Share

ตอนที่ 3 เสียหน้า

last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-09 12:14:31

เฮ้ พี่ชายฉิน เชิญ ๆ"

กลุ่มผู้ชายที่อยู่ไม่ไกลโบกมือเรียกฉินหานที่เดินนำครอบครัวเข้ามาในงาน ฉินเสี่ยวหรานมองเห็นแล้ว พวกเขาอยู่ในชุดทหารและยังมีตราที่บ่งบอกยศ แต่ละคนล้วนมีตำแหน่งเล็กกว่า หากให้เดา คงเป็นตำแหน่งเดิมของพ่อเธอ เพราะห้าปีที่ผ่านเพิ่งได้รับการเลื่อยศ

"มา มา"

ฉินหานมองกลุ่มเพื่อนที่ร่วมเป็นร่วมตายกันมาหลายปี "นี่ภรรยาของฉันเอง พี่สะใภ้ของพวกนายจ้าวหยู่ฟาง หลานสาวใหญ่ฉินเสี่ยวหราน หลานสาวรองฉินเสี่ยวหลิง"

"พี่สะใภ้ฉิน"

"พี่สะใภ้"

พวกเขาต่างเดินเข้ามาทักทายอย่างเป็นกันเอง "หลานสาวใหญ่ หลานสาวรอง หน้าตาดีกันจริง ๆ โตเป็นสาวแล้ว ทำงานกับพี่ชายฉินมานานหลายปีเพิ่งได้เห็นหน้าหลานสาว"

ฉินเสี่ยวหรานยิ้มเล็กน้อยมองบรรดาเพื่อนของพ่อ "สวัสดีค่ะคุณอา ฉินเสี่ยวหรานหรือเรียกเสี่ยวหรานก็ได้ค่ะ" ไหน ๆ แล้ว ได้ชีวิตใหม่ทั้งที เธอควรทำความรู้จักกับผู้คน

"เสี่ยวหราน"

คุณนายทหารเดินมาตั้งแต่ไกลเพื่อมาหาจ้าวหยู่ฟาง และเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา "นี่หรือภรรยาของพันตรีฉิน ฉันเหวยฉิงภรรยาของพันเอกเหยา ไปกับฉันสิ จะแนะนำให้คนอื่นได้รู้จัก"

“คุณนายเหยา ฝากพวกเธอด้วยครับ"

"แน่นอน"

คุณนายเหยาดึงมือจ้าวหยู่ฟางที่มัวอ้ำอึ้งให้เดินตามไป ฉินเสี่ยวหลิงเดินตามแม่และฉินเสี่ยวหรานเดินปิดท้าย คนรอบข้างต่างหันมามอง แต่สำหรับฉินเสี่ยวหรานเธอรู้สึกถึงบางอย่าง

สายตาหยุดมองนายทหารที่น่าจะยศเดียวกันกับพ่อของเธอแต่มีอายุที่น้อยกว่า รอบตัวของเขามีความน่าเกรงขามอย่างบอกไม่ถูก เขาหันมาสบตากับเธอและจ้องหน้ากัน ฉินเสี่ยวหรานยิ้มให้อีกฝ่ายและละสายตาก่อน

ผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์ที่ร้อนแรงจริง ๆ ขนาดชีวิตก่อนคลุกคลีกับพวกดารานักแสดงยังไม่เคยหวั่นไหวกับใคร หรือเป็นเพราะเธอคือฉินเสี่ยวหราน อย่างนั้นหรือ

โดยที่ไม่ได้สังเกตเลยว่ามีสายตาร้อนแรงของผู้หญิงคนหนึ่งจ้องมองมาอยู่

"มาแล้ว ๆ ภรรยาของพันตรีฉิน" คุณนายเหยาบอกทุกคนที่นั่งอยู่ คุณนายในกลุ่มมีสีหน้าและท่าทางต้อนรับอย่างเป็นกันเอง "คนในกลุ่มเป็นคุณนายที่มีสามีเป็นพันเอก พันโท และพันตรี มีเพียงคุณนายเว่ยที่เป็นภรรยาของท่านนายพล"

สามแม่ลูกรีบแนะนำตัว "ฉันจ้าวหยู่ฟางค่ะ นี่ลูกสาวคนโตฉินเสี่ยวหราน ลูกสาวคนเล็กฉินเสี่ยวหลิง พวกเราเพิ่งย้ายมาที่นี่ ฝากตัวด้วยนะคะ" เพื่อไม่ให้สามีขายหน้า จ้าวหยู่ฟางพยายามเก็บอาการ แต่เหล่าคุณนายหลายคนมองออกและมองข้ามไป

คุณนายในกลุ่มต่างแนะนำตัว ฉินเสี่ยวหรานจดจำเอาไว้ เป็นคุณนายท่านนายพลหนึ่งคน คุณนายพันเอกสองคน คุณนายพันโทสามคน และคุณนายพันตรีหนึ่งคน รวมแม่ของเธอก็เป็นสอง ถือว่าเป็นกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งก็ว่าได้

คุณนายที่มีสามีเป็นพันตรีเอ่ยถาม "ชุดพวกเธอซื้อมาจากไหน ทำไมถึงได้งดงามแบบนี้ ฉันตัดเย็บมาครึ่งชีวิตยังทำให้งดงามแบบนี้ไม่ได้"

จ้าวหยู่ฟางอมยิ้มพลางตอบ "ชุดนี้ฉันตัดเย็บเองค่ะ ก่อนหน้านี้คิดว่าจะตัดให้ลูก ๆ เอาไว้ใส่ไปโรงเรียน ได้มาที่นี่พอดี จึงให้ลูกใส่มาร่วมงานเลี้ยงค่ะ"

จ้าวหยู่ฟางตัดเย็บเก่งมาก และชุดที่ลูก ๆ ใส่ก็เป็นเธอที่ตัดเย็บให้ อาจจะตัดเย็บให้ปีละครั้งแต่ฝีมือไม่เคยตก อาจเป็นเพราะต้องรับจ้างตัดเย็บด้วยก็เป็นได้

"โอ้ ฉันทำงานในโรงปักเย็บของกองทัพ เธอสนใจเข้ามาทำกับฉันหรือไม่"

"ยินดีค่ะ"

"ดี ๆ พรุ่งนี้ฉันจะไปรับที่บ้านนะคะ"

"แหมคุณนายซิน ได้เพื่อนใหม่แล้วทิ้งพวกเราเลยนะ ฉันก็ตัดเย็บได้ คุณนายซินมองข้ามไปได้อย่างไรกัน" คุณนายคนที่สองในกลุ่มเอ่ยด้วยท่าทีงอน ๆ

"แค่เสื้อไม่ขาดก็ดีแค่ไหนแล้ว ว้าย! ทำไมลูกสาวของเธอถึงได้หน้าตาดีขนาดนี้กัน!"

คุณนายซินที่ได้เห็นใบหน้าของสองพี่น้องฉินเต็ม ๆ ร้องขึ้นด้วยความตกใจ โดยปกติผู้หญิงที่มาจากชนบทค่อนข้างมีผิวสีเข้ม คุณนายซินไม่ได้ดูถูกแต่ว่าส่วนมากจะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ แต่ว่าสองพี่น้องฉินกลับมีใบหน้าที่สวยและน่ารักอย่างลงตัว

ฉินเสี่ยวหรานยิ้มเล็กน้อย "คุณนายซินกล่าวเกินไปแล้ว หน้าตาของฉันก็ธรรมดาค่ะ"

ฉินเสี่ยวหลิงไม่ได้พูด แต่หล่อนยืนพยักหน้าอยู่ข้าง ๆ กันอย่างเห็นด้วย ให้เทียบกันแล้ว เธอกับพี่สาวห่างไกลจากความสวยกับคนที่นี่มาก หรือเพราะไม่ได้อยู่ในมณฑลเดียวกันจึงแปลกตา

"ถ้าเธอหน้าตาไม่ดีฉันคงหน้าตาไม่ดี" คุณนายเว่ยหัวเราะ "ไม่เห็นพันตรีฉินบอกเลยว่ามีลูกสาวที่สวยขนาดนี้ เอ๋ แต่ลูกสาวสวยขนาดนี้ก็ไม่แปลกที่ไม่บอก เป็นฉันฉันคงหวง"

ฉินเสี่ยวหรานและฉินเสี่ยวหลิงอมยิ้ม ก่อนจะทำอะไรต่อ ฉินเสี่ยวหรานกลับถูกนายทหารเข้ามาขัดเสียก่อน "สาวน้อยเธอชื่ออะไร พอจะบอกพี่ชายได้หรือไม่"

ฉินเสี่ยวหรานถอยหลังอย่างรักษามารยาทก่อนแนะนำตัว "ฉินเสี่ยวหรานค่ะ" ผู้ชายคนนี้เป็นใครไม่รู้จัก แต่การที่เขาเดินเข้ามาใกล้เช่นนี้มันไม่ดีเอาเสียเลย

เขาหน้าเสียและเอ่ยออกมาด้วยความไม่พอใจ "ผมร้อยตรีหยูเหลย หวังว่าคุณหนูฉินจะให้โอกาสได้ทำความรู้จักนะครับ"

คุณนายเหยาเห็นท่าไม่ดีรีบเข้ามาห้าม "ร้อยตรีหยู นายพลเรียกรวมแล้วไม่ไปหรือ เสี่ยวหรานของเรายังเด็ก หวังว่าร้อยตรีหยูจะไม่ถือสากับเด็กอายุคราวลูก" คุณนายเหยาย้ำคำว่าคราวลูกเสียงหนักแน่น

"อ่า ไว้เจอกันใหม่"

ร้อยตรีหยูเหลยเดินจากไปแล้วคุณนายเหยารีบเอ่ย "ลูกชายของพันโทหยู เขายังไม่แต่งงานถึงแม้อายุจะสามสิบแล้ว ให้ระวังเอาไว้"

"ค่ะ"

"ไปนั่งกันเถอะ"

ทางกองทัพได้จัดโต๊ะรวมให้ทุกคนตามตำแหน่งเพื่อไม่ให้กดดันกันเกินไป โต๊ะที่บ้านฉินถูกเชิญมานั่งเป็นโต๊ะของครอบครัวพันเอก พันโท และพันตรี ผู้ชายที่เธอสบตาด้วยก่อนหน้านี้เป็นลูกชายคนเล็กของคุณนายเว่ยและเขามียศพันตรีตามที่คิดเอาไว้จริง ๆ

ฉินเสี่ยวหรานนั่งตรงข้ามอีกฝ่าย เยื้องซ้ายจะเป็นที่นั่งพ่อของเธอที่อยู่ตรงข้ามแม่ ส่วนน้องสาวจะนั่งถัดจากแม่ ที่นั่งไม่ได้มีชื่อติดเอาไว้ แต่รู้ว่าครอบครัวสนิทกัน มีเพียงคุณนายเว่ยที่เลือกจะไปนั่งกับสามี ปล่อยให้ลูกชายนั่งที่นี่กับพี่ชายของเขา

"ทางกองทัพจัดหนักจริง ๆ หลายเดือนที่ผ่านมาไม่เห็นมีงานเลี้ยง จัดทีก็จัดยิ่งใหญ่แบบนี้" คุณนายที่ฉินเสี่ยวหรานไม่เคยรู้จักเอ่ยขึ้น

"แต่คุณป้าคะ อาหารพวกนี้เรากินกันบ่อยมากเลยนะคะ" เสียงผู้หญิงวัยรุ่นเอ่ยขึ้นกลางโต๊ะรับประทานอาหาร และปรายตามองมายังสามแม่ลูกบ้านฉินที่นั่งอยู่

จ้าวหยู่ฟาง และฉินเสี่ยงหลิงไม่ใช่คนโง่ ทั้งสองรู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้ต้องการหักหน้าบ้านฉิน เพราะทั้งสองมีสีหน้าตื่นเต้นเมื่ออาหารเสิร์ฟ แต่จะให้ตอบโต้เห็นท่าว่าคงไม่ดี

"บ้านนี้สอนลูกสาวดีจริง ๆ จ้าวหยู่ฟาง ฉินเสี่ยวหลิงไม่ต้องไปสนใจ ถ้าหล่อนกินบ่อยแล้วก็ไม่ต้องกิน สามีฉันทำงานทุกวันฉันก็ไม่ค่อยได้กินแบบนี้ ใครจะใช้เงินสิ้นเปลืองขนาดนั้น" คุณนายเหยาเอ่ยขึ้นกลางโต๊ะด้วยความไม่พอใจ คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน

"ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะคุณนายเหยา!" อีกฝ่ายระส่ำระส่าย "ฉันพูดไปแค่อยากเอ่ยหยอกล้อเท่านั้นเอง บ้านไหนจะมีเงินให้ซื้อกินได้บ่อย ๆ ล่ะคะ"

“นั่นสิ ต้องขออภัยคุณนายเหยาด้วยนะคะ พอดีที่บ้านเลี้ยงหยูเหมี่ยวด้วยอาหารค่อนข้างดีหล่อนจึงได้พูดเช่นนี้" คุณนายหยูผู้เป็นแม่รีบแก้ต่าง แต่ยิ่งทำให้คนอื่นส่ายหน้า

"สิ้นเปลืองกันจริง ๆ"

เหล่านายทหารทำได้เพียงมองหน้ากัน ไม่มีใครกล้าสบตากับคุณนายทั้งหลาย เรื่องแบบนี้เหล่าพ่อบ้านจะไม่ยุ่ง อีกอย่างคุณนายเหยาเป็นคุณนายที่มีสามีเป็นพันเอกคนจึงไม่กล้ายุ่ง

"แม่คะ หนูตักให้ค่ะ"

ฉินเสี่ยวหรานไม่ได้เดือดร้อนกับคนอื่น เธอตักกับข้าวให้แม่และกินข้าวอย่างเงียบ ๆ แต่ระหว่างนั้นก็จดจำท่าทีของทุกคนไปด้วย ใครทำดีกับครอบครัวของเธอหรือใครว่าร้าย โดยเฉพาะบ้านคนบ้านหยู

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 40 ครอบครัว (จบบริบูรณ์)

    เจ็ดปีแล้วที่ลิลลี่ ลลิลิล ได้มายังที่นี่ ได้ใช้ชีวิตเป็นฉินเสี่ยวหราน จากเด็กมัธยมปลายที่ตามพ่อแม่จากต่างเมืองมาใช้ชีวิตในกองทัพ สู่เจ้าของร้านเสื้อผ้าหรานหลิงที่เป็นที่จดจำของผู้คน มามีครอบครัวที่อบอุ่นสี่ปีที่ฉินเสี่ยวหรานได้แต่งงานมีครอบครัว หลังน้องสาวแต่งงานออกไปฉินเสี่ยวหรานก็ย้ายกลับมาอยู่บ้านใหญ่ดูแลพ่อแม่ ทุกคนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขสามปีสำหรับการมีฉินเสี่ยวเว่ยลูกชายตัวน้อยของฉินเสี่ยวหรานกับเว่ยเซียว เขาเป็นแก้วตาดวงใจของบ้าน และฉินเสี่ยวหรานไม่ได้มีลูกเพิ่มด้วยประชากรที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในแต่ละปี รัฐบาลจึงมีนโยบายลูกคนเดียว ยกเว้นชาวบ้านตามชนบทที่อนุญาตให้มีลูกสองคน ในกรณีลูกคนแรกไม่ใช่ลูกชาย อันที่จริงหากฉินเสี่ยวหรานอยากมีลูกคนที่สองเธอสามารถมีได้แต่ฉินเสี่ยวหรานต้องการทุ่มเทให้ลูกชายคนเดียวของเธอมากกว่า หากมีลูกก็ต้องหยุดทำงานไปอีก และฉินเสี่ยวหรานไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น ไหน ๆ ก็มีลูกชายแล้ว"ฮ่า ๆ เสี่ยวเว่ยชิมนี่ดูสิ" ฉินเสี่ยวหรานยื่นแตงโมให้ลูกชายด้วยความเอ็นดู"แม่ ผมอยากกินแอปเปิล" ฉินเสี่ยวเว่ยส่ายหน้าปฏิเสธอย่างรวดเร็วฉินเสี่ยวหรานถอนหายใจ "แอปเปิลมัน

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 39 ปี 1987

    ฉินเสี่ยวเว่ยตามแม่ไปทำงานที่ร้านเสื้อผ้าทุกวัน และกลายเป็นดาวเด่นของร้าน ด้วยความที่เป็นเด็กพูดเก่ง ไม่งอแง และขี้อ้อน ลูกค้าที่มาซื้อเสื้อผ้าโดนเด็กชายตกแบบงง ๆ เวลาตามแม่ของเขามาทำงานก็จะได้รับขนมติดมือมาตลอดแต่ฉินเสี่ยวหรานไม่ได้ให้ลูกของเธอกินขนมพวกนี้ เนื่องจากว่าเป็นขนมที่เด็กไม่ควรกิน อีกทั้งไม่รู้ว่าคนให้ใส่อะไรมาบ้าง ป้องกันได้ก็ควรป้องกันเอาไว้ก่อน และฉินเสี่ยวเว่ยก็รับของมาทุกวันวันไหนที่ลูกชายของฉินเสี่ยวหรานออกมาหน้าร้านก็จะมีลูกค้ามามุงดู แต่ถ้ามาที่ร้านแต่อยู่ภายในห้องก็เยอะเหมือนกันแต่ไม่ได้เยอะขนาดนั้นวันที่เจ็ด เดือนมีนาคม ปี1987 เหยาหนานและบ้านเหยามาสู่ขอฉินเสี่ยวหลิงไปเป็นสะใภ้ หลังฉินเสี่ยวหลิงตกลงคบหากับเหยาหนานได้หนึ่งปีเต็ม ต้องบอกว่าบ้านเหยานั้นรีบมาก กลัวจะไม่ได้ฉินเสี่ยวหลิงเป็นสะใภ้ ถึงขั้นมาขอหมั้นตั้งแต่ที่รู้ว่าทั้งสองคบกันแรก ๆ ด้วยซ้ำเพียงแต่ฉินเสี่ยวหรานถามน้องสาวแล้ว และทั้งสองลงความเห็นกันว่ารออีกหน่อย รอให้ฉินเสี่ยวหลิงใช้ชีวิตอีกสักปี และพอครบพวกเขาก็รีบมาทันทีครั้งนี้ฉินเสี่ยวหรานอนุญาต น้องสาวของเธอได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระและพร้อมที่จะมีสามีแ

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 38 กลับไปทำงาน

    ฉินเสี่ยวหรานต่อเติมคูหายื่นออกมาจากตึกร้านเสื้อผ้าหรานหลิงเพื่อใช้ในการเปิดร้านขายดอกไม้ ซึ่งดอกไม้ที่นำมาขายเป็นดอกไม้ในที่ดินของสามีฉินเสี่ยวหรานเอง แต่ว่าสองสามีภรรยาเปิดร้านนี้ให้พ่อแม่ฉิน โดยที่ช่วยจ่ายค่าอื่น ๆ แต่พ่อแม่ของฉินเสี่ยวหรานรับเงินเพียงเท่านั้นที่จริงแล้วทั้งสองไม่คิดว่าจะขายดอกไม้ด้วยซ้ำ แต่ว่าดอกไม้ที่ได้พันธุ์มาจากสวนผักของโรงแรมในตอนนั้นเกิดขายดีขึ้นมา และเพาะปลูกไม่ทันจึงนำดอกไม้ที่ปลูกในไร่ออกมาขาย ใครจะคิดว่ามันก็ขายได้ จึงเกิดเป็นธุรกิจใหม่ร้านดอกไม้ที่ไม่ได้มีอะไรมากมาย แต่ว่าในแต่ละวันมีรายได้เดือนละมากกว่าร้อยหยวน เงินส่วนต่างจ้าวหยู่ฟางเก็บไว้ให้หลานชายทั้งหมดในตอนนี้ฉินเสี่ยวเว่ยอายุสองขวบแล้ว ฉินเสี่ยวหรานที่ติดลูกชายก็ได้ฤกษ์กลับไปทำงานสักที ตลอดสองปีที่ผ่านมาถึงแม้จะดูแลทางเบื้องหลังมาตลอด แต่ฉินเสี่ยวหรานก็ไม่ได้เข้าไปดูหน้าร้าน เพราะบางครั้งคนเยอะก็ไม่อยากให้ลูกชายไป อีกอย่างแม่ของเธอยังสนับสนุน ไป ๆ มา ๆ ก็เข้าสองปี"วันนี้จะเอาเสี่ยวเว่ยไปด้วยหรือ แม่ว่าลูกไปทำงานก่อนไหม ตอนบ่ายแม่จะพาหลานไปที่ร้านเอง" จ้าวหยู่ฟางมองหลานชายที่แม่ของเขาแต่งตัวใ

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 37 ฉินเสี่ยวเว่ยหนึ่งขวบ

    เผลอแป๊บเดียวฉินเสี่ยวเว่ยก็อายุหนึ่งขวบแล้ว เป็นหนึ่งปีที่บอกได้ว่าฉินเสี่ยวหรานไม่ได้ไปทำงานนอกบ้าน เธออยู่บ้านเลี้ยงลูกเองหนึ่งปีเต็ม ๆ เนื่องด้วยว่าจู่ ๆ ช่วงหลังมานี้น้ำนมค่อนข้างเยอะมาก ถ้าไปทำงานกลัวว่าเชื้อโรคข้างนอกจะติดตัวมาด้วย ฉินเสี่ยวหรานจึงมอบหน้าที่ตรงนี้ให้กับแม่ของเธอแทนบ้านฉินไม่พลาดที่จะจัดงานเลี้ยงฉลองครบหนึ่งปีของฉินเสี่ยวเว่ย หลังจากงานเลี้ยงจบมัธยมปลายของฉินเสี่ยวหลิงเมื่อกลางปีที่แล้ว บ้านฉินก็ไม่ได้มีงานเลี้ยงอะไรอีก วันนี้จึงจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ฉินเสี่ยวหลิงเดินหน้าทำงานในหน่วยแพทย์ของกองทัพ ตอนนี้ได้รับการเลื่อนยศแรกของหน่วยแพทย์แล้ว รอสอบเลื่อนขั้น ที่สำคัญคือเธอมีผู้ชายมาตามจีบคน ๆ นั้นไม่ใช่คนอื่นที่ไหน เป็นเหยาหนานที่ไปรับภารกิจนอกกองทัพนานหลายปี มาเจอฉินเสี่ยวหลิงที่วันฉลองการจบการศึกษาถึงได้ตามจีบ โดยมีคุณนายเหยากับพันโทเหยาผู้เป็นพ่อแม่สนับสนุนฉินเสี่ยวหรานไม่ได้ต้องการจัดงานใหญ่โต แต่ว่าพอนับดูจำนวนคนแล้วได้เป็นร้อยคน ฉินเสี่ยวหรานรู้ว่าการทำอาหารมันเหนื่อยมาก รอบนี้ถึงได้แตกต่างจากครั้งอื่น ตรงที่ว่าฉินเสี่ยวหรานนั้นจ้างแม่ครัวมาทำอาหารให้ อาหาร

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 36 ฉินเสี่ยวหลิงเรียนจบแล้ว

    ช่วงเวลาที่ฉินเสี่ยวหรานคิดว่าผ่านไปเพียงไม่นาน แต่ว่าลูกชายของเธอก็ได้หกเดือนแล้ว และฉินเสี่ยวหลิงน้องสาวของเธอก็เรียนจบมัธยมปลาย ยังจำปีนั้นที่เข้ามาเรียนได้อยู่เลย เวลาผ่านไปเร็วจริง ๆฉินเสี่ยวหลิงชื่นชอบในวิชาแพทย์ ได้ศึกษางานมานานถึงสามปี จึงตัดสินใจที่จะไม่เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย และขอขมาพ่อแม่รวมถึงพี่สาวที่ไม่อาจไปเรียนต่อตามความหวังได้ เพราะงานในกองทัพที่เธอทำจนอยู่ตัวไม่ต้องผ่านการประเมินก่อน ที่สำคัญไม่มีการทดสอบ รวมถึงเงินเดือนที่ได้รับก็ได้เป็นจำนวนมาก สวัสดิการก็ดีสำหรับฉินเสี่ยวหรานกับพ่อแม่ พวกเธอไม่ได้ว่าน้องสาวในเรื่องนี้ การที่อีกฝ่ายตัดสินชีวิตของตัวเองได้แล้ว มีเพียงการสนับสนุนเท่านั้นฉินเสี่ยวหรานอุ้มลูกชายวัยหกเดือนนั่งตรงโต๊ะที่สั่งทำ พร้อมกับวางจานอาหารให้เขาได้จับกิน มันเป็นการกินชนิดหนึ่งพ่อแม่ไม่ต้องป้อนและสอนให้เขากินข้าวเป็นตลอดหกเดือนที่่ผ่านมาเธอเลี้ยงลูกด้วยวิธีของตนเอง อาหารที่บำรุงน้ำนมที่เขาว่าดีก็ให้แม่ทำให้ ช่วงหลัง ๆ มาพอจะมีน้ำนมบ้างก็ไม่ให้ดื่มนมผง เป็นหกเดือนที่ฉินเสี่ยวหรานบำรุงตัวเองจนมีเนื้อมีนวลและสามีคอยตามหวง"เสี่ยวเว่ย น้าเล็กทำ

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 35 ลูกชายตัวอวบอ้วน

    แต่ก่อนการคลอดลูกในเดือนธันวาคมเป็นอะไรที่ลำบากมาก นอกจากอากาศที่หนาวแล้วยังต้องอด ๆ อยาก ๆ แต่ค่านิยมของคนในชนบทก็คือยิ่งมีลูกเยอะยิ่งดียังดีที่ฉินหานกับภรรยาเล็งเห็นว่าตรงนี้คือปัญหาที่ทำให้บ้านลำบาก พอมีลูกคนที่สองเป็นผู้หญิงเขาก็ไม่ได้มีคนที่สามต่อ เรื่องนี้จึงเป็นอีกเรื่องที่บ้านของเขาถูกคนอื่นมองว่าแปลก ยิ่งไม่มีลูกชายยิ่งต้องมีลูกเพิ่มในตอนนี้บ้านฉินมีเงินแล้ว ไหนจะบ้านของสามีที่รับขวัญหลานหลายพันหยวน จึงไม่ได้ลำบากอะไร ในบ้านเต็มไปด้วยความอบอุ่นจากปล่องไฟที่ฉินเสี่ยวหรานออกแบบมาเอง และภายในตัวบ้านคืออบอุ่นมากฉินเสี่ยวหรานคลอดลูกชายตัวอวบอ้วน ตั้งชื่อว่าฉินเสี่ยวเว่ย ฉินเสี่ยวมาจากแซ่และชื่อตัวแรกของแม่ ส่วนเว่ยมากจากแซ่ของพ่อ ในตอนแรกฉินเสี่ยวหรานจะตั้งว่าฉินเสี่ยวเซียว แต่พอคิดอีกทีเอาฉินเสี่ยวเว่ยจะดีกว่าฉินเสี่ยวเว่ยคลอดมาได้เพียงสิบวันเหล่าคุณย่า คุณยายต่างเดินทางมารับขวัญหลาน แต่ละคนที่รับขวัญหลานนอกจากบ้านเว่ยแล้ว แต่ละคนล้วนให้ไม่ต่ำกว่าร้อยหยวน ซึ่งมันเป็นเงินจำนวนมาก"ดูสิ ตั้งแต่ออกมาก็ตัวอวบอ้วนแล้ว ตอนนี้ยังดื่มนมเก่งตุ้ยนุ้ยเชียว" คุณนายเว่ยที่อาบน้ำเสร็จแล้วเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status