แชร์

ตอนที่ 13 ตัดสินใจ

ผู้เขียน: ดุจเพชร
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-24 09:22:28

          “มะ ไม่จริงใช่ไหม” ซูเหวินคาดเดาสิ่งที่เกิดขึ้นพลันน้ำตาไหล มันหลอกพวกเขาว่าวิ่งตามหลัง แท้จริงแล้วกลับวิ่งไปดักด้านหน้า ตอนนี้ชาวบ้านคนอื่นๆคง...

          “เราไม่ได้ยินเสียงร้อง อาจจะเป็นเลือดของสัตว์ตัวอื่นก็ได้” โม่โฉวกำหมัดแน่น รู้สึกสะเทือนใจเมื่อตอนที่เห็นเลือดก็คิดไม่ต่างจากคนอื่น เนื่องจากทิศทางที่มันยืนอยู่เป็นทางที่ชาวบ้านวิ่งไป แต่ยังฝืนเปล่งเสียงพูดเพื่อปลอบใจทุกคนรวมถึงตนเอง

          โฮกกก

          เจ้าสัตว์ประหลาดคำรามลั่น มันมีความคิดเป็นของตัวเอง สิ่งที่มันชอบคือเหยื่อที่เป็นมนุษย์ เพราะมนุษย์ทำให้มันต้องมีสภาพแบบนี้...

          เดิมทีมันเป็นสิงโต ได้ตายลงไปแล้วจากการล่าของพวกทหารชั่ว ทว่าคนที่พวกมนุษย์เรียกว่าหมอผีกลับชุบชีวิตมันกลับมา และทดลองกับร่างกายนี้สารพัด ถลกหนัง ผ่าร่าง เอาเขาของสัตว์ชนิดอื่นมาเย็บติดกับหัว ศักดิ์ศรีเจ้าป่าที่มันทะนงตัวมาตลอดไม่มีเหลือ มันแค้นมนุษ์ที่ทำกับมันแบบนี้ จนอยากกระชากร่างและฆ่าให้ตายอย่างทรมาน แต่ความเป็นจริงมันกลับทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลย

          วันแล้ววันเล่าได้แต่นอนนิ่งๆจากการถูกมัดไว้อย่างแน่นหนา เพื่อรอความตาย  แม้จะสูญเสียความรู้สึกทางร่างกาย แต่แลกมาด้วยกับมันมีความนึกคิด  นับวันความกระหายเลือดสดๆยิ่งเพิ่มขึ้น  จนเกือบจะควบคุมร่างกายไม่อยู่ บางครั้งพวกทหารเผลอ มันหลุดออกจากพันธนาการมาได้ แต่ก็โดนตามจับกลับไปอยู่ดี จนกระทั่งวันหนึ่งโชคเข้าข้าง  เจ้าหมอผีวิปริตออกไปทำภารกิจด้านนอกหลายวัน มันใช้โอกาสนี้หลบหนีออกมายังป่าบนภูเขา ทว่ากลิ่นเลือดทำให้มันกระหายการฆ่า เผลอลงมือฆ่าสัตว์ในป่าจนหนีหายไปหมด ทว่าสิ่งที่มันอยากฆ่ามากที่สุดคือมนุษย์ ผู้ที่ทำให้มันมาอยู่ในสภาพสมเพชแบบนี้

          และในที่สุดมันก็พบมนุษย์กลุ่มหนึ่ง คราแรกมันตั้งใจฆ่าทุกคน แต่พอสบตากับมนุษย์ผู้หนึ่ง ที่เป็นสมาชิกหนึ่งในนั้น ทำให้มันชะงักงัน หวนคิดถึงมันในอดีตเมื่อเห็นดวงตาอีกฝ่าย สายตาที่ไม่เกรงกลัวคู่ต่อสู้ที่เก่งกว่า  สายตามุ่งมั่นที่อยากจะมีชีวิตรอด

          มันตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกมนุษย์ผู้นี้เป็นคู่ต่อสู้และผู้ที่จะปลิดชีพมัน  มันหยุดคิดแผน รอเหยื่อให้ชะล่าใจ พอได้เวลาลงมือ มันจึงวิ่งตามกลุ่มชาวบ้านที่วิ่งนำหน้ามันไป และอ้อมไปดักหน้าไว้ ฝืนหักห้ามตนเอง ทำแค่กัดแบบยั้งแรงเพื่อถ่วงเวลา  เพราะต้องการให้แค่บาดเจ็บจนไม่สามารถมายุ่งกับการต่อสู้ของมันได้  แล้วก็วิ่งกลับมายังกลุ่มชายคนที่มันเลือกอยู่

          แฮร่!

          “ชะ ช่วยด้วย” จางหมิ่นก้าวขาไม่ออก ได้แต่ร้องให้คนที่เหลือช่วยตน ซึ่งทุกคนก็เกิดอาการขาแข็งยืนนิ่งไม่ต่างกัน

          “อะ เอาอย่างไรต่อดะ ดี จะ เจียหมิง” ซูเหวินพูดตะกุกตะกักถามสหายคนสนิทที่นับว่าเป็นมันสมองของกลุ่มอยู่ตอนนี้

          “มันจ้องมาที่ข้า หากข้าขยับตัวมันจะส่งเสียงขู่ทันที” แสงไฟจากคบเพลิงทำให้เห็นสัตว์ประหลาดตรงหน้าอย่างชัดเชน แล้วมันก็กำลังจ้องมองเขาไม่ละสายตาเลยเช่นกัน

          “จะ จริงด้วย” ซูเหวินมองตามสายตามันพบว่าที่สหายพูดเป็นความจริง ทว่าทำไมเขารู้สึกว่าสายตาของมันมองสหายของเขาอย่างท้าทายมากกว่าจ้องจะฆ่า

          “เจ้าใช้โอกาสนี้พาลุงโม่และจางหมิ่นออกไปจากที่นี่ ไปเรียกทางการมาซะ” เจียหมิงพูดในขณะไม่ละสายตาไม่จากมัน ทำเหมือนกับว่าหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหันมองอย่างอื่นเพียงเสี้ยววิ จะเป็นการเปิดศึกขึ้นทันที

          “ตะ แต่ว่าเจ้า…”  ซูเหวินยังคงเป็นห่วงเพื่อน

          “ข้าจะไม่ตายจนกว่าจะพบลูกสาวข้าหรอก ไปซะ”  เจียหมิงยืนหยันอย่างหนักแน่น ในเมื่อมันสนใจเพียงแค่เขา เขาก็จะไม่ปล่อยโอกาสหลุดไป อย่างน้อยต้องมีคนรอดเพื่อไปบอกเรื่องราวกับทางการและชาวบ้านที่เหลือ

          “เอาตามที่เจียหมิงว่าเถอะ” โม่โฉวแม้จะไม่เห็นสีหน้าเจียหมิง แต่น้ำเสียงเด็ดขาดของอีกฝ่ายบ่งบอกว่าได้ตัดสินใจแล้ว

          “พะ พาข้าไปที”  จางหมิ่นร่ำร้องเสียงสั่น เขากลัวจนไม่มีแรงจะเดิน ชายวัยกลางคนเข้าไปดึงแขนซูเหวินให้มาช่วยลากตัวจางหมิ่นด้วยกัน อดที่จะเหลือบมองเจ้าสัตว์ประหลาดไม่ได้ สายตามันจ้องแค่เจียหมิงไม่ละไปไหน พวกเขาช่วยกันลากตัวของจางหมิ่นออกมาพร้อมทั้งมองเจียหมิงอย่างเป็นห่วงไปจนสุดสายตา

          ‘ข้าจะไม่ลืมบุญคุณครั้งนี้แน่นอน เจียหมิง’ โม่โฉวและซูเหวินได้ตั้งปนิธานกับตนเองในใจ

          “เอาล่ะ ทีนี้คงเป็นเรื่องของเจ้ากับข้าแล้ว”

          แฮร่ กรร มันส่งเสียงคล้ายอยากจะพูดคุยด้วย แต่สิ่งที่เจียหมิงเห็นนั้นกลับเป็นภาพสัตว์ประหลาดกำลังแยกเขี้ยว น้ำลายหยดลงพื้น

          กรอบบ

          ฟุบ

          เจียหมิงลองก้าวไปทางซ้าย สัตว์ประหลาดตัวนี้ก็ก้าวตาม เขาได้แต่งุนงงเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรดี

          “โฮกกก” มันส่งเสียงคำรามลั่น ประกาศว่ามันพร้อมสู้แล้ว นั่นทำให้เจียหมิงเริ่มสอดส่องสายตามองดูรอบๆหาอาวุธป้องกัน ทว่ากลับไม่มีสิ่งใดพอที่จะนำมาเป็นอาวุธได้เลย พลันสายตาเหลือบไปเห็นท่อนไม้ที่พอจะใช้ได้ แต่ก็ไกลออกไป เขาจึงตัดสินใจเอาย่ามไปไว้ด้านหลัง เพื่อง่ายต่อการวิ่ง แต่พอจับมันกลับพบบางอย่างแปลกๆอยู่ข้างใน เขาลองหยิบออกมาแล้วมองอย่างงุนงง นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาเคยพบเห็นมาก่อน รูปร่างของมันคล้ายท่อนไม้กึ่งกระบอง แต่มีน้ำหนักเบากว่ามาก มีด้ามจับคล้ายดาบ

          เจียหมิงหยิบออกมาเพราะอย่างน้อยก็มีอาวุธติดมือ แม้จะไม่รู้วิธีใช้มันก็ตาม

          กรรภ์

         ฟึบ

          ร่างของมันพุ่งเข้ามารวดเร็วหมายกระชากร่าง เจียหมิงรีบเบี่ยงตัวหลบ ทว่าก็ไม่พ้นทำให้หัวไหล่โดนกรงเล็บของมันเข้าจังๆ เขาไม่ยอมเจ็บตัวฟรีจึงฟาดอาวุธประหลาดในมือกลับไป  

         ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องรอดกลับไปหาบุตรสาวให้ได้

ความอยากมีชีวิตรอดทำให้เขาเผลอกำอาวุธในมือแน่น จนไปโดนปุ่มบางอย่างก่อนที่เขาจะฟาดมันโดนตัวเจ้าสัตว์ประหลาด

          เปี๊ยะๆ 

         แฮร่

         “อึก”  เจียหมิงกุมบาดแผลที่คาดว่าคงเหวอะหวะไม่น้อย เลือดไหลซึมอาภรณ์เนื้อหยาบจนเปียกชุ่ม มองของในมือด้วยสีหน้าตกใจ เสียงแปลกๆจากเจ้าอาวุธนี่ดูน่ากลัวไม่น้อย อีกทั้งตอนที่ฟาดลงโดนผิวของมันเมื่อกี้ หากตาไม่ฟาดเขาเห็นมันสะดุ้งและนิ่งไปชั่วครู่

         เจ้าสัตว์ประหลาดก็ไม่ให้เขาตกใจได้นาน มันพุ่งตัวเข้าโจมตีอีกรอบ เจียหมิงจึงลองทำแบบเดิม พบว่าครั้งนี้พอเขาเอา เจ้ากระบอง (แอบตั้งชื่อเอง) ฟาดลงบนผิวมันนานขึ้น ตัวมันชะงักไปนานกว่าเดิม

        กรรภ์

         เจ้าสิงโตหัวเสีย มันกระโจนใส่เป้าหมายอย่างบ้าคลั่ง ยิ่งได้กลิ่นเลือดมันเริ่มคุมสติไว้ไม่อยู่  เจียหมิงได้แต่หลบเป็นพัลวัน ทั้งพ้นบ้างไม่พ้นบ้าง ได้บาดแผลมาเพิ่ม เพราะยามค่ำคืนแสงเริ่มหดหาย

         เจ้าอาวุธนี่ทำได้เพียงยื้อเวลาเท่านั้น เขาเริ่มหมดแรง

         “แฮ่กๆ” 

         แฮร่

         เจ้าสัตว์คล้ายสิงโตที่สติใกล้หมดลงเช่นกัน มันไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้ หากพวกมนุษย์ชั่วที่ทำการทดลองมันมาพบเข้า มันต้องกลับไปยังขุมนรกนั่นอีก มันมองอีกฝ่ายที่สภาพร่อแร่ ทว่าดวงตาเด็ดเดี่ยว ทั้งสองสบตากันนิ่งคล้ายเข้าใจตรงกันว่าฉากต่อไปจะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย เจียหมิงตัดสินใจว่าจะโจมตีกลับ สภาพของเขาใกล้จะหมดแรงเต็มที ได้แต่เดิมพันกับอาวุธที่ทำให้เขารอดชีวิตได้มาถึงตอนนี้ครั้งสุดท้าย ก่อนจะลงมือกดปุ่มที่เขาเผลอไปโดนอีกครั้ง เจ้าสิงโตคำรามลั่นพร้อมหลับตายามเห็นสิ่งแปลกประหลาดในมือมนุษย์คนนี้แปรเปลี่ยนเป็นคมดาบ

         ดาบงั้นหรือ ในที่สุดสิ่งที่มันรอคอยก็มาถึง

         โฮกกกกก

         ฉั๊วะ

         ตุ้บบบ

         “จะ จบสักที อึก”  เจียหมิงทรุดตัวลงพื้นอย่างหมดแรง เขามองคอของเจ้าสัตว์ประหลาดที่โดนกระบอง เอ่อ ตอนนี้น่าจะเปลี่ยนเป็นดาบฟันเข้าที่คอ ซึ่งมันหลุดออกอย่างง่ายดายแทบไม่ต้องใช้แรง  หากเป็นดาบทั่วไปคงน่าจะไม่ง่ายเพียงนี้ ช่างเป็นอาวุธประหลาดโดยแท้ แล้วมันเข้ามาอยู่ในย่ามได้อย่างไรกัน ไม่ว่าอย่างไร มันคือสิ่งที่ช่วยชีวิตเขา

         ช่วงสุดท้ายเห็นมันหลับตา ภาพนั้นไม่ใช่คล้ายสิ่งที่ยอมจำนน เหมือนกับเป็นช่วงเวลาที่มันรอคอยมากกว่า เขาแหงนหน้ามองท้องฟ้าที่มืดมิด ยังดีที่มีแสงไฟจากคบเพลิงที่อยู่ห่างออกไป ต้องรีบกลับไปยังหมู่บ้าน ป่านนี้บุตรสาวคงร้องไห้งอแงแล้ว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 5 ตลอดไป [จบบริบูรณ์]

    “อุแว้ อุแว้”“ที่รักเหนื่อยไหม ขอบคุณที่คลอดบุตรให้พี่อีกคนนะ” หยางหลงเช็ดเหงื่อตรงหน้าผากให้คนรักที่หน้าซีดเซียว“ไม่เลยเจ้าค่ะ แค่เห็นหน้าลูกๆกับพี่ ข้าก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง” เหลียนฮวาที่มีประสบการณ์จากการคลออบุตรครั้งแรกถึงสองคน ครั้งนี้จึงคลอดง่ายมาก หมอหลวงที่เดินทางจากแคว้นเว่ยโดยเฉพาะอุ้มเด็กน้อยตัวอวบอ้วนเข้ามา“ขอแสดงความยินดีกับชินอ๋องและพระชายา เป็นเด็กทารกเพศชาย ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์เพคะ” หมอหญิงส่งเด็กทารกให้แก่ชินอ๋อง หยางหลงรับมาด้วยความทะนุถนอม“อีกแล้ว ข้าอุ้มท้องเขามา 9 เดือนนะเจ้าคะ” เหลียนฮวาพูดอย่างน้อยใจ เมื่อบุตรลายคนที่สามไม่มีส่วนไหนเหมือนนางเช่นเดียวกัน นี่น้ำเชื้อเขาแรงมากเลยหรือ ลูกออกมาสามคน หน้าตาเหมือนเขาทุกคน“ฮ่าๆ คนที่สี่ต้องเหมือนเจ้าอย่างแน่นอน” หยางหลงพูดด้วยรอยยิ้ม เหลียนฮวาได้แต่อ้าปาก

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 4 ลูกครึ่งซอมบี้

    แคว้นฉินพระราชวัง“ฮื่อ ฮื่อ” เสียงเด็กน้อยร่ำไห้อยู่ข้างเตียงของหญิงนางหนึ่ง“แค่ก ๆ ขะ ข้าไม่น่า คะ คลอดเด็กอย่างเจ้าออกมาเลย” องค์หญิงใหญ่กล่าวด้วยใบหน้าโกรธแค้น ตัวนางซูบผอมเหลือแต่กระดูก อันเนื่องจากคลอดเด็กลูกครึ่งผีดิบที่กัดกินชีวิตนางตั้งแต่อยู่ในครรภ์ นางหวังให้ลูกของนางเติบโตมาแข็งแกร่งเหมือนพ่อ ทว่าเด็กออกมากลับเป็นผู้หญิง นอกจากอ่อนแอแถมยังไร้ประโยชน์ทำไมกันนะ ชีวิตของนางถึงไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง ตั้งแต่มีพระสวามี เขาก็ทิ้งนางให้อยู่ท่ามกลางผีดิบ ดีที่ยังมีคนรับใช้หลงเหลือไว้ให้อยู่ แต่รอบตัวก็เต็มไปด้วยผีดิบ ไม่มีใครสามารถออกจากแคว้นได้เลย มีครั้งหนึ่งที่แม่ทัพของเคยคิดออกจากแคว้น ทว่ายังไปได้ไม่ไกล ต่างโดนเหล่าผีดิบเข้ามากัดกินทั้งเป็น หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าออกไปนอกแคว้นอีกเลย“ท่างแม่…”“ยะ อย่า แ

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 3 ลูกชายฝาแฝดตัวแสบ 

    4 ปีต่อมา“เสี่ยวชุน เสี่ยวเฉินลงมาจากต้นไม้เดี๋ยวนี้!!” เหลียนฮวาตะโกนบอกบุตรชายตัวแสบวัยสามขวบทั้งสอง อุ้มท้องมา 9 เดือน แต่ไม่มีส่วนใดได้นางมาเลย เด็กๆถอดแบบพี่หยางมาทั้งหมด ชอบปีนต้นไม้เหมือนใครก็ไม่รู้? แถมยังหลบหนีพี่เลี้ยงเก่งเป็นที่หนึ่ง“ปี้ชายลงไปก่อนซี่” เสี่ยวชุนหรือเว่ยชุนหวงเอ่ยบอกพี่ชายที่คลอดก่อนตนเพียง 5 วินาที ร่างกลมป้อมอวบอัด ทว่ากลับว่องไวกว่าคนเป็นพี่บุ้ยปากให้พี่ชายลงจากต้นไม้ก่อน“เจ้าเปงน้องก็ต้องลงก่อง” เสี่ยวเฉินหรือเว่ยเฉินอี้กล่าวบอกผู้เป็นน้อง ทั้งสองเกี่ยงกันลงก่อนเนื่องจากยังดูพวกท่านตาฝึกซ้อมยังไม่เสร็จ“ลง มา พร้อม กัน” เหลียนฮวาจำต้องเน้นเสียงทีล่ะคำบอกบุตรชาย ไม่งั้นก็ยังเกี่ยงกันไม่เลิก บุตรชายของนางทั้งสองชื่นชอบการต่อสู้เป็นพิเศษ หากเห็นทหารหรือบรรดาตาๆตัวเองฝึกก็จะรีบขอตามไปดูอย่างไวพวกเด็กๆจะเรียกพ่อของนางว่าต

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 2 วันนี้ที่รอคอย

    “เหนื่อยหรือไม่” หยางหลงเอ่ยถามเจ้าสาวของตนหลังคืนแต่งงานผ่านพ้นไป คนรักที่กลายมาเป็นภรรยาและคู่ชีวิตของเขานับแต่นี้เหลียนฮวานั่งตัวเกร็งอย่างทำอะไรไม่ถูก นางกำลังเผชิญกับคืนเข้าหอเป็นครั้งแรก“…”“เหตุใดไม่คุยกับพี่้เล่า” หยางหลงค่อยๆเปิดผ้าคลุมเจ้าสาวเชยคางมนมาสบตา ทั้งสองสบตากันอย่างลึกซึ้ง“ตะ ต้องดื่มเหล้าก่อนมงคลเจ้าค่ะ” เหลียนฮวาที่ไม่รู้จะหาข้ออ้างอันใดมาเอ่ยจึงมองไปที่กาใส่เหล้ามงคลเอาไว้“จริงสิ เป็นขนบธรรมเนียมของที่นี่” หยางหลงยิ้มกริ่มก่อนจะค่อยๆเทเหล้ามงคลจากกาน้ำสองจอดและยกขึ้นมาถือไว้“ดื่มเถิด” เขายื่นให้คนรักหนึ่งแก้วและถือไว้เองหนึ่งแก้ว ทั้งสองคล้องแขนกันก่อนจะยกขึ้นดื่มพร้อมกัน ทั้งกลิ่นทั้งรสชาติของเหล้ามีความแรงจนเหลียนฮวาต้องนิ่วหน้า นางรีบกลืนภายในอึกเดียว ไม่นานหน้

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 1 สวรรค์ชั้นฟ้าหรือจะสู้ชะตากงล้อลิขิต  

    “ถวายบังคมเสด็จพ่อ” ฮ่องเต้สวรรค์มองบุตรสาวด้วยสายตาไม่พอใจนัก“เจ้ารู้ความผิดที่ก่อหรือไม่เทพธิดาเหมยลี่” น้ำเสียงดังก้องกังวาลไปทั่วชั้นฟ้า“ไม่เพคะ” เทพธิดาเหมยลี่เชิดหน้าไม่ยอมแพ้“เจ้า!!!”“ลูกไม่คิดว่าการที่พวกเรารักกันจะผิดตรงไหน”“แม้จะไม่มีบัญญัติว่าห้ามรักต่างฐานันดร แต่เจ้าก็ทำผิดกฎสวรรค์ เจ้ากำลังตั้งครรภ์!!!” ฮ่องเต้สวรรค์แทบลมจับ สั่งให้ทูตสวรรค์หรือที่เรียกทหารในโลกมนุษย์พาธิดากลับมาและนำไอ้ชายที่มันล่อลวงบุตรสาวของเขามารับโทษ“ตั้งครรภ์ จริงสิ เสด็จพ่อทรงมีหลานแล้วเพคะ นางจะเป็นเทพธิดาตนใดมาเกิดกันนะ” เหมยลี่พูดไปยิ้มไป สายใยแม่ลูกทำให้รู้ว่าในครรภ์ของนางเป็นเพศหญิง พลางลูบหน้าท้องแบนราบของตน“ช่างเรื่องนั้นก่อน เจ้าต้องได้รับโทษ” ฮ่องเต้สวร

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 109 จะรักตราบชั่วนิรันดร [The end]

    “พี่หยาง ผักที่เราปลูกงอกแล้วเจ้าค่ะ” เหลียนฮวากล่าวอย่างตื่นเต้น เป็นล็อตสองที่ทดลองปลูก แถมผักที่ปลูกยังเป็นชนิดใหม่“หืม งอกเร็วมาก ยังไม่ถึงเดือน” หยางหลงรีบเข้ามาดูต้นผักตามคนรักชี้บอก วันนี้พ่อตาและคนอื่นไม่อยู่ต้องไปทำภารกิจ“เพราะดินที่เราหมั่นบำรุงมั้งเจ้าคะ”ฟอดดด“เพราะเราช่วยกันปลูกต่างหาก” ขายหนุ่มแอบหอมแก้มแฟนสาวเร็วๆ แล้วส่งยิ้มกระชากใจหลังจากกลับจากแคว้นเว่ยมีประกาศอย่างเป็นทางการเรื่องว่าที่พระชายาองค์ชายห้า เล่นเป็นข่าวดัง พูดถึงกันอยู่พักใหญ่เพราะว่าที่พระชายาเป็นคนต่างแคว้นแถมยังเป็นสามัญชน ทว่าทั้งคู่กลับไม่มีใครสนใจ พากันเดินทางไปแคว้นจ้าวสลับกับแคว้นเว่ย ไปๆมาๆระหว่างสองแคว้น แถมยังหวานกันยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากไม่ต้องปกปิดตัวตนอีกต่อไป“ครั้งหน้าหากผักในโรงปลูกผักโตกว่า

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status