หลายวันต่อมาหลังจากท่านลุงเดินทางกลับด้วยท่าทีอิดออด คงเพราะยังอยากเล่นกับหลานสาวผู้น่ารักอย่างนาง กิจวัตรประจำวันของทารกก็ไม่มีอะไรมาก นั่งๆ นอนๆ แล้วก็กิน ส่วนท่านพ่อก็ออกไปซ่อมรั้วให้แข็งแรงขึ้น ไม่ก็ลงแปลงปลูกผักบ้าง อ้อ มีอีกอย่าง ท่านพ่อมักหยิบอาวุธกระบองที่นางแอบนำไปวางในย่ามอย่างยากลำบากก่อนเกิดเหตุการณ์ครั้งนั้นมาเช็ดๆถูๆอยู่ทุกวัน ดูท่าจะหวงไม่น้อย วนเวียนอยู่แบบนี้
“ฮึบ อีกนิดลูกสาวพ่อ”
“แอ้ ปะ ปะ” เหลียนฮวาเกร็งตัวเพื่อคว่ำจนหน้าดำหน้าแดง เหลือบมองท่าทีของผู้เป็นพ่อที่ลุ้นยิ่งกว่า ฮึบ ฮึบ ต้องทำให้ได้ อีกนิดเดียวเท่านั้น
ฟุบบ
และแล้วความพยายามก็สำเร็จผล
ฟอดด
“เก่งมาก” ได้รางวัลเป็นการหอมแก้มฟอดใหญ่จากท่านพ่อที่ลุ้นจนตัวโก่ง จะมีเด็กวัยเพียง 3 เดือนกว่าที่ไหน พลิกคว่ำตัวได้แล้วบ้าง แม้จะมีพุงกลมๆเป็นอุปสรรค
เหลียนฮวาอยากอวดพ่อเหลือเกินว่านางพลิกตัวได้ตั้งแต่วันแรกที่เกิด ทว่าหลังๆที่ไม่เห็นนางพลิกตัวโชว์เพราะนางอ้วนขึ้นเลยขี้เกียจพลิกตัว
“ปะ ปะ หม่ำๆ” เจ้าร่างกายทารกนี่พอออกแรงหน่อยก็หิวอีกแล้ว เหลียนฮวาบ่นในใจ
“หืม แต่ลูกพึ่งดื่มนมไปเอง พ่อว่า...” ท่านพ่อทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยขัด แต่มีหรือจะขัดใจเธอได้
“หม่ำๆ ฮึก” เริ่มเบะปากเรียกคะแนนสงสารไปหนึ่งกรุป ตากลมโตมองท่านพ่ออย่างออดอ้อน
“ก็ได้ๆ พ่อยอมแล้ว” เจียหมิงไม่เคยชนะลูกสาวตัวแสบได้เลย ชายหนุ่มเอื้อมไปหยิบขวดนมส่งให้เจ้าตัวอ้วน แอบเรียกลูกสาวในใจ อย่าไปเรียกให้นางได้ยินเชียว ประเดี๋ยวจะเป็นเรื่องใหญ่
“ถึงบ้านชายที่ชื่อเจียหมิงแล้วใช่หรือไม่”
“ใช่ขอรับ” เสียงแว่วๆดังจากนอกรั้ว ทำเอาพ่อลูกถึงกลับชะงัก เหลียนฮวาคลายจุกนมที่ดูดอึกใหญ่ก่อนจะเสหน้ามองไปทางประตู
“แอ แอ” นางชวนพ่อคุย คล้ายถามว่าใครมาหรือ
“พ่อก็ไม่รู้ ขอออกไปดูสักเดี๋ยว ลูกนอนดื่มนมอยู่นี่ก่อนนะ” เจียหมิงคล้ายเข้าใจที่บุตรสาวพูด เขาก็สงสัยไม่ต่างกัน จึงเอาผ้ามาห่มให้นางกันหนาว แล้วเดินออกไปด้านนอก ด้วยความระแวงหรืออะไรไม่ทราบ ทำให้เขาเลือกที่จะหยิบย่ามที่มีอาวุธคู่ใจอยู่ในนั้นออกไปด้วย
“พวกท่านมีเรื่องอันใดกับข้าหรือ” เมื่อชายหนุ่มเดินมาถึง กลับพบว่าคนที่มาหาเป็นชายวัยกลางคนที่สวมหมวกใบสานวันนั้น เขาอยู่ในชุดทหารเต็มยศ ด้านหลังเป็นทหารที่สวมชุดไม่ต่างกัน อีก 2 นาย
เขาเดาไว้ไม่มีผิดว่าชายวัยกลางคนที่คุ้นหน้าคุ้นตาคนนี้ต้องมียศไม่ธรรมดา ส่วนชาวบ้านที่พาพวกเขามาหลังจากได้รับค่าตอบแทนก็รีบวิ่งหนีหายจากไปทันควัน
“อ้าว เจ้าออกมาพอดี ขออภัยที่เสียมารยาท แต่คงต้องเริ่มจากแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ข้ามีนามว่า เป่ยหวง ประจำการในตำแหน่งแม่ทัพแดนตะวันออก ข้ามาที่นี่เพราะมีเรื่องจะคุยและขอร้องเจ้า” เมื่อแนะนำตัวเสร็จ เป่ยหวงถอดหมวกออกเพื่อให้เห็นใบหน้า ค้อมศีรษะทักทาย
เขาเลือกที่จะโพล่งออกไปตรงๆตามฉบับชายชาติทหารและเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะเรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับบ้านเมืองโดยตรง
“ชาวบ้านธรรมดาอย่างข้าคง...” เจียหมิงทำท่าหนักใจ ไม่คิดว่าจะเป็นถึงแม่ทัพ เห็นเค้าความวุ่นวายในอนาคตจึงจะปฏิเสธ ความตั้งใจของเขาเพียงต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับบุตรสาว เลี้ยงนางให้เติบโตอย่างพ่อคนหนึ่งจะทำให้ได้
“ข้าอยากให้เจ้าฟังเรื่องทั้งหมดก่อน”
“งั้นคุยข้างในกันดีกว่าขอรับ” เจียหมิงชั่งใจสักครู่ พอเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีทีท่าจะยอมแพ้จึงบอกให้ทุกคนเข้ามายังตัวบ้าน
อีกด้าน
ณ แคว้นลั่วหยาง
ค่ายพักทหาร เขตชายแดน
“ท่านอาจารย์ ตัวทดลองใหม่...” ฮั่วหมิงเดินเข้ามาถามผู้ที่มีศักดิ์เป็นหมอผี ที่เขานับถือเป็นอาจารย์ เนื่องจากเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กอย่างตื่นเต้น หลังจากมีคนไปรายงานถึงความประสบความสำเร็จของการทดลอง
“ฮ่าๆ อาจารย์ผู้นี้ไม่ทำให้เจ้าผิดหวังหรอก” หมอผีนามว่าฮั่วเฉิง ร่างกายสูงใหญ่ หน้าตาเต็มไปด้วยตะปุ่มตะป่ำที่ได้ผลข้างเคียงมาจากการใช้มนต์ดำ เหลือบมองผลงานตัวเอง แล้วหัวเราะเสียงดัง ในที่สุดก็ทดลองกับคนได้สำเร็จ หลังจากต้องใช้ร่างสัตว์มานาน
“เมื่อไรมันจะฟื้นรึขอรับ” ฮั่วหมิงมองไปยังร่างด้านหลัง ถึงแม้จะอยู่ในสภาพร่างกายมนุษย์แต่ก็ไม่อาจเรียกได้เต็มปาก เพราะผิวขาวซีด เส้นเลือดปูนโปน ดูน่าเกลียดน่ากลัวนั่นกำลังนอนนิ่งอยู่บนตั่งไม้
“ถ้าเจ้าอยากให้มันฟื้น ก็ย่อมได้”
“จริงหรือขอรับ ท่านสั่งมันได้หรือ” ฮั่วเฉิงหันมาถามอาจารย์อย่างตื่นเต้น มองร่างขาวซีดที่โดนล่ามไว้
“หึหึ ลองหันหลังไปสิ” ฮั่วหมิงหันไปตามที่อาจารย์บอก แม้จะงุนงนว่ามันจะฟื้นขึ้นมาได้อย่างไร
ขวับ!
แฮร่!
“เฮ้ย !!” ฮั่วหมิงถึงกับอุทานลั่นอย่างตกใจ จู่ๆก็มีร่างที่ก่อนหน้านอนอยู่ ทว่าภาพที่เห็นคือมันกำลังยืนอยู่ด้านหลัง ดวงตาสีแดงก่ำมองมาที่เขาอย่างกระหายเลือด น้ำหนืดๆสีแดงหยดแหมะๆตามมุมปาก นี่มันตัวบ้าอะไรกัน
“นำอาหารมาให้มัน!” หมอผีฮั่วเฉิงหันไปสั่งชายคนหนึ่งที่ยืนสั่นอยู่ไม่ไกล ไม่นานชายคนนั้นก็มาพร้อมกับทาสคนหนึ่ง
“ยะ อย่าทำอะไรข้าเลย ขะ ข้ากลัวแล้ว” ร่างผอมโซของชายผู้โชคร้ายคนนั้นล้มลุกคลุกตามแรงลาก พลันสายตาเหลือบเห็นบางอย่าง มันได้แต่สั่นกลัว ร้องไห้ คุกเข่าอ้อนวอนเสียงสั่น น้ำตาไหลอาบหน้าฉี่ราดอาภรณ์ด้วยความหวาดกลัว
“รับไปสิ อาหารของแก” หมอผีไม่สนใจคำขอร้อง สั่งการเจ้าผีดิบ
จบคำมันก็เดินเข้าไปกระชากร่างผอมโซขึ้นมา “ยะ อย่า อ๊ากกกกกกก” ก่อนจะกระซวกเข้าไปที่ต้นคอ กัดกินเนื้อสดๆ เคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย เป็นภาพที่แม้แต่แม่ทัพอย่างฮั่วหมิงยังแอบหันหน้าหนี ทว่าลึกๆก็ดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ หากมีเจ้าตัวนี้ พวกศัตรูหรือใครหน้าไหนก็ทำอะไรแคว้นลั่วไม่ได้
“อุแว้ อุแว้”“ที่รักเหนื่อยไหม ขอบคุณที่คลอดบุตรให้พี่อีกคนนะ” หยางหลงเช็ดเหงื่อตรงหน้าผากให้คนรักที่หน้าซีดเซียว“ไม่เลยเจ้าค่ะ แค่เห็นหน้าลูกๆกับพี่ ข้าก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง” เหลียนฮวาที่มีประสบการณ์จากการคลออบุตรครั้งแรกถึงสองคน ครั้งนี้จึงคลอดง่ายมาก หมอหลวงที่เดินทางจากแคว้นเว่ยโดยเฉพาะอุ้มเด็กน้อยตัวอวบอ้วนเข้ามา“ขอแสดงความยินดีกับชินอ๋องและพระชายา เป็นเด็กทารกเพศชาย ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์เพคะ” หมอหญิงส่งเด็กทารกให้แก่ชินอ๋อง หยางหลงรับมาด้วยความทะนุถนอม“อีกแล้ว ข้าอุ้มท้องเขามา 9 เดือนนะเจ้าคะ” เหลียนฮวาพูดอย่างน้อยใจ เมื่อบุตรลายคนที่สามไม่มีส่วนไหนเหมือนนางเช่นเดียวกัน นี่น้ำเชื้อเขาแรงมากเลยหรือ ลูกออกมาสามคน หน้าตาเหมือนเขาทุกคน“ฮ่าๆ คนที่สี่ต้องเหมือนเจ้าอย่างแน่นอน” หยางหลงพูดด้วยรอยยิ้ม เหลียนฮวาได้แต่อ้าปาก
แคว้นฉินพระราชวัง“ฮื่อ ฮื่อ” เสียงเด็กน้อยร่ำไห้อยู่ข้างเตียงของหญิงนางหนึ่ง“แค่ก ๆ ขะ ข้าไม่น่า คะ คลอดเด็กอย่างเจ้าออกมาเลย” องค์หญิงใหญ่กล่าวด้วยใบหน้าโกรธแค้น ตัวนางซูบผอมเหลือแต่กระดูก อันเนื่องจากคลอดเด็กลูกครึ่งผีดิบที่กัดกินชีวิตนางตั้งแต่อยู่ในครรภ์ นางหวังให้ลูกของนางเติบโตมาแข็งแกร่งเหมือนพ่อ ทว่าเด็กออกมากลับเป็นผู้หญิง นอกจากอ่อนแอแถมยังไร้ประโยชน์ทำไมกันนะ ชีวิตของนางถึงไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง ตั้งแต่มีพระสวามี เขาก็ทิ้งนางให้อยู่ท่ามกลางผีดิบ ดีที่ยังมีคนรับใช้หลงเหลือไว้ให้อยู่ แต่รอบตัวก็เต็มไปด้วยผีดิบ ไม่มีใครสามารถออกจากแคว้นได้เลย มีครั้งหนึ่งที่แม่ทัพของเคยคิดออกจากแคว้น ทว่ายังไปได้ไม่ไกล ต่างโดนเหล่าผีดิบเข้ามากัดกินทั้งเป็น หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าออกไปนอกแคว้นอีกเลย“ท่างแม่…”“ยะ อย่า แ
4 ปีต่อมา“เสี่ยวชุน เสี่ยวเฉินลงมาจากต้นไม้เดี๋ยวนี้!!” เหลียนฮวาตะโกนบอกบุตรชายตัวแสบวัยสามขวบทั้งสอง อุ้มท้องมา 9 เดือน แต่ไม่มีส่วนใดได้นางมาเลย เด็กๆถอดแบบพี่หยางมาทั้งหมด ชอบปีนต้นไม้เหมือนใครก็ไม่รู้? แถมยังหลบหนีพี่เลี้ยงเก่งเป็นที่หนึ่ง“ปี้ชายลงไปก่อนซี่” เสี่ยวชุนหรือเว่ยชุนหวงเอ่ยบอกพี่ชายที่คลอดก่อนตนเพียง 5 วินาที ร่างกลมป้อมอวบอัด ทว่ากลับว่องไวกว่าคนเป็นพี่บุ้ยปากให้พี่ชายลงจากต้นไม้ก่อน“เจ้าเปงน้องก็ต้องลงก่อง” เสี่ยวเฉินหรือเว่ยเฉินอี้กล่าวบอกผู้เป็นน้อง ทั้งสองเกี่ยงกันลงก่อนเนื่องจากยังดูพวกท่านตาฝึกซ้อมยังไม่เสร็จ“ลง มา พร้อม กัน” เหลียนฮวาจำต้องเน้นเสียงทีล่ะคำบอกบุตรชาย ไม่งั้นก็ยังเกี่ยงกันไม่เลิก บุตรชายของนางทั้งสองชื่นชอบการต่อสู้เป็นพิเศษ หากเห็นทหารหรือบรรดาตาๆตัวเองฝึกก็จะรีบขอตามไปดูอย่างไวพวกเด็กๆจะเรียกพ่อของนางว่าต
“เหนื่อยหรือไม่” หยางหลงเอ่ยถามเจ้าสาวของตนหลังคืนแต่งงานผ่านพ้นไป คนรักที่กลายมาเป็นภรรยาและคู่ชีวิตของเขานับแต่นี้เหลียนฮวานั่งตัวเกร็งอย่างทำอะไรไม่ถูก นางกำลังเผชิญกับคืนเข้าหอเป็นครั้งแรก“…”“เหตุใดไม่คุยกับพี่้เล่า” หยางหลงค่อยๆเปิดผ้าคลุมเจ้าสาวเชยคางมนมาสบตา ทั้งสองสบตากันอย่างลึกซึ้ง“ตะ ต้องดื่มเหล้าก่อนมงคลเจ้าค่ะ” เหลียนฮวาที่ไม่รู้จะหาข้ออ้างอันใดมาเอ่ยจึงมองไปที่กาใส่เหล้ามงคลเอาไว้“จริงสิ เป็นขนบธรรมเนียมของที่นี่” หยางหลงยิ้มกริ่มก่อนจะค่อยๆเทเหล้ามงคลจากกาน้ำสองจอดและยกขึ้นมาถือไว้“ดื่มเถิด” เขายื่นให้คนรักหนึ่งแก้วและถือไว้เองหนึ่งแก้ว ทั้งสองคล้องแขนกันก่อนจะยกขึ้นดื่มพร้อมกัน ทั้งกลิ่นทั้งรสชาติของเหล้ามีความแรงจนเหลียนฮวาต้องนิ่วหน้า นางรีบกลืนภายในอึกเดียว ไม่นานหน้
“ถวายบังคมเสด็จพ่อ” ฮ่องเต้สวรรค์มองบุตรสาวด้วยสายตาไม่พอใจนัก“เจ้ารู้ความผิดที่ก่อหรือไม่เทพธิดาเหมยลี่” น้ำเสียงดังก้องกังวาลไปทั่วชั้นฟ้า“ไม่เพคะ” เทพธิดาเหมยลี่เชิดหน้าไม่ยอมแพ้“เจ้า!!!”“ลูกไม่คิดว่าการที่พวกเรารักกันจะผิดตรงไหน”“แม้จะไม่มีบัญญัติว่าห้ามรักต่างฐานันดร แต่เจ้าก็ทำผิดกฎสวรรค์ เจ้ากำลังตั้งครรภ์!!!” ฮ่องเต้สวรรค์แทบลมจับ สั่งให้ทูตสวรรค์หรือที่เรียกทหารในโลกมนุษย์พาธิดากลับมาและนำไอ้ชายที่มันล่อลวงบุตรสาวของเขามารับโทษ“ตั้งครรภ์ จริงสิ เสด็จพ่อทรงมีหลานแล้วเพคะ นางจะเป็นเทพธิดาตนใดมาเกิดกันนะ” เหมยลี่พูดไปยิ้มไป สายใยแม่ลูกทำให้รู้ว่าในครรภ์ของนางเป็นเพศหญิง พลางลูบหน้าท้องแบนราบของตน“ช่างเรื่องนั้นก่อน เจ้าต้องได้รับโทษ” ฮ่องเต้สวร
“พี่หยาง ผักที่เราปลูกงอกแล้วเจ้าค่ะ” เหลียนฮวากล่าวอย่างตื่นเต้น เป็นล็อตสองที่ทดลองปลูก แถมผักที่ปลูกยังเป็นชนิดใหม่“หืม งอกเร็วมาก ยังไม่ถึงเดือน” หยางหลงรีบเข้ามาดูต้นผักตามคนรักชี้บอก วันนี้พ่อตาและคนอื่นไม่อยู่ต้องไปทำภารกิจ“เพราะดินที่เราหมั่นบำรุงมั้งเจ้าคะ”ฟอดดด“เพราะเราช่วยกันปลูกต่างหาก” ขายหนุ่มแอบหอมแก้มแฟนสาวเร็วๆ แล้วส่งยิ้มกระชากใจหลังจากกลับจากแคว้นเว่ยมีประกาศอย่างเป็นทางการเรื่องว่าที่พระชายาองค์ชายห้า เล่นเป็นข่าวดัง พูดถึงกันอยู่พักใหญ่เพราะว่าที่พระชายาเป็นคนต่างแคว้นแถมยังเป็นสามัญชน ทว่าทั้งคู่กลับไม่มีใครสนใจ พากันเดินทางไปแคว้นจ้าวสลับกับแคว้นเว่ย ไปๆมาๆระหว่างสองแคว้น แถมยังหวานกันยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากไม่ต้องปกปิดตัวตนอีกต่อไป“ครั้งหน้าหากผักในโรงปลูกผักโตกว่า