Share

ช่วยเหลือชาวบ้าน

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-02-21 03:20:57

"พรุ่งนี้ขึ้นเขาไปดูเสียก่อนว่ายังมีอีกหรือไม่ แล้วข้าค่อยเข้าเมืองไปคุยกับท่านหมอโยว" ท่านผู้นำจึงได้ขอตัวกลับไปเรียกชาวบ้านมารวมตัวเพื่อจะแจ้งเรื่องที่พาขึ้นเขาหาหญ้าหนอน

"พวกเจ้าสองพี่น้องนับว่ามีบุญคุณช่วยให้ชาวบ้านผ่านหน้าหนาวนี้ไปได้แล้ว" เพราะชาวบ้านได้แต่ทำไร่ และหาผักป่าไปขาย ในช่วงหน้าหนาวผู้เฒ่าและเด็กเล็กจึงมักเสียชีวิตลง

ก่อนฟ้าจะสว่างจือลู่และลู่เสียนก็เตรียมตัวพร้อมอยู่ที่หน้าเรือน แต่ชาวบ้านมารวมตัวกันเร็วกว่าสองพี่น้องเสียอีก 

"ท่านลุง ท่านป้าทั้งหลายเจ้าคะ ข้าขอพูดกับพวกท่านเสียก่อน" จือลู่กล่าวด้วยเสียงอันดัง

จือลู่นางบอกเรื่องที่อาจจะมีหญ้าหนอนไม่มาก และนางอยากให้ทุกคนช่วยกันเก็บแล้วขายเพื่อนำเงินมาแบ่งกัน เพราะจะได้ไม่เกิดปัญหาการแย่งชิง

"ข้าและเฉิงเออร์หวังว่าพวกท่านจะไม่ต่อว่าข้าสองคนพี่น้องหากพบน้อยหรือไม่พบเลย" ทั้งคู่ก้มศีรษะลงเพื่อขอโทษทุกคนล่วงหน้า จากนั้นทั้งหมดก็เดินขึ้นเขาไปอย่างมีความหวัง เสียงด่าทอพึมพำของนางกงซื่อที่ต่อว่าสองพี่สองก็ได้ยิน

"นางกงซื่อหากเจ้ายังไม่หยุดพูดก็กลับเรือนไปเสีย" ผู้นำหมู่บ้านตวาดนางกงซื่อ ชาวบ้านก็ส่งเสียงต่อว่าจนนางกงซื่อต้องสงบปากสงบคำของตนเอง แต่ก็ยังส่งสายตาอาฆาตมาทางสองพี่น้องอยู่เนื่องๆ

เมื่อถึงบริเวณที่จือลู่และหนิงเฉิงขุดไว้ ก็ชี้ให้ชาวบ้านช่วยถางใบไม้บริเวณนั้นออก

"ค่อยๆนะเจ้าคะ" เพราะหญ้าหนอนจะโผล่พ้นดินขึ้นมานางจึงให้ทุกคนใช้ความระมัดระวัง 

"ทุกคนมาดูตรงนี้เจ้าค่ะ" เมื่อถางใบไม้ออกก็พบหญ้าหนอนที่โผล่พ้นดินขึ้นมา จือลู่และหนิงเฉิงจึงแยกกันสอนชาวบ้านให้ขุด เมื่อเห็นว่าทุกคนทำได้แล้วก็ให้กระจายกันออกไปตามหา โดยมีบุรุษหนุ่มคอยช่วยดูสัตว์ป่าอย่างเสือและหมีที่อาจจะเกิดอันตรายด้วย

เพียงไม่นานทั้งหมดก็ขุดเสร็จ เพราะมีจำนวนไม่เยอะแล้ว นางกงซื่อที่แอบเก็บใส่ถุงข้างเอวก็ถูกชาวบ้านที่อยู่ใกล้จับได้ นางจึงถูกต่อว่า ผู้ใหญ่บ้านจึงให้ค้นตัวทุกคน แต่ไม่มีใครทำเช่นนางกงซื่อสักคน

เพราะหญ้าหนอนมีเพียงตะกร้าเดียว แต่ก็ไม่มีใครต่อว่าสองพี่น้องเลยสักคนมีแต่จะขอบคุณที่ช่วยเหลือพวกเขาครั้งนี้

ระหว่างทางที่กลับหมู่บ้าน จือลู่ก็พบต้นนุ่น อาจจะเป็นเพราะทุกครั้งตอนที่นางกับหนิงเฉิงลงจากเขา พวกนางมุ่งมั่นที่จะกลับอย่างเดียวจึงไม่มองรอบข้าง จือลู่แทบจะกรีดร้องขึ้นมาเพราะนางอยากได้หมอนที่นิ่มๆมานอนแทนหมอนไม้ที่ใช้หนุน

"เป็นอันใดไปลู่เออร์" ท่านย่าชุยภรรยาท่านผู้นำเอ่ยเรียกนางเมื่อเห็นนางมองต้นงิ้วอย่างดีใจ

"ท่านย่าข้าอยากได้ฝักแก่ของมันเจ้าค่ะ" จือลู่ชี้ไปที่ฝักนุ่นสีน้ำตาล

"เจ้าจะนำไปทำอันใด ขนของมันติดเสื้อผ้าน่ารำคาญนัก" นางพูดขึ้นอย่างไม่เข้าใจ

จือลู่จึงบอกว่าขนสีขาวด้านในจะช่วยให้ทุกคนในหมู่บ้านผ่านหน้าหนาวไปได้ หากนำมันมายัดใส่เสื้อผ้าหรือผ้าห่ม ผู้นำหมู่บ้านที่เดินมาดูทั้งคู่ที่หยุดมองที่ต้นงิ้วได้ยินพอดี จึงเชื่อในคำของจือลู่ และสั่งให้บุรุษในหมู่บ้านช่วยกันตีฝักแก่ลงมา

สตรีที่นำตะกร้าขึ้นมาด้วยต่างก็ช่วยกันเก็บจนเต็ม และพากันลงเขาไป เมื่อถึงลานกลางหมู่บ้านหนิงเฉิงก็พาผู้นำหมู่บ้านไปล้างทำความสะอาดถังเช่า จือลู่ก็นำสตรีทั้งหมดมาแกะฝักนุ่น เด็กในหมู่บ้านก็ช่วยกันตีนุ่นที่แกะออกมาจากฝักเพื่อให้เม็ดหลุดออกมา

เมื่อเหลือแต่เส้นใยสีขาวนางก็นำไปตากไว้ก่อน และนัดแนะทุกคนว่าพรุ่งนี้จะมาตีเส้นใยอีกรอบ และให้ทุกคนเตรียมผ้าห่ม เสื้อกันหนาวไว้เพื่อจะยัดนุ่นที่ได้มาใส่เข้าไป

วันที่สองนางก็เริ่มพาสตรีในหมู่บ้านมาตีเส้นใยให้ฟูก่อนจะตากแดดอีกครั้ง หนิงเฉิงเข้าไปในเมืองกับผู้นำหมู่บ้านและบุรุษอีกสองสามคนเพื่อนำหญ้าหนอนไปขายที่ร้านหมอโยว หมอโยวให้ราคาเท่ากับที่สองพี่น้องนำมาขาย

แต่ครั้งนี้มีเพียงสองชั่งเท่านั้น ผู้นำหมู่บ้านรับเงินจากท่านหมอโยวด้วยมือที่สั่นเทา เพราะนึกไม่ถึงว่าจะได้เงินมากถึงหกพันตำลึงทอง เขาขอเป็นตั๋วเงินใบละหนึ่งร้อยตำลึงเงิน เพื่อไปแบ่งให้ทุกคนในหมู่บ้าน 

หากแบ่งให้ทุกครัวเรือนที่ไปช่วยหาก็จะตกที่ครัวเรือนละสี่สิบตำลึงทองก็นับว่ามากมายอยู่ดี ชาวบ้านในหมู่บ้านไม่มีทางหาเงินได้มากถึงเพียงนี้ แม้แต่ผู้นำหมู่บ้านเองก็ด้วย 

ก่อนกลับหมู่บ้านบุรุษที่เดินทางมาพร้อมกับผู้นำหมู่บ้านที่ได้รับเงินแล้วก็ขอตัวไปซื้อของกับเรือน หนิงเฉิงจึงไปซื้อผ้าให้จือลู่เพราะนางจะนำไปทำเป็นหมอน เขาจึงเลือกซื้อผ้าฝ้ายตามคำสั่งของพี่สาว

เมื่อกลับถึงหมู่บ้าน ชาวบ้านที่ไม่ยอมกลับเรือนต่างก็นั่งรอผู้นำหมู่บ้านกลับมาจากในเมือง เพียงแค่เห็นเกวียนวัวเข้ามามากถึงสามคันรถต่างก็แปลกใจ พอเห็นว่าคนที่นั่งมาเป็นคนที่ไปกับผู้นำหมู่บ้านต่างก็แย่งกันสอบถาม

พอรู้ว่าตนได้เงินมากถึงสี่สิบตำลึงทองบางคนโห่ร้อง บางคนร้องไห้ออกมาอย่างยินดี ทุกคนจึงได้เข้ามาขอบคุณสองพี่น้องที่ช่วยให้พวกเขาได้เงินก้อนนี้ แต่ก็คงมีเพียงนางกงซื่อและต้าอู๋ที่ดูเหมือนจะไม่พอใจ จือลู่กับหนิงเฉิงเป็นหลานของตนหากมาบอกแค่ตนเงินทั้งหมดก็คงเป็นของพวกเขาไปแล้ว

แต่ในตอนนี้จะทำอันใดได้ ชาวบ้านรวมถึงผู้นำหมู่บ้านล้วนอยู่ข้างสองพี่น้อง หากพวกตนทำอันใดสองพี่น้องคงได้ถูกขับออกจากหมู่บ้านแน่ หากนางกงซื่อรู้ว่าสองพี่น้องซื้อเรือนในเมืองจะอิจฉามากเพียงใด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   ตอนจบ

    ภายในคุกที่ว่าการเมืองเป่ยหาน ต้าอู๋และนางกงซื่อมิรู้ว่าพวกตนถูกจับมาได้อย่างไร ชินอ๋องที่ยืนมองทั้งคู่อยู่ภายนอก ก็เดินปรากฏตัวเขาไปด้านในต้าอู๋และกงซื่อเมื่อรู้ว่าผู้มาเยือนคนใหม่คือชินอ๋องสามีที่แท้จริงของจ้าวเหยียนก็รีบคุกเข่าโขกศีรษะอย่างร้อนตัวชินอ๋องพูดเรื่องที่ทั้งคู่ทุบตีจือลู่และหนิงเฉิงทั้งยังจะยกจือลู่ให้พ่อหม้ายจง ต้าอู๋กับนางกงซื่อเงยหน้ามองชินอ๋องอย่างแปลกใจ แม้นางกงซื่อจะเคยคิดเช่นที่ชินอ๋องพูด แต่นางก็ไม่ได้ทำและไม่เคยมีผู้ใดล่วงรู้มาก่อนชินอ๋องมิรอฟังคำแก้ตัวของต้าอู๋และนางกงซื่อ เขาสั่งให้ทหารโบยทั้งคู่คนละสามสิบไม้ก่อนจะเนรเทศไปใช้แรงงานที่เหมืองทางตอนใต้ของแคว้นขบวนเดินทางของชินอ๋องเสียเวลาอยู่ที่เมืองเป่ยหานเพียงห้าวันเท่านั้น นอกจากที่เขาจัดการเรื่องของต้าอู๋และนางกงซื่อแล้ว ยังให้จือลู่จัดการเรื่องร้านค้าของนาง และเติมสินค้าอย่างเต็มที่หลังจากออกเดินทางจากเมืองเป่ยหานมาได้ห้าวันก็ถึงเมืองเป่ยโจว จือลู่นางต้องไปอยู่ที่จวนของเว่ยหยาง แต่เพราะต้องปรับปรุงจวนเสียใหม่นางกับเว่ยหยางจึงอาศัยอยู่ในตำหนักเสียก่อนผ่านมาได้ครึ่งปีเรื่องมงคลของตำหนักอ๋องก็มีมาเยือน เ

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   กลับเป่ยโจว

    วันต่อมา จือลู่ถูกปลุกตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง จ้าวเหยียนก็มาที่เรือนของนางเพื่อช่วยนางแต่งตัว วันงานจือลู่มิได้แต่งหน้าเอง แต่คนที่แต่งให้ก็เป็นมือหนึ่งในร้านอ้ายเสิ่นของนาง นับว่าฝีมือที่แต่งออกมาใกล้เคียงกับของจือลู่ยิ่งนักจ้าวเหยียนเป็นคนหวีผลให้จือลู่และสวมผ้าคลุมหน้าให้นาง จ้าวเหยียนหันไปปาดน้ำตา เพราะเป็นงานมงคลไม่อาจหลั่งน้ำตาออกมาได้"ลู่เออร์ ไม่ว่าเจ้าจะออกเรือนไปแล้ว อย่างไรก็เป็นลูกของข้าอยู่เสมอ" จือลู่เงยหน้ามองจ้าวเหยียนที่ดวงตาแดงก่ำจากการกลั้นน้ำตาไว้"ท่านแม่ ท่านก็คือมารดาของข้าเช่นกันเจ้าค่ะ" คำพูดของนางหากคนนอกฟังอาจจะดูแปลกๆ แต่สองคนแม่ลูกล้วนเข้าใจกันอย่างดี จือลู่กอดเอวของจ้าวเหยียนแน่น ก่อนจะปล่อยให้นางได้ออกไปจัดการเรื่องด้านหน้าตำหนักเสียงฆ้องดังมาแต่ไกล ขบวนเจ้าบ่าวที่มารับเจ้าสาวยาวเหยียดจะมองไม่เห็นท้ายขบวน สินเดิมของเจ้าสาวที่กองไว้เพื่อนำออกจากตำหนักก็มากมายเสียทำให้คนอิจฉาตาร้อนเว่ยหยางพาจือลู่คำนับชินอ๋องกับจ้าวเหยียนก่อนจะพานางออกไปจากตำหนัก หนิงเฉิงแบกพี่สาวไปส่งที่เกี้ยวแปดคนหามหลังงาม จ้าวเหยียนยืนมองส่งจือลู่ด้วยดวงตาที่เอ่อไปด้วยน้ำตา ชินอ๋องจึ

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   ข้าควรจะจัดการเจ้านานแล้ว

    ชินอ๋องเมื่อเห็นจ้าวเหยียนปลอดภัยแล้ว นางเพียงหลับไปเพราะอ่อนเพลียจึงได้ออกมาดูบุตรทั้งสาม ก็เห็นว่าจือลู่และหนิงเฉิงเฝ้าน้องของพวกเขาอยู่"ท่านพ่อ ดูน้องของข้า เหตุใดถึงได้น่าเกลียดเช่นนี้ขอรับ" หนิงเฉิงใช้นิ้วจิ้มไปที่หน้าน้องสาวคนเล็กเบาๆ ด้วยความเอ็นดู ส่วนน้องชายทั้งสองล้วนแล้วแต่น่าเกลียดในสายตาของเขา"ตอนเจ้าเกิดเจ้าก็น่าเกลียดเช่นนี้" จือลู่หยอกเย้าน้องชายของตน นางก็กำลังเขี่ยแก้มของเด็กแฝดทั้งสามชินอ๋องมองลูกทั้งสามที่นอนหลับอยู่อย่างรักใคร่ ก่อนที่เขาจะอุ้มบุตรสาวคนเล็กขึ้นมา "ฉีซิงเยียน""ซิงเยียน น้องต้องงดงามกว่าพี่หญิงแน่นอนขอรับ" หนิงเฉิงพูดขึ้น จือลู่หันไปมองสองพ่อลูกที่เห่อน้องสาวคนเล็กของบ้านอย่างเอือมๆแฝดคนโตชื่อ หนิงเทียน คนรองชื่อหนิงหวง ทั้งคู่มีคำว่าหนิงเช่นเดียวกับพี่ชายของเขา"ท่านพี่ ลูกเล่าเจ้าคะ" กว่าจ้าวเหยียนจะตื่นก็เข้าสู่อีกวันแล้ว นางลืมตาก็ถามหาบุตรทั้งสามที่นางเพิ่งคลอด เพราะก่อนที่จะหมดสติไปนางรู้เพียงว่าเด็กทั้งสามล้วนแล้วแต่แข็งแรงดีชินอ๋องให้แม่นมพาบุตรทั้งสามเข้ามาให้จ้าวเหยียนได้ดู และบอกนางถึงชื่อที่เขาตั้งให้บุตรทั้งสาม"เจ้าพักผ่อนเสียให้

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   คลอดบุตร

    เว่ยหยางรีบกลับจวนพร้อมนำข่าวไปแจ้งให้บิดามารดาส่งแม่สื่อไปที่ตำหนักอ๋องข่าวเรื่องที่ตระกูลเว่ยส่งแม่สื่อล่วงรู้ไปถึงองค์ชายรอง ก่อนที่เขาจะออกจากวังไปจัดการกับเว่ยหยางก็โดนฮ่องเต้เรียกตัวเข้าพบ"เจ้ารอง เจ้ามั่นใจมากเพียงใดที่จะจัดการกับแม่ทัพเว่ย" ฮ่องเต้ยกชาขึ้นดื่มอย่างใจเย็น เหมือนเรื่องที่พระองค์ถามบุตรเป็นเพียงเรื่องดินฟ้าอากาศ"เสด็จพ่อ ท่านพระราชทานสมรสให้ลูกได้" เขาเอ่ยขึ้นอย่างเอาแต่ใจ"เจ้ากล้ามีเรื่องกับชินอ๋องใช่หรือไม่" ฮ่องเต้จ้องบุตรชายอย่างดุดัน"ลูก ลูก เสด็จพ่อเป็นถึงฮ่องเต้ ชินอ๋องจะมีอำนาจมากกว่าท่านได้อย่างไร""โง่เขลานัก" ฮ่องเต้ขว้างถ้วยน้ำชาลงพื้นอย่างมีโทสะ"หากน้องห้าต้องการบัลลังก์ เจ้าคิดหรือว่าเจิ้นจะได้นั่งเช่นทุกวันนี้" เพราะน้องชายของเขามิคิดจะขึ้นเป็นฮ่องเต้ และช่วยเหลือเขาจนได้นั่งบัลลังก์เช่นทุกวันนี้ เรื่องทุกเรื่องชินอ๋องไม่เคยยื่นมือเข้ามายุ่ง หากพระองค์เข้าไปจัดการเรื่องในตำหนักคงได้เกิดปัญหาแน่"หากเจ้ายังคิดว่าตนเองต่อกรได้ เจิ้นก็ไม่ห้าม ไม่ว่าเกิดอันใดขึ้นเจิ้นมิอาจช่วยเหลือเจ้าได้""เสด็จพ่อ" องค์ชายรองตกใจ เพราะไม่ว่าสิ่งใดเสด็จพ่อเสด็จแ

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   ข้าสาบานด้วยชีวิต

    ฮองเฮาที่ต้องการผูกสัมพันธ์กับชินอ๋องจึงอยากได้จือลู่มาเป็นพระชายาให้กับองค์ชายรอง เพราะฮ่องเต้ย่อมถามความคิดเห็นของชินอ๋องเรื่องแต่งตั้งองค์รัชทายาทหากองค์ชายรองได้แต่งจือลู่ ชินอ๋องย่อมต้องเข้าข้างบุตรเขยของตนเพื่อให้บุตรสาวได้ขึ้นเป็นฮองเฮาในอนาคต เมื่อเห็นว่าชินอ๋องจะขอตัวกลับแล้ว ฮองเฮาจึงพูดเรื่องหมั้นหมายขึ้นมาอีกครั้ง"กระหม่อมยังมิคิดให้ลู่เออร์ออกเรือนพ่ะย่ะค่ะ" ชินอ๋องตัดบทด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ก่อนจะพาจ้าวเหยียนและบุตรทั้งสองกลับตำหนัก"ท่านพี่ข้าคิดว่าฮองเฮาคงไม่ยอมหยุดเรื่องของลู่เออร์" จ้าวเหยียนเอ่ยด้วยความกังวล"มีข้าอยู่นางจะทำอันใดได้" ชินอ๋องกอดปลอบจ้าวเหยียน เขามองออกไปด้านนอกหน้าต่างรถม้าอย่างใช่ความคิดเว่ยหยางที่รู้เรื่องฮองเฮาต้องการทาบทามจือลู่ให้องค์ชายรองก็ร้อนใจจนมาที่ตำหนักอ๋องแต่เช้า"เปิ่นหวางไม่ได้เรียกเจ้ามิใช่หรือท่านแม่ทัพเว่ย" เขาปรายตามองบุรุษหน้าหนาที่ร้อนใจมาที่ตำหนักแต่เช้า"กระหม่อมมีเรื่องอยากทูลพระองค์พ่ะย่ะค่ะ" ชินอ๋องเดินนำเว่ยหยางไปที่ห้องตำรา เพราะเขารู้ดีว่าเว่ยหยางมาด้วยเรื่องอันใด"ว่ามา" ชินอ๋องนั่งลงแล้วเอ่ยถามโดยไม่ได้หันไปมองเว่ย

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   จัดการตระกูลเซี่ย

    วิญญาณดวงใหม่เข้ามาแทนที่ ชินอ๋องจ้องมองภาพตรงหน้าอยากแปลกใจ เมื่อจือลู่ที่มาจากอีกภพลืมตาขึ้น สิ่งที่นางพึมพำออกมาชินอ๋องรู้ได้ทันทีว่านี่คือจือลู่ที่มาอีกภพหนึ่ง"ท่านพี่ ท่านพี่" เสียงเรียกของจ้าวเหยียนปลุกให้ชินอ๋องตื่นขึ้นมาจากฝันร้ายของเขา"เหยียนเหยียน" ชินอ๋องลูบไปที่ใบหน้าของนาง ก่อนจะดึงนางเข้ามาสวมกอดแล้วร้องไห้เงียบๆ"ท่านเป็นอันใดไปเจ้าคะ ฝันเรื่องอันใดถึงได้เป็นเช่นนี้" จ้าวเหยียนมองชินอ๋องอย่างไม่เข้าใจ เพราะเขาทั้งร้องไห้ทั้งตะโกนจึงทำให้นางตื่นขึ้นมาชินอ๋องเล่าเรื่องความฝันของเขาให้จ้าวเหยียนฟัง พอถึงตอนที่ต้องเสียน้องและจือลู่เสียงของเขาสั่นขึ้นด้วยความหวาดกลัว กลัวว่าจะเป็นเรื่องจริง"ท่านพี่หากข้าบอกว่าเรื่องทั้งหมดที่ท่านฝันคือเรื่องจริงท่านจะเชื่อหรือไม่" จ้าวเหยียนจับใบหน้าของชินอ๋องแล้วจ้องมองเขาอย่างจริงจังนางเล่าเรื่องที่นางเสียชีวิตลง และได้ไปอยู่ที่ภพใหม่ แม้ชินอ๋องจะรู้แล้ว แต่เรื่องที่นางรู้ว่าเรื่องทั้งหมดของพวกเขาเป็นเพียงแค่นิยายเรื่องหนึ่งเท่านั้นแต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่นางจบชีวิตลงเป็นเช่นที่เขาเห็นความรันทดของบุตรทั้งสองเป็นเรื่องจริง ที่ครั้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status