Beranda / รักโบราณ / ดอกบัวในสงคราม / ตอนที่ 17 นางไม่ได้อ้วน!

Share

ตอนที่ 17 นางไม่ได้อ้วน!

last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-24 18:44:02

           หลังจากคุยกับพวกบอทเต้เสร็จ ก็ถึงเวลาตื่นนอนพอดี เธอลืมตาตื่นพบว่าท่านพ่อนอนหลับข้างๆ ด้วยความอ่อนเพลีย ไม่อยากรบกวนจึงเรียกขวดนมที่โรบอทชงให้ออกมาจากมิติ นอนดูดมองนั่นนี่ไปเรื่อย สักพักท่านพ่อก็ตื่น

           “หืม ตื่นแล้วหรือลูก”

           “แอ้ บา บู้”  เจียหมิงสะลึมสะลือหลังจากตื่นขึ้น เขาสะดุ้งตื่นหลังกินยาที่ท่านหมอให้แล้วเผลอหลับไป มองบุตรสาวที่นอนอารมณ์ดี ใช้มือป้อมสั้นทั้งสองข้างประคองขวดนม ส่วนขาอวบๆยกไขว่ห้างสบายใจ

           เจียหมิงขยี้ตา มองภาพนั้นนิ่งงัน บุตรสาวฉลาดเกินวัยนัก ทั้งกินนมเอง ไหนจะท่านอนที่ไม่เหมาะกับกุลสตรีนั่นอีก ว่าแต่เขาชงนมทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อไร สงสัยช่วงนี้กินยาที่มีฤทธิ์ทำให้ง่วงซึม สมองเบลอ หลงลืมไปชั่วขณะ

           “แอ้ ปะ ปา” เหลียนฮวาเห็นท่านพ่อตื่นขึ้นมา จะเอาขวดนมที่กินอยู่เก็บก็ไม่ทันเสียแล้ว ได้แต่ปล่อยเลยตามเลย หากท่านพ่อจับได้เธอจะเปิดเผยความจริง แม้จะพูดไม่ได้ก็เถอะ ทว่าดูเหมือนเธอจะดูถูกความหลงลูกสาวของท่านพ่อน้อยไป นอกจากจะไม่สงสัยแล้ว ยังเอ่ยชมเสียยกใหญ่ ตัวแค่นี้รู้จักหยิบนมกินเอง 

           “หากอิ่มแล้วพ่อจะพาไปเดินเล่น” บาดแผลดีขึ้นมากแม้จะยังตึงๆอยู่ แต่ไม่เป็นอุปสรรคใดๆ หากจะพาลูกสาวตัวอวบไปเดินเล่น อย่างไรสำหรับเขา บุตรสาวก็มาก่อนเสมอ 

           “แอ้ คิกๆ”  เหลียนฮวาพลันได้ยินคำว่าเดินเล่น ก็ดีดดิ้นชอบใจ หัวเราะคิกคัก เธอชอบเดินเล่นที่สุด

           “อ้าวเจียหมิง หายดีแล้วหรือ”  คนในหมู่บ้านเอ่ยทัก หลังเห็นเขาอุ้มบุตรสาวเดินชมบรรยากาศตามทาง พร้อมชี้นั่นนี่ให้บุตรสาวดู ซึ่งเด็กน้อยก็อารมณ์ดี แจกยิ้มไปทั่ว ตากลมโตเบิกกว้างร้องอู้อ้าอย่างตื่นเต้น

          “ดีขึ้นมากแล้วขอรับ” เจียหมิงหันไปตอบชาวบ้านที่ทักทายเขา ในช่วงเย็นแบบนี้มีหลายคนที่กำลังกลับจากทำงานในเมือง ทั้งนั่งเกวียน ทั้งเดินเท้า เดินขวักไขว้ คึกคักไม่น้อย แม้บ้านเล็กๆของเจียหมิงจะอยู่ห่างจากชาวบ้านคนอื่น แต่พอเดินออกมาไม่นานก็พบกับผู้คน นั่นทำให้ชายหนุ่มชอบบ้านที่อยู่ตอนนี้ไม่น้อย โดยเฉพาะไม่ต้องวุ่นวายกับใคร

          “เจียหมิง” เสียงเรียกด้วยความเป็นห่วงดังขึ้นด้านหลัง พอหันไปมองพบกับหลี่เหยาฉือ พี่ใหญ่ของเขานั่นเอง

          “พี่ใหญ่มาได้อย่างไร” เจียหมิงถามขึ้น พลางมองสำรวจร่างผ่ายผอมของคนเป็นพี่ นึกเศร้าใจว่าร่างกายของพี่ใหญ่ผอมลงจากครั้งก่อนมากโข ดูท่าที่ผ่านมาเขาจะต้องทำงานหนัก แถมยังใช้ชีวิตลำบากไม่น้อย ซึ่งสาเหตุไม่ต้องคิดก็พอจะเดาออก

          “พี่มาเยี่ยมเจ้าหน่ะ ขอโทษที่ปล่อยผ่านมาหลายวัน ข้าพึ่งว่างจากงาน” เหยาฉือตอบผู้เป็นน้อง ความจริงอยากมาหาน้องชายตั้งแต่วันที่ได้ข่าวว่าเจียหมิงได้รับบาดเจ็บ ทว่าเพราะต้องทำงาน อีกทั้งยังโดนนางจ้านต่อว่า ด่าทอเสียใหญ่โต ว่าหากเขาหยุดงานที่บ้านจะเอาอะไรกิน ทำให้ต้องก้มหน้าทำงานต่อไป ปลีกตัวมาหาน้องชายที่ได้รับบาดเจ็บไม่ได้ ใจกระวนกระวายอยู่หลายวัน สุดท้ายเถ้าแก่คนใหม่ที่พึ่งจ้างงานเห็นถึงความผิดปกติจึงเอ่ยถาม และใจดีให้เขาลาได้ 1 วัน  

          เหยาฉือละสายตาจากน้องชาย มามองก้อนกลมๆในอ้อมแขน วันนี้ได้พบหลานสาวเสียที ดวงตาของเด็กน้อยมองเขาอย่างสำรวจ ไม่นานพอเขาหันมาสนใจก็ยิ้มหวานให้คล้ายเข้าใจที่พูด “นี่หลานสาวข้าหรือ นางช่างน่าเอ็นดูยิ่งนัก”

          “ขอรับ หลานสาวพี่ใหญ่นางรู้ความนัก ส่วนเรื่องนั้นไม่เป็นอันใดขอรับ ข้ารู้ว่าพี่ใหญ่เป็นห่วงข้า มาเถอะ เข้าบ้านกันก่อน”  เจียหมิงตอบรับคำพี่ชายที่มองบุตรสาวเขาอย่างเอ็นดู ก่อนมองของในมือพี่ใหญ่ที่ถือมา คาดว่าน่าจะเป็นของฝาก หัวซ้ายขวามองดูรอบๆว่ามีคนที่รู้จักแม่เลี้ยงอยู่หรือไม่ ก่อนจะรีบเอ่ยให้เข้าบ้านทันที

          “พี่ใหญ่อยากลองอุ้มนางไหม” หลังจากเข้ามาในบ้าน เจียหมิงเห็นพี่ใหญ่มองเหลียนฮวาไม่ละสายตา ส่วนเหลียนเอ๋อร์ก็จ้องอีกฝ่ายนิ่ง พร้อมส่งยิ้มหวานหยดไปให้ พลันพี่ใหญ่ชะงักงัน หลังเห็นรอยยิ้มพิชิตใจจากบุตรสาว คาดว่าพี่ใหญ่คงโดนเหลียนเอ๋อร์ตกเข้าแล้ว

          “เอ่อ ข้ากลัวทำนางเจ็บ” เหยาฉือพูดกล้าๆกลัวๆ พรางมองเสื้อผ้าตัวเองที่สกปรกจนเผลอคิดว่าอาจเอาสิ่งสกปรกพวกนี้ไปติดหลานสาว ทำให้เขาไม่แม้แต่จะกล้าจับเด็กน้อยที่น่าเอ็นดูเช่นนี้ น้องชายเขาช่างเลี้ยงออกมาได้ดี

          “ข้าเชื่อว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น ลองดูสักหน่อย ใช่ไหมเล่าเหลียนเอ๋อร์ ลูกก็อยากให้ท่านลุงอุ้มใช่หรือไม่”

          “แอ้ แอ้!” แล้วบุตรสาวก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ร้องสนับสนุนคำพูดผู้เป็นพ่อ พลางทำท่ากระโจนเข้าหาผู้เป็นลุง พ่อนางหล่อตี๋ แม้ผิวจะกล้านแดด ส่วนท่านลุงกลับดูหล่อคมคายคนละแบบ แม้เสื้อผ้าจะมีรอยปะชุนและฉีกขาดอย่างไม่ใส่ใจดูแล และร่างกายยังดูผอมเกินไป

         ไม่เป็นไรหากข้าโตขึ้นข้าจะเลี้ยงดูพวกท่านให้ดีเอง พวกเขาล้วนเป็นของแรร์ทั้งคู่ นางต้องเลี้ยงดูให้ดี อิอิ เด็กน้อยดีดขาไปมาคิดอย่างอารมณ์ดี

          “ละ เหลียนเอ๋อร์หลานลุง”  เมื่อทั้งน้องชายและหลายสาวปฏิบัติกับเขาอย่างไม่มีทีท่ารังเกียจ เขาจึงใช้มือเช็ดที่เสื้ออีกครั้ง ก่อนจะอุ้มหลานสาวที่กระโจนเข้ามาด้วยความดีใจ “จริงสิ ข้าซื้อกำไลข้อเท้ามาฝากหลานสาว ฝากเจ้าที”  เหยาฉือพยักพเยิดไปที่ของที่เขาหิ้วมา เขาใช้เงินเดือนเกินครึ่งซื้อมาให้นางเพื่อเป็นของขวัญต้อนรับหลานสาว แม้จะไม่ใช่สิ่งของที่มีค่า ทว่าเขาก็อยากมอบให้นางจากใจจริง อยากให้ได้รู้ว่านอกจากพ่อของนางยังมีเขาที่เป็นลุงของนางอีกคน

          “ราคามิน้อย พี่ใหญ่ไม่ต้องสิ้นเปลือง...” เจียหมิงหยิบกำไลข้อเท้าสีเงินทั้งสองข้างออกมาพิจารณา แม้จะไม่ได้ราคาสูงลิบ ทว่าก็นับว่ามีราคาไม่น้อยเมื่อเทียบกับรายได้ชาวบ้านทั่วไป เจียหมิงเอ่ยอย่างเกรงใจ

          “เป็นความตั้งใจของข้าเอง อยากนำมาเป็นของขวัญต้อนรับนาง”  เหยาฉือพูดพลางมองร่างอวบอ้วนในอ้อมกอด เหลียนฮวารู้สึกซาบซึ้ง แม้ท่านลุงจะไม่มีเงินแต่ก็ยังซื้อของขวัญต้อนรับนาง พลันในใจอุ่นวาบ ร่างอวบเอนซบอกของท่านลุงอย่างขอบคุณ

          อืมม ดี แม้กล้ามเนื้อจะน้อยกว่าท่านพ่อ แต่ก็แน่นใช้ได้ คิกคิก เป็นเด็กก็ดีเหมือนกัน  เหยาฉือไม่รู้เลยว่ากำลังโดนหลานสาวแอบกินเต้าหู้

          “ขอบคุณแทนเหลียนเอ๋อร์ด้วยขอรับ นางต้องดีใจมากแน่” เจียหมิงมองบุตรสาวที่ออดอ้อนออเซาะท่านลุงของตนไม่ไปไหน คาดว่าน่าจะสัมผัสได้ว่าใครดีกับตน เขาดึงข้อเท้าของนางมาเพื่อจะใส่ให้ ทว่ากลับต้องชะงักเมื่อสังเกตุขนาดของข้อเท้าและกำไลในมือ

          ไม่เป็นไรอาจมองพลาด จับข้อเท้าอวบขึ้นมาจะสวมให้เท่านั้นแหล่ะ กลับต้องชะงักอีกรอบ ครานี้พี่ใหญ่ก็ชะงักไม่ต่างกัน พลันความเงียบเข้าปกคลุม เหลียนฮวาที่เห็นทั้งพ่อและลุงเงียบไปจึงเหลือบมองไปยังข้อเท้าของตนกับกำไลที่ยังค้างอยู่ในมือพ่อ

          “แอ้ แอ๊ะ!” ไม่ได้อ้วนนะ! เหลียนฮวามองสายตาของท่านพ่อและท่านลุง ที่จดจ้องมายังข้อเท้าอวบๆของตนนิ่งงัน แล้วส่งเสียงประท้วง ฮื่อ น่าอายที่สุด เจ้ากำไล แกทำให้ฉันดูแย่ แต่ใครใช้ให้นมอร่อย จนนางหยุดกินไม่ได้กันล่ะ เหลือบมองพุงกลมๆของตัวเองได้แต่เศร้าใจ หลักฐานค้ำคอ ขนาดขายังกลมปล้องเป็นมัดๆ

          “เอ่อ ข้าเลือกซื้อขนาดตามเจ้าของร้านแนะนำ สำหรับเด็กไม่ถึงขวบ” เหยอฉือเกาแก้มแก้เก้อ ไม่พูดออกมาตามตรง กลัวหลานสาวจะเสียใจ

          ใช่แล้ว หลานสาวเขาไม่ได้อ้วน นางแค่ แค่ โตเกินวัย เหยาฉือถกเถียงกับตนเองในใจ

          “ขะ ข้าจะเก็บไว้ให้นางใส่ตอนโตกว่านี้ขอรับ เขาว่ากันว่าเด็กเมื่อโตขึ้นร่างกายจะยืดเอง” เจียหมิงก็ทำสีหน้าไม่ถูกเช่นเดียวกัน ได้แต่ทำหน้าเลิ่กลัก ข้อเท้าของบุตรสาวเขาใหญ่กว่ากำไลมากโข แม้กระทั่งฝ่าเท้ายังสอดเข้าไม่ได้ 

          “อ่า ใช่ๆ / ฮ่าๆ”  ทั้งคู่พยักหน้าเออออให้กัน แล้วหลุดขำออกมา เหลียนฮวาแทบอยากมุดแผ่นดินหนี ก็พอรู้ว่าตัวนางตัวโตกว่าเด็กทั่วไป ทว่าพอได้ฟังจากท่านลุงว่ากำไลข้อเท้านี้สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี ทั้งที่นางพึ่งยังไม่ถึง 5 เดือนด้วยซ้ำ คล้ายโดนตอกย้ำ แล้วเอาน้ำร้อนราดซ้ำ พวกท่านพูดออกมาตรงๆเลยก็ได้ว่าข้าอ้วน!  อยากเถียงใจแทบขาด ได้แต่กำหมัดชูขึ้นฟ้าอย่างไม่ยอม

          “แอ้ !” นางไม่ได้อ้วน นางแค่กินแซ่บ! ฮึ่มๆ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 5 ตลอดไป [จบบริบูรณ์]

    “อุแว้ อุแว้”“ที่รักเหนื่อยไหม ขอบคุณที่คลอดบุตรให้พี่อีกคนนะ” หยางหลงเช็ดเหงื่อตรงหน้าผากให้คนรักที่หน้าซีดเซียว“ไม่เลยเจ้าค่ะ แค่เห็นหน้าลูกๆกับพี่ ข้าก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง” เหลียนฮวาที่มีประสบการณ์จากการคลออบุตรครั้งแรกถึงสองคน ครั้งนี้จึงคลอดง่ายมาก หมอหลวงที่เดินทางจากแคว้นเว่ยโดยเฉพาะอุ้มเด็กน้อยตัวอวบอ้วนเข้ามา“ขอแสดงความยินดีกับชินอ๋องและพระชายา เป็นเด็กทารกเพศชาย ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์เพคะ” หมอหญิงส่งเด็กทารกให้แก่ชินอ๋อง หยางหลงรับมาด้วยความทะนุถนอม“อีกแล้ว ข้าอุ้มท้องเขามา 9 เดือนนะเจ้าคะ” เหลียนฮวาพูดอย่างน้อยใจ เมื่อบุตรลายคนที่สามไม่มีส่วนไหนเหมือนนางเช่นเดียวกัน นี่น้ำเชื้อเขาแรงมากเลยหรือ ลูกออกมาสามคน หน้าตาเหมือนเขาทุกคน“ฮ่าๆ คนที่สี่ต้องเหมือนเจ้าอย่างแน่นอน” หยางหลงพูดด้วยรอยยิ้ม เหลียนฮวาได้แต่อ้าปาก

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 4 ลูกครึ่งซอมบี้

    แคว้นฉินพระราชวัง“ฮื่อ ฮื่อ” เสียงเด็กน้อยร่ำไห้อยู่ข้างเตียงของหญิงนางหนึ่ง“แค่ก ๆ ขะ ข้าไม่น่า คะ คลอดเด็กอย่างเจ้าออกมาเลย” องค์หญิงใหญ่กล่าวด้วยใบหน้าโกรธแค้น ตัวนางซูบผอมเหลือแต่กระดูก อันเนื่องจากคลอดเด็กลูกครึ่งผีดิบที่กัดกินชีวิตนางตั้งแต่อยู่ในครรภ์ นางหวังให้ลูกของนางเติบโตมาแข็งแกร่งเหมือนพ่อ ทว่าเด็กออกมากลับเป็นผู้หญิง นอกจากอ่อนแอแถมยังไร้ประโยชน์ทำไมกันนะ ชีวิตของนางถึงไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง ตั้งแต่มีพระสวามี เขาก็ทิ้งนางให้อยู่ท่ามกลางผีดิบ ดีที่ยังมีคนรับใช้หลงเหลือไว้ให้อยู่ แต่รอบตัวก็เต็มไปด้วยผีดิบ ไม่มีใครสามารถออกจากแคว้นได้เลย มีครั้งหนึ่งที่แม่ทัพของเคยคิดออกจากแคว้น ทว่ายังไปได้ไม่ไกล ต่างโดนเหล่าผีดิบเข้ามากัดกินทั้งเป็น หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าออกไปนอกแคว้นอีกเลย“ท่างแม่…”“ยะ อย่า แ

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 3 ลูกชายฝาแฝดตัวแสบ 

    4 ปีต่อมา“เสี่ยวชุน เสี่ยวเฉินลงมาจากต้นไม้เดี๋ยวนี้!!” เหลียนฮวาตะโกนบอกบุตรชายตัวแสบวัยสามขวบทั้งสอง อุ้มท้องมา 9 เดือน แต่ไม่มีส่วนใดได้นางมาเลย เด็กๆถอดแบบพี่หยางมาทั้งหมด ชอบปีนต้นไม้เหมือนใครก็ไม่รู้? แถมยังหลบหนีพี่เลี้ยงเก่งเป็นที่หนึ่ง“ปี้ชายลงไปก่อนซี่” เสี่ยวชุนหรือเว่ยชุนหวงเอ่ยบอกพี่ชายที่คลอดก่อนตนเพียง 5 วินาที ร่างกลมป้อมอวบอัด ทว่ากลับว่องไวกว่าคนเป็นพี่บุ้ยปากให้พี่ชายลงจากต้นไม้ก่อน“เจ้าเปงน้องก็ต้องลงก่อง” เสี่ยวเฉินหรือเว่ยเฉินอี้กล่าวบอกผู้เป็นน้อง ทั้งสองเกี่ยงกันลงก่อนเนื่องจากยังดูพวกท่านตาฝึกซ้อมยังไม่เสร็จ“ลง มา พร้อม กัน” เหลียนฮวาจำต้องเน้นเสียงทีล่ะคำบอกบุตรชาย ไม่งั้นก็ยังเกี่ยงกันไม่เลิก บุตรชายของนางทั้งสองชื่นชอบการต่อสู้เป็นพิเศษ หากเห็นทหารหรือบรรดาตาๆตัวเองฝึกก็จะรีบขอตามไปดูอย่างไวพวกเด็กๆจะเรียกพ่อของนางว่าต

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 2 วันนี้ที่รอคอย

    “เหนื่อยหรือไม่” หยางหลงเอ่ยถามเจ้าสาวของตนหลังคืนแต่งงานผ่านพ้นไป คนรักที่กลายมาเป็นภรรยาและคู่ชีวิตของเขานับแต่นี้เหลียนฮวานั่งตัวเกร็งอย่างทำอะไรไม่ถูก นางกำลังเผชิญกับคืนเข้าหอเป็นครั้งแรก“…”“เหตุใดไม่คุยกับพี่้เล่า” หยางหลงค่อยๆเปิดผ้าคลุมเจ้าสาวเชยคางมนมาสบตา ทั้งสองสบตากันอย่างลึกซึ้ง“ตะ ต้องดื่มเหล้าก่อนมงคลเจ้าค่ะ” เหลียนฮวาที่ไม่รู้จะหาข้ออ้างอันใดมาเอ่ยจึงมองไปที่กาใส่เหล้ามงคลเอาไว้“จริงสิ เป็นขนบธรรมเนียมของที่นี่” หยางหลงยิ้มกริ่มก่อนจะค่อยๆเทเหล้ามงคลจากกาน้ำสองจอดและยกขึ้นมาถือไว้“ดื่มเถิด” เขายื่นให้คนรักหนึ่งแก้วและถือไว้เองหนึ่งแก้ว ทั้งสองคล้องแขนกันก่อนจะยกขึ้นดื่มพร้อมกัน ทั้งกลิ่นทั้งรสชาติของเหล้ามีความแรงจนเหลียนฮวาต้องนิ่วหน้า นางรีบกลืนภายในอึกเดียว ไม่นานหน้

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนพิเศษ 1 สวรรค์ชั้นฟ้าหรือจะสู้ชะตากงล้อลิขิต  

    “ถวายบังคมเสด็จพ่อ” ฮ่องเต้สวรรค์มองบุตรสาวด้วยสายตาไม่พอใจนัก“เจ้ารู้ความผิดที่ก่อหรือไม่เทพธิดาเหมยลี่” น้ำเสียงดังก้องกังวาลไปทั่วชั้นฟ้า“ไม่เพคะ” เทพธิดาเหมยลี่เชิดหน้าไม่ยอมแพ้“เจ้า!!!”“ลูกไม่คิดว่าการที่พวกเรารักกันจะผิดตรงไหน”“แม้จะไม่มีบัญญัติว่าห้ามรักต่างฐานันดร แต่เจ้าก็ทำผิดกฎสวรรค์ เจ้ากำลังตั้งครรภ์!!!” ฮ่องเต้สวรรค์แทบลมจับ สั่งให้ทูตสวรรค์หรือที่เรียกทหารในโลกมนุษย์พาธิดากลับมาและนำไอ้ชายที่มันล่อลวงบุตรสาวของเขามารับโทษ“ตั้งครรภ์ จริงสิ เสด็จพ่อทรงมีหลานแล้วเพคะ นางจะเป็นเทพธิดาตนใดมาเกิดกันนะ” เหมยลี่พูดไปยิ้มไป สายใยแม่ลูกทำให้รู้ว่าในครรภ์ของนางเป็นเพศหญิง พลางลูบหน้าท้องแบนราบของตน“ช่างเรื่องนั้นก่อน เจ้าต้องได้รับโทษ” ฮ่องเต้สวร

  • ดอกบัวในสงคราม   ตอนที่ 109 จะรักตราบชั่วนิรันดร [The end]

    “พี่หยาง ผักที่เราปลูกงอกแล้วเจ้าค่ะ” เหลียนฮวากล่าวอย่างตื่นเต้น เป็นล็อตสองที่ทดลองปลูก แถมผักที่ปลูกยังเป็นชนิดใหม่“หืม งอกเร็วมาก ยังไม่ถึงเดือน” หยางหลงรีบเข้ามาดูต้นผักตามคนรักชี้บอก วันนี้พ่อตาและคนอื่นไม่อยู่ต้องไปทำภารกิจ“เพราะดินที่เราหมั่นบำรุงมั้งเจ้าคะ”ฟอดดด“เพราะเราช่วยกันปลูกต่างหาก” ขายหนุ่มแอบหอมแก้มแฟนสาวเร็วๆ แล้วส่งยิ้มกระชากใจหลังจากกลับจากแคว้นเว่ยมีประกาศอย่างเป็นทางการเรื่องว่าที่พระชายาองค์ชายห้า เล่นเป็นข่าวดัง พูดถึงกันอยู่พักใหญ่เพราะว่าที่พระชายาเป็นคนต่างแคว้นแถมยังเป็นสามัญชน ทว่าทั้งคู่กลับไม่มีใครสนใจ พากันเดินทางไปแคว้นจ้าวสลับกับแคว้นเว่ย ไปๆมาๆระหว่างสองแคว้น แถมยังหวานกันยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากไม่ต้องปกปิดตัวตนอีกต่อไป“ครั้งหน้าหากผักในโรงปลูกผักโตกว่า

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status