เข้าสู่ระบบติณณ์เข้ามานั่งรอโรสิตาในห้องทำงาน พลางเช็กรายงานที่เลขานุการส่งมาให้ทางอีเมลเป็นการฆ่าเวลา ทว่าอารมณ์ที่ไม่สงบนิ่งนั้น ทำให้ชายหนุ่มไม่อาจจดจ่อกับงานเบื้องหน้าได้เลย
ติณณ์ถอนหายใจยาวเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ฝ่ามือหนาเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างแมคบุคขึ้นมา ชายหนุ่มเปิดแอปพลิเคชันอัลบัมภาพ นิ้วเรียวเลื่อนค้นหาคลิปวิดีโอที่โปรดปรานที่สุด ก่อนกดเปิดขึ้น
การเฝ้ามองเธอผ่านหน้าจอสี่เหลี่ยมทำให้เขามีความสุขจนตัวเองก็ยังแปลกใจ ยิ่งได้เห็นเธอทุกวันยิ่งรู้สึกอยากอยู่ใกล้ แม้เวลานี้เขาจะยังหาคำตอบของความรู้สึกที่เกิดขึ้นไม่ได้ แต่สิ่งที่เขาบอกได้ในตอนนี้ คือ เขาจะไม่ยอมปล่อยเธอไป
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มรีบปิดหน้าจอโทรศัพท์มือถือ และวางลงที่เดิม
โรสิตาอาบน้ำแต่งตัวและลงมาพบติณณ์ที่ห้องทำงานได้ทันเวลาพอดิบพอดี เธอค่อย ๆ เดินเข้ามาหยุดยืนที่หน้าโต๊ะทำงานของชายหนุ่ม ทว่าติณณ์แสร้งก้มหน้าก้มตาทำงาน โดยไม่สนใจที่จะหันมาเจรจากับเธอ หญิงสาวจึงตัดสินใจเอ่ยปากก่อน
“คุณติณณ์มีอะไรจะคุยกับโรสคะ”
สิ้นเสียงหวาน ใบหน้าคมคร้ามหันมาทางเธอ ก่อนเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ และยกแขนสองข้างขึ้นกอดอก
“เธอจะคุยกับฉันไม่ใช่เหรอ”
“คะ?”
โรสิตาคิดไม่ถึงว่าการที่ติณณ์รีบกลับมาจะเป็นเพราะธุระของเธอ แต่เมื่อมีโอกาสแล้ว ก็คุยกันเสียให้จบ เพราะเธอเองก็เตรียมตัวเตรียมใจมาแล้วเช่นกัน
มือเล็กหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง ก่อนวางลงบนโต๊ะ
“นี่เป็นกุญแจรถที่คุณลุงให้โรสไว้ใช้ค่ะ โรสขอคืนให้คุณติณณ์”
“…”
“เรื่องที่โรสจะบอกคุณติณณ์ก็คือ โรสจะย้ายออกจากบ้านหลังนี้ค่ะ”
“…”
ติณณ์ยังคงนั่งนิ่งอยู่แบบนั้น ไม่มีคำใดเอื้อนเอ่ยออกมาจากปากของชายหนุ่ม โรสิตาเริ่มทำตัวไม่ถูก ถ้าเช่นนั้นเธอจะคิดเสียว่าความเงียบนั้นคือคำตอบ
“เอ่อ ในเมื่อคุณติณณ์รับทราบแล้ว งั้นโรสขอตัวนะคะ”
“ฉันไม่ให้ย้าย!!!”
ร่างอรชรที่กำลังจะหันหลังเดินออกจากห้องเป็นอันต้องชะงัก เธอหมุนตัวกลับมามองชายหนุ่มอย่างไม่เข้าใจ ในเมื่อเขาและเธอไม่มีความเกี่ยวข้องกัน เธอก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะอยู่ที่นี่ หากวันใดชายหนุ่มมีคนรัก การมีเธออยู่ในบ้านหลังนี้ก็รังแต่จะสร้างปัญหา
“คุณติณณ์ไม่มีสิทธิ์ห้าม ยังไงโรสก็จะย้ายค่ะ”
เธอไม่รอให้ติณณ์ได้มีโอกาสคัดค้าน หญิงสาวรีบเดินตรงไปที่ประตู และในจังหวะที่มือบางกำลังหมุนลูกบิดอยู่นั้น ฝ่ามือหนาก็ตบเข้ามาที่บานประตูโครมเบ้อเร่อ เธอสะดุ้งสุดตัวต่อเหตุการณ์ไม่คาดคิด เมื่อหันกลับมา แผงอกแกร่งที่อยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตแบรนด์หรูก็ประจันหน้าเธอในระยะประชิด
“เนรคุณ”
คิ้วเรียวสวยขมวดย่นต่อคำกล่าวหาของชายหนุ่ม แต่ก่อนที่เธอจะได้โต้แย้งออกไป ร่างสูงก็ค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้เธอทีละนิด จนหญิงสาวต้องถอยร่นไปจนแผ่นหลังชิดบานประตู เป็นสัญญาณว่าเธอคงหนีไปไหนไม่พ้นเสียแล้ว
“เธอคิดจะเนรคุณครอบครัวฉันเหรอ” ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนลงมาใกล้ดวงหน้าสวยห่างเพียงแค่คืบ และคงค้างอยู่เช่นนั้นเพื่อรอฟังคำตอบ
“เปล่านะคะ” เสียงหวานเปล่งออกมาอย่างแผ่วเบาด้วยใจเต้นระส่ำ ลมหายใจอุ่นร้อนที่รินรดใกล้หน้าผากมน ผสานกลิ่นน้ำหอมจากกายชายทำเอาสติสตังของโรสิตากระเจิดกระเจิง
“ก็เธอจะทิ้ง…ที่นี่” เสียงที่เคยแข็งกร้าวอ่อนลง ทำให้เธอเงยหน้าขึ้นสบตากับชายหนุ่ม นัยน์ตาคู่คมเธอเห็นความเว้าวอนฉายขึ้นชั่วขณะหนึ่งก่อนจะหายวับไป
“ถึงพ่อฉันกับป้าเธอจะไม่อยู่แล้ว เธอก็ควรสำนึกในบุญคุณอยู่ตอบแทนฉันสิถึงจะถูก หรือจะให้ฉันจุดธูปบอกท่านว่าแม่หนูโรสคนดีกลายเป็นเด็กอกตัญญูไปเสียแล้ว”
จากความหวั่นไหวภายในใจของสาวน้อย แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธขึ้ง ที่คนตรงหน้าถึงกับกล้าเอาคนตายมาเป็นข้ออ้างในการต่อว่าถากถางเธอ
“แล้วจะให้โรสทำยังไงคะ” นัยน์ตาคู่หวานจ้องมองชายหนุ่มอย่างท้าทาย คนอย่างโรสิตาทั้งรักและเทิดทูนตรัยและกัลยาเหนือสิ่งอื่นใด หากมีโอกาสมีหรือที่เธอจะไม่ตอบแทนบุญคุณท่านทั้งสอง
“ทำงานกับฉัน อยู่กับฉันที่นี่ ห้ามย้ายไปไหน”
“งานอะไรคะ?”
“ผู้ช่วยส่วนตัว”
“เลขา?” ติณณ์ยกยิ้มร้าย พร้อมโคลงศีรษะเบา ๆ
“เลขามันออกจะธรรมดาเกินไปสำหรับโรสคนเก่ง หน้าที่ของเธอคือผู้ช่วยส่วนตัว มีหน้าที่ดูแลฉันตั้งแต่ฉันลืมตาตื่น จนกระทั่งหัวถึงหมอน และเธอต้องตามติดฉันไปทุกที่”
“อะไรนะคะ?”
“ทำไม่ได้เหรอ ก็อย่างว่า ตั้งใจจะเนรคุณอยู่แล้วนี่” คำก็เนรคุณสองคำก็เนรคุณ โรสิตายืดตัวตรงพร้อม ดวงตากลมโตที่เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น
“โรสทำได้ค่ะ”
คำตอบของโรสิตาทำให้ติณณ์เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงเข้ามาใกล้ทีละนิด ใจดวงน้อยที่เคยฮึกเหิมยามนี้เต้นตึกตักจนแทบจะหลุดออกมาเสียให้ได้ ร่างอรชรถูกกักขังด้วยท่อนแขนแกร่งทั้งสองที่ค้ำบานประตู เมื่อไม่รู้ว่าจะหนีไปทางไหน เธอจึงเลือกที่จะหลับตาปี๋
“เริ่มงานพรุ่งนี้นะแม่คนเก่ง” เสียงกระซิบแหบพร่า พร้อมลมหายใจร้อนผ่าวที่รินรดใบหูเล็ก ทำเอาขนอ่อนทั่วทั้งกายสาวลุกเกรียวโดยพร้อมเพรียงกัน โรสิตาตัดสินใจผลักติณณ์ออกไปเต็มแรง ก่อนที่จะเปิดประตูวิ่งหนีออกมา เธอวิ่งกลับขึ้นไปบนห้องนอน และรีบปิดประตูลงกลอนอย่างแน่นหนา
ร่างบางทรุดฮวบลงไปนั่งบนพื้น สองมือเล็กยกขึ้นกุมหน้าอกข้างซ้ายที่ก้อนเนื้อยังคงเต้นระรัว
เหตุการณ์ในห้องทำงานเมื่อครู่ ทำให้ความรู้สึกในอดีตที่โรสิตาเก็บซ่อนไว้จนลึกสุดใจหวนกลับคืนมา เมื่อครั้งที่เธอย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ หญิงสาวจมอยู่ความโศกเศร้าจากการเสียชีวิตของบิดามารดา เธอมักแอบไปนั่งร้องไห้เงียบ ๆ คนเดียวบ่อยครั้ง วันหนึ่งติณณ์ผ่านมาเจอเธอเข้า เขาช่วยให้เธอก้าวผ่านความทุกข์อันแสนสาหัสนั้นมาได้ ติณณ์ในวันนั้นทั้งอบอุ่นและใจดี
“ใจเต้นทำไมเนี่ย ตอนนั้นเขาดีกับเธอเพราะเขาสงสาร ตอนนี้เขาจะกินหัวเธอแล้วโรส”
หลังเรื่องราวร้าย ๆ ได้ผ่านพ้นไป ชีวิตของติณณ์และโรสิตาเสมือนดังฟ้าหลังฝน จะทำอะไรก็มีแต่จะลุล่วงด้วยดีไปเสียทุกอย่าง จนถนัดศรีอดชื่นชมไม่ได้ว่าเป็นเพราะคุณหนูตัวน้อย ๆ ที่กำลังจะเกิดมาช่วยหนุนนำให้เกิดแต่สิ่งดีงามในวันเปิดตัวคอนโดสุดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน และแขกเหรื่อจำนวนมาก ทุกยูนิตของโครงการถูกจองเต็มในเวลาอันรวดเร็วโดยงานนี้ ท่านประธานหนุ่มถือโอกาสเปิดตัวภรรยาคนสวยที่เพิ่งจดทะเบียนสมรสกันมาหมาด ๆ หลังจากที่ทั้งคู่ออกจากโรงพยาบาล เรียกเสียงฮือฮาให้กับแขกเหรื่อ และพนักงานเป็นอย่างมาก แต่เหนือสิ่งอื่นใด ทุกคนล้วนแสดงความยินดีให้กับทั้งคู่หลังจากสิ้นสุดงานเปิดตัวคอนโด ติณณ์วางแผนลาพักร้อนหนึ่งสัปดาห์เต็ม เพื่อพาภรรยาและลูกน้อยในครรภ์ไปพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศ ถึงแม้ตอนนี้อายุครรภ์จะยังอยู่ในช่วงไตรมาสแรก แต่ว่าที่คุณพ่อผู้แสนจะเห่อลูกคนแรกอย่างออกหน้าออกตา คอยพูดคุยกับหน้าท้องที่ยังแบนราบของภรรยาทุกคืนก่อนนอนในครั้งนี้ทั้งคู่เดินทางด้วยรถมินิแวนโดยมีคนขับรถประจำตำแหน่งท่านประธานทำหน้าที่เป็นสารถี ติณณ์บอกกับโรสิตาว่าจะพาไปพักผ่อนที่บ้านพักตากอากาศที่เพิ่งจ
“คุณโรสขา” ถนัดศรีเดินหน้าตาตื่นเข้ามาหาโรสิตาที่หน้าห้องฉุกเฉิน สภาพของหญิงสาวในเวลานี้ เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือดแห้งกรังมากมายทำเอาหญิงชราลมแทบจับ อีกทั้งใบหน้าอันซีดขาวปราศจากสีเลือด และท่าทางอิดโรย ทำให้โรสิตาดูน่าเป็นห่วงไม่แพ้กัน“ป้าถนัด” โรสิตาโผเข้ากอดถนัดศรี พร้อมกับทำนบน้ำตาที่ไหลทะลักออกมาอีกครั้ง“คุณโรส ทูนหัวของป้า ไม่ร้องนะคะ คุณติณณ์ถึงมือหมอแล้ว” มือเหี่ยวย่นลูบแผ่นหลังบอบบางปลอบโยนอย่างแผ่วเบา“โรสทำให้คุณติณณ์ต้องเป็นแบบนี้ค่ะ ฮือ ฮือ”“ไม่จริงนะคะคุณโรส คุณโรสห้ามคิดแบบนี้เด็ดขาดนะคะ” ถนัดศรีว่าพลางคลายอ้อมกอด และประคองโรสิตามานั่งลงบนเก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉิน“คุณโรสไม่ใช่คนยิงคุณติณณ์นะคะ ถ้าจะโทษต้องโทษนายคนนั้น” โรสิตาได้ฟังก็พยักหน้ารับรู้ ทว่าภายในใจเธอก็ยังรู้สึกตำหนิตัวเองที่คนรักต้องมาบาดเจ็บปางตายขนาดนี้หญิงต่างวัยทั้งสองนั่งกุมมือกันจ้องมองไปยังประตูห้องฉุกเฉิน เฝ้ารอเวลาให้ประตูบานนั้นเปิดออกมาพร้อมข่าวดี เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง ประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออก คุณหมอหนุ่มในชุดกาวน์สีขาวก้าวออกมา โรสิตาจึงรีบเดินเข้าไปสอบถามด้วยความร้อนใจ“คุณหมอคะ คุณติณณ์เป็น
หนึ่งเดือนต่อมาบริษัทรังสรรค์พรอพเพอร์ตี้ มีกำหนดการการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมสุดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ทำให้ติณณ์และโรสิตางานยุ่งตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ทว่าทั้งสองคนก็ยังคงหมั่นเติมความหวานให้กันอยู่เสมอ หากวันไหนเลิกงานเร็วติณณ์ก็จะพาโรสิตาไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนบ้าง ดูหนังรอบดึกบ้าง ขับรถสปอร์ตเปิดประทุนกินลมชมวิวในยามค่ำคืนบ้าง หากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ติณณ์ก็จะพาโรสิตาไปเที่ยวพักผ่อนที่ต่างจังหวัดบ้าง ต่างประเทศบ้าง เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศสัปดาห์ที่แล้วติณณ์มีธุระต้องเดินทางไปอเมริกาอีกครั้ง ครั้งนี้ชายหนุ่มพาโรสิตาไปด้วย เพราะไม่อยากคิดถึงถึงเธอจนทนไม่ไหวเหมือนคราวที่แล้ว เธอเองก็เช่นกันธุระของติณณ์ คือ การขายหุ้นธุรกิจที่เขาร่วมก่อตั้งขึ้นมาให้แก่หุ้นส่วน นั่นทำให้โรสิตาตกใจมาก เพราะเธอรู้ดีว่าสิ่งนี้เป็นความภาคภูมิใจที่สุดของชายหนุ่ม ที่เขาสร้างขึ้นมาเองด้วยสมองและสองมือ“พี่ไม่อยากเอาเปรียบเพื่อน ตั้งแต่พี่ตัดสินใจกลับไปอยู่ไทยถาวร พี่ก็คิดเรื่องนี้มานาน จนวันที่พี่ต้องกลับมาสะสางปัญหาที่นี่ การที่พี่ต้องห่างจากโรส ทำให้พี่ตัดสินใจได้ทันที โรสไม่ต้องคิดมากนะ
แสงแดดยามสาย สาดส่องลอดผืนผ้าม่านเข้ามากระทบบนดวงหน้าสวย เรียกสติให้หญิงสาวที่นอนหลับใหลภายในอ้อมกอดชายหนุ่มฟื้นขึ้น ร่างบางพยายามบิดไปมาเพื่อขับไล่ความปวดเมื่อยตามร่างกาย อันเป็นผลมาจากกิจกรรมเร่าร้อนที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อคืนจนเกือบรุ่งสาง“คุณติณณ์ปล่อยโรสค่ะ โรสจะกลับห้อง” สองมือเล็กผลักไสท่อนแขนแข็งแรงให้พ้นจากเอวบาง“วันนี้วันหยุด จะรีบตื่นไปไหน มากินกันก่อนอีกสักรอบเร็ว” ชายหนุ่มว่าพลางกระชับกอดรอบเอวคนรักแน่นขึ้น“คุณติณณ์!!!” โรสิตาได้ยินแบบนั้นจึงแหวเสียงสูง ตั้งแต่เมื่อคืน เธอแทบจะไม่ได้หลับได้นอน เพราะต้องรับศึกหนักที่ชายหนุ่มเคี่ยวกรำตลอดคืน“เมื่อไหร่โรสจะเลิกเรียกคุณ ๆ ๆ ฟังแล้วดูห่างเหิน ใจคอไม่ดี”“แล้วจะให้โรสเรียกว่าอะไรคะ ในเมื่อคุณติณณ์ก็ยังเป็นเจ้านายโรส”“เป็นเมียด้วย”ติณณ์ว่าพร้อมพลิกกายขึ้นคร่อมร่างบางกักขังเธอเอาไว้ ก่อนซุกไซร้ลงบนซอกคอเรียวระหง โรสิตาแหงนหน้ารับด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มอันเปี่ยมสุข“อื้อ เป็นเมีย แสดงว่าโรสก็มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในบ้านหลังนี้ใช่ไหมคะ”“อืม ใช่”“งั้นโรสเรียกคุณว่า ติณณ์ หรือ ตินติน ดีน้า” โรสิตาว่าพลางหัวเราะคิกคัก“ลามปามแล้ว
“ทำหน้าที่สามี”ติณณ์จ้องมองดวงหน้าหวานด้วยความรักใคร่ อดีตเด็กสาวในวันวาน บัดนี้เธอเติบโตเป็นสาวสวยสะพรั่ง เมื่อไหร่กันที่โรสิตาเข้ามาจับจองพื้นที่ในหัวใจของเขา พอรู้ตัวอีกที ทั้งสี่ห้องหัวใจก็ถูกเธอครอบครองเอาไว้จนหมดสิ้นชายหนุ่มกระตุกปลายเชือกเสื้อคลุมของโรสิตา และแหวกสาบเสื้อสองข้างแยกออกจากกัน ดึงเจ้าเสื้อคลุมเกะกะออกไปจนพ้นกายบาง เผยให้เห็นอาภรณ์ชั้นในที่มีเพียงชุดนอนสายเดี่ยวเนื้อผ้าบางเบาซึ่งไม่อาจบดบังความใหญ่โตของทรวงอกเต่งตึงเอาไว้ได้เรียวนิ้วสากจรดลงบนคอเรียวเล็ก ลากไล้ลงมาตามไหปลาร้า ผ่านรอยรักสีกุหลาบที่เขาได้ฝากเอาไว้ มันจืดจางหายไปตามกาลเวลา จนแทบจะมองไม่เห็น ทุกสัมผัสของชายหนุ่ม ทำให้ร่างเล็กสั่นสะท้าน ด้วยความหวามไหว“รอยจางหมดแล้ว เดี๋ยวทำให้ใหม่นะ”ยังไม่ทันที่โรสิตาจะได้ร้องห้ามปราม ชายหนุ่มก็ฝังใบหน้าหล่อเหลาลงบนซอกคอระหง สูดกลิ่นหอมกรุ่น ขณะเดียวกันฝ่ามือสองข้างบีบคลึงความอวบอิ่มไว้เต็มไม้เต็มมือ“อื้อ คุณติณณ์ อย่าทำรอยที่คอนะคะ”ติณณ์ผละออกซอกคอหอมกรุ่นอย่างอาลัยอาวรณ์ ชายหนุ่มเอื้อมจับบั้นท้ายกลมกลึงยกร่างอรชรขึ้นมานั่งคร่อมบนตักแกร่ง ฝ่ามือหนารั้งชายชุดนอน
ณ คฤหาสน์รังสรรค์ประกาศิตหลังอาบน้ำอาบท่าเสร็จเรียบร้อย โรสิตาก็ลงมาช่วยถนัดศรีเตรียมของใส่บาตรสำหรับพรุ่งนี้เช้า หญิงสาวนั่งใจลอยพับดอกบัว แม้มือจะเคลื่อนไหวพับไปด้วยความเคยชิน แต่ใจกลับคิดถึงชายหนุ่มที่อยู่บนห้องตลอดทางที่นั่งรถมา ติณณ์ไม่พูดกับเธอสักคำเดียว เธอทำได้เพียงลอบมองสีหน้าบึ้งตึงของชายหนุ่ม และหลังมือที่มีรอยแตกเป็นแผล อันเกิดจากการชกหน้ากิตติเพื่อปกป้องเธอ โรสิตาไม่อยากจะคิดถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่อาจเกิดขึ้น หากไม่ได้ติณณ์เข้าไปช่วยไว้“คุณโรสคะ คุณโรส”“คะ?”“ดอกบัวป้า เหลือแต่ก้านแล้วค่ะ” โรสิตาก้มมองดอกบัวในมือ ช่างน่าสงสาร เจ้าดอกบัวที่มีกลีบดอกอยู่หร็อมแหร็ม ส่วนกลีบที่เหลือถูกโรสิตาเด็ดทิ้งเกลื่อนเต็มโต๊ะ เพราะเธอมัวแต่เหม่อลอย“อุ๊ย ป้าถนัด โรสขอโทษค่ะ” โรสิตาว่าพลางใช้สองมือรวบรวมกลีบดอกบัวที่กระจัดกระจายทิ้งลงถังขยะถนัดศรีโคลงศีรษะเบา ๆ พร้อมยิ้มเอ็นดูสาวน้อย ก่อนวางมือจากการเตรียมเครื่องต้มยำ และเดินลงมานั่งข้างโรสิตา“คุณโรสคะ มีเรื่องอะไรกับคุณติณณ์หรือเปล่าคะ”ตั้งแต่เจ้านายทั้งสองคนกลับมาถึงบ้าน ถนัดศรีสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอึมครึมที่เกิดขึ้นระหว่างติณณ์และ







