Share

บทที่ 24 เลิกลองดี

last update Last Updated: 2025-06-12 22:38:12

บทที่ 24 เลิกลองดี

ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก

ยังไม่ทันที่ป้าจะได้พูดอะไรต่อ..เสียงเคาะประตูจากด้านนอกก็ดังขึ้น

“ป้าต้องไปแล้วค่ะ  สองคนข้างนอกนั่น ไม่ได้อยากให้ป้าอยู่ในนี้นานนัก คุณก็ทานข้าวทานยานะคะ เสร็จแล้วจะได้ไป ๆ ซะ”

“?”

 ณิชชายืนมองประตูด้วยความงงงวย ไม่เข้าใจในท่าทีของป้าเอาซะเลย ป้าแสดงออกอย่างไม่ปิดบังว่าไม่ชอบเธอเอามาก ๆ แถมยังบอกว่า เธอเป็นคนทำร้ายชลาสินธุ์อีก

 “ทำร้ายคุณสินธุ์เหรอ?” ณิชชาพึมพำ ที่ผ่านมามีหลายครั้งที่เอสงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างชินวุฒิกับชลาสินธุ์ เมื่อใช้เวลาคิดทบทวนก็ทำให้ณิชชาคิดว่า ทั้งคู่น่าจะรู้จักกันมาก่อน และน่าจะรู้จักกันถึงขนาดเป็นเพื่อนสนิทหรือเป็นญาติกันเลยด้วยซ้ำ เพราะไม่ว่าจะโกรธเกลียดอย่างไร  แต่ชลาสินธุ์มักจะนำหน้าชื่อของชินวุฒิ ด้วยคำว่า ‘พี่’ เสมอ

ณิชชาไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปไหนเลยในวันนั้น ทุกครั้งที่เปิดประตูจะมีชายร่างใหญ่ที่ดูเหมือนพร้อมจะลงมือลงไม้กับเธอเต็มที่รออยู่ที่หน้าประตู ทำให้ต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้องเท่านั้น ซึ่งแม้ว่าจะทำให้เบื่อ ๆ อยู่บ้าง แต่กลับทำให้ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และน่าแปลกที่ถึงแม้ว่าจะโดนกระทำเหมือนทารุณกรรม แต่ความเจ็บปวดกลับคลี่คลายไปได้รวดเร็วกว่าครั้งก่อนมาก ร่างบางได้แต่นอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงสีขาว หนานุ่มอยู่อย่างนั้นไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาอะไร รู้แค่ว่าตัวเองกินอาหารเย็นไปแล้วเรียบร้อย ตามสายตาบังคับเขียวปัดของคุณป้าแม่บ้านที่ไม่คุยกับเธออีกเลยในวันนี้

เสียงประตูดังแกร็ก ทำให้ณิชชาหันไปดูก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นว่าใครเป็นคนที่เดินเข้าห้องมาในครั้งนี้

ชลาสินธุ์มองหน้าคนที่อยู่ในห้องแบบไม่บอกความรู้สึก ได้แต่เดินเข้ามาแล้วถอดเสื้อนอกโยนไว้บนเตียง ก่อนจะปลดเนกไทโยนไว้ในที่เดียวกันแล้วเดินเข้าไปอาบน้ำเงียบ ๆ

“ยังอยากย้ายที่ทำงานอยู่ไหม” เสียงนิ่งถามขึ้นเมื่อเขาอาบน้ำเสร็จแล้ว  ร่างหนาพราวไปด้วยเม็ดน้ำเกาะเต็มตัว ด้านล่างมีผ้าขนหนูพันไว้เท่านั้น

 “...”

“ณิช ยังไม่เลิกทำให้ฉันหงุดหงิดอีกเหรอ” เธอถามเสียงต่ำเมื่ออีกฝ่ายเอาแต่นิ่ง

“ฉันพูดอะไรไปก็กลัวจะต้องเจ็บตัวอีก” ณิชชางึมงำ

“ก็อย่าทำให้ฉันหงุดหงิดสิ จะได้ไม่เจ็บตัว  ที่ผ่านมาฉันก็นุ่มนวลกับเธอมากขึ้นแล้วไม่ใช่หรือไง” 

ณิชชาเบ้ปากอย่างหงุดหงิด อะไรกันนะที่ทำให้เขาคิดว่า สิ่งที่ทำมันเรียกได้ว่า ‘นุ่มนวล’

...ก็ได้ มีบางครั้งที่เขานุ่มนวล แต่ไม่ใช่เมื่อคืนแน่ ๆ แถมยังสร้างความอับอายด้วยการทำเรื่องเลวร้ายแบบนั้นต่อหน้าคุณชินอีก ป่าเถื่อน  สารเลว ชั่วช้า จะใช้คำพูดไหนมาบรรยายความเป็นคุณดีล่ะคุณชลาสินธุ์...

“คุณทำอะไรคุณชิน”

 “นี่จะต้องให้เจ็บตัวให้ได้ใช่ไหม อยากโดนดีมากใช่ไหม ถึงได้เอ่ยชื่อมันออกมาน่ะ หา?”  เสียงกดต่ำนั้น สวนทางกับอารมณ์โกรธที่กำลังพุ่งขึ้นสูง และคาดว่าจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ

 ณิชชาก้มหน้า จิกเล็บตัวเอง แม้จะโกรธ จะโมโหและอยากประชดประชันแค่ไหน แต่เธอก็ไม่ได้อยากจะเจ็บตัวเพราะคนตรงหน้าอีก

“เอ่อ คือ ฉัน คือ...แค่อยากรู้น่ะ ก็คุณชินเขา...” ณิชชาบอกตัวเองไม่ถูกว่า ตอนนี้เกลียดหรือว่ากลัวชลาสินธุ์มากกว่ากัน

 ...แววตาแบบนั้นอีกแล้ว...

 “ยังไม่ตายหรอก”

“แล้วเขาอยู่ที่ไหน?”

 “นี่ ตกลงจะเอาให้ได้ใช่ไหม” ชลาสินธุ์เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน เมื่อร่างเล็กไม่ยอมหยุดถามถึงไอ้บ้านั่นสักที เขาจับไหล่บางทั้งสองข้างเขย่าจนหัวสั่นหัวคลอน

“โอ๊ย คุณ โอ๊ย ปล่อย” ร่างหนาไม่ทำตามคำของณิชชา แต่กลับตรึงหัวไหล่บางไว้กับเตียงแล้วขึ้นคร่อมร่างนั้นเอาไว้จนขยับไม่ได้

 “ฉันเอาไปเหวี่ยงไว้ที่หน้าโรงพยาบาลญาติมันนั่นแหละ แต่จะมีใครออก มาดูมันหรือเปล่าฉันไม่รู้นะ”

 “คุณมันใจร้าย...คุณชินเขาไม่เคย...”

“อย่าพูดว่ามันเป็นคนดีต่อหน้าฉัน!!!” ชลาสินธุ์ตะโกนใส่ทั้งที่อีกคนยังพูดไม่จบ

 “คุณนี่มัน...”  ณิชชาส่งสายตาอาฆาต

 “อยากลองไปดูมั้ยล่ะว่า มันตายไหม”

 “ฉันไปแน่ คุณไม่ต้องห่วงหรอก” ร่างบางประชด กระเถิบตัวถอยออกมาห่างจากร่างหนาทันทีที่ร่างกายถูกปล่อยให้เป็นอิสระ

 “หึ ไปน่ะไปได้ แต่ต้องไปกับฉันเท่านั้น”

 “คุณจะไปทำไม?!” เสียงเล็กกระชากด้วยความหวาดกลัว กลัวว่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ชินวุฒิถูกคนตรงหน้าทำร้ายอีก

 “ก็ไปบอกมันน่ะสิว่าสิ่งที่มันได้รับอยู่คือ ผลของการมายุ่งกับของของฉัน และต่อไปถ้าของของฉันมันไม่รักดี คนที่จะเจ็บตัวก็ต้องเป็นมัน เหมือนอย่างครั้งนี้”

 “...”

 “พรุ่งนี้นะ เราจะไปดูน้ำหน้าไอ้ชินวุฒิกัน” ชลาสินธุ์พูดมือก็ลูบผมนุ่มของเธอเบา ๆ  แต่หน้าตาและน้ำเสียงนั้นไม่ได้มีความนุ่มนวลอยู่ด้วยเลยสักนิด

“คุณมันบ้าไปแล้ว”

“ฉันบ้าได้มากกว่านี้อีกนะ ถ้าเธออยากเห็น ก็ลองทำทุกอย่างที่ขัดคำสั่งฉันอีกสิ”

ณิชชาเอาแต่นั่งนิ่งมาตลอดการเดินทางไปที่โรงพยาบาล พยายามสงบใจที่กำลังร้อนรุ่มให้เย็นลง ตอนนี้ในใจของเธอมีแต่ภาพร่างโชกเลือดของชินวุฒิ ใคร หรืออะไรกันแน่ ที่ทำให้ชินวุฒิต้องมาเจ็บมากขนาดนี้ ความร้ายกาจของชลาสินธุ์ หรือความดื้อดึงเอาแต่ใจของตัวเธอเองกันแน่ รู้ทั้งรู้ว่าเรื่องแบบนี้อาจจะเกิดขึ้น ก็ยังปล่อยให้มันเลยเถิดไป

 ร่างสูงที่ขับรถอยู่ข้าง ๆ คอยชำเลืองมองคนที่นั่งนิ่งอยู่เป็นระยะ  ใบหน้าอ่อนโยนที่ชอบทำให้เขาหงุดหงิด แก้มที่เคยเป็นสีขาวมีสีชมพูเรื่อแต้มนิด ๆ นั้น บัดนี้ซีดเซียว ดวงตาเหม่อลอยบางครั้งก็กลิ้งไปมาเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง เขาอยากจะเข้าไปโอบกอดเธอให้คลายเศร้า แต่ก็ต้องรั้งไว้

...ณิชชามักจะลืมไปเสมอว่าคำสั่งของเขาคืออะไร...

... คิดจะไปจากฉันอย่างนั้นเหรอ ตราบใดที่ยังไม่ได้กานต์คืนมา  อย่าคิดว่าเธอจะได้ไปไหนนะ เธอจะมีความสุขกับคนอื่นได้มากกว่าฉัน

จริง ๆ เหรอ...

 “คุณจอดตรงนี้ทำไม ไหนว่ารีบ” ณิชชาเอ่ยถามขึ้น เมื่อจู่ ๆ

ชลาสินธุ์ก็จอดรถพรืด ริมถนนสายหลักที่รถแต่ละคันวิ่งกันด้วยความเร็วไม่ต่ำกว่าร้อย

“เธอจะไปเจอมันทำไม จะทำอะไรบ้าง”

“แล้วคุณอยากให้ฉันทำอะไรล่ะ”

“ทำไม จะทำตามทุกอย่างที่ฉันสั่งแล้วหรือไง”

“ใช่ ฉันจะทำทุกอย่าง จะทำทุกอย่างเพื่อให้คุณไม่ไปทำร้ายเขาอีก”

“ณิช!” ชลาสินธุ์กระชากเสียง คำตอบนั้นทำให้จิตใจของเขาสั่นไหว

ดูเหมือนว่าเหตุการณ์เมื่อคืนจะเปลี่ยนโลกของเขาและณิชชาไปอีกครั้ง  และครั้งนี้จะให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิมคงยากเหลือเกิน แม้ร่างบางไม่ได้โวยวาย ไม่ได้ร้อง ไห้จนสะอึกสะอื้น ไม่ได้แสดงอาการหวาดกลัวเหมือนครั้งก่อน แต่สำนึกบางอย่างของเขามันบอกว่า สิ่งที่เขาตัดสินใจทำไปเมื่อคืนก่อน มันสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นในใจของณิชชาแล้ว

...เธอไม่ได้กลัวเขา แต่เธอเกลียด...

ชลาสินธุ์ถอนหายใจหนัก ไม่รู้ว่าจะต้องใช้วิธีไหนที่จะสามารถรั้งทุกคนที่เขารัก ห่วงใยให้อยู่ใกล้ตัวเขาได้ จะต้องดีแค่ไหน จะต้องร้ายอย่างไร คนพวกนี้ถึงจะยอมอยู่กับเขา หรือจริง ๆ แล้วตัวเขาเองที่ไม่มีความสามารถทำให้ใคร ๆ อยู่กับเขาได้ ไม่ว่าเขาจะใช้วิธีใดก็ตาม เงาดำของความเป็นคน ‘ไม่ถูกรัก’ ก็กัดกินเขาเสมอ มันต้องมีบางอย่าง หรือ

บางคนมาคอยพลัดพรากไป ร่างหนาสลัดความคิดในหัวทิ้งสูดหายใจเข้าเต็มปอด

 “งั้นฉันขอสั่ง สั่งให้เธอไปล่ำลามันซะ ฉันจะให้โอกาสเป็นครั้งสุดท้าย จากนี้ไปถ้ายังไปเจอกันอีก ฉันจะไม่รับผิดชอบความปลอดภัยของใครทั้งสิ้น และฉันหมายรวมถึงคนอื่นด้วยนะ”

ณิชชายกมือขึ้นกอดตัวเองแน่น กะพริบตาถี่เพื่อไม่ให้น้ำใส ๆ ที่มันร่วงออกมาจากดวงตาได้ นึกเวทนาชะตาของตัวเอง อยากจะรัวกำปั้นใส่คนข้าง ๆ แต่ก็รู้ว่าไม่มีประโยชน์

ณิชชาขอเข้าไปหาชินวุฒิคนเดียวในห้องพักผู้ป่วย โดยสัญญาว่าจะไม่หนีไปไหน จะไม่ทำการใด ๆ ที่เป็นการขัดใจเขา เพราะรู้ว่านั่นยิ่งจะทำให้ชินวุฒิเจ็บตัวไปมากกว่านี้ ซึ่งชลาสินธุ์เองก็ไม่ว่าอะไร เพราะเขาไม่คิดจะเข้าไปดูน้ำหน้าของชินวุฒิอยู่แล้ว ถ้าไปเห็นแล้วอาจจะพานทำให้อีกฝ่ายตาย ๆ ไปเร็วขึ้นซะอีก เขาจึงขอไปรอที่ร้านกาแฟด้านล่าง  

ณิชชาคิดว่าชลาสินธุ์ไว้ใจตัวเอง แต่เปล่าเลย เพราะทันทีที่

ชลาสินธุ์กระดิกนิ้ว ผู้ชายร่างใหญ่สองคนที่มาจากที่ไหนก็ไม่รู้ก็ยืนประจำการที่หน้าห้องพักผู้ป่วยของชินวุฒิทันที

 “ถ้าสิบนาทีไม่ออกมาก็เข้าไปตามได้เลย” เสียงสั่งต่ำ ๆ คำสั่งเดียว ที่คนสามคนต้องน้อมรับ

 ณิชชามีเวลาแค่สิบนาทีเท่านั้น สิบนาทีสุดท้ายที่เธอจะได้พบกับชินวุฒิ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   ตอนอวสาน

    ตอนอวสานชลาสินธุ์ให้คนขับรถมารับที่บ้านของพัฒนศักดิ์ในวันรุ่งขึ้น พวกเขากลับมาถึงกรุงเทพฯ ในช่วงบ่าย ๆ แต่น้อง ๆ ทั้งสองคนปฏิเสธที่จะให้เขากลับมาทำงานในทันที ทำให้ประธานบริษัทพร้อมเลขากลายเป็นคนว่างงานในวันนี้ณิชชาหัวเราะเมื่อเห็นว่าชลาสินธุ์ดูจะเป็นห่วงเธอมากเกินจริงไปสักหน่อย ห้ามทำอะไรที่ต้องใช้กำลัง จะไปไหนก็ได้แต่ต้องอยู่ในระยะสายตาที่เขามองเห็น อยากได้อะไรหรืออยากกินอะไรต้องบอก เพราะเขาจะทำให้เอง เรียกว่าณิชชามีหน้าที่อย่างเดียว คือนั่งเฉยๆ“พอแล้วค่ะ คุณมานั่งเถอะ” ณิชชาบอก เมื่อชลาสินธุ์ถามเป็นครั้งที่ร้อยว่าอยากได้อะไรอีกหรือเปล่า หญิงสาวจึงเรียกให้มานั่งดูหนังในห้องนั่งเล่นด้วยกันชายหนุ่มตัดสินใจนั่งลงข้าง ๆ คนรัก และเหมือนเคย นับตั้งแต่กลับ มาจากไร่เจริญตา ไม่มีสักครั้งที่หากได้นั่งคู่กันชลาสินธุ์จะไม่โอบรอบตัวร่างเล็กให้อยู่ในอ้อมกอดตลอดเวลา“ไม่เจ็บแล้วแน่นะ ดูสิ ยังเป็นรอยช้ำอยู่เลย” ชลาสินธุ์บอกพลางใช้นิ้วโป้งลูบไล้เบา ๆ ไปที่รอยช้ำที่แขน ซึ่งยังเป็นรอยเด่นชัด น่าจะเกิดจากการต่อสู้กับลูกน้องของภัสสรา“เจ็บนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรแล้วจริง ๆ ไม่ต้องห่วงหรอก ห่วงขาคุณดีกว

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 50 จุดจบที่เลวร้าย

    บทที่ 50 จุดจบที่เลวร้ายภัสสราเดินตรงเข้ามายังชลาสินธุ์ ทำให้ชายหนุ่มต้องถอยหลังเพื่อเว้นระยะ กลุ่มชายฉกรรจ์ผิวเข้มเดินเข้ามาในห้องหลายคน ณิชชาเห็นคนที่โยนเขาเข้าไปในรถตู้รวมอยู่ในนั้นด้วย“ปล่อยฉันลงเถอะ ฉันเดินไหวแล้ว” ณิชชากระซิบบอก ชลาสินธุ์ยอมทำตาม แต่ก็ยังโอบไหล่บางไว้ ไม่ให้ห่างตัว ร่างเล็กซบใบหน้าตัวเองลงกับลำแขนใหญ่ แม้ว่าจะกลัวจนแทบบ้า แต่กลับรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้เขา“ทุกอย่างจะต้องผ่านไปด้วยดี เธอเชื่อมั่นในตัวฉันนะ” ชลาสินธุ์กระซิบบอกอย่างอ่อนโยนณิชชาพยักหน้ารับ เธอจะเชื่อมั่นในตัวคน ๆ นี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามกลุ่มชายฉกรรจ์ตีวงล้อมจนทั่วห้องโดยมีทั้งสามคนอยู่ตรงกลาง“รู้อะไรไหม คุณสินธุ์ คุณทำให้ฉันสูญเสียอะไรไปตั้งหลายอย่าง ลงทุนไปตั้งมากมาย แต่คุณกลับทำลายมันทิ้งในเวลาแค่วันเดียว” ภัสสราเอ่ยขึ้น คำพูดเนิบช้ากว่าปกติ เรียวปากเหยียดยิ้มแต่แววตากลับเข่นอาฆาต“คุณไม่เห็นต้องโกรธผมขนาดนี้เลยคุณสรา”“หึ ไม่ต้องโกรธเหรอ ถ้าคราวนั้น พวกแกไม่ทำตัวเป็นคนดี แล้วปล่อยให้ฉันดำเนินธุรกิจของฉันไป ฉันก็ไม่ต้องเป็นแบบนี้หรอก แกก็ได้ค่าเช่า ฉันก็ได้กำไร แกทำแบบนั้นทำ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 49 ลักพาตัว

    บทที่ 49 ลักพาตัว“คืนนี้เธอจะนอนที่นี่ใช่มั้ย”“ฉันไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาเลย”“ก็ใส่ตัวเดิมสิ ไม่เปื้อนหรอก เพราะคืนนี้เธอไม่ต้องใส่นี่” อีกคนยังดื้อรั้นไม่ฟังคำอธิบายแถมยังทำท่าจะหื่นใส่อีก“คิดจะทำอะไรน่ะ ที่นี่โรงพยาบาลนะ แล้วคุณก็ป่วยอยู่ ทำไหวหรือไง?”“จะได้พิสูจน์ด้วยตัวเองมั้ย”“ไม่ ฉันไม่ยอมหรอก คุณน่ะ เอะอะก็จะทำมิดีมิร้ายฉันตลอด”“ขี้บ่นจัง” ชลาสินธุ์แกล้งทำท่าเกาหัว “งั้นฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไร แต่เธอนอนให้ฉันกอดนะ คิดถึงจะแย่ คิดถึงจะตายอยู่แล้วคนใจร้าย”“ว่าฉันใจร้าย คุณก็ใจร้ายเหมือนกันนั่นแหละ”“นะ”“เอ่อ...ถ้าคุณไม่ทำอะไรจริง ๆ ฉันนอนด้วยก็ได้”“ไม่ทำหรอก ถ้าเธอไม่เผลอน่ะ”“อะไรนะ!” และอย่างไม่ต้องรอคำตอบ ณิชชาก็ฟาดมือไปที่แขนคนป่วยเสียงดังลั่นห้อง ก่อนจะแจกค้อนไปให้อีกหลายทีชลาสินธุ์ลูบแขนตัวเองแล้วหัวเราะไปด้วย“ฉันยอมให้หน่อย ก็ทำร้ายฉันเลยนะ” เสียงอ่อนบอกก่อนจะโอบคนรักให้แน่น ๆ อีกหน “งั้นตกลง นายนอนที่นี่นะ นอนเฉย ๆ ให้ฉันมองหน้า จะได้หายคิดถึง”“หึ” หญิงสาวค้อนคนป่วยขวับ เธอเองก็อยากกอด อยากมองหน้า อยากยิ้มให้ผู้ชายคนนี้ เพื่อให้แน่ใจว่า ความรักระหว่างตัวเองกับ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 48 ฝันที่ (ไม่) อาจเป็นจริง

    บทที่ 48 ฝันที่ (ไม่) อาจเป็นจริงแม้จะเป็นเวลาพลบค่ำแล้วทำให้อาจจะได้พบคนที่เขาคิดถึงแค่ไม่กี่นาทีแต่ณิชชา ก็ตัดสินใจออกจากบ้านทันทีที่อัครชัยปล่อยมือเขา ความโหยหาที่ลอยวนอยู่ในใจมันฉุดกระชากให้เขามาที่นี่ โรงพยาบาลใหญ่ใจกลางกรุง ชลาสินธุ์ถูกย้ายมาที่นี่ทันทีที่ร่างกายสามารถทนต่อการเดินทางได้หญิงสาวเดินหาห้องนั้นจนพบ ในมือถือดอกไม้ช่อเล็ก ๆ ที่ตั้งใจทำเองด้วยหัวใจ มือบางที่กำลังจะเคาะห้องมีอันต้องชะงักค้างไว้“คุณณิชคะ คุยกันหน่อยดีมั้ย” ชลาธารที่เพิ่งมาถึงเช่นกัน มองมาที่ณิชชา ไม่มีสายตาของมิตรภาพแม้แต่น้อยชลาสินธุ์นอนลืมตาโพรงอยู่บนเตียงคนป่วย แม้อาการทางกายจะค่อย ๆ หายจนเกือบเป็นปกติ เพราะรถที่ชนก็แค่เฉี่ยวขาทำให้เจ็บที่หัวเข่าซ้ายเท่านั้น แย่หน่อยตรงที่ตอนกระโดดหลบ หัวของเขามันไปชนต้นไม้ข้างทางทำให้ทั้งน้อง ๆ และคุณหมอค่อนข้างเป็นห่วง แต่อาการทางใจของชายหนุ่มก็ทำให้ตอนนี้เขาแทบไม่ต่างจากผักเหี่ยว ๆ ที่รอวันเฉาลงไปอีกชลาธารรับหน้าที่ดูแลพี่ชายของเธอที่โรงพยาบาล ขณะที่คนอื่นดูแลเรื่องงาน ยิ่งเห็นพี่เป็นแบบนี้ ก็ยิ่งโกรธณิชชามากขึ้นเรื่อย ๆ เห็นว่าเป็นคนนิ่ม ๆ ไม่คิดว่าจะมีอิ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 47 อัครชัยคือคนที่เลือกแล้ว

    บทที่ 47 อัครชัยคือคนที่เลือกแล้วชลาธารทำอย่างที่ตนเองได้ลั่นวาจาไว้ทันทีที่วันทำงานวันแรกมาถึง“คุณณิชคะ คุยกับธารในห้องก่อนค่ะ” มาถึงยังไม่ทันได้นั่ง ก็เอ่ยปากให้ณิชชาเดินตามตัวเองเข้าไปในห้องแล้ว ณิชชาเดาไม่ถูกว่าเจ้านายคนเล็กคนนี้จะพูดเรื่องอะไร เรื่องงานหรือว่าอย่างอื่น เพราะแทบจะไม่เคยทำงานด้วยกันเลย ยิ่งหญิงสาวไปเรียนต่อได้เป็นปีแล้ว ยิ่งห่างกันไป เดาใจไม่ถูก“คุณธาร มีอะไรให้ณิชทำเหรอคะ” ณิชชาพูดก่อนจะนั่งลงตามมือที่ผายออก หญิงสาวไม่ได้ชวนเธอนั่งที่โต๊ะทำงาน ซึ่งตอนนี้คนที่ยึดโต๊ะตัวนั้นเป็นของตัวเองยังไม่มา แต่พวกเธอนั่งคุยกันที่โซฟารับแขกซึ่งอยู่ในห้องทำงานของชลาสินธุ์ด้วยนั่นเอง“คุณณิชจะว่าอะไรมั้ยคะ ถ้าธารจะถามเรื่องพี่สินธุ์” ยิงคำถามทันทีพร้อมกอดอกฟังคำตอบ แต่ดูเหมือนคนที่ต้องตอบจะยังหาเสียงของตัวเองไม่เจอ“คือ...เอ่อ...”“ไปเยี่ยมสักวัน หรือดอกไม้สักช่อ ไม่คิดจะส่งไปหน่อยเหรอคะ” ชลาธารพูดแทรกขึ้นอย่างหงุดหงิด อยากจะเล่าสภาพของพี่ชายให้คนตรงหน้าฟังว่าเลวร้ายแค่ไหน แต่ก็กลัวว่าสิ่งที่ได้กลับมาจะเป็นอย่างอื่นนอกจากความเห็นอกเห็นใจ ถ้าณิชชารู้สึกยินดีกับสภาพของพี่ชายตนเอ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 46 รถชน

    บทที่ 46 รถชนณิชชาฟังแล้วอึ้งไป เพราะน้ำเสียงนั้นแม้จะสุภาพแต่ก็เฉียบขาด พี่น้องบ้านนี้บุคลิกไม่เหมือนกันสักคน สาคเรศคนนี้หากฟังจากน้ำเสียง ลักษณะนิสัยคงเป็นแบบ อยู่ตรงกลางระหว่าง ชลาสินธุ์และธารากานต์ คือไม่ได้ดูใจดีมากเหมือนธารากานต์ แต่ก็ไม่ได้ดุและขี้หงุดหงิดเหมือนพี่ชายคนโต“คือ...คุณสินธุ์คงไม่สะดวกให้ดิฉันไปทำงานแล้วล่ะค่ะ”“พี่สินธุ์ไม่อยู่ที่นี่มาสองสัปดาห์แล้วครับ ตั้งแต่คุณไป” เสียงถอนหายใจปล่อยมาตามสาย “คุณทำให้พี่สินธุ์อยู่ที่นี่ไม่ได้ แล้วคุณก็จะไม่อยู่ดูแลที่นี่อีก นี่คุณกะจะให้พวกเราล่มจมเลยเหรอครับ”“คุณเรศคะ...ดิฉันเปล่า...คือ...ดิฉันไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายพวกคุณเลยนะ เพียงแต่ไม่คิดว่าคุณสินธุ์เขา...”“เขาจะอยู่ไม่ได้เมื่อไม่มีคุณ?” สาคเรศขัดอีกแล้ว แล้วก็ถูกที่ถูกเวลาเสมอ เพราะมันเป็นสิ่งที่อยู่ในใจณิชชาด้วย คนฟังน้ำตาแทบจะไหลลงมาอีกครั้ง เสียงถอนหายใจของปลายสายทำให้ณิชชาทำอะไรไม่ถูก “ผมทราบว่าคุณไปคุยกับที่อื่นมาแล้ว แต่ก่อนจะไป คุณน่าจะมาเคลียร์งานที่นี่สักหน่อย พรุ่งนี้เข้ามานะครับ ผมรออยู่”สาคเรศวางหูไปนานแล้ว แต่ณิชชายังอยู่ที่ระเบียงไม่ไปไหน ความคิดสับสนว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status