Home / LGBTQ+ / ดวงใจศิวกร / ตอนที่ 2 ยิ่งคิดยิ่งโมโห

Share

ตอนที่ 2 ยิ่งคิดยิ่งโมโห

last update Last Updated: 2025-10-19 23:20:02

ตอนที่ 2 ยิ่งคิดยิ่งโมโห

ติ๊ด.. ติ๊ด.. เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นทำให้ภาคินที่ดื่มมาอย่างหนักหน่วงเมื่อคืนนี้ เอื้อมมือออกมาจากผ้าห่มเพื่อควานหานาฬิกาที่ยังคงดังอย่างต่อเนื่องไม่หยุดมาปิดเสียงที่น่ารำคาญ เขารู้สึกมึนหัวและปวดหัวเป็นอย่างมากจึงนอนลงเพื่อพักต่ออีกสักครู่

กริ๊ง.. กริ๊ง.. กริ๊ง.. เสียงโทรศัพท์ในห้องพักของภาคินยังคงดังขึ้นมากวนเขาอีกครั้ง เขาจึงจำใจต้องลุกขึ้นมารับอย่างงัวเงีย

"ฮัล.. โหล" ภาคินรับสายด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งและงัวเงีย

"คินยังไม่ตื่นอีกเหรอ นี่สายมากแล้วนะ อย่าลืมสิว่าเรามีประชุมตอนสิบโมง รีบๆ ลุกไปอาบน้ำได้แล้ว แล้วโทรศัพท์มือถือของคินอยู่ที่ไหน พี่โทรไปก็ไม่ติด" เสียงปลายสายถามอย่างรัวเร็วเมื่อได้ยินเสียงที่แหบแห้งของน้องชาย

"นี่กี่โมงแล้วครับพี่หมวยใหญ่" ภาคินยังคงถามพี่สาวคนโตด้วยอาการงัวเงียและสะลึมสะลือ เนื่องจากเมื่อคืนเขาดื่มหนักมาก

"เก้าโมงครึ่งแล้ว รีบๆ ลุกไปอาบน้ำเลยก่อนป๊าจะเข้ามาร่วมประชุม แค่นี้นะ" ภาสินีหรือหมวยใหญ่ของน้องๆ รีบพูดก่อนจะวางสายลงไปอย่างรวดเร็ว

หากภาคินยังมาทำงานสายแบบนี้ถ้าพ่อของเธอรู้เข้า ภาคินมีหวังโดนสั่งให้ปิดผับแน่ๆ หลังจากวางสายจากภาสินีพี่สาวของเขาแล้ว เขาก็รีบลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวอย่างเร่งรีบก่อนจะเข้าไปประชุมที่โรงแรมด้วยความรีบร้อน

เมื่อเขาเปิดประตูเข้าห้องประชุม ทุกคนที่นั่งอยู่ภายในห้องก็หันมามองเขาเป็นตาเดียว เขารีบยกข้อมือขึ้นมาดูก็เป็นเวลาสิบโมงเป๊ะ ถือว่ายังไม่สายเขาจึงรีบค้อมตัวก่อนจะเดินไปนั่งตรงเก้าอี้ข้างๆ ภาสินีผู้เป็นพี่สาว

ภานุพงษ์ พี่ชายของภาคินรีบแก้สถานการณ์ก่อนที่พ่อของเขาจะหันมาดุน้องชายคนเล็ก

"เอาละครับ ทุกคนคงจะเห็นแฟ้มเอกสารตรงหน้ากันแล้ว นี่เป็นแฟ้มสรุปยอดไตรมาสที่สองนี้ครับ ผมถือว่าไตรมาสแรกและไตรมาสที่สองที่ผ่านมานี้ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ตอนนี้เรากำลังเข้าไตรมาสที่สามแล้ว ผมอยากให้มันดีกว่านี้นะครับ อีกทั้งปลายปีนี้ก็เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นพอดี น่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะโปรโมตโรงแรมของเราเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวในช่วงนี้ ไม่ทราบว่าทุกท่านมีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้างครับ" ภานุพงษ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบก่อนจะหันไปมองภาคิน

ภาคินที่รู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก เขาจึงได้แต่นั่งนิ่งๆ มองภานุพงษ์ด้วยใบหน้าที่เงียบขรึม วันนี้พี่ชายคนรองของเขาจะเปิดโอกาสให้เขาได้แสดงความสามารถ เพื่อให้พ่อของเขาให้โอกาสเปิดผับต่อไปได้ เนื่องจากในช่วงระยะหลังๆ มานี้ ภาคินเริ่มทำตัวเถลไถลและมักจะมาทำงานสายเป็นประจำ

"นี่คิน.. พี่บอกให้คินไปเตรียมตัวทำการบ้านสำหรับเรื่องที่จะประชุมในวันนี้แล้วนะ คินอยากให้ป๊าปิดผับของคินจริงๆ เหรอ" ภานุพงษ์กระซิบถามเสียงเครียดกับน้องชาย

"ก็เมื่อคืนเกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย คินเลยลืมน่ะสิพี่พงษ์" ภาคินตอบเสียงอ่อน เขาลืมจริงๆ เขามัวแต่โมโหศิวกรจึงลืมเรื่องที่จะประชุมในวันนี้ไปหมด

แล้วเมื่อคิดถึงศิวกรความรู้สึกที่เพิ่งจะดับมอดลงไปก็โหมกระหน่ำขึ้นมาอีกครั้ง ครั้นนึกถึงใบหน้าคมเข้มที่กำลังยกยิ้มมุมปากอย่างเยาะเย้ยเขาอยู่นั้น ยิ่งทำให้เขารู้สึกโมโหมากยิ่งขึ้นจึงเผลอทุบโต๊ะเสียงดัง ปัง!

ทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมต่างก็พากันตกใจหันมามองภาคินเป็นตาเดียว เมื่อภาคินรู้สึกตัวเขาก็รีบแก้สถานการณ์โดยการลุกขึ้นยืน เอาวะ.. เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว พูดมั่วๆ ไปก่อนก็ได้วะ ภาคินคิดในใจ

"ผมคิดว่าไตรมาสนี้พวกเราควรจะหาสิ่งใหม่ๆ มาดึงดูดพวกนักท่องเที่ยวที่เริ่มมองหาที่พักในช่วงไฮซีซั่นนี้นะครับ อย่างเช่นโปรโมชั่นยิ่งพักยิ่งถูก ถึงโรงแรมของเราจะเป็นโรงแรมระดับสี่ดาวแต่ราคาของเราก็ถือว่าสูงอยู่มาก หากพวกเขามาพักหลายๆ คืนอาจเป็นไปได้ยาก แม้ว่าโรงแรมของเราจะผูกกับบริษัทนำเที่ยวหลายๆ แห่งทั่วโลกแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีอีกหลายวันที่โรงแรมของเรายังไม่ได้มียอดจองเพิ่มเข้ามา"

"ตามปกติช่วงนี้นอกจากนักท่องเที่ยว แล้วยังมีนักธุรกิจหลายบริษัทที่เริ่มมองหาที่พักให้กับพนักงานภายในบริษัทของเขากันบ้างแล้ว ดังนั้นเราต้องเร่งหาวิธีการดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายๆ กลุ่ม และลูกค้าอื่นๆ ที่ไม่ใช่นักท่องเที่ยวอีกด้วย ผมว่าโปรโมชั่นยิ่งพักยิ่งถูกก็น่าจะเป็นโครงการที่ดีในระดับหนึ่งเพื่อดึงดูดให้พวกเขาเหล่านั้นพักกับเราหลายๆ วัน ไม่ทราบว่ามีใครเห็นด้วยหรือเห็นต่างกับผมไหมครับ" เมื่อภาคินพูดจบเขาก็หันไปมองผู้บริหารโรงแรมทั้งหลายที่นั่งอยู่ในห้องประชุม ซึ่งทุกคนต่างก็คิดตามที่ภาคินพูด ซึ่งพวกเขาต่างก็เห็นดีด้วยในระดับหนึ่ง

"เอาล่ะ ทุกคนว่ายังไง ภาคินเขาช่วยออกความคิดเห็นแล้ว หรือใครมีความคิดที่ดีกว่านี้ก็ว่ามาได้เลย จะได้เร่งทำการตลาดก่อนจะเข้าไฮซีซั่น" ภูดิสผู้เป็นพ่อและเป็นประธานโรงแรมเอ่ยถามทุกคนที่ร่วมประชุม

"ผมเห็นด้วยครับ" ภานุพงษ์ยกมือขึ้นเห็นด้วย จึงทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมคนอื่นๆ ยกมือขึ้นเห็นด้วยตาม ทำให้การประชุมจบลงด้วยมติเอกฉันท์และเป็นไปได้ด้วยดี

"เมื่อคืนแกคงจะเตรียมตัวดึกเลยล่ะสิ วันนี้ถึงเกือบมาสาย" ภูดิสผู้เป็นพ่อของภาคินเอ่ยถาม ก่อนเขาจะเดินออกไปจากห้องประชุม

ภาคินได้แต่ยิ้มแหยๆ แล้วจึงหันไปยิ้มให้ภาสินีและภานุพงษ์ ซึ่งทั้งสองคนได้แต่ยิ้มขำขันและส่ายหน้าให้น้องชายตัวดี หลังจากประชุมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ภาคินจึงเดินกลับไปยังห้องทำงานของเขา

"คุณคินคะ รับกาแฟไหมคะเดี๋ยวนุชไปชงให้ค่ะ" นุชนารถผู้ช่วยของภาคินเดินเข้ามาถาม เมื่อเห็นภาคินเดินกลับเข้ามาในห้องทำงาน เธอรู้ว่าวันนี้ภาคินมาสายและยังไม่ได้ทานอะไรมาด้วย

"ครับ แต่วันนี้ผมขอกาแฟเข้มๆ หน่อยนะครับคุณนุช" ภาคินตอบรับก่อนจะหมุนตัวเดินไปที่โต๊ะทำงานของเขา เขานั่งลงบนเก้าอี้และเอนพิงเก้าอี้ด้วยความอ่อนเพลีย เมื่อคืนเขายังนึกไม่ออกเลยว่าเขากลับคอนโดได้ยังไง

ภาคินยกมือขึ้นมาบีบนวดขมับเพื่อช่วยผ่อนคลายความเจ็บปวด

"กาแฟเข้มๆ มาแล้วค่ะคุณคิน" นุชนารถเดินกลับเข้ามาในห้องทำงานของภาคินอีกครั้งพร้อมกับถาดกาแฟ เธอเห็นภาคินเอนหลังพิงเก้าอี้และบีบนวดขมับอยู่จึงวางถ้วยกาแฟลงตรงหน้าผู้เป็นเจ้านายของเธอ

"ขอบคุณครับคุณนุช" ภาคินเอ่ยขอบคุณผู้ช่วยวัยสี่สิบสองปีของเขา นุชนารถถือเป็นผู้ช่วยคนเก่งของเขานับตั้งแต่เขาเข้ามาเริ่มทำงาน เขาก็ได้นุชนารถคอยแนะนำและให้คำปรึกษาที่ดีแก่เขาทุกเรื่อง

"ถ้างั้นนุชขอตัวไปทำงานก่อนนะคะคุณคิน" นุชนารถยกยิ้มก่อนจะออกไปทำงานในส่วนที่เหลือ

ภาคินยกกาแฟขึ้นมาดื่มพลางคิดวางแผนจัดการเรื่องที่ผับ เขาเริ่มลงมือค้นหาวงดนตรีที่กำลังดังและเป็นกระแสมาเล่นที่ร้านเพื่อแก้เกมของศิวกร แต่ไม่ว่าวงดนตรีกี่วงที่เขาติดต่อไปกลับไม่ว่าง ติดคิวงานเล่นที่ไนต์คลับของศิวกรทั้งหมด

ปัง!.. เสียงโต๊ะดังขึ้นอีกครั้ง ตั้งแต่เขารู้จักศิวกรมาเขาทุบโต๊ะเพราะความโมโหไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว

"ศิวกร.. นายจะต้องโดนดีแน่ นายคอยดู" ภาคินพึมพำพลางกำหมัดแน่นด้วยความกรุ่นโกรธที่ศิวกรจองคิววงดนตรีดังๆ ให้ไปเล่นสดทุกคืนวันศุกร์ที่ไนต์คลับ

ส่วนวงดนตรีอื่นๆ ก็คิวเต็มกันหมดแล้วทุกวัน ไม่มีวันว่างเหลือให้ผับของภาคินเลย เขากำลังเครียดกับการแก้เกมของศิวกรจึงไม่ได้ยินเสียงเคาะประตูห้องทำงาน

"คินคะ คุณกำลังทำอะไรอยู่คะ ซาร่าเรียกคุณตั้งนานแล้วนะคะ" เสียงหวานของซาร่าซึ่งเป็นนางแบบน้องใหม่ไฟแรงที่เพิ่งเข้าวงการมาไม่นาน เธอกำลังเดินนวยนาดเข้ามาหาภาคินถึงโต๊ะทำงานอย่างเชื่องช้า ก่อนจะนั่งลงตรงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของเขา

"โทษทีซาร่า ผมกำลังเครียดเรื่องงานน่ะ ว่าแต่วันนี้คุณว่างเหรอถึงมาหาผมได้" ภาคินได้สติขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงหวานของซาร่าดังขึ้นมาในโสตประสาทของเขา เขาจึงเงยหน้าขึ้นมาถามเธอ

"ว่างช่วงบ่ายนี้ค่ะ ตอนเย็นมีนัดถ่ายแบบที่สตูค่ะ" ซาร่าเอ่ยก่อนจะลุกขึ้นยืนและเดินเยื้องย่างอย่างเย้ายวนมาหาภาคิน เธอนั่งลงบนตักของเขา ก่อนจะใช้สองมือบางลูบไล้แผงอกผ่านเสื้อเชิ้ตอย่างเชื่องช้า

"ซาร่าคิดว่าเที่ยงนี้เราไปทานข้าวกัน แล้วไปต่อกันในที่ที่คุณต้องการดีไหมคะ" ซาร่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย้ายวนชวนเซ็กซี่

"ผมไม่มีอารมณ์ วันนี้คุณกลับไปก่อนเถอะ" ภาคินกำลังกลัดกลุ้มเรื่องวงดนตรีที่จะหามาเล่นที่ผับในคืนวันศุกร์ เขาจึงไม่มีกระจิดกระใจคิดเรื่องอื่นจึงได้ปฏิเสธซาร่าไป

ภาคินดันซาร่าลุกขึ้นจากตักของเขาด้วยความอึดอัด ซึ่งซาร่าก็ยอมลุกขึ้นยืนด้วยความหัวเสียที่ถูกปฏิเสธ

"ก็ได้ค่ะ งั้นฉันไปก่อนนะคะ" ซาร่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ก่อนจะเดินออกจากห้องไปด้วยความไม่พอใจ เธอรู้จักภาคินจากผับของเขา และเมื่อเธอรู้ว่าภาคินเป็นเจ้าของโรงแรมชื่อดังเธอก็ไม่รอช้าที่จะสานสัมพันธ์ต่อในทันที

แต่หลังจากคืนนั้นผ่านมา เขาก็ไม่เคยติดต่อและสานสัมพันธ์กับเธออีกเลย เธอจึงได้แต่หมั่นมาหาเขาบ่อยๆ เพื่อสานสัมพันธ์กับภาคิน แต่กลับถูกเขาปฏิเสธอยู่ทุกครั้งไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ดวงใจศิวกร   ตอนที่ 6 ดูแล

    ตอนที่ 6 ดูแลภาคินรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในตอนเที่ยงของวันใหม่ เขารู้สึกปวดเมื่อยและเจ็บช่องทางรักเป็นอย่างมาก จึงได้แต่นอนนิ่งๆ และคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนอย่างเหม่อลอย"ตื่นแล้วเหรอ" ศิวกรหลังจากออกไปโทรศัพท์สั่งงานเลขาเรียบร้อยแล้ว เขาก็นั่งทำงานต่ออีกครู่หนึ่ง ก่อนจะนึกถึงคนในห้องจึงเดินเข้ามาดูภาคินหันไปมองเจ้าของเสียง แล้วลอบมองสำรวจศิวกรตั้งแต่หัวจรดเท้า แม้ศิวกรจะสวมชุดลำลองเพียงแค่เสื้อยืดคอปกปลดกระดุมเม็ดบนสุดหนึ่งเม็ด จึงเผยให้เห็นรอยแดงจากฝีมือของเขาที่โผล่พ้นคอเสื้อออกมา ทำให้ใบหน้าของภาคินเริ่มขึ้นสี เขาเลยเสสายตาลงมามองกางเกงขาสั้นธรรมดาๆ ที่ศิวกรสวมใส่ แม้จะเป็นเสื้อผ้าที่สวมสบายๆ แต่ศิวกรก็ยังคงความเข้มและหล่อเหลาอยู่มาก"มองอะไรของนาย หรือว่านาย..." ศิวกรเอ่ยเย้าแหย่ภาคินที่กำลังมองสำรวจตนเองตั้งแต่หัวจรดเท้า"เปล่าสักหน่อย ผมจะกลับแล้ว" ภาคินเอ่ยพลางขยับตัวเพื่อจะลุกออกจากที่นอน แต่ทันใดนั้นความเจ็บปวดก็พุ่งเข้ามาโจมตีทันทีที่เขาขยับ"อ๊ะ... โอ๊ย" ภาคินจำต้องหยุดชะงักด้วยความเจ็บ"นายเป็นอะไรมากรึเปล่า" ศิวกรรีบขยับตัวเข้ามาประคองภาคินทันทีที่ได้ยินเสียงร้อง

  • ดวงใจศิวกร   ตอนที่ 5 ผิดแผน #2

    ตอนที่ 5 ผิดแผน #2หลังจากภาคินถูกศิวกรจับมัดข้อมือทั้งสองข้าง เขาก็ได้แต่ดิ้นขลุกขลักอยู่ใต้ร่างหนาของศิวกร ศิวกรลงมือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำของภาคินอย่างเชื่องช้า พลางสำรวจใบหน้าที่กำลังแดงก่ำไปด้วยความโกรธเมื่อเขาปลดกระดุมบนเสื้อเชิ้ตจนหมด ผิวขาวนวลของภาคินก็เผยออกมาสู่สายตาของศิวกร ด้วยภาคินนั้นมีเชื้อสายจีนทำให้ผิวพรรณของภาคินขาวนวลเนียนเนื้อละเอียดและผุดผ่องศิวกรชอบคนผิวขาวเป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว เขาจึงลูบไล้แผงอกของภาคินอย่างเบามือ เขาลูบไล้เรื่อยลงมาจนถึงกล้ามเนื้อหน้าท้องที่แบนราบเรียบของภาคิน ทำให้ภาคินตะโกนด่าศิวกรไม่หยุดหย่อน แต่ศิวกรก็ไม่สนใจ เขายังคงหยอกล้อร่างบางของภาคินโดยการลูบไล้ผ่านหน้าท้องที่แบนราบเรียบของภาคินต่ำลงไปจนกระทั่งถึงเอวบางของคนที่กำลังนอนดิ้นอยู่ใต้ร่างของเขา แล้วจึงปลดกระดุมกางเกงยีนของภาคินออกอย่างช้าๆ"ปล่อยนะไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ฉันเป็นผู้ชายนะโว้ย ปล่อยสิวะ" ภาคินยังคงตะโกนด่าศิวกรอย่างไม่ลดละศิวกรยกยิ้มมุมปากก่อนจะเลื่อนใบหน้าขึ้นไปบดจูบภาคินอย่างดุดันเพื่อปิดเสียงก่นด่าของภาคินอีกครั้ง เขาสอดลิ้นร้อนเข้าไปเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นบางของภาคินและดูดดึงอ

  • ดวงใจศิวกร   ตอนที่ 4 ผิดแผน #1

    ตอนที่ 4 ผิดแผน #1"สวัสดีครับคุณภาคิน" ศิวกรเอ่ยทักทายภาคินที่กำลังยกบรั่นดีขึ้นดื่ม ภาคินเงยหน้าขึ้นมามองตามเสียงก่อนจะมีท่าทีเฉยเมยและไม่สนใจเขาต้อยเห็นศิวกรก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาในทันที เขาไม่กล้าสบตามองศิวกรด้วยแผนการของภาคินทำให้ต้อยรู้สึกกลัวศิวกรขึ้นมา"ลูกพี่ คุณศิวกรเขากำลังทักทายลูกพี่อยู่นะครับ" ต้อยเอ่ยกระซิบเสียงเบาใกล้ๆ ภาคิน"ไง.. " ภาคินเงยหน้าขึ้นมาทักศิวกรที่กำลังยกยิ้มมุมปากมองมาทางเขา"พักนี้คุณภาคินว่างบ่อยจริงๆ ด้วยนะครับ แต่น่าเสียดายที่วันนี้ไม่ใช่วันศุกร์ ที่ไนต์คลับของเราเลยไม่มีวงดนตรีมาเล่นสด คุณคงไม่เบื่อไนต์คลับของผมนะครับ" ศิวกรเอ่ยอย่างอารมณ์ดีแต่คนฟังอย่างภาคินกลับโมโหที่ถูกศิวกรพูดกวนอารมณ์ของเขา เขายกบรั่นดีขึ้นดื่มจนหมดแก้ว"ผมไม่รู้มาก่อนเลยนะครับว่าที่ไนต์คลับของคุณจะมีเจ้าของอย่างคุณศิวกรมาคอยต้อนรับลูกค้าเหมือนร้านอาหารตามสั่ง ไหนๆ คุณก็มาแล้ว ผมขอสั่งบรั่นดีอีกสองแก้วก็แล้วกันครับ" ภาคินโต้กลับศิวกรด้วยความอารมณ์กรุ่นโกรธศิวกรได้แต่หัวเราะขบขันในท่าทางกวนอารมณ์ของภาคิน"ได้ครับ งั้นเชิญคุณภาคินตามสบายนะครับ" เขาเอ่ยก่อนจะหันไปสั่งลูกน้องให้ย

  • ดวงใจศิวกร   ตอนที่ 3 วางแผน

    ตอนที่ 3 วางแผนณ แอลฟาผับเมื่อภาคินเดินเข้ามาในผับเขาก็ตรงไปยังเคาน์เตอร์เครื่องดื่มในทันที มิ่งไม่รอช้ารีบรินบรั่นดีส่งให้เจ้านายอย่างรวดเร็ว"ลูกพี่ อารมณ์ไม่ดีหรือครับ" ต้อยเดินเข้ามาในผับ เห็นภาคินดื่มบรั่นดีไปหลายแก้ว จึงรีบเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง"เออ กูอารมณ์ไม่ดีว่ะไอ้ต้อย เออมึงมาก็ดีแล้วกูมีเรื่องจะให้มึงไปจัดการหน่อย" ภาคินได้ยินเสียงต้อยทักขึ้นมาเขาจึงเรียกต้อยเข้ามาหา ก่อนจะกระซิบสั่งงานให้ต้อยไปทำ"ได้ ลูกพี่รอก่อนก็แล้วกัน ไม่เกินสองวันน่าจะรู้เรื่อง" ต้อยตอบรับก่อนจะออกไปจัดการงานที่ภาคินสั่งอย่างรวดเร็วภาคินมองตามหลังต้อยที่เดินหายออกจากร้านไปอย่างว่องไว เขาจึงยกยิ้มอย่างมีความสุข"หึ.. หึ.. ศิวกร แล้วเราจะได้เห็นดีกัน" ภาคินเอ่ยพลางยกแก้วบรั่นดีขึ้นดื่มอย่างอารมณ์ดีสองวันผ่านไป ต้อยรีบเข้าไปรายงานภาคินในทันทีที่เห็นเขาเดินเข้าผับมา"ลูกพี่ครับ" ต้อยรีบเรียกภาคินก่อนจะรายงานเรื่องที่ภาคินให้ต้อยไปสืบมา"ไปคุยกันในห้องกู" ภาคินเอ่ยแล้วเดินนำต้อยไปยังห้องทำงานบนชั้นสองของเขา"ลูกพี่ครับ โดยปกตินายศิวกรจะมาไนต์คลับทุกคืนนะครับ ยกเว้นวันที่เขามีงานเลี้ยงหรืองานประชุ

  • ดวงใจศิวกร   ตอนที่ 2 ยิ่งคิดยิ่งโมโห

    ตอนที่ 2 ยิ่งคิดยิ่งโมโหติ๊ด.. ติ๊ด.. เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นทำให้ภาคินที่ดื่มมาอย่างหนักหน่วงเมื่อคืนนี้ เอื้อมมือออกมาจากผ้าห่มเพื่อควานหานาฬิกาที่ยังคงดังอย่างต่อเนื่องไม่หยุดมาปิดเสียงที่น่ารำคาญ เขารู้สึกมึนหัวและปวดหัวเป็นอย่างมากจึงนอนลงเพื่อพักต่ออีกสักครู่กริ๊ง.. กริ๊ง.. กริ๊ง.. เสียงโทรศัพท์ในห้องพักของภาคินยังคงดังขึ้นมากวนเขาอีกครั้ง เขาจึงจำใจต้องลุกขึ้นมารับอย่างงัวเงีย"ฮัล.. โหล" ภาคินรับสายด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งและงัวเงีย"คินยังไม่ตื่นอีกเหรอ นี่สายมากแล้วนะ อย่าลืมสิว่าเรามีประชุมตอนสิบโมง รีบๆ ลุกไปอาบน้ำได้แล้ว แล้วโทรศัพท์มือถือของคินอยู่ที่ไหน พี่โทรไปก็ไม่ติด" เสียงปลายสายถามอย่างรัวเร็วเมื่อได้ยินเสียงที่แหบแห้งของน้องชาย"นี่กี่โมงแล้วครับพี่หมวยใหญ่" ภาคินยังคงถามพี่สาวคนโตด้วยอาการงัวเงียและสะลึมสะลือ เนื่องจากเมื่อคืนเขาดื่มหนักมาก"เก้าโมงครึ่งแล้ว รีบๆ ลุกไปอาบน้ำเลยก่อนป๊าจะเข้ามาร่วมประชุม แค่นี้นะ" ภาสินีหรือหมวยใหญ่ของน้องๆ รีบพูดก่อนจะวางสายลงไปอย่างรวดเร็วหากภาคินยังมาทำงานสายแบบนี้ถ้าพ่อของเธอรู้เข้า ภาคินมีหวังโดนสั่งให้ปิดผับแน่ๆ หลังจากวางสาย

  • ดวงใจศิวกร   ตอนที่ 1 เปิดหูเปิดตา

    ตอนที่ 1 เปิดหูเปิดตา ณ แอลฟาผับ"ทำไมวันนี้คนน้อยจังเลยวะ.. ไอ้ต้อย" ภาคินเจ้าของแอลฟาผับวัยยี่สิบแปดปีเดินเข้ามาพลางหันไปถามลูกน้องคนสนิทที่กำลังเดินตามหลังเขามาไม่ห่าง"นั่นสิครับลูกพี่ ปกติคืนวันศุกร์ผับของเราคนเยอะจนโต๊ะไม่พอนั่งเลยนะครับ" ต้อยตอบเจ้านายพลางส่งสายตามองรอบๆ ผับ ซึ่งมีแขกนั่งไม่กี่โต๊ะจนดูแทบจะบางตา"เฮ้ย.. ไอ้สิน ทำไมวันนี้คนน้อยจังวะ" เมื่อภาคินและต้อยเดินมาถึงเคาน์เตอร์บัญชี ภาคินจึงเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทอีกคนซึ่งมีหน้าที่ดูแลบัญชีอยู่ในเคาน์เตอร์"ก็ไนต์คลับที่เปิดใหม่ฝั่งตรงข้ามน่ะสิลูกพี่ วันนี้เขาเอาวงดนตรีที่กำลังดังและเป็นกระแสมาเล่นคืนนี้ ลูกค้าก็พากันแห่ไปร้านนู้นหมดเลย ที่เหลือนั่งอยู่ในร้านก็เป็นลูกค้าประจำของร้านเราทั้งนั้นครับ" สินเอ่ยตอบพลางมองไปรอบๆ ร้าน ซึ่งมีลูกค้านั่งอยู่ไม่กี่โต๊ะ"ไนต์คลับที่ว่า ใช่ไดมอนด์ไนต์คลับฝั่งตรงข้ามรึเปล่าวะ" ภาคินเอ่ยถามพลางครุ่นคิดถึงไนต์คลับที่เพิ่งจะเปิดใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับผับของเขาพอดี"ใช่แล้วลูกพี่" สินตอบพลางตรวจเช็กรายการบัญชีไปด้วย"ตั้งแต่ไดมอนด์ไนต์คลับเปิดมาร่วมเดือน บัญชีที่ร้านของเราลงลดลงมากเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status