หน้าหลัก / โรแมนติก / ดอกไม้ในมืออัคคี / บทที่ 10 ใครเอาแต่ใจ ใครดื้อ

แชร์

บทที่ 10 ใครเอาแต่ใจ ใครดื้อ

ผู้เขียน: พริมริน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-12-02 12:55:24

บทที่ 10 ใครเอาแต่ใจ ใครดื้อ

เพียงไม่นานนักรถหรูเลี้ยวเข้าถนนกว้างโค้งของโรงแรมระดับชั้นนำ

“ที่จริงพี่เพลิงน่าจะให้คุณเกรซมา แพรแต่งตัวไม่เหมาะเลยค่ะ”

“ไม่หรอก เลน่าแต่งตัวมาดีแล้ว อีกอย่างแทนตัวเองว่าเลน่าก็ถูกแล้วไม่ต้องแทนตัวเองว่าแพรกับพี่อีก”

“ทำไมล่ะคะ แพรจะพูดชื่อไหนก็ได้นี่คะ ก็มันชื่อของแพร”

อัคคีไม่ตอบ เขาเดินลงจากรถลงไปก่อนรอกระทั่งอุณากรรณลงจากรถจึงยื่นแขนออกมาให้คล้อง สังเกตว่าหญิงสาวชะงักคิดก่อนแต่ไม่นานเท่านั้นก็ยอมคล้องแขนเขาเดินขึ้นโถงบันได

ลำแขนแกร่งแน่นอบอุ่นถึงร้อนจัด อุณากรรณมองมือตัวเองที่จับลำแขนนั้นไว้ มือเรียวเล็กของเธอเมื่อเทียบกับเขาแล้วยิ่งดูเล็กไปถนัดใจ

“มาเถอะ พี่จะแนะนำให้รู้จัก”

อุณากรรณละสายตาออกจากท่อนแขนแกร่ง มองตรงไปทางโต๊ะรับรองที่โทรศัพท์มาจองไว้ มีชายหนุ่มสองคนยืนรออยู่ก่อนหน้าแล้ว หน้าตาคล้ายเป็นคนชนชาติจีนดั่งเช่นคนสิงคโปร์ทั่ว ๆ ไป สวมชุดสูทนักธุรกิจ รูปร่างสันทัดไม่สูงไม่เตี้ย แต่พออัคคีเดินเข้าไปใกล้ทำให้ชายหนุ่มทั้งสองดูเตี้ยลงไปทันที

“ริชาร์ด คาล นี่เลน่า คู่หมั้นผมครับ”

คราวนี้อุณากรรณยิ้มไม่ออกแต่ก็พูดแก้ตัวไม่ได้ต่อหน้านักธุรกิจชาวสิงคโปร์ จึงส่งยิ้มหวานแสร้งทำเป็นตามน้ำไปก่อน

“อ้าว เสือร้ายของเราหมั้นเสียแล้ว ยินดีด้วยนะครับคุณเลน่า”

“ขอบคุณค่ะ”

“แบบนี้สาว ๆ คงอกหักกันเป็นแถวนะครับ”

อัคคีตวัดตาคมดุมองโดยไม่พูดอะไร เพียงเท่านี้ฉายานักธุรกิจเสือดุก็ฉายเปล่งประกายจนนักธุรกิจคนดั่งกล่าวน่าเจื่อนไป รีบเปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่องธุรกิจที่กำลังจะติดต่อด้วยทันที

อุณากรรณได้ยินชื่อเสียงโด่งดังในทางข่าวฉาวลือไกลถึงสิงคโปร์ จึงลอบเบ้ปากในใจ แต่เมื่อนึกภาพผู้หญิงคนอื่นกลับฉุนเฉียวจึงรีบปัดภาพนั้นทิ้งเสีย

วันนี้เธอเป็นอะไรพลอย!

ห้องอาหารหรูหราบนโรงแรมระดับห้าดาว แม้ราคาสูงแต่ยังคลาคล่ำไปด้วยคนระดับบนของประเทศที่นิยมทานข้าวนอกบ้านในมื้อเย็น

ร่างระหงบอบบางในชุดทำงานของวันนี้แม้ว่าเรียบร้อยดี แต่ทำให้อุณากรรณรู้สึกว่าแต่งตัวไม่เหมาะสม เพราะพื้นนิสัยเรื่องเสื้อผ้าต้องดูดีเมื่อออกนอกบ้าน

จึงส่งผลให้ค่ำนี้อุณากรรณขาดความมั่นใจและเบื่อหน่าย ใบหน้าหวานซึ้งออกอาการจนชายหนุ่มด้านข้างสังเกตได้ เขาหยุดพูดคุยเจรจาหันมองอุณากรรณที่เบือนหน้าไปทางอื่นและกำลังกวาดตามองไปรอบ ๆ

“เบื่อเหรอ”

“คะ”

อุณากรรณตกใจเอี้ยวหน้ากลับไปหาอัคคี

“เห็นดูเบื่อ ๆ”

“ก็นิดหน่อยค่ะ แต่บอสคุยธุระไปเถอะค่ะ”

อัคคีขมวดคิ้วเมื่อได้ยินสรรพนามเดิม อุณากรรณกลับไปเรียกบอสดั่งเมื่อเช้า เขาวกมือลงใต้โต๊ะเพื่อจับฝ่ามือเล็กมากุมไว้ อุณากรรณสะดุ้งเห็นได้ชัดพยายามดึงมือออก

“งั้นกลับเลยไหม นี่ก็ดึกแล้วกว่าจะถึงบ้านที่นนทบุรีคงจะอีกนาน”

“แพรมาอยู่ที่คอนโดในเมืองแล้วค่ะ บอสคุยตามสบายเลยค่ะไม่ต้องสนใจแพร”

อัคคีกุมมือแน่นขึ้นอีกจนอุณากรรณเริ่มไม่พอใจ ชักสีหน้าใส่ไม่กลัว ยังโก่งคิ้วขึ้นเล็กน้อยคล้ายตั้งคำถามว่า ‘มีอะไรงั้นเหรอ’ จนคนที่กุมมืออยู่คันยุบยิบอยากจะคว้าร่างเข้ามากอดแต่ติดว่าอยู่กลางร้านอาหาร

“ย้ายออกมาตั้งแต่เมื่อไรครับ ทำไมพี่ไม่รู้”

“หลายวันแล้วค่ะ แต่ทำไมบอสต้องรู้ด้วยคะ นี่มันเรื่องส่วนตัวของแพร แพรต้องรายงานด้วยเหรอคะ”

อัคคีก้มมองหน้าหวานที่ลอยหน้าท้าทาย จึงยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วปล่อยมือ

“งั้นก็ดี วันหลังพี่จะได้ไปขอพึ่งทานกาแฟที่ห้องบ้าง”

ทานกาแฟ!! บ้าแล้ว หื่นกามของแท้

“ห้องแพรไม่มีกาแฟ!”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ซื้อเข้าไป”

อุณากรรณอ้าปากค้างแต่ไม่นานก็ปิดปากลง สะบัดหน้าไปอีกทางฉุนเฉียวหนักกว่าเดิม ถ้าขืนเธออยู่ใกล้กับบอสใหญ่นานวันเข้าคงอกแตกตายแน่

ในขณะที่ยังนั่งเข่นเขี้ยวในใจจึงไม่ทันสังเกตว่าอัคคีเอ่ยขอตัวแยกจากนักธุรกิจชาวสิงคโปร์แล้ว กระทั่งเขาลุกขึ้นยืนก้มลงมองจึงได้รู้ตัว

“อ้าวกลับแล้วเหรอคะ”

“ครับ ลาริชาร์ดกับคาลเถอะครับ”

อุณากรรณส่งยิ้มหวานไหว้สวยงามหนึ่งครั้ง

“เลน่าขอตัวกลับก่อนนะคะ ถ้ามีโอกาสคงได้เจอกันอีก”

“ครับ ๆ ไว้งานแต่งพวกผมไม่พลาดแน่นอนครับ”

เสียงริชาร์ดรีบรับคำลุกขึ้นยืนส่งอย่างสุภาพบุรุษโดยไม่ทันสังเกตว่าาสีหน้าของสาวสวยว่าเจื่อนไปเล็กน้อย

“ที่จริงบอสไม่น่าแนะนำตัวแบบนั้น”

ทันทีที่เดินออกจากห้องอาหารตรงไปทางลิฟต์ อุณากรรณไม่รอช้าพุ่งคำถามเอาเรื่องใส่ชายร่างโตทันที

“แบบไหนครับ”

“ก็ บอกว่าแพรเป็นคู่หมั้นไงคะ เรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน”

“แต่อีกไม่นานก็เป็นนี่ครับ ช้าเร็วก็เหมือนกัน”

“บอสรู้ได้ยังไงว่าแพรจะตอบรับ อาจจะไม่ก็ได้นี่คะ”

ติ๊งง!!

เสียงลิฟต์ดังขึ้นแทรกเสียก่อนที่อัคคีจะตอบคำถาม ร่างสูงใหญ่เดินนำเข้าไปก่อนและรอกระทั่งอุณากรรณเข้ามาในลิฟต์

“ปกติเลน่าเอาแต่ใจและดื้อแบบนี้ตลอดหรือเปล่าครับ”

“ใครเอาแต่ใจ? ใครดื้อ? แพรก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว บอสไม่สังเกตเองต่างหาก”

อัคคีจับมือเล็กมากุมไว้แม้ว่าอุณากรรณจะขัดขืน

“บอสปล่อยนะ จะมาถึงเนื้อถึงตัวแบบนี้ไม่ดี”

“คนเป็นแฟนกัน จับมือกันก็ปกติดีนี่ครับ”

อุณากรรณเริ่มจับน้ำเสียงทุ้มของชายร่างสูงได้แล้วว่าเริ่มมีร่องรอยความไม่พอใจ เธอคงรุกแข็งใส่มากเกินไปเพราะอยากให้เขายกเลิกข้อตกลงเร็ว ๆ มือแกร่งจับเธอแรงขึ้นอีกจนเธอต้องเงียบเสียงลง

ไม่ดีแน่ ยั่วโมโหเขามากไป ใจเย็นสิพลอย ต้องค่อยเป็นค่อยไป

ติ๊ง!!

เสียงลิฟต์ถึงชั้นล่างช่วยชีวิตเธออีกครั้ง แต่อัคคีไม่ปล่อยมือดึงเธออกเดินไปพร้อมกัน

“เพลิง!! เพลิง”

จู่ ๆ ขณะกำลังเดินออกนอกประตูหน้า พลันเสียงหวานใสของหญิงสาวนางหนึ่งตะโกนเรียกจนคนทั้งคู่ต้องหยุดชะงัก

“เพลิง ไหนบอกว่ายกเลิกนัดวันนี้ไงคะ”

อุณากรรณเอี้ยวตัวกลับไปดูพร้อมกับอัคคี แว่วเสียงสบถทุ้มด้านข้างจึงลอบยิ้ม เงยหน้ามองสาวสาวตรงหน้า รูปร่างบอบบางและอวบอิ่มด้วยชุดรัดรูปสีแดงเพลิง ความหรูหราเปล่งประกายออกมาพร้อมความสวยงามจนน่าตะลึง

“เกรซแต่งตัวเก้อเลยนะคะ เพลิงต้องชดเชยให้เกรซด้วย คืนนี้มาค้างที่โรงแรมนะคะ เปิดห้องใหญ่ชั้นบนให้เกรซเลย เกรซนอนคนเดียวเหงาจะแย่”

เสียงกระเง้ากระงอดออดอ้อนต่อหน้าเธอไม่กลัวเกรงทั้ง ๆ ที่เกรซเองก็เห็นว่าอัคคีกุมมือเธอไว้ หน้าเรียวของอุณากรรณกระจ่างแจ้ง นึกถึงเสียงกระแทกหูโทรศัพท์เมื่อกลางวัน

ที่แท้แอบมาเปิดโรงแรมด้วยกัน

“บอสไม่แนะนำให้แพรรู้จักหน่อยเหรอคะ”

อัคคีก้มหน้ามองรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของหญิงสาวด้านข้าง ดูท่าเรื่องนี้คงทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นมาหลังจากขุ่นมัวตลอดหัวค่ำ ถ้าเธอชอบแบบนี้ไม่เป็นไร เขาจะจัดให้

“นี่เกรซ แล้วก็เกรซ นี่เลน่า ..”

“เป็นผู้ช่วยเลขานุการคนใหม่ค่ะ ยินดีที่ได้เจอตัวจริงนะคะ ได้ยินแต่เสียงเมื่อกลางวัน”

“อ้อ เป็นเธอเองที่รับสายของฉัน เพลิง เลขาคนนี้ไม่มีมารยาทเลยนะคะ อบรมสั่งสอนด้วย แล้วนี่อะไร ทำไมกุมมือเจ้านายแบบนี้”

อุณากรรณได้ทีกระชากมือออกส่งยิ้มหวานให้คนทั้งคู่ ดูเหมือนว่าบอสอัคคีหน้าเง้าลงเล็กน้อยแต่ยังคุมตัวได้อยู่

“ถ้างั้นแพรขอตัวไปรอที่รถนะคะ ตามสบายค่ะ”

สองเท้าบนรองเท้าส้นสูงสีดำสานไขว้ราคาแพงส่งเสียงกระทบพื้นกระเบื้องบันไดขณะก้าวเดินลงไปก่อนอัคคี ร่างสูงใหญ่มองอุณากรรณลงบันไดจากด้านบน

ดูเหมือนน้องแพรคนนี้จะนิสัยเสียมากไปสักหน่อย นอกจากดื้อรั้น เอาแต่ใจแล้ว ยังมักพูดจายั่วอารมณ์ให้เขาขุ่นมัวตลอดเวลาเหมือนจงใจ

รอยยิ้มเจ้าเล่ห์มุมปากปรากฎขึ้นส่งให้หน้าแกร่งดูร้ายกาจและหล่อจนแม้แต่เกรซเองยังมองอย่างหลงใหล

สัญชาตญาณนักล่าอย่างอัคคีชอบอะไรแบบนี้ ถ้าดื้อนักจะปราบให้ดื้อน้อยลงสักหน่อย ให้พอน่ารักน่าหยอก ถ้าปากจัดนักก็จับจูบให้พูดไม่ได้ แล้วถ้าชอบเอาใจแต่เขาไม่มีปัญหา พร้อมยอมตามใจทุกอย่างแล้วแต่อุณากรรณต้องการ

ขอเพียงอย่างเดียว อุณากรรณต้องยอมตามใจเขาบนเตียงนอนก็พอแล้ว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ดอกไม้ในมืออัคคี   บทที่ 13 หนีเที่ยว

    บทที่ 13 หนีเที่ยว“พลอย จะออกไปข้างนอกเหรอ”บุษบาที่นั่งอยู่ตรงโซฟาห้องนั่งเล่นเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์มือถือ เอ่ยทักเมื่อเห็นอุณากรรณแต่งตัวจัดเต็มในชุดรัดรูปสีดำตัวสั้น ตัวเสื้อควานลึกยังดีที่มีเสื้อคลุมตัวเล็กพอให้ปกปิดบ้าง รองเท้าส้นสูงสีดำสานไขว้ประดับคริสตัลคู่เก่งราคาแพง ดัดผมลอนเล็กน้อยเป็นคลื่นสยายลงกลางหลัง แต่งหน้าสโมคกี้อายแต่ไม่เข้มมาก ริมฝีปากสีแดงสด“ใช่แล้ว นุ้ยกับติซ่าชวนไปเที่ยวผับเปิดใหม่”“ใครกัน?”“โธ่เอ้ย! แพร ก็เพื่อนร่วมงานยังไงล่ะ แพรไปทำงานเป็นอาทิตย์นี่ไม่รู้จักใครเลยเหรอไง”อุณากรรณพูดพรางหมุนดูตัวเองในกระจกหน้าต่างบานใหญ่ที่สะท้อนหน้าหวานซึ้งเพื่อสำรวจความเรียบร้อยอีกครั้ง“แล้วนี่พี่เพลิงรู้หรือเปล่า”“เกี่ยวอะไรกับพี่เพลิงด้วยแพร”อุณากรรณคว้ากระเป๋าหนังแกะสีดำทรงสี่เหลี่ยมขนาดเก้านิ้วขึ้นสะพายไหล่ เอี้ยวหน้ามองบุษบาฝาแฝดที่เหมือนตัวเองดั่งเงาในกระจก แต่นิสัยผิดแผกแตกต่างราวฟ้ากับดิน“อ้าว ก็พี่เพลิงเขาโทรหาทุกวันไม่ใช่เหรอ ถ้าพี่เพลิงโทรมาหาจะทำยังไง”นึกไปถึงอัคคี อย่างที่บุษบาบอกเขาโทรศัพท์มาจากสิงคโปร์ทุกวันจริง ๆ แต่โทรไม่นาน แค่ถามว่าทำอะไร กินข้าวห

  • ดอกไม้ในมืออัคคี   บทที่ 12 พี่ชอบกินเด็กครับ

    บทที่ 12 พี่ชอบกินเด็กครับปัง!เสียงปิดประตูทำให้บุษบาเดินออกมาจากห้องนอน มองเห็นน้องสาวฝาแฝดใบหน้าดูไม่ค่อยสบายใจนัก เพราะคิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น ทั้งริมฝีปากเม้มตึง“เป็นอะไรพลอย”เฮือก!! อุณากรรณสะดุ้งทันทีเพราะมัวแต่คิดเรื่องบนรถจนไม่ได้ยินเสียงพี่สาวฝาแฝดเดินออกมาจากห้องนอน“ไม่มีอะไร”รีบแสร้งเดินไปรินน้ำในครัวเพื่อปรับสีหน้า“อย่ามาโกหกเลย เราเป็นฝาแฝดกันนะ แค่มองหน้าก็รู้แล้วว่ามีเรื่อง”อุณากรรณยกน้ำขึ้นดื่มแล้วเดินออกจากห้องครัวตรงไปทางโถงนั่งเล่นของคอนโดมิเนียมขนาดกว้างพอสมควรขณะเดินไปพยายามคิดหาคำพูดบอกพี่สาว ตอนนี้เธอทำเรื่องยุ่งยากกว่าเดิม บุษบาต้องใจเสียแน่เมื่อได้ยินตุบ!หลังจากทิ้งร่างบนโซฟาแล้ววางแก้วน้ำลง จึงหันไปมองพี่สาวฝาแฝดตรง ๆ ตัดสินใจพูดความจริงออกไปดีกว่า“พี่เพลิงจะให้พ่อกับแม่ไปหาฤกษ์แล้ว”“ห๊า!! อะไรนะ ไหน ๆ พลอยบอกมีวิธี แล้ว แล้วนี่แค่พลอยไปทำงานวันเดียว ทำไมกลายเป็นแบบนี้”“ใจเย็น ๆ สิแพร พลอยเองก็ไม่เข้าใจ ตามที่แพรเล่ามา พี่เพลิงก็ดูไม่ได้ชอบอะไรแพร ซ้ำยังยืดเวลาขอดูใจออกไปอีก แต่ค่ำนี้หลังจากกลับจากทานข้าวกับลูกค้า ก่อนลงจากรถพี่เพลิงก็บอกจะให้พ่อก

  • ดอกไม้ในมืออัคคี   บทที่ 11 แต่งงานกันให้เร็วที่สุด

    บทที่ 11 แต่งงานกันให้เร็วที่สุดภายในรถเงียบสนิท หลังจากอุณากรรณบอกทางไปคอนโดมิเนียมซึ่งอยู่ใกล้กับที่ทำงาน ตัวเธอเองนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา หันหน้าหนีคนร่างโตไปนอกรถ มองรถบนถนนที่ยังหนาตาแม้ว่าดึกแล้วก็ตาม“พรุ่งนี้ไปทานข้าวกลางวันกัน”จู่ ๆ อัคคีเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบในรถ อุณากรรณไม่ตอบยังนั่งหันหน้าออกไปนอกรถ“เลน่า ยังงอนอยู่อีกเหรอครับ”“ใครงอนกันคะ แพรเปล่าสะหน่อย แค่ง่วง”เสียงหวานนุ่มขึ้นเสียงสูงเล็กน้อยไม่รู้ตัว ตอบทั้งที่ไม่หันหน้ามองคนร่างโตด้ายข้างแม้แต่น้อย จนเขาเองถอนหายใจ“ต่อไปพี่จะไม่พบกับเกรซอีก”“ก็แล้วแต่บอสสิคะ”“พี่จะไม่ติดต่อกับผู้หญิงคนอื่นอีก”ผู้หญิงคนอื่น? คงมีหลายคนสินะคราวนี้อุณากรรณไม่นั่งนิ่งเงียบ เอี้ยวหน้ากลับไปหาอัคคีทันควันเมื่อได้ยิน สีหน้าแสดงอารมณ์โกรธแต่ยังไม่รู้ตัวจนคนร่างสูงจ้องมองอย่างเผลอไผล“ก็แล้วแต่บอสสิคะ ไม่ใช่ธุระของแพร ไม่ต้องบอกแพรก็ได้ค่ะ”ดวงตากลมโตวิบวับแพรวระยับขณะที่พูดน้ำเสียงกระแทกเล็กน้อย จ้องตอบนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มออกดำไม่ลดละ แต่เพราะอัคคีเองไม่ปิดบังความปรารถนา แววตาจึงล้ำลึกขึ้นจนเป็นอุณากรรณต้องเบือนหน้าหนีพ่วงแก้มแดงซ่าน“ก

  • ดอกไม้ในมืออัคคี   บทที่ 10 ใครเอาแต่ใจ ใครดื้อ

    บทที่ 10 ใครเอาแต่ใจ ใครดื้อเพียงไม่นานนักรถหรูเลี้ยวเข้าถนนกว้างโค้งของโรงแรมระดับชั้นนำ“ที่จริงพี่เพลิงน่าจะให้คุณเกรซมา แพรแต่งตัวไม่เหมาะเลยค่ะ”“ไม่หรอก เลน่าแต่งตัวมาดีแล้ว อีกอย่างแทนตัวเองว่าเลน่าก็ถูกแล้วไม่ต้องแทนตัวเองว่าแพรกับพี่อีก”“ทำไมล่ะคะ แพรจะพูดชื่อไหนก็ได้นี่คะ ก็มันชื่อของแพร”อัคคีไม่ตอบ เขาเดินลงจากรถลงไปก่อนรอกระทั่งอุณากรรณลงจากรถจึงยื่นแขนออกมาให้คล้อง สังเกตว่าหญิงสาวชะงักคิดก่อนแต่ไม่นานเท่านั้นก็ยอมคล้องแขนเขาเดินขึ้นโถงบันไดลำแขนแกร่งแน่นอบอุ่นถึงร้อนจัด อุณากรรณมองมือตัวเองที่จับลำแขนนั้นไว้ มือเรียวเล็กของเธอเมื่อเทียบกับเขาแล้วยิ่งดูเล็กไปถนัดใจ“มาเถอะ พี่จะแนะนำให้รู้จัก”อุณากรรณละสายตาออกจากท่อนแขนแกร่ง มองตรงไปทางโต๊ะรับรองที่โทรศัพท์มาจองไว้ มีชายหนุ่มสองคนยืนรออยู่ก่อนหน้าแล้ว หน้าตาคล้ายเป็นคนชนชาติจีนดั่งเช่นคนสิงคโปร์ทั่ว ๆ ไป สวมชุดสูทนักธุรกิจ รูปร่างสันทัดไม่สูงไม่เตี้ย แต่พออัคคีเดินเข้าไปใกล้ทำให้ชายหนุ่มทั้งสองดูเตี้ยลงไปทันที“ริชาร์ด คาล นี่เลน่า คู่หมั้นผมครับ”คราวนี้อุณากรรณยิ้มไม่ออกแต่ก็พูดแก้ตัวไม่ได้ต่อหน้านักธุรกิจชาวสิงคโ

  • ดอกไม้ในมืออัคคี   บทที่ 9 พี่เพลิง

    บทที่ 9 พี่เพลิงอุณากรรณนั่งเขี่ยมือเล่นอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต เมื่อกลางวันตอนอยู่ในลิฟต์สองต่อสองว่าแย่แล้ว ตกเย็นพอขึ้นมานั่งรถคันเดียวกัน แม้ว่ารถคันใหญ่แต่ยังรับรู้ถึงไออุ่นจากคนตัวโตด้านข้างอยู่ดีทั้งกลิ่นบุหรี่ กลิ่นกายชาย สารพัดที่ทำให้สาวสะพรั่งอย่างเธอว้าวุ่นได้ จึงพยายามหาอย่างอื่นทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไปจากอัคคีดวงหน้าหวานซึ้งเบี่ยงไปด้านข้างเพื่อมองถนนท่ามกลางรถมากมายของเมืองหลวงที่ขยับไปได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น“วันนี้รถติดหน่อยนะครับนาย”เสียงชุมพลเอ่ยถึงขึ้นขณะที่รถแล่นจนเกือบจะคลาน“ไม่เป็นไร ยังพอมีเวลา”เสียงทุ้มต่ำด้านข้างคุยโต้ตอบกับคนขับรถสนิทสนมจนอุณากรรณแปลกใจ เธอมักไม่ค่อยพบคนในระดับนี้พูดคุยกับคนขับรถมาก่อน ส่วนใหญ่มักไว้ตัวและท่ามาก จึงเอี้ยวหน้าไปมอง ถึงกับสะดุ้งตกใจจริง ๆ เพราะเจอเข้ากับนัยน์ตาสีน้ำตาลที่หลุบมองเธออยู่ก่อนแล้วอย่างค้นหา“น้องแพรไม่เมื่อยเหรอครับ”“คะ คะ อะไรนะคะ”ใบหน้าคมเข้มยิ้มกว้างเมื่อได้ยินเสียงตอบมึนงง“ก็พี่ถามว่าน้องแพรไม่เมื่อยเหรอครับ นั่งตัวลีบอยู่ตรงนั้น ขยับมาอีกก็ได้นะ พี่ไม่กัดหรอก”“เออ ไม่เป็นไรค่ะ แพรไม่เมื่อยค

  • ดอกไม้ในมืออัคคี   บทที่ 8 บอส

    บทที่ 8 บอสขณะที่อัคคีกำลังเดินขึ้นอาคารสำนักงานก่อนจะเหลือบสายตามองเห็นหญิงสาวร่างสูงโปร่งของบุษบา ซึ่งวันนี้ดูสูงกว่าทุกวัน ทีแรกเขาเองไม่ได้ใส่ใจแต่เมื่อกวาดตามองอีกครั้งพลันสะดุดเข้ากับรองเท้าส้นสูงแบบสานพันข้อเท้า จึงไล่สายตาขึ้นไปยังใบหน้าอีกครั้ง หน้าหวานซึ้งยังคงเดิม สวยดั่งนางในวรรณคดี แต่มีบางอย่างผิดแปลกไปคงเป็นทรงผมที่ไม่มัดรวบตึงเหมือนทุกวัน หรือเพราะเสื้อผ้า กระโปรงสั้นเหนือเข่าอวดท่อนขาเรียวยาวขาวนวล หรือจะเป็นเพราะเสียงหัวเราะหวานนุ่มเบา ๆ เมื่อกำลังฟังเพื่อนนินทานินทา!! เมื่อเขาเดินเข้าใกล้จึงได้ยินเสียงของคนร่างอวบพูดขึ้นพร้อมคว้าเอวของบุษบาเข้าใกล้ จนตัวบุษบาเองหัวเราะร่วนออกมาอัคคีเริ่มชักสีหน้าจึงเรียกเสียงดังขึ้นให้พนักงานในบริษัทรับรู้ว่าเขาได้ยินและไม่พอใจร่างระหงของบุษบาไม่ได้สะดุ้งขึ้นเหมือนทุกครั้ง เธอเพียงยืดแผ่นหลังขึ้นเล็กน้อยแล้วค่อยเหลียวกลับมาสบตากับเขาดวงตากลมโตปนซึ้งซึ่งเหมือนจะรื้นนน้ำตาทุกครั้ง วันนี้กระจ่างใสพร้อมร่องรอยติเตียนส่งตรงมายังเขา จนอัคคีจดจ้องตอบอีกครั้งด้วยตาคมดุ“ค่ะ บอส”อัคคีหรี่ตาลงเล็กน้อยเพียงแวบเดียวก่อนเอ่ยเสียงราบเรียบ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status