ช่วงเย็นของวัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า คำพูดของราเชนทร์มันยังคงวนเวียนในหัวของเธอ เฌอรินทร์ต้องทำอะไรสักอย่าง หาอะไรทำไปเรื่อยๆเพิ่มไม่ให้คิดฟุ้งซ่าน แต่สีหน้าและแววตาที่เจ้าเล่ห์ของเขา คิดดีไม่ได้เลย คนอย่างเขาน่ะ....ทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว
" หนูเฌอ! " เสียงแหบของหญิงชราดังขึ้นแผ่วจากทางด้านหลัง แต่เสียงแค่นั้นมันก็ทำให้คนที่อยู่ในห่วงภวังค์สะดุ้งโหยง
" ค่า~ ยายสร้อย " เฌอรินทร์ตอบรับหญิงชราด้วยน้ำเสียงที่สดใส เธอที่กำลังปลูกดอกไม้อยู่ รีบยันกายลุกขึ้นจากพื้นเดินเข้ามาพยุงอีกฝ่ายทันทีด้วยความระวัง เพราะหญิงชราก็แก่มากแล้ว
" ปิดเทอมเหรอ? ถึงกลับบ้าน " มือหยาบกร้านบีบมือเรียวของหญิงสาวเอาไว้แน่นเพื่อประคองตัว ก่อนจะค่อยๆหย่อนสะโพกลงนั่งเก้าอี้
ที่หญิงชราเอ่ยถามออกมาเพราะเฌอรินทร์ไม่ค่อยกลับมาบ้านสักเท่าไร ตั้งแต่พ่อและแม่ของราเชนทร์ออกเดินทางไปเที่ยวยุโรป หญิงสาวก็แทบไม่อยากกลับบ้าน แม้ว่าคนตัวเล็กจะเป็นหลานสาวของลุงสมานแต่ก็ไม่มีความรู้สึกสนิทสนมกันมากขนาดนั้น แต่เธอกลับสนิทกับแม่ของชายหนุ่มมากกว่าเสียอีก ไม่อย่างนั้นจะได้ขึ้นมาอยู่บนเรือนใหญ่เหรอ
" ค่ะ! เทอมใหญ่ 3 เดือนเลย "
" ดีๆ จะได้มาช่วยนายหัวทำงาน ตอนนี้นายหัวงานยุ่งมากเลย " ใบหน้าของหญิงชราประดับไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อพูดถึงราเชนทร์ มือหยาบกร้านของเธอเอื้อมมาจับมือเรียวของเฌอรินทร์ก่อนจะบีบเบาๆ
นายหัวราเชนทร์ ทายาทรุ่นที่ 8 แห่งตระกูลอัครเทวา สืบทอดกิจการไร่โกโก้และโรงงานช็อกโกแลต ไร่อันดารัน ซึ่งไม่ได้ปลูกเพียงแค่โกโก้แต่ยังปลูกต้นปาล์มน้ำมันไว้จำนวนมากสำหรับส่งออกให้โรงงานน้ำมันรายใหญ่ทั่วประเทศ
ด้วยความเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ประกอบกับนิสัยที่เด็ดขาดและสายตาทางธุรกิจที่เฉียบแหลม ราเชนทร์จึงกลายเป็นที่จับตามอง เขาคำนวณทุกการตัดสินใจอย่างแม่นยำ และด้วยวิสัยทัศน์ของเขา ธุรกิจของครอบครัวจึงก้าวไกลอย่างไม่มีใครแปลกใจ
แม้ในตอนนั้นราเชนทร์จะเพิ่งเรียนจบหมาด ๆ แต่ทุกคนในไร่และโรงงาน ไม่ว่าจะเป็นคนผมหงอกหรือผมดำก็ต่างยอมรับและยกย่องให้เขาเป็นหัวหน้าอย่างเต็มภาคภูมิ ด้วยฝีมือการบริหารเขาจึงสามารถนำพา ไร่อันดารัน ก้าวขึ้นสู่การเป็นไร่โกโก้คุณภาพระดับแนวหน้าจนไม่มีใครกล้าตั้งข้อกังขาในตัวเขา
ครืด ครืด!!
ราเชนทร์ที่กำลังอ่านรายงานบัญชีของไร่ ถึงกับละสายตาจากแฟ้มเอกสารเหลือบมองโทรศัพท์ของตัวเองที่วางอยู่ในระดับสายตา เบอร์โทรของผู้เป็นมารดาเด่นหราจนชายหนุ่มถึงกับขมวดคิ้ว
" ครับ! " น้ำเสียงเนือยๆตอบพลางยันกายลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินออกไปยังระเบียบกว้างหวังให้บรรยากาศยามเย็นช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดจากงานเมื่อครู่
( เจ้าเชนทร์!! นี่แกทำอะไรลูกสะใภ้แม่ ) แต่เหมือนว่าวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจะไม่ช่วยเลยสักนิด
" ผมยังไม่ได้ทำอะไรเฌอเลย " เสียงที่ตอบกลับมารดากลับดูร้อนรนขึ้นมาเสียอย่างนั้น
( อ่อเหรอ! ไปง้อน้องเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่อย่างนั้นแม่จะฉีกสัญญาหมั้นทิ้ง ปล่อยให้น้องไปเจอคนที่ดีกว่าแก )
" มันไม่ได้เกี่ยวกันเลย แม่อย่าเอาเรื่องนี้มาขู่! " คิ้วหนาเริ่มขมวดเข้าหากัน เรื่องมันชักไปเลยเถิดกันไปใหญ่ เขาเพียงแค่ต้องการให้เฌอรินทร์เรียกสมานกลับมาแค่นั้น
( แม่ไม่ได้ขู่! เฌอรินทร์ก็เหมือนลูกสาวและการที่เชนทร์ทำลูกแม่ร้องไห้...เชนทร์คิดว่าแม่ยังจะอยากยกลูกให้อยู่ไหม " น้ำเสียงของมาริสา ผู้เป็นมารดาเอ่ยออกมาอย่างใจเย็นแต่แฝงไปด้วยความจริงจัง
" แม่ครับ~ " ราเชนทร์เสียงอ่อนลงเหมือนรู้สึกผิด เขายกมืออีกข้างขึ้นมานวดขมับเบาๆพลางมองลงไปยังด้านล่างก่อนจะเห็นเฌอรินทร์นั่งปลูกดอกไม้ คุยเล่นอยู่กับยายสร้อยอย่างสนุกสนาน
( เชนทร์! น้องกับสมานเป็นคนละคนกันนะลูก น้องไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไปขอโทษน้องเถอะนะ )
( แม่รู้เรื่องนี้ได้ไง ) ที่ถามออกไปเพราะเรื่องสมานมีแค่เขา ลูกน้องและเฌอรินทร์เท่านั้นที่รู้ เขาอยากจัดการเรื่องทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนที่ทั้งสองท่านจะกลับมา
( น้องไม่ได้ฟ้องแม่นะเชนทร์! เมื่อกลางวันแม่โทรไปหาน้อง เสียงน้องสั่นๆ แม่เลยโทรไปหา......... )
" แค่นี้ก่อนนะครับ "
ตู้ด ตู้ด ตู้ด!!!
เหมือนราเชนทร์ไม่ได้ฟังสิที่มาริสาพูดเลยสักนิด เพราะนัยน์ตาคมเอาแต่จับจ้องหญิงสาวที่กำลังเพลินอยู่กับการปลูกดอกไม้จนกระทั่ง ลูกน้องคนสนิทเข้ามา ชายหนุ่มจึงตัดบทสนทนากับผู้เป็นมารดาทันที ก่อนจะรีบวิ่งลงมายังชั้นล่างด้วยความรวดเร็ว
" เฌอ~ " เสียงทุ้มนุ่มนวลของชายหนุ่มร่างสูงเดินเข้ามาพร้อมกับถุงที่ใส่กระถางต้นกล้าดอกไม้ ใบหน้าหล่อฉีกยิ้มกว้างเมื่อเห็นคนตัวเล็กมีสีหน้าสดใสต่างจากเมื่อเช้าที่ดูตึงเครียด
การปลูกดอกไม้ ต้นไม้เป็นสิ่งที่เฌอรินทร์ชอบมากที่สุด มันเป็นส่งเดียวที่สามารถปลอบประโลมใจที่มันกระสับกระส่าย ว้าวุ่นของเธอให้ใจเย็นลง แม้บางครั้งอาจจะหลุดไปกับคำพูดและการกระทำของคนบ้าอำนาจก็ตาม
" ไม่มีของฝากให้ยายบ้างเหรอ อุตส่าห์เข้าเมือง! " หญิงชราเอ่ยออกมาอย่างน่าน้อยใจ ก่อนจะระบายยิ้มออกมาเมื่อหลานชายโอบกอดเธอ
" ผมก็มีความรักให้คุณยายของผมไงครับ "
" ฮ่า ฮ่า ฮ่า~ หลานยายปากหวานจังเลย " มือหยาบกร้านตบหลังแกร่งของชายหนุ่มเบาๆ พลางกระชับอ้อมกอดของเขา
ส่วนเฌอรินทร์พอได้ของที่ชอบก็ลืมทุกสิ่ง เธอค่อยๆหยิบกระถางต้นกล้าออกมาจากถุงด้วยความระมัดระวังเพราะกลัวว่าต้นกล้ามันจะหัก ก่อนจะนำกระถางสามสี่อันที่ธันวาซื้อมาให้เข้าไปเรียงในโรงเพาะชำที่อยู่ข้างบ้าน โดยไม่ได้สนใจเลยว่าตอนนี้กำลังมีคนแอบลอบมองดูเธอ
" ว้าย! " คนตัวเล็กตกใจร้องออกมาอย่างดัง เมื่อมีท่อนแขนแกร่งเข้ามาโอบกอดเธอจากทางด้านหลัง โชคดีที่เธอถือกระถางด้วยสองมือไม่อย่างนั้น มันได้ร่วงแน่ๆ
" เฌอ~ พี่หิวแล้วอะ " น้ำเสียงออดอ้อนดังขึ้นแผ่วเพราะเขากดหน้าจมลงไหล่บางของเธอ สูดดมกลิ่นความสาวบริสุทธิ์ซึ่งไร้สิ่งแปลกปลอมที่เรียกว่าน้ำหอม
" ไม่ต้องมาพูดดี! ปล่อยเดี๋ยวนี้! "
และใช่! เจ้าของน้ำเสียงออดอ้อนราวกับไม่เคยทำผิดคือราเชนทร์! นายหัวผู้ยิ่งใหญ่บ้าอำนาจ เอาแต่ใจตัวเองเป็นที่หนึ่งแค่เฉพาะกับเฌอรินทร์ ไม่รู้ทำไม! เขาชอบเอาแต่ใจทุกครั้งที่อยู่กับเธอแต่บางครั้งก็ตามใจเธอจนมากเกินไป
" คุณเชนทร์ปล่อย! " เธอกัดฟันแน่นพร้อมกับสะบัดเบี่ยงตัวให้ออกจากอ้อมแขนแต่เขากลับยิ่งรัดเธอเอาไว้แน่นกว่าเดิม
" ไม่ปล่อย! จนกว่าเฌอจะยกโทษให้พี่ " เขาใช้แขนข้างหนึ่งโอบรัดกอดเอวเธอเอาไว้ก่อนจะเอามืออีกข้างดึงกระถางต้นไม้จากมือ ขึ้นไปวางเอาไว้บนชั้น แล้วค่อยหมุนตัวหญิงสาวให้หันกลับมาเผชิญหน้ากับเขา
" ต้องการอะไรจากฉันอีกคะ คุณราเชนทร์ " เธอลากชื่อเขายาวยืดอย่างกับกำลังประชด มือเรียวทั้งสองพยายามดันอกแกร่งเอาไว้เพื่อรักษาระยะ ไม่ให้หน้าอกอวบอิ่มที่พ้นขอบเสื้อกล้ามชิดโดนอกของเขา
" ต้องการให้เฌอกลับมาเหมือนเดิม เรียกพี่เหมือนเดิม! แทนตัวเองเหมือนเดิม! อย่าทำตัวห่างเหินพี่....แค่นี้เลยครับ " เขาร่ายยาวเหยียด ทำหน้าอ้อนๆให้ดูสงสาร ส่งสายตาปริบๆให้เธอ ยอมใจอ่อนแต่ทว่าทุกอย่างกลับผิดคาด
" คุณไม่ได้รู้สึกผิดหรอก! ที่กำลังทำอยู่เพราะคุณมาริสาขอร้อง ฉันไม่ลืมคำพูดของคุณ...เมื่อเช้าหรอกนะ " น้ำเสียงเย็นชาและแววตาผิดหวังฉายซ้ำอีกครั้งดั่งเช่นเมื่อเช้า ทุกคำพูดของเธอทำให้เขาถึงกับต้องยอมคืนอิสระ ยอมคลายอ้อมกอด
" พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะเฌอ "
" เป็นเด็กดีของฉัน! แล้วเธอจะอยู่ที่นี่อย่างสบายเหมือนเดิม ไม่ต้องคืนเงินให้ฉันสักบาท " เธอย้ำคำพูดของเขาเมื่อเช้า เหมือนเดิมทุกคำ เล่นเอาใบหน้าหล่อถึงกับชาวาบ
" ก็คือขายตัวแลกกับหนี้นั่นแหละ! ฉันเข้าใจถูกใช่ไหมคุณราเชนทร์ "
และแล้ววันนี้ก็มาถึง ตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา ชีวิตของราเชนทร์และเฌอรินทร์อบอวลไปด้วยความรักและความอบอุ่น ไม่เพียงแค่ความสัมพันธ์ที่เติบโตอย่างมั่นคง แต่ทั้งสองยังประสบความสำเร็จในเส้นทางของตัวเอง เฌอรินทร์ก้าวไปถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ขณะที่ธุรกิจของราเชนทร์ก็เติบโตมั่นคงมากขึ้น และวันนี้พวกเขาก็พร้อมแล้วที่จะก้าวเข้าสู่บทใหม่ของชีวิต บทเรียนของการใช้ชีวิตคู่ณ.ไร่อันดารันแสงแดดยามเช้าทอประกายสีทองอ่อนโยนเหนือผืนหญ้าเขียวขจี สายลมแผ่วเบาพัดโชยหอบกลิ่นหอมละมุนของมวลดอกไม้ที่เฌอรินทร์เฝ้าทะนุถนอมปลูกด้วยสองมือ บัดนี้ พวกมันได้ถูกนำมาจัดแต่งอย่างประณีต เพิ่มเสน่ห์ให้บรรยากาศอบอวลไปด้วยความโรแมนติกซุ้มพิธีอันโอ่อ่าถูกประดับด้วยผ้าขาวบางพลิ้วไหวต้องสายลม แซมด้วยดอกไม้สีอ่อนโทนหวานอย่างลงตัว ตั้งตระหง่านอยู่กลางสนามหญ้าหน้าบ้านหลังใหญ่ ทอดเงาอยู่ใต้แนวทิวไม้สูงที่ให้ความร่มรื่น กลายเป็นฉากหลังอันสมบูรณ์แบบสำหรับช่วงเวลาสำคัญของเธอและเขาทางเดินสีขาวทอดยาวไปยังแท่นพิธี สองข้างทางนั้นถูกตกแต่งแต้มด้วยดอกกุหลาบสีขาวบริสุทธิ์สลับกับดอกไม้สีครีมและสีเขียวจากใบไม้ เทียนขาวในเชิงแก้วคริสตัลตั้
ณ.ไร่อันดารันLamborghini Huracán STO รถซูเปอร์คาร์สุดหรูสีดำทมิฬที่มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ถูกนำออกมาจากโรงรถกระจกเพราะในค่ำคืนนี้เป็นคืนที่แสนวิเศษ ราเชนทร์ อัครเทวา ยิ้มกว้างด้วยความพึงพอใจ เขาบรรจงเช็ดทำความสะอาดตัวรถอย่างพิถีพิถัน แม้ว่าจะไม่มีฝุ่นเกาะเลยสักนิดก็ตาม" เชนทร์! เมื่อวานเข้าบริษัทเป็นยังไงบ้างลูก เจอน้องหญิงไหม " เสียงหญิงวัยกลางคนดังขึ้นจากทางด้านหลัง เธอมาพร้อมกับจานขนมเค้กที่เฌอรินทร์พึ่งทำเสร็จเมื่อครู่ " ที่บริษัทก็เรียบร้อยดีครับ ส่วนเรื่องน้องหญิงผมก็ส่งมอบให้ไอ้ธันเรียบร้อย " " ธันวานี้ยังไง! ไม่ยอมรับรักน้องสักที " " อยู่ใกล้กันขนาดนี้ เดี๋ยวมันก็ใจอ่อนเองแหละแม่ " เขาตอบยิ้มๆ ให้มาริสา ก่อนจะหยิบช้อนซ้อมตักเค้กใส่ปาก แล้วหันกลับไปสนใจซูเปอร์คาร์สุดหรูของตัวเองอีกครั้ง หญิงวัยกลางคนถอนหายใจ ส่ายหัวเล็กน้อยกับคำพูดของเจ้าลูกชาย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา เมื่อเห็นราเชนทร์มีความสุขกับรถคันโปรดของตัวเอง ที่ได้มันมาจากความเก่งและน้ำพักน้ำแล้งของตน " คุณหญิงคะ " สาวใช้เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพ พลางก้าวเข้ามาอย่างสำรวม " คุณวา เจ้าของร้านตัดเสื้อมาถึ
13:30 น.ณ.คอนโด Xxรถตู้คันหรูสีดำสนิทอย่าง Toyota Alphard แล่นเข้ามาภายในคอนโดสุดหรูใจกลางเมือง บริเวณโดยรอบล้อมเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่และการจัดสวนที่สวยงามให้ความร่มรื่นมองไปทางไหนก็สบายตา แถมที่นี่ระบบความปลอดภัยก็ดีเยี่ยมต่างจากหอพักเก่าๆข้างมหาวิทยาลัยที่เฌอรินทร์เคยพักอยู่" ระวังกันด้วย! เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นมันแพงนะเว้ย! อย่าให้มีร่องรอย " " ครับพี่ธัน....ระวังสุดๆ " ยอดประชดประชันขึ้นมาเมื่อเห็นไอ้หน้าหล่ออายุห่างกันแค่สองเดือนยืนเท้าเอวสั่งพวกเขาราวกับเจ้านาย แค่นายหัวให้มันเลื่อนขั้นจากลูกน้องคนสนิทมือขวาขึ้นเป็นรองประธานกรรมการบริษัท อันดารัน กรุ๊ป มันก็เอาใหญ่ ขนาดช่วยยกกระถางดอกไม้มันก็ยังไม่ยอมมาช่วย " อ่า~ ประชดเก่งจังนะมึง เดี๋ยวกูไล่ออกแม่ง " " โอ๊ยๆ ท่านรองประธานใช้อำนาจกดขี่ ฮ่า ฮ่า.... ทำอย่างกับว่าพวกกูจะกลัว " ชายฉกรรจ์เกือบสิบคนต่างพากันหัวเราะร่าอย่างชอบใจ เมื่อยอดสวนกลับธันวาอย่างไม่เกรงกลัว เพราะพวกเขาทำงานมาด้วยกันหลายปี แค่อ้าปากก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร เวลาทำงานก็เคารพกันตามตำแหน่งหน้าที่ หลังจากเลิกงานก็พากันไปสังสรรค์ เมาหัวราน้ำ แบก หามกันกลับบ้านอย
ข่าวจากยอดที่บอกว่า สมานตายแล้ว สร้างความมึนงง สับสนให้แก่ทุกคนที่ยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉินเป็นอย่างมาก ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา เจกับน้ำฝนจะเห็นสีหน้าที่เคร่งเครียดของเฌอรินทร์อยู่หลายครั้งเลยพอจะทราบเรื่องของลุงสมานอยู่บ้าง แต่ช่วงที่รู้ว่าเพื่อนกลับบ้าน พวกเธอก็โล่งใจขึ้นมาเพราะคิดว่าลุงกับหลานน่าได้เจอกันแล้วแต่ผิดมหันต์" สาเหตุการตายล่ะ!? แล้วเจอที่ไหน? พวกเราตามหากันมาตั้งหลายเดือนทำไมไม่เจอ " ธันวายิงคำถามรัวๆใส่ชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกัน สีหน้าตื่นตระหนกมากกว่าใครเพราะเขาเองก็แทบไม่รู้อะไรเลย" ในข่าวบอกว่าผูกคอ! ฆ่าตัวตาย อยู่ทางภาคเหนือ " น้ำเสียงของยอดแม้เรียบเฉยแต่ก็แฝงไปด้วยความไม่มั่นใจและยังไม่อยากเชื่อเช่นกัน" ฆ่าตัวตายเหรอคะ....หมายถึงพึ่งตายเหรอ! ถึงพึ่งได้เจอศพ " น้ำฝนเอ่ยขึ้นเป็นคำถามที่ตรงใจชายหนุ่มรุ่นพี่ทั้งสองเป็นอย่างมาก คำถามนี้จะนำพาไปไขช่วงเวลาการหายตัวไปของสมานได้เป็นอย่างดี" ก็ไม่รู้เหมือนกัน! ตอนที่พี่กำลังรอให้ปากคำกับตำรวจ โทรทัศน์ก็กำลังอ่านข่าวพอดี ชื่อ นามสกุล มันใช่ลุงสมาน " " งั้นคงรอไม่นานหรอกครับ! ผูกคอ! ร่างกายก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็พิสูจน
โชคดีที่จุดเกิดเหตุ เป็นจุดที่ห่างใกล้จากส่วนของรีสอร์ต เพราะก่อนหน้านั้น เฌอรินทร์ น้ำฝนและเจ อยากจะเดินเล่นเลียบหาดไปเรื่อยๆเพื่อฆ่าเวลา เนื่องจากพวกเธอไม่อยากไปช่วยทำอาหาร อยากไปถึงแล้วได้กินเลย แต่ใครมันจะไปคิดว่าระหว่างที่กลับนั้น จะมีไอ้พวกบ้าหื่นกามมันเข้ามาหาเรื่อง และแน่นอนว่าโคตรพลาด!!"โอ๊ย!!!!" ชายหนุ่มร่างใหญ่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ขณะที่มือของเขากำลังกุมใบหูที่โดนกัดไว้ เขาสะบัดตัวแรงเพื่อให้คนด้านหลังหลุดออกจากการยึดตัว แต่ความโกรธที่พุ่งขึ้นทำให้เขาหันขวับไปยังคนที่ทำให้เขาเจ็บปวด"อีบ้า!! " เขาตะโกนเสียงดัง กำมือแน่นและยกมันขึ้น เตรียมตบเข้าใบหน้าของน้ำฝนที่ยืนอยู่ไม่ห่าง แต่ในขณะที่มือของเขากำลังจะพุ่งไปถึง ท่อนไม้ขนาดใหญ่ก็ฟาดลงอย่างจัง ทำให้ชายร่างใหญ่เซถลาถอยหลังและในจังหวะที่เขากำลังเสียสมดุล ผลัวะ!!เฌอรินทร์ก็ได้ทำการหวดเข้าไปที่ศีรษะของชายฉกรรจ์คนนั้นอย่างแรง ส่งผลให้ร่างใหญ่ล้มลงอย่างทันที ตามมาด้วยสีแดงสดที่ไหลออกมาเป็นสาย ดวงตาคู่สวยของทั้งสองคนเบิกกว้างด้วยความตกใจ แต่ ณ.เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมายืนอึ้ง เพราะด้านหลังของพวกเธอ" เฌอ ฝน ระวัง!!! " สองสาวผล
เสียงคลื่นกระทบกับโขดหินดังขึ้นเบา ๆ สร้างความสงบในบรรยากาศยามเย็นของท้องทะเลอันกว้างใหญ่ ท้องฟ้าค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีส้มอมชมพู ขณะที่แสงสุดท้ายของวันเริ่มสะท้อนลงบนผืนน้ำ มองไกลไปจนถึงเส้นขอบฟ้า ท่ามกลางเสียงลมพัดและความเงียบสงบที่ห้อมล้อมให้บรรยากาศโดยรอบมีแต่ความอบอุ่น" เฌอ! มาเร็ว น้ำกำลังเย็นเลย " " โดดมาเลยเพื่อน " เจและน้ำฝนที่กำลังลอยคออยู่เหนือห่วงยางอันใหญ่สีหวาน โบกไม้โบกมือให้กับเพื่อนสาวที่กำลังเดินออกมาจากบ้านพักพร้อมกับขวดน้ำเปล่า เฌอรินทร์โบกมือให้เพื่อนก่อนจะสวมใส่รองเท้าแตะแล้วรีบวิ่งเข้ามาหา " ถอดเสื้อคลุมแล้ว โดดเลย " " รอแป๊บสิ " เธอตะโกนกลับตอบเพื่อนไป พลางโยนขวดน้ำที่ถือมาลงพื้นหาดใกล้ๆกับรองเท้าและเสื้อคลุมของเพื่อน เฌอรินทร์ค่อยถอดเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวออกเผยให้เห็นเรือนร่างขาวเนียนตัดกับชุดบิกินี่ตัวจิ๋วสีดำ ทำให้เธอดูโดดเด่น ขาวผ่องเป็นอย่างมากท่ามกลางเสียงหัวเราะของทั้งสามสาวที่กำลังเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน นัยน์ตาคมหกคู่ก็จับจ้องพวกเธอไม่วางตา พวกเขายืนสังเกตการณ์ห่างไกล จากบ้านพักของตัวเอง ตามคำสั่งของราเชนทร์ที่ให้คอยดูแลเด็กสาวทั้งสาม แม้ว่าบริเวณที่