ดาวสีน้ำเงิน ในศตวรรษ 3050 หรือยุคที่เทคโนโลยีมาถึงขีดสูงสุดเกินกว่าจินตนาการไว้ รถสามารถเหาะได้ เพราะนวัตกรรมสุดล้ำ มนุษย์ไม่ต้องทำงานบ้านเองมีเอไอทำให้ทุกอย่าง ขนส่งสินค้าข้ามประเทศภายในไม่กี่นาที อาหารส่วนใหญ่เป็นอาหารอัดเม็ด มีแบบแคปซูลให้เลือก เพราะพื้นดินเต็มไปด้วยสารพิษทำให้เพาะปลูกได้ยาก ที่อยู่อาศัย สิ่งอำนวยความสะดวก ทุกอย่างล้วนเป็นนวัตกรรมสมัยใหม่ ทว่ามีเพียงประชากรที่เริ่มลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากมลพิษทางอากาศ อีกทั้งเมื่อก่อนยังมีการทำสงครามต่างดวงดาว กฎของการทำสงครามคือจะไม่โจมตีประชากรดวงดาว หากจะรบกันต้องส่งกองกำลังทหารของแต่ละฝ่ายไปอวกาศ หากไม่อยากสู้รบก็มักจะหาข้อยุติด้วยการทำสนธิสัญญาระหว่างดวงดาว
ครืด ครืด
“วันนี้เจ้านายจะรับอะไรดีครับ” เสียงหุ่นยนต์ทำหน้าที่เสมือนพ่อบ้านแต่ล้ำยิ่งกว่าเพราะถูกสร้างให้มีความคล้ายมนุษย์แม้กระทั่งความคิด มันเดินเข้ามาถามเจ้านายของตนที่กำลังเตรียมตัวออกไปข้างนอกด้วยท่าทางเร่งรีบ
“ฉันจะสายแล้ว เอาแค่แคปซูลอาหารมาให้ก็พอ” โมนิก้า ลูกสาวคนเดียวของผู้บัญชาการกองทัพสูงสุดหรือนายพลโรเบิร์ตโต้ หญิงสาวร่างบาง ส่วนสูงเพียง 165 แต่หน้าอกหน้าใจกลับใหญ่เกินตัว ผมสีทอง ดวงตากลมสดใส บุคคลที่คนทั้งดวงดาวเรียกว่าอัจฉริยะเหนืออัจฉริยะ ด้วยวัยเพียง 13 ปี ก็สามารถคิดค้นนวัตกรรมใหม่ออกมาได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเอไอรุ่นล่าสุดที่ทำอาหาร ขับรถยนต์ หรือทำสิ่งต่างๆได้ไม่ต่างจากมนุษย์
แรงบัลดาลใจที่ทำให้เธอคิดค้นมันขึ้นมาเป็นเพราะในยุคปัจจุบันเด็กเกิดใหม่มีจำนวนน้อยลงทุกปี ใน 1 ปี มีเด็กเกิดใหม่ เพียง 1 % ของคนทั้งดวงดาว สาเหตุมาจากมลพิษทางอากาศ เชื้อโรค แบคทีเรียมีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากยุคนี้มีการใช้เชื้อเพลิงและเทคโนโลยีใหม่ๆ จนก่อเกิดมลพิษ หากเด็กที่เกิดมาไม่มีภูมิคุ้มกันตั้งแต่กำเนิดก็จะไม่สามารถมีชีวิตรอดในยุคนี้ได้
นอกจากนี้ในดาวน้ำเงินยังมีกฎว่าผู้ชายที่อายุครบ 25 ปี ต้องเข้าเกณฑ์ทหาร และจะปลดประจำการได้ต้องมีอายุ 30 ปี หรือถ้าหากทำผลงานได้ดีจะขอยื่นเรื่องขอปลดก่อนก็ได้ มีทหารเก่งๆบางส่วนที่ประจำอยู่กองทหารของดวงดาว ต้องออกไปสู้รบกับดาวอื่น มีคนเสียชีวิตลงไปไม่น้อยแม้จะไม่มากเท่าเมื่อก่อนแต่ก็ทำให้ประชากรในดาวสีน้ำเงินนี้ค่อนข้างไม่สมดุล ผู้หญิงมีจำนวนเยอะกว่าผู้ชายถึงร้อยละ 80
นี่จึงเป็นเหตุผลที่เธอคิดค้นเอไอหรือหุ่นยนต์รุ่นใหม่ขึ้นมา เพราะมนุษย์แก่ลงทุกปี ในขณะที่คนเกิดมาแทบไม่มี นั่นจึงทำให้เอไอพ่อบ้าน แม่บ้านขายดี ทำเงินให้ครอบครัวเธอมหาศาล ส่วนต่อมาที่โมนิก้าคิดค้นก็เป็นแคปซูลอาหาร
“เจ้านายจะเอาแบบแห้งหรือแบบน้ำครับ”
“เอ่อ เอามาทั้งสองนั่นแหล่ะ” และนี่คงเป็นความฉลาดของเอไอที่เธอคิดค้น เพราะมันสามารถโต้ตอบกับเธอได้ อีกทั้งยังมีความคิดเป็นของตัวเองคล้ายมนุษย์
ติ้ด ติ้ด
“ว่าไงคะปะป๊า” โมนิก้ารับสายผู้เป็นพ่อ เมื่อหน้าจอสี่เหลี่ยมคล้ายคอมพิวเตอร์โปร่งใสเป็นภาพโฮโลแกรมเด้งขึ้นมา ทำให้เห็นหน้าผู้เป็นพ่อได้อย่างชัดเจน ผมสีบรอนด์อันเป็นเอกลักษณ์ของชายวัยกลางคนปรากฏบนหน้าจอ
“ถึงไหนแล้วลูก” โรเบิร์ตโต้ถามลูกสาวที่ตอนนี้แม้จะอายุ 23 ปี แต่ในสายตาของเขาก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กน้อยคนหนึ่ง แม้ความคิดและไอคิวของเธอจะโตเกินวัย แต่สำหรับคนเป็นพ่อแม่มักมองว่าลูกเป็นเด็กน้อยสำหรับพวกเขาเสมอ
“หนูตื่นสายค่ะ แหะๆ ไม่เกิน 5 นาทีถึงแน่นอน” โมนิก้าพูดพลางยื่นมือไปรับกล่องแคปซูลจากบอทเต้ก่อนจะกดนาฬิกาสุดไฮเทคบนข้อมือที่สามารถเรียกรถยนต์ไฟฟ้าความเร็วสูง แม้ไม่มีคนขับก็สามารถมาร์คจุดหมายปลายทางได้ ทว่าราคามันก็แพงเอาเรื่อง
“พร้อมมั้ยลูก” โรเบิร์ตโต้ถามบุตรสาวที่พึ่งมาถึงทันเวลาอย่างฉิวเฉียด วันนี้โมนิก้าต้องกล่าวเปิดงาน เจ้าเอไอรุ่นใหม่ที่เป็นแบบชิปซึ่งสามารถฝังไว้ในสมองมนุษย์ได้ เจ้าสิ่งนี้จะช่วยให้ผู้ใช้มีความสามารถตามชิปที่ฝัง แม้จะไม่เคยมีความรู้ในเรื่องนั้นมาก่อน เช่น ชิปนักสู้ ชิปยอดนักปรุงอาหาร หรืออื่นๆตามข้อมูลที่ศูนย์ความรู้แห่งสหประชาชาติป้อนใส่ชิป ศูนย์ความรู้แห่งสหประชาชาติคือสถานที่เก็บข้อมูลต่างๆของแต่ละประเทศทั่วดวงดาว รวมถึงคนที่ควรค่าแก่การจารึกเอาไว้ ซึ่งการคิดค้นเจ้าเอไอนี้ก็นับว่าเป็นการสร้างสิ่งมหัสจรรย์ครั้งยิ่งใหญ่ของจักรวาลเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังช่วยลดประชากรดวงดาวที่จะต้องออกไปสู้รบ เป็นการป้องกันการสูญเสียอีกด้วย
“พร้อมค่ะ” โมนิก้ายิ้มให้คนเป็นพ่อ นายพลโรเบิร์ตโต้มองรอยยิ้มนั้นของบุตรสาวอย่างเหม่อลอย ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าว่านี่จะเป็นรอยยิ้มสุดท้ายที่เขาได้เห็น คิดมาถึงตรงนี้ก็รู้สึกใจหาย แต่พอคิดว่าตัวเองอาจคิดมากไปจึงสะบัดความคิดนั้นจ้องมองลูกสาวคนเดียวของเขาพูดบนเวทีด้วยสีหน้าภูมิใจ
บุตรสาวของเขาเติบโตมาโดยมีเพียงเขาคนเดียว แม่เธอเสียไปตั้งแต่อายุ 7 ขวบ จากโรคประจำตัวที่รักษาไม่หาย ลูกสาวที่เห็นแม่นอนป่วยมาหลายปีจึงเริ่มศึกษาด้านการแพทย์ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ เพราะอยากให้แม่หายดี เขาสงสารบุตรสาวที่ใช้เวลาเป็นปีศึกษาตัวยาเพื่อรักษาก็ทำได้แค่ประคับประคองตามอาการ ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากช่วยเธอ แม้แต่หมอที่เก่งที่สุดในดาวสีน้ำเงินยังส่ายหน้า เนื่องจากร่างกายภรรยาเขาอ่อนแอตั้งแต่เกิดจากการคัดสรรค์ประชากรของธรรมชาติทำให้เด็กเกิดใหม่มีน้อยมาก หมอบอกว่าที่เธอสามารถพยุงร่างกายอยู่ได้จนถึงตอนนั้นก็นับว่าเป็นปาฏิหาริย์แล้ว พอคลอดลูกซึ่งก็คือโมนิก้า ร่างกายของเธอก็ยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ แต่ก็ยังฝืนแล้วยิ้มรับกับทุกปัญหาที่เผชิญ
“วันนี้หนูสวยมาก รู้ไหม” ระหว่างคนเป็นพ่อกำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิด จู่ๆ ชายร่างสูง รูปร่างกำยำ ดวงตาสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของเชื้อพระวงศ์ก็เดินเข้ามา หน้าตาไม่ต้องพูดถึง ผู้หญิงรอบๆทุกคนพากันมองตาค้าง ด้วยใบหน้าเหล่อเหลาราวกับสวรรค์จงใจสร้างนั่นทำให้หญิงสาวทุกคนพากันอิจฉาเจ้าของช่อดอกไม้ที่ชายหนุ่มถือมา ไม่ใช่ใคร แต่คือโมนิก้าบุตรสาวเขา ส่วนคนเป็นพ่ออย่างโรเบิร์ตโต้ถึงกับคิ้วกระตุกให้กับความเปล่งประกายของชายหนุ่ม
“ขอบคุณค่ะพี่เซนท์” โมนิก้ายิ้มหวานให้แฟนหนุ่ม เซนท์ หรือเฟลิกซ์ ซัลลิแวน เจ้าชายแห่งดวงดาวซีอัส ซึ่งเป็นดวงดาวที่เปรียบเสมือนจักรวรรดิของจักรวาล แม้จะไม่ใช่มหาจักรวรรดิ แต่ก็มีอิทธิพลไม่แพ้กัน และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมไม่ค่อยมีดาวดวงอื่นมาโจมตีดาวสีน้ำมันเงิน เพราะชายหนุ่มคอยจัดการให้คนรักอย่างเงียบๆนั่นเอง
“ยินดีครับ สำหรับคนสวยของพี่” ชายหนุ่มมองหน้าสวยหวานของคนรักอย่างลึกซึ้ง ยื่นดอกไม้ในมือให้ มองชุดที่เธอสวมใส่แล้วแอบหงุดหงิด ชุดนี้เปิดเนื้อหนังมากเกินไป เขาหวง
“อะแฮ่ม ๆ” โรเบิร์ตขัดจังหวะคนทั้งคู่ พลางมองเขม่นไปที่หน้าอันโดดเด่นนั่น หนอย เขาอยู่ทั้งคนยังมามองหน้าลูกสาวเขาปานจะกลืนกิน ชายวัยกลางคนมองอย่างหมั่นไส้
“สวัสดีครับคุณพ่อแฟน จบงานแล้วผมขอยืมตัวลูกสาวหน่อยนะครับ” เฟลิกซ์หันไปขออนุญาตกับผู้เป็นพ่อของแฟนสาวอย่างนอบน้อม เขาไม่ถือยศว่าเป็นเจ้าชายแม้แต่น้อย
เพราะอีกไม่นาน หากทุกอย่างจบลงเขาก็จะขอแฟนสาวแต่งงานแล้ว
“เหอะ ฉันห้ามได้ไหมล่ะ” โรเบิร์ตเลิกคิ้วอย่างยียวน วันครบรอบบุตรสาว 20 ปี จู่ๆโมนิก้าก็เดินมาบอกว่ามีแฟนแล้ว พร้อมพาผู้ชายคนนั้นเข้าบ้าน เขาตกใจระคนโมโห เพราะกลัวว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นจะมาด้วยจุดประสงค์ไม่หวังดี บุตรสาวของเขาแนะนำแค่ว่าชายหนุ่มที่พามาด้วยชื่อเซนท์ ไม่ได้แนะนำครอบครัวหรือฐานะอื่นๆ หลังจากนั้นเขาให้ลูกน้องไปสืบกลับไม่ได้ข้อมูลอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย มันน่าหงุดหงิดที่ไม่สามารถหาข้อมูลของชายคนนั้นได้เลย แต่ก็ไม่ได้กีดกันความรักของลูก เขาเชื่อใจบุตรสาวเพียงแต่คอยมองอยู่ห่างๆ หากทำให้โมนิก้าเสียใจเขานี่แหละจะไปเด็ดหัวมันเอง
จนกระทั่งไม่กี่เดือนต่อมาเซนท์เดินทางเข้ามาหาเขา วันนั้นชายหนุ่มแนะนำตัวด้วยชื่อเต็มๆในฐานะแฟนของโมนิก้า ไม่ใช่ฐานะทูตของดวงดาวซีนัส พอเขาได้ยินก็เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมบุตรสาวถึงไม่ยอมบอกชื่อจริงแฟนหนุ่ม เจ้าชายจากดวงดาวซีนัสที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมหาอำนาจกลับก้มลงคุกเข่าขอโทษที่ไม่ได้บอกความจริงแต่แรก เพราะไม่อยากถูกมองว่าคบกับโมนิก้าเพื่อผลประโยชน์ตั้งแต่วันแรก ชายหนุ่มอยากให้ดูที่การกระทำที่ปฏิบัติต่อบุตรสาวของเขา ชายวัยกลางคนได้ลองมองเข้าไปในดวงตาสีแดงทับทิมอันเป็นเอกลักษณ์ของอีกฝ่าย มันช่างแน่วแน่และไม่หวั่นไหว พลางคิดทบทวนที่ผ่านมาบุตรสาวของเขามีแต่รอยยิ้มในช่วงระหว่างคบกัน สุดท้ายจึงใจอ่อนเปิดใจให้แฟนบุตรสาวคนนี้ แต่ก็มีบ้างที่แอบหวง จนต้องแอบเขม่นอีกฝ่าย
“พ่อคะ…” โมนิก้าถึงกับส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ
“ขอบคุณครับ” เฟลิกซ์ยิ้มแบบเดียวกันตอบกลับไป ไม่มีความไม่พอใจอยู่ในดวงตาแม้แต่น้อย โรเบิร์ตถึงกับหนวดกระตุกคล้ายโดนลูบคม แต่พอมองหน้าบุตรสาวก็แกล้งทำเป็นหายใจฟึดฟัดพอเป็นพิธี
“พ่อกับพี่เซนท์รออยู่ตรงนี้นะคะ เพราะมันเป็นที่ที่หนูเห็นทั้งคู่ได้ที่ดีสุด” บอกเสร็จก็ส่งยิ้มอย่างมีความสุขไปให้ คนเป็นแฟนคันที่ใจยุบยิบเพราะไม่อยากให้ใครเห็นนอกจากพ่อของเธอและเขาคนเดียว ส่วนโรเบิร์ตโต้มองตามบุตรสาวอย่างภาคภูมิใจ
‘เธอจะรู้ไหม โมอาเรีย ตอนนี้ลูกสาวเราเติบโตมาอย่างดีเลยนะ อัจฉริยะผู้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆจนหลายคนตะลึง เธอต้องภูมิใจในตัวลูกเหมือนอย่างฉันแน่ๆ’ โรเบิร์ตคิดพลางมองขึ้นไปบนฟ้า
reviews