Share

บทที่ 40 พี่กลับมาแล้ว

last update Last Updated: 2025-06-16 12:14:07

บทที่ 40 พี่กลับมาแล้ว

วันนี้ณิชชาหาทางแวบออกมาจากบ้านได้ราวบ่ายโมงนิดๆ หลังจากที่เร่งทำขนมคุกกี้จนเสร็จ เธอต้องมาทำความสะอาดคอนโดของตัวเอง เพราะตั้งใจจะเก็บที่นี่เอาไว้ต้อนรับแม่เวลาแม่อยากจะมาทำอะไรที่กรุงเทพฯ  

แต่ทั้งที่ตั้งใจว่าจะใช้เวลาครู่เดียว เพราะนัดกับป้าแม่บ้านไว้ว่าจะกลับไปทำอาหารเย็นรอชลาสินธุ์ด้วยกัน แต่เมื่อจัดห้องเสร็จ หญิงสาวกลับรู้สึกเพลียจนต้องล้มตัวลงไปนอนบนที่นอนนุ่ม ก่อนจะหลับไปอย่างเหนื่อยอ่อน ซึ่งน่าจะเป็นเพราะเจ้านายแสนหื่นไม่ปล่อยให้เธอได้นอนหลับเต็มตื่นมาหลายคืน

...ก็กิจกรรมที่ทำให้ไม่ได้นอนนั้นก็ทำให้เสียพลังงานไม่ใช่น้อย...  

ณิชชารู้สึกตัวเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูเบา ๆ ร่างเล็กลืมตาขึ้นมาพบว่า แสงจากด้านนอกที่เคยส่งลอดผ้าม่านที่ขึงปิดหน้าต่างเข้าไว้นั้นอ่อนลงไปมาก

...คงจะใกล้ค่ำแล้ว แต่ใครกันมาเคาะประตู...

เมื่อเหลือบมองไปที่นาฬิกาที่ติดผนังอยู่ สงสัยจะเป็นชลาสินธุ์

ณิชชายิ้มกับตัวเองก่อนจะรีบลุกไปเปิดประตู

“พี่กลับมาแล้ว”

ณิชชารู้สึกเหมือนตัวเองหยุดหายใจไปชั่วขณะ คล้าย ๆ ถูกช็อต

จนร่างกายไร้เรี่ยวแรง สติสัมปชัญญะก็พลอยหายไปด้วย

“พี่...อัค...” หญิงสาวหาเสียงตัวเองไม่เจอ เพราะเธอไม่เหลือเรี่ยวแรงพอที่จะเปล่งเสียงอีกแล้ว คนตรงหน้า คนที่รอคอยมากว่าสองปี มายืนอยู่ตรงนี้แล้ว ตอนนี้แม้ว่าณิชชาจะยืนนิ่งอึ้ง แต่น้ำตาของความคิดถึงทำงานเต็มที่

“คิดถึงจังครับ” อัครชัยพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไร ณิชชาก็จำได้เสมอ

หญิงสาวร้องไห้อย่างหนัก คำว่า คิดถึง เมื่อครู่ มันวิ่งชนใจเธอจนจุกไปหมด มันรู้สึกดีกว่าการอ่านข้อความในไลน์เป็นไหน ๆ ร่างสูงที่ผอมลงแต่ขาวขึ้นมากกว่าตอนที่พบเจอกันครั้งสุดท้ายโอบกอดณิชชาอย่างรักใคร่

“ร้องไห้ทำไมครับ เด็กดี ไม่คิดถึงพี่หรือไง” เสียงอบอุ่นพูดขึ้น ยิ่งทำให้ร่างเล็กกอดเขาแน่นขึ้นไปอีก

“คิด...คิดถึง คิดถึงสิคะ คิดถึง คิด  ถึง ฮึก มาก” ณิชชาสะอึกสะอื้น ร่างเล็กสั่นสะท้านอยู่ในอ้อมกอดของคนตัวใหญ่กว่า

อัครชัยโอบกอดคนตัวเล็กเอาไว้ แล้วดันร่างนั้นเบา ๆ ให้เดินถอยหลังเข้าไปในห้อง  เพราะตอนนี้เขาทั้งคู่กำลังกอดกันร้องไห้อยู่ที่หน้าประตู    ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งที่ปลายเตียงนอน สองคนยังคงกระชับอ้อมแขนกันและกัน ให้แน่นหนามากขึ้น สมกับที่ไม่ได้เจอกันนานปี

อัครชัยเป็นฝ่ายคลายอ้อมกอดลงก่อน แต่ยังไม่ได้ปล่อยให้ร่างเล็กออกจากวงแขน เขาใช้มือลูบคลำไหล่และแผ่นหลังบาง แล้วยิ้มอย่างสุขใจ เป็นความสุขใจที่สุดในช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมา

“มาหาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ไปไหนมาครับ ไลน์ก็ไม่เห็นตอบ”

“เอ่อ คือ ช่วงนี้ณิชไม่ค่อยอยู่บ้านค่ะ  พี่อัคทำไมผอมลงนักล่ะคะ ทำไมไม่ดูแลตัวเองดี ๆ” ณิชชาตอบอึกอักก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง

“ก็อยู่คนเดียว ใครจะมาดูแลพี่ล่ะ นี่พี่ก็กลับมาให้ณิชดูแลแล้วไง” ได้ยินแบบนั้น ณิชชาก็กระชับอ้อมกอดตัวเองแน่น ร้องไห้สะอึกสะอื้นอีกหน “ณิชจะดูแลพี่ได้ไหม”

ณิชชาไม่ได้ตอบคำถาม ความรู้สึกหลากหลายกำลังตีกันจนวุ่น ความรู้สึกดีใจที่ในที่สุดดาวพ่อทูนหัวก็กลับมาปรากฏตรงหน้าอีกครั้ง คนที่เธอรัก และรักเธอมากกว่าใคร คนที่เป็นเสมือนอีกครึ่งหนึ่งของชีวิต เป็นเหมือนเข็มทิศนำทาง ตอนนี้กลับมาอยู่ตรงหน้าแล้ว

แต่ตัวเธอกลับแปดเปื้อนจนไม่แน่ใจว่า ยังสามารถยืนเคียงข้างพ่อทูนหัวของตนได้หรือไม่

“ถ้าร้องไห้หนักขนาดนี้ พี่ต้องเป็นคนดูแลณิชเหมือนเดิมละมั้ง” อัครชัยกระเซ้า

“พี่อัคอะ” ณิชชางอนนิด ๆ แถมยังตีมือเข้าไปที่หน้าอกหนานั่นอีก แต่อัครชัยรับเอาไว้ทัน ทั้งยังหัวเราะกับอาการที่ดูยังไงก็เหมือนเด็กไม่โตสักทีของคนรักด้วยก่อนจะกระชับแขนให้แน่นขึ้นอีกนิด

“พี่กลับมาแล้ว และพี่จะไม่ไปไหนอีกแล้ว ขอโทษที่ปล่อยให้ต้องอยู่คนเดียวตั้งนาน”

“ค่ะ”

ณิชชาซบลงบนอกแกร่ง ใจก็อดคิดไปถึงอีกคนไม่ได้

พวกเขาอยู่ในท่านั้นนานทีเดียว ความรักความห่วงหาทำให้ไม่อยากจะแยกจากกันแม้อีกสักวินาที ก่อนที่ท้องของอัครชัยจะประท้วงออกมา

“ทำไมหิวแล้วไม่บอกล่ะคะ” ณิชชาถามพร้อมหัวเราะขำ เมื่อ

ได้ยินเสียงท้องร้องอย่างชัดเจน

“ก็หิว แต่ตอนที่เจอหน้าณิช มันคิดถึงมากกว่านี่ อยากกอดณิช

มากกว่าอยากกินข้าว” อีกคนส่งเสียงอ้อน

“โธ่เอ๊ย กอดณิชน่ะไม่ได้ทำให้อิ่มได้หรอกนะคะ”

“งั้นไปหาซื้อของสดกัน เดี๋ยววันนี้พี่ทำให้กิน”

“วันนี้พี่อัคจะค้างที่นี่เหรอฮะ”  ณิชชาถาม ใจก็คิดว่าจะบอก

ชลาสินธุ์ว่าอย่างไร หากอัครชัยค้างที่นี่จริงเพราะเธอคงต้องอยู่ที่นี่ด้วย

“ไม่ได้น่ะสิ พี่จะทำกับข้าวให้คนแถวนี้กินก่อน แล้วก็ต้องกลับบ้าน พี่มีเรื่องจะต้องคุยกับแม่สักหน่อย” แววตาของเขากร้าวขึ้นนิดเมื่อจบประโยคหลัง ขณะที่อีกคนลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก

“คุณหนูใหญ่โทร.มานะคะว่า วันนี้จะกลับดึกหน่อย เห็นว่าโทร.หาคุณณิชแล้วแต่ไม่ได้รับสาย” คุณนมสูงวัยบอกกับณิชชาที่เพิ่งเดินเข้ามาบ้านมา ณิชชาบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไรกับคำบอกเล่าที่เพิ่งได้ยินมาเมื่อครู่ โล่งอกที่ยังไม่ต้องบอกความจริงที่ต้องกลับดึก อีกนัยหนึ่งก็มีความรู้สึกผิดปะปนอยู่มากทีเดียว รู้สึกหม่น ๆ หน่อยเพราะบรรยากาศรอบตัวมันหงอยเหงาขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น คิดว่าเมื่อกลับมาแล้วจะได้เจอหน้ากัน

ซะอีก

ณิชชาตัดสินใจคลายความเครียดของตัวเองด้วยการอาบน้ำ

หญิงสาวใช้เวลาอยู่กับมันนานมากทีเดียว จนกระทั่งถูกปลุกนั่นแหละ จึงได้รู้ว่า ตัวเองเผลอหลับอยู่ในอ่างอาบน้ำ

“เพลียอะไรนักหนา” เสียงทุ้มต่ำถาม 

ณิชชาสะลึมสะลือ ลืมตาขึ้นมาแล้วรู้สึกใจสั่นแปลก ๆ  เพราะเมื่อตื่นเต็มที่แล้ว ก็เห็นว่าท่าทีของชลาสินธุ์นั้นดูแปลกไป

“นิดหน่อย ฉันไปทำความสะอาดคอนโดมา”

“วันหลังเอาแม่บ้านไปช่วยด้วยสิ จะได้ไม่ต้องเหนื่อย หรือว่ามีอะไรปิดบังไว้ถึงให้คนอื่นไปรู้ไปเห็นไม่ได้”

“เปล่าสักหน่อย คุณน่ะพูดอะไรไม่รู้เรื่องเลย”

“ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว อย่าให้ฉันต้องกลับมาร้ายเหมือนเก่า” ชลาสินธุ์พูดเสียงเย็นจนณิชชาเสียวสันหลังและรู้สึกว่าเหมือนอีกฝ่ายจะรู้อะไรบางอย่าง  แต่ร่างหนาไม่เปิดโอกาสให้ซักถาม เขายกร่างของณิชชาให้กระเถิบขึ้นมาด้านหน้า ก่อนที่ตัวเองจะสลัดผ้าขนหนูแล้วซ้อนร่างเปลือยเปล่าอยู่ที่ด้านหลัง โดยให้แผ่นหลังพิงอ่างน้ำไว้ แล้วมือหนาก็เริ่มลูบไล้ที่แขนและเรือนร่างของณิชชา

“คุณเครียดเรื่องงานเหรอ” ร่างเล็กที่ขดตัวเองอยู่ใต้ผ้านวมผืนหนาถามคนที่นอนใส่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวอยู่ข้าง ๆ หญิงสาวรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะเป็นไข้ เพราะเมื่อคืนนี้ทั้งเผลอหลับในอ่างอาบน้ำ  แล้วยังโดนจัดหนักจัดเต็มวนเวียนอยู่ในห้องน้ำนั้นจนทั่ว แม้กระทั่งล้างเนื้อล้างตัวเสร็จแล้ว ก็ยังโดนจัดชุดใหญ่ตอนอยู่บนเตียงอีก

ไม่รู้ว่าชลาสินธุ์ไปโหยหาอะไรมาจากไหน ทั้ง ๆ ที่ได้จากเธอไป

ทุกคืน แต่ที่รู้ ๆ ก็คือเมื่อคืนนี้ไม่เหมือนทุกคืนที่ผ่านมา เขาไม่ได้อ่อนโยนเหมือนคืนก่อน ๆ แต่ก็ไม่ได้แข็งกร้าวหรือหมายจะให้บาดเจ็บ เพียงแต่รู้สึกราวกับว่า ชลาสินธุ์ส่งทุกดอกเข้ามาราวกับจะฝังรากลึกอยู่ในร่างกายเธออย่างแน่นหนา จนแทบจะทนไม่ไหวและเป็นแบบนี้เกือบจะทั้งคืน

“ไม่ได้เป็นอะไรหรอก นี่ทำไมเสียงแหบ จะไม่สบายหรือไง” อีกฝ่ายปฏิเสธและเปลี่ยนเรื่องพลางใช้หลังมืออังหน้าผากมนเพื่อวัดอุณภูมิ “ตัวร้อนจริง ๆ ด้วย” เสียงพึมพำนั้นเหมือนจะอารมณ์เสียนิด ๆ ก่อนที่หลังมือหนานั้นจะไล่วัดอุณหภูมิไปทั่วหน้าและลำคอจนณิชชาต้องจับมือหนานั้นไว้

“คุณดีกับฉันจัง” เสียงนั้นสั่นน้อย ๆ จากความคิดสับสนของตัวเองตั้งแต่เมื่อคืน

“ฉันก็ร้ายเหมือนเดิมนั่นแหละ เพียงแต่ตอนนี้พอเป็นเธอ  ฉันก็ทำร้ายไม่ลงแล้ว” ชลาสินธุ์บอก มองลึกเข้าไปในตาของณิชชานิ่งนาน สายตาที่ส่งกลับมาเป็นแววตาของคนที่รู้สึกผิดที่อยากจะขอโทษ   

ร่างหนาเสียใจที่เห็นสายตาแบบนั้น เขาอยากได้สายตาที่แสดงความรัก เหมือนเมื่อหลาย ๆ คืนก่อนไม่ใช่สายตาของคนที่พร้อมรับการลงโทษแบบนี้

ชลาสินธุ์เปิดผ้าห่มผืนใหญ่แล้วกอดร่างบางเอาไว้แน่น ๆ

“อื้ม ฉันหนาว” ณิชชาบอก ร่างหนาจึงคว้าผ้าห่มมาห่อตัวทั้งคู่ไว้ด้วยกันแล้วกอดร่างเล็กไว้นิ่ง ๆ

“วันนี้นายเรศโทร.มาถามว่าจะทำยังไงให้คนที่ตัวเองรัก รักตัวเองคนเดียว” เขาเอ่ยขึ้นที่ข้างหูของณิชชาเบา ๆ  “หึ เห็นว่าไปหลงรักสาวชาวเหนือเผ่าไหนสักเผ่า ที่กำลังจะไปหาที่สร้างโรงแรมน่ะ”   

ณิชชาได้แต่มองแผ่นอกที่ตอนนี้อยู่ตรงหน้าพอดี หญิงสาวรู้ว่าตอนนี้สาคเรศกำลังทำอะไรอยู่ แต่สิ่งที่ไม่รู้เลย คือคำตอบที่ชลาสินธุ์อยากได้ต่างหากและไม่ว่าจะภาวนาอย่างไร....ชลาสินธุ์ก็ถามมันออกมาอยู่ดี

“เธอว่าฉันควรตอบนายนั่นไปยังไงดี”

“คือ...ฉัน...เอ่อ...คือ...”

“เธอกำลังไม่สบายนี่นะ จะให้คิดหาคำตอบอะไรตอนนี้ เดี๋ยวก็ปวดหัวกันพอดี ไม่ต้องหาคำตอบหรอก เอาเป็นว่า วันนี้หยุดงานอีกสักวันนะ” ร่างหนาว่า ก่อนจะเอาตัวเองออกจากผ้าห่ม แล้วห่อมันไว้ที่ตัวณิชชาอีกครั้ง “พักผ่อนนะ อย่าออกไปไหนล่ะ ถ้ากลับมาแล้วเย็นนี้เธออาการยังไม่ดีขึ้น เรามีเรื่องต้องคุยกัน” พูดแค่นั้นแล้วชลาสินธุ์ก็เข้าห้องน้ำ

ณิชชาอดคิดไม่ได้ว่า คำพูดเมื่อครู่มันฟังดูแปลก ๆ แต่จะว่าไปก็ไม่แปลกอะไรนัก เพราะคนอย่างชลาสินธุ์ก็มักจะมีวิธีการแสดงความห่วงใย   ในรูปแบบโหด ๆ แบบนี้เสมอ

แม้ว่าจะกลัวชลาสินธุ์อยู่บ้าง แต่ณิชชาเลือกที่จะมาคอนโดตามที่อัครชัยโทร.มานัด หญิงสาวอยากพิสูจน์ว่า แท้จริงแล้ว เธอยังรักอัครชัยอยู่หรือไม่ หรือจริง ๆ ใจของเธอมันเปลี่ยนไปแล้ว

“ทำไมพี่อัคถึงกลับมาได้ล่ะคะ คุณหญิงไม่ว่าอะไรเหรอ”

“พี่ ฝึกงานที่บริษัทของคุณอาเรียบร้อยตามเวลาที่กำหนดแล้ว ทำตามที่แม่ขอทุกอย่างตามสัญญา เพราะฉะนั้นพี่ว่าถึงเวลาแล้วที่แม่จะต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพี่บ้าง” อัครชัยตอบเขาหมายถึงบริษัทค้ารถยนต์รายใหญ่ของตะวันออกกลางที่อาเขยของเขาเป็นเจ้าของ การฝึกงานนั้นเริ่มตั้งแต่การเป็นพนักงานตัวเล็กที่สุดของบริษัท แล้วก้าวขึ้นมาเรื่อย ๆ จนช่วงหกเดือนสุดท้ายเขาจึงได้ฝึกในด้านการบริหาร การฝึกงานว่าหนักแล้ว แต่การเฝ้าคิดถึงใครโดยไม่สามารถทำอะไรได้ยิ่งสาหัสมากกว่า

ตอนนี้ทั้งคู่อยู่ที่ริมหน้าต่างที่มันไม่เคยถูกเปิดเลยนับตั้งแต่ณิชชา มาอยู่ที่นี่ แต่วันนี้อัครชัยเปิดมันออก โดยบอกว่า มันจะช่วยระบายอากาศได้ดี และมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ โต๊ะทานข้าวตัวไม่โตนักถูกลากมาไว้ที่นั่น โดยมีทั้งคู่นั่งพูดคุยกันเบาๆ

ณิชชารู้ว่า คนที่เป็นเหมือนน้ำเย็นอย่างอัครชัย จะนำพาความเย็นมาให้เสมอ คอนโดห้องนี้อบอุ่นและน่าอยู่ขึ้นมากเมื่ออัครชัยมาถึง เช่นเดียวกับคอนโดของพวกเขาก่อนที่อัครชัยจะจากไป 

“สัญญาเรื่องพวกเราน่ะเหรอคะ” ณิชชาเดาคำตอบได้ หญิงสาวพอรู้ลาง ๆ ว่าระหว่างแม่กับลูกคู่นี้มีสัญญางี่เง่าแบบนี้อยู่ด้วย แต่เพราะมันงี่เง่าขนาดหมายเอาชีวิตเธอ อัครชัยจึงต้องยอมลงไปเล่นเกมนี้และสัญญาบ้า ๆ นี่จึงเกิดขึ้น

“ใช่สิ ตอนนี้พี่มีหน้าที่อย่างเดียว คือทำให้บริษัทที่แม่สร้างมา มันเติบโตขึ้นโดยไม่ขาดทุนอีกจนกว่าพี่จะตาย ระหว่างนี้พี่มีอิสระเต็มที่ในการคบหากับใครก็ได้ที่พี่เลือก และพี่เลือกณิช”

“พี่อัคคะ...ถ้า...ถ้าที่ผ่านมาตอนที่พี่อัคไม่อยู่ณิชนิสัยไม่ดี พี่อัคยังจะรักณิชมั้ยคะ” คำถามถูกตั้งขึ้นอย่างเบาหวิว เพราะไม่มั่นใจในคำตอบ และดูจะมากเกินไปที่อัครชัยจะต้องรับผิดชอบเรื่องสัญญาเกี่ยวกับเธอทั้งชีวิต

“เมื่อไม่มีพี่ดูแล ณิชลำบากหรือเปล่า ถ้าณิชต้องทำตัวไม่ดีเพราะพี่ไม่อยู่ดูแล พี่ถือว่านั่นเป็นความผิดของพี่นะ ไม่ใช่ความผิดของณิช  ถ้าสมมติณิชจะนิสัยไม่ดีเพราะต้องเอาตัวรอด หรือเพราะอะไรก็ตาม พี่ก็จะรู้เสมอว่า แฟนของพี่คนนี้แท้จริงแล้วนิสัยดี แล้วก็น่ารักไม่งั้นพี่ไม่เลือกเอามาเป็นแฟนตั้งแต่แรกหรอก” อัครชัยพูด หมายความตามนั้นจริงๆ

เขารู้เรื่องราวระหว่างณิชชากับเจ้านายตัวเองอยู่บ้าง แต่เพราะคนของแม่คอยสอดส่องพฤติกรรมเขาตลอด จึงไม่สามารถสั่งให้ใครมาดูแล

ณิชชาได้มากนักและแม้จะเป็นตัวเขาเองที่แนะนำให้ร่างเล็กมาสมัครงานที่นี่เพื่ออนาคตที่ดี แต่พอรู้ว่า เจ้านายของณิชชาออกจะเคร่งเครียดเกินไปสักหน่อยเขาก็กลับตัวไม่ทันซะแล้ว มีหลายครั้งที่อยากจะยื่นมือเข้ามาช่วย แต่ก็โดนแม่และคนของแม่สกัดไว้ทุกครั้ง บางครั้งแค่ส่งไลน์มา ยังรู้ถึงหูแม่ของเขาเลย กว่าจะทนฝึกงานที่แสนหฤโหดจบ ความคิดถึงก็กัดกินเขาจนแทบดิ้นตาย

“เมื่อสัปดาห์ก่อน ณิชเจอแม่พี่อัคด้วยค่ะ ท่านยังโกรธณิชอยู่เลย”

“ต่อจากนี้พี่จะมาอยู่ที่นี่ได้ พี่คุยกับแม่แล้ว คงไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก เพราะท่านบอกว่าจะไม่ยุ่งเรื่องของเราอีกแล้ว” อัครชัยพูดมือก็จับอยู่ที่มือบางแน่นคล้ายส่งต่อความมั่นใจมาให้

“พี่จะไม่เหนื่อยใช่มั้ยคะ”

“ไม่หรอก พี่มีกำลังใจดี” พูดจบอัครชัยก็ยกมือบางขึ้นมาบรรจงจูบอย่างรักใคร

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะ อัครชัยเพียงยิ้มให้กับเขาก่อนจะวาง มือลงบนโต๊ะอย่างทะนุถนอม

ณิชชานึกถึงอีกคน หากมีใครมาขัดจังหวะแบบนี้ละก็ ได้อารมณ์เสียกันอีกแล้ว

“ครับ เหรอครับ? แล้วเป็นอะไรมากมั้ย... ครับ ๆ...ได้ครับ ผมจะรีบไป” อัครชัยพูดโทรศัพท์สีหน้าเขาไม่ดีเลย

“พี่ต้องกลับก่อนนะ”

“มีเรื่องอะไรเหรอคะ”

“แม่พี่น่ะ แม่พี่ล้ม หมดสติ แล้วพี่จะโทร.หานะ” อัครชัยหุนหันรีบออกไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   ตอนอวสาน

    ตอนอวสานชลาสินธุ์ให้คนขับรถมารับที่บ้านของพัฒนศักดิ์ในวันรุ่งขึ้น พวกเขากลับมาถึงกรุงเทพฯ ในช่วงบ่าย ๆ แต่น้อง ๆ ทั้งสองคนปฏิเสธที่จะให้เขากลับมาทำงานในทันที ทำให้ประธานบริษัทพร้อมเลขากลายเป็นคนว่างงานในวันนี้ณิชชาหัวเราะเมื่อเห็นว่าชลาสินธุ์ดูจะเป็นห่วงเธอมากเกินจริงไปสักหน่อย ห้ามทำอะไรที่ต้องใช้กำลัง จะไปไหนก็ได้แต่ต้องอยู่ในระยะสายตาที่เขามองเห็น อยากได้อะไรหรืออยากกินอะไรต้องบอก เพราะเขาจะทำให้เอง เรียกว่าณิชชามีหน้าที่อย่างเดียว คือนั่งเฉยๆ“พอแล้วค่ะ คุณมานั่งเถอะ” ณิชชาบอก เมื่อชลาสินธุ์ถามเป็นครั้งที่ร้อยว่าอยากได้อะไรอีกหรือเปล่า หญิงสาวจึงเรียกให้มานั่งดูหนังในห้องนั่งเล่นด้วยกันชายหนุ่มตัดสินใจนั่งลงข้าง ๆ คนรัก และเหมือนเคย นับตั้งแต่กลับ มาจากไร่เจริญตา ไม่มีสักครั้งที่หากได้นั่งคู่กันชลาสินธุ์จะไม่โอบรอบตัวร่างเล็กให้อยู่ในอ้อมกอดตลอดเวลา“ไม่เจ็บแล้วแน่นะ ดูสิ ยังเป็นรอยช้ำอยู่เลย” ชลาสินธุ์บอกพลางใช้นิ้วโป้งลูบไล้เบา ๆ ไปที่รอยช้ำที่แขน ซึ่งยังเป็นรอยเด่นชัด น่าจะเกิดจากการต่อสู้กับลูกน้องของภัสสรา“เจ็บนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรแล้วจริง ๆ ไม่ต้องห่วงหรอก ห่วงขาคุณดีกว

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 50 จุดจบที่เลวร้าย

    บทที่ 50 จุดจบที่เลวร้ายภัสสราเดินตรงเข้ามายังชลาสินธุ์ ทำให้ชายหนุ่มต้องถอยหลังเพื่อเว้นระยะ กลุ่มชายฉกรรจ์ผิวเข้มเดินเข้ามาในห้องหลายคน ณิชชาเห็นคนที่โยนเขาเข้าไปในรถตู้รวมอยู่ในนั้นด้วย“ปล่อยฉันลงเถอะ ฉันเดินไหวแล้ว” ณิชชากระซิบบอก ชลาสินธุ์ยอมทำตาม แต่ก็ยังโอบไหล่บางไว้ ไม่ให้ห่างตัว ร่างเล็กซบใบหน้าตัวเองลงกับลำแขนใหญ่ แม้ว่าจะกลัวจนแทบบ้า แต่กลับรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้เขา“ทุกอย่างจะต้องผ่านไปด้วยดี เธอเชื่อมั่นในตัวฉันนะ” ชลาสินธุ์กระซิบบอกอย่างอ่อนโยนณิชชาพยักหน้ารับ เธอจะเชื่อมั่นในตัวคน ๆ นี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามกลุ่มชายฉกรรจ์ตีวงล้อมจนทั่วห้องโดยมีทั้งสามคนอยู่ตรงกลาง“รู้อะไรไหม คุณสินธุ์ คุณทำให้ฉันสูญเสียอะไรไปตั้งหลายอย่าง ลงทุนไปตั้งมากมาย แต่คุณกลับทำลายมันทิ้งในเวลาแค่วันเดียว” ภัสสราเอ่ยขึ้น คำพูดเนิบช้ากว่าปกติ เรียวปากเหยียดยิ้มแต่แววตากลับเข่นอาฆาต“คุณไม่เห็นต้องโกรธผมขนาดนี้เลยคุณสรา”“หึ ไม่ต้องโกรธเหรอ ถ้าคราวนั้น พวกแกไม่ทำตัวเป็นคนดี แล้วปล่อยให้ฉันดำเนินธุรกิจของฉันไป ฉันก็ไม่ต้องเป็นแบบนี้หรอก แกก็ได้ค่าเช่า ฉันก็ได้กำไร แกทำแบบนั้นทำ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 49 ลักพาตัว

    บทที่ 49 ลักพาตัว“คืนนี้เธอจะนอนที่นี่ใช่มั้ย”“ฉันไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาเลย”“ก็ใส่ตัวเดิมสิ ไม่เปื้อนหรอก เพราะคืนนี้เธอไม่ต้องใส่นี่” อีกคนยังดื้อรั้นไม่ฟังคำอธิบายแถมยังทำท่าจะหื่นใส่อีก“คิดจะทำอะไรน่ะ ที่นี่โรงพยาบาลนะ แล้วคุณก็ป่วยอยู่ ทำไหวหรือไง?”“จะได้พิสูจน์ด้วยตัวเองมั้ย”“ไม่ ฉันไม่ยอมหรอก คุณน่ะ เอะอะก็จะทำมิดีมิร้ายฉันตลอด”“ขี้บ่นจัง” ชลาสินธุ์แกล้งทำท่าเกาหัว “งั้นฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไร แต่เธอนอนให้ฉันกอดนะ คิดถึงจะแย่ คิดถึงจะตายอยู่แล้วคนใจร้าย”“ว่าฉันใจร้าย คุณก็ใจร้ายเหมือนกันนั่นแหละ”“นะ”“เอ่อ...ถ้าคุณไม่ทำอะไรจริง ๆ ฉันนอนด้วยก็ได้”“ไม่ทำหรอก ถ้าเธอไม่เผลอน่ะ”“อะไรนะ!” และอย่างไม่ต้องรอคำตอบ ณิชชาก็ฟาดมือไปที่แขนคนป่วยเสียงดังลั่นห้อง ก่อนจะแจกค้อนไปให้อีกหลายทีชลาสินธุ์ลูบแขนตัวเองแล้วหัวเราะไปด้วย“ฉันยอมให้หน่อย ก็ทำร้ายฉันเลยนะ” เสียงอ่อนบอกก่อนจะโอบคนรักให้แน่น ๆ อีกหน “งั้นตกลง นายนอนที่นี่นะ นอนเฉย ๆ ให้ฉันมองหน้า จะได้หายคิดถึง”“หึ” หญิงสาวค้อนคนป่วยขวับ เธอเองก็อยากกอด อยากมองหน้า อยากยิ้มให้ผู้ชายคนนี้ เพื่อให้แน่ใจว่า ความรักระหว่างตัวเองกับ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 48 ฝันที่ (ไม่) อาจเป็นจริง

    บทที่ 48 ฝันที่ (ไม่) อาจเป็นจริงแม้จะเป็นเวลาพลบค่ำแล้วทำให้อาจจะได้พบคนที่เขาคิดถึงแค่ไม่กี่นาทีแต่ณิชชา ก็ตัดสินใจออกจากบ้านทันทีที่อัครชัยปล่อยมือเขา ความโหยหาที่ลอยวนอยู่ในใจมันฉุดกระชากให้เขามาที่นี่ โรงพยาบาลใหญ่ใจกลางกรุง ชลาสินธุ์ถูกย้ายมาที่นี่ทันทีที่ร่างกายสามารถทนต่อการเดินทางได้หญิงสาวเดินหาห้องนั้นจนพบ ในมือถือดอกไม้ช่อเล็ก ๆ ที่ตั้งใจทำเองด้วยหัวใจ มือบางที่กำลังจะเคาะห้องมีอันต้องชะงักค้างไว้“คุณณิชคะ คุยกันหน่อยดีมั้ย” ชลาธารที่เพิ่งมาถึงเช่นกัน มองมาที่ณิชชา ไม่มีสายตาของมิตรภาพแม้แต่น้อยชลาสินธุ์นอนลืมตาโพรงอยู่บนเตียงคนป่วย แม้อาการทางกายจะค่อย ๆ หายจนเกือบเป็นปกติ เพราะรถที่ชนก็แค่เฉี่ยวขาทำให้เจ็บที่หัวเข่าซ้ายเท่านั้น แย่หน่อยตรงที่ตอนกระโดดหลบ หัวของเขามันไปชนต้นไม้ข้างทางทำให้ทั้งน้อง ๆ และคุณหมอค่อนข้างเป็นห่วง แต่อาการทางใจของชายหนุ่มก็ทำให้ตอนนี้เขาแทบไม่ต่างจากผักเหี่ยว ๆ ที่รอวันเฉาลงไปอีกชลาธารรับหน้าที่ดูแลพี่ชายของเธอที่โรงพยาบาล ขณะที่คนอื่นดูแลเรื่องงาน ยิ่งเห็นพี่เป็นแบบนี้ ก็ยิ่งโกรธณิชชามากขึ้นเรื่อย ๆ เห็นว่าเป็นคนนิ่ม ๆ ไม่คิดว่าจะมีอิ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 47 อัครชัยคือคนที่เลือกแล้ว

    บทที่ 47 อัครชัยคือคนที่เลือกแล้วชลาธารทำอย่างที่ตนเองได้ลั่นวาจาไว้ทันทีที่วันทำงานวันแรกมาถึง“คุณณิชคะ คุยกับธารในห้องก่อนค่ะ” มาถึงยังไม่ทันได้นั่ง ก็เอ่ยปากให้ณิชชาเดินตามตัวเองเข้าไปในห้องแล้ว ณิชชาเดาไม่ถูกว่าเจ้านายคนเล็กคนนี้จะพูดเรื่องอะไร เรื่องงานหรือว่าอย่างอื่น เพราะแทบจะไม่เคยทำงานด้วยกันเลย ยิ่งหญิงสาวไปเรียนต่อได้เป็นปีแล้ว ยิ่งห่างกันไป เดาใจไม่ถูก“คุณธาร มีอะไรให้ณิชทำเหรอคะ” ณิชชาพูดก่อนจะนั่งลงตามมือที่ผายออก หญิงสาวไม่ได้ชวนเธอนั่งที่โต๊ะทำงาน ซึ่งตอนนี้คนที่ยึดโต๊ะตัวนั้นเป็นของตัวเองยังไม่มา แต่พวกเธอนั่งคุยกันที่โซฟารับแขกซึ่งอยู่ในห้องทำงานของชลาสินธุ์ด้วยนั่นเอง“คุณณิชจะว่าอะไรมั้ยคะ ถ้าธารจะถามเรื่องพี่สินธุ์” ยิงคำถามทันทีพร้อมกอดอกฟังคำตอบ แต่ดูเหมือนคนที่ต้องตอบจะยังหาเสียงของตัวเองไม่เจอ“คือ...เอ่อ...”“ไปเยี่ยมสักวัน หรือดอกไม้สักช่อ ไม่คิดจะส่งไปหน่อยเหรอคะ” ชลาธารพูดแทรกขึ้นอย่างหงุดหงิด อยากจะเล่าสภาพของพี่ชายให้คนตรงหน้าฟังว่าเลวร้ายแค่ไหน แต่ก็กลัวว่าสิ่งที่ได้กลับมาจะเป็นอย่างอื่นนอกจากความเห็นอกเห็นใจ ถ้าณิชชารู้สึกยินดีกับสภาพของพี่ชายตนเอ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 46 รถชน

    บทที่ 46 รถชนณิชชาฟังแล้วอึ้งไป เพราะน้ำเสียงนั้นแม้จะสุภาพแต่ก็เฉียบขาด พี่น้องบ้านนี้บุคลิกไม่เหมือนกันสักคน สาคเรศคนนี้หากฟังจากน้ำเสียง ลักษณะนิสัยคงเป็นแบบ อยู่ตรงกลางระหว่าง ชลาสินธุ์และธารากานต์ คือไม่ได้ดูใจดีมากเหมือนธารากานต์ แต่ก็ไม่ได้ดุและขี้หงุดหงิดเหมือนพี่ชายคนโต“คือ...คุณสินธุ์คงไม่สะดวกให้ดิฉันไปทำงานแล้วล่ะค่ะ”“พี่สินธุ์ไม่อยู่ที่นี่มาสองสัปดาห์แล้วครับ ตั้งแต่คุณไป” เสียงถอนหายใจปล่อยมาตามสาย “คุณทำให้พี่สินธุ์อยู่ที่นี่ไม่ได้ แล้วคุณก็จะไม่อยู่ดูแลที่นี่อีก นี่คุณกะจะให้พวกเราล่มจมเลยเหรอครับ”“คุณเรศคะ...ดิฉันเปล่า...คือ...ดิฉันไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายพวกคุณเลยนะ เพียงแต่ไม่คิดว่าคุณสินธุ์เขา...”“เขาจะอยู่ไม่ได้เมื่อไม่มีคุณ?” สาคเรศขัดอีกแล้ว แล้วก็ถูกที่ถูกเวลาเสมอ เพราะมันเป็นสิ่งที่อยู่ในใจณิชชาด้วย คนฟังน้ำตาแทบจะไหลลงมาอีกครั้ง เสียงถอนหายใจของปลายสายทำให้ณิชชาทำอะไรไม่ถูก “ผมทราบว่าคุณไปคุยกับที่อื่นมาแล้ว แต่ก่อนจะไป คุณน่าจะมาเคลียร์งานที่นี่สักหน่อย พรุ่งนี้เข้ามานะครับ ผมรออยู่”สาคเรศวางหูไปนานแล้ว แต่ณิชชายังอยู่ที่ระเบียงไม่ไปไหน ความคิดสับสนว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status