Home / รักโบราณ / ดอกบัวในสงคราม / ตอนที่ 11 เค้าลางอันตราย

Share

ตอนที่ 11 เค้าลางอันตราย

last update Last Updated: 2024-12-23 21:58:26

         “เราพบซากสัตว์นอนตายอยู่” เมื่อมาถึงชาวบ้านคนเดิมได้ชี้ให้ดูจุดที่พวกเขาเห็น

         “แย่ล่ะ ศพพวกมันคล้ายโดนตัวอะไรกัดกิน” โม่โฉวอึ้งกับภาพตรงหน้า มองซากสัตว์ที่กำลังนอนตายเกลื่อน สภาพทุกตัวมีบาดแผลเหวอะหวะจากการฉีกกระชาก จนเห็นเครื่องในไหลออกมา ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วป่า จากเลือดที่ยังสดอยู่ น่าจะตายได้ไม่นานนัก คล้ายเจ้าสัตว์ตัวต้นเหตุต้องการเพียงล่าเท่านั้น

         ที่คิดว่าเป็นสัตว์เพราะมีรอยเขี้ยวฝังบนร่างของสัตว์ที่นอนตายอยู่  อวัยวะภายในยังอยู่ครบ ไม่มีร่องรอยถูกกินแม้แต่น้อย สัตว์ชนิดใดหนอช่างฆ่าได้โหดเหี้ยมยิ่งนัก ไม่แน่มันอาจจะยังไปไหนได้ไม่ไกล

         ชายวัยกลางคนวิเคราะห์ มองเห็นชาวบ้านบางคนกำลังอาเจียนอยู่  แม้โม่โฉวที่ล่าสัตว์ตั้งแต่เด็กจนคิดว่าตัวเองนั้นชินกับภาพแบบนี้แล้ว ก็ยังมีอาการผะอืดผะอม ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นสัตว์ที่ล่าได้น่ากลัวขนาดนี้ เพราะตามวิสัยพวกมันจะล่าแค่พอกินสำหรับฝูงมันเท่านั้น ไม่ใช่ล่าแล้วปล่อยร่างทิ้งไว้  จนเป็นภาพสยดสยองดั่งเบื้องหน้า

         “ระ เราจะทำอย่างไรต่อดี ขะ ขอรับ”  ชาวบ้านอีกคนพูดตะกุกตะกัก หวาดกลัวไม่ต่างจากคนอื่น

         “ป่าตรงนี้อาจไม่ปลอดภัย ข้าว่า…” โม่เฉินกำลังบอกให้ทุกคนออกจากป่าบริเวณนี้ กลับถูกขัดขึ้น

         “เจียหมิงกับซูเหวินไม่ได้เดินมาพร้อมกันหรือ” จางหมิ่นเมื่ออาเจียนเสร็จเอ่ยขึ้นมา ในหัวพยายามคิดหาเรื่องอีกฝ่าย จึงไม่ได้ฟังสิ่งที่โม่โฉวกำลังจะพูด

         “ทั้งสองไปตรวจสอบป่าอีกด้าน” โม่โฉวขมวดคิ้วไม่พอใจที่จางหมิ่นพูดขัด แต่ก็ตอบคำถามกลับไป เนื่องจากอยากให้ทุกคนได้ยิน จะได้ไม่มีข้อครหา

         “ไม่ใช่กลัวจนหนีหายไปแล้วรึ”  จางหมิ่นพูดเยาะเย้ย ผิดกับสีหน้าที่ซีดเผือดอยากผะอืดผะอม  กลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วทำให้อยากอาเจียนอีกรอบ ทำไมเขาถึงได้ซวยต้องมาเจออะไรแบบนี้ เพราะไอ้สองพี่น้องนั่นแท้ๆ

         “เจ้าเลิกพูดจากระทบผู้อื่น แล้วรีบมาช่วยกันนำซากสัตว์พวกนี้ไปฝัง ก่อนกลิ่นเลือดจะล่อพวกสัตว์กินเนื้อมาดีกว่า”  โม่โฉวบอกอย่างตัดปัญหา ร่างสัตว์พวกนี้อยู่ใกล้กับหมู่บ้านเกินไป แบ่งหน้าที่ให้แต่ละคนขนร่างสัตว์ที่ตายแล้วไปฝัง ส่วนอีกกลุ่มให้ทำหน้าที่ขุดหลุม จางหมิ่นได้แต่ชักสีหน้า ทว่ากลับไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะมองไปรอบๆไม่มีใครสนใจเขาเลย หึย ฝากไว้ก่อนเถอะ อึก! คิดในใจพลางเดินไปอ้วกข้างๆต้นไม้อีกรอบ

         กรร โฮกกกกกก!

         เสียงคำรามลั่นป่าทำให้ชาวบ้านที่กำลังลากร่างของสัตว์ที่ตายไปกองรวมกันที่หลุมถึงกับชะงัก ทุกคนมองหน้ากันอย่างตกใจ พลันความกลัวเริ่มย่างเข้ามา เสียงร้องบ่งบอกว่าเจ้าตัวนั้นอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่นี่

         “นะ นั่นเสียงอะไรหนะ…”

         “ไม่ต้องสนใจ พวกเรามีคนเยอะกว่า รีบขนโดยเร็วแล้วฝังลงดินซะ!” โม่โฉวพยายามปลุกกำลังใจทุกคน เขาได้ยินไม่ต่างกัน ฟังจากเสียงไม่รู้เป็นสัตว์ชนิดใด จะใช่เจ้าตัวต้นเรื่องหรือไม่ แต่การที่ไม่รู้ว่ามันคือตัวอะไรนี่แหละปัญหา ต่อให้มีจำนวนคนเยอะกว่าก็ใช่จะสู้ไหว  ต้องรีบออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด

         ทุกคนช่วยกันลากร่างของสัตว์ที่ตายอย่างแข็งขันแม้กระทั่งจางหมิ่นยังออกแรงช่วยมากขึ้น เพราะพวกเขาไม่อยากเจอสัตว์ร้ายตัวอื่น โดยเฉพาะเจ้าตัวที่สังหารสัตว์ตัวอื่นๆอย่างโหดเหี้ยม จนในที่สุดซากร่างสัตว์ทุกตัวก็ลงไปอยู่ในหลุม ทุกคนรีบโกยดินเพื่อฝังร่าง

         “เฮ้อ เสร็จทักที พวกเราออกไปจากป่าด้านนี้กันเถอะ” โม่โฉวถอนหายใจโล่งอก เรียกให้ทุกคนเก็บข้าวของที่ใช้ขุดดิน ก่อนพวกเขาจะได้ออกไป เสียงเจียหมิงก็ร้องเรียกอีกฝ่ายไว้ น้ำเสียงกะวนกะวายอย่างเห็นได้ชัด

         “ลุงโม่ !”

         “อ้าวพวกเจ้า ป่าด้านนู้นเป็นอย่างไรบ้าง” โม่โฉวสำรวจชายคราลูกทั้งสองที่วิ่งหน้าตั้งมาหาจนเหงื่อไหล พอเห็นว่ายังปลอดภัยดีก็ถอนหายใจคลายความกังวล

         “มีสัตว์เยอะแยะไปหมดเลยขอรับ ตอนนี้ให้ทุกคนรีบออก แฮ่กๆ ไปจากป่าด้านนี้ดีกว่า” ซูเหวินพูดปนหอบ เป็นเพราะเขาไม่ค่อยได้ออกกำลังมากเท่าไร พอวิ่งแค่นี้จึงเหนื่อยง่าย

         “พวกข้าคิดว่ามีสัตว์ที่อันตรายอยู่ที่ป่าด้านนี้ขอรับ” ผิดกับอีกคน เจียหมิงพอเห็นเพื่อนเหนื่อยจนหายใจไม่ทัน จึงรีบอธิบายเพิ่ม

         “ข้าว่าแล้ว มันยังวนเวียนอยู่แถวนี้ เจ้าตัวนั้นมันเล่นล่าสัตว์ในป่าแถบนี้ไปหมด แล้วทิ้งร่างไว้ จนพวกข้าต้องรีบนำมาฝังกลัวกลิ่นเลือดจะพาสัตว์ตัวอื่นมา”  โม่โฉวเล่าสิ่งที่ตัวเองพบเจอ และจากสิ่งที่ทั้งสองเอ่ย ตามสัญชาตญาณสัตว์ หากที่ป่าด้านนู้นมีสัตว์ไปรวมกัน แสดงว่าต้องปลอดภัย โชคดีแล้วที่ทั้งสองไปสำรวจมาก่อน

         “โม่โฉวทุกคนเก็บของเสร็จแล้ว”  หนึ่งในชาวบ้านตะโกนบอก หลังจากทุกคนเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทาง

         “ดีล่ะ ไปล่าที่ป่าอีกด้านกันเถอะ” โม่โฉวพูด ทุกคนจึงมุ่งหน้าไปยังป่าที่มีสัตว์หลายชนิดรวมกันอยู่ ด้วยความหวังว่าจะสามารถล่าสัตว์มาให้ครอบครัวไว้กักตุนในฤดูหนาวนี้ได้ ยกเว้นหนึ่งคนที่ในหัวมีแต่ความอิจฉาจนกลายเป็นความเกลียดชัง พยายามเค้นหาวิธีแก้แค้นอีกฝ่าย

        ณ แคว้นลั่วหยาง

        ค่ายพักทหาร เขตชายแดน

         “อะไรนะ สัตว์ที่ท่านอาจารย์ทดลองหลุดรอดไปงั้นเรอะ!!” แม่ทัพฮั่วหมิงตะโกนอย่างโมโห เมื่อหนึ่งในลูกน้องรายงานสิ่งที่เกิดขึ้น หน้าเต็มไปด้วยหนวดเคลา อีกทั้งยังมีรอยบากตรงตาข้างซ้ายตึงเครียดขึ้นมาทันที จนหญิงงามทั้งสองในอ้อมแขนสั่นกลัว แต่ก็กลั้นใจปรนนิบัติตามหน้าที่ตนเองต่อ

         “ขะ ขอรับ” พลทหารที่เอ่ยรายงานอย่างกล้าๆกลัวๆ ด้วยรู้นิสัยอันโหดเหี้ยมของแม่ทัพดี

        ผลัก !

         “ทำยังไงก็ได้ จับมันกลับมาให้เร็วที่สุด !” ใช้เท้าถีบลูกน้องอย่างหัวเสียก่อนจะเอ่ยคำสั่งเด็ดขาด นายทหารรับคำก่อนจะวิ่งล้มลุกคลุกคลานออกไป

         “แล้วแบบนี้แผนของเราจะเอาอย่างไรต่อดี” อู๋หยาง ชายวัย 30 ปี กุนซือของกองทัพลั่วพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียดไม่ต่างกัน เพราะกลัวว่าแผนที่วางไว้อาจต้องชะงักลง

         “พวกเจ้าออกไปก่อน” ฮั่วหมิงหันไปบอกสาวงามสองคน  เขาไม่โง่พอที่จะให้คนนอกได้ยินสิ่งที่คุยกัน แม้จะเป็นสาวงามก็ตาม

         “แผนการของเราต้องไปต่อ หากจับเจ้าสัตว์ทดลองนั่นมาไม่ได้จริงๆ ให้ท่านอาจารย์สร้างใหม่ก็สิ้นเรื่อง”  เมื่อทั้งสองออกไปแล้ว ฮั่วหมิงจึงเริ่มพูดสิ่งที่คิด อย่างไรแผนที่วางไว้มาหลายปีก็ต้องดำเนินต่อตามคำสั่งของฝ่าบาท ไม่อย่างงั้นหัวเขาเองนี่แหละจะหลุดจากบ่า

         “แล้วสัตว์ที่หลุดรอดไป หากมีคนรู้...”

         “ก็แค่ฆ่า หรือไม่เจ้าตัวนั้นมันก็ฆ่าให้เราเอง !” ฮั่วหมิงพูดสวนทันควัน จะให้มีคนรู้เรื่องนี้ไม่ได้ แต่ถึงรู้ก็ใช่ว่าจะมีชีวิตรอด เขาซึ่งเป็นแม่ทัพยังไม่แน่ใจเลยว่าจะสู้กับมันได้ นอกจากรูปลักษณ์ของมันจะน่ากลัวแล้ว มันยังฆ่าไม่เลือก

        กุนซือถึงกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เพราะรู้ถึงความน่ากลัวของสัตว์ทดลอง ภาพมันกระซวกร่างมนุษย์แล้วกัดกินเล่น ยังติดตาไม่หาย จำได้ไม่เคยลืม....

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 5 ตลอดไป [จบบริบูรณ์]

    “อุแว้ อุแว้”“ที่รักเหนื่อยไหม ขอบคุณที่คลอดบุตรให้พี่อีกคนนะ” หยางหลงเช็ดเหงื่อตรงหน้าผากให้คนรักที่หน้าซีดเซียว“ไม่เลยเจ้าค่ะ แค่เห็นหน้าลูกๆกับพี่ ข้าก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง” เหลียนฮวาที่มีประสบการณ์จากการคลออบุตรครั้งแรกถึงสองคน ครั้งนี้จึงคลอดง่ายมาก หมอหลวงที่เดินทางจากแคว้นเว่ยโดยเฉพาะอุ้มเด็กน้อยตัวอวบอ้วนเข้ามา“ขอแสดงความยินดีกับชินอ๋องและพระชายา เป็นเด็กทารกเพศชาย ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์เพคะ” หมอหญิงส่งเด็กทารกให้แก่ชินอ๋อง หยางหลงรับมาด้วยความทะนุถนอม“อีกแล้ว ข้าอุ้มท้องเขามา 9 เดือนนะเจ้าคะ” เหลียนฮวาพูดอย่างน้อยใจ เมื่อบุตรลายคนที่สามไม่มีส่วนไหนเหมือนนางเช่นเดียวกัน นี่น้ำเชื้อเขาแรงมากเลยหรือ ลูกออกมาสามคน หน้าตาเหมือนเขาทุกคน“ฮ่าๆ คนที่สี่ต้องเหมือนเจ้าอย่างแน่นอน” หยางหลงพูดด้วยรอยยิ้ม เหลียนฮวาได้แต่อ้าปาก

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 4 ลูกครึ่งซอมบี้

    แคว้นฉินพระราชวัง“ฮื่อ ฮื่อ” เสียงเด็กน้อยร่ำไห้อยู่ข้างเตียงของหญิงนางหนึ่ง“แค่ก ๆ ขะ ข้าไม่น่า คะ คลอดเด็กอย่างเจ้าออกมาเลย” องค์หญิงใหญ่กล่าวด้วยใบหน้าโกรธแค้น ตัวนางซูบผอมเหลือแต่กระดูก อันเนื่องจากคลอดเด็กลูกครึ่งผีดิบที่กัดกินชีวิตนางตั้งแต่อยู่ในครรภ์ นางหวังให้ลูกของนางเติบโตมาแข็งแกร่งเหมือนพ่อ ทว่าเด็กออกมากลับเป็นผู้หญิง นอกจากอ่อนแอแถมยังไร้ประโยชน์ทำไมกันนะ ชีวิตของนางถึงไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง ตั้งแต่มีพระสวามี เขาก็ทิ้งนางให้อยู่ท่ามกลางผีดิบ ดีที่ยังมีคนรับใช้หลงเหลือไว้ให้อยู่ แต่รอบตัวก็เต็มไปด้วยผีดิบ ไม่มีใครสามารถออกจากแคว้นได้เลย มีครั้งหนึ่งที่แม่ทัพของเคยคิดออกจากแคว้น ทว่ายังไปได้ไม่ไกล ต่างโดนเหล่าผีดิบเข้ามากัดกินทั้งเป็น หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าออกไปนอกแคว้นอีกเลย“ท่างแม่…”“ยะ อย่า แ

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 3 ลูกชายฝาแฝดตัวแสบ 

    4 ปีต่อมา“เสี่ยวชุน เสี่ยวเฉินลงมาจากต้นไม้เดี๋ยวนี้!!” เหลียนฮวาตะโกนบอกบุตรชายตัวแสบวัยสามขวบทั้งสอง อุ้มท้องมา 9 เดือน แต่ไม่มีส่วนใดได้นางมาเลย เด็กๆถอดแบบพี่หยางมาทั้งหมด ชอบปีนต้นไม้เหมือนใครก็ไม่รู้? แถมยังหลบหนีพี่เลี้ยงเก่งเป็นที่หนึ่ง“ปี้ชายลงไปก่อนซี่” เสี่ยวชุนหรือเว่ยชุนหวงเอ่ยบอกพี่ชายที่คลอดก่อนตนเพียง 5 วินาที ร่างกลมป้อมอวบอัด ทว่ากลับว่องไวกว่าคนเป็นพี่บุ้ยปากให้พี่ชายลงจากต้นไม้ก่อน“เจ้าเปงน้องก็ต้องลงก่อง” เสี่ยวเฉินหรือเว่ยเฉินอี้กล่าวบอกผู้เป็นน้อง ทั้งสองเกี่ยงกันลงก่อนเนื่องจากยังดูพวกท่านตาฝึกซ้อมยังไม่เสร็จ“ลง มา พร้อม กัน” เหลียนฮวาจำต้องเน้นเสียงทีล่ะคำบอกบุตรชาย ไม่งั้นก็ยังเกี่ยงกันไม่เลิก บุตรชายของนางทั้งสองชื่นชอบการต่อสู้เป็นพิเศษ หากเห็นทหารหรือบรรดาตาๆตัวเองฝึกก็จะรีบขอตามไปดูอย่างไวพวกเด็กๆจะเรียกพ่อของนางว่าต

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 2 วันนี้ที่รอคอย

    “เหนื่อยหรือไม่” หยางหลงเอ่ยถามเจ้าสาวของตนหลังคืนแต่งงานผ่านพ้นไป คนรักที่กลายมาเป็นภรรยาและคู่ชีวิตของเขานับแต่นี้เหลียนฮวานั่งตัวเกร็งอย่างทำอะไรไม่ถูก นางกำลังเผชิญกับคืนเข้าหอเป็นครั้งแรก“…”“เหตุใดไม่คุยกับพี่้เล่า” หยางหลงค่อยๆเปิดผ้าคลุมเจ้าสาวเชยคางมนมาสบตา ทั้งสองสบตากันอย่างลึกซึ้ง“ตะ ต้องดื่มเหล้าก่อนมงคลเจ้าค่ะ” เหลียนฮวาที่ไม่รู้จะหาข้ออ้างอันใดมาเอ่ยจึงมองไปที่กาใส่เหล้ามงคลเอาไว้“จริงสิ เป็นขนบธรรมเนียมของที่นี่” หยางหลงยิ้มกริ่มก่อนจะค่อยๆเทเหล้ามงคลจากกาน้ำสองจอดและยกขึ้นมาถือไว้“ดื่มเถิด” เขายื่นให้คนรักหนึ่งแก้วและถือไว้เองหนึ่งแก้ว ทั้งสองคล้องแขนกันก่อนจะยกขึ้นดื่มพร้อมกัน ทั้งกลิ่นทั้งรสชาติของเหล้ามีความแรงจนเหลียนฮวาต้องนิ่วหน้า นางรีบกลืนภายในอึกเดียว ไม่นานหน้

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 1 สวรรค์ชั้นฟ้าหรือจะสู้ชะตากงล้อลิขิต  

    “ถวายบังคมเสด็จพ่อ” ฮ่องเต้สวรรค์มองบุตรสาวด้วยสายตาไม่พอใจนัก“เจ้ารู้ความผิดที่ก่อหรือไม่เทพธิดาเหมยลี่” น้ำเสียงดังก้องกังวาลไปทั่วชั้นฟ้า“ไม่เพคะ” เทพธิดาเหมยลี่เชิดหน้าไม่ยอมแพ้“เจ้า!!!”“ลูกไม่คิดว่าการที่พวกเรารักกันจะผิดตรงไหน”“แม้จะไม่มีบัญญัติว่าห้ามรักต่างฐานันดร แต่เจ้าก็ทำผิดกฎสวรรค์ เจ้ากำลังตั้งครรภ์!!!” ฮ่องเต้สวรรค์แทบลมจับ สั่งให้ทูตสวรรค์หรือที่เรียกทหารในโลกมนุษย์พาธิดากลับมาและนำไอ้ชายที่มันล่อลวงบุตรสาวของเขามารับโทษ“ตั้งครรภ์ จริงสิ เสด็จพ่อทรงมีหลานแล้วเพคะ นางจะเป็นเทพธิดาตนใดมาเกิดกันนะ” เหมยลี่พูดไปยิ้มไป สายใยแม่ลูกทำให้รู้ว่าในครรภ์ของนางเป็นเพศหญิง พลางลูบหน้าท้องแบนราบของตน“ช่างเรื่องนั้นก่อน เจ้าต้องได้รับโทษ” ฮ่องเต้สวร

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 109 จะรักตราบชั่วนิรันดร [The end]

    “พี่หยาง ผักที่เราปลูกงอกแล้วเจ้าค่ะ” เหลียนฮวากล่าวอย่างตื่นเต้น เป็นล็อตสองที่ทดลองปลูก แถมผักที่ปลูกยังเป็นชนิดใหม่“หืม งอกเร็วมาก ยังไม่ถึงเดือน” หยางหลงรีบเข้ามาดูต้นผักตามคนรักชี้บอก วันนี้พ่อตาและคนอื่นไม่อยู่ต้องไปทำภารกิจ“เพราะดินที่เราหมั่นบำรุงมั้งเจ้าคะ”ฟอดดด“เพราะเราช่วยกันปลูกต่างหาก” ขายหนุ่มแอบหอมแก้มแฟนสาวเร็วๆ แล้วส่งยิ้มกระชากใจหลังจากกลับจากแคว้นเว่ยมีประกาศอย่างเป็นทางการเรื่องว่าที่พระชายาองค์ชายห้า เล่นเป็นข่าวดัง พูดถึงกันอยู่พักใหญ่เพราะว่าที่พระชายาเป็นคนต่างแคว้นแถมยังเป็นสามัญชน ทว่าทั้งคู่กลับไม่มีใครสนใจ พากันเดินทางไปแคว้นจ้าวสลับกับแคว้นเว่ย ไปๆมาๆระหว่างสองแคว้น แถมยังหวานกันยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากไม่ต้องปกปิดตัวตนอีกต่อไป“ครั้งหน้าหากผักในโรงปลูกผักโตกว่า

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status