เข้าสู่ระบบหลังจากงานศพผ่านพ้นไปได้ 100 วัน จนกระทั่งเสร็จสิ้นงานทำบุญครบรอบการจากไปของตรัย และกัลยา โรสิตาได้ติดตามถนัดศรีไปเข้าวัดปฏิบัติธรรมเพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณของท่านทั้งสอง
ภายหลังกลับจากวัด โรสิตาเริ่มทำใจได้มากขึ้น เธอสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติดังเช่นที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้โรสิตาเพิ่งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีมาหมาด ๆ ตรัยเคยเปรยไว้ว่าจะให้เธอเข้าทำงานที่บริษัทเพื่อคอยช่วยติณณ์ ทว่าสถานการณ์ในตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว เธอคงต้องมองหาช่องทางของตนเอง และไม่มีเหตุผลให้เธออาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ต่อไป สักวันหนึ่งติณณ์คงจะให้เธอย้ายออก และเธอคงไม่รอให้ถึงวันนั้น
ทางด้านติณณ์ที่เข้ามารับตำแหน่งประธานบริษัทอย่างกะทันหัน ชายหนุ่มต้องเรียนรู้งานจำนวนมาก ทำให้เขาต้องเข้าบริษัทแทบทุกวัน กว่าจะกลับถึงบ้านก็ดึกดื่นค่อนคืน ทำเอาถนัดศรีบ่นกับโรสิตาด้วยความเป็นห่วง
และเช้าวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ถนัดศรีพร่ำบ่นกับโรสิตา เช่นเดียวกับที่ทำมาตลอดหลายเดือน จนเธอจำได้ขึ้นใจ
“ดูคุณติณณ์สิคะคุณโรส ทำงานไม่ห่วงสุขภาพร่างกายเลย คุณโรสต้องช่วยป้าดูแลคุณติณณ์นะคะ”
“ค่ะ เอาไว้โรสจะชงนม และร้องเพลงกล่อมคุณติณณ์ของป้าถนัดให้นะคะ” โรสิตาอดไม่ได้ที่จะแกล้งแหย่หญิงชราที่รักและเคารพ
“อุ๊ยตาย ถ้าทำได้แบบนั้นทุกวันป้าก็หายห่วงเลยค่ะ”
หญิงสาวหันไปหัวเราะพร้อมทำหน้าทะเล้นให้กับถนัดศรี ก่อนยกแก้วกาแฟหอมกรุ่นไปเสิร์ฟให้ติณณ์ที่ห้องอาหาร และนั่งลงรับประทานอาหารเช้าร่วมกับชายหนุ่ม
ในแต่ละวันโรสิตาต้องนั่งรับประทานอาหารเช้าเป็นเพื่อนติณณ์ตามคำสั่งของชายหนุ่ม หากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ถ้าวันไหนติณณ์อยู่บ้านเธอก็ต้องร่วมโต๊ะกับเขาทุกมื้อ โดยติณณ์ให้เหตุผลว่าเขาไม่ชอบกินข้าวคนเดียว ช่วงแรกโรสิตาก็ออกอาการอิดออด รู้สึกไม่สะดวกใจ พอผ่านไปสักพักเธอจึงเริ่มคุ้นชิน
เช้านี้ก็เช่นกัน โรสิตานำแก้วกาแฟดำวางตรงหน้าติณณ์ ซึ่งกำลังติดตามข่าวสารบนหน้าจอไอแพดในมือ เมื่อหญิงสาวนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม และลงมือตักข้าวต้มในชามขึ้นมากินอย่างเอร็ดอร่อย นัยน์ตาคู่คมก็ไม่ได้สนใจหน้าจอสี่เหลี่ยมในมืออีกต่อไป ทว่าเปลี่ยนมาจับจ้องดวงหน้าสวยหวานที่อยู่ตรงหน้าแทน
หลายเดือนมานี้ การแอบมองโรสิตาคือความเพลิดเพลินอย่างหนึ่งของชายหนุ่ม นอกเหนือจากรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยสะพรั่งดั่งดอกกุหลาบแรกแย้ม กิริยาอาการทุกท่วงท่าของเธอล้วนทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายสบายใจ
เมื่อครั้งยังอยู่ต่างประเทศ บิดามักจะส่งคลิปวิดีโอกิจกรรมต่าง ๆ ภายในครอบครัวไปให้ติณณ์ และเกือบทุกครั้งจะต้องมีโรสิตาร่วมในเฟรม ชายหนุ่มบันทึกเก็บไว้ในเครื่องเพื่อเปิดดูซ้ำ ๆ และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่กันที่เขามองหาแต่เธอ
“คุณติณณ์คะ โรสมีเรื่องจะคุยด้วย”
“อืม ว่ามาสิ”
“คือ รอคุณติณณ์กลับมาจากบริษัทก่อนดีกว่าค่ะ คุยตอนนี้เดี๋ยวจะเสียเวลา” โรสิตาว่าพลางยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู เนื่องจากเรื่องของเธอนั้นคงต้องใช้เวลาพอสมควร
“อย่างนั้นก็ได้ เย็นนี้ฉันจะรีบกลับ”
ติณณ์ยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด ก่อนรีบลุกจากโต๊ะอาหารไปอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันถนัดศรีที่เดินเข้ามาได้ยินบทสนทนาพอดี ก็เดินตรงมาหาโรสิตา และนั่งลงบนเก้าอี้ว่างข้างหญิงสาว
“คุณโรส มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ” ถนัดศรีรู้สึกถึงความผิดปกติของโรสิตามาได้สักระยะหนึ่ง จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามด้วยความห่วงใย
“ป้าถนัดอ่ะ โรสไม่เคยปิดบังอะไรป้าถนัดได้เลยจริง ๆ”
“แน้ แสดงว่ามีเรื่องอะไรจริง ๆ”
“โรสจะย้ายออกค่ะ” โรสิตากล่าวจบก็รีบก้มหน้าหลบสายตาถนัดศรี เพราะเธอรู้ดีว่าหญิงสูงวัยผู้นี้ต้องไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน
“คุณโรส!!! ย้ายออกทำไมคะ แล้วจะไปอยู่ที่ไหน มีเรื่องอะไร หรือว่าคุณติณณ์ทำอะไรให้คุณโรสไม่พอใจ” สาวน้อยส่ายหน้าหวือรีบปฏิเสธพัลวัน
“เปล่านะคะป้าถนัด เพียงแต่ว่า โรสเป็นหลานคุณป้า เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ก็เพราะคุณป้า ในเมื่อตอนนี้คุณป้าไม่อยู่แล้ว โรสก็ควรย้ายออกไป จริงไหมคะ”
ถนัดศรีได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่ถอนใจ เพราะสิ่งที่โรสิตาได้กล่าวออกมานั้นถูกต้องทั้งหมด แต่ถึงอย่างไรหล่อนเชื่อว่าถ้าติณณ์รู้เข้าคงไม่มีทางยอมแน่นอน หากเธอมองไม่ผิด ชายหนุ่มที่เธอเลี้ยงมากับมือตั้งแต่ยังแบเบาะนั้น มีความรู้สึกชอบพอในตัวโรสิตาอยู่ไม่น้อย แต่ด้วยความเป็นคนที่มีนิสัยค่อนข้างแข็งกระด้าง จึงมีหลายครั้งที่คำพูดของชายหนุ่มทำให้โรสิตาต้องน้อยใจ คงไม่มีทางที่โรสิตาจะได้รู้ความในใจของติณณ์ง่าย ๆ ส่วนโรสิตานั้น หล่อนมองออกมานานแล้วว่าโรสิตาแอบปลื้มติณณ์มาตลอด
“คุณโรสไม่เป็นห่วงคุณติณณ์เหรอคะ” คำถามของถนัดศรี ทำให้โรสิตานิ่งไป ใบหน้าอ่อนเยาว์มีแววครุ่นคิด
“โรสก็ห่วงค่ะ แต่โรสเป็นคนอื่นนะคะ ต่อไปภายภาคหน้าถ้าคุณติณณ์มีแฟน แฟนคุณติณณ์ก็คงมาดูแลคุณติณณ์” ถึงแม้เธอจะสมมติในสิ่งที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น แต่มันก็ทำให้หัวใจของเธอเจ็บแปลบขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“คุณโรสก็ลองคุยกับคุณติณณ์ละกันนะคะ แต่ป้าไม่เห็นด้วยเลย ป้าเป็นห่วง ผู้หญิงตัวคนเดียวจะอยู่ยังไง เฮ้อ”
ถนัดศรีลูบแผ่นหลังบอบบางก่อนจะเดินออกมาจากห้องอาหาร และเมื่อพ้นประตูได้เท่านั้น หญิงสูงวัยรีบโทรไปรายงานเจ้านายหนุ่มด้วยความร้อนใจ
ทางด้านติณณ์เมื่อได้รับรายงานจากถนัดศรี ชายหนุ่มรีบสะสางงานอย่างเร่งด่วน ทว่าจิตใจอันร้อนรุ่มจนไม่เป็นอันทำงานทำการ ทำให้ติณณ์รีบบึ่งกลับมาบ้านทันที
“ป้าถนัด”
“คะ คุณติณณ์” ถนัดศรีซึ่งกำลังสำรวจดูความเรียบร้อยภายในบ้านรีบเดินมารับหน้าเจ้านาย
“โรสล่ะ”
“อยู่ที่แปลงกุหลาบค่ะ”
แปลงกุหลาบที่ถนัดศรีกล่าวถึง คือแปลงกุหลาบนานาพรรณในสวนที่ปลูกรายล้อมศาลานั่งเล่น
“ไปทำอะไรแดดเปรี้ยงขนาดนี้”
“โธ่ ก็เธอรักของเธอ แปลงกุหลาบเอย ศาลาเอย คุณโรสเป็นคนออกแบบ ปลูกเองกับมือ เอาไว้ให้คุณท่านได้ออกไปนั่งเล่นรับลม ตอนที่ท่านทั้งสองยังอยู่ ท่านรักที่นั่นไม่แพ้คุณโรสเลยนะคะ”
เมื่อครั้งโรสิตายังเด็ก เธออาศัยอยู่กับบิดามารดาที่จังหวัดบ้านเกิด พ่อและแม่ของเธอเช่าที่แปลงเล็ก ๆ ทำธุรกิจปลูกกุหลาบหลากหลายสายพันธุ์ส่งขายให้กับร้านดอกไม้ในจังหวัด และจังหวัดที่อยู่ใกล้เคียง จึงไม่แปลกที่โรสิตาจะเชี่ยวชาญในการปลูกต้นกุหลาบ และดูแลประคบประหงมให้มันออกดอกชูช่องดงาม เธอพิถีพิถันตั้งแต่ขั้นตอนการคัดเลือกสายพันธุ์ที่สามารถทนต่อสภาพอากาศในเมืองหลวง ตลอดจนการรดน้ำพรวนดินใส่ปุ๋ย โรสิตาก็ลงมือเองในทุกขั้นตอน
ติณณ์ฟังถนัดศรีคุยโวเรื่องโรสิตาอยู่พักใหญ่ จากนั้นชายหนุ่มจึงเดินออกมาที่สวนข้างตึกมองเห็นคนตัวเล็กในชุดเสื้อยืดกางเกงวอร์มกำลังก้ม ๆ เงย ๆ อยู่ที่แปลงกุหลาบ เมื่อย่างกรายเข้าไปใกล้ก็ได้ยินเสียงหวานฮัมเพลงอย่างมีความสุข เสียงฝีเท้าที่เหยียบย่างลงบนผืนหญ้าของคนตัวโตทำให้โรสิตาเงยหน้าขึ้นมองมาทางต้นเสียง
“อ้าว คุณติณณ์” ดวงหน้าสวยแดงก่ำจากการถูกแสงแดดยามสายแผดเผาผิวบอบบางโผล่ขึ้นมาส่งยิ้มสดใสให้แก่ชายหนุ่ม ทำเอาหัวใจชายที่แข็งแกร่งดังหินผาเกิดอาการวูบไหวอย่างที่ไม่เคยเป็น ทว่าเขายังคงวางมาดนิ่ง แสร้งทำหน้าดุ
“ทำอะไร?”
“ถอนวัชพืชค่ะ”
“ตามฉันไปที่ห้องทำงาน”
คำสั่งของชายหนุ่มทำให้โรสิตาลุกพรวดขึ้นมา พลางมองด้วยความงุนงง การกลับมาของชายหนุ่มในเวลานี้ว่าผิดปกติแล้ว ท่าทางที่ดูไม่สบอารมณ์ ประกอบกับหน้าตาบึ้งตึงนั้นยิ่งน่าสงสัยไปกันใหญ่
“คุณติณณ์คะ โรสขอไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ”
“สิบนาที” กล่าวจบชายหนุ่มก็เดินจ้ำอ้าวเข้าบ้านไปทันที ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ทักท้วง
“โอ๊ย สิบนาทีมันจะไปทันอะไรเนี่ย” โรสิตาบ่นอุบอิบพร้อมเก็บอุปกรณ์ทำสวนของเธอ ก่อนจะเดินตามชายหนุ่มเข้าบ้านไป
หลังเรื่องราวร้าย ๆ ได้ผ่านพ้นไป ชีวิตของติณณ์และโรสิตาเสมือนดังฟ้าหลังฝน จะทำอะไรก็มีแต่จะลุล่วงด้วยดีไปเสียทุกอย่าง จนถนัดศรีอดชื่นชมไม่ได้ว่าเป็นเพราะคุณหนูตัวน้อย ๆ ที่กำลังจะเกิดมาช่วยหนุนนำให้เกิดแต่สิ่งดีงามในวันเปิดตัวคอนโดสุดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน และแขกเหรื่อจำนวนมาก ทุกยูนิตของโครงการถูกจองเต็มในเวลาอันรวดเร็วโดยงานนี้ ท่านประธานหนุ่มถือโอกาสเปิดตัวภรรยาคนสวยที่เพิ่งจดทะเบียนสมรสกันมาหมาด ๆ หลังจากที่ทั้งคู่ออกจากโรงพยาบาล เรียกเสียงฮือฮาให้กับแขกเหรื่อ และพนักงานเป็นอย่างมาก แต่เหนือสิ่งอื่นใด ทุกคนล้วนแสดงความยินดีให้กับทั้งคู่หลังจากสิ้นสุดงานเปิดตัวคอนโด ติณณ์วางแผนลาพักร้อนหนึ่งสัปดาห์เต็ม เพื่อพาภรรยาและลูกน้อยในครรภ์ไปพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศ ถึงแม้ตอนนี้อายุครรภ์จะยังอยู่ในช่วงไตรมาสแรก แต่ว่าที่คุณพ่อผู้แสนจะเห่อลูกคนแรกอย่างออกหน้าออกตา คอยพูดคุยกับหน้าท้องที่ยังแบนราบของภรรยาทุกคืนก่อนนอนในครั้งนี้ทั้งคู่เดินทางด้วยรถมินิแวนโดยมีคนขับรถประจำตำแหน่งท่านประธานทำหน้าที่เป็นสารถี ติณณ์บอกกับโรสิตาว่าจะพาไปพักผ่อนที่บ้านพักตากอากาศที่เพิ่งจ
“คุณโรสขา” ถนัดศรีเดินหน้าตาตื่นเข้ามาหาโรสิตาที่หน้าห้องฉุกเฉิน สภาพของหญิงสาวในเวลานี้ เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือดแห้งกรังมากมายทำเอาหญิงชราลมแทบจับ อีกทั้งใบหน้าอันซีดขาวปราศจากสีเลือด และท่าทางอิดโรย ทำให้โรสิตาดูน่าเป็นห่วงไม่แพ้กัน“ป้าถนัด” โรสิตาโผเข้ากอดถนัดศรี พร้อมกับทำนบน้ำตาที่ไหลทะลักออกมาอีกครั้ง“คุณโรส ทูนหัวของป้า ไม่ร้องนะคะ คุณติณณ์ถึงมือหมอแล้ว” มือเหี่ยวย่นลูบแผ่นหลังบอบบางปลอบโยนอย่างแผ่วเบา“โรสทำให้คุณติณณ์ต้องเป็นแบบนี้ค่ะ ฮือ ฮือ”“ไม่จริงนะคะคุณโรส คุณโรสห้ามคิดแบบนี้เด็ดขาดนะคะ” ถนัดศรีว่าพลางคลายอ้อมกอด และประคองโรสิตามานั่งลงบนเก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉิน“คุณโรสไม่ใช่คนยิงคุณติณณ์นะคะ ถ้าจะโทษต้องโทษนายคนนั้น” โรสิตาได้ฟังก็พยักหน้ารับรู้ ทว่าภายในใจเธอก็ยังรู้สึกตำหนิตัวเองที่คนรักต้องมาบาดเจ็บปางตายขนาดนี้หญิงต่างวัยทั้งสองนั่งกุมมือกันจ้องมองไปยังประตูห้องฉุกเฉิน เฝ้ารอเวลาให้ประตูบานนั้นเปิดออกมาพร้อมข่าวดี เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง ประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออก คุณหมอหนุ่มในชุดกาวน์สีขาวก้าวออกมา โรสิตาจึงรีบเดินเข้าไปสอบถามด้วยความร้อนใจ“คุณหมอคะ คุณติณณ์เป็น
หนึ่งเดือนต่อมาบริษัทรังสรรค์พรอพเพอร์ตี้ มีกำหนดการการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมสุดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ทำให้ติณณ์และโรสิตางานยุ่งตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ทว่าทั้งสองคนก็ยังคงหมั่นเติมความหวานให้กันอยู่เสมอ หากวันไหนเลิกงานเร็วติณณ์ก็จะพาโรสิตาไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนบ้าง ดูหนังรอบดึกบ้าง ขับรถสปอร์ตเปิดประทุนกินลมชมวิวในยามค่ำคืนบ้าง หากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ติณณ์ก็จะพาโรสิตาไปเที่ยวพักผ่อนที่ต่างจังหวัดบ้าง ต่างประเทศบ้าง เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศสัปดาห์ที่แล้วติณณ์มีธุระต้องเดินทางไปอเมริกาอีกครั้ง ครั้งนี้ชายหนุ่มพาโรสิตาไปด้วย เพราะไม่อยากคิดถึงถึงเธอจนทนไม่ไหวเหมือนคราวที่แล้ว เธอเองก็เช่นกันธุระของติณณ์ คือ การขายหุ้นธุรกิจที่เขาร่วมก่อตั้งขึ้นมาให้แก่หุ้นส่วน นั่นทำให้โรสิตาตกใจมาก เพราะเธอรู้ดีว่าสิ่งนี้เป็นความภาคภูมิใจที่สุดของชายหนุ่ม ที่เขาสร้างขึ้นมาเองด้วยสมองและสองมือ“พี่ไม่อยากเอาเปรียบเพื่อน ตั้งแต่พี่ตัดสินใจกลับไปอยู่ไทยถาวร พี่ก็คิดเรื่องนี้มานาน จนวันที่พี่ต้องกลับมาสะสางปัญหาที่นี่ การที่พี่ต้องห่างจากโรส ทำให้พี่ตัดสินใจได้ทันที โรสไม่ต้องคิดมากนะ
แสงแดดยามสาย สาดส่องลอดผืนผ้าม่านเข้ามากระทบบนดวงหน้าสวย เรียกสติให้หญิงสาวที่นอนหลับใหลภายในอ้อมกอดชายหนุ่มฟื้นขึ้น ร่างบางพยายามบิดไปมาเพื่อขับไล่ความปวดเมื่อยตามร่างกาย อันเป็นผลมาจากกิจกรรมเร่าร้อนที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อคืนจนเกือบรุ่งสาง“คุณติณณ์ปล่อยโรสค่ะ โรสจะกลับห้อง” สองมือเล็กผลักไสท่อนแขนแข็งแรงให้พ้นจากเอวบาง“วันนี้วันหยุด จะรีบตื่นไปไหน มากินกันก่อนอีกสักรอบเร็ว” ชายหนุ่มว่าพลางกระชับกอดรอบเอวคนรักแน่นขึ้น“คุณติณณ์!!!” โรสิตาได้ยินแบบนั้นจึงแหวเสียงสูง ตั้งแต่เมื่อคืน เธอแทบจะไม่ได้หลับได้นอน เพราะต้องรับศึกหนักที่ชายหนุ่มเคี่ยวกรำตลอดคืน“เมื่อไหร่โรสจะเลิกเรียกคุณ ๆ ๆ ฟังแล้วดูห่างเหิน ใจคอไม่ดี”“แล้วจะให้โรสเรียกว่าอะไรคะ ในเมื่อคุณติณณ์ก็ยังเป็นเจ้านายโรส”“เป็นเมียด้วย”ติณณ์ว่าพร้อมพลิกกายขึ้นคร่อมร่างบางกักขังเธอเอาไว้ ก่อนซุกไซร้ลงบนซอกคอเรียวระหง โรสิตาแหงนหน้ารับด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มอันเปี่ยมสุข“อื้อ เป็นเมีย แสดงว่าโรสก็มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในบ้านหลังนี้ใช่ไหมคะ”“อืม ใช่”“งั้นโรสเรียกคุณว่า ติณณ์ หรือ ตินติน ดีน้า” โรสิตาว่าพลางหัวเราะคิกคัก“ลามปามแล้ว
“ทำหน้าที่สามี”ติณณ์จ้องมองดวงหน้าหวานด้วยความรักใคร่ อดีตเด็กสาวในวันวาน บัดนี้เธอเติบโตเป็นสาวสวยสะพรั่ง เมื่อไหร่กันที่โรสิตาเข้ามาจับจองพื้นที่ในหัวใจของเขา พอรู้ตัวอีกที ทั้งสี่ห้องหัวใจก็ถูกเธอครอบครองเอาไว้จนหมดสิ้นชายหนุ่มกระตุกปลายเชือกเสื้อคลุมของโรสิตา และแหวกสาบเสื้อสองข้างแยกออกจากกัน ดึงเจ้าเสื้อคลุมเกะกะออกไปจนพ้นกายบาง เผยให้เห็นอาภรณ์ชั้นในที่มีเพียงชุดนอนสายเดี่ยวเนื้อผ้าบางเบาซึ่งไม่อาจบดบังความใหญ่โตของทรวงอกเต่งตึงเอาไว้ได้เรียวนิ้วสากจรดลงบนคอเรียวเล็ก ลากไล้ลงมาตามไหปลาร้า ผ่านรอยรักสีกุหลาบที่เขาได้ฝากเอาไว้ มันจืดจางหายไปตามกาลเวลา จนแทบจะมองไม่เห็น ทุกสัมผัสของชายหนุ่ม ทำให้ร่างเล็กสั่นสะท้าน ด้วยความหวามไหว“รอยจางหมดแล้ว เดี๋ยวทำให้ใหม่นะ”ยังไม่ทันที่โรสิตาจะได้ร้องห้ามปราม ชายหนุ่มก็ฝังใบหน้าหล่อเหลาลงบนซอกคอระหง สูดกลิ่นหอมกรุ่น ขณะเดียวกันฝ่ามือสองข้างบีบคลึงความอวบอิ่มไว้เต็มไม้เต็มมือ“อื้อ คุณติณณ์ อย่าทำรอยที่คอนะคะ”ติณณ์ผละออกซอกคอหอมกรุ่นอย่างอาลัยอาวรณ์ ชายหนุ่มเอื้อมจับบั้นท้ายกลมกลึงยกร่างอรชรขึ้นมานั่งคร่อมบนตักแกร่ง ฝ่ามือหนารั้งชายชุดนอน
ณ คฤหาสน์รังสรรค์ประกาศิตหลังอาบน้ำอาบท่าเสร็จเรียบร้อย โรสิตาก็ลงมาช่วยถนัดศรีเตรียมของใส่บาตรสำหรับพรุ่งนี้เช้า หญิงสาวนั่งใจลอยพับดอกบัว แม้มือจะเคลื่อนไหวพับไปด้วยความเคยชิน แต่ใจกลับคิดถึงชายหนุ่มที่อยู่บนห้องตลอดทางที่นั่งรถมา ติณณ์ไม่พูดกับเธอสักคำเดียว เธอทำได้เพียงลอบมองสีหน้าบึ้งตึงของชายหนุ่ม และหลังมือที่มีรอยแตกเป็นแผล อันเกิดจากการชกหน้ากิตติเพื่อปกป้องเธอ โรสิตาไม่อยากจะคิดถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่อาจเกิดขึ้น หากไม่ได้ติณณ์เข้าไปช่วยไว้“คุณโรสคะ คุณโรส”“คะ?”“ดอกบัวป้า เหลือแต่ก้านแล้วค่ะ” โรสิตาก้มมองดอกบัวในมือ ช่างน่าสงสาร เจ้าดอกบัวที่มีกลีบดอกอยู่หร็อมแหร็ม ส่วนกลีบที่เหลือถูกโรสิตาเด็ดทิ้งเกลื่อนเต็มโต๊ะ เพราะเธอมัวแต่เหม่อลอย“อุ๊ย ป้าถนัด โรสขอโทษค่ะ” โรสิตาว่าพลางใช้สองมือรวบรวมกลีบดอกบัวที่กระจัดกระจายทิ้งลงถังขยะถนัดศรีโคลงศีรษะเบา ๆ พร้อมยิ้มเอ็นดูสาวน้อย ก่อนวางมือจากการเตรียมเครื่องต้มยำ และเดินลงมานั่งข้างโรสิตา“คุณโรสคะ มีเรื่องอะไรกับคุณติณณ์หรือเปล่าคะ”ตั้งแต่เจ้านายทั้งสองคนกลับมาถึงบ้าน ถนัดศรีสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอึมครึมที่เกิดขึ้นระหว่างติณณ์และ







