Home / LGBTQ+ / ดวงใจศิวกร / ตอนที่ 1 เปิดหูเปิดตา

Share

ดวงใจศิวกร
ดวงใจศิวกร
Author: ดอกลิลลี่สีม่วง

ตอนที่ 1 เปิดหูเปิดตา

last update Last Updated: 2025-10-19 23:19:21

ตอนที่ 1 เปิดหูเปิดตา 

ณ แอลฟาผับ

"ทำไมวันนี้คนน้อยจังเลยวะ.. ไอ้ต้อย" ภาคินเจ้าของแอลฟาผับวัยยี่สิบแปดปีเดินเข้ามาพลางหันไปถามลูกน้องคนสนิทที่กำลังเดินตามหลังเขามาไม่ห่าง

"นั่นสิครับลูกพี่ ปกติคืนวันศุกร์ผับของเราคนเยอะจนโต๊ะไม่พอนั่งเลยนะครับ" ต้อยตอบเจ้านายพลางส่งสายตามองรอบๆ ผับ ซึ่งมีแขกนั่งไม่กี่โต๊ะจนดูแทบจะบางตา

"เฮ้ย.. ไอ้สิน ทำไมวันนี้คนน้อยจังวะ" เมื่อภาคินและต้อยเดินมาถึงเคาน์เตอร์บัญชี ภาคินจึงเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทอีกคนซึ่งมีหน้าที่ดูแลบัญชีอยู่ในเคาน์เตอร์

"ก็ไนต์คลับที่เปิดใหม่ฝั่งตรงข้ามน่ะสิลูกพี่ วันนี้เขาเอาวงดนตรีที่กำลังดังและเป็นกระแสมาเล่นคืนนี้ ลูกค้าก็พากันแห่ไปร้านนู้นหมดเลย ที่เหลือนั่งอยู่ในร้านก็เป็นลูกค้าประจำของร้านเราทั้งนั้นครับ" สินเอ่ยตอบพลางมองไปรอบๆ ร้าน ซึ่งมีลูกค้านั่งอยู่ไม่กี่โต๊ะ

"ไนต์คลับที่ว่า ใช่ไดมอนด์ไนต์คลับฝั่งตรงข้ามรึเปล่าวะ" ภาคินเอ่ยถามพลางครุ่นคิดถึงไนต์คลับที่เพิ่งจะเปิดใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับผับของเขาพอดี

"ใช่แล้วลูกพี่" สินตอบพลางตรวจเช็กรายการบัญชีไปด้วย

"ตั้งแต่ไดมอนด์ไนต์คลับเปิดมาร่วมเดือน บัญชีที่ร้านของเราลงลดลงมากเลย ลูกพี่ดูสิครับ" สินพูดขึ้นมาก่อนจะส่งสมุดบัญชีให้ภาคินตรวจ เมื่อภาคินเห็นตัวเลขที่ลดลงไปอย่างเห็นได้ชัดเขาก็ทุบโต๊ะด้วยความโมโห ปัง!

"เฮ้ยไอ้ต้อย ไหน ๆ คืนนี้พวกเราก็ว่างแล้ว ไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาฝั่งนู้นบ้างดีไหมวะ" ภาคินกัดฟันเอ่ยด้วยความโกรธ เขาอยากจะไปดูไนต์คลับฝั่งตรงข้ามว่ามันจะดีขนาดไหนถึงขั้นแย่งลูกค้าในคืนวันศุกร์ของเขาไปได้

"ดีสิครับลูกพี่" ต้อยเห็นด้วยในทันที

ภาคินและต้อยจึงพากันเดินออกมาจากผับของตน ขณะที่ทั้งสองคนกำลังยืนอยู่หน้าร้านก็มีรถสปอร์ตสีดำยี่ห้อดังมาจอดหน้าไนต์คลับพอดี

ศิวกรกำลังลงจากรถสปอร์ตสีดำคันหรูด้วยชุดสูทสีดำสนิท และรองเท้าหนังสีดำขลับ เขาหยุดยืนขยับชุดสูทเล็กน้อยก่อนจะส่งกุญแจรถของเขาให้เด็กรับรถที่ยืนอยู่หน้าร้าน

"สวัสดีครับคุณกร" เด็กรับรถยกมือไหว้เจ้านายแล้วจึงรับกุญแจรถมาจากเขา ศิวกรพยักหน้าเล็กน้อยแล้วจึงเดินเข้าไปในไนต์คลับด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม

"นั่นคุณศิวกร เจ้าของไดมอนด์ไนต์คลับครับลูกพี่" ต้อยเคยเห็นศิวกรมาที่ไนต์คลับราวๆ สองสามครั้ง จากการที่สอบถามเด็กหน้าร้านจึงทำให้ต้อยรู้มาว่าเขาคือเจ้าของไดมอนด์ไนต์คลับ

"ฮึ.. น่าหมั่นไส้ ไอ้ขี้เก๊กเอ๊ย.. ปะไอ้ต้อย ไปดูมันให้ถนัดตาหน่อยสิ" ภาคินเห็นศิวกรครั้งแรกก็เกิดอาการไม่ชอบขี้หน้า เขารู้สึกหมั่นไส้ศิวกรขึ้นมาในทันที

"ครับลูกพี่" ต้อยรับคำก่อนจะวิ่งตามภาคินข้ามถนนเข้าไปในไนต์คลับ

ณ ไดมอนด์ ไนต์คลับ

เมื่อภาคินและต้อยเข้ามาในร้านก็พบว่าที่นั่งภายในร้านมีลูกค้านั่งเต็มทุกโต๊ะ ภาคินจึงกวาดตามองภายในไนต์คลับ ความหรูหราและการตกแต่งของไนต์คลับนั้นบ่งบอกถึงรสนิยมของเจ้าของร้านอย่างศิวกรเป็นอย่างดี ยิ่งทำให้เขาเกิดอาการหมั่นไส้ ศิวกรมากยิ่งขึ้นไปอีก

ศิวกรยืนอยู่ในห้องทำงานชั้นสาม เขามองผ่านกระจกใสเพื่อสอดส่องบรรยากาศภายในร้าน เขาเห็นภาคินซึ่งสวมเสื้อเชิ้ตสีดำแบรนด์หรูปลดกระดุมสองเม็ดบนเผยให้เห็นแผงอกขาว ยิ่งภาคินสวมสร้อยเลสสีเงินยิ่งขับเน้นผิวพรรณขาวนวลเนียนของภาคินอย่างเห็นได้ชัด

เขามองภาคินที่ยืนอยู่เบื้องล่างด้วยความสนใจ เขาไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนที่มีแผงอกขาวนวลถึงขนาดนี้มาก่อน เมื่อเขาแน่ใจแล้วว่าภาคินกำลังมองหาโต๊ะนั่ง เขาจึงเรียกลูกน้องให้ไปจัดโต๊ะให้ภาคินในทันที

"แต่คุณกรครับ โต๊ะนั้นไม่ใช่ว่าคุณเชอรี่จองไว้หรือครับ" อิฐลูกน้องคนสนิทเอ่ยถามเจ้านายของเขาด้วยความสงสัย

"นายไปจัดการตามที่ฉันสั่ง เรื่องเชอรี่ฉันจะจัดการเอง" เขาเอ่ยย้ำอิฐอีกครั้งก่อนจะหันไปมองภาคินด้วยความสนใจ

"เดี๋ยวอิฐ" ศิวกรเรียกลูกน้องที่กำลังจะเดินออกไปจากห้องทำงานของเขา

"ครับ" อิฐจึงหันมาหาศิวกรเพื่อรอรับคำสั่ง

"นั่น นายภาคินเจ้าของแอลฟาผับรึเปล่า" เขาเคยเห็นภาคินยืนอยู่หน้าผับครั้งหนึ่ง เด็กรับรถหน้าร้านเคยชี้ให้เขาดูซึ่งเขาไม่ค่อยแน่ใจมากนัก จากระยะห่างที่เขามองในคืนนั้น แต่เขาจำแผงอกขาวกับสร้อยเลสสีเงินที่ดึงดูดสายตานั้นได้

"ครับ.. น่าจะใช่แล้วนะครับ ผมเคยเห็นเขาแค่ไม่กี่ครั้ง งั้นเดี๋ยวผมจะไปสืบให้ครับคุณกร" อิฐเคยเห็นภาคินไม่กี่ครั้ง แต่เขาไม่ค่อยสนใจมากนักเพราะต่างคนก็ต่างทำงาน ไนต์คลับกับผับของภาคินลูกค้าส่วนใหญ่ก็คนละกลุ่มกันอยู่แล้ว

ศิวกรไม่เอ่ยอะไร เขายังคงยืนมองภาคินด้วยความสนใจและสงสัยว่าภาคินมาทำอะไรที่นี่ จนกระทั่งอิฐพาภาคินไปนั่งที่โต๊ะเขาจึงละสายตาออกไปมองลูกค้าโต๊ะอื่นๆ ภายในร้านแทน

ณ โต๊ะของภาคินบนชั้นสองซึ่งอยู่ติดระเบียง ทำให้เขามองเห็นโต๊ะด้านล่างเป็นอย่างดี

"ลูกพี่ โชคดีจริงๆ เลยนะที่เราได้โต๊ะนี้ มองเห็นข้างล่างได้หมดเลย" ต้อยเอ่ยขึ้นมาขณะที่สายตาของเขาก็มองสำรวจรอบๆ ร้านไปด้วย

"อืม.. " ภาคินเอ่ยเบาๆ พลางมองสำรวจรอบๆ ไนต์คลับ พลันสายตาของเขาก็บังเอิญไปสบสายตาของศิวกรเข้า ซึ่งศิวกรกำลังยืนมองพวกเขาลงมาจากกระจกใสที่ห้องทำงานบนชั้นสาม และอยู่ตรงข้ามกับโต๊ะของภาคินพอดี ทั้งสองคนต่างก็สบตากันอยู่เนิ่นนานก่อนที่ศิวกรจะยกยิ้มมุมปาก แล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องทำงาน

"ลูกพี่มองอะไรอยู่ ดูนั่นวงดนตรีขึ้นแล้ว ตอนนี้วงนี้ดังมากเลยนะลูกพี่ โอ้โฮ.. วงนี้แฟนคลับเยอะจริงๆ" ต้อยเอ่ยก่อนจะหันไปมองตามสายตาของภาคิน แต่ก็พบความว่างเปล่า เขาเลยสงสัยว่าภาคินกำลังมองใครอยู่

เมื่อวงดนตรีขึ้นร้องภายในไนต์คลับก็ครึกครื้นขึ้นมาในทันที บรรยากาศภายในร้านเต็มไปด้วยความสนุกสนาน จากฟลอร์เต้นรำที่เคยว่างเปล่าก็มีผู้คนไปยืนกันหนาแน่นเพื่อเต้นกันไปตามจังหวะเพลงที่กำลังเล่น

ปกติไนต์คลับจะมีบูธดีเจประจำอยู่แล้ว ยกเว้นทุกคืนวันศุกร์ที่ทางไนต์คลับจะจ้างวงดนตรีซึ่งกำลังดังและเป็นกระแสมาเล่นสดเพื่อโปรโมตไนต์คลับอีกทาง

"สวัสดีครับคุณภาคิน ไม่ทราบว่าคืนนี้คุณว่างหรือครับถึงมาเที่ยวไนต์คลับของผมได้" ศิวกรเดินเข้ามาทักทายภาคินที่กำลังยกบรั่นดีขึ้นดื่ม

"ปกติผมก็ไม่ค่อยว่างหรอกครับ แต่วันนี้ผมอยากมาเปิดหูเปิดตาดูบ้างน่ะครับ ว่าไนต์คลับที่หรูหราของคุณจะต่างจากผับของผมหรือเปล่า" ภาคินเอ่ยตอบเขาด้วยน้ำเสียงประชดประชันกึ่งหมั่นไส้

"แล้วไนต์คลับของผมเป็นยังไงบ้างครับ" ศิวกรเอ่ยถามเขาด้วยน้ำเสียงอยากรู้ระคนสงสัยก่อนจะยกยิ้มมุมปาก

เมื่อภาคินเห็นเข้าก็ยิ่งรู้สึกหมั่นไส้ศิวกรมากยิ่งขึ้น

"ผมว่าก็งั้นๆ แหละ ผมหมดสนุกละขอตัวก่อนนะครับ เฮ้ยต้อยกลับ" ภาคินพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยชอบใจก่อนจะเรียกต้อยให้กลับไปด้วยกัน ต้อยรีบเดินตามภาคินไปด้วยความงุนงงเพราะพวกเขาเพิ่งจะนั่งกันได้เพียงครู่เดียวเอง

ศิวกรเหลียวมองตามแผ่นหลังของภาคินที่กำลังเดินออกจากร้านไปอย่างหัวเสีย เขาก็หัวเราะในลำคอด้วยความชอบใจ

"คุณกรครับ หรือคุณภาคินมาจะสืบไนต์คลับของเราครับ" อิฐที่ยืนอยู่ข้างหลังเอ่ยถามเจ้านายด้วยความสงสัย

"หึ.. หึ.. ถ้านายภาคินจะมาสืบจริงๆ คงให้ลูกน้องมาสืบ ฉันว่าที่เขามาเองคงอยากจะมาดูให้เห็นกับตามากกว่า แล้วทางผับของเขาเป็นยังไงบ้างล่ะ" ศิวกรเอ่ยถามอิฐด้วยความสนใจและอยากรู้

"ช่วงนี้ก็ปกติดีครับ แต่คืนวันศุกร์ที่เราจ้างนักร้องวงดังๆ มาเล่นทางฝั่งนู้นก็จะเงียบๆ หน่อยครับ" อิฐตอบเจ้านายด้วยความภูมิใจ

ศิวกรยกยิ้มมุมปากก่อนจะเดินกลับไปยังห้องทำงานของเขา ตอนนี้เขาหายสงสัยแล้วว่าภาคินมาที่ไนต์คลับของเขาทำไม

ณ แอลฟาผับ

ปัง! เสียงทุบโต๊ะดังขึ้นหลังจากภาคินกลับมาถึงผับของเขา ยิ่งคิดถึงใบหน้าคมเข้มที่เอาแต่ยกยิ้มมุมปาก ภาคินก็ยิ่งรู้สึกโมโหขึ้นไปอีก

"ไอ้มิ่ง เอาบรั่นดีมาแก้วสิวะ" ภาคินสั่งลูกน้องที่ยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม เมื่อมิ่งได้ยินคำสั่งของลูกพี่เขาก็รีบรินบรั่นดีใส่แก้ว ส่งให้ภาคินในทันที

ภาคินซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม เมื่อเห็นแก้วบรั่นดีตรงหน้าเขาก็ยกขึ้นดื่มพรวดเดียวหมดแก้ว ก่อนจะวางแก้วลง แล้วให้มิ่งรินบรั่นดีให้เขาใหม่อีกแก้ว.. อีกแก้ว แลอีกแก้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ดวงใจศิวกร   ตอนพิเศษ ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ชมดอกซากุระ #4 THE END

    ตอนพิเศษ ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ชมดอกซากุระ #4 THE ENDรุ่งเช้าภาคินและศิวกรแต่งกายด้วยชุดยูกาตะแล้วจึงพากันเดินเที่ยวตามแผนที่ภาคินวางไว้ในทริปการเดินทางนี้ ทั้งสองคนเดินชมดอกซากุระที่กำลังบานสะพรั่งรอบๆ หมู่บ้านซึ่งที่หมู่บ้านนี้มีนักท่องเที่ยวมาชมดอกซากุระและแช่น้ำร้อนกันค่อนข้างมากทั้งคู่รัก เพื่อนและครอบครัว ผู้คนก็สวมใส่ชุดยูกาตะเดินท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ จึงเข้ากับบรรยากาศในหมู่บ้านแห่งนี้ และนักท่องเที่ยวบางคนก็สวมใส่รองเท้าเกี๊ยะที่ทำขึ้นจากไม้ เวลาเดินจึงเสียงรองเท้ากระทบกับพื้นถนนช่างแปลกหูดีสำหรับภาคิน แต่เขาและศิวกรเลือกไม่สวมรองเท้าเกี๊ยะเพราะเดินไม่ถนัดระหว่างทางที่เดินชมดอกซากุระรอบหมู่บ้านก็จะพบกับร้านค้ามากมายไม่ว่าจะร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ร้านขายขนม ร้านถ่ายภาพสำหรับเก็บเป็นที่ระลึก และบ่อน้ำร้อนสาธารณะ ซึ่งมีบริการสำหรับนักท่องเที่ยวจำนวนหลายบ่ออยู่ห่างกันกระจัดกระจายกันออกไป ทั้งคู่จึงพากันไปนั่งแช่เท้าในบ่อน้ำร้อนที่ค่อนข้างห่างไกลกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆ"สนุกไหมคิน" ศิวกรเอ่ยถามภาคินที่ดูกำลังสนุกและสนใจทุกสิ่งรอบกายด้วยความสนใจ"สนุกครับ แต่คินมีคว

  • ดวงใจศิวกร   ตอนพิเศษ ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ชมดอกซากุระ #3

    ตอนพิเศษ ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ชมดอกซากุระ #3หลังจากภาคินมาถึงที่ทำงาน สายตาของเขาก็สอดส่ายหาลูกน้องคนสนิทที่หายหน้าหายตาไปถึงสี่วันเต็มๆ เมื่อเขามองไม่เห็นต้อยจึงได้สั่งนุชนารถผู้ช่วยคนเก่งของเขาให้บอกต้อยไปพบเขาที่ห้องทำงานด้วยถ้ามาถึงแล้ว ราว ๆ ครึ่งชั่วโมงต้อยก็มาพบเขาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างคนอารมณ์ดี"ลูกพี่มีอะไรให้กระผมรับใช้ขอรับ" น้ำเสียงที่ร่าเริงของต้อยทำให้ภาคินต้องหันมามองต้อยด้วยความแปลกใจ เมื่อวานที่เขาเจอต้อยในลิฟต์ยังดูท่าทางเหมือนคนหมดอาลัยตายอยากอยู่เลย ทำไมวันนี้ถึงได้ร่าเริงเหมือนปลากระดี่ได้น้ำ ฮึ... คงจะได้น้ำดีมาแน่ ๆ ถึงได้กระดี้กระด๊าจนน่าหมั่นไส้"หน้าแบบนี้แปลว่าหายดีแล้วสิ สรุปว่าใคร?" ภาคินถามออกไปตรงๆ ทำเอาต้อยที่ไม่ทันตั้งตัวชะงักไปในทันทีด้วยความตกใจ"อะ...อะไร ใคร...หมายความว่ายังไง ผมไม่เข้าใจ" ต้อยรีบพูดกลบเกลื่อนภาคินอย่างรวดเร็วหลังจากได้สติ"หึ... หึ... ไอ้ต้อย กูเป็นพี่มึงนะโว้ย มึงคิดว่ากูจะไม่รู้หรือยังไง มึงอาบน้ำแต่งตัวมาทำงาน มึงไม่เห็นรอยแดงที่คอมึงบ้างรึไง" ภาคินพูดพลางชี้ไปที่คอปกเสื้อของตนเอง ทำให้ต้อยตกใจรีบดึงปกเสื้อเชิ้ตมาปิดลำคอใน

  • ดวงใจศิวกร   ตอนพิเศษ ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ชมดอกซากุระ #2

    ตอนพิเศษ ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ชมดอกซากุระ #2หลังจากต้อยลาป่วยไปสามวันก็กลับมาทำงานตามปกติ ต้อยพยายามเดินให้เหมือนเดิมมากที่สุด คืนนั้นเขาถูกอิฐจัดหนักจัดเต็มจนครบหลักสูตร ต้อยจึงไม่สามารถลุกเดินได้เหมือนปกติมากนัก แม้ตอนนี้เขาจะดีขึ้นมากแล้วแต่ก็ยังคงรู้สึกขัดๆ อยู่บ้างเวลาเดินเร็วๆ“ไอ้ต้อย...” หลังจากศิวกรขับรถมาส่งภาคินที่โรงแรม ภาคินเห็นหลังต้อยไวไวกำลังจะเดินขึ้นลิฟต์ เขาจึงรีบวิ่งตามต้อยเข้ามาในลิฟต์อย่างรวดเร็วต้อยสะดุ้งตกใจจนตัวโยนเมื่อได้ยินเสียงของภาคินเรียกอยู่ทางด้านหลัง เขาจึงชะงักค้างและยืนยิ่งไปทันที เพราะกลัวว่าภาคินจะจับผิดสังเกตเขาได้"อะ...อะ เอ่อ ลูกพี่" น้ำเสียงของต้อยติดอ่างขึ้นมาทันทีที่เห็นหน้าของภาคินกำลังมองมาทางเขาด้วยความเป็นห่วงตนเอง"ไง...มึงหายดีแล้วเหรอ ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นมึงจะลาป่วยเลยสักครั้ง กูจะไปเยี่ยมมึงก็ไม่ให้ไป" ภาคินพูดพลางตบไหล่หนาของต้อย ทำให้เขาเห็นรอยแดงจางๆ บริเวณลำคอหนาของต้อยภาคินตกตะลึงและนิ่งค้างไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันมามองใบหน้าของต้อยที่เริ่มแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ต้อยเมื่อรู้สึกถูกภาคินจ้องใบหน้าจึงเกิดอาการประหม่า ยิ่งเ

  • ดวงใจศิวกร   ตอนพิเศษ ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ชมดอกซากุระ #1

    ตอนพิเศษ ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ชมดอกซากุระ #1ณ ห้องทำงานของภาคินขณะที่ภาคินกำลังนั่งมองแหวนแต่งงานซึ่งศิวกรสวมให้เขาที่นิ้วนางข้างซ้ายอย่างเหม่อลอยนั้น ต้อยก็ได้เดินผ่านประตูห้องทำงานมาพอดี เขาเห็นภาคินกำลังนั่งใจลอยอยู่จึงอดที่จะเดินเข้ามาสอบถามไม่ได้"ลูกพี่.. ลูกพี่เป็นอะไร ผมเห็นลูกพี่นั่งมองแหวนแต่งงานมาพักหนึ่งละ" ต้อยเอ่ยถามขณะนั่งลงตรงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของภาคินด้วยความสงสัยภาคินได้ยินเสียงของต้อยเอ่ยถาม เขาจึงได้สติแล้วจึงเงยหน้าขึ้นมามองต้อยอย่างครุ่นคิด"อย่าบอกนะว่าลูกพี่ทะเลาะกับคุณกร" ต้อยถามด้วยน้ำเสียงกึ่งตกใจ ขณะที่เขากำลังคาดเดาใบหน้าที่กำลังตึงเครียดของภาคิน"บ้าแล้วไอ้ต้อย พี่กรดีกับกูจะตาย กูจะไปทะเลาะกับเขาทำไม" ภาคินตอบกลับต้อยด้วยน้ำเสียงกึ่งดุนิดๆ ศิวกรไม่เคยขัดใจเขาเลยสักครั้ง แล้วเขาจะไปมีปัญหากับศิวกรได้อย่างไร"อ้าว.. ก็ผมเห็นลูกพี่เอาแต่จ้องแหวนแต่งงาน แล้วก็ทำท่าทางเหมือนคนกำลังกลุ้มใจ ผมก็เลยเข้าใจผิดคิดว่าลูกพี่มีปัญหากับคุณกรเสียอีก" ต้อยตอบเสียงอ่อนลง"เฮ้อ.. แล้วกูจะปรึกษากับมึงได้ไหมเนี่ย" ภาคินพูดพลางถอนหายใจ คราวก่อนก็เพราะปรึกษาต้อยทำให้ศิวกรลงโ

  • ดวงใจศิวกร   ตอนพิเศษ สวัสดีวันเด็ก

    ตอนพิเศษ สวัสดีวันเด็ก"คุณคินคะ มีคนส่งของมาให้ค่ะ" แอร์พนักงานต้อนรับโรงแรมของภาคิน เดินนำถุงกระดาษสีขาวใบเล็กน่ารักมาให้ภาคินที่ห้องทำงาน แต่ระหว่างที่เธอเดินออกมาจากลิฟต์ ก็พบภาคินและต้อยซึ่งกำลังยืนคุยกันอยู่หน้าห้องทำงานพอดี เธอจึงรีบเดินนำเอาของมาให้ภาคิน"ของผมเหรอครับ คุณแอร์" ภาคินถามแอร์ด้วยความงุนงงระคนสงสัยว่าใครเป็นคนส่งของให้เขา และเนื่องในโอกาสอะไร จะว่าวันเกิดก็ไม่น่าจะใช่"ของคุณคินจริงๆ ค่ะ มีการ์ดแนบมาด้วยนะคะ นี่ค่ะ" แอร์ยืนยันพลางส่งการ์ดให้ภาคินทันที" สุขสันต์วันเด็กครับหนูคินขอให้หนูคินเป็นเด็กดีของพี่กรคนเดียวนะครับรักนะเด็กดี... พี่กร "ภาคินรับการ์ดที่ปิดผนึกซองอย่างดีมาแกะอ่านก่อนจะยกยิ้มอย่างมีความสุข ที่แท้ก็เป็นของศิวกรนี่เอง"ขอบใจนะ.. แอร์" ภาคินรับถุงกระดาษสีขาวมาจากแอร์ เขาแกะสติกเกอร์บนปากถุงกระดาษด้วยความระมัดระวัง เมื่อเขาอ้าปากถุงกระดาษออกจึงพบว่ามีกล่องของขวัญที่ห่อด้วยกระดาษสีทองอยู่ข้างในกล่องหนึ่ง"ยินดีค่ะ งั้นแอร์ขอตัวก่อนนะคะคุณคิน" แอร์ส่งของให้ภาคินเรียบร้อยแล้วก็ขอตัวกลับไปทำงานต่อภาคินยกยิ้มให้แอร์ก่อนจะล้วงเอากล่องของขวัญขนาดเล็กข

  • ดวงใจศิวกร   ตอนที่ 30 จบบริบูรณ์

    ตอนที่ 30 จบบริบูรณ์"พี่กรครับ ศุกร์หน้าคินต้องบินไปจัดการงานที่ภูเก็ตแทนพี่พงษ์ นัดของเราคงต้องเลื่อนไปก่อนนะครับ" ภาคินเอ่ยขึ้นมาหลังจากพวกเขากลับมาถึงเพนท์เฮ้าส์หลังใหม่ที่ศิวกรซื้อให้ภาคิน เมื่อพวกเขาตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน"งั้นเหรอ น่าเสียดายจริงๆ พี่อุตส่าห์จองห้องพักที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัวด้วยนะ" ศิวกรพูดพลางเดินมาโอบกอดภาคินจากทางด้านหลัง ก่อนจะก้มลงไปกระซิบริมหูบางของภาคินแล้วจึงขยับใบหน้าซุกลงบนซอกคอขาว"คินก็เพิ่งรู้จากพี่พงษ์เมื่อกี้นี้เองครับ แขกเพิ่งจะติดต่อมาจัดงานแต่งงานที่นั่น มันกะทันหันเพราะพี่พงษ์ก็ต้องดูแลแขกที่มาจัดงานแต่งที่นี่พอดี คินเลยต้องไปแทนน่ะครับ" ภาคินหันมาบอกศิวกรที่กำลังซุกไซ้ซอกคอของเขาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา ศิวกรจึงเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้ภาคิน"ขอโทษนะครับ" ภาคินเอ่ยด้วยความรู้สึกผิด เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เขาได้เอ่ยถามพี่ชายและพี่สาวแล้วว่าเขามีงานในวันศุกร์หน้าหรือเปล่า เพราะปกติเขาจะไม่รับนัดของศิวกรในวันศุกร์และเสาร์ เนื่องจากเป็นช่วงที่แขกเข้าพักมากกว่าปกติ ซึ่งพี่สาวและพี่ชายก็ได้รับปากแล้วว่าจะ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status