Masuk“นั่งลง” ร่างบางกระเด็นเข้ามาในห้องตามแรงผลักของเจ้าของห้อง หลังจากมาถึงหน้าประตูห้องทำงาน
“…มีอะไรคะ” ประทานพรทรุดตัวนั่งลงบนโซฟา สีหน้าไม่พอใจ
“…...”
“ถ้าไม่มีอะไร งั้นเพลงขอตัวกลับค่ะ” ประทานพรถอนหายใจหนักๆพร้อมกับลุกขึ้นยืน เมื่อเห็นเขาไม่พูดอะไร เธอไม่เข้าใจ ว่าเขาลากเธอมาเพื่ออะไร ในเมื่อเขาสั่งให้ดาราภัสกลับบ้าน
“ใครสั่งให้กลับ” นภพงศ์มองคนตัวเล็กกว่าตาขวาง
“…..” ประทานพรกระแทกตัวลงนั่งบนโซฟาเหมือนเดิม เธอไม่เข้าใจว่านภพงศ์เป็นอะไรกับเธอนักหนา
ติ๊ง
เสียงเตือนข้อความดังขึ้น หญิงสาวหยิบกระเป๋าสะพายที่เธอวางไว้ข้างกายมาเปิด แล้วหยิบโทรศัพท์ที่ราคาไม่ถูกนักออกมาดูหน้าจอ พร้อมกับพิมพ์ตอบกลับไป
‘แก ฉันขอโทษ ฉันไม่รู้ว่าพี่ฟ้าจะสั่งให้ฉันกลับ’
‘อือ ไม่เป็นไร’
‘นี่แกอยู่ไหน กลับถึงคอนโดหรือยัง’
‘อยู่ที่ผับเหมือนเดิม พี่ฟ้าลากฉันขึ้นมาที่ห้องทำงาน’
‘ห๊ะ…’
‘พี่แกเป็นบ้า’
‘เอ่อ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันอะ เอาเป็นว่าถ้าแกถึงคอนโดแกบอกฉันด้วยนะ ฉันเป็นห่วง’
‘อือ’
มือเล็กเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋าสะพายตามเดิม ก่อนจะปรายตามองเจ้าของห้องที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานเล็กน้อย แล้วลุกขึ้นเดินไปที่ริมกระจก วงแขนเรียวยกขึ้นกอดอกให้ความอบอุ่นกับตัวเอง
นภพงศ์มองตามร่างหญิงสาวขบกรามแน่น เขาไม่พอใจกับการแต่งตัวของเธอ คนมองแทบทั้งผับ จะไม่ให้เขาโมโหได้อย่างไร ร่างสูงลุกเอาเสื้อสูทไปคลุมไหล่ให้เธอ ประทานพรสะดุ้งสุดตัว
“กลับ”
ร่างสูงพูดสั้นๆก่อนจะเดินนำออกจากห้องไป ทิ้งให้หญิงสาวยืนงง เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไร
เมื่อมาถึงที่รถของเธอ มือใหญ่แบมือมาตรงหน้าเธอ ประทานพรเปิดกระเป๋าหยิบกุญแจรถวางบนมือเขาอย่างเสียไม่ได้ เธอไม่เข้าใจว่นภพงศ์เป็นอะไรกับเธอนักหนา กับดาราภัสเขาไม่เห็นเป็นขนาดนี้ ทุกครั้งที่เธอออกมาเที่ยว เขาจะจ้องเธอราวกับจะฉีกร่างเธอออกเป็นชิ้นๆ และสั่งให้ดาราภัสกลับบ้าน หรือให้คนไปส่งที่บ้าน แต่ตัวเขากลับเป็นคนมาส่งเธอด้วยตัวเองทุกครั้ง
ประทานพรขึ้นรถก่อนจะคาดเข็มขัดให้ตัวเอง ใบหน้าหวานหันมองออกไปนอกกระจกอย่างเคยชิน จะว่าเธอชิน ก็คงชิน กับการที่เขาทำตัวแปลก หรือจะว่าไม่ชิน ก็คงไม่ชิน เพราะเธอไม่เข้าใจ ว่าเขาเป็นอะไร
ด้วยความที่ทั้ง 2 ครอบครัวสนิทกัน เลยได้ไปมาหาสู่กันอยู่บ่อยครั้ง รวมทั้งที่ลูกๆอย่างพวกเธอสนิทกันด้วย เลยทำให้ได้เจอกันบ่อย และเขาก็เป็นแบบนี้กับเธอตลอด ตั้งแต่เธอเริ่มโตเข้าสู่วัยรุ่น
ตอนประทานพรยังเด็กนภพงศ์ใจดีกับเธอมาก มากกว่ากันชนกพี่ชายแท้ๆของเธอด้วยซ้ำ รายนั้นชอบแกล้งเธอ ทะเลาะกับเธอตลอด แต่พอโตขึ้นเขากลายเป็นพี่ชายที่ดีคนหนึ่งเลยทีเดียว แต่กลับกัน คนที่ใจดีอบอุ่นกับเธอมากๆอย่างนภพงศ์ กลับเย็นชากับเธอ แถมยังคอยตามควบคุมเธอแทบทุกอย่าง บางครั้งก็ส่งคนของเขามาตามเฝ้าเธอเสียด้วยซ้ำ
เมื่อมาถึงลานจอดรถที่คอนโด ชายหนุ่มจอดไม่ไกลจากบริเวณหน้าประตูทางเข้าเท่าไหร่นัก ทั้งเขาและเธอนั่งกันท่ามกลางความเงียบอยู่สักพัก จนกระทั่งเขาถอนหายใจออกมา
“ขึ้นห้องไปซะ ถ้าคนของฉันรายงานว่าเธอออกไปไหนอีก เตรียมตัวย้ายกลับไปอยู่บ้านได้เลย” นภพงศ์เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น พร้อมกับสบตาคมของตัวเองกับดวงตากลมโตของหญิงสาวตรงหน้า ที่หันมามองเขาด้วยความไม่พอใจ หลังจากที่นั่งหน้ามุ่ยมาตลอดทาง
“เฝ้าเพลงเสียยิ่งกว่าคุณพ่อหรือพี่กันย์เสียอีกนะคะ ถ้าไม่ใช่ว่าเราโตมาด้วยกัน เพลงคงคิดว่าพี่ฟ้าหวงเพลงเอาไว้เอง” ประทานพรบ่นชายหนุ่มร่างสูงให้เขาได้ยินอย่างไม่เกรงกลัว ก่อนจะเปิดประตูก้าวลงจากรถไป โดยไม่ได้หันหลังกลับไปมองอีก
นภพงศ์มองร่างบางที่กำลังเข้าลิฟต์เพียงครู่ ก่อนจะแตะคันเร่งเคลื่อนรถคันหรูของประทานพรไปจอดยังที่ของมัน ส่วนตัวเขาเดินไปขึ้นรถของเขาที่จอดอยู่ไม่ห่างมากนัก แล้วขับออกไปด้วยความเร็ว
‘แก ฉันถึงคอนโดแล้วนะ’
‘ปลอดภัยดีใช่ไหมวะ’
‘อือ พี่แกขับมาส่ง’
‘พี่ฟ้าเนี่ยนะ มาส่งแก’
‘อือ ก็มาส่งทุกครั้งอะ ที่เขาสั่งให้แกกลับ ทำไมเหรอ’
‘อะ เปล่า ไม่มีอะไร พักผ่อนได้ละแก’
‘เค เจอกัน ไว้ฉันเข้าไปหาแม่ข้าวพร้อมคุณแม่’
‘เค’
เมื่ออ่านข้อความสุดท้ายที่ดาราภัสส่งมา ประทานพรก็วางโทรศัพท์ไว้ที่โซฟา แล้วเดินตรงเข้าห้องนอนไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วออกมานอนเล่นโทรศัพท์ที่โซฟาเหมือนเดิม ตอนนี้ช่วงปิดเทอมพอดี เธอมีเวลาได้พักผ่อนเยอะหน่อย เลยนอนดึกแบบไม่ต้องกลัวไปเรียนสาย
ระหว่างที่กำลังนั่งคุยเล่นกันอยู่ คนอื่นๆ ก็กลับเข้ามาที่บ้านพัก แต่เมื่อมองไม่เห็นรถของกันชนก ก็มีสีหน้าแปลกใจ“ฟ้า เจ้ากันย์ไปไหน” ณดลถามบุตรชายตัวเอง ระหว่างถือของเดินมาวางที่โต๊ะ“ลากยัยพลอยออกไปแล้วครับ”“ห๊ะ…..” คนอื่นๆ ที่กำลังทยอยขนของที่ซื้อมาวางที่โต๊ะ หันมามองทั้งสองคนด้วยความพร้อมเพรียง“…..” นภพงศ์กับดาราภัสทำเพียงยิ้มๆ ให้กับผู้ใหญ่“สงสัยจะได้เตรียมสินสอดแล้วมั้ง” นัทธีหันมาบอกลลัลนาที่ยืนอึ้งอยู่“เห็นจะต้องเป็นแบบนั้นล่ะค่ะ”“เดี๋ยวข้าวไปดูที่ห้องยัยพลอยหน่อยดีกว่า”ฟางข้าวพูดจบก็เดินขึ้นบ้านไปสำรวจห้องของบุตรสาว เมื่อเปิดดูตู้เสื้อผ้าก็ปิดประตูห้องไว้ตามเดิม แล้วกลับลงมา“เรียบร้อยค่ะทุกคน กวาดเสื้อผ้าไปเรียบ” ฟางข้าวบอกทุกคนพร้อมกับนั่งลงกับทุกคน“คงจะกลับไปที่คอนโดนั่นแหละ ปล่อยไปเถอะ” นัทธีพอจะเดานิสัยบุตรชายตัวเองออกบอกทุกคนนภพงศ์มองสถานการณ์ตรงหน้าพร้อมกับลอบถอนหายใจ ไม่มีใครคิดจะตามกันชนกกับดาราภัสไป อย่างน้อยทั้งสองคนนั้นก็มีเวลาได้เคลียร์กันประทานพรหัวเราะออกมาเบาๆ กับสิ่งที่เห็น ทั้งอาการของสามี และอาการของบิดามารดา สองหนุ่มสาวมองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนจะจับจ
เมื่อประทานพรลงมาข้างล่าง ก็เห็นว่าทุกคนกำลังสนุกสนานกันกับการเตรียมปาร์ตี้มื้อเย็น หญิงสาวเดินไปนั่งลงข้างๆ สามี ก่อนจะลงมือช่วยอีกแรง“อ้าว ไม่พักผ่อนก่อนล่ะลูก”“ไม่ล่ะค่ะแม่ เดี๋ยวกลางคืนนอนไม่หลับ อีกอย่างเพลงเริ่มหิวแล้วค่ะ”“ไปทานผลไม้รองท้องก่อนสิลูก อยู่โต๊ะนู้นน่ะ”เมื่อฟังมารดาพูดจบ ประทานพรก็ลุกขึ้นเดินไปอีกโต๊ะ ที่ดาราภัสนั่งปอกผลไม้อยู่ เธอนั่งลงตรงข้ามเพื่อนรัก ก่อนจะหยิบผลไม้ชิ้นหนึ่งส่งเข้าปากตัวเองพลางเคี้ยวแก้มตุ่ย“ไงคุณแม่ ตื่นมาก็หิวเลย”“ก็ช่วยไม่ได้ ไม่ได้กินคนเดียวนี่นา”สองสาวเพื่อนรักนั่งคุยเล่นกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งการเตรียมมื้อเย็นเสร็จเรียบร้อย หนุ่มๆ จัดการจุดเตาเพื่อย่างอาหารทะเล ส่วนสาวๆ นั่งรอกินพลางพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน อังเดรช่วยบรรดาพี่น้องหยิบจับทำนั่นทำนี่ได้เพียงนิดหน่อย เพราะเขาเองก็ไม่ค่อยได้มาเที่ยวทะเลบ่อยนักเมื่ออาหารทะเลที่นภพงศ์กับกันชนกย่างสุก พวกเขาก็ทยอยตักใส่จานใบใหญ่ ก่อนจะยกไปวางที่โต๊ะริมทะเล ที่ประทานพรกับดาราภัสนั่งอยู่“มาแล้วจ้ะสาวๆ”“หืม วันนี้พี่กันย์พูดเพราะ แปลก” ประทานพรแซวพี่ชายพลางทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ กันชนกได้แต่มองหน้า
เวลาล่วงผ่านไปจนกระทั่งเย็น ทั้งนภพงศ์และประทานพรพากันกลับบ้านพักผ่อน โดยที่ข้าวของที่จะนำไปเที่ยว ได้ถูกจัดเก็บใส่กระเป๋าเรียบร้อยแล้วเช้าวันต่อมา ทั้งสองบ้านต่างมารวมตัวกันที่บ้านของประทานพรตั้งแต่เช้า กระเป๋าทุกใบ รวมทั้งข้าวของที่เตรียมจะนำไปถูกขนขึ้นรถจนหมด ก่อนจะแยกย้ายกันขึ้นรถ แล้วขับตามกันออกไปเมื่อเดินทางมาถึงที่บ้านพัก ทั้ง 2 ครอบครัวช่วยกันขนข้าวของลงจากรถเอาไปวางไว้ที่โต๊ะกลางบ้าน ก่อนจะแยกกันขนกระเป๋าขึ้นไปเก็บบนบ้าน โดยที่ประทานพรและดาราภัสนั่งทานขนมอยู่ที่โต๊ะริมทะเล“แกว่าการมาที่นี่ของเราครั้งก่อน กับการมาครั้งนี้ มีอะไรเปลี่ยนไปบ้างวะ” ดาราภัสทอดสายตามองไปยังผืนน้ำกว้าง ก่อนจะเอ่ยปากพูดขึ้นมาพร้อมกับหันมามองใบหน้าหวานของเพื่อนรักที่ควบตำแหน่งพี่สะใภ้“เปลี่ยนเยอะ ในความคิดฉันนะ ฉันรู้สึกว่าตัวเองโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะ คงเพราะฉันกำลังจะเป็นแม่คนด้วยมั้ง สถานะหลายๆอย่างก็เปลี่ยนความรู้สึก ความคิดก็เปลี่ยน” ประทานพรตอบดาราภัส แต่สายตาของเธอทอดมองไปยังผืนน้ำทะเลกว้างหญิงสาวปล่อยความคิดให้ลอยไปไกล ครั้งก่อนตอนที่เธอมาที่นี่ ก็มาพร้อมกับทุกคนในครอบครัวเหมือนวันนี้ ต่างก
หลังจากที่ทุกคนตกลงกันว่าจะพากันไปเที่ยวก่อนที่อังเดรจะกลับ จึงต้องกำหนดวันว่างขึ้นมา จนสรุปได้ว่ารอให้ประทานพรและดาราภัสสอบเสร็จก่อนนภพงศ์กับกันชนกรีบเคลียร์งานให้เสร็จ จะได้ไม่มีงานค้างมากนัก หากต้องหยุดไปหลายวัน จนบ่ายวันหนึ่ง ก่อนถึงวันไปเที่ยว นภพงศ์ไปรับประทานพรที่มหาวิทยาลัยตามปกติ“พี่ฟ้า ทางนี้ค่ะ” เสียงสดใสของประทานพรดังขึ้นพร้อมกับโบกมือเรียกคนรัก เมื่อเห็นว่าเขามองหาเธอไม่เจอ“ยัยพลอยล่ะ” ชายหนุ่มถามคนรักสีหน้าแปลกใจที่ไม่เห็นน้องสาวของตัวเองอยู่ด้วย ทั้งที่ปกติทั้งคู่จะตัวติดกันตลอด“โดนพี่กันย์ลากไปแล้วค่ะ” หญิงสาวหัวเราะเบาๆ“อีกแล้วเหรอ”“ช่วงนี้มาลากไปทุกวันแหละค่ะ หวงยัยพลอยน่าดู”“แล้วมันก็ซื่อบื้อยังไม่รู้ตัวด้วยนะ ทั้งที่หวงจนแทบจะไม่ให้ยัยพลอยห่างตัวขนาดนี้”“เดี๋ยวก็คงรู้สึกตัวแหละค่ะ แต่เพลงกลัวยัยพลอยจะช้ำซะก่อน”ประทานพรพูดพลางส่งของที่วางบนโต๊ะให้กับสามี พร้อมกับขยับตัวลุกขึ้นยืน ก่อนจะพากันเดินไปที่รถที่นภพงศ์จอดเอาไว้ไม่ห่างนัก“ก็หวังว่ามันจะไม่รุนแรงมาก”“คงยากหน่อยนะคะ หึงแรงซะขนาดนี้” นภพงศ์ได้แต่กลอกตาไปมากับคำบอกเล่าของภรรยาสาว ก่อนจะพากันขึ้นรถแล้ว
“ดุเหมือนเดิมเลยแห๊ะ” “น้องมึงนั่นแหละ” “น้องกู แต่เมียมึง”“ไอ้***”ลลัลนาส่ายหน้าด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ ปล่อยให้ทั้งคู่เถียงกันไปอยู่แบบนั้น ส่วนตนเองหันมาพูดคุยกับฟางข้าวและลูกๆอย่างสนุกสนานหลังจากรับประทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อยทุกคนพากันแยกย้ายกลับบ้าน โดยที่กันชนกพาดาราภัสไปส่งที่คอนโด หญิงสาวต้องการไปเคลียงานของเธอให้เสร็จเพราะใกล้จะสอบเต็มทีทางด้านนภพงศ์และประทานพร เมื่อกลับมาถึงบ้านก็พากันกลับขึ้นห้องไปพักผ่อนเลย เพราะหญิงสาวอ่อนเพลียเต็มที“เพลงหลับแล้วเหรอฟ้า”“ครับ”เมื่อดูแลจนคนรักพักผ่อนเรียบร้อยแล้ว นภพงศ์ก็ออกจากห้องนอนไปเงียบๆ เขาตรงไปยังห้องทำงานของนัทธี ซึ่งเขามั่นใจว่าอังเดรก็กำลังอยูที่นั่นในตอนนี้“เอาล่ะ ทางคุณดำรงติดต่อมาแล้วนะ ทางนั้นไม่ได้ติดใจอะไร” นัทธีบอกกับชายหนุ่มที่เพิ่งจะหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงาน“เป็นไปได้ยังๆไงครับ”“ลดาฆ่าตัวตายเอง ทางเราไม่ได้บีบคั้นหรือทำร้ายหล่อนใช่ไหมล่ะ มีแต่หล่อนมาทำร้ายคนของเรา คุณดำรงเลยไม่ติดใจอะไร พร้อมกับฝากขอโทษทุกคนด้วย” นัทธีอธิบายกับนภพงศ์ด้วยสีหน้าเบาใจพวกเขารู้ดีว่ามาเฟียที่อาว
“กลับมาแล้วครับ”นภพงศ์เข้ามาพร้อมกับส่งเสียง ทั้งที่ปกติเขาไม่เคยทำ นั่นหมายความว่าวันนี้ต้องมีอะไรแน่นอน ลลัลนาที่กำลังนั่งทานของว่างอยู่กับประทานพรได้ลุกขึ้นเดินมาดูด้วยความแปลกใจ“พี่เอลล์!!!” ลลัลนาสีหน้าแปลกใจ ก่อนจะรีบโถมตัวเข้ากอดญาติผู้พี่อย่างดีใจ“ว่าไงจ๊ะ คนสวยของพี่ เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม”“สบายดีค่ะ พี่เอลล์มาเมื่อไหร่คะ ไม่เห็นบอกลัลเลย”“ลงเครื่องเมื่อเช้า แล้วเลยไปหาฟ้าที่บริษัทเลย กะว่าเข้ามาพร้อมกันนี่แหละ ไหนตัวแสบของพี่ล่ะ”“นั่งอยู่ข้างในค่ะ เข้าบ้านเถอะค่ะ”ลลัลนาคล้องแขนอังเดร พร้อมกับที่เขายกแขนรอราวกับรู้นิสัยของเธอดี ก่อนจะพากันเดินเข้าไปในบ้าน ตามหลังนภพงศ์ที่เดินเข้ามาหาภรรยาสาวอย่างประทานพรก่อนหน้านั้นไม่ถึงนาที“ว่าไง สาวน้อยของลุง”“ลุงเอลล์!!!!”อังเดรยิ้มให้ประทานพรอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะกางแขนออก รอให้หลานสาวที่ตอนนี้กำลังจะเป็นคุณแม่ แต่ยังเป็นหลานสาวตัวน้อยสำหรับเขาเสมอโผเข้ามากอดเขา ด้วยตัวเขาเองไม่มีลูก จึงเอ็นดูเด็กๆทั้ง 4 คนเหมือนลูก เพราะทั้ง 4 คน เกิดและเติบโตในสายตาของเขามาตลอด นั่นเป็นสาเหตุที่เขาฝึกทั้งนภพงศ์และกันย์ชนกให้แข็งแกร่งและรู้ทุกอย







