/ รักโบราณ / ดอกบัวในสงคราม / ตอนที่ 10 ล่าสัตว์

공유

ตอนที่ 10 ล่าสัตว์

last update 최신 업데이트: 2024-12-23 21:53:28

          “มากันครบแล้วหรือยัง” หัวหน้าหมู่บ้านตะโกนถามทุกคน วันนี้ชายชรารับหน้าที่เป็นเพียงผู้ดูแลความเรียบร้อย พร้อมอธิบายกฎของหมู่บ้านก่อนการเดินทาง  ส่วนเรื่องล่าสัตว์เขาให้บุตรชายนามว่าซูเหวินไปแทน เพราะเรื่องนี้เจ้าตัวถนัดนัก อีกทั้งเขาผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าหมู่บ้านยังอายุมากแล้ว

          “ครบแล้วขอรับ” 

          “ดีๆ จากนี้ขอให้พวกเจ้าเดินทางปลอดภัย หมู่บ้านเรายังยึดกฎเดิม ห้ามเข้าไปในป่าด้านใน ห้ามให้คนนอกเข้าร่วม เนื้อที่ล่ามาได้แบ่งเท่ากันทุกบ้านที่เข้าร่วม”  ชายชราเอ่ยอธิบายกฎการล่าสัตว์ของหมู่บ้าน ที่ต้องพูดก่อนเพราะเหมือนครั้งนี้จะมีหน้าใหม่เข้าร่วมหลายคน เขาจึงได้รับการไหว้วานจากโม่โฉวให้มาช่วยแนะนำเด็กใหม่

          “กฎมิให้คนนอกเข้าร่วมมิใช่หรือ”  จางหมิ่นหรือลูกเลี้ยงของนางจ้านพูดขึ้นลอยๆ แต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจ เดิมทีต้องเป็นเหยาฉือผู้เป็นผู้นำของบ้านเข้าร่วม ทว่าแม่ของเขายังตึงกับอีกฝ่ายเพราะทะเลาะกันคราก่อนที่เหยาฉือนำไก่เลี้ยงของบ้านไปให้ไอ้คนนอกตระกูล

          พอมีคนไปบอกที่บ้านว่าจะมีการล่าสัตว์ในวันรุ่งขึ้น อีกทั้งเหยาฉือออกไปทำงานข้างนอกไม่อยู่บ้าน  ท่านแม่จึงไม่บอกเรื่องล่าสัตว์นี้กับอีกฝ่าย บังคับให้เขามาแทนเพราะถึงแม้จะไม่มีส่วนร่วมในการล่า ทุกคนที่เข้าร่วมก็จะแบ่งเนื้อให้เท่าๆกัน ความคิดท่านแม่คงอยากเก็บเนื้อไว้เอง เขาจึงตอบรับการเข้าร่วมทั้งที่ไม่ได้อยากมากับพวกคนเถื่อนหนวดยาวเฟิ้มท่าทางดูน่ากลัว นอกจากนี้ไม่เห็นมีใครบอกเลยว่าไอ้กาฝากของตระกูลก็มาด้วย ช่างขัดหูขัดตาเสียจริง

          ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ตระกูลหลี่  เดิมทีไม่ได้เกลียดเจียหมิงขนาดนี้ หากว่าพออยู่ไปไม่นาน เวลาเล่นกับเด็กในหมู่บ้าน ก็มักได้ยินชาวบ้านรอบๆเปรียบเทียบเขากับมัน ทั้งที่อายุห่างเพียงแค่ 2 ปี แต่อีกฝ่ายกลับได้รับคำชมจากคนอื่น ทั้งช่วยงานบ้าน ล่าสัตว์ก็เก่ง พอโตขึ้นก็กลายเป็นที่หมายปองของหญิงสาวในหมู่บ้าน ทั้งที่ไม่อยากยอมรับว่าอิจฉาคนไม่มีแม่แบบมัน  แต่ก็อดกำมือแน่นอย่างแค้นเคืองไม่ได้

          “เจ้าคงไม่รู้เพราะเข้าร่วมครั้งแรก นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนลงความเห็นว่าเจียหมิงยังคงเป็นคนในหมู่บ้าน” โม่โฉวพูดขึ้น แม้จะสงสัยเหตุใดวันนี้เป็นจางหมิ่นมาแทนเหยาฉือ ทว่าพอคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องภายในครอบครัวจึงไม่ได้เข้าไปยุ่ง

          “แล้วพี่เหยาฉือไปไหน เหตุใดมีแค่เจ้า” แต่ไม่ใช่กับซูเหวิน บุตรชายคนเล็กของผู้นำหมู่บ้านสหายคนสนิทของเจียหมิง ชายหนุ่มถามออกไปตรงๆอย่างไม่ไว้หน้า  ซูเหวินและเจียหมิงเป็นสหายกันมาตั้งแต่เด็ก เห็นเพื่อนทนทุกข์ให้นางจ้านกดขี่มาตั้งแต่เด็ก หลายครั้งที่ทนไม่ไหวอยากเข้าไปช่วยสหาย ทว่าท่านแม่กลับห้ามปรามเพราะไม่มีสิทธิเข้าไปยุ่งเรื่องครอบครัวคนอื่น แต่ครั้งนี้มันอดไม่ได้จริงๆ

          “พะ พี่ใหญ่ติดงาน จึงให้ข้ามาแทน”  จางหมิ่นเถียงกลับตะกุกตะกัก สายตาลุกลี้ลุกลนเพราะกลัวคนอื่นจับได้ว่าการล่าสัตว์ครั้งเหยาฉือไม่รู้เรื่อง

          “ไม่ใช่ที่บ้านไม่มีใครบอกพี่เหยาฉือหรือ !”  ซูเหวินเอ่ยสิ่งในใจตามที่เขาสงสัย ทำให้อีกฝ่ายถึงกับเลือดขึ้นหน้าเพราะมีคนรู้ทัน

          “เจ้า !!”

          “เอาล่ะๆ ไหนๆก็มากันครบ ออกเดินทางได้แล้ว ประเดี๋ยวจะสายเสียก่อน”  หัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยขัดขึ้นก่อนจะบานปลาย ทำให้ทั้งคู่ต่างเงียบลง  ในความคิดของชายชราอย่างไรเนื้อที่หามาได้หากบ้านไหนเข้าร่วมก็แบ่งให้เท่ากัน แม้แหยาฉือไม่มาแต่จางหมิ่นคงได้เนื้อกลับไปให้ที่บ้านไม่มากก็น้อย  

          “วันนี้ป่าเงียบผิดปกติ ดูสิเราเดินมาตั้งนานได้เพียงกระต่ายไม่กี่ตัว” ซูเหวินเอ่ยบ่นกับเจียหมิง หลังจากกลุ่มพวกเขาเดินเข้าไปในป่าได้หนึ่งชั่วยาม (2 ชั่วโมง)

          “หมู่บ้านอื่นอาจเข้ามาก่อนเราแล้ว” เจียหมิงคาดการณ์ อีกทั้งพอสังเกตรอบๆพบว่าป่าดูเงียบตามคำพูดของซูเหวิน คล้ายมีบางอย่างทำให้พวกสัตว์ไม่อยากออกมา ผิดวิสัยของมัน

          “ทางนั้นพบอะไรไหมขอรับลุงโม่”  ซูเหวินพยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับเพื่อน พร้อมกับหันไปถามลุงโม่ที่สำรวจป่าอีกด้าน อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้มีกลุ่มอื่นมาล่าบ้างแล้ว สัตว์จึงยังตื่นคนอยู่

          “มีเพียงรอยเท้าของพวกกระต่ายป่าหน่ะ” โม่โฉวตอบก่อนจะเดินเข้ามารวมกับกลุ่มของซูเหวินที่ยืนอยู่อีกฝั่ง

          “เดี๋ยวขอรับลุงโม่ พาข้าไปตรงรอยเท้าพวกนั้นได้ไหมขอรับ” เจียหมิงที่เอะใจบางอย่างเอ่ยพูดขึ้น หลังจากที่กลุ่มชาวบ้านกำลังพากันเดินไปต่อตามทางข้างหน้า

          “ได้สิ ตามมา รอยอยู่ฝั่งตรงนี้” โมโฉวชี้ให้อีกฝ่ายดูรอยเท้าเล็กของกระต่ายป่าที่อยู่ตรงกันข้ามกับที่พวกเขากำลังจะเดินไป

“รอยเท้าพวกมันแปลกๆ” เจียหมิงเอ่ยบอก ไม่ได้ตะโกนบอกทุกคน เพียงแค่พูดเสียงเบาๆให้คนอยู่ใกล้พอได้ยินเพราะนี่เป็นเพียงการคาดเดาของเขา

จากรอยเท้ามีกระต่ายหลายตัววิ่งไปอีกด้านของป่า นิสัยของกระต่ายป่าปกติจะไม่ค่อยทิ้งรอยเท้าไว้ ทว่าที่ปรากฎตรงพื้นด้านหน้ากลับเป็นรอยเท้าที่ชัดมาก เป็นรอยจากการทิ้งน้ำหนักตัวจากการวิ่ง อีกทั้งรอยที่เก่ากว่าที่แห้งไปแล้วเหมือนจะเป็นรอยเท้าของสัตว์ชนิดอื่นปนอยู่ด้วย

“ข้าก็คิดเช่นเจ้า จากรอยคล้ายวิ่งมากกว่าเดิน” ซูเหวินเอ่ยเสริมหลังจากเห็นรอยเท้าชัดๆ

“หรือว่าพวกมันกำลังหนีบางอย่าง” เจียหมิงพูดสิ่งที่เขาคิดออกมา

          “มัวทำอะไรกันอยู่ ไม่รีบเดินทางกันหรือ” ก่อนที่ทุกคนจะได้เอ่ยสิ่งใดต่อ ชาวบ้านคนหนึ่งได้เดินเข้ามาถามหลังจากเห็นทั้งสามมัวแต่จดๆจ้องๆที่พื้นดิน จนคนกลุ่มใหญ่ออกเดินนำหน้าไปก่อนแล้ว

          “พวกข้ากำลังตรวจดูรอยเท้าพวกนี้” โม่โฉวหันไปตอบกลับ สายตาเต็มไปด้วยความกังวล

          “รอยมันก็เหมือนๆกันนั่นแหละ รีบไปกันเถอะ” เสียงชาวบ้านพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ เพราะเกรงว่าหากช้ากว่านี้สัตว์จะแตกตื่นหนีไปหมด

          “ข้าขอไปตรวจสอบทางฝั่งนี้ดูก่อนนะขอรับ” เจียหมิงตัดสินใจตรวจสอบคนเดียว เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ครั้นจะขอให้ทุกคนมาล่าสัตว์ทางป่าด้านนี้พร้อมกับเขาก็คงจะไม่ได้ ชาวบ้านตัดสินใจเลือกล่าสัตว์ทางอีกฝั่งไปแล้ว

          “งั้นข้าไปด้วย” ซูเหวินพูดเสียงหนักแน่น เรื่องอะไรเขาจะให้สหายไปคนเดียว

          “พวกเจ้า…” โมโฉวกำลังจะเอ่ยห้าม เพราะอันตราย ทว่าเสียงชาวบ้านอีกคนที่เข้ามาใหม่ดังขึ้น

          “โม่โฉวเราเจอบางอย่าง ช่วยตามมาตรวจสอบที”  ชาวบ้านอีกคนวิ่งมาตามโม่โฉว เมื่อพวกเขาเดินไปได้ไม่ไกลกลับพบบางอย่าง

          “ลุงโม่ตรวจสอบทางนั้นเถอะขอรับ ข้าจะไปดูอีกด้าน หากพบสิ่งผิดปกติ พวกข้าจะรีบมาตามพวกท่านทันที”  เจียหมิงบอกอีกฝ่ายคลายความกังวลจนโม่โฉวเริ่มเบาใจ พยักหน้าตกลงก่อนจะวิ่งไปที่ป่าอีกด้าน

          “เจ้าว่าพวกเขาจะพบอะไรหรือ” เดินมาเรื่อยๆซูเหวินถามสหาย

          “ข้าก็ไม่แน่ใจ แต่เราต้องรีบตรวจสอบป่าด้านนี้ให้ไว จะได้รีบตามไปสมทบกับกลุ่มหลัก”  เขาสังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีอย่างไรไม่รู้  ป่าวันนี้แปลกเกินไป

          “ตกลง” ซูเหวินรับคำ ก่อนที่พวกเขาจะช่วยกันแกะรอยเท้าของสัตว์ป่ามาเรื่อยๆ ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ ยิ่งพบรอยเท้าชัดขึ้น จนพบกับ

          “นี่มัน…” 

          “เป็นไปไม่ได้” ซูเหวินถึงกลับเหม่อลอยมองภาพตรงหน้า สัตว์หลากหลายชนิดมารวมกันอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร

          “ข้าคิดว่าพวกมันมีสัญชาตญาณเตือนภัยบางอย่าง ทำให้พวกมันเลือกที่จะหนีมาอยู่ตรงที่ที่ปลอดภัย”

          “งั้นแสดงว่า...”

          “ลุงโม่กับคนอื่นๆกำลังตกอยู่ในอันตราย !” พูดขึ้นก่อนจะทั้งสองจะรีบวิ่งกลับไปยังทางที่คนอื่นๆมุ่งหน้าไป

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 5 ตลอดไป [จบบริบูรณ์]

    “อุแว้ อุแว้”“ที่รักเหนื่อยไหม ขอบคุณที่คลอดบุตรให้พี่อีกคนนะ” หยางหลงเช็ดเหงื่อตรงหน้าผากให้คนรักที่หน้าซีดเซียว“ไม่เลยเจ้าค่ะ แค่เห็นหน้าลูกๆกับพี่ ข้าก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง” เหลียนฮวาที่มีประสบการณ์จากการคลออบุตรครั้งแรกถึงสองคน ครั้งนี้จึงคลอดง่ายมาก หมอหลวงที่เดินทางจากแคว้นเว่ยโดยเฉพาะอุ้มเด็กน้อยตัวอวบอ้วนเข้ามา“ขอแสดงความยินดีกับชินอ๋องและพระชายา เป็นเด็กทารกเพศชาย ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์เพคะ” หมอหญิงส่งเด็กทารกให้แก่ชินอ๋อง หยางหลงรับมาด้วยความทะนุถนอม“อีกแล้ว ข้าอุ้มท้องเขามา 9 เดือนนะเจ้าคะ” เหลียนฮวาพูดอย่างน้อยใจ เมื่อบุตรลายคนที่สามไม่มีส่วนไหนเหมือนนางเช่นเดียวกัน นี่น้ำเชื้อเขาแรงมากเลยหรือ ลูกออกมาสามคน หน้าตาเหมือนเขาทุกคน“ฮ่าๆ คนที่สี่ต้องเหมือนเจ้าอย่างแน่นอน” หยางหลงพูดด้วยรอยยิ้ม เหลียนฮวาได้แต่อ้าปาก

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 4 ลูกครึ่งซอมบี้

    แคว้นฉินพระราชวัง“ฮื่อ ฮื่อ” เสียงเด็กน้อยร่ำไห้อยู่ข้างเตียงของหญิงนางหนึ่ง“แค่ก ๆ ขะ ข้าไม่น่า คะ คลอดเด็กอย่างเจ้าออกมาเลย” องค์หญิงใหญ่กล่าวด้วยใบหน้าโกรธแค้น ตัวนางซูบผอมเหลือแต่กระดูก อันเนื่องจากคลอดเด็กลูกครึ่งผีดิบที่กัดกินชีวิตนางตั้งแต่อยู่ในครรภ์ นางหวังให้ลูกของนางเติบโตมาแข็งแกร่งเหมือนพ่อ ทว่าเด็กออกมากลับเป็นผู้หญิง นอกจากอ่อนแอแถมยังไร้ประโยชน์ทำไมกันนะ ชีวิตของนางถึงไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง ตั้งแต่มีพระสวามี เขาก็ทิ้งนางให้อยู่ท่ามกลางผีดิบ ดีที่ยังมีคนรับใช้หลงเหลือไว้ให้อยู่ แต่รอบตัวก็เต็มไปด้วยผีดิบ ไม่มีใครสามารถออกจากแคว้นได้เลย มีครั้งหนึ่งที่แม่ทัพของเคยคิดออกจากแคว้น ทว่ายังไปได้ไม่ไกล ต่างโดนเหล่าผีดิบเข้ามากัดกินทั้งเป็น หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าออกไปนอกแคว้นอีกเลย“ท่างแม่…”“ยะ อย่า แ

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 3 ลูกชายฝาแฝดตัวแสบ 

    4 ปีต่อมา“เสี่ยวชุน เสี่ยวเฉินลงมาจากต้นไม้เดี๋ยวนี้!!” เหลียนฮวาตะโกนบอกบุตรชายตัวแสบวัยสามขวบทั้งสอง อุ้มท้องมา 9 เดือน แต่ไม่มีส่วนใดได้นางมาเลย เด็กๆถอดแบบพี่หยางมาทั้งหมด ชอบปีนต้นไม้เหมือนใครก็ไม่รู้? แถมยังหลบหนีพี่เลี้ยงเก่งเป็นที่หนึ่ง“ปี้ชายลงไปก่อนซี่” เสี่ยวชุนหรือเว่ยชุนหวงเอ่ยบอกพี่ชายที่คลอดก่อนตนเพียง 5 วินาที ร่างกลมป้อมอวบอัด ทว่ากลับว่องไวกว่าคนเป็นพี่บุ้ยปากให้พี่ชายลงจากต้นไม้ก่อน“เจ้าเปงน้องก็ต้องลงก่อง” เสี่ยวเฉินหรือเว่ยเฉินอี้กล่าวบอกผู้เป็นน้อง ทั้งสองเกี่ยงกันลงก่อนเนื่องจากยังดูพวกท่านตาฝึกซ้อมยังไม่เสร็จ“ลง มา พร้อม กัน” เหลียนฮวาจำต้องเน้นเสียงทีล่ะคำบอกบุตรชาย ไม่งั้นก็ยังเกี่ยงกันไม่เลิก บุตรชายของนางทั้งสองชื่นชอบการต่อสู้เป็นพิเศษ หากเห็นทหารหรือบรรดาตาๆตัวเองฝึกก็จะรีบขอตามไปดูอย่างไวพวกเด็กๆจะเรียกพ่อของนางว่าต

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 2 วันนี้ที่รอคอย

    “เหนื่อยหรือไม่” หยางหลงเอ่ยถามเจ้าสาวของตนหลังคืนแต่งงานผ่านพ้นไป คนรักที่กลายมาเป็นภรรยาและคู่ชีวิตของเขานับแต่นี้เหลียนฮวานั่งตัวเกร็งอย่างทำอะไรไม่ถูก นางกำลังเผชิญกับคืนเข้าหอเป็นครั้งแรก“…”“เหตุใดไม่คุยกับพี่้เล่า” หยางหลงค่อยๆเปิดผ้าคลุมเจ้าสาวเชยคางมนมาสบตา ทั้งสองสบตากันอย่างลึกซึ้ง“ตะ ต้องดื่มเหล้าก่อนมงคลเจ้าค่ะ” เหลียนฮวาที่ไม่รู้จะหาข้ออ้างอันใดมาเอ่ยจึงมองไปที่กาใส่เหล้ามงคลเอาไว้“จริงสิ เป็นขนบธรรมเนียมของที่นี่” หยางหลงยิ้มกริ่มก่อนจะค่อยๆเทเหล้ามงคลจากกาน้ำสองจอดและยกขึ้นมาถือไว้“ดื่มเถิด” เขายื่นให้คนรักหนึ่งแก้วและถือไว้เองหนึ่งแก้ว ทั้งสองคล้องแขนกันก่อนจะยกขึ้นดื่มพร้อมกัน ทั้งกลิ่นทั้งรสชาติของเหล้ามีความแรงจนเหลียนฮวาต้องนิ่วหน้า นางรีบกลืนภายในอึกเดียว ไม่นานหน้

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 1 สวรรค์ชั้นฟ้าหรือจะสู้ชะตากงล้อลิขิต  

    “ถวายบังคมเสด็จพ่อ” ฮ่องเต้สวรรค์มองบุตรสาวด้วยสายตาไม่พอใจนัก“เจ้ารู้ความผิดที่ก่อหรือไม่เทพธิดาเหมยลี่” น้ำเสียงดังก้องกังวาลไปทั่วชั้นฟ้า“ไม่เพคะ” เทพธิดาเหมยลี่เชิดหน้าไม่ยอมแพ้“เจ้า!!!”“ลูกไม่คิดว่าการที่พวกเรารักกันจะผิดตรงไหน”“แม้จะไม่มีบัญญัติว่าห้ามรักต่างฐานันดร แต่เจ้าก็ทำผิดกฎสวรรค์ เจ้ากำลังตั้งครรภ์!!!” ฮ่องเต้สวรรค์แทบลมจับ สั่งให้ทูตสวรรค์หรือที่เรียกทหารในโลกมนุษย์พาธิดากลับมาและนำไอ้ชายที่มันล่อลวงบุตรสาวของเขามารับโทษ“ตั้งครรภ์ จริงสิ เสด็จพ่อทรงมีหลานแล้วเพคะ นางจะเป็นเทพธิดาตนใดมาเกิดกันนะ” เหมยลี่พูดไปยิ้มไป สายใยแม่ลูกทำให้รู้ว่าในครรภ์ของนางเป็นเพศหญิง พลางลูบหน้าท้องแบนราบของตน“ช่างเรื่องนั้นก่อน เจ้าต้องได้รับโทษ” ฮ่องเต้สวร

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 109 จะรักตราบชั่วนิรันดร [The end]

    “พี่หยาง ผักที่เราปลูกงอกแล้วเจ้าค่ะ” เหลียนฮวากล่าวอย่างตื่นเต้น เป็นล็อตสองที่ทดลองปลูก แถมผักที่ปลูกยังเป็นชนิดใหม่“หืม งอกเร็วมาก ยังไม่ถึงเดือน” หยางหลงรีบเข้ามาดูต้นผักตามคนรักชี้บอก วันนี้พ่อตาและคนอื่นไม่อยู่ต้องไปทำภารกิจ“เพราะดินที่เราหมั่นบำรุงมั้งเจ้าคะ”ฟอดดด“เพราะเราช่วยกันปลูกต่างหาก” ขายหนุ่มแอบหอมแก้มแฟนสาวเร็วๆ แล้วส่งยิ้มกระชากใจหลังจากกลับจากแคว้นเว่ยมีประกาศอย่างเป็นทางการเรื่องว่าที่พระชายาองค์ชายห้า เล่นเป็นข่าวดัง พูดถึงกันอยู่พักใหญ่เพราะว่าที่พระชายาเป็นคนต่างแคว้นแถมยังเป็นสามัญชน ทว่าทั้งคู่กลับไม่มีใครสนใจ พากันเดินทางไปแคว้นจ้าวสลับกับแคว้นเว่ย ไปๆมาๆระหว่างสองแคว้น แถมยังหวานกันยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากไม่ต้องปกปิดตัวตนอีกต่อไป“ครั้งหน้าหากผักในโรงปลูกผักโตกว่า

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status