Home / รักโบราณ / ดอกท้อบานยามวสันต์ / บทที่ 3 หาวิธีถอนคุณไสย

Share

บทที่ 3 หาวิธีถอนคุณไสย

last update Last Updated: 2025-06-05 12:02:08

ยามเช้าอากาศค่อนข้างดีเป็นอย่างมาก ช่วงวสันต์ฤดูเช่นนี้ี้มักไม่ร้อนอบอ้าวและไม่หนาวจนเกินไป หลังจากอาบน้ำล้างหน้าผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว มู่เถาฮวาก็มากินมื้อเช้า เวลาล่วงเลยมาจนถึงตอนเย็นก็มีสาวใช้มาแจ้งนาง บอกว่าเสิ่นหมิงต้องการให้นางไปพบเขาที่ห้อง

มู่เถาฮวาพยักหน้ารับ เมื่อมาถึงก็พบกับนักพรตผู้นั้น นางพิจารณามองเขาเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองเสิ่นหมิงอีกครั้ง ก็พบว่ามองไม่เห็นผีสาวตนนั้นแล้ว แต่กลับมีเพียงกลิ่นอายที่แปลกประหลาดสายหนึ่งวนเวียนอยู่รอบตัวเขา

เสิ่นหมิงที่เห็นว่ามู่เถาฮวามาแล้ว ก็บอกให้นักพรตกลับไปเสีย  ก่อนจะหันมาเอ่ยกับนาง

"เจ้าคุ้นชินกับจวนของข้าแล้วใช่หรือไม่ ข้าเรียกเจ้ามาก็เพื่อจะบอกว่าสาวใช้ในจวนเจ้าสามารถเรียกใช้พวกนางได้ จะเบิกเงินซื้อสิ่งใดก็แจ้งพ่อบ้านได้ อีกสองวันจะเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง นักพรตเจี่ยงเฉิงจะทำพิธีปลุกยันต์ดอกไม้กันภัยในตัวเจ้า เตรียมตัวให้ดีด้วยล่ะ"

“ข้าต้องทำเช่นไรบ้าง”

“ก็ไม่มีอันใด เพียงเปลื้องผ้าอาบน้ำใต้แสงจันทร์ร่วมกับข้า”

“เปลื้องผ้า!”

มู่เถาฮวาเมื่อได้ฟังก็ถึงกับทำหน้าไม่ถูก หญิงสาวมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยแววตาที่กระอักกระอ่วน เสิ่นหมิงที่ถูกมู่เถาฮวามองอย่างไม่ลดละจึงหันมาเอ่ยกับนางอย่างไม่ชอบใจ

"มองอันใดหนักหนา ไม่เคยเห็นบุรุษรูปงามหรือ"

มู่เถาฮวาถึงกับกลอกตาไปมา นางไม่ปฏิเสธที่เสิ่นหมิงรูปงามดั่งหยกนั้นเป็นเรื่องจริงแต่เขาออกจะหลงตนเองไปเสียหน่อย

ช่างเถิด ยามนี้ไม่มีเวลามาต่อล้อต่อเถียงเรื่องไร้สาระกับเขา

"องค์ชายรอง ท่านเพิ่งรู้จักข้าได้ไม่กี่วัน อยู่ๆจะมาชวนข้าเปลื้องผ้าแช่น้ำกับท่านเช่นนี้มันไม่เกินไปหน่อยหรือ?"

เสิ่นหมิงเมื่อถูกหมู่เถาฮวาเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ก็ชะงักไปเล็กน้อย เขามีท่าทีกระอักกระอ่วนก่อนจะเอ่ยตอบอย่างไม่พอใจ

"ถามทำไม!"

"อ้าว ข้าก็ต้องรู้ไว้สิ ยุคนี้ไม่มีการป้องกัน เกิิดท่านเป็นโรคติดต่อขึ้นมาแล้วข้าจะทำเช่นไร ท่านจะตายก็ตายคนเดียวสิ อย่ามาลากข้าไปตายด้วย!"

เสิ่นหมิงแทบสำลักน้ำลายตน นี่นางคิดไปไกลถึงไหนต่อไหนกันแล้ว

บัดซบสิ้นดี!

เขาไม่เคยแช่น้ำกับสตรีใดเลยสักคนเดียว อีกทั้งยังไม่เคยหลับนอนกับสตรีคนไหนด้วยซ้ำ เขาจะเป็นโรคได้อย่างไรกัน

"ข้าไม่เคยนอนกับสตรีใดและไม่เคยแช่น้ำกับหญิงสาวคนใดทั้งนั้น เจ้าเป็นคนแรก คิดว่าข้าเต็มใจหรือ!"

มู่เถาฮวาเมื่อได้ฟังก็ถึงกับอึ้งงัน นางยกสุราในจอกที่ถูกรินเอาไว้ขึ้นมาดื่มอย่างถือวิสาสะก่อนจะเดินเข้ามาเอ่ยถามเขาอย่างอยากรู้อยากเห็น

"องค์ชายรอง นี่ท่านยังไม่เคย เอ่อ ไม่เคยเลยหรือ ไม่น่าเชื่อ หน้าตาท่านก็ไม่เหมือนคนที่จะถือศีลกินเจเลยสักนิด"

เสิ่นหมิงหลับตาลงพยายามที่จะไม่เข้าไปทุบตีสตรีตรงหน้า นางมองเขาด้วยแววตาเช่นนี้มันหมายความว่าอันใดกัน

เขาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับสตรีใด แม้เขาจะสารเลวบ้างเป็นบางครา อารมณ์โมโหร้ายเป็นบางครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยข่มเหงสตรีเลย

ที่เขาต้องมายุ่งเกี่ยวกับมู่เถาฮวาก็เพราะต้องการล้างคุณไสย

เขาถูกคุณไสยเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ทุกคืนพระจันทร์เต็มดวงจะเห็นวิญญาณสาวชุดดำมารบกวนเขา นางทั้งบีบคอและทำให้เขานอนไม่ได้จนสุขภาพย่ำแย่ แม้แต่นักพรตเจี่ยงเฉิงยังจนปัญญา เพราะมองไม่เห็นผีสาวตนนั้นเช่นเดียวกับเขา คาดว่าคนทำคุณไสยจะต้องเก่งกาจไม่เบา

คนที่คิดจะทำร้ายเขาไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากสวีกุ้ยเฟย!

วิธีที่จะแก้คุณไสยได้คือต้องหาหญิงสาวที่มีวันเดือนปีเกิดตรงตามตำราโบราณให้พบ ให้นางคอยอยู่ข้างกาย ทำพิธีแช่น้ำใต้แสงจันทร์ในคืนพระจันทร์เต็มดวงเพื่อปลุกยันต์ดอกไม้กันภัยในตัวนางให้แข็งแกร่งขึ้น จึงจะสามารถป้องกันคุณไสยได้ จากนั้นค่อยหาทางถอนคุณไสยออกจากตัวเขา

เดิมทีเขาไม่เชื่อเรื่องพวกนี้แต่ตอนนี้เขาเชื่อมันอย่างสนิทใจแล้ว ความทรมาณที่เขาได้รับมันน่าหวาดหวั่นไม่น้อยเลย

ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอันใดไปเรื่อยเปื่อย เมื่อหันมาอีกคราก็พบว่าตอนนี้มู่เถาฮวากำลังยืนโซเซ ดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าสวยหวานเริ่มแดงระเรื่อ

นางเมาหรือ?

มู่เถาฮวายกมืือขึ้นนวดหว่างคิ้วตนเพื่อเรียกสติ ให้ตายเถอะ สุรานี่แรงชะมัดเลย

แรงเสียจนนางรู้สึกร้อนไปทั้งตัว

หญิงสาวเงยหน้ามาจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้า เขารูปงามราวกับหยกแกะสลัก ดวงตาของนางยามมองเขาทอประกายเจิดจ้าเสียจนเสิ่นหมิงเริ่มขนลุก

"อย่ามองข้าด้วยแววตาเช่นนี้"

มู่เถาฮวาแลบลิ้นเลียริมฝีปากของตน ท่าทีของนางยั่วยวนเป็นอย่างมาก นางโน้มใบหน้าเข้ามาหาเขา เสิ่นหมิงก้าวถอยหลังหนี ก่อนจะซวนเซทิ้งตัวลงไปนั่งบนเตียง พลางมองนางด้วยแววตาที่เย็นชา

มู่เถาฮวายื่นมือมาเชยปลายคางของเขา ก่อนจะเอ่ย

"หล่อเหลาชวนมอง องค์ชายรองท่านช่างรูปงามยิ่งนัก ข้าไม่อยากเป็นแค่ยันต์ดอกไม้กันภัยแล้ว แต่อยากเป็นภรรยาของท่าน"

"หา?"

เขายังไม่ทันเอ่ยสิ่งใดต่อ ก็ถูกหญิงสาวตรงหน้าจู่โจมเข้ามาจูบเสียแล้ว เสิ่นหมิงตัวแข็งท่ื่อ แม้เขาจะเก่งกาจไปเสียทุกเรื่องแต่เรื่องนี้เขากลับอ่อนหัดยิ่งนัก

เขาก็แค่หนุ่มน้อยอายุสิบเก้าปีเท่านั้น!

"มู่เถาฮวา ปล่อยข้าก่อน!"

"อย่าเล่นตัวเลยน่า"

นางผลักเขาลงไปนอนบนเตียงอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังดึงทึ้งเสื้อผ้าเขาออกอย่างนึกสนุก ก่อนจะจูบเขาอย่างดูดดื่มอีกหน

เสิ่นหมิงเป็นบุรุษแม้ปากจะบอกปฏิเสธแต่เมื่อถูกนางยั่วยวนหนักเข้า อีกทั้งนางก็งดงามมาก สติของเขาจึงแตกกระเจิง 

เขาเป็นฝ่ายพลิิิกตัวนางลงไปนอนบนเตียง จากนั้นก็เป็นฝ่ายดึงทึ้งเสื้อผ้าของนางออกบ้าง คนทั้งสองตอนนี้อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าล่อนจ้อนทั้งคู่ มู่เถาฮวาใช้ปลายนิ้วไล้ไปตามแผงอกของเขา เสิ่นหมิงส่งเสียงครางออกมาด้วยความเสียวสะท้าน

"มู่เถาฮวา เจ้ายั่วยวนข้าก่อนนะ แล้วอย่าหาว่าข้ารังแกเจ้า!"

เอ่ยจบคนทั้งสองก็กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างเมามันในทันที

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ดอกท้อบานยามวสันต์   บทที่ 14 ตอนจบ

    ด้านเสิ่นหมิงนั้นหลังจากที่สะสางเรื่องราวต่างในเมืองหลวงเรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินทางออกจากเมืองหลวงพร้อมกับเจี่ยงเฉิง ยามนี้ขั้วอำนาจมั่นคง ขุนนางที่ไว้ใจได้ล้วนมีไม่น้อย เขาจึงไม่ได้มีเรื่องให้กังวลเท่าใดนักก่อนหน้านี้เขาได้ออกตามหามู่เถาฮวาไปทั่วทุกที่ แต่ยังเหลืออีกที่หนึ่งที่เขายังไม่ได้ไปนั่นก็คือเมืองทางทิศใต้เขายังคงมีความหวังว่าจะได้พบเจอมู่เถาฮวาอีกสักครั้ง ไม่ว่านางจะอยู่ในสภาพไหน เขาก็ยินดีที่จะรับนางกลับเมืองหลวงไปใช้ชีวิตร่วมกันเขาเดินทางมาจนถึงเมืองทางทิศใต้ ที่นี่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีฝนตกลงมาประปรายอีกด้วย ชายหนุ่มเดินมาทางมากับเจี่ยงเฉิงผ่านร้านรวงต่างๆมากมาย มีเหล่าองครักษ์ลับปลอมตัวเป็นชาวบ้านคอยอารักขาเขาอยู่ห่างๆเดินทางมานานก็เริ่มรู้สึกหิว จึงถามคนในละแวกนั้นว่ามีร้านอาหารใดขึ้นชื่อบ้าง ชาวบ้านบอกว่าที่นี่มีร้านสุราขึ้นชื่ออยู่ร้านหนึ่ง เจ้าของร้านร้านหมักสุราได้รสชาติดีเป็นอย่างมาก เขาและเจี่ยงเฉิงจึงรีบไปที่ร้านนั้นในทันทีเมื่อมาถึงกลับได้ยินเสียงทะเลาะกันดังขึ้น อีกทั้งยังมีการทำลายข้าวของภายในร้านด้วย เสิ่นหมิงรีบเข้าไปดูเผื่อว่าจะห้า

  • ดอกท้อบานยามวสันต์   บทที่ 13 ตามหาคนรัก

    เวลาก็ล่วงเลยผ่านมาหนึ่งปีแล้วที่มู่เถาฮวาออกไปจากชีวิตของเสิ่นหมิง หญิงสาวเร่ร่อนไปเรื่อยๆ ทำการค้าเล็กๆน้อยเลี้ยงชีพ โชคดีทีมีเครื่องประดับติดตัวมาบ้าง นางจึงนำมันไปขายแลกเงินมาเปิดร้านค้าเอาไว้เลี้ยงชีพ นางเปิดร้านสุราแห่งหนึ่งอยู่ที่หมู่บ้านกว่างหลิง ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ของแคว้นหนานจง หมู่บ้านแห่งนี้เงียบสงบเป็นอย่างมาก ร้านสุราของนางเป็นเพียงร้านเล็กๆร้านหนึ่งเท่านั้น แต่ผู้คนก็แวะเวียนมาอุดหนุนไม่ขาดสาย เมืองแห่งนี้แม้สงบแต่ค่อนข้างเจริญอยู่บ้าง มีการค้าทางเรือและทางบก ที่ท่าเรือก็ค่อนข้างคึกคักไม่น้อยเลยมู่เถาฮวาใช้ผ้าโพกคลุมศีรษะของตนเอาไว้ ยามนี้ผมของนางเป็นสีขาวโพลนเหมือนหญิงชราเนื่องจากสูญเสียพลังชีวิตไป แต่ความงดงามของนางยังคงไม่จางหายไปแม้จะไม่ได้รับเคราะห์แทนเสิ่นหมิงแล้ว แต่สุขภาพของนางกลับไม่สู้ดีเท่าใดนัก มักจะเจ็บป่วยออดๆแอดๆ เพราะไม่มีเงินมากพอไปหาหมอดีดีมารักษาทำให้อาการป่วยเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆมู่เถาฮวาส่งเสียงไอออก ก่อนจะจัดการเก็บกวาดร้านเพื่อเตรียมเปิดขายสุรา"แม่นางมู่ สุราไหหนึ่ง ขอกับแกล้มดีดีด้วยล่ะ""ได้ๆ รอสักครู่"เปิดร้านไม่นานก็มีลูกค้าเข้าร้านมาแล

  • ดอกท้อบานยามวสันต์   บทที่ 12 ครองราชย์

    รัชศกหมิงปีที่1 เสิ่นหมิงขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้พระองค์ใหม่ เหล่าขุนนางที่มีใจคิดไม่ซื่อถูกกวาดล้างไปจนหมด มีการเปิดสอบขุนนางใหม่เข้ามาทำงานในราชสำนัก ขุนนางใหม่ล้วนมีใจซื่อสัตย์และไม่คิดคดทรยศต่อบ้านเมือง ขั้วอำนาจที่ไม่ดีล้วนถูกเสิ่นหมิงกวาดล้างจนหมดสิ้น ไม่นานนักอดีตฮ่องเต้ผู้เป็นพระบิดาก็สวรรคตจากไป ก่อนตายยังสั่งให้ฝังพระศพของตนไว้ใกล้กับซ่งฮองเฮาอีกด้วยเสิ่นหมิงนั่งอ่านฏีฎาอยู่ในห้องทรงอักษรด้วยจิตใจที่เหม่อลอย นี่ก็ผ่านมาหนึ่งปีแล้วที่เขาตามหามู่เถาฮวาไม่พบเจี่ยงเฉิงเองก็ช่วยเขาออกตามหามู่เถาฮวาเช่นเดียวกัน แต่กลับไม่พบร่องรอยของนางเลยแม้แต่น้อยกล่าวถึงเจี่ยงเฉิงแล้วนั้น หลังจากเกิดเรื่องเขาก็พามารดาออกมาจากจวนตระกูลเจี่ยง มาซื้อจวนใหม่อยู่ด้วยกันสองคนแม่ลูก ใช้ชีวิตเรียบง่ายด้วยกันอย่างมีความสุข เสิ่นหมิงให้เจี่ยงเฉิงรับราชการเป็นหัวหน้าสำนักโหราศาสตร์ คอยดูทิศทางของดวงดาวและทำนายเรื่องราวต่างๆในเมืองหลวง เสิ่นหมิงไม่สนใจเรื่องราวที่ผ่านมาของตระกูลเจี่ยงเพราะเขาแยกแยะได้ว่าเจี่ยงเฉิงเป็นคนดีเมื่อเสิ่นหมิงจัดการงานทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ก็ออกจากห้องทรงอักษร เขาสวมชุดชาวบ้านธ

  • ดอกท้อบานยามวสันต์   บทที่ 11 สู้รบ

    เสิ่นหมิงนำกองกำลังทหารเข้าห่ำหั่นกับเสิ่นหลาง ยามนี้เสิ่นหลางไม่จำเป็นต้องแสร้งทำเป็นคนดีอีก เขาต่อสู้กับเสิ่นหมิงอย่างไม่ยอมแพ้ แต่กลับพบว่าพละกำลังของเสิ่นหมิงไม่ถดถอยลงเลย อีกทั้งยังไม่ยอมแพ้เขาโดยง่ายอีกด้วยไม่รู้เพราะเหตุใดเสิ่นหลางจึงรู้สึกว่าจิตใจไม่ค่อยสงบ คล้ายว่าจะเกิดเรื่องที่ไม่อาจคาดเดาได้ แต่จะเป็นไปได้อย่างไร เขาและเสด็จแม่วางแผนอย่างรัดกุมแล้ว ย่อมไม่มีทางที่จะทำผิดแผน อีกอย่างตอนนี้เสด็จพ่อก็ใกล้จะไปปรโลกเต็มทีแล้ว รอให้เขาเอาศีรษะของเสิ่นหมิงไปมอบให้ตาแก่นั้นดู มันก็คงจะตายตามบุตรชายตนเขาแค้นเคืองเสด็จพ่อยิ่งนัก เขาก็เป็นบุตรชายอีกคนเช่นกัน แต่เหตุใดเสด็จพ่อจึงรักเขาน้อยกว่าเสิ่นหมิงกันเล่าเสิ่นหมิงมองเสิ่นหลางด้วยแววตาเย็นชา เขาจุดพลุสัญญาณขึ้นฟ้า ไม่นานก็ปรากฏกองทัพนับแสนเข้าสังหารทหารของเสิ่นหลางจนหมด เสิ่นหลางที่เห็นเช่นนั้นตื่นตระหนกเป็นอย่างมากของในมือเสิ่นหมิงนั่นมันตราทหารของเสด็จพ่อใช่หรือไม่ เขาเคยเห็นครั้งหนึ่ง และคิดว่าจะต้องได้ครอบครองมันแต่กลับหาไม่พบ ไม่คิดว่ามันจะตกมาอยู่ในมือของเสิ่นหมิง!ยังไม่ทันที่เขาจะได้เข้าสู้กับน้องชายตนต่อ ก็รู้สึกจุกที

  • ดอกท้อบานยามวสันต์   บทที่ 10 ถอนคุณไสย

    เจี่ยงเฉิงที่ได้รับจดหมายจากเสิ่นหมิงก็เร่งรุดมาที่จวนองค์ชายรองอย่างไม่รอช้า เมื่อมาถึงก็พบว่ามู่เถาฮวากำลังรออยู่ในห้องทำพิธี เขารีบเข้ามาทันที"แม่นางมู่ เหตุใดจึงรีบร้อนถึงเพียงนี้เล่า เดิมทีจะต้องทำพิธีถอนคุณไสยในคืนพระจันทร์เต็มดวงที่กำลังจะมาถึงไม่ใช่หรือ”มู่เถาฮวากันมามองเจี่ยงเฉิง ก่อนจะเอ่ยตอบ“เราจะรอเวลาไม่ได้แล้ว ท่านคงทราบเรื่องที่สวีกุ้ยเฟยและเสิ่นหลางองค์ชายใหญ่ยึดครองอำนาจแล้ว อีกทั้งยังมีราชโองการจากฝ่าบาทให้สวีกุ้ยเฟยเป็นผู้สำเร็จราชการแทน หากเป็นฝีมือของสองแม่ลูกที่ทำคุณไสยใส่เสิ่นหมิงจริงๆ เราก็ไม่อาจรอได้แล้ว""เจ้าเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วใช่หรือไม่"“อืม”มู่เถาฮวามอบยันต์หลายแผ่นให้กับเจี่ยงเฉิง พร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง"ข้าจะทำพิธีสะท้อนคุณไสยกลับไปหาคนที่ลงมือ โดยใช้ผีสาวชุดดำเป็นสื่อกลาง แต่วิธีนี้เสิ่นหมิงอาจจะเจ็บตัวเสียหน่อย แต่ไม่เป็นอันตรายอันใด หากกระอักโลหิตออกมาก็ถือว่าหายดีแล้ว""ได้ ข้าจะช่วยเจ้าเอง""อืม"เสิ่นหมิงเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ออกคำสั่งให้ทหารคุ้มกันจวนองค์ชายรองอย่างแน่หนา จนกว่าพิธีแก้คุณไสยจะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีสายลมพัดพาเอาความ

  • ดอกท้อบานยามวสันต์   บทที่ 9 ตราทหาร

    การแช่น้ำใต้แสงจันทร์ผ่านไปด้วยดี หลังจากที่มู่เถาฮวานอนหลับไปแล้ว เจี่ยงเฉิงก็เดินเข้ามาหาเสิ่นหมิง ตอนนี้คนทั้งสองยังนอนไม่หลับ เจี่ยงเฉิงเองก็ยังไม่ได้กลับจวนตระกูลเจียงเพราะต้องการอยู่เป็นเพื่อนเสิ่นหมิงคนทั้งสองยกจกสุราขึ้นดื่ม ก่อนจะมองไปบนท้องฟ้าคราหนึ่ง เจี่ยงเฉิงเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาก่อน"อาหมิง เจ้าชอบนางหรือ"เสิ่นหมิงวางจอกสุราลง ก่อนจะหันมามองเจี่ยงเฉิง"ใช่ เจ้าว่าข้้าเหลวไหลเกินไปหรือไม่ ปากไม่ตรงกับใจใช่หรือไม่"เจี่ยงเฉิงส่งเสียงหัวเราะออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่คิดสิ่งใด"ไม่หรอก ความรู้สึกเช่นนี้บางคราเราเองก็ไม่อาจห้ามใจได้ อีกอย่างข้าว่านางก็เป็นคนดี หากเราไม่พบนางบางคราอาจจะหาทางแก้ปัญหาในตอนนี้ไม่ได้เสียด้วยซ้ำ อีกอย่าง นางช่วยให้ข้ามีพลังกลับคืนมา ไม่ต้องถูกผนึกพลังวิญญาณ"เสิ่นหมิงเมื่อที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อย เขารู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับเจี่ยงเฉิงแล้ว ชายหนุ่มมองหน้าสหายตนคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถาม"เจ้าหาตัวคนที่ลงมือได้หรือยัง"เจี่ยงเฉิงหันมามองเสิ่นหมิงพลางส่ายหน้าไปมาอย่างอับจนหนทาง หลายวันมานี้เขาพยายามสืบแล้ว พบว่าท่านแม่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status