Share

บทที่ 4 ฟางซินเย่

Penulis: Luffy.g
last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-23 17:09:31

หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา เฉินเม่าก็มีท่าทีเป็นมิตรกับฮวาอิงหลงและเสี่ยวม่านมากขึ้น เมื่อใดที่ฮวาอิงหลงได้มีโอกาสพูดคุยกับเฉินเม่า นางก็มักจะพูดประจบเอาใจโดยมีเสี่ยวม่านคอยเป็นลูกคู่ให้อยู่เสมอ ส่งผลให้ในภายหลังฮวาอิงหลงและเสี่ยวม่านก็ได้รับงานที่น้อยและเบาลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด

วันหนึ่งเฉินเม่าแวะมานั่งพูดคุยกับทั้งสองในช่วงบ่าย แสงแดดอ่อน ๆ สาดส่องผ่านหน้าต่างไม้ของห้องพักขนาดเล็ก ฮวาอิงหลงเห็นเป็นโอกาสที่เหมาะสมจึงแอบถามเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับฟางซินเย่เป้าหมายสำคัญของนาง

เฉินเม่าเป็นคนปากมากอยู่แล้ว นางจึงรู้สึกคันปากขึ้นมาในทันทีที่ได้ยินคำถามของฮวาอิงหลง นางจึงเริ่มเล่าเรื่องราวของฟางซินเย่อย่างออกรสออกชาติ

"ท่านแม่ทัพใหญ่หรือ" เฉินเม่ามองซ้ายมองขวาอย่างกลัวว่าใครจะมาได้ยิน เมื่อนางเห็นว่าปลอดคน เฉินเม่าจึงเริ่มเล่าในทันที "ท่านแม่ทัพเป็นคนที่มีความเข้มงวดและเด็ดขาดมากแต่ก็มีความเมตตาต่อคนในจวนไม่น้อยทีเดียว ที่สำคัญท่านแม่ทัพยังไม่มีฮูหยินเสียด้วย สาวใช้ในจวนต่างจ้องมองท่านแม่ทัพตาเป็นมัน ทุกคนต่างหวังได้มีโอกาสปรนนิบัตินายท่านกันเสียถ้วนหน้า แต่ว่าข้าก็ไม่เคยเห็นนายท่านเลือกผู้ใดขึ้นไปรับใช้เป็นการส่วนตัวสักคน ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก"

ฮวาอิงหลงฟังอย่างตั้งใจ นางจับทุกคำพูดของเฉินเม่าและใส่ใจในรายละเอียดทุกอย่าง นางจึงเปรยออกมาเบา ๆ ด้วยเสียงที่แฝงไปด้วยความฝันหวาน "แล้วพี่เฉินเม่าคิดว่า ข้าพอจะมีโอกาสได้รับใช้ท่านแม่ทัพสักครั้งหรือไม่"

เฉินเม่ามองฮวาอิงหลงอย่างจับพิรุธ ฮวาอิงหลงรีบยิ้มน้อยอย่างเอียงอาย "ข้าก็เพียงพูดส่งเดชไปเช่นนั้นเอง แต่ว่า...หากพวกเราคนใดคนหนึ่งเกิดได้รับวาสนาจากท่านแม่ทัพ พี่เฉินเม่าไม่คิดหรือเจ้าคะ ว่าพวกเราคงมีความเป็นอยู่ที่สบายขึ้นกว่านี้อีกเป็นกอง"

คำพูดของฮวาอิงหลงทำให้เฉินเม่าเริ่มคล้อยตาม นางคิดในใจว่าสิ่งที่ฮวาอิงหลงพูดมีความเป็นจริงอยู่หลายส่วนทีเดียว หากเปรียบเทียบรูปลักษณ์ของพวกนางทั้งสาม ฮวาอิงหลงย่อมมีโอกาสมากกว่าเพื่อนเป็นแน่

เฉินเม่าหันมามองหน้าฮวาอิงหลงอย่างจริงจัง "หากข้าช่วยเหลือเจ้า เจ้าคงไม่ลืมบุญคุณข้าหรอกนะ"

ฮวาอิงหลงรีบจับแขนของเฉินเม่าไว้แน่น "หากมีวาสนาพวกเราทั้งสามที่เสมือนดั่งพี่น้องย่อมไม่ทิ้งกันเป็นแน่ จริงหรือไม่เสี่ยวม่าน"

เสี่ยวม่านพยักหน้าตามนายหญิงของตน แต่นางกลับจ้องมองหน้าฮวาอิงหลงอย่างมีคำถามมากมาย แต่เพราะเฉินเม่ายังคงอยู่ตรงนี้ทำให้นางได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจเพียงเท่านั้น

เฉินเม่ายิ้มให้ฮวาอิงหลง "ข้ามองคนไม่ผิดนัก เอาเป็นว่าถ้าข้ามีโอกาส ข้าจะสนับสนุนเจ้าก็แล้วกัน"

ฮวาอิงหลงยิ้มรับพร้อมความคิดมากมายในหัว นางคิดถึงแผนการในอนาคตและเป้าหมายต่อไปก็คือฟางซินเย่ หากเจ้าได้เจอนักแสดงตัวแม่เช่นข้า ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะไม่ตกหลุมพรางคนอย่างข้าไปได้อย่างแน่นอน

วันหนึ่งขณะที่ฮวาอิงหลงกำลังช่วยเสี่ยวม่านตากผ้ากองพะเนินอยู่นั้น เฉินเม่าก็วิ่งหน้าตื่นมาหานางด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“อิงหลง ข้ามีข่าวดีมาบอก ท่านแม่ทัพ...ท่านแม่ทัพมีคำสั่งให้เจ้าไปปรนนิบัติคืนนี้” เฉินเม่ากระหืดกระหอบพูดด้วยความเร่งรีบ

ฮวาอิงหลงเบิกตากว้างด้วยความดีใจ โอกาสของนางมาถึงแล้ว นางยกยิ้มด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ผิดกับเสี่ยวม่านที่มองหน้าฮวาอิงหลงด้วยความกลัดกลุ้ม

“พี่เฉินเม่า พี่พูดจริงหรือ ท่านแม่ทัพจะให้คุณหนูเอ่อ....คุณหนู” เสี่ยวม่านหันไปย้ำกับเฉินเม่า ก่อนจะส่งสายตากังวลไปยังฮวาอิงหลง

“แน่นอนสิ เรื่องเช่นนี้ข้าจะมาพูดเล่นได้อย่างไร อิงหลงข้าว่าเจ้ารีบไปเตรียมตัวเสียเถอะ ขืนชักช้ามีหวังแทนที่จะได้รับความโปรดปรานจะกลายเป็นต้องโทษเข้าให้เสีย” เฉินเม่ารีบคะยั้นคะยอฮวาอิงหลงอย่างตื่นเต้น

สักพักยังไม่ทันที่พวกนางทั้งสามจะพูดจบ เจ้าหมัวมัวก็เดินอาด ๆ เข้ามายังฮวาอิงหลง “ฮวาอิงหลง ท่านแม่ทัพมีคำสั่งให้เจ้าปรนนิบัติคืนนี้ เจ้ารีบตามข้ามา”

สาวใช้อีกสองคนเดินเข้ามาประกบฮวาอิงหลงเพื่อนำทางไปตระเตรียมร่างกายของนางให้พร้อม

เสี่ยวม่านรั้งแขนของฮวาอิงหลงเอาไว้ด้วยความกังวล ฮวาอิงหลงได้แต่ยิ้มอ่อนพร้อมตบมือเข้าที่หลังมือของนางอย่างให้คลายกังวล

ฮวาอิงหลงเดินเชิดหน้าตามเจ้าหมัวมัวอย่างไม่มีท่าทีหวั่นเกรงสิ่งใด แม้นางจะไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ใดมาก่อนทั้งในชาติที่แล้วและชาตินี้ แต่ฮวาอิงหลงก็เป็นสาวยุคสองพัน ตอนที่นางแสดงหนัง พวกฉากอย่างว่าล้วนแล้วแต่ผ่านมือนางมาแล้วทั้งสิ้น อีกทั้งร่างกายนี้เดิมทีก็มิใช่ของนางเสียเมื่อไหร่ หากจะใช้ร่างกายนี้ให้เป็นประโยชน์กับนับว่าเป็นผลดีกับอนาคตของพวกนางไม่ใช่น้อย

ฮวาอิงหลงถูกพามายังห้องอาบน้ำ ถังไม้ขนาดใหญ่ที่บรรจุน้ำอุ่นพร้อมกลีบดอกไม้โปรยอยู่ทั่วบริเวณส่งกลิ่นหอมละมุนจนนางเผลอสูดดมเข้าไปอย่างชื่นใจ นานเท่าไหร่แล้วนะที่นางไม่ได้นอนแช่น้ำอุ่นผสมอโรม่าหอมฉุยเช่นนี้ ฮวาอิงหลงยกยิ้มขึ้นมาเมื่อนึกถึงเรื่องราวหนหลัง ทำให้นางยิ่งมีพลังใจในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวให้สำเร็จให้จงได้

ฮวาอิงหลงถูกขัดสีฉวีวรรณจนร่างกายขาวผ่อง กลิ่นดอกไม้ถูกชโลมไปทั่วร่างจนทำให้เกิดกลิ่นกายที่หอมรัญจวนไม่ต่างจากการฉีดน้ำหอมในยุคสมัยของนางเลยทีเดียว

หลังจากนั้นฮวาอิงหลงก็ถูกจับสวมเสื้อผ้าเนื้อบางเบาจนแทบปิดสิ่งใดไม่มิด ผ้าคาดอกสีชมพูอ่อนที่แนบเข้ากับหน้าอกอวบพร้อมเสื้อทับสีขาวตัวบางยิ่งเสริมให้เห็นส่วนโค้งส่วนเว้าอันน่าหลงใหล เสื้อคลุมผืนบางถูกคลุมทับอีกชั้นหนึ่ง หากแต่ก็ไม่อาจปกปิดสายตาให้เห็นเรือนร่างอันยั่วยวนใจไปได้

เจ้าหมัวมัวมองผลงานตนเองอย่างภาคภูมิใจ นี่นับเป็นครั้งแรกที่นายท่านมีคำสั่งให้สาวใช้ในเรือนขึ้นไปปรนนิบัติข้างกาย ทำให้บ่าวรับใช้ทั้งหลายถึงกับตกตะลึง บ้างก็มองฮวาอิงหลงด้วยความอิจฉา บ้างก็มองด้วยความยินดีในวาสนาของนาง

ฮวาอิงหลงถูกพาตัวมายังเรือนของฟางซินเย่ นางรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก หัวใจเต้นรัวราวกับกลองศึกก็ไม่ปาน ฮวาอิงหลงสูดลมหายใจเข้าลึก พลางปลอบโยนตนเองว่าเป็นแค่ละครฉากหนึ่งเท่านั้น แค่เพียงนางแสดงได้สมจริงทุกอย่างก็จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ดาราสาวเช่นข้ากลายมาเป็นสาวใช้อุ่นเตียง   บทที่ 72 เริ่มต้นวันใหม่

    บทที่ 72 เริ่มต้นวันใหม่ค่ำคืนอันเงียบสงบ แสงจันทร์ส่องผ่านหน้าต่างที่เปิดออกเล็กน้อย ลมพัดเบาๆ พาเอากลิ่นหอมของดอกเหมยที่บานสะพรั่งอยู่รอบจวนลอยมาแตะจมูก ภายในห้องนอนใหญ่ท่ามกลางแสงสลัวนั้น ฟางซินเย่นอนมองหน้าฮวาอิงหลงนอนคุดคู้อยู่บนเตียง นางดูน่าหลงใหลยิ่งขึ้นเมื่อแสงจันทร์ตกกระทบบนใบหน้าที่ผุดผาดฮวาอิงหลงยิ้มยั่วยวนเมื่อเห็นสายตาของฟางซินเย่ที่มองมาด้วยความปรารถนาอันเร่าร้อนที่ไม่อาจซ่อนเร้น“อิงเอ๋อร์...” ฟางซินเย่ยื่นมือขึ้นลูบไล้ไปตามลำแขนขาวก่อนจะไล่ลงมาตามลำตัวจนกระทั่งถึงหน้าท้องที่เริ่มนูนขึ้นมา “พ่อเจ้าต้องการแม่เจ้าเหลือเกิน เจ้าอนุญาตหรือไม่” ฟางซินเย่เพ้อออกมาด้วยเสียงกระเส่า เขาพูดไปพลางปรายตามองฮวาอิงหลงด้วยสายตากรุ้มกริ่มฮวาอิงหลงยิ้มเขินออกมาอย่างรู้ทัน นางโน้มตัวขึ้นเกยบนร่างหนาของฟางซินเย่ในทันที สองมือของฟางซินเย่ช้อนร่างบางขึ้นคร่อมตัวเขาอย่างระมัดระวังด้วยเกรงจะกระทบถึงบุตรในท้องฟางซินเย่หยัดกายขึ้นเล็กน้อยพร้อมสองมือที่ยังคงลูบไล้ไปตามหน้าอกอิ่มนูนของฮวาอิงหลงอย่างหลงใหล ลมหายใจเริ่มติดขัดขึ้นมาพร้อมกับปากที่เป่าลมร้อนออกอย่างต้องการสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้ฮว

  • ดาราสาวเช่นข้ากลายมาเป็นสาวใช้อุ่นเตียง   บทที่ 71 อำลาเมืองหลวง

    บทที่ 71 อำลาเมืองหลวงเสียงกลองและแตรสัญญาณดังกึกก้องไปทั่วบริเวณลานวังหลวง ขันทียกราชโองการขึ้นประกาศ “ฮ่องเต้มีราชโองการ ด้วยบุญบารมีของราชวงศ์โจวทำให้เชื้อพระวงศ์กลับคืนสู่ราชวงศ์ ข้าขอแต่งตั้งฟางซินเย่เป็นองค์ชายโจวซินเย่ แต่งตั้งฮวาอิงหลงเป็นพระชายาอ๋อง และแต่งตั้งเฉินเม่าเป็นองค์หญิงโจวเหยาหยาง จบราชโองการ” ฟางซินเย่โน้มรับราชโองการด้วยใบหน้าเรียบสงบ เผยให้เห็นความสง่าผ่าเผยอยู่ในที ในขณะที่ฮวาอิงหลงและเฉินเม่ากลับแสดงสีหน้ากึ่งยิ้มกึ่งเกร็งด้วยความตื่นเต้นกังวลกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันเช่นนี้ จากสาวใช้ในจวนแม่ทัพคนหนึ่งได้เป็นองค์หญิง ส่วนอีกคนได้เป็นพระชายาอ๋องช่างเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ยิ่งนักหลังเสร็จสิ้นการประกาศแต่งตั้งเฉินเม่าก็ได้ย้ายไปอยู่ที่จวนโจวหนานเอ๋อร์ ผู้เป็นมารดาของนาง ทว่าสำหรับฟางซินเย่นั้นกลับเลือกที่จะขอพำนักที่จวนแม่ทัพตามเดิมโจวหนานเอ๋อร์แม้จะรู้สึกไม่ค่อยพอใจมากนัก แต่ก็ไม่ต้องการหักหาญน้ำใจของบุตรชาย นางจึงเพียงกำชับฮวาอิงหลงให้หมั่นไปเยี่ยมเยียนตนที่จวนให้บ่อยครั้งในช่วงบ่ายวันหนึ่ง ฟางซินเย่และฮวาอิงหลงเดินทางไปยังจวนฉางกงจู่ โจวหนานเอ๋อร์และเฉ

  • ดาราสาวเช่นข้ากลายมาเป็นสาวใช้อุ่นเตียง   บทที่ 70 ลูกของข้า

    บทที่ 70 ลูกของข้าราชโองการถูกประกาศปล่อยตัวฟางซินเย่ในวันต่อมาโดยทันที ในที่สุดฟางซินเย่ก็ถูกปล่อยตัวหลังจากถูกคุมขังมาเป็นเวลาหลายวันเมื่อฟางซินเย่ได้รับอิสรภาพ เขาก้าวออกจากคุกด้วยความมุ่งมั่นและดวงตาที่เต็มไปด้วยความคิดถึงฮวาอิงหลง หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความถวิลหานาง ดั่งว่านี่คือการเดินทางที่ยาวนานที่สุดของชีวิตเขา“อิงเอ๋อร์...ข้าไม่ยอมสูญเสียเจ้าไปเป็นอันขาด” ฟางซินเย่กล่าวกับตนเองขณะที่ก้าวขึ้นม้าด้วยความกระตือรือร้น ก่อนจะพุ่งตรงไปยังจวนอ๋องเมื่อฟางซินเย่ถึงจวนอ๋อง เขาปรี่ตรงเข้าไปหาโจวอี้เสวียนในทันที สองมือกุมคอเสื้อของโจวอี้เสวียนอย่างไม่นึกหวั่นเกรงสิ่งใดอีกต่อไป ดวงตาแดงก่ำด้วยโทสะที่มี พร้อมกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงกัดฟันกรอด “อิงเอ๋อร์...อยู่ที่ใด”โจวอี้เสวียนหันมามองเขาด้วยดวงตาเย็นชา ใบหน้าของชายหนุ่มที่พรากหัวใจของหญิงสาวคนรักของตนไปทำให้เขานึกครึ้มอย่างจะกลั่นแกล้งฟางซินเย่อีกสักหน่อย โจวอี้เสวียนยิ้มเยาะขึ้นมา “ท่านแม่ทัพ...เหตุใดข้าต้องตอบคำถามเจ้าด้วยเล่า”คำพูดยียวนทำเอาฟางซินเย่ถึงกับบันดาลโทสะ เขาง้างมือขึ้นเตรียมจะชกหน้าโจวอี้เสวียน แต่องครักษ์ข้างกายของโจวอ

  • ดาราสาวเช่นข้ากลายมาเป็นสาวใช้อุ่นเตียง   บทที่ 69 ฝืนยอมรับ

    บทที่ 69 ฝืนยอมรับในท้องพระโรงที่โอ่โถง บรรยากาศยังคงเต็มไปด้วยความตึงเครียดและกดดัน โจวจางเย่วประทับอยู่บนบัลลังก์ด้วยสีหน้าเข้มขรึมและดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว โจวอี้เสวียนที่ยืนหน้าเครียดอยู่ด้านข้าง ทั้งสองกำลังถกเถียงกันอย่างดุดัน“อี้เสวียน...เจ้าช่างบังอาจนัก เจ้ากล้าทำเรื่องเช่นนี้เพียงเพื่อสตรีนางเดียวอย่างนั้นหรือ” โจวจางเย่วชี้นิ้วไปยังโจวอี้เสวียนด้วยความเกรี้ยวกราดโจวอี้เสวียนยืนนิ่งเงียบแต่ดวงตาเต็มไปด้วยความดื้อรั้น “ข้าไม่มีทางเลือก ในเมื่อเสด็จพ่อมิทรงทำสิ่งใด เช่นนั้นข้าก็จำเป็นต้องหาทางของข้าเอง”“เจ้านี่ช่างโง่เขลายิ่งนัก” โจวจางเย่วแค่นเสียงออกมาด้วยความขัดเคืองใจ “ความรักของเจ้าทำให้เจ้าลืมเลือนความเป็นบุตรหลานแห่งราชวงศ์แล้วหรือ เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้ามีสถานะเช่นใด เจ้าลืมแล้วหรือว่าบัลลังก์แห่งนี้วันหน้าต้องเป็นของเจ้า เจ้ากลับผิดแผนชั่วเพื่อแย่งชิงภรรยาผู้อื่น เช่นนั้นต่อไปจะมีผู้ใดในแคว้นเคารพและนับถือเจ้า จะมีผู้ใดยอมรับใช้ถวายหัวให้กับเจ้า แม่ทัพฟางเป็นเสาหลักของแคว้น หากเจ้ากำจัดเขาทิ้ง เจ้าคิดหรือว่าบัลลังก์แห่งนี้จะมั่นคงอยู่ได้”โจวอี้เสวียนกัด

  • ดาราสาวเช่นข้ากลายมาเป็นสาวใช้อุ่นเตียง   บทที่ 68 พบพาน

    บทที่ 68 พบพานภายในห้องขังที่แสนอับชื้นและเหน็บหนาว เสียงกุญแจที่บานประตูคุกหลวงสะท้อนเสียงดังไปทั่ว ฟางซินเย่ที่นั่งพิงผนังหินเย็นเฉียบตาแดงก่ำมองดูหนังสือหย่าที่เพิ่งได้รับ มือของเขาสั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุมได้ ริมฝีปากแห้งผากเผยอเบาๆ ออกมาราวกับจะกล่าวคำใด แต่ทุกคำกลายเป็นเพียงเสียงหายใจที่ตัดรอน “อิงเอ๋อร์...” ฟางซินเย่พร่ำเอ่ยชื่อของฮวาอิงหลงออกมาด้วยดวงตาสั่นไหวที่คงความขมขื่นไว้ในห้วงแห่งความโศกเศร้า“อิงเอ๋อร์...เหตุใดต้องทำเช่นนี้เพื่อข้า” ฟางซินเย่คร่ำครวญออกมา ใบหน้าเปลี่ยนสีแดงก่ำราวกับเปลวเพลิงร้อนรุ่ม “เจ้ายอมแต่งงานกับโจวอี้เสวียนเพียงเพื่อรักษาชีวิตข้า...ข้าคือผู้ชายที่ไร้ค่าเพียงนี้เชียวหรือ...” เขาหัวเราะออกมาด้วยเสียงที่ขาดหายราวกับจะกลั้นไม่ให้เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมา ความรันทดอดสูใจทำให้เขาถึงกับกุมหมัดขึ้นทุบผนังหิน เลือดไหลซึมออกมาหยดลงเป็นทางยาว ความเจ็บปวดของร่างกายกลับไม่อาจเทียบความเจ็บปวดภายในใจที่มีได้ในขณะที่บรรยากาศคุกขังอัดแน่นไปด้วยความเจ็บปวดและสิ้นหวัง ภายในเฉินเม่าและเสี่ยวม่านกลับไม่อาจทนอยู่เฉยได้อีกต่อไป ความทุกข์ร้อนของพี่น้องร่วมสาบานเช่นฮวาอิง

  • ดาราสาวเช่นข้ากลายมาเป็นสาวใช้อุ่นเตียง   บทที่ 67 แผนร้าย

    บทที่ 67 แผนร้ายภายในโถงใหญ่ในจวนอ๋อง โจวอี้เสวียนที่หน้าตาเคร่งเครียดยืนอยู่อย่างหัวเสีย ความหงุดหงิดก่อตัวภายในใจที่นึกไว้ใจคนที่ไม่ได้เรื่องเช่นเฉินเฉียวเหยา หากนางไม่ไร้ความสามารถเช่นนี้โอกาสที่เขาจะกำจัดเสี้ยนหนามหัวใจอย่างฟางซินเย่ย่อมเห็นเป็นรูปร่างมากขึ้น ข้าวของถูกปาแตกกระจายด้วยโทสะที่คุกรุ่นอยู่ภายใน เขาก้าวเดินวนไปมาอย่างต้องการใช้ความคิดสักครู่หนึ่งโจวอี้เสวียนตะโกนเรียกองครักษ์คนสนิทเข้ามา “พวกเจ้าจงไปทำตามที่ข้าสั่งให้เรียบร้อยเดี๋ยวนี้” โจวอี้เสวียนออกคำสั่งด้วยเสียงเข้มขรึม ดวงตาคมเข้มเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่รู้จักพ่ายแพ้องครักษ์ค้อมศีรษะรับคำสั่งทันที “ขอรับท่านอ๋อง”โจวอี้เสวียนเหม่อมองออกไปภายนอกห้องด้วยความคิดอันแยบยล หากแผนการแรกผิดพลาด เขาย่อมต้องมีแผนที่สองเตรียมรับมือไว้เป็นแน่ผ่านไปเพียงไม่ถึงเดือน กองกำลังทหารของโจวอี้เสวียนก็เข้าปิดล้อมจวนแม่ทัพอย่างรวดเร็ว ฟางซินเย่เดินอย่างอาจหาญออกมาเผชิญหน้าเหล่าทหารของโจวอี้เสวียน โดยมีเหล่าทหารกองทัพของฟางซินเย่ยืนประจัญบานเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตี“แม่ทัพฟางซินเย่ ข้าน้อยได้รับคำสั่งให้ตรวจค้นจวนของท่าน โปรดใ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status