3 ไม่เหมือนกับที่คิดไว้
เผลอแป๊บเดียวชุดคลุมอาบน้ำที่ลลิตาเคยสวมใส่ก็ร่วงไปอยู่ที่พื้นห้อง ตอนนี้เธอเปลือยเปล่าล่อนจ้อนโชว์เนื้อหนัง ส่วนเว้าส่วนโค้งและความเนินนูนแสนอวบอิ่มให้อธิติได้มองแบบไม่มีอะไรปกปิด ทั้งเขินทั้งอาย ทั้งตื่นเต้น ตื่นกลัวและประหม่าแบบสุด ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังรู้สึกเคลิบเคลิ้มและต้องการ จูบของเขาปลุกเร้าเธอได้อย่างดี สัมผัสแผ่วเบาของเขาทำให้ความปรารถนาในกายมันลุกฮือขึ้นมา
เขาฟอนเฟ้นเคล้นคลึงไปทั่วทุกสัดส่วน จุดที่เน้นบ่อยที่สุดคือสองเต้าอวบ ๆ ซ่อนรูปของเธอ เห็นลลิตามาตั้งแต่เด็ก รู้ว่าเธอสวยน่ารัก แต่ไม่คิดว่าจะสวยเย้ายวนและแอบซ่อนของดีเอาไว้แบบนี้ แค่ได้เห็นเธอเปลือยกาย แค่ได้เห็นผิวขาวเนียนและความอวบอั๋นของเธอ เขาก็ปวดหนึบไปหมดแล้ว ละจูบจากปากไปดูดเม้มตามผิวกาย ทว่ามันยังไม่หนำใจอธิติ มือเขาลูบไล้จากหน้าท้องแบนราบไปคว้าหมับเข้าที่สะโพก ขนาดนี้แล้วก็ยังไม่พอ ไล่ลากลิ้นเล็มเลียมาจนถึงสองเข้า ดูดเข้าตรงจุดกึ่งกลางพร้อมกับย้ายมือไปเคล้นก้นของเธอ
มันหวานฉ่ำไปหมด ละมุนลิ้นในทุกส่วนที่เขาได้ลิ้มลอง
สัมผัสที่อธิติมอบให้มันก่อเกิดเป็นความกระสันเสียวจนทำให้ลลิตาส่งเสียงครางกระเส่าออกมา เธอไม่เคยรับรู้ถึงความรู้สึกนี้มาก่อนในชีวิต มันวาบหวาม มันร้อนรุ่ม ความเร่าร้อนภายในกายมันแผ่ซ่านไปทั่วทุกอณู ยิ่งเขาดูดกินเธอเร็วรัวมากเท่าไร เธอก็ยิ่งเสียวมากเท่านั้น เสียวจนแทบทนไม่ไหว รู้สึกมากจนไม่อาจกักเก็บความรู้สึกเอาไว้ได้ สุดท้ายก็ต้องร้องครางออกมา
“เฮีย…เฮียอี้…หลินเสียว” เธอครางออกมาเป็นชื่อของเขาจริง ๆ บอกให้เขารับรู้ถึงความรู้สึกที่มีอยู่ในตอนนี้ เขารับรู้แต่ไม่คิดจะหยุดทำ ยิ่งเธอเสียวน่ะเขายิ่งชอบและจะทำให้เสียวมากไปกว่านี้
อธิติกำลังทำในสิ่งที่เขาไม่ชอบทำ ปกติเขาไม่ค่อยเล้าโลมปลุกอารมณ์ให้คู่นอน อย่างที่เคยบอกว่ามาถึงก็ลากขึ้นเตียง จับยัดแล้วกระแทก ๆ จนเสร็จแล้วก็แยกย้ายไปคนละทาง แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป เขากำลังเล้าโลมปลุกเร้าลลิตา ไม่รู้มันเป็นเพราะเธอไม่เคย เขาเลยอยากช่วย หรือเพราะเห็นความสวย ความไร้เดียงสาไม่เป็นงานของเธอแล้วมันอดใจไม่ไหวกันแน่ ละเรียวลิ้นจากสองเต้าย้ายกลับไปจู่โจมจูบเธอ ขณะที่มือก็ย้ายจากก้นมาที่ขา จับมันถ่างออกแล้วแทรกกายเข้าไปแนบชิดมากขึ้น ดูดลิ้นแลกสัมผัสกับเธอที่เบื้องบน เบื้องล่างก็เริ่มคืบคลานเรียวนิ้วยาว ๆ เข้ามา
“ฮึก!” ลลิตาตกใจเล็กน้อยที่ถูกสัมผัสของสงวน เธอถอนจูบออกมาส่งสายตาเร้าอารมณ์กับคนด้านบน “เฮียอี้…”
“หืม?” อธิติเองก็จ้องตาเธอไม่วาง ตามองเธอแต่มือล้วงลึกเข้าไปวนคลึงที่กลางกายซึ่งชุ่มฉ่ำด้วยน้ำหวานจากกายงดงามไร้ที่ติ
“เฮีย…เฮียจะทำอะไร?”
“ก็ช่วยเธอไง”
“ช่วยยังไง?” ถามอย่างคนไม่รู้
“ช่วยให้เธออยากมากกว่านี้ เฮียจะไม่รุนแรงจนเธอเจ็บ ไม่ต้องกลัว…แล้วก็ไม่ต้องเกร็ง ปล่อยตัวตามสบายนะหลิน” พูดไปเขาก็คลึงเคล้นเธอไปด้วย เพียงวนนิ้วตรงจุดกระสัน ยังไม่สอดลึกเข้าไปด้านใน แต่เท่านี้ก็ทำให้ลลิตาเสียวได้อย่างมากมาย
“เฮีย…หลินเสียว เสียวมากเลย” น้ำเสียงแทบจะออกมาเป็นลมแผ่ว ๆ เพราะลลิตาพูดจนคล้ายจะเป็นเสียงคราง อธิติกำลังใช้มือทำให้เธอ ยิ่งเขาวนคลึงเธอถี่เร็วมากเท่าไร เธอก็ยิ่งกระสันหวามไหวมากเท่านั้น มันรู้สึกมากเสียจนอยู่นิ่งไม่ได้ บิดกายเร้า ขาทั้งสองข้างเดี๋ยวหนีบแนบชิด เดี๋ยวถ่างแอ่นอ้าถ่างกว้าง ความเสียวรุนแรงทำให้เธอกระดกกายขึ้นไปหานิ้วของเขาอย่างเป็นอัตโนมัติ
“บอกเฮียสิว่าเธอรู้สึกยังไง”
“ไม่ไหว…ฮึก! เฮียอี้…หลินไม่ไหวแล้ว มันเสียวเกินไป แบบนี้มะ…อึก!” พูดไม่ทันขาดคำลลิตาก็กระตุกครืน เธอสำเร็จความใคร่เป็นครั้งแรกในชีวิต มันสุขจนล้นทะลักออกมาเป็นน้ำหยาดเยิ้ม
“เสร็จ?” อธิติยิ้มถาม “กระตุกขนาดนี้ต้องเสร็จอยู่แล้ว”
“เฮียอย่าเยาะเย้ย!” เธอเขินจนแทบอยากจะมุดหน้าหนี แต่ถูกเขาควบคุมเอาไว้แบบนี้แล้วจะหนีไปไหนได้
“เฮียไม่ได้เยาะเย้ย ทำไมจะต้องเยาะเย้ยด้วย?”
“ก็มันน่าอาย!”
“น่าอายตรงไหน?”
“ไม่รู้! แต่หลินอาย!” อายที่เผยสัญชาตญาณแสนลึกซึ้งให้เขาได้เห็น อายที่โชว์ทุกส่วนของร่างกายให้เขาได้รับรู้ อายที่สุดคือครางเสียงดังลั่นไปทั่วห้อง ถ้าทำเรื่องนี้กับคนที่ไม่รู้จักมาเกือบทั้งชีวิตก็คงไม่รู้สึกอายแบบนี้ แต่นี่เพราะเป็นเขา เพราะเป็นเฮียอี้…เธอถึงได้อายจนทำอะไรไม่ถูก
“ไม่ต้องอาย ไม่มีอะไรที่น่าอายเลย”
อธิติพยายามปลอบความเขินอายนั้นด้วยคำพูดและจูบ เขามอบจูบให้ลลิตาอีกครั้ง เป็นจูบสั้น ๆ ก่อนจะไล่ต่ำลงเบื้องล่าง เขาได้เห็นแล้วว่าด้านบนเธอสวยแค่ไหน ตอนนี้อยากดูด้านล่างแบบเต็มตา พอได้เห็นก็ถึงกับต้องกลืนน้ำลายลงคอ นูนอวบ แดงก่ำฉ่ำน้ำ ไรขนที่ปกคลุมบาง ๆ ก็น่ารักอย่างบอกไม่ถูก คนอะไรจะสวยไปทั่วทุกส่วนของร่างกายได้ขนาดนี้
ใครจะบอกว่าลลิตานั้นสวยบ้าน ๆ สวยธรรมดาก็พูดไปเถอะ แต่อธิติคนนี้ขอพูดไว้เลยว่าเธอสวยจนเขาละสายตาไปไหนไม่ได้ แบบนี้มันเรียกว่าสวยมหัศจรรย์ เขาเห็นมาเยอะ ไอ้ที่ว่าสวยประจักษ์อะไรนั่นสู้ตรงหน้าเขาตอนนี้ไม่ได้สักคน อดคิดไม่ได้ว่าลลิตามีของดีขนาดนี้แล้วจะเก็บไว้ทำไมตั้งยี่สิบกว่าปี เป็นเขาจะเปิดโอนลี่แฟน เรียกเงินจากไอ้พวกหื่นกามเอามากินเที่ยวให้หมด
แต่ดีแล้วที่เธอไม่ทำ เพราะเขาเริ่มจะหวงขึ้นมาแล้วสิ
มีของดีก็ต้องเก็บไว้ชื่นชมคนเดียว จะแบ่งคนอื่นให้โง่ทำไม?
“เฮีย!” ลลิตาส่งใช้สองมือปกปิดความงามกลางกายเอาไว้ในตอนที่รู้ตัวว่าถูกอธิติจ้องมองราวกับจะสวาปามกลืนกินมัน ทว่าเขากลับปัดมือเธอออกอย่างเร็วไว ไม่เพียงเท่านั้นยังแลบลิ้นลากเลียตรงร่องแดงก่ำไปหนึ่งที “เฮีย!”
“หืม?”
“จะ…จะทำอะไร?”
“จะเลีย”
“ดะ ได้เหรอ?”
“แล้วทำไมจะไม่ได้?” จบคำเขาก็ทำอย่างที่ตั้งใจ ใช้ลิ้นเรียวยาวอุ่น ๆ ปาดเลียแถมยังดูด จูบเธอว่าหวานแล้ว ดูดนมก็ว่าหวานแต่นี่มันคือสุดยอดของความอร่อย แบบนี้มันไม่ใช่เล่น ๆ แล้ว ถ้าลลิตาจะรสเลิศขนาดนี้แล้วเขาจะอดใจไม่กินเธอซ้ำแล้วซ้ำอีกได้ยังไงกัน
“เฮีย…ฮึก! เสียวเกินไปแล้ว…เฮียอี้!” หญิงสาวเริ่มครางออกมาอีกครั้ง ความกระสันซ่านครั้งนี้มันรุนแรงกว่าที่ผ่านมา ลิ้นที่ชอนไชเข้ามาในกาย สัมผัสเลียรัว ๆ พร้อมการดูดดื่มมันกำลังทำให้เธอคลั่ง ก้นเธอลอยไม่ติดเตียง ถ่างขาแอ่นรับเรียวลิ้นเขาอย่างหลงลืมความเขินอาย มันเสียวจนถึงที่สุด เสียวจนแทบทนไม่ไหว
เสียงครางหวาน ๆ ของลลิตามันเพราะเสนาะหูอธิติ ยอมรับตรงนี้เลยว่าเขาชอบเสียงครางของเธอ กล้าพูดเลยว่าไม่เคยอยากทำให้ผู้หญิงคนไหนครางออกมามากเท่านี้มาก่อน ยิ่งเธอครางถี่มากเท่าไรเขาก็ยิ่งเร่งความเร็วปลายลิ้นมากเท่านั้น แต่มันไม่พอ…เขาอยากให้เธอครางดังมากกว่านี้ อยากเห็นเธอร้องเรียกหาเขามากกว่านี้อีก
เขาเริ่มใช้นิ้วเข้ามาช่วย ทั้งดูดทั้งเลีย พลางค่อย ๆ สอดนิ้วเข้าลึกสู่ภายใน จังหวะนั้นลลิตาสะดุ้งเล็กน้อย ภายในเธอคับแน่น โพรงอุ่นตุบตอดรัดนิ้วเขาเป็นจังหวะ อธิติรู้ดีว่าต้องทำยังไง ตวัดเกี่ยวเธอ กระทุ้งนิ้วกลางยาว ๆ ส่งปลายนิ้วไปแตะถี่ ๆ ที่จุดเสียวภายใน เพียงเท่านั้นเธอก็เสียวจนถึงที่สุด เสียวจนน้ำในกายล้นทะลักออกมาใส่ปากเขา
“อึก! เฮียอี้…หลินไม่ไหวแล้ว! ฮึก! เฮียหยุดก่อน…ขอร้อง!” ลลิตาสุขจนล้น สำเร็จความใคร่เป็นครั้งที่สอง ความเสียวที่เพิ่งเคยพานพบกำลังเล่นงานเธออย่างรุนแรงจนต้องรอขอให้อธิติหยุดการกระทำ แต่มีหรือที่คนหิวโหยอย่างเขาจะฟัง เขาไม่ฟังหรอก…ไม่สนใจด้วยว่าเธอจะดีดดิ้นปัดป่ายเขาให้ออกห่างสักแค่ไหน เขายิ่งเร่งเร้าความเร็วมากขึ้นไปอีก กระหน่ำซอยนิ้วแล้วดูดเธอแรงขึ้น แต่พยายามสุดฝีมือที่จะไม่ทำให้เธอเจ็บ จนแล้วจนรอดเธอก็เสร็จอีกครั้งแบบติดต่อกัน และครั้งนี้มันมากมายจนน้ำใส ๆ พุ่งฉีดออกมาตอนที่เขาถอนนิ้วออกจากร่องรักแดงก่ำ
บทส่งท้ายในที่สุดวันที่ลลิตาและอธิติรอคอยก็มาถึง เป็นวันงานแต่งงานของเขาและเธอ ซึ่งแม้ว่าทั้งสองจะมีเชื้อสายจีนแต่ก็เลือกจะจัดงานตามความสะดวก เป็นพิธีแบบผสมผสานไม่ได้ตรงตามแบบแผนใด ๆ ช่วงเช้าจัดเป็นพิธีหมั้น มีการสวมแหวนและมอบสินสอด ส่วนช่วงบ่ายจนถึงเย็นก็เป็นงานเลี้ยงที่จัดขึ้นในสวนดอกไม้เจ้าบ่าวในชุดสูทสีน้ำเงินยืนรอเจ้าสาวอยู่ที่ซุ้มดอกไม้ เขาเริ่มหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อเพลงบรรเลงเริ่มดังขึ้น หัวใจมันเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ เขาที่เคยผิดหวังครั้งใหญ่ในชีวิตจนล้มเลิกความคิดเรื่องแต่งงานไปแล้ว ไม่คิดไม่ฝันว่าสุดท้ายจะอยากแต่งงานกับใครสักคนขึ้นมาอีกครั้ง และไม่คิดเช่นกันว่าคนคนนั้นจะเป็นลลิตา น้องสาวที่เขาเห็นหน้าเห็นตามาตั้งแต่เด็กเขาไม่เคยคิดว่าจะรักเธอในรูปแบบนี้มาตั้งแต่แรกเขาไม่เคยคิดว่าชีวิตจะอยู่โดยมีเธอเข้ามาเป็นแรงผลักดันไม่เคยคิดเลยว่าอยู่ ๆ จะอยากเป็นเสาหลักค้ำชูใครจนกระทั่งเขาได้ตกหลุมรักเธอเข้าเต็มหัวใจถามว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้เขารักเธอได้มากมายขนาดนี้ อธิติตอบไม่ได้ เขาไม่รู้ว่าเริ่มรักเธอในฐานะผู้ชายคนหนึ่งตอนไหน ไม่รู้เลยว่าเพราะอะไรถึงรัก รู้เพียงแต่ว่า…ไม่มีเธออยู่เคียงข
“คิดว่าเฮียรู้ไม่ทันเหรอว่าเธอแกล้ง?”“หลินแกล้งเฮียบ้างไม่ได้เหรอ? ทีเฮียชอบแกล้งหลินล่ะ?” ลลิตาเชิดหน้าพร้อมรอยยิ้มอย่างคนท้าทาย แต่สุดท้ายก็ต้องนิ่วหน้าเสียวเมื่ออธิติล้วงลึกเข้าไปถึงจุดสั่นไหว “อื้อ…เฮียอี้!”“เปียกเฉย…แค่อมให้เฮียก็ทำให้เธอเสียวได้เหรอ?”“คิดว่าตัวเองอยากเป็นคนเดียวหรือไง?”“บอกเฮียสิว่าเธออยากมากแค่ไหน” สองคนจ้องตากันและกัน เรียวนิ้วของอธิติสอดลึกเข้าถึงโพรงอุ่น ตวัดเกี่ยวกระทำความเสียวซ่านให้คนตัวเล็ก แล้วเธอก็ร่อนโยกสู้เรียวนิ้วเขาเป็นจังหวะ“อ๊ะ! โคตรอยากเลย…ฮึก! เฮียขา…หลินอยากโดนเฮียกระแทกแรง ๆ”“แรงแค่ไหน?”“แรงที่สุด…ฮึก! เฮียอี้…เอาหลินหน่อย…อ๊าห์! เอาหลินทีเฮียอี้” ไม่มีเหตุผลให้ลลิตาต้องเขินอาย อีกไม่กี่วันคนตรงหน้าก็จะได้ชื่อว่าเป็นสามีเธอแล้ว ความต้องการมันบังคับให้เธอร้องขอ โอบรอบคอเขามาประกบปากจูบ จูบแล้วก็จูบอีกทว่ามันยังไม่หนำใจ เหมือนได้เท่าไรก็ไม่พอ“ไม่อยากให้เฮียเลียให้ก่อนเหรอ?”“ฮึก! ไม่ต้องแล้ว…ใส่มาเลยได้ไหม? หลินต้องการเฮียจนจะทนไม่ไหวแล้ว อ๊ะ! อ๊าห์!” พูดไม่ทันขาดคำอธิติก็มอบสิ่งที่ลลิตาโหยหาให้เธอ ถลกชุดลูกไม้บาง ๆ ขึ้นแล้วเอาความเป็นเ
30 ที่รักกลับมาถึงคอนโดมิเนียมลลิตาก็เข้าครัวไปทำมื้อเย็น ส่วนอธิติก็เข้าห้องทำงานไปเคลียร์งานของตัวเอง ช่วงนี้เขาต้องทำงานหนักเพราะมีเกมใหม่ที่กำลังสร้าง ทำงานไปได้สักพักลลิตาก็มาเรียกให้ไปกินข้าว ดูเหมือนว่าความพยายามของลลิตาจะเริ่มแสดงผล เพราะข้าวอบกุ้งวันนี้รสชาติดีกว่าครั้งก่อน ข้าวสุกทุกเม็ด รสชาติไม่เค็มโดดแล้ว ถือว่าเป็นเมนูที่อร่อยใช้ได้“อร่อยไหม?” หญิงสาวเอ่ยถาม เธอชอบใจและมีความสุขทุกครั้งที่เห็นอธิติกินอาหารฝีมือเธอ“อะไรที่เธอทำก็อร่อยทั้งนั้นแหละ ถึงเธอเอาดินเอาโคลนมาให้กิน…เฮียก็ว่าอร่อย”“เวอร์! ใครจะเอาดินเอาโคลนมาให้สามีกิน”“…” เมนูแรกที่เธอทำก็เหมือนเอาโคลนมาผัด อธิตินึกอยากจะพูดคำนั้นแต่ไม่กล้า เขาไม่ใช่พ่อบ้านใจกล้าและไม่ชอบเวลาเมียงอนด้วย อีกอย่าง…คืนนี้เขายังอยากให้เธอง้ออยู่“ยังงอนหลินอยู่อีกเหรอ? หลินบอกแล้วไงว่าที่พูดไปว่าขาดทุนอะ มันไม่ได้หมายความว่าอยากไปนอนกับคนอื่นที่ไม่ใช่เฮีย…ขนาดนี้แล้วยังไม่เชื่อใจกันอีกเหรอ?”“ใครจะไปรู้ ต่อไปถ้าเจอใครมาทำเหมือนว่าเคยนอนกับเฮียอีก…เธอจะไม่พูดเรื่องนั้นขึ้นมาอีกเหรอ?” ที่จริงเขาหายโกรธหายงอนไปตั้งแต่ที่ได้ยินคำว่า
ลลิตาไม่ใช่แม่ศรีเรือนที่ชอบทำงานบ้านหรือทำกับข้าวเก่ง อาจต้องพูดว่าเธอแทบจะทำอาหารไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ แต่เมื่อรู้ตัวว่าจะต้องแต่งงานและเป็นแม่ของลูกในสักวัน เธอก็พยายาม…เริ่มทำงานบ้านให้ติดเป็นนิสัย เริ่มเข้าครัวฝึกทำอาหาร ซึ่งคนแรกและคนเดียวที่ต้องเป็นหนูทดลองชิมอาหารฝีมือเธอก็คือว่าที่คุณสามีหลังเลิกงานทั้งสองคนมักจะแวะซุปเปอร์เพื่อซื้อของเข้าบ้าน อธิติชอบทุกครั้งที่ได้มาซื้อของกับลลิตาแบบนี้ เขาจะคอยโอบเอว โอบไหล่เธอแบบที่ไม่ปล่อยให้เดินห่างจากกาย ไม่ว่าเธอจะเดินไปทางไหนเขาก็จะรีบตามติดเหมือนเป็นเงาตามตัว“วันก่อนที่หลินทำข้าวอบกุ้งให้กิน เฮียชอบไหม? อยากกินอีกไหม?” หญิงสาวเอ่ยถามขณะที่สองคนกำลังเดินเลือกซื้ออาหารสด“ข้าวอบกุ้งเหรอ?” อธิติจำได้ดีข้าวอบกุ้งที่เม็ดข้าวยังแข็งเพราะไม่สุกดี รสชาติก็เค็มจนแทบกลืนไม่ลง พูดได้เลยว่าลลิตาไม่เหมาะกับงานในบ้านเลยแม้แต่น้อย แต่เพราะเห็นถึงความพยายามเขาเลยกินมันจนหมดไม่เหลือสักเม็ด ชมเธอครั้งแล้วครั้งเล่าว่ามันอร่อยสุด ๆ“หรืออยากกินสปาเก็ตตีขี้เมาแบบวันนั้นอีก?”“เฮียกินอะไรก็ได้ เธอทำอะไรให้กินเฮียก็กินได้ทั้งนั้นแหละ” อธิติคิดแล้วคิดอีกว่าค
29 จากคู่นอนเป็นคู่รักนับจากวันที่อธิติได้สร้างเรื่องเซอร์ไพรซ์กับคนที่บ้านจนถึงวันนี้ก็นับเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว เขาและลลิตาย้ายมาอยู่ด้วยกันที่คอนโดมิเนียมหรูราคาหลายสิบล้านที่ซื้อไว้เก็งกำไร ตอนนี้ลลิตาได้ลาออกจากลุคแล้วกลับเข้ามาทำงานที่เรด ร็อกเก็ตในตำแหน่งหัวหน้าแผนก Project Coordinator ที่ว่างอยู่หลังจากที่เพชรไพลินย้ายกลับไปอยู่อเมริกา ซึ่งทีแรกอธิติไม่ต้องการให้ลลิตาทำงานอะไรเลย เขาอยากให้เมียนอนสบาย ๆ อยู่ที่บ้าน แต่พอเธอยืนกรานว่ายังไงก็ยังอยากออกไปทำงาน เขาก็เสนอให้เธอมาเป็นเลขาของเขา ซึ่งก็อีกเช่นกัน…เธอปฏิเสธ สุดท้ายอธิติก็ต้องยอมตามใจให้ลลิตาไปทำงานในตำแหน่งที่อยากทำตลอดหนึ่งเดือนมานี้สองคนผัวเมียต้องปรับตัวเข้าหากันอย่างมากมาย เพราะไม่เคยได้มาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแบบยี่สิบสี่ชั่วโมงแบบนี้มาก่อน เถียงกันได้ทุกวัน มีเรื่องให้ต้องทะเลาะกันได้ตลอด แต่พอถึงเวลาเข้านอนก็นอนกกนอนกอดกันแบบไม่เหลือที่เว้นว่าง ส่วนใหญ่เรื่องที่ทะเลาะก็เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเรื่องความไม่เป็นระเบียบของอธิติ เรื่องที่เขาไม่ยกฝาชักโครกบ้าง เรื่องเขาถอดกางเกงในม้วนเป็นเล็กแปดแล้วไม่ยอมใส่ไว้ใน
อธิติจูงมือลลิตาเข้ามาในบ้าน ทีแรกลลิตาบอกว่ายังไม่พร้อมให้อธิติมาเจอป๊าม้าตอนนี้ แต่ฝ่ายชายไม่ยอม เขาบอกว่าถ้าเว้นระยะเวลาอาจทำให้ผู้ใหญ่คิดว่าเขาไม่ให้เกียรติ เข้ามาแล้วก็เห็นกิตติคุณกับวรรณวิมลนั่งทำหน้ากลุ้มใจอยู่ที่โซฟา ส่วนกวินกานต์ก็นั่งอ่านบัญชีอยู่ที่โต๊ะกินข้าวซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กัน“ป๊า…ม้า…เฮียอี้อยากมาคุยด้วย” ลลิตาเอ่ยด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด แต่ไม่ทันที่คนเป็นพ่อแม่จะได้ตอบอะไร อธิติก็เข้าไปคุกเข่าตรงหน้าพวกท่านแล้ว“ผมขอโทษเจ๊กกับโกวครับ ที่ทำอะไรข้ามหน้าข้ามตาหรือทำเหมือนไม่ให้เกียรติ ที่มานี่ก็เพื่อจะบอกว่าผมรักและอยากดูแลหลินจริง ๆ และผมเชื่อว่าผมเองสามารถทำให้หลินมีความสุขได้แน่นอน เราสองคนรักกันจริง ๆ ครับ” อธิติยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง เขาไม่รู้ว่าจะต้องพูดยังไงเพื่อให้ผู้ใหญ่ยอมรับได้ เลยได้แต่พูดในสิ่งที่คิดเท่านั้น“ถ้าขึ้นตั้งท้อง…โกวว่ามันเกินไปหน่อยนะอี้ สองคนรักกันแล้วทำไมไม่บอกให้ผู้ใหญ่รับรู้ โกวไม่เคยรู้เลยว่าหลินมีแฟน อยู่ ๆ ก็ท้องขึ้นมาซะอย่างนี้มันใช้ได้ที่ไหน โต ๆ กันแล้วทำไมเรื่องแค่นี้คิดไม่ได้?” วรรณวิมลรู้สึกผิดหวังเมื่อได้รู้ว่าลูกสาวคนเล็กท้องก่อนแต่ง