Se connecterดินแดนเดินเล่นและถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ จนสะดุดสายตาเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่ในสวนท่ามกลางดอกไม้ ตอนนี้ชายหนุ่มราวกับต้องมนตร์ ภาพนั้นทำให้เขามองค้างเติ่ง สองขาพลันชะงักงันไม่เดินต่อ สายตายังตรึงไว้อยู่กับเธอคนนั้น เขาไม่กล้าแม้แต่จะกะพริบตาเพราะกลัวภาพนั้นจะหายไป
ใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโต จมูกโด่งกำลังพอดี ริมฝีปากก็อวบอิ่ม เธอคลี่ยิ้มให้กับนกที่เกาะอยู่บนกิ่งก้านของต้นไม้ใหญ่ และเอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปเจ้านกตัวนั้นไว้ เส้นผมยาวสลวยสะบัดทิ้งตัวไปทางด้านหลังแล้วเอี้ยวมองมาทางเขา ยิ่งได้เห็นหน้าเธอชัด ๆ ยิ่งรู้สึกเหมือนถูกดึงดูดเอาไว้จนละสายตาไม่ได้
หนำซ้ำหัวใจที่เคยนิ่งเฉยมานาน กลับเต้นแรงจนไม่สามารถควบคุมอัตราการเต้นไว้ได้
“ไอ้ดิน ไปรวมตัวกันได้แล้ว จะเริ่มแห่ขบวนขันหมากแล้ว” เสียงของเต้ที่ตะโกนมาเรียกมาแต่ไกล ดึงความสนใจของดินแดนไปจากหญิงสาวคนนั้น เขาหันไปหาเต้ที่กำลังเดินเข้ามาหา
“เออ” เขาขานตอบไปสั้น ๆ แล้วหันกลับมาหาหญิงสาวที่ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเขาเปลี่ยนแปลงไป ทว่าตอนนี้เธอกลับหายไปแล้ว
ดินแดนกวาดสายตาชะเง้อหาไปรอบ ๆ บริเวณงาน เพราะอยากเห็นหน้าเธออีกสักครั้ง ก่อนจะไปรวมตัวกับกลุ่มเพื่อน แต่เธอหายตัวไปเร็วกว่าที่คิด แม้จะกวาดตามองไปรอบ ๆ แล้วยังไม่เห็นแม้แต่เงา
ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาด้วยความเสียดาย แต่เมื่อเขาฉุกคิดได้ว่าเธออาจจะอยู่ในงาน จึงรีบเดินเข้ามาที่เรือนไม้ทรงไทย และคอยสอดสายตามองหาเธอ
เมื่อไม่พบ ชายหนุ่มพ่นล่มหายใจออกมาอย่างเสียดาย จากนั้นจึงเดินไปรวมกลุ่มกับเพื่อนและเริ่มทำตามพิธีที่ทีมงานตระเตรียมไว้ว่าใครจะต้องยืนตำแหน่งไหน หรือว่าต้องถืออะไรบ้าง
พอได้ฤกษ์งามยามดีเสียงกลองยาวเริ่มต้นขึ้นอย่างสนุกสนาน ขบวนขันหมากเริ่มที่หน้ารั้วบ้าน ตลอดทางยาวเดินเข้าไปถึงด้านหน้าเรือนไทย แม้จะกำลังทำหน้าที่เพื่อนเจ้าบ่าว ทว่าดินแดนยังไม่ลดละความพยายามที่จะมองหาเธอคนนั้น เขาคาดหวังว่าเธอจะมาให้ได้เจออีกสักครั้ง แต่ในบรรดาเพื่อนเจ้าสาวที่มากั้นประตูเงินประตูทองก็ไม่ใช่เธอคนนั้น ไม่ว่าเพื่อนเจ้าสาวแต่ละคนจะสวยสักแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจดึงดูดสายตาของชายหนุ่มได้เลย
คิดแล้วตลก เขากลับจดจำใบหน้าสวยหวานน่ามองของเธอได้ดี หากได้เห็นอีกครั้ง ก็จะรู้ได้ว่าใช่คนเดียวกันหรือไม่
‘เอาน่า ตรงนี้ยังไม่พบก็จริง แต่เดี๋ยวก็คงได้พบ’ เขาบอกกับตัวเองในใจ
จนงานแต่งช่วงเช้าเริ่มต้นขึ้นและดำเนินไปเรื่อย ๆ ดินแดนก็ยังคงมองหาเธอคนนั้น และมั่นใจว่าเธอจะต้องเป็นแขกของงานนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากในพื้นที่นี้ไม่ได้ให้คนนอกเข้ามา ทว่าทำไมเขายังหาไม่เจออีกนะ
“มึงมองหาอะไรวะแดน ท่าทางมึงแปลก ๆ ตั้งแต่ตั้งขบวนแล้ว” เต้ถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะเขารู้สึกว่าดินแดนไม่ได้สนใจพิธีการของบ่าวสาวเลย เอาแต่ชะเง้อหน้าและหันซ้ายหันขวาอยู่ตลอด ราวกับกำลังมองหาอะไรสักอย่าง จึงถามเผื่อว่าเขาจะช่วยหาให้ได้
พอเห็นว่าเพื่อนไม่ตอบ และก็ไม่รู้ว่าเพื่อนมองหาอะไร เลยแกล้งพูดออกมา “ห้องน้ำอยู่ข้างล่างน่ะ”
“กูรู้” ดินแดนตอบเสียงเรียบก่อนจะนั่งนิ่งเพื่อไม่ให้เพื่อในกลุ่มจับผิด แม้ในใจจะร้อนรนกับการที่ต้องหยุดมองหาเธอ เขากลัวว่าหากหยุดมองหาไปเพียงเสี้ยวนาที อาจจะพลาดทำให้ไม่ได้เจอเธออีก เหมือนเมื่อตอนที่เต้ไปเรียก ตอนนั้นแค่เขาหันไปตอบเพื่อนแป๊บเดียว พอหันกลับมาอีกครั้งเธอก็หายไปเสียแล้ว
แต่หากจะมองหาตอนนี้ต่อ เต้คงถามไม่หยุดแน่และเพื่อนคนอื่นคงจะช่วยกันเค้นเอาคำตอบออกจากปากของเขาให้ได้อย่างแน่นอน
ดินแดนคอยแอบชำเลืองมองไปทางซ้ายทีขวาที ไม่ชะโงกหน้ามองหาเหมือนอย่างตอนแรก เขาต้องพยายามเก็บอาการเอาไว้ ไม่อย่างนั้นเขาโดนเพื่อน ๆ รุมถามแน่นอน
‘แปลกจริง ทำไมไม่เจอเธอกันนะ ขนาดช่วงพิธีรดน้ำสังข์ ที่แขกเหรื่อและเพื่อน ๆ ต้องไปอวยพรก็ยังไม่เจออีก หากเป็นแขกของงานก็น่าจะเข้ามาร่วมอวยพรด้วยกันสิ’
ชายหนุ่มขมวดคิ้วคิดในใจอย่างแปลกใจ
‘หรือว่าเธอคนนั้นจะไม่มีตัวตนจริง ๆ กันแน่ เราอาจจะโดนแซวจนจินตนาการภาพของหญิงสาวขึ้นมา ซึ่งเป็นภาพที่ทำให้ใจเต้นแรง จนเราปักธงว่าหากจะมีความรัก คงไม่พ้นเธอคนนั้นที่เราอยากจะสานสัมพันธ์ด้วย’
ดินแดนยังพูดกับตัวเองในใจไปเรื่อย ๆ เพราะเรื่องนี้เขาไม่สามารถพูดหรือถามใครได้
ตอนที่ 6 ราวกับต้องมนตร์ (2)ดินแดนเดินเล่นและถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ จนสะดุดสายตาเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่ในสวนท่ามกลางดอกไม้ ตอนนี้ชายหนุ่มราวกับต้องมนตร์ ภาพนั้นทำให้เขามองค้างเติ่ง สองขาพลันชะงักงันไม่เดินต่อ สายตายังตรึงไว้อยู่กับเธอคนนั้น เขาไม่กล้าแม้แต่จะกะพริบตาเพราะกลัวภาพนั้นจะหายไปใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโต จมูกโด่งกำลังพอดี ริมฝีปากก็อวบอิ่ม เธอคลี่ยิ้มให้กับนกที่เกาะอยู่บนกิ่งก้านของต้นไม้ใหญ่ และเอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปเจ้านกตัวนั้นไว้ เส้นผมยาวสลวยสะบัดทิ้งตัวไปทางด้านหลังแล้วเอี้ยวมองมาทางเขา ยิ่งได้เห็นหน้าเธอชัด ๆ ยิ่งรู้สึกเหมือนถูกดึงดูดเอาไว้จนละสายตาไม่ได้หนำซ้ำหัวใจที่เคยนิ่งเฉยมานาน กลับเต้นแรงจนไม่สามารถควบคุมอัตราการเต้นไว้ได้“ไอ้ดิน ไปรวมตัวกันได้แล้ว จะเริ่มแห่ขบวนขันหมากแล้ว” เสียงของเต้ที่ตะโกนมาเรียกมาแต่ไกล ดึงความสนใจของดินแดนไปจากหญิงสาวคนนั้น เขาหันไปหาเต้ที่กำลังเดินเข้ามาหา“เออ” เขาขานตอบไปสั้น ๆ แล้วหันกลับมาหาหญิงสาวที่ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเขาเปลี่ยนแปลงไป ทว่าตอนนี้เธอกลับหายไปแล้วดินแดนกวาดสายตาชะเง้อหาไปรอบ ๆ บริเวณงาน เพราะอยากเห็นหน้าเ
ตอนที่ 5 ราวกับต้องมนตร์ (1)หลังจากงานแต่งของฟ้าครามผ่านไปแล้ว การใช้ชีวิตของดินแดนดำเนินไปอย่างราบเรียบเป็นปกติเหมือนเดิมทุกวัน ไปทำงานคนเดียว กลับมาบ้านกินข้าวคนเดียว นอนดูโทรทัศน์คนเดียว แต่เขาไม่เคยรู้สึกเหงาหรืออยากมีใครสักคนเข้ามาเติมเต็ม ชีวิตที่เรียบง่ายนั้นไม่ได้ทำให้รู้สึกขาดอะไร ชายหนุ่มกลับรู้สึกว่ามีความสงบและมีความสุขดีอยู่แล้วแต่วันนี้ชีวิตคงมีสีสันขึ้นมาก เพราะต้องมาร่วมงานแต่งงานของเพื่อนรุ่นน้องอย่างต้นกล้ากับนรินอดีตหมอประจำเรือนจำ“หวัดดีพี่ดิน” ต้นกล้าที่เป็นเจ้าบ่าวของงานทักทายด้วยความดีใจ ที่เห็นดินแดนเดินเข้าไปในงานตั้งแต่ท้องฟ้ายังไม่มีแสงสว่างดี“มาก่อนใครเลย” ต้นกล้าพูดต่ออย่างหยอกล้อ“รีบมาเลยเนี่ย เผื่อมีอะไรให้ช่วย” ดินแดนตอบกลับด้วยรอยยิ้ม“ไม่มีอะไรให้ช่วยหรอกพี่ ผมใช้เงินแก้ปัญหาไปหมดแล้ว แค่พี่มาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้ก็ขอบคุณมากแล้ว ไปเถอะ เข้าบ้านกัน”ต้นกล้าพูดขึ้นด้วยสีหน้ามีความสุขก่อนจะพาดินแดนเข้ามาในห้องรับรอง ซึ่งใช้เป็นห้องแต่งตัวของเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าบ่าว อีกห้องที่อยู่ข้างกันเป็นห้องแต่งตัวของเจ้าสาวกับเพื่อนเจ้าสาว“นี่ชุดพี่ น่าจะใส่ได
ตอนที่ 4 ข่าวน่ายินดีของเพื่อน (2)“มึงนี่เอาแต่กินจริง ๆ อย่างนี้สิถึงไม่มีแฟน” เพื่อนยังแซวต่อถึงสาเหตุที่อีกคนไม่มีแฟนสักทีดินแดนไหวไหล่เป็นคำตอบ แล้วคีบกินเป็ดย่างต่ออย่างเอร็ดอร่อย เขาจะสนใจบนเวที ก็เฉพาะตอนที่เพื่อนขึ้นไปขอบคุณแขกเหรื่อที่มาร่วมงานเท่านั้น ชายหนุ่มมองเจ้าบ่าวและเจ้าสาวที่ช่วยกันจูงมือเดินขึ้นบนเวที ภาพน่ารักอบอุ่นเช่นนี้ ทำให้ดินแดนหลุดยิ้มออกมาฟ้าครามกล่าวขอบคุณแขกในงานที่มาร่วมแสดงความยินดีกับเขา และแล้วเจ้าสาวก็น้ำตารื้นมาในตอนที่เจ้าบ่าวพูดความในใจว่า ดีใจมากขนาดไหนที่ได้มีวันนี้ดินแดนมองแล้วเอาแต่ยิ้มตามไปด้วย ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่ยิ้ม แต่คนที่นั่งอยู่ด้านล่างเวที ก็คลี่ยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้ คนที่มีความรักดี ๆ นี่ เปล่งประกายความสุขออกมาชัดเจน จนทำให้ผู้คนยิ้มตามได้ไม่ยากเลยหลังจากจบพิธีการแล้ว นักร้องและแดนเซอร์ก็กลับขึ้นมาทำหน้าที่ของตัวเองต่อ ส่วนดินแดนก็ก้มหน้าก้มตากินต่อด้วยเหมือนกัน จนกระทั่งใกล้ได้เวลาเลิกงาน แขกที่มาร่วมยินดีกำลังทยอยกลับ จนเหลือแค่ไม่กี่คน ส่วนเพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาวนั้นยังอยู่กันครบ เพียงแค่นั่งกันคนละฝั่งเท่านั้น“
ตอนที่ 3 ข่าวน่ายินดีของเพื่อน (1)“มีความสุขมาก ๆ นะครับ” ดินแดนเอ่ยพร้อมกับรดน้ำสังข์ลงที่มือของเจ้าบ่าว“ขอบใจนะ รีบ ๆ ตามมามีความสุขเหมือนกันนะโว้ย” ฟ้าครามตอบกลับด้วยรอยยิ้มดินแดนอมยิ้มแล้วส่ายหัว ก่อนจะอวยพรและรดน้ำสังข์ลงที่มือของเจ้าสาว ซึ่งเขาเป็นคนสุดท้ายที่รดน้ำสังข์และอวยพรทั้งคู่พิธีการของคู่บ่าวสาวเป็นอันเสร็จสิ้นลงไปอย่างราบรื่น สีหน้าของแขกเหรื่อที่มาร่วมงานมีแต่ความชื่นมื่น เสียงเชียร์ให้หอมให้จูบดังไม่ขาดสาย ไม่ว่าเจ้าสาวจะเขินจนหน้าแดงขนาดไหน ก็ไม่วายที่จะส่งเสียงเชียร์กันอยู่ตลอดงานดินแดนและเพื่อน ๆ ที่มาทำหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว เดินเข้าไปร่วมถ่ายรูปกับคู่บ่าวสาว แล้วเปลี่ยนให้ฝ่ายเพื่อนเจ้าสาวเข้ามาถ่ายบ้าง สายตาของดินแดนไม่ได้มองใครเลยสักคน ทั้งที่เพื่อนเจ้าสาวแต่ละคนทั้งสวยและดูดีด้วยกันทั้งนั้น มีบางคนส่งยิ้มทอดไมตรีมาให้ เขาก็แค่ยิ้มกลับไปตามมารยาทเท่านั้นชายหนุ่มเดินมาคว้าแก้วน้ำผลไม้ที่มีบริการอยู่มุมของห้อง กำลังจะยกดื่มดับกระหาย พวกเพื่อนก็พากันเดินเข้ามา ยังไม่ได้ไปร่วมโต๊ะกินเลี้ยงฉลองมงคลสมรสให้กับคู่บ่าวสาว พวกเขาก็มองหาเครื่องดื่มสีอำพันกันแล้ว
ตอนที่ 2 ไม่อยากเจ็บอีก (2)“ไม่ดีกว่าครับ ผมยังไม่อยากมีแฟน” ชายหนุ่มตอบกลับเสียงจริงจัง หากคราวนี้ฟ้าครามยังไม่หยุดคิดที่จะให้เขามีแฟนก็คงไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว และก็ดันเป็นอย่างที่เขากังวลไว้เสียด้วย เมื่ออีกฝ่ายยังวกกลับมาเรื่องเดิม“ลองคุยดูก่อน ไปทักทายพูดคุยกันสักคำสองคำก็ยังดี เผื่อไปด้วยกันได้ไง” ฟ้าครามยังคะยั้นคะยออีกครั้ง คนมีความรักที่สุขสมหวัง มักจะมองเห็นแต่ภาพสวยงาม เขาถึงได้หวังดีอยากให้เพื่อนคนนี้มีความสุขแหมือนกันดินแดนมองอีกฝ่ายนิ่ง ๆ กำลังคิดว่าควรจะตัดสินใจเล่าเรื่องบางอย่างให้รุ่นพี่คนนี้ฟังดีไหม เผื่อจะเข้าใจว่าความรักที่เขาเคยเจอมานั้น ทำให้เขาเจ็บช้ำมากแค่ไหน มันมากจนไม่กล้าพาใครสักคนเข้ามาอยู่ในหัวใจอีกแล้วคนถูกมองเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม ดูจากสีหน้าของดินแดน น่าจะต้องมีบางอย่างที่อัดอั้นและอยากที่จะระบายออกมา“มีอะไรอยากเล่าไหม” ฟ้าครามอดไม่ได้ที่จะถามออกไป“แฟนคนเก่าเขาไม่โอเคกับอาชีพนี้ของผม เพราะต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นเรื่อย ๆ ยิ่งจังหวัดไหนที่ไม่ค่อยมีความเจริญ เขายิ่งไม่โอเคที่จะไปอยู่ด้วย” น้ำเสียงของดินแดนมีความเศร้าเจืออยู่ แม้เรื่องจะผ่านมานานพอสมคว
ตอนที่ 1 ไม่อยากเจ็บอีก (1)“ไม่อยากแต่งงานบ้างเหรอ”เสียงของใครบางคนดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้มือของ ‘ดินแดน’ พลันชะงักไป เขาปล่อยมือออกจากกระดุมเสื้อเชิ้ตสีครีมอ่อนก่อนจะหันไปมองเจ้าของคำถามโดยที่ไม่ได้ให้คำตอบอะไร นอกจากส่งยิ้มไปให้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น“เลิกกับคนเก่าไปตั้งนานแล้ว ทำไมไม่คบใครบ้างวะ มึงควรจะ มูฟออนได้แล้วนะดิน” ชายคนเดิมยังส่งคำถามออกมา เมื่อไม่มีคำตอบและเพราะเขามัวแต่กำลังสวมเสื้อสูทเข้ากับลำตัว เลยทำให้ไม่เห็นสีหน้าเพื่อนรุ่นน้องที่เวลานี้ใบหน้าเจื่อนลงแล้วเจ้าของคำถามคือ ‘ฟ้าคราม’ เป็นเจ้าบ่าวในวันนี้“หาให้ไหม รับรองว่าสวยถูกใจแน่นอน”ฟ้าครามเงยหน้าขึ้นถามอีกครั้งหลังจากที่ติดกระดุมสูทเรียบร้อยแล้ว เลยอาสาจะหาแฟนให้สักคน เผื่อว่าเพื่อนรุ่นน้องจะได้มีความรักครั้งใหม่สักทีไม่รู้ว่าที่ยังโสดอยู่จนถึงทุกวันนี้ เพราะไม่มีเวลาหาด้วยหรือเปล่า จะว่าไปที่ทำงานของดินแดนก็ไม่สามารถเจอใครได้มากเท่าไรนัก“ไม่เอา” ดินแดนส่ายหน้าและรีบปฏิเสธอย่างไว ราวกับไม่ต้องใช้ความคิดให้เสียเวลาในเรื่องนี้ พอนึกถึงอดีตที่เคยมีแฟนสีหน้าก็เศร้าลงเล็กน้อยอย่างหักห้ามใจไม่ได้ แม้ว่ามันจะผ่า







