Home / วัยรุ่น / ดวงใจ คำผลาญ / 2 - บ่าวอีสานพลัดถิ่น

Share

2 - บ่าวอีสานพลัดถิ่น

last update Last Updated: 2025-10-01 13:55:11

 

บ่าวอีสานพลัดถิ่น

“เกื้อ บักเกื้อ แย่แล้ว...” (เกื้อ ไอ้เกื้อ แย่แล้ว...) เสียงดังโหวกเหวกตะโกนเรียกชื่อเขามาแต่ไกล

วันนี้เขาออกมาทำงานที่ร้านซ่อมรถของลุงสมบูรณ์ ที่เป็นร้านรับซ่อมเครื่องยนต์ทุกชนิด ซึ่งตั้งอยู่ทางเข้าหน้าหมู่บ้าน ตามปกติดังเช่นทุกวันที่ร้านเปิด

ชนาวุฒิ คือเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว ที่ยังคงเทียวไปมาหาสู่กันอยู่ตลอด เพราะเพื่อนคนอื่น ๆ ต่างก็พากันมีครอบครัวไปจนเกือบหมดแล้ว บ้างก็แยกย้ายไปหาทำงานที่ต่างจังหวัด...

“มีหยังบักวุฒิ” (มีอะไรไอ้วุฒิ) เขาถามเพื่อนออกไปด้วยความงุนงง ที่จู่ ๆ ก็ตะโกนเรียกเขามาสะเสียงดัง จนคนที่ร้านแทบจะแตกตื่น

“แม่ แม่มึงแย่แล้ว...”

“แม่...”

เพียงแค่เห็นอาการตื่นตระหนกของชนาวุฒิ และได้ยินคำพูดตะกุกตะกักพูดไม่ออกเท่านั้น เขาละทิ้งทุกอย่างตรงหน้าไว้ แล้วรีบบิดรถมอเตอร์ไซค์คู่กายไปยังบ้านของเขาทันที

แต่เมื่อไปถึง กลับมีชาวบ้านมากันเต็มแล้ว ใจแกร่งหล่นวูบลงที่ตาตุ่มทันที และเมื่อเดินเข้าไปภายในบ้าน น้ำตาลูกผู้ชายกลับล่วงลงมาราวเขื่อนแตก เมื่อร่างที่นอนแนบนิ่งไร้ลมหายใจของมารดานั้น ได้จากโลกนี้ไปแบบไม่มีวันกลับ แถมไม่เอ่ยลาเขาเลยสักคำ

“แม่...แม่คือบ่ถ่าเกื้อ ฮืออออ” (แม่...แม่ทำไมไม่รอเกื้อ ฮืออออ) เสียงสะอื้นพร่ำออกมาด้วยความเสียใจ ที่ผู้ไปมารดาจากไปแบบไม่ยอมร่ำลา ถือบอกอะไรเขาไว้เลย

หลังจากงานศพของคำหล้าผ่านพ้นไป ก็ล่วงเลยมาถึงหนึ่งเดือนแล้ว ที่คุณพัฒน์ต้องอยู่ตามลำพังที่บ้านเพียงคนเดียว ชายหนุ่มหยิบรูปถ่ายใบเล็กเก่า ๆ ที่มีพ่อและแม่ของเขาถ่ายด้วยกันตอนที่เขายังไม่เกิด

“พ่อสิฮู้บ่ ว่ามีเกื้ออยู่ในท้องของแม่ แล้วเป็นหยังพ่อคือบ่มาเบิ้งแม่กับเกื้อเลย เกื้อหวังว่าตอนนี้พ่อสิยังมีชีวิตอยู่เด้อ” (พ่อจะรู้ไหม ว่ามีเกื้ออยู่ในท้องของแม่ แล้วทำไมพ่อถึงไม่มาหาแม่กับเกื้อบ้างเลย เกื้อหวังว่าตอนนี้พ่อจะยังมีชีวิตอยู่นะ)

คุณพัฒน์เอ่ยกับรูปภาพใบเล็กที่เป็นภาพของมารดากับบิดาผู้ให้กำเนิดของเขา ที่คำหล้าผู้เป็นแม่นั้นทิ้งไว้ให้เขา พร้อมกับสร้อยและแหวนทองคำ น้ำหนักอย่างละหนึ่งสลึงไว้ให้ พร้อมกับจดหมายฉบับเล็ก ซึ่งเขียนด้วยลายมือของคำหล้า

‘แม่ไม่มีสมบัติติดตัวอะไรมาก นอกจากสร้อยและแหวนวงนี้ ที่แม่รักมากที่สุด ไว้ให้เกื้อเก็บไว้เผื่อยามจำเป็น...แม่ฮักเกื้อหลายเด้อ ดวงใจของแม่ *คำหล้า

เพียงแค่คำสั้น ๆ ก็ทำเอาน้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาอีกครั้ง และนั่งคิดทบทวนอยู่กับตัวเอง ว่าจะเอาอย่างไรต่อ กับชีวิตที่ยังมีลมหายใจอย่างโดดเดี่ยวของเขา

“เกื้อว่าจังใดนะ!” (เกื้อว่าอะไรนะ!) เสียงทุ้มอุทานขึ้นมาอย่างตกใจ เมื่อได้ยินในสิ่งที่คุณพัฒน์เดินมาบอก หลังจากที่หยุดงานไปหลายวัน

สมบูรณ์ ชายวัยกลายคนอายุ สี่สิบต้น ๆ ซึ่งเป็นญาติกันห่าง ๆ กับมารดาของคุณพัฒน์ ที่แต่งงานมีครอบครัวกับคนในพื้นที่หมู่บ้านแห่งนี้ และย้ายมาอยู่ที่หมู่บ่านนี้อย่างถาวร จนมีกิจการเป็นของตัวเอง

“ข่อยสิไปหางานเฮ็ดที่กรุงเทพฯครับลุงบูรณ์” (ผมจะไปหางานทำที่กรุงเทพฯครับลุงบูรณ์) คุณพัฒน์เอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง

“โตคิดดีแล้วแม่นบ่” (นายคิดดีแล้วใช่ไหม)

“ครับ”

“ขันโตตัดสินใจดีแล้ว ลุงกะบ่มีสิทธิ์หยัง ที่สิไปห้ามโตได้ดอก สิไปมื้อใดละ” (ถ้านายตัดสินใจดีแล้ว ลุงก็ไม่มีสิทธิ์อะไร ที่จะไปห้ามนายได้หรอก แล้วจะไปวันไหนละ)

“อีกสองมื้อครับ ไปพร้อมหมู่” (อีกสองวันครับ ไปพร้อมเพื่อน)

“บักวุฒิบ้อ ลุงขอให้โตโชคดีเด้อ” (ไอ้วุฒิเหรอ ลุงขอให้นายโชคดีนะ)

“ขอบคุณครับ”

และวันที่คุณพัฒน์ต้องเดินทางมาถึง เขาเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครด้วยรถจักรยานยนต์คู่ใจ คนละคันกับเพื่อนที่สนิทกันหนึ่งคนนั่นก็คือ ชนาวุฒิที่ยังเหลืออยู่ตอนนี้ เพราะเพื่อนคนอื่น ๆ ต่างก็มีครอบครัวกันไปแล้ว บ้างก็เข้ามาศึกษาและทำงานที่กรุงเทพตั้งแต่อายุสิบแปดแล้ว

เดิมทีเขาตั้งใจจะเดินทางมาคนเดียว แต่เมื่อชนาวุฒิทราบข่าวว่าเขาจะมาหางานที่เมืองหลวง จึงได้ตามเขามาด้วย เพราะพี่สาวเคยบอกให้มาหางานทำตั้งแต่เขาเรียนจบใหม่ ๆ แล้ว แต่เขาที่ยังรักสนุกในชีวิตของวัยรุ่น ติดเพื่อน ติดเที่ยวก็ไม่ยอมมาตามคำขอของพี่สาวสักที

จนคุณพัฒน์ไปบอกลาว่าจะมาหางานทำ เขาจึงเปลี่ยนใจกะทันหันตามคุณพัฒน์มาด้วยทันที โดยไม่สนคำค้านของใครเลย แม้แต่มารดาและบิดาที่ขอเขาอยู่หลายหนแล้ว แต่แค่ได้ยินว่าคุณพัฒน์จะมาแค่นั้นแหละ ก็ตามมาทันที โดยที่บิดามารดาและพี่สาวไม่ต้องเอ่ยปากบอกเลย...

และชนาวุฒิเอง ก็มีพี่สาวที่ทำงานและมีบ้านเป็นของตัวเองอยู่ที่นั่นด้วย จึงพาเขาไปหาพี่สาวก่อนเพื่อตั้งหลักกัน แล้วค่อยคิดอีกทีเรื่องที่จะหางานทำ

ตอนนี้ก็เป็นเวลาสองทุ่มแล้ว ที่คุณพัฒน์และชนาวุฒิเดินทางมาถึง ชนาวุฒิจึงพาเขาไปที่บ้านของพี่สาวเขาก่อน

“คืนนี้ กะนอนนี้ไปก่อน จนกว่าเกื้อกับวุฒิจะหางานเฮ็ดได้ ค่อยย้ายออก” (คืนนี้ ก็นอนที่นี่ไปก่อน จนกว่าเกื้อกับวุฒิจะหางานทำได้ ค่อยย้ายออก) เสียงหวานของหญิงสาวเอ่ยบอก พร้อมกับถือหมอนผ้าห่มออกมาจากห้องให้ชายหนุ่มทั้งสอง

ชญานุช พี่สาวในวัย 30 ปี ของชนาวุฒิ ที่เข้ามาศึกษาอยู่ที่นี่ตั้งแต่จบระดับชั้นมัธยมปลาย จนจบในระดับปริญญาตรี และได้เข้าทำงานในบริษัทเอกชนทันที จนตอนนี้ตั้งตัว มีทรัพย์สิน มีรถและมีบ้านเป็นของตัวเองแล้ว

“ขอบคุณเอื้อยนุชหลาย ๆ เด้อครับ” (ขอบคุณพี่นุชมาก ๆ เลยครับ) คุณพัฒน์เอ่ยขึ้น พร้อมยกมือขึ้นไหว้เป็นการขอบคุณพี่สาวเพื่อน

“บ่เป็นหยังเลย เฮาคนบ้านเดียวกัน เกื้อเป็นหมู่วุฒิ กะคือเป็นน้องซายของเอื้อยคือกัน พักผ่อนเถาะขาดเหลืออีหยังกะบอกได้เด้อ บ่ต้องเกรงใจ” (ไม่เป็นไรเลย เราคนบ้านเดียวกัน เกื้อเป็นเพื่อนวุฒิก็เหมือนเป็นน้องชายของพี่เหมือนกัน พักผ่อนเถอะขาดเหลืออะไรก็บอกได้นะ ไม่ต้องเกรงใจ)

ชญานุชบอกเพื่อให้เขาสบายใจ แล้วเดินเข้าห้องนอนของเธอทันที เพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้เธอต้องไปทำงานอีก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ดวงใจ คำผลาญ   28 - จำใจยอม

    จำใจยอมมื้อค่ำสุดพิเศษจบลง มุกดารินทร์ก็ยังคงเอาแต่นั่งชะเง้ออยู่ที่ห้องโถงไม่ยอมขึ้นห้องไปพักผ่อน จนปราโมทย์ที่นั่งอยู่ด้วยถอนหายใจยาว ก่อนที่จะเอ่ยสั่งเด็กสาวรับใช้ที่เป็นหลานสาวของพิไล“ไปตามเกื้อกูลมาที่นี่หน่อย” ปราโมทย์ที่ทนเห็นลูกสาวเป็นแบบนี้ไม่ได้ จึงสั่งให้แม่บ้านไปตามคุณพัฒน์เข้ามาที่บ้านหลังใหญ่ทีนที“ค่ะ คุณท่าน”สักพักคุณพัฒน์ก็เดินเข้ามาถึง เจอกับปราโมทย์นั่งวางมาดขรึมอยู่ที่โซฟาจ้องมองมาที่เขาอย่างเอาเรื่อง แต่เขาทำใจฮึดสู้ยกมือขึ้นไหว้อย่างยอบน้อม โดยที่จะไม่เอ่ยถามอะไรว่าท่านให้คนไปตามทำไมกัน“พามุกดาขึ้นไปนอน นี้ก็ดึกมากแล้วไม่รู้จักหน้าที่เอาเสียเลย” พูดเพียงแค่นั้น ปราโมทย์ก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เดินเดินผ่านหน้าชายหนุ่มขึ้นไปชั้นบนของบ้านทันที เพราะเขาเองก็ง่วงเต็มทนจนตาแทบจะปิดอยู่รอมร่อ“ทำไมถึงไม่ยอมขึ้นนอนล่ะครับ หืมมม” คุณพัฒน์เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนเมื่อเดินเข้าไปหาหญิงสาว และใช้มือโอบรอบเอวพาเธอเดินขึ้นไปด้านบน“มุกไม่อยากนอนคนเดียวค่ะ มันหงุดหงิดทำให้มุกนอนไม่หลับ” เอ่ยบอกเขาพร้อมกับทำหน้ายู่ราวกับเด็กใส่เขาทันทีดูสิขนาดเธอกำลังจะกลายเป็นแม่คนแล้ว แต

  • ดวงใจ คำผลาญ   27 - มื้อค่ำสุดพิเศษ

    มื้อค่ำสุดพิเศษตกเย็นคุณพัฒน์ที่ผล็อยหลับไปตามหญิงสาวนั้น ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาในช่วงเวลาเย็น แล้วช้อนเอาร่างเล็กของว่าที่คุณแม่ที่ยังคงหลับสนิทอยู่ขึ้นอย่างทะนุถนอมไปวางที่เตียงกว้างให้เธอได้นอนสบาย ก่อนที่จะออกจากห้องของเธอไป เพื่อที่จะไปซื้อของมาทำอาหารมื้อเย็นให้ตามที่่รับปากเธอเอาไว้“จะไปไหน?” เสียงเข้มของปราโมทย์ถามขึ้นมา เมื่อเขากำลังเดินออกจากบ้านไปที่โรงจอดรถ ที่มีมอเตอร์ไซค์เขาจอดอยู่ด้วยปราโมทย์รู้ว่าชายหนุ่มจะออกไปไหน เพราะได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มพูดกับลูกสาวทุกประโยคเมื่อตอนกลางวัน แต่แค่อยากถามกวนเฉย ๆ“จะออกไปตลาดครับ” คุณพัฒน์ตอบออกไปตามตรง เพราะอาศัยอยู่ที่บ้านท่าน ก็ไม่มีอะไรที่ต้องปิดบังอยู่แล้ว ดีแค่ไหนแล้วที่ท่านยอมให้เขามาอยู่ใกล้กับลูกสาวท่าน“ไปสภาพนี้?” ใบหน้านิ่งขรึมมองสำรวจชายหนุ่มตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า จึงได้แต่เลิกคิ้วถามคุณพัฒน์นั้นสวมเพียงแค่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ขายาวธรรมดาเท่านั้น ไม่ได้มีสิ่งของราคาแพงอะไรประดับติดตัว แต่ก็ดูดีใบแบบของชายหนุ่มเอง“คือ...” เขาได้แต่ก้มหน้าถ่อมตนไม่กล้าสบตาของปราโมทย์ เพราะสภาพตัวเองที่ไม่มีอะไรคู่ควรกับลูกสาวท่านเลย“เ

  • ดวงใจ คำผลาญ   26 - อยากหนีไปจากตรงนี้

    อยากหนีไปจากตรงนี้คุณพัฒน์ที่กำลังทำงานสวนอยู่หลังบ้าน ถูกตามตัวให้มาพบกับเจ้าของบ้าน จึงต้องยอมละทิ้งทุกอย่างไว้ แล้วเดินเข้ามาในบ้านใหญ่ทันทีคุณพัฒน์ได้รับอนุญาตจากปราโมทย์ให้พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ได้ โดยพักอยู่ที่บ้านพักของคนงานแทน มีหน้าที่ดูแลรับใช้มุกดารินทร์ในฐานะพ่อของลูกเท่านั้น และจนกว่าที่มุกดารินทร์จะคลอดแต่คุณพัฒน์จะไม่มีสิทธิ์ขึ้นไปชั้นบนของบ้านหลังใหญ่ และให้อยู่กับมุกดารินทร์ได้ เพราะปราโมทย์ต้องการดูพฤติกรรม ว่ามีความอดทนมากแค่ไหนและปราโมทย์ก็ให้เขาออกจากงานทันที ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องขึ้นในวันนั้น ให้มาอยู่ที่บ้านของเขาแทน ส่วนพงษ์พิพัฒน์และธนภัทรจึงยอมให้คุณพัฒน์ทำตามที่ปราโมทย์ขอ เพราะมีทางเดียวที่คุณพัฒน์จะได้อยู่ใกล้ลูกเมีย และเป็นการพิสูจน์ตัวเองด้วยคุณพัฒน์เดินเข้ามาภายในห้องโถงของบ้าน เห็นปราโมทย์นั่งกอดอกอยู่บนโซฟามองมาที่ตน ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรกลับไป ทำเพียงแค่ยกมือขึ้นไหว้เท่านั้น“ตามป้าไลขึ้นไปข้างบน แล้วทำยังไงก็ได้ให้มุกดายอมกินข้าว เป็นผัวเมียภาษาอะไร เมียไม่กินข้าว ก็ไม่ยอมดูแล...” ใบหน้านิ่งขรึมเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง เมื่อคุณพัฒน์มาถึ

  • ดวงใจ คำผลาญ   25 - ไม่ได้เกิดมาเพียบพร้อม

    ไม่ได้เกิดมาเพียบพร้อมสามวันต่อมาบ้านภัทรไชยาธนภัทรกับบิดาของตนรีบมาหามุกดารินทร์ที่บ้าน หลังจากที่ทำธุระที่ต่างจังหวัดเสร็จก็มุ่งหน้ามาบ้านของหญิงสาวเลยทันทีที่ทราบข่าวว่าเกิดอะไรขึ้น“คุณอาอย่าบังคับน้องให้ไปเอาเด็กออกเลยนะครับ เด็กไม่ได้รู้อะไรด้วยเลย น้องจะเสียใจมากแค่ไหน ที่ทำลายเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง แล้วคนที่จะเป็นทุกข์ไม่ใช่แค่มุกดา แต่อาโมทย์เองก็จะรู้สึกผิดไปด้วย...” ธนภัทรร้องขอขึ้นมาทันที ที่รู้ว่าปราโมทย์กำลังจะทำอะไรกับลูกสาว“...” ทุกคนเงียบลงไม่มีใครพูดอะไรออกมาสายตาหันมองไปยังหญิงสาวและชายหนุ่ม ที่หน้าตาบูดซ้ำ เพราะการถูกซ้อมปางตายจากลูกน้องของปราโมทย์ แล้วหันกลับมาเอ่ยกับเจ้าของบ้านต่อ...“ถือว่าเห็นแก่เด็กที่กำลังจะเกิดมา ซึ่งก็คือหลานแท้ ๆ ของอาเอง พ่อเขาก็มีทำไมอาต้องอยากให้ลูกสาวตัวเองทำร้ายอีกหนึ่งชีวิตเพื่ออนาคตด้วยครับ คลอดแล้วค่อยกลับไปเรียนก็ได้”“...” ปราโมทย์ไม่เอ่ยตอบอะไร เมื่อธนภัทรเอ่ยออกมาเช่นนี้“เกื้อกูลก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร น้องออกจะเป็นคนดีคนขยันทำมาหากินคนหนึ่ง เพียงแต่เกิดมากับครอบครัวที่ไม่เพียบพร้อมเหมือนกับพวกเรา แต่ไม่ใช่ว่าวันข้างหน้

  • ดวงใจ คำผลาญ   24 - ไม่เจียมตัวเอาเสียเลย

    ไม่เจียมตัวเอาเสียเลยก๊อก ก๊อก ก๊อก“มีอะไร” เสียงเข้มถามออกไป เมื่อวิศรุตผุนผันเข้ามาหาเขาที่ห้องแบบไม่ได้รอให้คนด้านในอนุญาตเสียก่อนทุกสายตาที่อยู่ในห้องนี้ด้วย ต่างก็หันจ้องมองมาที่วิศรุตเป็นตาเดียวอย่างรอฟังคำตอบ ชายหนุ่มหากได้สนใจไม่ กลับเดินเข้าไปหาปราโมทย์ทันที เพราะมีเรื่องด่วนกว่า“คุณหนูมุกเป็นลมครับ” เสียงกระซิบเอ่ยบอกเบา ๆ เพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน“อะไรน่ะ!!! เป็นลม? แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน” แต่ปราโมทย์ เมื่อได้ยินว่าลูกสาวสุดที่รักเป็นอะไร กลับเก็บอาการไม่อยู่ ตวาดถามเสียงดังขึ้นมาทันที โดยไม่สนใจว่าในที่นี่จะมีใครได้ยินบ้าง เพราะเป็นห่วงลูกสาวจนไม่สามารถควบคุมอะไรได้“อยู่ข้างล่างครับ” วิศรุตเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่งปราโมทย์ไม่ได้สนใจทุกสายตาที่มองมาที่ตน รีบสาวเท้าเดินออกไปจากตรงนี้ ลงมายังจุดที่วิศรุตแจ้งว่าลูกสาวอยู่ที่ไหนและก็เจอกับคุณพัฒน์กำลังอุ้มลูกสาวตนเดินไปทางห้องพยาบาลพอดี จึงได้แต่เดินตามไปแต่ไม่ได้เอ่ยถามอะไรชายหนุ่มออกไปคุณพัฒน์วางมุกดารินทร์ลงที่เตียงในห้องพยาบาลอย่างเบามือ และก็ออกมารออยู่ห่าง ๆ ให้หมอที่ถูกเรียกตัวมาจากโรงพยาบาลตรวจดูอาการหมอที

  • ดวงใจ คำผลาญ   23 - เอาอะไรไปสู้เขา

    เอาอะไรไปสู้เขาวิศรุตได้แต่ชำเลืองมองคุณพัฒน์ที่เดินสวนกันอย่างรู้สึกเห็นใจอยู่ไม่น้อย แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะเขาเองก็ต้องทำตามหน้าที่เหมือนกัน“ให้คนของเราไปจัดการเลยไหมครับ” ถามผู้มีพระคุณที่นั่งหน้าขรึมขึ้นมาทันที ที่เขาเดินเข้ามาภายในห้อง“ไม่ต้อง รอดูไปก่อน ถ้ามันขัดคำสั่งเมื่อไหร่ ค่อยจัดการทีเดียว”ปราโมทย์รีบปราม แล้วนั่งทำงานต่ออยู่ภายในห้องอย่างเงียบ ๆ ไม่ได้สนใจอะไรต่อ แต่สมองก็สั่งการให้เขาอดคิดเรื่องของลูกสาวกับชายหนุ่มที่เขาเรียกมาตักเตือนไม่ได้อยู่ดี“มีหยัง...เว้าบอกกูได้เด้อ เผื่อมึงสิสบายใจขึ้น” (มีอะไร...เล่าให้กูฟังได้น่ะ เผื่อมึงจะสบายใจขึ้น) ชนาวุฒิถามเพื่อนขึ้นมาทันที ที่เห็นคุณพัฒน์เดินกลับเข้ามาทำงานด้วยใบหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก“มันจบลงแล้วล่ะ เฮ็ดงานต่อเถาะอย่าสนใจเรื่องของกูเลย” (มันจบลงแล้วแหล่ะ ทำงานต่อเถอะอย่าสนใจเรื่องของกูเลย) สั่งเรียบเอ่ยบอกเพื่อน แต่ใบหน้าก็ยังแสดงความทุกข์ออกมาอยู่ดี“มักลูกสาวเขาเฮากะสู้ตัวเกื้อ” (รักลูกสาวเขาเราก้ต้องสู้สิเกื้อ)“กูบ่มีอีหยังไปสู้เขาได้ดอก มึงกะเห็น” (กูไม่มีอะไรไปสู้เขาหรอก มึงก็เห็น) พูดตัดพ้อตัวเองขึ้นมาทันท

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status