย โจวเฉิงเจี๋ยจึงรีบโบกมือแล้วเอ่ยขึ้น

เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้ว จี้เสี่ยวชุ่ยก็ซึมลง สายตาของเธออ่อนแสงลงในชั่วพริบตา

“ก็ไม่ใช่ว่าจะขายเสียทั้งหมด กระต่ายสองตัวนี้ตายแล้ว ต่อให้เอาไปขายก็ได้เงินไม่เท่าไหร่ วันนี้พวกเราก็เก็บกระต่ายสองตัวนี้เอาไว้กินกันเองเถอะ” โจวเฉิงจวินเห็นปากที่คว่ำลงของภรรยาแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจราวกับถูกอะไรพุ่งเข้าใส่ ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุอันใดเช่นกัน

“ยอดไปเลย”

“พี่ใหญ่...”

ต่างจากความตื่นเต้นดีใจของจี้เสี่ยวชุ่ย โจวเฉิงเจี๋ยรู้สึกแปลกประหลาด แม้ว่าพวกเขาจะเพิ่มอาหารบ้างเป็นบางครั้ง แต่ตั้งแต่หลังจากเกิดเรื่องขึ้นในครอบครัว ภาระบนตัวของพี่ใหญ่ก็หนักขึ้นมาก โดยปกติแล้ว แม้ว่าจะเอาสัตว์ที่ตายแล้วกลับไปที่บ้าน ท่านแม่ก็ไม่อนุญาต บอกว่าแลกได้นิดหน่อยก็ให้แลก วันนี้พี่ใหญ่ผิดปกติ แต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้กินเนื้อสัตว์มานานแล้ว มีเนื้อให้กินก็นับเป็นเรื่องดี

ผลการเก็บเกี่ยวที่ได้ในวันนี้ไม่เลวเลย ตลอดทางที่ทั้งสามคนเดินกลับจึงเต็มไปด้วยความสุขใจ สายตาของจี้เสี่ยวชุ่ยแทบจะไม่ละไปจากกระต่าย ในสมองปรากฏเมนูกระต่ายนับไม่ถ้วน

จนกระทั่งพวกเขากลับเข้าบ้านแล้ว โจวเฉิงหย่าก็เข้ามาต้อนรับเป็นคนแรก

“ชุดของพี่สะใภ้สกปรกหมดแล้ว คงจะเหนื่อยแล้ว เชิญดื่มน้ำก่อน” นางพูดจบก็ส่งน้ำหนึ่งถ้วยให้อย่างน่าเอ็นดู

จี้เสี่ยวชุ่ยซาบซึ้งใจมาก นางเอ่ยขอบคุณ จากนั้นก็ดื่มน้ำรวดเดียวจนหมด

“โจวเฉิงหย่า ข้ากับพี่ใหญ่เองก็กระหายน้ำ เหตุใดเจ้าจึงไม่รินน้ำให้พวกข้าดื่มด้วยเล่า!” โจวเฉิงเจี๋ยวางของไปพลาง หยอกเย้านางไปพลาง ใครจะรู้ว่าสีหน้าของโจวเฉิงหย่าจะเปลี่ยนเร็วเสียยิ่งกว่าใคร นางส่งเสียงขึ้นจมูกอย่างน่าเอ็นดู จากนั้นก็สะบัดหน้ากลับ ไม่ใส่ใจพวกเขาอีก

“นี่... เจ้าเด็กคนนี้”

“โจวเฉิงหย่ากำลังโกรธพวกเราอยู่น่ะ! โกรธที่พวกเราไม่พานางขึ้นเขาไปด้วย” โจวเฉิงจวินขำขัน น้องสาวคนนี้คิดอะไรอยู่เขารู้ดี

“ใครให้พวกท่านไม่พาข้าไปด้วยเล่า” โจวเฉิงหย่าเบะปาก ไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง

“ทำไมหรือ ให้เจ้าอยู่ช่วยข้าทำงาน เจ้าไม่พอใจใช่หรือไม่!” อาสะใภ้โจวออกจากห้องมาปิดปากนางได้พอดี

“ท่านแม่ ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้นเสียหน่อย”

“ไม่ใช่แล้วยังพูดมากเช่นนี้ เร็วเข้า ช่วยพวกพี่เจ้าจัดการของที่ล่ามาได้พวกนั้นเสีย” กล่าวจบก็เข้ามาเอาไก่ป่าเข้าไปเลี้ยงในสุ่ม ส่วนกระต่ายเหล่านั้นก็เอามาเตรียมลอกหนังออก

“ท่านแม่ วันนี้กระต่ายสองตัวนี้ไม่ขายแล้ว เก็บเอาไว้ให้ท่านพ่อกับทุกคนได้กินกัน”

อาสะใภ้โจวปวดใจ แต่ที่เขาพูดก็ถูก ไม่ว่าจะคนแก่หรือคนอื่น ๆ ในบ้านก็ควรจะบำรุงกันเสียหน่อย เมื่อวานเป็นวันมงคลของเฉิงจวิน พวกเขาเองก็ไม่มีเงินจะเลี้ยงแขก แค่กินอาหารกันเองง่าย ๆ หนึ่งมื้อเท่านั้น แต่ว่ากระต่ายสองตัวนี้ไม่นับว่ามากไปหรือไม่

“เช่นนั้นก็เอามาตัวเดียวก็พอ ตัวที่เหลือก็จัดการเอา พรุ่งนี้ยังเอาไปขายได้”

“ท่านแม่...” โจวเฉิงหย่าโอดครวญขึ้นมาคนแรก กระต่ายตัวเดียวมีเนื้อแค่ไม่เท่าไหร่เอง นี่พวกเราครอบครัวใหญ่นะ!

“ร้องหาอะไร ร้องหาบิดาเจ้าหรือ!”

“ท่านแม่ พวกเราจะอยู่กันอย่างกระเบียดกระเสียรขนาดนั้นไม่ได้ กินกระต่ายนี้ไป ข้าไปจับมาอีกก็ได้ อีกอย่างวันนี้เสี่ยวชุ่ยขุดสมุนไพรมาได้ไม่น้อย พรุ่งนี้พวกเราเข้าเมืองกัน ดูว่าโรงหมอเหล่านั้นจะรับซื้อหรือไม่”

“สมุนไพร?”

พอทุกคนได้ฟังแล้วก็มองมา จากนั้นก็หยุดชะงักอยู่ที่สมุนไพรสองตะกร้าใหญ่ โจวไฉวางงานฝีมือที่อยู่ในมือออกแล้วเข้ามาดู

“พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านเก่งมากจริง ๆ” โจวเฉิงหย่าตาโต

“นี่เป็นสมุนไพรหรือไม่ยังต้องรอดูในเมืองพรุ่งนี้ ตอนนี้ดีใจไปจะมีประโยชน์อะไร?”

จี้เสี่ยวชุ่ยมีสีหน้าจนปัญญา อาสะใภ้โจวคนนี้เหตุใดจึงจะมุ่งเป้ามาที่นางให้ได้

“เจ้านี่นะ ทุกคนดีใจไม่ดีหรืออย่างไร? จะต้องทำลายบรรยากาศเสียให้ได้เลย” โจวไฉทนดูไม่ได้ ขมวดคิ้วแล้วเอ่ยต่อว่านางไป ที่จริงแล้วเขาก็รู้ว่าเพราะเหตุใดอาสะใภ้โจวถึงเป็นเช่นนี้ นอกจากเรื่องตอนเช้าวันนี้แล้ว ยังมีสายตารังเกียจพวกเขาของจี้เสี่ยวชุ่ยตอนที่เพิ่งจะเข้าบ้านมาอีก แม้ว่าไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดตอนนี้จึงได้เปลี่ยนไป แต่อาสะใภ้โจวยังรู้สึกขุ่นเคืองอยู่ จึงดูถูกนางอยู่เสมอ

“เฮอะ!” อาสะใภ้โจวส่งเสียงขึ้นจมูกแล้วหันหลังเดินจากไป

“เสี่ยวชุ่ยเอ๋ย เจ้าก็อย่าเก็บเอาไปใส่ใจ ท่านแม่ของเจ้าก็เป็นเช่นนี้ นางแค่พูด ๆ ไปก็เท่านั้นเอง”

จี้เสี่ยวชุ่ยจะว่าอะไรได้ เธอฝืนยิ้มออกมา จากนั้นก็หันไปจัดการกับกระต่าย

จนกระทั่งถึงตอนเย็น ในลานบ้านสามารถได้กลิ่นหอมลอยมา ยังดีที่บ้านของพวกเขาอยู่ใกล้ภูเขา ห่างจากคนในหมู่บ้านมากหน่อย ไม่เช่นนั้นพวกคนในหมู่บ้านจะต้องตามกลิ่นมาแน่ นี่มันหอมมากจริง ๆ

โจวเฉิงหย่าและโจวเฉิงเจี๋ยวิ่งเข้าไปในห้องครัวกันตั้งนานแล้ว หลังจากที่ทำตัวออดอ้อนน่าเอ็นดู พวกเขาก็ได้รับเนื้อกระต่ายที่จี้เสี่ยวชุ่ยแบ่งให้เอาไปชิมกัน แม้ว่าอาสะใภ้โจวจะได้กลิ่นแล้วรู้สึกหอม แต่กลับพูดไม่หยุดปากว่าคนที่ได้กลิ่นนี้จะต้องเป็นคนที่ใช้ชีวิตต่อไปไม่ได้แน่

โจวไฉและโจวเฉิงจวินไม่ได้ใส่ใจนาง โจวเฉิงจวินขัดหัวลูกศรของเขาอยู่ที่ลานบ้าน หัวลูกศรจะได้คมขึ้น ง่ายต่อการเจาะร่างกายของเหยื่อ

ภายหลัง โจวเฉิงเหรินที่อยู่ในห้องมาโดยตลอดก็ออกมา แม้ว่าคนในครอบครัวจะแปลกใจ แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไร จนถึงเวลาเริ่มรับประทานอาหาร แม้ว่าโจวเฉิงจวินและโจวเฉิงหย่าจะเอร็ดอร่อย แต่พวกเขาก็ไม่ได้ยื้อแย่งอาหารกัน พวกเขารับประทานกันอย่างงดงามมีอารยธรรม

คนอื่น ๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง จี้เสี่ยวชุ่ยชื่นชอบคนในครอบครัวนี้มากจริง ๆ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status