แชร์

บทที่ 9 พี่เพลิง

ผู้เขียน: พริมริน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-12-02 12:54:49

บทที่ 9 พี่เพลิง

อุณากรรณนั่งเขี่ยมือเล่นอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต เมื่อกลางวันตอนอยู่ในลิฟต์สองต่อสองว่าแย่แล้ว ตกเย็นพอขึ้นมานั่งรถคันเดียวกัน แม้ว่ารถคันใหญ่แต่ยังรับรู้ถึงไออุ่นจากคนตัวโตด้านข้างอยู่ดี

ทั้งกลิ่นบุหรี่ กลิ่นกายชาย สารพัดที่ทำให้สาวสะพรั่งอย่างเธอว้าวุ่นได้ จึงพยายามหาอย่างอื่นทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไปจากอัคคี

ดวงหน้าหวานซึ้งเบี่ยงไปด้านข้างเพื่อมองถนนท่ามกลางรถมากมายของเมืองหลวงที่ขยับไปได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“วันนี้รถติดหน่อยนะครับนาย”

เสียงชุมพลเอ่ยถึงขึ้นขณะที่รถแล่นจนเกือบจะคลาน

“ไม่เป็นไร ยังพอมีเวลา”

เสียงทุ้มต่ำด้านข้างคุยโต้ตอบกับคนขับรถสนิทสนมจนอุณากรรณแปลกใจ เธอมักไม่ค่อยพบคนในระดับนี้พูดคุยกับคนขับรถมาก่อน ส่วนใหญ่มักไว้ตัวและท่ามาก จึงเอี้ยวหน้าไปมอง ถึงกับสะดุ้งตกใจจริง ๆ เพราะเจอเข้ากับนัยน์ตาสีน้ำตาลที่หลุบมองเธออยู่ก่อนแล้วอย่างค้นหา

“น้องแพรไม่เมื่อยเหรอครับ”

“คะ คะ อะไรนะคะ”

ใบหน้าคมเข้มยิ้มกว้างเมื่อได้ยินเสียงตอบมึนงง

“ก็พี่ถามว่าน้องแพรไม่เมื่อยเหรอครับ นั่งตัวลีบอยู่ตรงนั้น ขยับมาอีกก็ได้นะ พี่ไม่กัดหรอก”

“เออ ไม่เป็นไรค่ะ แพรไม่เมื่อยค่ะ บอสไม่ต้องห่วงแพรหรอกค่ะ”

“ไหนว่าเรียกบอสเฉพาะในที่ทำงานไงครับ นี่เราอยู่ในรถ เรียกพี่เพลิงเหมือนเดิมสิครับ”

อุณากรรณสะอึกในใจก่อนจะเม้มปาก

ตาบ้า! นี่หื่นกามหรือเปล่า?

“เราจะไปที่ไหนกันคะ”

อัคคียิ้มอีกครั้งเมื่อหญิงสาวด้านข้างทำเลี่ยงแสร้งถามเรื่องอื่น แต่เขาจะปล่อยไปก่อน

“ไปโรงแรมในเครือของเราเอง”

“แล้วแพรต้องทำหน้าที่อะไรบ้างคะ”

“เดี๋ยวก็รู้ครับ เออ น้องแพรมีชื่อเรียกอื่นอีกไหมครับ เอาไว้แนะนำตัวให้คนต่างชาติ เขาคงเรียกชื่อน้องแพรไม่ถนัด”

อุณากรรณสบตาอัคคีอีกครั้งก่อนจะเบือนหน้าหนีดวงตาเข้ม ใจไม่อยากบอกชื่อเล่นที่เธอใช้ยามอยู่บนเรือ แต่มันก็จริงอย่างที่อัคคีบอกเพราะตอนทำงานไม่มีใครออกเสียงเรียกชื่อเธอได้สักคน

“เลน่า”

“เลน่า?”

เสียงทุ้มทวนชื่อเบา ๆ นึกถึงแฟ้มเมื่อช่วงบ่ายที่ชุมพลทำรายการของอุณากรรณมาให้ ชื่อเลน่าเป็นชื่อที่ไว้ใช้เรียกตอนเธอทำงานบนเรือ

“เป็นชื่อที่เพราะมาก เย้ายวน”

“พี่เพลิงไม่ต้องแปลก็ได้ค่ะ”

อุณากรรณรีบบอกเสียงเข้ม ตอนเขาเรียกชื่อเลน่า เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกอายกับชื่อที่เพื่อน ๆ พากันตั้งให้ ใบหน้าจึงแดงซ่านขึ้นมาจนอัคคีมองเห็นได้อย่างชัดเจน

“ทำไมต้องอายด้วยครับ เลน่า เป็นชื่อที่เพราะมาก พี่ชอบ อีกอย่างเวลาเลน่าเรียกพี่ว่าพี่เพลิง พี่ยิ่งชอบ”

โอ้ย!! จะขยันหยอดคำหวานไปถึงไหนตาบ้า!

 อุณากรรณเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันในใจ แต่ต่อหน้ายังยิ้มออกมาเพียงมุมปาก ให้ดูคล้ายกับบุษบาเวลาอาย แล้วจึงมองอัคคีอย่างแปลกใจเมื่อเห็นเขาหัวเราะออกมาในลำคอ

ชายร่างสูงลูกเสี้ยวพูดยั่วอารมณ์หญิงสาวด้านข้างจนพอใจแล้วจึงค่อยปล่อยเธอให้ระงับอารมณ์ที่คุกรุ่นขึ้นมาเสียก่อน

อัคคีนั่งพิงพนักมองไปยังด้านนอกเพื่อใช้เวลาครุ่นคิดถึงแฟ้มวันนี้

หญิงสาวด้านข้างเป็นฝาแฝดคนน้องชื่ออุณากรรณ จบเอกภาษามหาวิทยาลัยดังได้ไม่นานก็ขอทางบ้านไปทำงานหาประสบการณ์บนเรือสำราญได้เดือนกว่าเท่านั้น

ในแฟ้มบอกกระทั่งบุคลิกร่าเริงเป็นกันเองกับทุกคน กินง่ายไม่เรื่องมาก และพูดจาโผงผางไม่ค่อยคิด

สูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบ ไม่มากไม่น้อย แม้ว่าจะสวมรองเท้าส้นสูงแต่ยังเตี้ยกว่าอัคคีเพียงเลยปลายคางมาเท่านั้น

อุณากรรณทำให้เขารู้สึกสนใจไม่น้อยผิดไปจากพี่สาวฝาแฝด ครั้งแรกที่เห็นเมื่อกลางวัน ตามปกติเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับบุษบาแม้แต่น้อย ยังมองเห็นเป็นน้องสาวมาตลอด ทั้งยังคิดหาทางเลี่ยงงานแต่งงาน

แต่พอชายร่างสูงเช่นเขาเจอเข้ากับอุณากรรณ ร่างกายหลั่งโฮร์โมนบางอย่างที่ทำให้ร่างกายทั้งร่างครางกระหึ่ม เขาต้องการจับต้อง ต้องการครอบครองเป็นเจ้าของ

อัคคีเบือนหน้ากลับไปหาหญิงสาวที่กำลังทำให้เขาเกิดปัญหา ร่างบอบบางยังนั่งนิ่งมองไปด้านนอกเช่นเดียวกันกับเขา ผมยาวสยายปิดใบหน้าจนเขามองไม่เห็นสีหน้าของอุณากรรณว่ากำลังคิดอะไรอยู่ในใจ

สายตาคมเข้มไล่ลงไปยังปลีน่องพ้นกระโปรง ยาวเรียวเล็กและเนียนสวย ท่านั่งไขว้ห้างยิ่งดึงรั้งให้กระโปรงหดสั้นลงจนเกิดมุมลึกทอดยาวเข้าไปใต้กระโปรง

เขาไล่สายตาลงไปอีกกระทั่งถึงข้อเท้าที่ถูกพันด้วยสายหนังประดับคริสตัวแบรนด์ดังราคาแพง จึงยิ้มมุมปาก

อุณากรรณไม่รู้ตัวสักนิดว่าตัวเองแตกต่างจากพี่สาวมากขนาดไหน เธอคิดเพียงแค่ว่าหน้าตา รูปร่าง เหมือนกันแล้วจะสามารถสลับตัวหลอกลวงคนอื่นได้ แค่การแต่งตัวก็แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน

บุษบามักแต่งตัวเรียบง่ายเน้นใช้งานได้ทุกวัน และเรียบร้อยปิดมิดชิด ส่วนคนน้องที่อัคคีกำลังพิจารณาอยู่ แต่งตัวตามแฟชั่นราคาแพงและเปิดเผยเนื้อตัวมากกว่า ตัวเขาเองชอบอย่างหลังมากกว่า

“พี่เพลิงคะ นักธุรกิจที่มาค่ำนี้กี่คนคะ”

อัคคีเลื่อนสายตาจากข้อเท้าสวยขึ้นมองหน้าหวานซึ้งซึ่งยังบึ้งตึง มีรอยแดงพาดผ่านพ่วงแก้มทั้งสอง แสดงว่าอุณากรรณแสร้งถามเขาเพื่อดึงความสนใจของเขาออกจากขาสวยของตัวเธอเอง จึงยิ้มมุมปาก

“สองคนครับ”

อุณากรรณยกขาในท่าไขว่ห้างลงเมื่อเห็นแล้วว่าอัคคีเลื่อนสายตาออกมาจากขาเธอแล้ว

ฮึ! นี่เป็นพวกถ้ำมองด้วยเหรอเนี่ย ไม่รู้ว่าพี่แพรต้องทนอยู่ใต้สายตาของคนหื่นกามนี่มากี่วันแล้ว

“แล้วทานข้าวเย็นเรียบร้อยเรากลับเลยใช่ไหมคะ”

“ทำไมครับ หรือว่าเลน่าอยากจะไปต่อที่ไหน”

“ไม่ค่ะ พะ เอ้ย! เลน่าทำงานทั้งวันค่อนข้างเพลียนิดหน่อย”

“ถ้างั้นพี่จะเร่งให้ไม่ดึกนะครับ”

“ไม่เป็นไรคะ พี่เพลิงคุยธุรกิจตามสบายเลยค่ะ”

“ที่จริงไม่ได้นัดคุยเรื่องงานอะไรหรอกครับ นัดพูดคุยเรื่องทั่วไป”

“พี่เพลิงต้องพูดเพราะแบบนี้กับทุกคนหรือเปล่าคะ”

อัคคียิ้มกว้างขึ้นอีก อุณากรรณเองก็ไม่ยอมหลบตา จ้องหน้าเพื่อรอคำตอบ

“ครับ เป็นนิสัยเสียแล้ว น้องเลน่าไม่ชอบเหรอครับ”

อุณากรรณหันหน้าหนี อันที่จริงเธอไม่ค่อยคุ้นกับผู้ชายพูดเพราะทุกคำ ยิ่งทำงานกับคนต่างชาติรูปประโยคเท่าเทียมกัน แต่พอเป็นเสียงทุ้มนุ่มของอัคคี ตัวเธอเองรู้สึกคันยุบยิบข้างในบอกไม่พูด

“เปล่าคะ พี่เพลิงพูดอย่างที่เคยเถอะค่ะ”

ดวงตากลมโตมองรถราขวักไขว่เพื่อเบี่ยงความสนใจของตัวเองออกจากคนร่างโตด้านข้าง ความรู้สึกแปลก ๆ คล้ายลูกไฟในท้องเมื่อนึกถึงตอนอัคคีพูดกับผู้หญิงคนอื่นแบบนี้ อุณากรรณไม่ชอบความรู้สึกนี้เอาเสียเลย เธอยังไม่แน่ใจว่ามันคือความรู้สึกอะไร เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอเป็นแบบนี้

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ดอกไม้ในมืออัคคี   บทที่ 13 หนีเที่ยว

    บทที่ 13 หนีเที่ยว“พลอย จะออกไปข้างนอกเหรอ”บุษบาที่นั่งอยู่ตรงโซฟาห้องนั่งเล่นเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์มือถือ เอ่ยทักเมื่อเห็นอุณากรรณแต่งตัวจัดเต็มในชุดรัดรูปสีดำตัวสั้น ตัวเสื้อควานลึกยังดีที่มีเสื้อคลุมตัวเล็กพอให้ปกปิดบ้าง รองเท้าส้นสูงสีดำสานไขว้ประดับคริสตัลคู่เก่งราคาแพง ดัดผมลอนเล็กน้อยเป็นคลื่นสยายลงกลางหลัง แต่งหน้าสโมคกี้อายแต่ไม่เข้มมาก ริมฝีปากสีแดงสด“ใช่แล้ว นุ้ยกับติซ่าชวนไปเที่ยวผับเปิดใหม่”“ใครกัน?”“โธ่เอ้ย! แพร ก็เพื่อนร่วมงานยังไงล่ะ แพรไปทำงานเป็นอาทิตย์นี่ไม่รู้จักใครเลยเหรอไง”อุณากรรณพูดพรางหมุนดูตัวเองในกระจกหน้าต่างบานใหญ่ที่สะท้อนหน้าหวานซึ้งเพื่อสำรวจความเรียบร้อยอีกครั้ง“แล้วนี่พี่เพลิงรู้หรือเปล่า”“เกี่ยวอะไรกับพี่เพลิงด้วยแพร”อุณากรรณคว้ากระเป๋าหนังแกะสีดำทรงสี่เหลี่ยมขนาดเก้านิ้วขึ้นสะพายไหล่ เอี้ยวหน้ามองบุษบาฝาแฝดที่เหมือนตัวเองดั่งเงาในกระจก แต่นิสัยผิดแผกแตกต่างราวฟ้ากับดิน“อ้าว ก็พี่เพลิงเขาโทรหาทุกวันไม่ใช่เหรอ ถ้าพี่เพลิงโทรมาหาจะทำยังไง”นึกไปถึงอัคคี อย่างที่บุษบาบอกเขาโทรศัพท์มาจากสิงคโปร์ทุกวันจริง ๆ แต่โทรไม่นาน แค่ถามว่าทำอะไร กินข้าวห

  • ดอกไม้ในมืออัคคี   บทที่ 12 พี่ชอบกินเด็กครับ

    บทที่ 12 พี่ชอบกินเด็กครับปัง!เสียงปิดประตูทำให้บุษบาเดินออกมาจากห้องนอน มองเห็นน้องสาวฝาแฝดใบหน้าดูไม่ค่อยสบายใจนัก เพราะคิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น ทั้งริมฝีปากเม้มตึง“เป็นอะไรพลอย”เฮือก!! อุณากรรณสะดุ้งทันทีเพราะมัวแต่คิดเรื่องบนรถจนไม่ได้ยินเสียงพี่สาวฝาแฝดเดินออกมาจากห้องนอน“ไม่มีอะไร”รีบแสร้งเดินไปรินน้ำในครัวเพื่อปรับสีหน้า“อย่ามาโกหกเลย เราเป็นฝาแฝดกันนะ แค่มองหน้าก็รู้แล้วว่ามีเรื่อง”อุณากรรณยกน้ำขึ้นดื่มแล้วเดินออกจากห้องครัวตรงไปทางโถงนั่งเล่นของคอนโดมิเนียมขนาดกว้างพอสมควรขณะเดินไปพยายามคิดหาคำพูดบอกพี่สาว ตอนนี้เธอทำเรื่องยุ่งยากกว่าเดิม บุษบาต้องใจเสียแน่เมื่อได้ยินตุบ!หลังจากทิ้งร่างบนโซฟาแล้ววางแก้วน้ำลง จึงหันไปมองพี่สาวฝาแฝดตรง ๆ ตัดสินใจพูดความจริงออกไปดีกว่า“พี่เพลิงจะให้พ่อกับแม่ไปหาฤกษ์แล้ว”“ห๊า!! อะไรนะ ไหน ๆ พลอยบอกมีวิธี แล้ว แล้วนี่แค่พลอยไปทำงานวันเดียว ทำไมกลายเป็นแบบนี้”“ใจเย็น ๆ สิแพร พลอยเองก็ไม่เข้าใจ ตามที่แพรเล่ามา พี่เพลิงก็ดูไม่ได้ชอบอะไรแพร ซ้ำยังยืดเวลาขอดูใจออกไปอีก แต่ค่ำนี้หลังจากกลับจากทานข้าวกับลูกค้า ก่อนลงจากรถพี่เพลิงก็บอกจะให้พ่อก

  • ดอกไม้ในมืออัคคี   บทที่ 11 แต่งงานกันให้เร็วที่สุด

    บทที่ 11 แต่งงานกันให้เร็วที่สุดภายในรถเงียบสนิท หลังจากอุณากรรณบอกทางไปคอนโดมิเนียมซึ่งอยู่ใกล้กับที่ทำงาน ตัวเธอเองนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา หันหน้าหนีคนร่างโตไปนอกรถ มองรถบนถนนที่ยังหนาตาแม้ว่าดึกแล้วก็ตาม“พรุ่งนี้ไปทานข้าวกลางวันกัน”จู่ ๆ อัคคีเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบในรถ อุณากรรณไม่ตอบยังนั่งหันหน้าออกไปนอกรถ“เลน่า ยังงอนอยู่อีกเหรอครับ”“ใครงอนกันคะ แพรเปล่าสะหน่อย แค่ง่วง”เสียงหวานนุ่มขึ้นเสียงสูงเล็กน้อยไม่รู้ตัว ตอบทั้งที่ไม่หันหน้ามองคนร่างโตด้ายข้างแม้แต่น้อย จนเขาเองถอนหายใจ“ต่อไปพี่จะไม่พบกับเกรซอีก”“ก็แล้วแต่บอสสิคะ”“พี่จะไม่ติดต่อกับผู้หญิงคนอื่นอีก”ผู้หญิงคนอื่น? คงมีหลายคนสินะคราวนี้อุณากรรณไม่นั่งนิ่งเงียบ เอี้ยวหน้ากลับไปหาอัคคีทันควันเมื่อได้ยิน สีหน้าแสดงอารมณ์โกรธแต่ยังไม่รู้ตัวจนคนร่างสูงจ้องมองอย่างเผลอไผล“ก็แล้วแต่บอสสิคะ ไม่ใช่ธุระของแพร ไม่ต้องบอกแพรก็ได้ค่ะ”ดวงตากลมโตวิบวับแพรวระยับขณะที่พูดน้ำเสียงกระแทกเล็กน้อย จ้องตอบนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มออกดำไม่ลดละ แต่เพราะอัคคีเองไม่ปิดบังความปรารถนา แววตาจึงล้ำลึกขึ้นจนเป็นอุณากรรณต้องเบือนหน้าหนีพ่วงแก้มแดงซ่าน“ก

  • ดอกไม้ในมืออัคคี   บทที่ 10 ใครเอาแต่ใจ ใครดื้อ

    บทที่ 10 ใครเอาแต่ใจ ใครดื้อเพียงไม่นานนักรถหรูเลี้ยวเข้าถนนกว้างโค้งของโรงแรมระดับชั้นนำ“ที่จริงพี่เพลิงน่าจะให้คุณเกรซมา แพรแต่งตัวไม่เหมาะเลยค่ะ”“ไม่หรอก เลน่าแต่งตัวมาดีแล้ว อีกอย่างแทนตัวเองว่าเลน่าก็ถูกแล้วไม่ต้องแทนตัวเองว่าแพรกับพี่อีก”“ทำไมล่ะคะ แพรจะพูดชื่อไหนก็ได้นี่คะ ก็มันชื่อของแพร”อัคคีไม่ตอบ เขาเดินลงจากรถลงไปก่อนรอกระทั่งอุณากรรณลงจากรถจึงยื่นแขนออกมาให้คล้อง สังเกตว่าหญิงสาวชะงักคิดก่อนแต่ไม่นานเท่านั้นก็ยอมคล้องแขนเขาเดินขึ้นโถงบันไดลำแขนแกร่งแน่นอบอุ่นถึงร้อนจัด อุณากรรณมองมือตัวเองที่จับลำแขนนั้นไว้ มือเรียวเล็กของเธอเมื่อเทียบกับเขาแล้วยิ่งดูเล็กไปถนัดใจ“มาเถอะ พี่จะแนะนำให้รู้จัก”อุณากรรณละสายตาออกจากท่อนแขนแกร่ง มองตรงไปทางโต๊ะรับรองที่โทรศัพท์มาจองไว้ มีชายหนุ่มสองคนยืนรออยู่ก่อนหน้าแล้ว หน้าตาคล้ายเป็นคนชนชาติจีนดั่งเช่นคนสิงคโปร์ทั่ว ๆ ไป สวมชุดสูทนักธุรกิจ รูปร่างสันทัดไม่สูงไม่เตี้ย แต่พออัคคีเดินเข้าไปใกล้ทำให้ชายหนุ่มทั้งสองดูเตี้ยลงไปทันที“ริชาร์ด คาล นี่เลน่า คู่หมั้นผมครับ”คราวนี้อุณากรรณยิ้มไม่ออกแต่ก็พูดแก้ตัวไม่ได้ต่อหน้านักธุรกิจชาวสิงคโ

  • ดอกไม้ในมืออัคคี   บทที่ 9 พี่เพลิง

    บทที่ 9 พี่เพลิงอุณากรรณนั่งเขี่ยมือเล่นอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต เมื่อกลางวันตอนอยู่ในลิฟต์สองต่อสองว่าแย่แล้ว ตกเย็นพอขึ้นมานั่งรถคันเดียวกัน แม้ว่ารถคันใหญ่แต่ยังรับรู้ถึงไออุ่นจากคนตัวโตด้านข้างอยู่ดีทั้งกลิ่นบุหรี่ กลิ่นกายชาย สารพัดที่ทำให้สาวสะพรั่งอย่างเธอว้าวุ่นได้ จึงพยายามหาอย่างอื่นทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไปจากอัคคีดวงหน้าหวานซึ้งเบี่ยงไปด้านข้างเพื่อมองถนนท่ามกลางรถมากมายของเมืองหลวงที่ขยับไปได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น“วันนี้รถติดหน่อยนะครับนาย”เสียงชุมพลเอ่ยถึงขึ้นขณะที่รถแล่นจนเกือบจะคลาน“ไม่เป็นไร ยังพอมีเวลา”เสียงทุ้มต่ำด้านข้างคุยโต้ตอบกับคนขับรถสนิทสนมจนอุณากรรณแปลกใจ เธอมักไม่ค่อยพบคนในระดับนี้พูดคุยกับคนขับรถมาก่อน ส่วนใหญ่มักไว้ตัวและท่ามาก จึงเอี้ยวหน้าไปมอง ถึงกับสะดุ้งตกใจจริง ๆ เพราะเจอเข้ากับนัยน์ตาสีน้ำตาลที่หลุบมองเธออยู่ก่อนแล้วอย่างค้นหา“น้องแพรไม่เมื่อยเหรอครับ”“คะ คะ อะไรนะคะ”ใบหน้าคมเข้มยิ้มกว้างเมื่อได้ยินเสียงตอบมึนงง“ก็พี่ถามว่าน้องแพรไม่เมื่อยเหรอครับ นั่งตัวลีบอยู่ตรงนั้น ขยับมาอีกก็ได้นะ พี่ไม่กัดหรอก”“เออ ไม่เป็นไรค่ะ แพรไม่เมื่อยค

  • ดอกไม้ในมืออัคคี   บทที่ 8 บอส

    บทที่ 8 บอสขณะที่อัคคีกำลังเดินขึ้นอาคารสำนักงานก่อนจะเหลือบสายตามองเห็นหญิงสาวร่างสูงโปร่งของบุษบา ซึ่งวันนี้ดูสูงกว่าทุกวัน ทีแรกเขาเองไม่ได้ใส่ใจแต่เมื่อกวาดตามองอีกครั้งพลันสะดุดเข้ากับรองเท้าส้นสูงแบบสานพันข้อเท้า จึงไล่สายตาขึ้นไปยังใบหน้าอีกครั้ง หน้าหวานซึ้งยังคงเดิม สวยดั่งนางในวรรณคดี แต่มีบางอย่างผิดแปลกไปคงเป็นทรงผมที่ไม่มัดรวบตึงเหมือนทุกวัน หรือเพราะเสื้อผ้า กระโปรงสั้นเหนือเข่าอวดท่อนขาเรียวยาวขาวนวล หรือจะเป็นเพราะเสียงหัวเราะหวานนุ่มเบา ๆ เมื่อกำลังฟังเพื่อนนินทานินทา!! เมื่อเขาเดินเข้าใกล้จึงได้ยินเสียงของคนร่างอวบพูดขึ้นพร้อมคว้าเอวของบุษบาเข้าใกล้ จนตัวบุษบาเองหัวเราะร่วนออกมาอัคคีเริ่มชักสีหน้าจึงเรียกเสียงดังขึ้นให้พนักงานในบริษัทรับรู้ว่าเขาได้ยินและไม่พอใจร่างระหงของบุษบาไม่ได้สะดุ้งขึ้นเหมือนทุกครั้ง เธอเพียงยืดแผ่นหลังขึ้นเล็กน้อยแล้วค่อยเหลียวกลับมาสบตากับเขาดวงตากลมโตปนซึ้งซึ่งเหมือนจะรื้นนน้ำตาทุกครั้ง วันนี้กระจ่างใสพร้อมร่องรอยติเตียนส่งตรงมายังเขา จนอัคคีจดจ้องตอบอีกครั้งด้วยตาคมดุ“ค่ะ บอส”อัคคีหรี่ตาลงเล็กน้อยเพียงแวบเดียวก่อนเอ่ยเสียงราบเรียบ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status