공유

หาซื้อเรือน

작가: l3oonm@
last update 최신 업데이트: 2025-02-20 01:10:47

เมื่อเดินสำรวจไปตามถนนเส้นต่างๆเพื่อดูการค้าและความเป็นอยู่ จือลู่อยากได้เรือนที่ไม่วุ่นวายนักและอยากให้อยู่ไม่ห่างจากสำนักศึกษาที่จะให้หนิงเฉิงได้เข้าเรียน

เพราะเจ้าหน้าที่ทางการไม่ยอมให้สองพี่น้องเข้าไปเพื่อติดต่อซื้อเรือน จือลู่จึงหารือกับหนิงเฉิงว่าพวกเขาควรจะขอความช่วยเหลือจากท่านหมอโยว อย่างไรก็ทำการค้าด้วยกัน ท่านหมอโยวคงจะไม่ใจร้ายกับพวกตนนัก

"พี่ชายพวกข้ามาขอพบท่านหมอโยวเจ้าค่ะ" จือลู่บอกเสี่ยวเอ้อที่อยู่หน้าร้าน

เพียงไม่นานทั้งคู่ก็ถูกเชิญเข้าไปด้านในเพื่อพบท่านหมอโยวที่ห้องรับรอง

"พวกเจ้านำหญ้าหนอนมาขายอีกแล้วหรือ" ท่านหมอโยวพูดอย่างตกใจ จือลู่มองเขาด้วยสายตาเหมือนมองคนสติไม่ดี

"หากหาง่ายเช่นนั้น ท่านคงไม่ซื้อในราคาที่แสนแพงเช่นนี้" จือลู่เอ่ยขึ้น

"เช่นนั้นพวกเจ้ามาพบข้าด้วยเรื่องอันใด"

จือลู่เล่าเรื่องที่นางต้องการขอความช่วยเหลือจากท่านหมอโยว ให้ช่วยออกหน้าเรื่องซื้อเรือนในเมืองให้นาง และยังเล่าว่าพวกตนโดนไล่ออกมาจากที่ว่าการจึงต้องแบกหน้ามาขอความเมตตาจากท่านหมอโยว

หมอโยวลูบเคราอย่างใช้ความคิด ก่อนที่เขาจะเอ่ยขึ้น

"เรื่องนี้ไม่ได้ยากอันใด ข้ามีเรือนอยู่หลังไม่มีผู้ใดอาศัย หากพวกเจ้าสนใจข้าจะให้คนพาไปดู หากไม่ถูกใจค่อยพาพวกเจ้าไปเลือกที่ที่ว่าการก็ยังไม่สาย" จือลู่และหนิงเฉิงจึงขอไปดูเรือนของท่านหมอโยวเสียก่อน

หมอโยวเรียกเสี่ยวเอ้อหน้าร้านให้นำทางทั้งสองไปที่เรือนอีกหลังของตน ทั้งคู่ขึ้นม้าของโรงหมอไปเพียงไม่นานก็ถึงเรือนที่ว่า เป็นเรือนสี่ประสานมีเนื้อที่มากเพียงพอหากจือลู่อยากจะปลูกผักเล็กๆน้อย ภายในถนนมีบ้านเรือนอยู่ไม่กี่สิบหลังก็นับว่าไม่วุ่นวายเกินไป 

เมื่อนางเดินสำรวจดูเรือนก็นับว่าถูกใจ หนิงเฉิงเองก็เช่นกัน เพราะอยู่หางจากสถานศึกษาเพียงเดินเท้าไม่ถึงหนึ่งเค่อ(1เค่อ=15นาที) จือลู่จึงกลับไปที่โรงหมออีกครั้งเพื่อพูดคุยเรื่องราคาของเรือน

หมอโยวที่ได้ยินว่าทั้งสองคนพี่น้องถูกใจเรือนหลังนั้นก็นับว่าเขาคิดถูก เพราะหากชาติกำหนดของทั้งคู่เป็นเช่นที่เขาคิดไว้ ก็นับว่าสองพี่น้องจะอยู่ในสายตา เมื่อคนจากเมืองหลวงเดินทางมาก็สามารถพาไปพบได้โดยไม่ต้องออกตามหาอีกครั้ง

"ข้าคิดห้าร้อยตำลึงทอง พวกเจ้าจะว่าเช่นไร" จือลู่ขมวดคิ้วคิด เพราะนางไม่รู้ว่าราคาเรือนห้าร้อยตำลึงทองนั้นแพงหรือเป็นราคาทั่วไป

"เครื่องเรือนทั้งหมดในเรือนข้าก็ยกให้พวกเจ้าด้วย และจะซื้อในส่วนที่ขาดเพิ่มเข้าไปด้วย" จือลู่หันไปสบตาน้องชายก็เห็นเขาพยักหน้าให้นาง

"ได้เจ้าค่ะ ขอบพระคุณท่านหมอโยวมากเจ้าค่ะที่เมตตาพวกข้าสองคนพี่น้อง" ทั้งคู่ลุกขึ้นคารวะท่านหมอ 

จือลู่จึงส่งตั๋วเงินห้าร้อยตำลึงให้ท่านหมอโยว จากนั้นสองพี่น้องก็กลับไปที่โรงเตี๊ยม ทางหมอโยวจึงส่งคนให้ไปตรวจสอบเครื่องเรือนเครื่องใช้ภายในเรือนหากขาดเหลือสิ่งใดก็ให้เติมให้ครบ และยังซ่อมแซมส่วนที่เสียหายอีกด้วย

จือลู่ระหว่างทางที่กลับโรงเตี๊ยมนางกลับไปที่ร้านขายผ้าร้านเดิม และสั่งเครื่องนอน ผ้าห่ม และเสื้อผ้า เพิ่มหลายชุดให้เพียงพอต่อหน้าหนาวที่จะมาถึง ถึงแม้ไม่ใช่หน้าหนาวแต่อากาศของเมืองเป่ยหานก็หนาวมากสำหรับนาง

ทั้งคู่จึงกลับไปพักผ่อนที่โรงเตี๊ยม เพราะพรุ่งนี้จือลู่นางจะพาหนิงเฉิงไปสอบถามเรื่องเข้าสำนักศึกษา 

เช้าวันต่อมาสองพี่น้องก็แต่งกายอย่างเรียบร้อยและเดินทางไปที่สำนักศึกษา ก่อนจะเข้าเรียนหนิงเฉิงต้องเข้ารับการทดสอบเสียก่อน อาจารย์ที่รับดูแลเรื่องรับบัณฑิตสอบถามทั้งคู่เมื่อไม่เห็นบิดามารดามาด้วย พอฟังเรื่องราวของสองพี่น้องท่านอาจารย์หูจึงมองทั้งคู่ด้วยสายตาที่อ่อนลง

จือลู่นั่งรอน้องชายทดสอบอยู่ด้านนอก เพียงไม่นานหนิงเฉิงก็เดินออกมาพร้อมรอยยิ้ม 

"พี่หญิงข้าทดสอบผ่านขอรับ" จือลู่เดินเข้าไปตบบ่าน้องชายอย่างยินดี 

หนิงเฉิงจะเริ่มเข้าเรียนในอีกสิบวันข้างหน้า สองพี่น้องจึงได้พอมีเวลาจัดเตรียมย้ายของเข้าเรือนใหม่ และเตรียมเครื่องเรียนให้กับหนิงเฉิง 

เมื่อออกจากสถานศึกษาทั้งคู่จึงเดินทางกลับหมู่บ้านเพื่อไปเก็บของและบอกกล่าวท่านผู้นำหมู่บ้าน กับชาวบ้านที่เมตตาพวกตน จือลู่นำของที่ซื้อมาไปเก็บที่เรือนหลังใหม่ก็พบว่ามีคนมาทำความสะอาดและกำลังปรับปรุงเรือนให้นาง

"ไม่ทราบว่ากี่วันถึงเข้าอยู่ได้เจ้าค่ะ" จือลู่สอบถามคนที่ทำงาน

"สามวันแม่หนู เจ้าทั้งสองคงเป็นเจ้าของเรือนคนใหม่สินะ" สองพี่น้องพยักหน้ารับก่อนจะขอบคุณ

หนิงเฉิงเดินนำพี่สาวไปจ้างรถม้าตามคำแนะนำของชาวบ้านในตลาด ทั้งคู่นัดแนะให้รถม้าไปรับที่หมู่บ้านในอีกสามวัน เมื่อพูดคุยจนเข้าใจแล้ว สองพี่น้องก็นั่งเกวียนวัวกลับหมู่บ้าน

เมื่อถึงหมู่บ้านเวลาก็ล่วงไปเกือบจะเย็นย่ำแล้ว ทั้งคู่จึงเดินกลับเรือนก่อน พรุ่งนี้เช้าจะไปพบผู้นำหมู่บ้าน แต่พวกเขาเจอผู้นำหมู่บ้านเสียก่อนระหว่างทางที่กลับเรือน

"พวกเจ้าไปที่ใดมา" ผู้นำหมู่บ้านถามขึ้นอย่างเคร่งเครียด

"ท่านปู่ชุยเข้าไปพูดในเรือนก่อนเจ้าค่ะ" จือลู่เปิดประตูเรือนและเชิญผู้นำหมู่บ้านเข้าไป

หนิงเฉิงจึงไปหายน้ำดื่มมารับรองผู้นำหมู่บ้าน ทั้งสองจึงเล่าเรื่องที่พวกตนพบสมุนไพรได้ราคาที่ดี และยังบอกที่พบให้ท่านผู้นำหมู่บ้านด้วย หลังจากนั้นท่านผู้นำหมู่บ้านจะจัดการเช่นไรพวกนางก็ไม่สนใจแล้ว

"ท่านปู่ชุย พวกข้าสองพี่น้องจะเข้าไปอยู่ในเมืองเจ้าค่ะ" นางเล่าเรื่องที่หมอโยวเมตตาขายเรือนให้พวกนางในราคาถูก และนางอยากจะให้หนิงเฉิงได้ร่ำเรียนอีกด้วย

"ดีดีดี พวกเจ้ายังช่วยเหลือชาวบ้านอีกด้วย" จือลู่กับหนิงเฉิงอาสาพาทั้งหมดเดินขึ้นไปเก็บหญ้าหนอนในครั้งแรก เพราะต้องสอนวิธีเก็บด้วย

"ท่านปู่ชุย ข้าว่าท่านไปพูดคุยเรื่องราคากับท่านหมอโยวเสียก่อน เพราะหากมีอีกมาก ข้าไม่รู้ว่าราคาจะเป็นเช่นไร" นางแนะนำ หากราคาไม่ดีเช่นตอนที่นางขายชาวบ้านจะมาต่อว่าพวกนางได้

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   ตอนจบ

    ภายในคุกที่ว่าการเมืองเป่ยหาน ต้าอู๋และนางกงซื่อมิรู้ว่าพวกตนถูกจับมาได้อย่างไร ชินอ๋องที่ยืนมองทั้งคู่อยู่ภายนอก ก็เดินปรากฏตัวเขาไปด้านในต้าอู๋และกงซื่อเมื่อรู้ว่าผู้มาเยือนคนใหม่คือชินอ๋องสามีที่แท้จริงของจ้าวเหยียนก็รีบคุกเข่าโขกศีรษะอย่างร้อนตัวชินอ๋องพูดเรื่องที่ทั้งคู่ทุบตีจือลู่และหนิงเฉิงทั้งยังจะยกจือลู่ให้พ่อหม้ายจง ต้าอู๋กับนางกงซื่อเงยหน้ามองชินอ๋องอย่างแปลกใจ แม้นางกงซื่อจะเคยคิดเช่นที่ชินอ๋องพูด แต่นางก็ไม่ได้ทำและไม่เคยมีผู้ใดล่วงรู้มาก่อนชินอ๋องมิรอฟังคำแก้ตัวของต้าอู๋และนางกงซื่อ เขาสั่งให้ทหารโบยทั้งคู่คนละสามสิบไม้ก่อนจะเนรเทศไปใช้แรงงานที่เหมืองทางตอนใต้ของแคว้นขบวนเดินทางของชินอ๋องเสียเวลาอยู่ที่เมืองเป่ยหานเพียงห้าวันเท่านั้น นอกจากที่เขาจัดการเรื่องของต้าอู๋และนางกงซื่อแล้ว ยังให้จือลู่จัดการเรื่องร้านค้าของนาง และเติมสินค้าอย่างเต็มที่หลังจากออกเดินทางจากเมืองเป่ยหานมาได้ห้าวันก็ถึงเมืองเป่ยโจว จือลู่นางต้องไปอยู่ที่จวนของเว่ยหยาง แต่เพราะต้องปรับปรุงจวนเสียใหม่นางกับเว่ยหยางจึงอาศัยอยู่ในตำหนักเสียก่อนผ่านมาได้ครึ่งปีเรื่องมงคลของตำหนักอ๋องก็มีมาเยือน เ

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   กลับเป่ยโจว

    วันต่อมา จือลู่ถูกปลุกตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง จ้าวเหยียนก็มาที่เรือนของนางเพื่อช่วยนางแต่งตัว วันงานจือลู่มิได้แต่งหน้าเอง แต่คนที่แต่งให้ก็เป็นมือหนึ่งในร้านอ้ายเสิ่นของนาง นับว่าฝีมือที่แต่งออกมาใกล้เคียงกับของจือลู่ยิ่งนักจ้าวเหยียนเป็นคนหวีผลให้จือลู่และสวมผ้าคลุมหน้าให้นาง จ้าวเหยียนหันไปปาดน้ำตา เพราะเป็นงานมงคลไม่อาจหลั่งน้ำตาออกมาได้"ลู่เออร์ ไม่ว่าเจ้าจะออกเรือนไปแล้ว อย่างไรก็เป็นลูกของข้าอยู่เสมอ" จือลู่เงยหน้ามองจ้าวเหยียนที่ดวงตาแดงก่ำจากการกลั้นน้ำตาไว้"ท่านแม่ ท่านก็คือมารดาของข้าเช่นกันเจ้าค่ะ" คำพูดของนางหากคนนอกฟังอาจจะดูแปลกๆ แต่สองคนแม่ลูกล้วนเข้าใจกันอย่างดี จือลู่กอดเอวของจ้าวเหยียนแน่น ก่อนจะปล่อยให้นางได้ออกไปจัดการเรื่องด้านหน้าตำหนักเสียงฆ้องดังมาแต่ไกล ขบวนเจ้าบ่าวที่มารับเจ้าสาวยาวเหยียดจะมองไม่เห็นท้ายขบวน สินเดิมของเจ้าสาวที่กองไว้เพื่อนำออกจากตำหนักก็มากมายเสียทำให้คนอิจฉาตาร้อนเว่ยหยางพาจือลู่คำนับชินอ๋องกับจ้าวเหยียนก่อนจะพานางออกไปจากตำหนัก หนิงเฉิงแบกพี่สาวไปส่งที่เกี้ยวแปดคนหามหลังงาม จ้าวเหยียนยืนมองส่งจือลู่ด้วยดวงตาที่เอ่อไปด้วยน้ำตา ชินอ๋องจึ

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   ข้าควรจะจัดการเจ้านานแล้ว

    ชินอ๋องเมื่อเห็นจ้าวเหยียนปลอดภัยแล้ว นางเพียงหลับไปเพราะอ่อนเพลียจึงได้ออกมาดูบุตรทั้งสาม ก็เห็นว่าจือลู่และหนิงเฉิงเฝ้าน้องของพวกเขาอยู่"ท่านพ่อ ดูน้องของข้า เหตุใดถึงได้น่าเกลียดเช่นนี้ขอรับ" หนิงเฉิงใช้นิ้วจิ้มไปที่หน้าน้องสาวคนเล็กเบาๆ ด้วยความเอ็นดู ส่วนน้องชายทั้งสองล้วนแล้วแต่น่าเกลียดในสายตาของเขา"ตอนเจ้าเกิดเจ้าก็น่าเกลียดเช่นนี้" จือลู่หยอกเย้าน้องชายของตน นางก็กำลังเขี่ยแก้มของเด็กแฝดทั้งสามชินอ๋องมองลูกทั้งสามที่นอนหลับอยู่อย่างรักใคร่ ก่อนที่เขาจะอุ้มบุตรสาวคนเล็กขึ้นมา "ฉีซิงเยียน""ซิงเยียน น้องต้องงดงามกว่าพี่หญิงแน่นอนขอรับ" หนิงเฉิงพูดขึ้น จือลู่หันไปมองสองพ่อลูกที่เห่อน้องสาวคนเล็กของบ้านอย่างเอือมๆแฝดคนโตชื่อ หนิงเทียน คนรองชื่อหนิงหวง ทั้งคู่มีคำว่าหนิงเช่นเดียวกับพี่ชายของเขา"ท่านพี่ ลูกเล่าเจ้าคะ" กว่าจ้าวเหยียนจะตื่นก็เข้าสู่อีกวันแล้ว นางลืมตาก็ถามหาบุตรทั้งสามที่นางเพิ่งคลอด เพราะก่อนที่จะหมดสติไปนางรู้เพียงว่าเด็กทั้งสามล้วนแล้วแต่แข็งแรงดีชินอ๋องให้แม่นมพาบุตรทั้งสามเข้ามาให้จ้าวเหยียนได้ดู และบอกนางถึงชื่อที่เขาตั้งให้บุตรทั้งสาม"เจ้าพักผ่อนเสียให้

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   คลอดบุตร

    เว่ยหยางรีบกลับจวนพร้อมนำข่าวไปแจ้งให้บิดามารดาส่งแม่สื่อไปที่ตำหนักอ๋องข่าวเรื่องที่ตระกูลเว่ยส่งแม่สื่อล่วงรู้ไปถึงองค์ชายรอง ก่อนที่เขาจะออกจากวังไปจัดการกับเว่ยหยางก็โดนฮ่องเต้เรียกตัวเข้าพบ"เจ้ารอง เจ้ามั่นใจมากเพียงใดที่จะจัดการกับแม่ทัพเว่ย" ฮ่องเต้ยกชาขึ้นดื่มอย่างใจเย็น เหมือนเรื่องที่พระองค์ถามบุตรเป็นเพียงเรื่องดินฟ้าอากาศ"เสด็จพ่อ ท่านพระราชทานสมรสให้ลูกได้" เขาเอ่ยขึ้นอย่างเอาแต่ใจ"เจ้ากล้ามีเรื่องกับชินอ๋องใช่หรือไม่" ฮ่องเต้จ้องบุตรชายอย่างดุดัน"ลูก ลูก เสด็จพ่อเป็นถึงฮ่องเต้ ชินอ๋องจะมีอำนาจมากกว่าท่านได้อย่างไร""โง่เขลานัก" ฮ่องเต้ขว้างถ้วยน้ำชาลงพื้นอย่างมีโทสะ"หากน้องห้าต้องการบัลลังก์ เจ้าคิดหรือว่าเจิ้นจะได้นั่งเช่นทุกวันนี้" เพราะน้องชายของเขามิคิดจะขึ้นเป็นฮ่องเต้ และช่วยเหลือเขาจนได้นั่งบัลลังก์เช่นทุกวันนี้ เรื่องทุกเรื่องชินอ๋องไม่เคยยื่นมือเข้ามายุ่ง หากพระองค์เข้าไปจัดการเรื่องในตำหนักคงได้เกิดปัญหาแน่"หากเจ้ายังคิดว่าตนเองต่อกรได้ เจิ้นก็ไม่ห้าม ไม่ว่าเกิดอันใดขึ้นเจิ้นมิอาจช่วยเหลือเจ้าได้""เสด็จพ่อ" องค์ชายรองตกใจ เพราะไม่ว่าสิ่งใดเสด็จพ่อเสด็จแ

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   ข้าสาบานด้วยชีวิต

    ฮองเฮาที่ต้องการผูกสัมพันธ์กับชินอ๋องจึงอยากได้จือลู่มาเป็นพระชายาให้กับองค์ชายรอง เพราะฮ่องเต้ย่อมถามความคิดเห็นของชินอ๋องเรื่องแต่งตั้งองค์รัชทายาทหากองค์ชายรองได้แต่งจือลู่ ชินอ๋องย่อมต้องเข้าข้างบุตรเขยของตนเพื่อให้บุตรสาวได้ขึ้นเป็นฮองเฮาในอนาคต เมื่อเห็นว่าชินอ๋องจะขอตัวกลับแล้ว ฮองเฮาจึงพูดเรื่องหมั้นหมายขึ้นมาอีกครั้ง"กระหม่อมยังมิคิดให้ลู่เออร์ออกเรือนพ่ะย่ะค่ะ" ชินอ๋องตัดบทด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ก่อนจะพาจ้าวเหยียนและบุตรทั้งสองกลับตำหนัก"ท่านพี่ข้าคิดว่าฮองเฮาคงไม่ยอมหยุดเรื่องของลู่เออร์" จ้าวเหยียนเอ่ยด้วยความกังวล"มีข้าอยู่นางจะทำอันใดได้" ชินอ๋องกอดปลอบจ้าวเหยียน เขามองออกไปด้านนอกหน้าต่างรถม้าอย่างใช่ความคิดเว่ยหยางที่รู้เรื่องฮองเฮาต้องการทาบทามจือลู่ให้องค์ชายรองก็ร้อนใจจนมาที่ตำหนักอ๋องแต่เช้า"เปิ่นหวางไม่ได้เรียกเจ้ามิใช่หรือท่านแม่ทัพเว่ย" เขาปรายตามองบุรุษหน้าหนาที่ร้อนใจมาที่ตำหนักแต่เช้า"กระหม่อมมีเรื่องอยากทูลพระองค์พ่ะย่ะค่ะ" ชินอ๋องเดินนำเว่ยหยางไปที่ห้องตำรา เพราะเขารู้ดีว่าเว่ยหยางมาด้วยเรื่องอันใด"ว่ามา" ชินอ๋องนั่งลงแล้วเอ่ยถามโดยไม่ได้หันไปมองเว่ย

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   จัดการตระกูลเซี่ย

    วิญญาณดวงใหม่เข้ามาแทนที่ ชินอ๋องจ้องมองภาพตรงหน้าอยากแปลกใจ เมื่อจือลู่ที่มาจากอีกภพลืมตาขึ้น สิ่งที่นางพึมพำออกมาชินอ๋องรู้ได้ทันทีว่านี่คือจือลู่ที่มาอีกภพหนึ่ง"ท่านพี่ ท่านพี่" เสียงเรียกของจ้าวเหยียนปลุกให้ชินอ๋องตื่นขึ้นมาจากฝันร้ายของเขา"เหยียนเหยียน" ชินอ๋องลูบไปที่ใบหน้าของนาง ก่อนจะดึงนางเข้ามาสวมกอดแล้วร้องไห้เงียบๆ"ท่านเป็นอันใดไปเจ้าคะ ฝันเรื่องอันใดถึงได้เป็นเช่นนี้" จ้าวเหยียนมองชินอ๋องอย่างไม่เข้าใจ เพราะเขาทั้งร้องไห้ทั้งตะโกนจึงทำให้นางตื่นขึ้นมาชินอ๋องเล่าเรื่องความฝันของเขาให้จ้าวเหยียนฟัง พอถึงตอนที่ต้องเสียน้องและจือลู่เสียงของเขาสั่นขึ้นด้วยความหวาดกลัว กลัวว่าจะเป็นเรื่องจริง"ท่านพี่หากข้าบอกว่าเรื่องทั้งหมดที่ท่านฝันคือเรื่องจริงท่านจะเชื่อหรือไม่" จ้าวเหยียนจับใบหน้าของชินอ๋องแล้วจ้องมองเขาอย่างจริงจังนางเล่าเรื่องที่นางเสียชีวิตลง และได้ไปอยู่ที่ภพใหม่ แม้ชินอ๋องจะรู้แล้ว แต่เรื่องที่นางรู้ว่าเรื่องทั้งหมดของพวกเขาเป็นเพียงแค่นิยายเรื่องหนึ่งเท่านั้นแต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่นางจบชีวิตลงเป็นเช่นที่เขาเห็นความรันทดของบุตรทั้งสองเป็นเรื่องจริง ที่ครั้

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status