Share

ตอนที่ 4 พยาบาลทหาร

last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-09 12:14:39

งานเลี้ยงต้อนรับครอบครัวทหารเต็มไปด้วยความอบอุ่น ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องกระอักกระอ่วนบ้างก็ตาม นาน ๆ ครั้ง กองทัพหวั่นอิ๋นถึงจะมีงานใหญ่สักงาน ทุกคนไม่อยากให้เสียบรรยากาศ

พ่อฉินยังเหลือวันลาอีกหลายวัน แต่ว่าในเมื่อกลับมาแล้วเขาจึงไปทำงานต่อ ได้รับค่าแรงสองเท่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่า เช้าวันนี้คุณนายทหารกลุ่มเมื่อคืนมาที่บ้านและชวนแม่ฉินไปโรงตัดเย็บของกองทัพแม่ฉินตามไปด้วย ที่บ้านจึงเหลือเพียงสองพี่น้องฉิน

ฉินเสี่ยวหรานลงมือออกแบบชุดที่จะตัด มีฉินเสี่ยวหลิงเป็นแบบให้ แม่ของพวกเธอรับจ้างตัดเย็บมาตลอดและนำอุปกรณ์มาด้วย ไม่ต้องออกไปซื้ออุปกรณ์ ฉินเสี่ยวหรานลงมือตัดเย็บทันที

"ทำไมพี่ถึงตัดชุดล่ะ ฉันว่าพวกเราอ่านหนังสือรอเปิดภาคเรียนกันดีกว่าไหมคะ ย้ายมาที่นี่หลักสูตรจะต่างกันมากน้อยแค่ไหนพวกเราไม่รู้เลย" ฉินเสี่ยวหลิงบอก

แต่หญิงสาวไม่ได้สนใจการเรียน เธอเชื่อมั่นในตัวเองเสมอ "เธออยากอ่านหนังสือก็อ่านหนังสือเถอะ เรื่องอื่นฉันจะจัดการเอง" ต้องรีบหาเงินก่อนโรงเรียนเปิด

ฉินเสี่ยวหรานวาดแบบคร่าว ๆ ให้มองออกว่าต้องทำไปในทิศทางไหน เธอไม่ใช่คนวาดรูปสวย แต่มีรายละเอียดที่ชัดเจนก็พอแล้ว อีกอย่างเธอเคยเป็นดีไซเนอร์ชื่อดัง เรื่องแค่นี้ใช้เวลาไม่นานก็ตัดเย็บออกมาได้ น่าเสียดายที่ไม่มีจักรเย็บผ้า ไม่อย่างนั้นคงสะดวกมากกว่านี้

ม้วนผ้าที่ซื้อมา ตัดเสื้อขนาดเดียวกับฉินเสี่ยวหลิงได้สามชุด เธอต้องหาลูกค้ามาตัดชุดด้วย ไม่อย่างนั้นการซื้อม้วนผ้าครั้งนี้จะเสียเปล่า ประตูบ้านเปิดออกให้เห็นแสงทางด้านนอก

อุปกรณ์ที่ได้มาพร้อมม้วนผ้ามีเข็ม ด้าย และกรรไกร ของอย่างอื่นเธอใช้ของแม่ฉิน ระหว่างลองวาดลงไปบนม้วนผ้า ข้างกันยังมีน้องสาวที่มองมาอย่างอยากรู้อยากเห็น

"ฉันไม่เคยเห็นพี่ตัดเย็บชุดใหญ่แบบนี้มาก่อนเลยค่ะ แน่ใจหรือคะว่าจะตัดเย็บเอง" ฉินเสี่ยวหลิงไม่ได้ดูถูกพี่สาว แต่ว่าเธอไม่เคยเห็นพี่สาวตัดเย็บชุดขนาดใหญ่มาก่อนจริง ๆ ปกติจะเป็นเพียงลูกมือของแม่

ฉินเสี่ยวหรานพยักหน้า ประสบการณ์เป็นสิบปีไม่ทำให้เธอกลัว "แน่นอนว่ามันจะสำเร็จ เธออย่าลืมสิว่าพวกเราช่วยแม่ตัดเย็บมาตลอด ถ้าผิดพลาดก็แค่เริ่มใหม่"

"ฉันเสียดายผ้านี่"

"เฮ้อ ไปเตรียมทำอาหารเถอะ มื้อกลางวันจะได้เอาไปส่งให้พ่อกับแม่" ฉินเสี่ยวหรานไล่น้องสาวก่อนที่จะพูดมากไปกว่านี้

"ก็ได้"

เสียงข้างในเงียบแล้ว ฉินเสี่ยวหรานมีสมาธิมากขึ้น เธอวาดโครงชุดบนผ้าที่ซื้อมา ชุดที่ตัดเย็บเป็นชุดที่คนนิยมใส่ในตอนนี้ แต่จะแตกต่างออกไปเธอจะเพิ่มบางอย่างที่คนที่นี่ไม่รู้จัก ส่วนมากคุณนายทหารจะมีเงินเอาไว้ใช้จ่ายและนี่คือเป้าหมายของเธอ

ต่อให้ชำนาญด้านนี้มากแค่ไหน แต่ไม่มีอุปกรณ์ ชุดที่ตัดออกมาก็ทำวันเดียวไม่เสร็จ และถ้าอารมณ์ไม่คงที่ ฉินเสี่ยวหรานจะตัดชุดที่ดีออกมาไม่ได้ เธอเก็บของในห้องโถง นำของเข้าไปเก็บไว้ ก่อนออกมาดูน้องสาวทำอาหาร ใกล้ถึงเวลามื้อกลางวันแล้ว

"ทำอะไร"

ฉินเสี่ยวหลิงส่ายหน้า "ที่บ้านมีไข่แค่ห้าฟองและผักนิดเดียวเท่านั้น ทำอะไรไม่ได้มาก พี่สาวใหญ่บอกให้พ่อซื้อของเข้ามาหน่อยนะคะ"

ที่บ้านพักไม่มีตู้เย็นจึงถนอมอาหารไม่ได้ แต่ก็ยังไม่ได้ซื้อของกินเข้ามา เมื่อเช้ามีอาหารที่เหลือจากเมื่อคืน พ่อของพวกเธอไปรับมา ที่บ้านจึงมีอาหารเช้ากิน ฉินเสี่ยวหรานพยักหน้า เธอจะเป็นคนนำปิ่นโตไปให้พ่อของเธอเอง

"อืม"

ใกล้ถึงเวลาหยุดพักของเหล่านายทหาร สองสาวบ้านฉินช่วยกันทำความสะอาดและเก็บของเข้าในบ้านพัก ล็อกกุญแจบ้านก่อนแยกย้ายนำอาหารไปส่ง ก่อนหน้านี้ฉินเสี่ยวหลิงไปส่งแม่จึงรู้ทางไปโรงตัดเย็บ และอาสานำปิ่นโตไปส่งให้แม่

ฉินเสี่ยวหรานเลือกนำปิ่นโตไปส่งให้พ่อเพราะกลัวว่าจะมีคนมารังแกน้องสาว พ่อของเธอทำงานในกองทัพคลุกคลีกับพวกผู้ชาย และยังอยู่ไกลต้องเดินไปอีกทาง

“นั่นฉินเสี่ยวหรานลูกสาวพันตรีฉินไม่ใช่หรือ"

ในขณะฉินเสี่ยวหรานกำลังเลือกทางเดินที่จะเข้าไปในเขตที่ทำงานของพ่อ เธอพบเข้ากับผู้ชายที่เคยเจอคือพันโทเว่ย พันตรีเว่ย แต่ผู้หญิงคนที่เอ่ยเรียกเธอไม่เคยเจอ แต่ว่าทั้งสามมีใบหน้าที่เหมือนกัน

"คะ?"

"สวัสดีจ้ะ ฉันร้อยตรีพยาบาลหญิงเว่ยเฉินลู่ เป็นพยาบาลในหน่วยแพทย์ของที่นี่"

เว่ย? ต้องเป็นพี่น้องเว่ยแน่นอน "ฉินเสี่ยวหรานค่ะ เป็นลูกสาวของพันตรีฉินที่ย้ายมาอยู่ใหม่" เธอทำความเคารพผู้อาวุโสกว่าทั้งสามคนที่อยู่ตรงหน้า

"จะไปไหนหรือ ทางนี้เป็นทางไปสถานที่ทำงานของเจ้าหน้าที่ทหารหลายฝ่าย" เป็นพันโทเว่ยที่เอ่ยถาม

"ฉันจะนำปิ่นโตไปส่งให้พ่อของฉันค่ะ แต่ไม่รู้จักทางไป แถวนี้ไม่เห็นคนที่จะให้ถาม" ใช่ ที่น่าหงุดหงิดใจก็คือเธอไม่พบคนที่นี่เลย แม้ว่าจะเดินมาหลายนาทีแล้ว

"คนอื่นคงไปพักกันแล้ว พวกเราจะไปทางที่พันตรีฉินทำงานพอดี ไปด้วยกันหรือไม่" เว่ยเฉินลู่เอ่ยเชิญชวน

"รบกวนด้วยค่ะ"

"ไม่รบกวน ๆ" ระหว่างเดินเท้าเพื่อไปยังที่หมาย เว่ยเฉินลู่เอ่ยชวนเด็กสาวตรงหน้า "ถ้าจำไม่ผิดเธอคงใกล้จบมัธยมปลายแล้วใช่หรือไม่ หน่วยแพทย์ของกองทัพต้องการคนหลังเรียนจบ เธอลองเข้ามาสมัครดูสิ เป็นลูกสาวพันตรีฉินอาจผ่านได้ง่าย"

เพราะเป็นลูกสาวของคนที่ทำงานอยู่ในกองทัพ ทางกองทัพจึงให้สิทธิ์ก่อนคนนอกที่มาสมัคร แต่ว่าถ้าไม่ใส่ใจหรือมาสมัครดู เผื่อผ่านเข้าทำงานแล้วแบบนั้นอาจถูกไล่ออกได้ง่าย

“ขอบคุณค่ะ แต่ว่าฉันถนัดตัดเย็บและชื่นชอบในการออกแบบชุดมากกว่า อีกอย่างที่บ้านอยากให้เรียนต่อมหาวิทยาลัย คงต้องปรึกษากันอีกทีค่ะ" ฉินเสี่ยวหรานผงกศีรษะเล็กน้อย

เธอไม่ได้พูดเล่น พ่อของเธออยากให้เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ในอนาคตเผื่อแต่งงานออกไปจะได้ไม่ถูกครอบครัวสามีรังแก อีกอย่างหนึ่งคือพ่อฉินมีเพียงลูกสาว การเรียนสูงถือว่าเป็นการลบคำสบประมาทของครอบครัวได้

พันโทเว่ยพยักหน้า "เรียนมหาวิทยาลัยก็ดีเหมือนกัน เธอชอบอะไรก็เรียนอย่างนั้นจะดีกว่า น้องสาวของฉันไม่ชอบเรียน แต่เข้ามาเป็นพยาบาลในกองทัพเพราะชอบทางด้านนี้"

ฉินเสี่ยวหรานหลุดหัวเราะความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกันจริง ๆ

"เอ๊ะ! พ่อทำงานในกองทัพ พี่ทำงานในกองทัพ น้องชายก็จะทำงานในกองทัพ ถ้าฉันไม่ทำงานในกองทัพก็แปลกแยกสิ" เว่ยเฉินลู่โวยวาย

ระหว่างสองพี่น้องที่กำลังหยอกล้อกันอยู่ ฉินเสี่ยวหรานเหลือบมองผู้ชายที่เงียบที่สุดในกลุ่ม เขาทำเพียงเดินตามหลังมาอย่างเงียบ ๆ และพี่ชายพี่สาวของเขาคงรู้จักนิสัยดีถึงได้ไม่ชวนคุย

"อะ แฮ่ม คนนี้เว่ยเซียว เขาเป็นน้องชายคนเล็กของฉันเอง ไม่ค่อยพูดคุยเท่าไรเพราะขี้เกียจ ฮ่า ๆ" พันโทเว่ยที่เห็นฉินเสี่ยวหรานมองน้องชายก็รีบเอ่ยแนะนำ

"พี่ใหญ่" เขาส่งเสียงด้วยความรำคาญ

ฉินเสี่ยวหรานพยักหน้า เธอเห็นพ่อของเธอแล้วจึงขอตัว "ขอบคุณที่ให้เดินมาด้วยค่ะ ขอตัวก่อนนะคะพ่อรออยู่"

"โชคดี"

ลับหลังสาวน้อยที่เดินถือปิ่นโตเข้าไปหาพ่อของเธอ พลโทเว่ยสะกิดน้องชายที่มองไม่วางตา "เก็บอาการหน่อยสิ ตอนเธออยู่ไม่เห็นจะมอง แต่พอเธอไปกลับมองซะงั้น"

"เมื่อไหร่พี่จะหยุดพูด"

เว่ยเฉินลู่ลูกสาวคนรองของบ้านส่ายหน้า “ไป ๆ พ่อกับแม่คงรอกินข้าวแล้ว ไปช้าขึ้นมาเดี๋ยวจะบ่นอีก"

"ไปสิ"

หลังแยกจากสามพี่น้องเว่ย ฉินเสี่ยวหรานนำปิ่นโตไปส่งให้พ่อของเธอ และบอกให้ซื้ออาหารสดกลับบ้านพักก็กลับบ้านก่อน เพราะยังมีงานที่ตนเองต้องทำอยู่ ถ้ามัวแต่อ้อยอิ่งคงไม่เสร็จเร็วแน่

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 40 ครอบครัว (จบบริบูรณ์)

    เจ็ดปีแล้วที่ลิลลี่ ลลิลิล ได้มายังที่นี่ ได้ใช้ชีวิตเป็นฉินเสี่ยวหราน จากเด็กมัธยมปลายที่ตามพ่อแม่จากต่างเมืองมาใช้ชีวิตในกองทัพ สู่เจ้าของร้านเสื้อผ้าหรานหลิงที่เป็นที่จดจำของผู้คน มามีครอบครัวที่อบอุ่นสี่ปีที่ฉินเสี่ยวหรานได้แต่งงานมีครอบครัว หลังน้องสาวแต่งงานออกไปฉินเสี่ยวหรานก็ย้ายกลับมาอยู่บ้านใหญ่ดูแลพ่อแม่ ทุกคนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขสามปีสำหรับการมีฉินเสี่ยวเว่ยลูกชายตัวน้อยของฉินเสี่ยวหรานกับเว่ยเซียว เขาเป็นแก้วตาดวงใจของบ้าน และฉินเสี่ยวหรานไม่ได้มีลูกเพิ่มด้วยประชากรที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในแต่ละปี รัฐบาลจึงมีนโยบายลูกคนเดียว ยกเว้นชาวบ้านตามชนบทที่อนุญาตให้มีลูกสองคน ในกรณีลูกคนแรกไม่ใช่ลูกชาย อันที่จริงหากฉินเสี่ยวหรานอยากมีลูกคนที่สองเธอสามารถมีได้แต่ฉินเสี่ยวหรานต้องการทุ่มเทให้ลูกชายคนเดียวของเธอมากกว่า หากมีลูกก็ต้องหยุดทำงานไปอีก และฉินเสี่ยวหรานไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น ไหน ๆ ก็มีลูกชายแล้ว"ฮ่า ๆ เสี่ยวเว่ยชิมนี่ดูสิ" ฉินเสี่ยวหรานยื่นแตงโมให้ลูกชายด้วยความเอ็นดู"แม่ ผมอยากกินแอปเปิล" ฉินเสี่ยวเว่ยส่ายหน้าปฏิเสธอย่างรวดเร็วฉินเสี่ยวหรานถอนหายใจ "แอปเปิลมัน

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 39 ปี 1987

    ฉินเสี่ยวเว่ยตามแม่ไปทำงานที่ร้านเสื้อผ้าทุกวัน และกลายเป็นดาวเด่นของร้าน ด้วยความที่เป็นเด็กพูดเก่ง ไม่งอแง และขี้อ้อน ลูกค้าที่มาซื้อเสื้อผ้าโดนเด็กชายตกแบบงง ๆ เวลาตามแม่ของเขามาทำงานก็จะได้รับขนมติดมือมาตลอดแต่ฉินเสี่ยวหรานไม่ได้ให้ลูกของเธอกินขนมพวกนี้ เนื่องจากว่าเป็นขนมที่เด็กไม่ควรกิน อีกทั้งไม่รู้ว่าคนให้ใส่อะไรมาบ้าง ป้องกันได้ก็ควรป้องกันเอาไว้ก่อน และฉินเสี่ยวเว่ยก็รับของมาทุกวันวันไหนที่ลูกชายของฉินเสี่ยวหรานออกมาหน้าร้านก็จะมีลูกค้ามามุงดู แต่ถ้ามาที่ร้านแต่อยู่ภายในห้องก็เยอะเหมือนกันแต่ไม่ได้เยอะขนาดนั้นวันที่เจ็ด เดือนมีนาคม ปี1987 เหยาหนานและบ้านเหยามาสู่ขอฉินเสี่ยวหลิงไปเป็นสะใภ้ หลังฉินเสี่ยวหลิงตกลงคบหากับเหยาหนานได้หนึ่งปีเต็ม ต้องบอกว่าบ้านเหยานั้นรีบมาก กลัวจะไม่ได้ฉินเสี่ยวหลิงเป็นสะใภ้ ถึงขั้นมาขอหมั้นตั้งแต่ที่รู้ว่าทั้งสองคบกันแรก ๆ ด้วยซ้ำเพียงแต่ฉินเสี่ยวหรานถามน้องสาวแล้ว และทั้งสองลงความเห็นกันว่ารออีกหน่อย รอให้ฉินเสี่ยวหลิงใช้ชีวิตอีกสักปี และพอครบพวกเขาก็รีบมาทันทีครั้งนี้ฉินเสี่ยวหรานอนุญาต น้องสาวของเธอได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระและพร้อมที่จะมีสามีแ

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 38 กลับไปทำงาน

    ฉินเสี่ยวหรานต่อเติมคูหายื่นออกมาจากตึกร้านเสื้อผ้าหรานหลิงเพื่อใช้ในการเปิดร้านขายดอกไม้ ซึ่งดอกไม้ที่นำมาขายเป็นดอกไม้ในที่ดินของสามีฉินเสี่ยวหรานเอง แต่ว่าสองสามีภรรยาเปิดร้านนี้ให้พ่อแม่ฉิน โดยที่ช่วยจ่ายค่าอื่น ๆ แต่พ่อแม่ของฉินเสี่ยวหรานรับเงินเพียงเท่านั้นที่จริงแล้วทั้งสองไม่คิดว่าจะขายดอกไม้ด้วยซ้ำ แต่ว่าดอกไม้ที่ได้พันธุ์มาจากสวนผักของโรงแรมในตอนนั้นเกิดขายดีขึ้นมา และเพาะปลูกไม่ทันจึงนำดอกไม้ที่ปลูกในไร่ออกมาขาย ใครจะคิดว่ามันก็ขายได้ จึงเกิดเป็นธุรกิจใหม่ร้านดอกไม้ที่ไม่ได้มีอะไรมากมาย แต่ว่าในแต่ละวันมีรายได้เดือนละมากกว่าร้อยหยวน เงินส่วนต่างจ้าวหยู่ฟางเก็บไว้ให้หลานชายทั้งหมดในตอนนี้ฉินเสี่ยวเว่ยอายุสองขวบแล้ว ฉินเสี่ยวหรานที่ติดลูกชายก็ได้ฤกษ์กลับไปทำงานสักที ตลอดสองปีที่ผ่านมาถึงแม้จะดูแลทางเบื้องหลังมาตลอด แต่ฉินเสี่ยวหรานก็ไม่ได้เข้าไปดูหน้าร้าน เพราะบางครั้งคนเยอะก็ไม่อยากให้ลูกชายไป อีกอย่างแม่ของเธอยังสนับสนุน ไป ๆ มา ๆ ก็เข้าสองปี"วันนี้จะเอาเสี่ยวเว่ยไปด้วยหรือ แม่ว่าลูกไปทำงานก่อนไหม ตอนบ่ายแม่จะพาหลานไปที่ร้านเอง" จ้าวหยู่ฟางมองหลานชายที่แม่ของเขาแต่งตัวใ

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 37 ฉินเสี่ยวเว่ยหนึ่งขวบ

    เผลอแป๊บเดียวฉินเสี่ยวเว่ยก็อายุหนึ่งขวบแล้ว เป็นหนึ่งปีที่บอกได้ว่าฉินเสี่ยวหรานไม่ได้ไปทำงานนอกบ้าน เธออยู่บ้านเลี้ยงลูกเองหนึ่งปีเต็ม ๆ เนื่องด้วยว่าจู่ ๆ ช่วงหลังมานี้น้ำนมค่อนข้างเยอะมาก ถ้าไปทำงานกลัวว่าเชื้อโรคข้างนอกจะติดตัวมาด้วย ฉินเสี่ยวหรานจึงมอบหน้าที่ตรงนี้ให้กับแม่ของเธอแทนบ้านฉินไม่พลาดที่จะจัดงานเลี้ยงฉลองครบหนึ่งปีของฉินเสี่ยวเว่ย หลังจากงานเลี้ยงจบมัธยมปลายของฉินเสี่ยวหลิงเมื่อกลางปีที่แล้ว บ้านฉินก็ไม่ได้มีงานเลี้ยงอะไรอีก วันนี้จึงจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ฉินเสี่ยวหลิงเดินหน้าทำงานในหน่วยแพทย์ของกองทัพ ตอนนี้ได้รับการเลื่อนยศแรกของหน่วยแพทย์แล้ว รอสอบเลื่อนขั้น ที่สำคัญคือเธอมีผู้ชายมาตามจีบคน ๆ นั้นไม่ใช่คนอื่นที่ไหน เป็นเหยาหนานที่ไปรับภารกิจนอกกองทัพนานหลายปี มาเจอฉินเสี่ยวหลิงที่วันฉลองการจบการศึกษาถึงได้ตามจีบ โดยมีคุณนายเหยากับพันโทเหยาผู้เป็นพ่อแม่สนับสนุนฉินเสี่ยวหรานไม่ได้ต้องการจัดงานใหญ่โต แต่ว่าพอนับดูจำนวนคนแล้วได้เป็นร้อยคน ฉินเสี่ยวหรานรู้ว่าการทำอาหารมันเหนื่อยมาก รอบนี้ถึงได้แตกต่างจากครั้งอื่น ตรงที่ว่าฉินเสี่ยวหรานนั้นจ้างแม่ครัวมาทำอาหารให้ อาหาร

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 36 ฉินเสี่ยวหลิงเรียนจบแล้ว

    ช่วงเวลาที่ฉินเสี่ยวหรานคิดว่าผ่านไปเพียงไม่นาน แต่ว่าลูกชายของเธอก็ได้หกเดือนแล้ว และฉินเสี่ยวหลิงน้องสาวของเธอก็เรียนจบมัธยมปลาย ยังจำปีนั้นที่เข้ามาเรียนได้อยู่เลย เวลาผ่านไปเร็วจริง ๆฉินเสี่ยวหลิงชื่นชอบในวิชาแพทย์ ได้ศึกษางานมานานถึงสามปี จึงตัดสินใจที่จะไม่เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย และขอขมาพ่อแม่รวมถึงพี่สาวที่ไม่อาจไปเรียนต่อตามความหวังได้ เพราะงานในกองทัพที่เธอทำจนอยู่ตัวไม่ต้องผ่านการประเมินก่อน ที่สำคัญไม่มีการทดสอบ รวมถึงเงินเดือนที่ได้รับก็ได้เป็นจำนวนมาก สวัสดิการก็ดีสำหรับฉินเสี่ยวหรานกับพ่อแม่ พวกเธอไม่ได้ว่าน้องสาวในเรื่องนี้ การที่อีกฝ่ายตัดสินชีวิตของตัวเองได้แล้ว มีเพียงการสนับสนุนเท่านั้นฉินเสี่ยวหรานอุ้มลูกชายวัยหกเดือนนั่งตรงโต๊ะที่สั่งทำ พร้อมกับวางจานอาหารให้เขาได้จับกิน มันเป็นการกินชนิดหนึ่งพ่อแม่ไม่ต้องป้อนและสอนให้เขากินข้าวเป็นตลอดหกเดือนที่่ผ่านมาเธอเลี้ยงลูกด้วยวิธีของตนเอง อาหารที่บำรุงน้ำนมที่เขาว่าดีก็ให้แม่ทำให้ ช่วงหลัง ๆ มาพอจะมีน้ำนมบ้างก็ไม่ให้ดื่มนมผง เป็นหกเดือนที่ฉินเสี่ยวหรานบำรุงตัวเองจนมีเนื้อมีนวลและสามีคอยตามหวง"เสี่ยวเว่ย น้าเล็กทำ

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 35 ลูกชายตัวอวบอ้วน

    แต่ก่อนการคลอดลูกในเดือนธันวาคมเป็นอะไรที่ลำบากมาก นอกจากอากาศที่หนาวแล้วยังต้องอด ๆ อยาก ๆ แต่ค่านิยมของคนในชนบทก็คือยิ่งมีลูกเยอะยิ่งดียังดีที่ฉินหานกับภรรยาเล็งเห็นว่าตรงนี้คือปัญหาที่ทำให้บ้านลำบาก พอมีลูกคนที่สองเป็นผู้หญิงเขาก็ไม่ได้มีคนที่สามต่อ เรื่องนี้จึงเป็นอีกเรื่องที่บ้านของเขาถูกคนอื่นมองว่าแปลก ยิ่งไม่มีลูกชายยิ่งต้องมีลูกเพิ่มในตอนนี้บ้านฉินมีเงินแล้ว ไหนจะบ้านของสามีที่รับขวัญหลานหลายพันหยวน จึงไม่ได้ลำบากอะไร ในบ้านเต็มไปด้วยความอบอุ่นจากปล่องไฟที่ฉินเสี่ยวหรานออกแบบมาเอง และภายในตัวบ้านคืออบอุ่นมากฉินเสี่ยวหรานคลอดลูกชายตัวอวบอ้วน ตั้งชื่อว่าฉินเสี่ยวเว่ย ฉินเสี่ยวมาจากแซ่และชื่อตัวแรกของแม่ ส่วนเว่ยมากจากแซ่ของพ่อ ในตอนแรกฉินเสี่ยวหรานจะตั้งว่าฉินเสี่ยวเซียว แต่พอคิดอีกทีเอาฉินเสี่ยวเว่ยจะดีกว่าฉินเสี่ยวเว่ยคลอดมาได้เพียงสิบวันเหล่าคุณย่า คุณยายต่างเดินทางมารับขวัญหลาน แต่ละคนที่รับขวัญหลานนอกจากบ้านเว่ยแล้ว แต่ละคนล้วนให้ไม่ต่ำกว่าร้อยหยวน ซึ่งมันเป็นเงินจำนวนมาก"ดูสิ ตั้งแต่ออกมาก็ตัวอวบอ้วนแล้ว ตอนนี้ยังดื่มนมเก่งตุ้ยนุ้ยเชียว" คุณนายเว่ยที่อาบน้ำเสร็จแล้วเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status