Se connecter
“ไม่อยากแต่งงานบ้างเหรอ”
เสียงของใครบางคนดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้มือของ ‘ดินแดน’ พลันชะงักไป เขาปล่อยมือออกจากกระดุมเสื้อเชิ้ตสีครีมอ่อนก่อนจะหันไปมองเจ้าของคำถามโดยที่ไม่ได้ให้คำตอบอะไร นอกจากส่งยิ้มไปให้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“เลิกกับคนเก่าไปตั้งนานแล้ว ทำไมไม่คบใครบ้างวะ มึงควรจะ มูฟออนได้แล้วนะดิน” ชายคนเดิมยังส่งคำถามออกมา เมื่อไม่มีคำตอบและเพราะเขามัวแต่กำลังสวมเสื้อสูทเข้ากับลำตัว เลยทำให้ไม่เห็นสีหน้าเพื่อนรุ่นน้องที่เวลานี้ใบหน้าเจื่อนลงแล้ว
เจ้าของคำถามคือ ‘ฟ้าคราม’ เป็นเจ้าบ่าวในวันนี้
“หาให้ไหม รับรองว่าสวยถูกใจแน่นอน”
ฟ้าครามเงยหน้าขึ้นถามอีกครั้งหลังจากที่ติดกระดุมสูทเรียบร้อยแล้ว เลยอาสาจะหาแฟนให้สักคน เผื่อว่าเพื่อนรุ่นน้องจะได้มีความรักครั้งใหม่สักที
ไม่รู้ว่าที่ยังโสดอยู่จนถึงทุกวันนี้ เพราะไม่มีเวลาหาด้วยหรือเปล่า จะว่าไปที่ทำงานของดินแดนก็ไม่สามารถเจอใครได้มากเท่าไรนัก
“ไม่เอา” ดินแดนส่ายหน้าและรีบปฏิเสธอย่างไว ราวกับไม่ต้องใช้ความคิดให้เสียเวลาในเรื่องนี้ พอนึกถึงอดีตที่เคยมีแฟนสีหน้าก็เศร้าลงเล็กน้อยอย่างหักห้ามใจไม่ได้ แม้ว่ามันจะผ่านมานานแล้วก็ตาม
“ทำไมวะ” ฟ้าครามหันมาเท้าเอวถามอย่างจริงจัง
“ใครเขาจะมาชอบผู้คุมจน ๆ อย่างผมกันละพี่ แถมที่ทำงานก็สุดแสนจะภูธร ไม่มีใครอยากมาลำบากหรอกครับ” ชายหนุ่มตอบกลับไปเชิงตัดพ้อ
ดินแดนมีอาชีพเป็นผู้คุมเรือนจำ เงินเดือนของเขานั้นไม่พอที่จะสนองความต้องการของใครได้หรอก จริงอยู่ว่าเงินเดือนที่ได้ทำให้เขาพอจะเลี้ยงดูตัวเองและดูแลแฟนได้หากอยู่อย่างพอเพียง
แต่อีกด้านของความจริงก็คือ ความต้องการของคนไม่เท่ากัน
เขาสามารถเลี้ยงดูเธอได้ในระดับกลาง กินข้าวธรรมดาตามร้านข้างทาง หรืออาจจะมีมื้อพิเศษบ้างในวันสำคัญ และมีเพียงของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มอบให้คนรักได้
แต่ถ้าอีกฝ่ายกลับมีความต้องการมากกว่านั้น การดูแลของดินแดนจึงถือว่ายังไม่ดีพอสำหรับเธอ ยิ่งด้วยหน้าที่การงานที่บางครั้งต้องมีการย้ายไปประจำที่อื่น นั่นเลยอาจจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกลำบากกับการที่ต้องย้ายตามไปด้วย
ชายหนุ่มตระหนักถึงข้อนี้ซึ่งได้จากรักครั้งเก่า นั่นจึงทำให้เขาไม่สามารถเปิดใจลองคบหาเพื่อศึกษาดูใจกับใครได้อีก…
ดินแดนกลัวความผิดหวังและเสียใจ หรือจะเรียกว่ากลัวการมีความรักไปเลยก็ได้
“คิดอะไรแบบนั้นล่ะดิน ผู้หญิงไม่ได้เป็นเหมือนกันทุกคนหรอกนะ นายกลัวไปเองหรือเปล่า”
ฟ้าครามพูดขึ้นมาพร้อมกับเดินมาตบไหล่อีกฝ่ายอย่างให้กำลังใจ พอเห็นว่าเพื่อนรุ่นน้องคนนี้ยังติดกระดุมไม่เรียบร้อยจึงมาช่วยติดให้ เลยทำให้ดินแดนรู้ตัวว่าตนเองลืมติดกระดุมต่อ
“ขอบคุณครับ”
“ไม่เป็นไร”
ฟ้าครามหวังว่ารุ่นน้องคนนี้จะมีวันดี ๆ กับเขาบ้าง หลังจากติดกระดุมให้แล้ว ก็หยิบเอาโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะมาเข้าไอจีเพื่อดูหญิงสาวคนหนึ่ง พร้อมกับจิ้มขึ้นมาหนึ่งรูปให้เพื่อนรุ่นน้องที่ไม่ยอมเปิดใจให้ใครสักทีดูว่าคนในรูปตรงสเปคหรือเปล่า
“คนนี้ดูดีนะ ใช่สเปคนายหรือเปล่าล่ะ นิสัยก็น่ารักนะ” ฟ้าครามยังคงเชียร์ต่ออีกอย่างกระตือรือร้น เขานั้นอยากเห็นดินแดนมีแฟนสักที
“ไม่เอา ผมยังไม่อยากมีใครจริง ๆ พี่คราม” ดินแดนหันหน้าหนีและปฏิเสธเสียงหนักแน่น หวังว่าฟ้าครามจะได้เลิกตื๊อหาใครให้อีก
“ดูหน่อยก็ไม่เสียหายนะ” ครามยิ้มอ่อนแต่เขาไม่ลดละความพยายามแถมยังคะยั้นคะยออีก แต่ทว่าเจ้าสาวเดินเข้ามาเสียก่อน
“ทำอะไรกันอยู่ค่ะ ไปถ่ายรูปกันเถอะ”
เจ้าสาวที่อยู่ในชุดไทยสีกลีบบัวชะโงกหน้าเข้ามา พอเห็นว่าเจ้าบ่าวของตัวเองแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยดีแล้วทั้งเสื้อผ้าหน้าผม จึงชวนให้ไปถ่ายรูปคู่ด้วยกันก่อนที่จะเริ่มพิธีในช่วงเช้า
“ครับ” ฟ้าครามพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย
จากนั้นจึงหันไปสนใจเจ้าสาวของตนเองมากกว่าเพื่อนรุ่นน้อง นี่เลยทำให้ดินแดนถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะสำรวจตัวเองดูความเรียบร้อยแล้วเดินตามออกมา
เมื่อช่างภาพเข้ามาถ่ายรูปฟ้าครามก็โพสต์ท่าตามที่เจ้าสาวต้องการและช่างภาพแนะนำ ถ่ายเดี่ยวเสร็จแล้วก็ถ่ายรูปคู่กับเจ้าสาว ทั้งในห้องนี้และด้านนอกที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม
ดินแดนเองคอยตามไปดูด้วย เผื่อว่าทั้งสองต้องการอะไรเพิ่มจะได้ช่วยหยิบให้
“ไปถ่ายรูปกับเพื่อนแป๊บหนึ่งนะ” เจ้าสาวเอ่ยขึ้นมาอย่างสดใส เมื่อได้ภาพคู่มากจนพอใจแล้ว
“ครับ” ฟ้าครามพยักหน้าให้พร้อมตอบกลับเสียงอ่อนอย่างเอาใจ แถมยังโชว์หวานต่อหน้าเพื่อนด้วยการหอมที่กลางหน้าผากเธอหนึ่งครั้ง ก่อนจะปล่อยให้คนรักไปถ่ายรูปกับเพื่อน ๆ ตามที่ขอ
พอเจ้าสาวและช่างภาพไปกันหมดแล้ว จึงเหลือแค่สองหนุ่มที่กลับเข้ามาในห้องแต่งตัว โดยมีช่างแต่งหน้ามาซับหน้าให้ จากนั้นค่อยตามไปดูแลเจ้าสาวต่อ
“เพื่อนเจ้าสาวที่โสดก็มีนะ เดี๋ยวแนะนำให้รู้จัก” ฟ้าครามยังไม่วายที่จะพูดต่อในเรื่องที่คุยค้างไว้ก่อนหน้านี้
ดินแดนมองด้วยความงุนงง ในใจนั้นคิดว่า
‘ยังไม่ลืมเรื่องนี้อีกเหรอ ทั้งที่การเก็บภาพก็ใช้เวลาอยู่หลายนาที คิดว่าจะลืมเรื่องที่คุยกันไปเสียแล้ว’
ตอนที่ 6 ราวกับต้องมนตร์ (2)ดินแดนเดินเล่นและถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ จนสะดุดสายตาเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่ในสวนท่ามกลางดอกไม้ ตอนนี้ชายหนุ่มราวกับต้องมนตร์ ภาพนั้นทำให้เขามองค้างเติ่ง สองขาพลันชะงักงันไม่เดินต่อ สายตายังตรึงไว้อยู่กับเธอคนนั้น เขาไม่กล้าแม้แต่จะกะพริบตาเพราะกลัวภาพนั้นจะหายไปใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโต จมูกโด่งกำลังพอดี ริมฝีปากก็อวบอิ่ม เธอคลี่ยิ้มให้กับนกที่เกาะอยู่บนกิ่งก้านของต้นไม้ใหญ่ และเอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปเจ้านกตัวนั้นไว้ เส้นผมยาวสลวยสะบัดทิ้งตัวไปทางด้านหลังแล้วเอี้ยวมองมาทางเขา ยิ่งได้เห็นหน้าเธอชัด ๆ ยิ่งรู้สึกเหมือนถูกดึงดูดเอาไว้จนละสายตาไม่ได้หนำซ้ำหัวใจที่เคยนิ่งเฉยมานาน กลับเต้นแรงจนไม่สามารถควบคุมอัตราการเต้นไว้ได้“ไอ้ดิน ไปรวมตัวกันได้แล้ว จะเริ่มแห่ขบวนขันหมากแล้ว” เสียงของเต้ที่ตะโกนมาเรียกมาแต่ไกล ดึงความสนใจของดินแดนไปจากหญิงสาวคนนั้น เขาหันไปหาเต้ที่กำลังเดินเข้ามาหา“เออ” เขาขานตอบไปสั้น ๆ แล้วหันกลับมาหาหญิงสาวที่ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเขาเปลี่ยนแปลงไป ทว่าตอนนี้เธอกลับหายไปแล้วดินแดนกวาดสายตาชะเง้อหาไปรอบ ๆ บริเวณงาน เพราะอยากเห็นหน้าเ
ตอนที่ 5 ราวกับต้องมนตร์ (1)หลังจากงานแต่งของฟ้าครามผ่านไปแล้ว การใช้ชีวิตของดินแดนดำเนินไปอย่างราบเรียบเป็นปกติเหมือนเดิมทุกวัน ไปทำงานคนเดียว กลับมาบ้านกินข้าวคนเดียว นอนดูโทรทัศน์คนเดียว แต่เขาไม่เคยรู้สึกเหงาหรืออยากมีใครสักคนเข้ามาเติมเต็ม ชีวิตที่เรียบง่ายนั้นไม่ได้ทำให้รู้สึกขาดอะไร ชายหนุ่มกลับรู้สึกว่ามีความสงบและมีความสุขดีอยู่แล้วแต่วันนี้ชีวิตคงมีสีสันขึ้นมาก เพราะต้องมาร่วมงานแต่งงานของเพื่อนรุ่นน้องอย่างต้นกล้ากับนรินอดีตหมอประจำเรือนจำ“หวัดดีพี่ดิน” ต้นกล้าที่เป็นเจ้าบ่าวของงานทักทายด้วยความดีใจ ที่เห็นดินแดนเดินเข้าไปในงานตั้งแต่ท้องฟ้ายังไม่มีแสงสว่างดี“มาก่อนใครเลย” ต้นกล้าพูดต่ออย่างหยอกล้อ“รีบมาเลยเนี่ย เผื่อมีอะไรให้ช่วย” ดินแดนตอบกลับด้วยรอยยิ้ม“ไม่มีอะไรให้ช่วยหรอกพี่ ผมใช้เงินแก้ปัญหาไปหมดแล้ว แค่พี่มาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้ก็ขอบคุณมากแล้ว ไปเถอะ เข้าบ้านกัน”ต้นกล้าพูดขึ้นด้วยสีหน้ามีความสุขก่อนจะพาดินแดนเข้ามาในห้องรับรอง ซึ่งใช้เป็นห้องแต่งตัวของเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าบ่าว อีกห้องที่อยู่ข้างกันเป็นห้องแต่งตัวของเจ้าสาวกับเพื่อนเจ้าสาว“นี่ชุดพี่ น่าจะใส่ได
ตอนที่ 4 ข่าวน่ายินดีของเพื่อน (2)“มึงนี่เอาแต่กินจริง ๆ อย่างนี้สิถึงไม่มีแฟน” เพื่อนยังแซวต่อถึงสาเหตุที่อีกคนไม่มีแฟนสักทีดินแดนไหวไหล่เป็นคำตอบ แล้วคีบกินเป็ดย่างต่ออย่างเอร็ดอร่อย เขาจะสนใจบนเวที ก็เฉพาะตอนที่เพื่อนขึ้นไปขอบคุณแขกเหรื่อที่มาร่วมงานเท่านั้น ชายหนุ่มมองเจ้าบ่าวและเจ้าสาวที่ช่วยกันจูงมือเดินขึ้นบนเวที ภาพน่ารักอบอุ่นเช่นนี้ ทำให้ดินแดนหลุดยิ้มออกมาฟ้าครามกล่าวขอบคุณแขกในงานที่มาร่วมแสดงความยินดีกับเขา และแล้วเจ้าสาวก็น้ำตารื้นมาในตอนที่เจ้าบ่าวพูดความในใจว่า ดีใจมากขนาดไหนที่ได้มีวันนี้ดินแดนมองแล้วเอาแต่ยิ้มตามไปด้วย ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่ยิ้ม แต่คนที่นั่งอยู่ด้านล่างเวที ก็คลี่ยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้ คนที่มีความรักดี ๆ นี่ เปล่งประกายความสุขออกมาชัดเจน จนทำให้ผู้คนยิ้มตามได้ไม่ยากเลยหลังจากจบพิธีการแล้ว นักร้องและแดนเซอร์ก็กลับขึ้นมาทำหน้าที่ของตัวเองต่อ ส่วนดินแดนก็ก้มหน้าก้มตากินต่อด้วยเหมือนกัน จนกระทั่งใกล้ได้เวลาเลิกงาน แขกที่มาร่วมยินดีกำลังทยอยกลับ จนเหลือแค่ไม่กี่คน ส่วนเพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาวนั้นยังอยู่กันครบ เพียงแค่นั่งกันคนละฝั่งเท่านั้น“
ตอนที่ 3 ข่าวน่ายินดีของเพื่อน (1)“มีความสุขมาก ๆ นะครับ” ดินแดนเอ่ยพร้อมกับรดน้ำสังข์ลงที่มือของเจ้าบ่าว“ขอบใจนะ รีบ ๆ ตามมามีความสุขเหมือนกันนะโว้ย” ฟ้าครามตอบกลับด้วยรอยยิ้มดินแดนอมยิ้มแล้วส่ายหัว ก่อนจะอวยพรและรดน้ำสังข์ลงที่มือของเจ้าสาว ซึ่งเขาเป็นคนสุดท้ายที่รดน้ำสังข์และอวยพรทั้งคู่พิธีการของคู่บ่าวสาวเป็นอันเสร็จสิ้นลงไปอย่างราบรื่น สีหน้าของแขกเหรื่อที่มาร่วมงานมีแต่ความชื่นมื่น เสียงเชียร์ให้หอมให้จูบดังไม่ขาดสาย ไม่ว่าเจ้าสาวจะเขินจนหน้าแดงขนาดไหน ก็ไม่วายที่จะส่งเสียงเชียร์กันอยู่ตลอดงานดินแดนและเพื่อน ๆ ที่มาทำหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว เดินเข้าไปร่วมถ่ายรูปกับคู่บ่าวสาว แล้วเปลี่ยนให้ฝ่ายเพื่อนเจ้าสาวเข้ามาถ่ายบ้าง สายตาของดินแดนไม่ได้มองใครเลยสักคน ทั้งที่เพื่อนเจ้าสาวแต่ละคนทั้งสวยและดูดีด้วยกันทั้งนั้น มีบางคนส่งยิ้มทอดไมตรีมาให้ เขาก็แค่ยิ้มกลับไปตามมารยาทเท่านั้นชายหนุ่มเดินมาคว้าแก้วน้ำผลไม้ที่มีบริการอยู่มุมของห้อง กำลังจะยกดื่มดับกระหาย พวกเพื่อนก็พากันเดินเข้ามา ยังไม่ได้ไปร่วมโต๊ะกินเลี้ยงฉลองมงคลสมรสให้กับคู่บ่าวสาว พวกเขาก็มองหาเครื่องดื่มสีอำพันกันแล้ว
ตอนที่ 2 ไม่อยากเจ็บอีก (2)“ไม่ดีกว่าครับ ผมยังไม่อยากมีแฟน” ชายหนุ่มตอบกลับเสียงจริงจัง หากคราวนี้ฟ้าครามยังไม่หยุดคิดที่จะให้เขามีแฟนก็คงไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว และก็ดันเป็นอย่างที่เขากังวลไว้เสียด้วย เมื่ออีกฝ่ายยังวกกลับมาเรื่องเดิม“ลองคุยดูก่อน ไปทักทายพูดคุยกันสักคำสองคำก็ยังดี เผื่อไปด้วยกันได้ไง” ฟ้าครามยังคะยั้นคะยออีกครั้ง คนมีความรักที่สุขสมหวัง มักจะมองเห็นแต่ภาพสวยงาม เขาถึงได้หวังดีอยากให้เพื่อนคนนี้มีความสุขแหมือนกันดินแดนมองอีกฝ่ายนิ่ง ๆ กำลังคิดว่าควรจะตัดสินใจเล่าเรื่องบางอย่างให้รุ่นพี่คนนี้ฟังดีไหม เผื่อจะเข้าใจว่าความรักที่เขาเคยเจอมานั้น ทำให้เขาเจ็บช้ำมากแค่ไหน มันมากจนไม่กล้าพาใครสักคนเข้ามาอยู่ในหัวใจอีกแล้วคนถูกมองเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม ดูจากสีหน้าของดินแดน น่าจะต้องมีบางอย่างที่อัดอั้นและอยากที่จะระบายออกมา“มีอะไรอยากเล่าไหม” ฟ้าครามอดไม่ได้ที่จะถามออกไป“แฟนคนเก่าเขาไม่โอเคกับอาชีพนี้ของผม เพราะต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นเรื่อย ๆ ยิ่งจังหวัดไหนที่ไม่ค่อยมีความเจริญ เขายิ่งไม่โอเคที่จะไปอยู่ด้วย” น้ำเสียงของดินแดนมีความเศร้าเจืออยู่ แม้เรื่องจะผ่านมานานพอสมคว
ตอนที่ 1 ไม่อยากเจ็บอีก (1)“ไม่อยากแต่งงานบ้างเหรอ”เสียงของใครบางคนดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้มือของ ‘ดินแดน’ พลันชะงักไป เขาปล่อยมือออกจากกระดุมเสื้อเชิ้ตสีครีมอ่อนก่อนจะหันไปมองเจ้าของคำถามโดยที่ไม่ได้ให้คำตอบอะไร นอกจากส่งยิ้มไปให้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น“เลิกกับคนเก่าไปตั้งนานแล้ว ทำไมไม่คบใครบ้างวะ มึงควรจะ มูฟออนได้แล้วนะดิน” ชายคนเดิมยังส่งคำถามออกมา เมื่อไม่มีคำตอบและเพราะเขามัวแต่กำลังสวมเสื้อสูทเข้ากับลำตัว เลยทำให้ไม่เห็นสีหน้าเพื่อนรุ่นน้องที่เวลานี้ใบหน้าเจื่อนลงแล้วเจ้าของคำถามคือ ‘ฟ้าคราม’ เป็นเจ้าบ่าวในวันนี้“หาให้ไหม รับรองว่าสวยถูกใจแน่นอน”ฟ้าครามเงยหน้าขึ้นถามอีกครั้งหลังจากที่ติดกระดุมสูทเรียบร้อยแล้ว เลยอาสาจะหาแฟนให้สักคน เผื่อว่าเพื่อนรุ่นน้องจะได้มีความรักครั้งใหม่สักทีไม่รู้ว่าที่ยังโสดอยู่จนถึงทุกวันนี้ เพราะไม่มีเวลาหาด้วยหรือเปล่า จะว่าไปที่ทำงานของดินแดนก็ไม่สามารถเจอใครได้มากเท่าไรนัก“ไม่เอา” ดินแดนส่ายหน้าและรีบปฏิเสธอย่างไว ราวกับไม่ต้องใช้ความคิดให้เสียเวลาในเรื่องนี้ พอนึกถึงอดีตที่เคยมีแฟนสีหน้าก็เศร้าลงเล็กน้อยอย่างหักห้ามใจไม่ได้ แม้ว่ามันจะผ่า







